ขนมปังหน้าศพ! เมนูสยองดังกระฉ่อนโลก

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย :::เพชร:::, 27 ตุลาคม 2009.

  1. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อันนี้นานมากแล้ว หลายท่านเคยทราบ หลายท่านยังไม่เคยได้เห็นข่าวนี้...

    ขนมปังหน้าศพ! เมนูสยองดังกระฉ่อนโลก
    โดย ผู้จัดการออนไลน์ 17 พฤศจิกายน 2548 07:07น.

    นับถึงนาทีนี้ต้องยอมรับว่า ขนมปังที่นำมาปั้นให้เหมือนซากศพที่ใครเห็นต้องสยองขวัญ จากฝีมือรังสรรค์ของ “กิตติวัฒน์ อุ่นอารมณ์” หนุ่มจาก อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ในนาม “อี้ดเบเกอรี่” (EAT BAKERY) เป็นที่รู้จักของคนในวงกว้างซึ่งไม่จำกัดแค่ในประเทศเท่านั้น ทว่า ดังไกลไปถึงต่างแดนกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ชาวต่างชาติทึ้งในไอเดียคนไทย กิตติวัฒน์ เล่าให้ฟังว่า หลังจากผลงานเริ่มออกสื่อต่างๆเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว มีผลตอบรับเข้ามาจำนวนมากอย่างที่ไม่เคยคาดมาก่อน

    จากงานศิลปะที่ต้องการสื่อให้คนเราอย่ายึดติดในรูปลักษณ์โดยผ่านขนมปังที่ทำเป็นศพ ดูไม่สวย จริงๆแล้ว กินได้ไม่ได้คาดหวังให้แปลก เพื่อหวังผลทางการตลาด แต่ถึงวันนี้มีคำสั่งซื้อมาจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ เยอรมนี ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฯลฯ สร้างรายได้เป็นหลักแสนบาทต่อเดือน

    “ตั้งแต่สื่อเริ่มนำเสนอ ทำให้มีออเดอร์มาจำนวนมาก อย่างสำนักข่าวต่างประเทศ เช่น เอพี รอยเตอร์ ก็นำเสนอทำให้มีลูกค้ามาจากทุกมุมโลก ยิ่งในช่วงเทศกาลฮาโลวีนที่ผ่านมาสินค้าเป็นที่ต้องการมาก นอกจากนี้ ยังมีค่ายหนังสั่งสินค้าไปโปรโมทหนังแนวสยองขวัญด้วย”

    ปัจจุบัน ช่องทางตลาดจะรับทำตามคำสั่งซื้อ กับส่งขายยังห้างสรรพสินค้าต่างๆโดยแบบชิ้นส่วนอวัยวะเล็กต่างๆอาทิ ตา หู จมูก นิ้ว ฯลฯ ชิ้นละ 50 บาท ส่วนชิ้นใหญ่ อาทิ หัว แขน ขา อยู่ที่ประมาณ 500 บาท ส่วนชิ้นใหญ่ๆ แบบคนครึ่งตัวอยู่ที่หลักหมื่น ส่วนงานใหญ่สุดที่เคยทำ คือ แบบศพเต็มตัว
    ประเทศเยอรมนี ซื้อไปในราคา 40,000 บาท

    กิตติวัฒน์ เผยว่า ผลงานขนมศพที่มีชื่อเสียงในวันนี้ความจริงทำมานานกว่า 3 ปีแล้ว แต่ที่ผ่านมาไม่ได้ถูกนำเสนอในวงกว้าง โดยผลงานเก่า ๆรุนแรงยิ่งกว่านี้เสียอีกโดยแรงบันดาลใจ เริ่มจากตัวเอง สนใจธรรมะประกอบกับที่บ้านขายเบเกอรี่อยู่แล้วเมื่อตอนเรียนปริญญาตรีภาควิชาทัศนศิลป์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยพ่อไม่สบายเป็นเนื้องอกในสมอง ทำให้ทุกข์ใจมากเลยคิดว่าสิ่งต่างๆเกิดขึ้นจากกรรม ความตายเป็นเรื่องใกล้ตัว มีเกิด แก่ เจ็บตายเน่าสลายไป เหมือนกับขนมปัง เก็บไว้หลายๆ วันเวลามันบูดเน่าหนอนก็ขึ้นและกลิ่นเหม็นไม่ต่างจากคนจึงลองปั้นแป้งขนมปังเป็นศพคนแต่ทำเป็นเพียงงานศิลปะส่วนตัว ไม่ได้สานต่อ

    กระทั่งเมื่อศึกษาต่อปริญญาโท คณะศิลปะศาสตร์ ม.ศิลปกรได้ศึกษาเรื่อง “การพยายามรักษาสภาพลักษณะภายนอก” ใช้เทคนิคสื่อผสมเเสดงเนื้อหาเกี่ยวกับความทุกข์ที่เกิดจากร่างกายความเจ็บป่วยที่เกิดกับมนุษย์ในรูปเเบบต่าง ๆจึงกลับมาทำงานนี้อีกครั้ง โดยเริ่มแรกดูแบบจากของจริงที่รพ.ศิริราช แต่ที่มาเป็นธุรกิจได้เพราะอยากหารายได้ช่วยทางบ้านเลยลองเอาผลงานออกขาย กระทั่ง มีสื่อมวลชนนำเสนอชื่อเสียงเลยกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ส่วนที่ใช้ชื่อ “อี๊ด เบเกอรี่” เพราะเป็นชื่อร้านขนมปังของที่บ้าน อีกทั้งพ้องเสียงกับคำว่า “EAT”ในภาษาอังกฤษ ที่แปลว่า “กิน” สอดคล้องกับแนวคิดของที่ดูน่าขยะแขยงก็อาจกินได้ จงอย่ายึดติดแค่ภายนอกทั้งนี้ การทำศพขนมปังส่วนผสมเหมือนกับทำขนมปังปกติใช้แป้ง ไข่ นมสด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และช็อกโกแลต เป็นต้น ทว่าความต่างอยู่ที่ปริมาณส่วนผสมการนวด และการอบที่เป็นเทคนิคเฉพาะตัว ใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่กว่า 3 ปี "แบบต่างๆ มาจากจินตนาการของผม หรือดูตามหนังสือไม่ได้นำมาจากใบหน้าผู้มีชีวิตอยู่จริง ทุกชิ้นผมต้องปั้นด้วยมือทั้งหมด ไม่มีแม่พิมพ์โดยต้องปั้นให้ขนาดเล็กกว่าที่ต้องการเล็กน้อยเผื่อสำหรับหลังอบขนมปังจะพองตัวขึ้น หลังจากนั้นจึงลงด้วยสีผสมอาหาร โดยรสชาติและเนื้อขนมปังศพจะคล้ายคุกกี้สามารถเก็บไว้กินได้ 3 วันกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะซื้อไปเก็บโชว์มากกว่ากิน"

    ปัญหาในปัจจุบัน คือ ผลิตได้น้อย อย่างมากแค่ 100 ชิ้นต่อเดือน เนื่องจากเป็นงานทำมือ ใช้เทคนิคเฉพาะตัวแม้แต่แม่และพี่สาวของเขาที่เชี่ยวชาญการทำเบเกอรี่ก็ไม่สามารถช่วยได้ ทว่าความยาก ก็มีประโยชน์เพราะไม่ถูกใครเลียนแบบ แต่ก็เตรียมไปจดเครื่องหมายการค้า “อี้ดเบเกอรี่” ไว้ด้วย

    ส่วนในอนาคตจะพัฒนางานด้วยการออกแบบใหม่ๆโดยอยู่ภายใต้แนวคิดเดิม คือ อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น และสิ่งที่เห็นอาจจะไม่เป็นอย่างที่คิด

    “ผมคิดว่า งานประเภทนี้ มันยังไปได้อีกไกลเมื่องานศพขนมปังอิ่มตัว ผมก็จะออกแบบใหม่ๆโดยยังอยู่ในแนวคิดเดิมซึ่งมันพัฒนาไปได้อีกมาก เช่น อาจทำเป็นซากหมาเน่า หรือซากศพของสัตว์ต่างๆ แต่ผมคงไม่โปรโมทอะไรมาก เพราะถ้าเราไปมุ่งด้วยการตลาดจะทำให้ไม่มีเวลาพัฒนาการของงานจะน้อยลง ผมจึงอยากทำงานให้ดีที่สุด”

    สำหรับเสียงสะท้อนในผลงานที่ผ่านมา กิตติวัฒน์บอกว่ามีทั้งแง่บวก และลบ คนที่ชอบจะบอกว่า เป็นไอเดียดีช่วยทำให้เห็นถึงความเป็นจริงของธรรมชาติมนุษย์ ส่วนแง่ร้ายบอกว่าปลูกฝังความรุนแรงให้แก่เด็ก เคยมีผู้ปกครองบอกว่า ลูกเขาเห็นแล้ว พูดว่า‘อยากกินศพ’ ทำให้ผมกังวลประเด็นนี้มาก ก็คิดแบบเข้าข้างตัวเองว่าเด็กแค่ยึดติดกับรูปลักษณ์ภายนอกที่เป็นขนมปังกินได้เขาไม่ได้อยากกินศพจริงๆ ถ้าพ่อแม่ช่วยแนะนำว่า จริงๆ แล้วมันเป็นแค่ขนมปังที่ทำให้เหมือนศพ ไม่ได้เป็นศพจริงๆ ลูกอย่ายึดติดกับแค่สิ่งที่เห็นก็จะเป็นการสอนอีกแนวทางหนึ่ง”

    โทร. 032-233-901 หรือ 089-256-9069
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Vilaiwanna

    Vilaiwanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    98
    ค่าพลัง:
    +145
    I love bread but not this one.

    The owner is weird !
     
  3. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    เก่งมากๆเลย

    แต่ว่า...ถ้าให้ทานค่อนข้างไม่กล้าค่ะ
     
  4. tidabell

    tidabell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    291
    ค่าพลัง:
    +888
    แต่เห็นก็ไม่กล้ากินแล้วน่ะ กั ว
     
  5. khunfong

    khunfong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    462
    ค่าพลัง:
    +162

แชร์หน้านี้

Loading...