หนังสือที่ลึกลับที่สุดในโลก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 18 ตุลาคม 2009.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ห้องสมุดเบนเนคเก้ (Beinecke Rare Bood & Manuscript Library) ของมหาวิทยาลัยเยล สหรัฐอเมริกา เป็นแหล่งหนังสือหายาก รวมทั้งเอกสารต้นฉบับ สมุดบันทึกด้วยลายมือของเจ้าของ หลายพันเล่ม


    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (4.64 KB)
    23-6-2009 07:11




    จากยุคกลาง และ เรอเนสซองส์ มีสมุดบันทึกที่มีนักวิชาการจำนวนมากได้แวะเวียนเข้ามาศึกษาโดยตลอด แต่ ไม่มีผู้ใดสามารถทำความเข้าใจสาระที่บันทึกไว้ในสมุดเล่มนี้ได้เลย


    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (14.16 KB)
    23-6-2009 07:11




    หนังสือเล่มนี้พบในปี 1912 โดยนักค้าหนังสือเก่าชาวอเมริกัน-รัสเซีย ชื่อนาย วิลฟริด เอ็ม. วอยนิช (Wilfrid M.Voynich) ขนาด 6 คุณ 9 นิ้ว หนา 11/2นิ้ว มีอยู่ 240 หน้า แต่บางหน้าขาดหายไป ปกสมุดทำจากหนังลูกวัวสีครีม ไม่มีการระบุชื่อผู้เขียน ชื่อเรื่องหรือปีที่เขียนใด ๆ ทั้งสิ้น

    รายละเอียดมีทั้งภาพและอักษรในสมุดมีความเฉพาะตัวเขียนด้วยปากกาขนนกซึ่งทำให้ดูสง่างาม เป็นตัวอักษรที่ไม่เคยพบเห็นในที่ใด ๆ ในโลกมาก่อนและ แทบทุกหน้ามีวาดภาพประกอบ มีทั้ง พืชพันธุ์ แปลก ๆ ภาพผู้หญิงเปลือย เชื่อมด้วยท่อที่ดูคล้ายเส้นโลหิต มีภาพคล้ายแผนผังเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ที่มองจากกล้องเทเลสโคป และภาพคล้ายเซลล์ สิ่งมีชีวิตที่มองผ่านกล้องจุลทรรศน์

    การได้มาของหนังสือเล่มนี้

    นายวอยนิช ได้มาจากอิตาลี และกลับไปอเมริกาเพื่อประกาศหาผู้เชี่ยวชาญมาดูเพื่อศึกษาและแปล อักขระ วันนี้ เกือบ 100 ปี ก็ยังไม่มีใครสามารถแปลความหมายของสมุดบันทึกเล่มนี้ได้แต่คำเดียว

    สิ่งที่บอกได้คืออายุและแหล่งที่มาของสมุด จากการวิเคราะห์ลักษณะของภาพวาด เสื้อผ้า ทรงผมของรูปคน รูปปราสาท รวมถึงหนังสัตว์และสีที่ใช้ ภายในเล่ม สันนิษฐานว่า เขียนขึ้นโดยชาวยุโรป ราวศตวรรษที่ 15 หรือ ระหว่างปี 1450-1520

    ภายในสมุดมีจดหมายสอดอยู่ เขียนด้วยภาษาลาติน วันที่ 19 สิงหาคม 1666 เป็นจดหมายที่ โจฮันส์ มาร์คุส มาร์ซี่ อดีตอธิการบดีของ มหาวิทยาลัยชาร์ลส์ แห่งกรุงปราก (ปัจจุบัน อยู่ในสาธารณรัฐเชค) เขียนถึง อธานาเซียส เคอร์เชอร์ นักวิชาการนิกายเจซูอิท แห่งวิทยาลัยโรมาโน ในกรุงโรม เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษา ผู้จัดทำ พจนานุกรมภาษาคอปติค (เป็นภาษาอียิปต์โบราณที่ใช้ในระหว่าง ปีค.ศ. 200-1100)



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (29.34 KB)
    23-6-2009 07:11




    อนาธาเซีย เคอร์เชอร์ ​


    ภายในจดหมายมีใจความว่า “สมุดบันทึกที่ส่งมาด้วยนี้ จอร์จ บาเรช (Georg Baresch) เพื่อนสนิทได้มอบให้ข้าพเจ้าก่อนเสียชีวิต และเป็นผู้ซึ่งเคยได้ส่งสำเนาบางส่วนของสมุดเล่มนี้มาให้ท่านเพื่อลองศึกษาและแปลความหมายดูแล้ว แต่เวลานั้นท่านได้ขอให้ส่งสมุดทั้งเล่มมา แต่ บาเรช ได้ปฏิเสธ ทำให้เรื่องหายเงียบไปอย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้ายังมั่นใจว่าท่านจะสามารถแปลความหมายในสมุดบันทึกเล่มนี้ได้อย่างแน่นนอน...”



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (16.55 KB)
    23-6-2009 07:11


    กษัตริย์รูดอล์ฟที่ 2 ​


    นอกจากนี้ในจดหมายได้เล่าว่าสมุดเล่มนี้เคยอยู่ในครอบครองของจักรพรรดิ รูดอล์ฟที่ 2 แห่งโบฮีเมีย ปี 1552-1612 ซึ่งซื้อมาด้วยเหรียญทองคำถึง 600 เหรียญ (เทียบเท่าทองคำที่น้ำหนักประมาณ 3.5 กิโลกรัมในปัจจุบัน)เพราะเชื่อว่าเป็นสมุดบันทึกของโรเจอร์ เบคอน (Roger bacon-พระโรมัน คาทอลิกชาวอังกฤษที่มีชื่อเสียง ทั้ง ดาราศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ และ สาขาอื่น ๆ อีกมาก รวมทั้งเรื่องการแปรธาตุ เขามีชีวิตระหว่างปี 1214-1294) แต่มาร์ซีไม่มั่นใจ มีหลักฐานว่าในปี 1608 สมุดได้อยู่กับ เจโคบุส เดอ เทเพเนคซ์ (Jacobus de Tepenecz) ซึ่งเป็นแพทย์ส่วนพระองค์และเป็นผู้อำนวยการดูแลสวนสมุนไพรของจักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 สันนิษฐานว่า พระองค์มอบให้เขาเพื่อศึกษา

    หลังจากนั้น จนกระทั่ง เคอร์เชอร์ เสียชีวิต ในปี 1680 และถูกเก็บไว้ใน วิทยาโรมาโน (ปัจจุบันคือ Pontifical Gregorian University)

    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (7.36 KB)
    23-6-2009 07:11




    King Victor Emmanuel​


    1870 กษัตริย์ วิคเตอร์ เอ็มมานูเอล ที่ 2 แห่งอิตาลี (King Victor Emmanuel) ได้ส่งกองทัพเข้ายึดกรุงโรมและรวมกรุงโรมเข้ากับรัฐพาพัล(Papal State) เป็นรัฐบาลใหม่ของอิตาลี เข้ายึดทรัพย์สินของโบสถ์และห้องสมุดของวิทยาลัยแห่งนี้ แต่ทางวิทยาลัยได้แอบขนย้ายหนังสือต่าง ๆ ในห้องไปเก็บไว้ห้องสมุดส่วนตัวของ พีทรัส เบคซ์(Petrus Beckx) ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะเจซูอิท และอธิการบดีของวิทยาลัยในขณะนั้น

    ต่อมาห้องสมุดก็ย้ายไปอยู่ในวิลล่า มอนดรากอน ที่ฟราสคาติ (Villa Mondragone) ใกล้กรุงโรม

    แต่ในปี 1912 ทางวิทยาลัยจำเป็นต้องแบ่งขายทรัพย์สินและหนังสือบางส่วนออกไป เนื่องจากขาดเงินหมุนเวียน และนายวอยนิช คือผู้ที่เข้ามารับซื้อไป

    เมื่อนาย วอยนิชเสียชีวิตไป สมุดเล่มนี้ได้มีนักค้าหนังสือเก่าอีกคน ชื่อ ฮันส์ พี. เคราส์ (Hans P. Kraus) ซื้อในราคา 26,000 ดอลลาร์ และเขาตั้งราคาขายต่อ 160,000 ดอลลาร์ แต่ไม่มีใครซื้อ เขาจึงมอบสมุดเล่มนี้ให้กับ มหาวิทยาลัยเยล เก็บไว้

    ลักษณะคร่าว ๆ ของหนังสือเล่มนี้

    ในสมุดเล่มนี้ได้บันทึกอะไรไว้บ้าง เนื่องจากอักขระไม่มีผู้สามารถถอดความได้ สิ่งเดียวที่จะชี้นำก็คือ รูปภาพภายในเล่ม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาพของพืชพันธ์คล้ายสมุนไพรและแผนผัง ดาราศาสตร์ จึงเข้าใจว่าน่าจะเป็นสมุดบันทึกทางสายวิทยาศาสตร์

    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (21.33 KB)
    23-6-2009 07:14




    โดย เฉพาะด้านยาที่ทำจากสมุนไพร ซึ่งมีการพัฒนากันมากในยุคกลาง แต่บางแหล่งก็มีข้อสันนิษฐานเป็นบันทึกข้อมูลที่เกี่ยวกับการแปรธาตุ ในช่วง ศตวรรษที่ 15 ที่พยายามแปรโลหะชนิดต่าง ๆ ให้เป็นทอง เพราะพบบางภาพในสมุดมีลักษณะคล้ายกับสัญลักษณ์ที่ใช้ในเรื่องของแร่ธาตุ และเหตุผลที่สำคัญ พบว่า จักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 ยอมซื้อสมุดเล่มนี้ถึง 600 เหรียญ พระองค์เป็นจักรพรรดิที่มีความสนใจสิ่งแปลกประหลาดยิ่งกว่ากษัตริย์อื่น ๆ ของยุโรป ทั้งยังเป็นผู้ที่ชอบเรื่องเวทมนต์ เล่มเกม ทำรหัส ทรงมีนักโหราศาสตร์รายล้อมอยู่มากมาย พระองค์เป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญในการค้นคว้าและเผยแพร่เรื่องการแปรธาตุอีก ด้วย

    ลักษณะพื้นฐานของบันทึกออกได้เป็น 5 ส่วนคือ

    1. ส่วน พฤกษศาสตร์ มีสาระประมาณ ครึ่งหนึ่งของสมุด ราว 130 หน้า แต่ละหน้าจะมีภาพวาดของพันธุ์ไม้ชนิดหนึ่งพร้อมกับตัวอักษรกำลังอยู่ข้าง ๆ ซึ่งน่าจะเป็นรายละเอียดของพันธุ์ไม้นั้น ๆ และอักษรบนแต่ละหน้านั้นก็เป็นชื่อพันธุ์ไม้

    2. ส่วนดาราศาสตร์ และจักรวาล ภาพส่วนใหญ่จะวาดในลักษณะของทรงกลม มีพระอาทิตย์ พระจันทร์และกลุ่มดาวต่าง ๆ แต่บางภาพมีองค์ประกอบแปลก ๆ เช่น ภาพแผนภูมิจักรราศี มีภาพผู้หญิงเปลือยถือดวงดาวล้อมรอบจักรราศีอยู่ บางหน้าก็สามารถคลี่ออกมาได้อีกเป็น 6 หน้า มี ภาพวาดหน้าผังดาราศาสตร์ ภาพคล้าย กาแลคซี่ แอนโดรมีดา ที่มองจากกล้องเทเลสโคป ส่วนนี้มี 26 หน้า

    3. ส่วนชีววิทยา มีภาพวาดที่ดูคล้ายอวัยวะในร่างกาย ซึ่งมีลักษณะค่อนข้างแปลก มีภาพผู้หญิงเปลือยอยู่ในสระที่มีท่อเชื่อมโยงคล้ายเส้นเลือด ผู้หญิงบางคนก็สวมมงกุฎ ส่วนนี้มี 4 หน้า กับ 28 ภาพวาด

    4. ส่วน เภสัชศาสตร์ มีความคล้ายกับส่วนพฤกษศาสตร์ ส่วนนี้มีภาพคล้ายภาชนะที่ใช้ในร้านขายยายุค ศตวรรษที่ 15 และมีตัวอักษรเขียนกำกับที่ตัวภาชนะ ส่วนนี้มี 34 หน้า

    5. สูตร คาดว่าเกี่ยวกับสูตรยาเพราะมีการเขียนด้วยย่อหน้าสั้น ๆ ถึง 324 ย่อหน้า แต่ถ้านับรวมกับส่วนที่ขาดหายไปแล้ว มีมากถึง 360-365 ย่อหน้า ทุกย่อหน้าเริ่มต้นด้วยรูปดอกจัน แต่มีผู้สันนิษฐานว่าส่วนนี้อาจเป็นปฏิทินแบบพิศดาร มีการระบุเหตุการณ์ ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไว้ด้วย ส่วนนี้มี 23 หน้า

    แต่หน้าส่วนท้ายคือหน้า นั้นสันนิษฐานกันว่าเป็นบันทึกกุญแจไขปริศนาอักษร อีก 1 หน้า ที่ใช้ในสมุดบันทึกเล่มนี้ทั้งหมด




    เมื่อแรกเห็นสมุดนี้ ผู้เชี่ยวชาญส่วนมากมักคิดว่าไม่ยากที่จะเข้าใจ แต่ ในที่สุดก็พบว่า ตัวอักษรที่บันทึกไว้ไม่ได้มีพื้นฐานมาจากภาษาลาติน อังกฤษ เยอรมัน หรือภาษาใด ๆ ที่เคยพบมาก่อน จากการวิเคราะห์ในแง่ภาษาศาสตร์ พบว่าการเขียนเป็นไปอย่างต่อเนื่องเหมือนกับว่าผู้เขียนมีความชำนาญในภาษานั้นอย่างยิ่ง ไม่มีลักษณะที่ต้องหยุดคิดก่อนเขียนพยัญชนะแต่ละตัวทั้งยังไม่พบร่องรอยการลบหรือแก้ไขใด ๆ เลย เป็นการเขียนจากซ้ายไปขวา และจากบนลงล่าง


    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (30.73 KB)
    23-6-2009 07:14




    พยัญชนะแต่ละตัว มีการลากเส้น 1-2 เส้น มีพยัญชนะประมาณ 20-30 ตัวที่ใช้เขียนทั่วไปในสมุด แต่ก็มีพยัญชนะที่แปลกออกไปนับ 10 ตัวที่ถูกใช้เพียง 1 หรือ 2 ครั้ง ทั้งเล่มประกอบด้วยคำประมาณ 35,000 คำสั้นยาวต่าง ๆ กันไป บางคำใช้เพียง 2-3 ครั้ง แต่บางคำใช้ทั่วไปในเล่ม ซึ่งสอดคล้องกับกฎของเสียงในภาษา (Phonetic law) และระบบสะกดคำ เช่น บางตัวใช้สระอย่างในภาษาอังกฤษ พยัญชนะบางตัวไม่สามารถใช้ตามหลังบางตัว บางตัวอาจใช้คู่ได้

    เมื่อตรวจสอบความถี่ของการใช้คำตามหลัก Zipf:s law แล้ว ก็พบว่าสอดคล้องกับภาษาทั่วไป แต่แตกต่างจากภาษาในยุโรป เช่น ไม่มีคำที่ประกอบด้วยพยัญชนะมาก ตั้งแต่ 10 ตัวขึ้นไป หรือน้อยแค่ 1-2 ตัว บางตัวใช้เป็นตัวสุดท้ายเท่านั้น บางตัวอยู่เฉพาะตรงกลาง ตามลักษณะของภาษาอารบิค แต่ ไม่มีในภาษาโรมัน กรีก และกรีกโบราณ เรียกว่า ซีริลลิค (Cyrillic)

    การวิเคราะห์ในแง่ของรหัส


    ทีมผู้เชี่ยวชาญการเขียนรหัส NSA(National Security Agency) ของสหรัฐอเมริกา นำโดย นาย วิลเลียม เอฟ. ฟรายด์แมน ก็ไม่สามารถสรุปว่าสอดคล้องกับหลักการเขียนรหัสชนิดใด ไม่ว่าจะเป็นการเขียนรหัส แบบ Substitution Cipher ส่วนแบบ Polyalphabetic นั้นคิดค้นราวปี 1467 ซึ่งใกล้เคียงกับอายุของสมุดเล่มนี้ แต่ก็ไม่ใช่อีก เพราะรหัสแบบนี้จะทำให้หลักภาษาธรรมหรือ Zipf’s law หายไป การเขียนรหัสแบบ codebook Cipher, Visaul Cipher และ Stenography ก็ตกไปทั้งหมด

    สมมติฐานที่ พอจะเป็นไปได้ ชาคส์ กาย นักภาษาศาสตร์ได้เสนอว่า อักษรเหล่านี้อาจเป็นการบันทึกเสียงของภาษาธรรมชาติของชาติตะวันออกเช่นภาษาจีน ด้วยอักษรที่ประดิษฐ์ขึ้น มาใหม่ เมื่อตรวจสอบลักษณะของเนื้อความที่มีการใช้คำซ้ำ 2-3 ครั้ง แล้ว ความถี่คล้ายกับเนื้อความในภาษาจีน และภาษาเวียดนาม

    นอกจากนี้ แผนภูมิจักรราศีในส่วนดาราศาสตร์ของสมุดเล่มนี้ก็มีความคล้ายกับปฏิทินในการเกษตรของจีน แต่สมมุติฐานนี้ ก็ไม่มีใครสามารถหาตัวอย่างที่สอดคล้องกับสัญลักษณ์ทางวิทยาศาสตร์และศาสตร์สาขาอื่น ของจีนได้ชัดเจน แม้แต่ ผู้เชี่ยวชาญชาวจีน



    ต่อมาปลายปี 2003 นี้เอง ซบิกนิว บานาชิค (Zbigniew Banasik) ชาวโปแลนด์ ก็แสดงความเห็น ว่า สมุดเล่มนี้เขียนด้วยภาษาแมนจูเรียน และได้ลองแปลเพียงหน้าแรกของสมุดออกมา แต่เขาก็ไม่สามารถทำได้สมบูรณ์


    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (28.11 KB)
    23-6-2009 07:19


    สมมุติฐานต่อไป วิลเลียม เอฟ พรายด์แมน จาก NSA พ้องกับ จอน ทิลท์แมน ผู้เชี่ยวชาญรหัสชาวอังกฤษ ทั้งสองเห็นว่า สมุดนี้เขียนขึ้นด้วยหลักการสร้างภาษาขึ้นเพื่อใช้เองเฉพาะ ในกลุ่มคน โดยสร้างคำต่าง ๆ กันไปเช่น มีการเติมคำข้างหน้าและข้างหลัง และใช้กันใน ศตวรรษที่ 17 ตัวอย่างเช่น กำหนดอักษร “bofo” จะหมายถึง สี ถ้าเป็นสีแดงก็อาจจะใช้เป็น ‘bofoc’ ถ้าเป็นสีเหลืองอาจเป็น ‘bofof’ จึงมีอักษรที่เขียนซ้ำ ๆ กัน มากมายในสมุดเล่มนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ไม่มีใครสามารถถอดรหัสของคำนำหน้าและคำตามหลังในสมุดนี้ได้เลย


    การตั้งสมมติฐานถึงผู้ที่เขียนเป็นผู้เขียนสมุดเล่มนี้ ที่อยู่ในข่าย

    คนแรก คือ โรเจอร์ เบค่อน เพราะเป็นชื่อที่ทำให้จักรพรรดิรูดอล์ฟ ยอมจ่ายถึง 600 เหรียญทองคำ ซึ่งในปี 1919 วิลเลียม โรเมน นิวโบลด์ ได้ยืนยันว่าสมุดเล่มนี้เป็น งานของ โรเจอร์ เบค่อน จริง เพราะเบค่อนคือผู้ประดิษฐ์กล้องเทเลสโคปและกล้องจุลทรรศน์ แต่ในปี 1931 ก็ถูกโต้แย้งว่าการมองเห็นกาแลคซี แอนโดรมีดา และโครงสร้างเซลล์ของสิ่งมีชีวิต นั้น ต้องใช้กล้องเทเลสโคปและกลอ้งจุลทรรศน์ที่ทันสมัยเท่านั้น



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (21.37 KB)
    23-6-2009 07:19


    จอน ดี พบจักรพรรดิ รูดอล์ฟที่ 2​


    คนต่อไปคือ จอน ดี นักคณิตศาสตร์ และดาราศาสตร์ แห่งราชสำนักควีนอลิซาเบธที่ 1 และ เป็นผู้ที่สะสมงานเขียนของเบค่อน สมมุติว่า เบค่อนเป็นผู้เขียน สรุปว่า ดีคือผู้นำไปขายแก่จักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 แต่ก็ไม่มีน้ำหนักพอและถูกโต้แย้งจนตกไป


    ดร. อีดิธ เชอร์วูด (Edith Sherwood) ได้เสนอในปี 2002 นี้เองว่า สมุดเล่มนี้เป็นของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี Davinci code ของจริง ประเด็นที่เขาหยิบยกขึ้นมามีน้ำหนักไม่น้อย

    1. คือ ส่วนดาราศาสตร์นั้น มีภาพหนึ่งที่มีสัญลักษณ์ ราศีเมษ อยู่ตรงกลางและมีผู้หญิงเปลือย 15 คน ยืนอยู่ในถัง ซึ่งรายล้อมรอบจักรราศี ส่วนใหญ่กำลังตั้งท้อง ในถัง ใบหนึ่งแปลกออกไป คือมีผู้หญิงอยู่กับเด็กคนหนึ่งโดยผู้หญิงนั้นมีหน้าท้องแบน เธอถือคฑา ในยุคกลางนั้นจะทำการคลอดลูกในถังน้ำ ทำให้สันนิษฐานว่าเป็นการบันทึกกำเนิดของใครสักคนในวันที่ 15 เมษายน ระหว่าง 21 นาฬิกา-เที่ยงคืน เพราะตำแหน่งของถังน้ำที่มีเด็กกับผู้หญิงนั้นอยู่ตรงกลางระหว่างเลข 9 ถึงเลข 12 ของหน้าปัดนาฬิกา ในยุคกลางนั้นแตกต่างจากปัจจุบัน ทั้ง 24 ชั่วโมงบนหน้าปัดและมีเข็มชี้ เวลาเพียงก้านเดียว



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (16.05 KB)
    23-6-2009 07:19


    ด้านซ้ายไม่กลับด้าน ส่วนด้านขวากลับด้านแล้ว​


    ดร. เชอร์วูดบอกว่า ในยุคนั้น จะเริ่มนับวันใหม่หลังจากพระอาทิตย์ตกและเขายังได้เคยอ่านพบบันทึกปู่ของดาวินชี เกี่ยวกับการเกิดของหลานชายคือ ดาวินชี ในปี 1452 ว่า”...หลานชายของฉัน, ลูกชายของ Ser Piero เกิดในวันที่ 15 เมษายน วันเสาร์ เวลา 3 นาฬิกา กลางคืน เขาชื่อว่า Lionardo …” และเมื่อเช็คจากปฏิทินของยุคนั้นพบเป็นเวลา 3 นาฬิกากลางคืน หมายถึงเวลาประมาณ 22 นาฬิกา



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (2.81 KB)
    23-6-2009 07:19


    ภาพขยายคือเด็กอยู่ในถังน้ำ​


    ภาพในถังน้ำที่มีเด็กมีตัวเลข 1452 และยังมีอีกคำหนึ่งที่อยู่ใกล้กับภาพที่พอแปลได้ จากการมองภาพสะท้อนในกระจกเงา คือ “Sabatta notto” ซึ่งแปลว่า Saturday night จะเห็นได้ว่า ความบังเอิญนี้เกิดขึ้นได้ยาก ที่จะมีคนอื่น ที่กำเนิดวันและเวลาเดียวกันกับ ลีโอนาร์โด ดาวินชี



    [​IMG] [​IMG]
    ดาวน์โหลด (1.46 KB)
    23-6-2009 07:19


    ภาพขยายของคำว่า Sabatta notto่

    [​IMG]


    2. คือ จุดตรงกลาง ของภาพเดียวกันนั้นมีภาพแกะที่เป็นสัญลักษณ์ของราศีเมษ อยู่ และตัวอักษรใต้ภาพแกะนั้น เมื่อมองในกระจกเงาจะเห็นคล้ายคำว่า ‘Lionardo’ โดยมีตัว r เขียนเสริมไว้ด้านบน ซึ่งเห็นว่าคล้ายกับลายเซ้นของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ซึ่งเขาสะกดชื่อ ตัวเองว่า ‘Lionardo’ ไม่ใช่ ‘Leonardo’ อย่างที่ใช้กันในปัจจุบัน


    [​IMG] [​IMG]


    ลายเซ็น ใต้รูปแกะ ที่ไม่กลับด้าน ​



    [​IMG] [​IMG]


    ลายเซ็นของลีโอนาร์โด ดาวินชี​


    ข้อสุดท้าย ในส่วนดาราศาสตร์ ที่ต้องมองผ่านกระจกเงาจึงจะเข้าใจ เป็นภาพเกี่ยวกับแผนภูมิจักราศี แต่ละราศีก็มีชื่อกำกับไว้ ก็พอจะอ่านชื่อของแต่ละภาพได้ แต่บางชื่อก็ไม่ได้เขียนแบบกลับด้าน

    ภาพคล้ายแกแลคซี ที่แสดงทิศทางตามเข็มนาฬิกา ซึ่งตามจริงคือต้องทวนเข็มนาฬิกา เพราะฉะนั้น เป็นภาพที่ต้องมองผ่านกระจกเงาเช่นกัน และเป็นที่ทราบกันดีว่า ดาวินชี มีความชำนาญวาดภาพและเขียนตัวหนังสือกลับด้าน

    ภาพแกแลคซี แอนโดรมีดา สังเกตว่า วงรัศมี กลับด้านกัน เพราะเขาเขียนกลับด้านั้นเองครับ​



    [​IMG] [​IMG]


    ภาพดาราศาสตร์อื่น​


    ดังนั้น การสันนิษฐาน ถ้าหากว่า ดาวินชีเขียนหนังสือเล่มนี้จริง ก็คงไม่ใช่งานเขียนตอนที่เขาเป็นผู้ใหญ่ เพราะมีหลายภาพมีการเขียนแบบ เด็ก ๆ เช่น ภาพของพืชพันธุ์ในส่วนพฤกษศาสตร์ แต่ละต้นมีดอก ราก และใบที่ไม่สอดคล้องกัน ภาพราศี และภาพในส่วนของชีววิทยา ก็ดูคล้ายฝีมือเด็ก และบางภาพจะเห็นว่าภาพผู้หญิงที่มีเต้านม และอวัยวะเพศชาย ซึ่งแสดงถึงการเขียนที่ผู้เขียนไม่เข้าใจถึงสรีระของเพศหญิง อีกด้วย


    ส่วนเรื่องราวในวัยเยาว์ของดาวินชี นั้นไม่สามารถหาได้ จึงยากแก่การสันนิษฐาน อย่างไรก็ตาม ดร.เชอร์วูด สรุป ว่า ลีโอนาร์โด ดาวินชี คือผู้ที่เขียนขึ้นมา เมื่อ เขาอายุ 8 ขวบ ราวปี 1460

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้ค้นหา ภาพที่เป็นงานเขียนของดาวินชี เช่น ภาพ Embryos และ ภาพ Vitruvian man มาเปรียบเทียบกับสมุดบันทึกแล้วจะดูไปในทิศทางเดียวกัน


    [​IMG] [​IMG]


    [​IMG] [​IMG]


    ภาพ vitruvianman กับ Embryos​


    อย่างไรก็ตามสมุดบันทึกเล่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นงานเขียนของใคร ผู้เขียน สามารถเขียนอักษรที่ประดิษฐ์ขึ้นมาอย่างชำนาญ และยังสามารถรักษาความลับของผู้เขียนได้นานเกือบ 600 ปี ยังไงก็คงต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยนี้ก็ยังไม่แน่ว่าจะไขปริศนาในสมุดเล่มนี้ได้ ผู้เชี่ยวชาญจึงยกให้เป็น สมุดบันทึกที่ลึกลับที่สุดในโลก


    http://www.mythland.org/v2/viewthread.php?tid=184
     
  2. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    น่าสนใจมากจริงๆ แต่พวกเล่นแร่แปลธาตุนี่ ดูน่ากลัวชะมัด

    เหมือนพวกมนต์ดำไสยเวทย์
     
  3. yositaa

    yositaa สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +4
    yes i agree
     
  4. IBEGINs

    IBEGINs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +111
    สับสน ไม่เข้าใจ
     
  5. HS4OFL

    HS4OFL เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +1,382
    น่าคิดและน่าติดตามครับ
     
  6. lamb of god

    lamb of god เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2009
    โพสต์:
    543
    ค่าพลัง:
    +436
    ลึกลับ ดี ชอบมาก....แนวดี
     
  7. โนอาร์

    โนอาร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +82
    มีแบบเต็มๆ..มั้ยครับ อยากโหลดมาดู...มั่ง (สงสัย มะนาวต่างดุ๊ด นุษย์ต่างดาว เขียนไว้ แน่เลย )
     
  8. นักรบเเห่งสยาม

    นักรบเเห่งสยาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +607
    เท่า ดู จากรูป
    ผมรู้ได้เลยว่าเป็น




































    สูตร ทำบะหมี่น้ำ ครับ 555555555
     
  9. sweetrosie

    sweetrosie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    460
    ค่าพลัง:
    +977
    :cool:

    ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่านนะคะ

    เมื่อก่อนเราก็เคยเปิดเจอ ภาษาและรูปพวกนี้เหมือนกันค่ะ

    แต่ไม่ทราบรายละเอียดเท่านีี้

    .. ชอบ รูปวาดต่าง ๆ ดูอารท์ๆ และก็ลึกลับดีค่ะ :boo:..
     
  10. Heroofch

    Heroofch Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 เมษายน 2009
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    เทห์มากเลยครับ มีขายมั้ย เล่มเท่าไหร่อ่ะ
     
  11. อิทธิปาฏิหาริย์

    อิทธิปาฏิหาริย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,834
    ค่าพลัง:
    +1,472
  12. kaskade65

    kaskade65 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +5
    ลึกลับจริง ๆ ด้วย
    ขนาดทีมถอดรหัสยังแกะลำบากเลย
     
  13. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,439
    ค่าพลัง:
    +1,770
    ต้องเผามันทิ้ง.............................
     
  14. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,439
    ค่าพลัง:
    +1,770
    เผาเลย เเล้วเอาไปต้มกิน
     
  15. ไฟสว่าง

    ไฟสว่าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +283
    ต้องให้หมอพยายมอ่าน รับรอง อ่านได้ชัวร์......
     
  16. lomnow

    lomnow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +353
    รู้ให้ สนุกพอ ครับ
    ท้ายสุด ก็ เหมือนกัน
     
  17. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    หนังสือเล่มนี้ เกี่ยวกับวิชาเล่นแร่แปรธาตุในยุคกลางครับ
    พวกฝืนกฏธรรมชาติ - -
    จะสร้างฮอโมนคูสเอง ทำสิ่งมีชีวิตจากการดัดแปลงพันธุกรรม
    ลองหาดูสิครับ มีตัวอ่อนแปลกๆอยู่ในโหลเต็มเลย
    สมัยโบราณนะ
     
  18. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,523
    น่าจะก็อปปี้ มาให้คนทั้งโลกอ่านมั่งเน๊อะ เผื่อจะมีใครเข้าใจ 5 5 5 5
     

แชร์หน้านี้

Loading...