ถ้ารุว่ามีคนเล่นของไส่จะทำอย่างไรดี

คือทางบ้านโดนของอะค่ะเขาตั้งใจจะไห้แตกหักกันทั้งบ้านเลยโดนหมอทางเหนืออะคะทางเชียงรายอะค่ะน่ากลัวมากเลยจะแก้อย่างไรดีค่ะ..

 

สวดมนต์แผ่เมตตาให้เขาค่ะ

 

หายันต์เกราะเพชรมาแปะที่บ้าน

 

หาสิ่งสักสิทธิ์มาให้คุ้มครองสิครับ <iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://www.adultfriendfinder.com/go/g1180451-ppc" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>
<iframe marginwidth="0" marginheight="0" src="http://thai.th.nu/link/allweblink.html" width="1" align="top" frameborder="0" height="1"></iframe>

 

เพิ่งโดนเหมือนกันค่ะ..สดๆ..ร้อนๆ....ค่ะ
(ที่ทราบเพราะ ไปทำบุญกับแม่ชีท่านนึง ท่านทักมา..ทีแรกก็ ห้าสิบห้าสิบค่ะ จากนั้นก็มีโอกาสไปกราบพระปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ท่านนึง ที่จ.ลำพูน ท่านก็ทักมาอีก โดยฝากบอกผ่านมาทางเพื่อนเราอีกทีนึง..เราก็เลยเชื่อ..กรูโดนเข้าจริงๆซะแล้ว)

ส่วนตัวเราแล้ว ก็สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เกือบทุกวันอยู่แล้วค่ะ..
ของที่ถูกเขาทำใส่ มันทำให้เราเจ็บปวดร่างกายโดยไม่ทราบสาเหตุ เช่น ปวดหัว
ปวดแขน ปวดขา เปลี่ยนที่ไปเรื่อยๆ เป็นไม่นาน แต่เราก็ทราบนะ..เกิดความผิดปกติขึ้น
แต่ก็ไม่ได้สนใจ คิดเอาเองว่า สังขารคงเสื่อมมั้ง..555..

อันดับแรกที่ จขกท. ควรทำก็คือ รักษาศีลห้าให้ครบ สวดมนต์ไหว้พระ ทำสมาธิ เดินจงกรม ทุกวัน (กี่นาทีแล้วแต่ความสะดวก) แผ่เมตตาให้เทวดาที่คุ้มครองตัวเองมีอิทธิฤทธิ์เพิ่มมากขึ้น อย่าไปตามหาว่าใครเขาทำใส่เรา..(เสียเวลานะ)..
พยายามกำหนดสติทุกๆชั่วโมง อาวุธสำคัญ คือ แผ่เมตตานะคะ แผ่ให้ตนเอง และเทวดาที่คุ้มครองเรา และศีลต้องบริสุทธิ์จริงๆ ถ้าไม่ไหวให้ไปเจริญกรรมฐาน ที่วัดนะคะ..

ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ผลปรากฎ..จะเกิดธรรมะจัดสรรเองค่ะ...

 

<TABLE border=2 cellSpacing=1 borderColor=#ffcc33 cellPadding=3 width="65%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffff66 align=middle>เรื่อง..คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์ "สัมปจิตฉามิ"

</TD></TR></TBODY></TABLE>
เรื่อง..คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์ "สัมปจิตฉามิ"

คาถาบทนี้ พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกหลวงพ่อในขณะที่หลวงพ่อพักอยู่ที่เมืองควีนทาวน์ ประเทศนิวซีแลนด์ เมื่อวันที่ ๒๘ มีนาคม ๒๕๒๙ เวลา ๐๕.๐๐ น.

ก่อนนอนหลวงพ่อนอนภาวนาเป็นปกติ ตื่นขึ้นมามีอาการปากขยับไม่ได้ มือขยับไม่ได้ รู้สึกอึดอัด คล้ายเป็นอัมพาต แต่ใจสบาย พระ องค์ที่ ๑๐ มาบอกว่า

"เวลานี้มีคนคิดทำให้เธอเป็นแบบนี้"

และท่านให้เห็นตัวผู้ทำชัดเจน พระ องค์ที่ ๑๐ ให้ภาวนาว่า "สัมปจิตฉามิ" จึงคลายตัว คาถาบทนี้ไม่ได้ให้ใช้เฉพาะหลวงพ่อเท่านั้น อนุญาตให้พุทธบริษัทศิษยานุศิษย์และลูกหลานหลวงพ่อใช้ได้ด้วย

ก่อนนอนภาวนา ให้ตั้ง นะโม ๓ จบ และต่อด้วย พุทธัง สรณัง คัจฉามิ

ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ

สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

และสวด อิติปิ โส ฯ ๓ จบ จึงภาวนาเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาวนาให้ทำใจสบาย ๆ ผลของคาถาบทนี้ จะมีผลต่อผู้สั่ง ผู้รับคำสั่ง ผู้ร่วมมือ และผู้กระทำไสยศาสตร์มายังเราโดยฉับพลัน

ผลพิเศษ ถ้าตั้งใจรักษาศีล ๕ บริสุทธิ์ หรือ ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ได้ครบถ้วน สามารถระงับนิวรณ์ได้ ภาวนาวันละ ๑ ชั่วโมงเป็นเวลา ๓ เดือนติดต่อกัน จะมีผลคล้าย "อภิญญา"

หมายเหตุ "สัมปจิตฉามิ" อ่านว่า สัม - ปะ - จิต - ฉา - มิ คาถาบทนี้ใช้ได้เฉพาะผู้ที่เป็นสัมมาทิฏฐิเท่านั้น ไม่มีผลสำหรับผู้เป็นมิจฉาทิฏฐิ พระโมคคัลลาน์ท่านมายืนยันว่า คาถาบทนี้เป็นคาถาอภิญญา บอกว่าคนที่ได้อภิญญามาในชาติก่อน ถ้าใช้คาถาบทนี้ของเก่าจะรวมตัว คือว่า ทำไป ๆ ถ้าเข้าถึงผรณาปีติจะรู้สึกว่าตัวไม่มีเหลือแต่หน้า ต่อไปก็ไม่มีอะไรเหลือเลย หน้าก็ไม่มี ถ้าทำได้เช่นนี้บ่อย ๆ ไม่ช้าก็รวมตัวจะไปไหนก็ได้ เที่ยวต่างประเทศเรื่องเล็ก ฆราวาสทำได้ทุกอย่าง แต่พระห้ามแสดงต่อหน้าคน


เครดิตคุณ Websnow ครับ

 

ขออธิบายเพิ่มเติม คำว่า ธรรมะจัดสรร สำหรับเรานะคะ

เรื่องมีอยู่ว่า...เราก็คือคนธรรมดาคนนึง ที่ไม่ได้มีอำนาจจิตพิสดารอะไรทั้งสิ้น
ก็แค่พุทธศาสนิกชน ธรรมดาๆ ค่ะ..มีศีลห้า สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ เดินจงกรม เกือบทุกวัน...
วันนึง..เราก็ถูกคุณไสยเข้าให้
เริ่มจาก คืนวันที่ 11 ตค.09 เราฝันร้ายมากๆในคืนนึง ฝันว่า มีโจรบุกรุกบ้านเรา แล้วเราก็เข้าไปสู้รบกับมัน เราถูกของมีคมฟันเข้าที่ข้อแขนซ้าย เจ็บมากจนตกใจดื่น....
ตื่นเช้ามาบอกแม่ว่า..นู๋คงถูกคุณไสย์ มีคนทำของใส่นู๋...แล้วก็เล่าเรื่องความฝันให้แม่ฟัง
แม่ก็พูดสั้นๆว่า ไม่มีไรมั้ง อย่าคิดมาก...เราก็เลยโชว์แผลที่ของมีคมที่ข้อแขนซ้ายให้ดู..
แม่ก็อึ่ง..เราก็งง...ว่ามันมีแผลเกิดขึ้นจริงๆ ที่ข้อมือซ้าย

(ธรรมะจัดสรร ข้อที่ 1) หลังจากนั้น วันที่ 27 ตค.09 น้าสะใภ้ของเราก็มีเรื่องไม่สบายใจ อยากให้เราพาไปกราบแม่ชีท่านนึง ที่ท่านนั่งทางในได้เพื่อถามเรื่องราวบางอย่าง...เรากับแม่และน้าสะใภ้ก็ไปกันสามคน...ผลปรากฎว่า แม่ชีท่านนั้นก็บอกเราว่า นู๋โดนของนะ อย่าพยายามถอนเอง หนูสู้เขาไม่ได้หรอกนะ...แม่ชีขอโทษด้วยที่ช่วยนู๋ไม่ได้..เพราะว่าแม่ชีจะต้องเดินทางไป ต่างประเทศเร็วๆนี้ แม่ต้องรักษาสุขภาพ..เราก็อึ้ง...แม่เราก็อึ้ง(หน้าซีดเลย)...
พอเราตั้งสติได้ เราก็ยิ้มให้แม่ชีนะ..แล้วถามท่านว่า...ใครเขาทำนู๋ล่ะ..ท่านไม่บอกค่ะ
พูดเพียงแต่ว่า...ถ้าแม่บอกไปแล้ว..นู๋จะส่งจิตไปหาเขา ทำให้เขารู้ตัว..และส่งของมาแรงมากกว่านี้...ทุกวันนี้เขาทำอะไรนู๋ไม่ได้มากหรอกนะ..อดทนไปก่อน....แผ่เมตตาอย่างเดียวนะ..พยายามกำหนดสติให้มากกว่าเดิม....ท่านก็ส่งยิ้มให้เรา...(แม่ของเราเนี่ย..หน้าซีดยิ่งกว่าเราซะอีก..ส่วนเราก็นั่งยิ้มอ่ะดิ่..กรูว่าแล้วเชียว..)

อ้อๆๆ...ลืมเล่านิดนึงค่ะ ตั้งแต่เราคิดว่า เราอาจจะโดนของ เราก็คิดนะ คิดจะถอนเอง เราก็หลงตัวเองนะ...คิดว่ากรูแน่..ไอ้ที่ทำของใส่กรู กรูจะส่งคืนให้..คิดด้วยความโกรธ คิดว่าตัวเองเป็นคนดีแล้ว..ที่ถือศีลห้าเคร่ง..ทำไรกรูไม่ได้หรอก..แต่แท้จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นอ่ะดิ่...ของต่ำๆพวกนั้น มันไม่ได้ทำให้จิตของเราตกหรือหดหู่ก็จริง..แต่มันทำให้ร่างกายของเราป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุอ่ะดิ่ เพราะสมาธิของเขาแกร่งกว่าเรา(เหมือนเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง)...ต้องกราบขอบพระคุณแม่ชีท่านนั้นด้วย ที่เตือนสติเรา

(ธรรมะจัดสรร เรื่องที่สอง)..วันที่ 14 พย.09 เรารับปากพี่ที่รู้จ้กคนนึงว่า จะเอาเอกสารขอวีซ่าส์พระสงฆ์ไปให้ พระอาจารย์ของพี่คนนั้น...ทำให้เรามีโอกาสไปพบพระสงฆ์รูปนั้น ที่จ.ลำพูน ก็ไปคุยธุระกันประมาณ ครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็กลับบ้าน...

พี่ที่เรารู้จักก็โทร.หาพระอาจารย์ของท่านเรื่องเอกสาร ที่ฝากเราไปให้ (ด้วยความที่เราเคยเล่าเรื่องโดนของให้พี่เค้าฟัง พี่เค้าก็เลยถามพระอาจารย์เค้า..ว่าเราโดนของจริงรึเปล่า)
ท่านก็ฝากบอกมากับพี่คนนั้นว่า...เราโดนของจริงๆ โดนเยอะด้วยนะ ท่านเห็นและสะกดไว้ให้แล้ว...ท่านยังบอกว่า ให้เรากลับไปหาท่านอีกครั้งนึง ท่านจะช่วยเรา..(คือ ท่านทำเทียนให้เราเอาไปจุดที่หน้าพระธาตุ เพื่อตั้งสัจจะบารมี.และอธิษฐานจิต.ฯลฯ.)
วันที่ 17 พย เราก็กลับไปหาท่านอีกครั้งนึงค่ะ ..ท่านสอนธรรมะเราอยู่ ประมาณ สิบนาที และบอกเราว่า..ท่านจะช่วยเรานะ...แต่เราต้องทำตามที่ท่านสอน..
ท่านบอกเราว่าคำแรกว่าอโหสิกรรมให้คนที่ทำเรานะ...เวรระงับด้วยการไม่จองเวร...
ท่านบอกเราว่า...มีอยู่ชาติหนึ่งเราเกิดเป็นผู้ชาย แล้วเก่งเรื่องคาถา อาคม เราไปทำเขาไว้นะ..พอมาชาตินี้มาเจอกัน เขาแข็งกว่าเรา ...เขาก็ทำเราคืน...(เราน้ำตาแทบไหลอ่ะ)

จากนั้นท่านมอบเทียนให้เราไปจุดที่หน้าพระธาตุ ตั้งสัจจะ..อธิษฐานใหม่ ฯลฯ...เพื่อเข้าถึงมรรค ผล นิพพาน และทำพิธีเรียกเทวดาประจำตัวเข้ามาช่วยเรา..(เหมือนเทวดาไม่ช่วยเราเพราะว่า..เราไม่ดีเราที่คิดจะจองเวรต่ออ่ะ...ทำนองนี้)
ท่านก็ให้กรรมฐานเรา และบอกเราว่า เราต้องถอนเองนะ ถอนทิ้ง ไม่ใช่ถอนส่งคืนเจ้าของ..เดี๋ยวของเก่าที่เราเคยสะสมไว้ก็จะกลับมาเอง...

เราก็ลากลับมาบ้าน ก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของท่าน..

(ธรรมะจัดสรร เรื่องที่สาม) วันที่ 3 ธค.09 เราก็คิดเน๊อะอยากปฏิบัติธรรม ถวายแด่ในหลวง..ขอพ่อขอแม่ไปอยู่วัด ท่านก็ไม่อนุญาต ก็เลยทำที่บ้านก็ได้..เราก็คิดในใจว่า จะโทร.ไปขอ พระอาจารย์ ท่านช่วยดู(ทางจิต)ให้เราด้วย คิดว่าจะปฏิบัติ 7 วัน เริ่มวันที่ 8-14 ธคใ

 

ถ้าคุณแน่ใจว่า...
ตัวคุณเองบริสุทธิ์ในศีลห้าและซื่อสัตย์ทรงคุณธรรม
ไม่หลงมัวเมาในอบายมุข
ให้อธิษฐานจิตขออาราธนาบารมีแห่งหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ วัดท่าซุง อุทัยธานี

หายใจเข้า แล้วบริกรรมภายในใจว่า "สัมปจิตฉามิ"
แล้วพ่นลมเป่าเข้าไปในอาหาร น้ำดื่ม น้ำอาบ น้ำกิน
คาถาก็จะทรงอยู่ในของเหล่านั้น

ของที่ส่งมาแบบนี้มันจะฝังอยู่ในกระแสเลือดและผิวหนัง
และตกค้างในกระเพาะอาหาร
ต้องเสกของกินของอาบเข้าไปไล่มันออกมา
ลมหายใจจะเหม็นเน่า พอเสกน้ำเปล่ากินเข้าไปก็จะอ้วกออกมา
มีลมเรอออกจากกระเพาะขึ้นปากน่าเหม็นเน่า
พอเสกน้ำอาบโดนผิวหนังก็จะรู้สึกเหมือนมีไอพล่านออกจากร่างกาย
ผิวจะตึงจะขนลุกซู่ชูชันน่ากลัว

หายใจเข้า~หายใจออก นึก "สัมปจิตฉามิ" เข้าไปดึงพิษที่อยู่ในปอดออกมาให้หมด
เป่าลมหายใจทางจมูกทางปากจะเหม็นของเน่าเสีย

ถ้าคาถามันไม่ได้ผล แสดงว่าคุณไม่ได้เป็นคนทรงคุณธรรมเพียงพอที่จะใช้ถาคานี้

แล้วก็ไม่ต้องพยายามส่งของมาลองเชิงกับผมนะคร้าบ ผมกราบหล่ะ
และก็ไม่ต้องส่งภูตผีมาตามส่องดูถึงที่อยู่ผมหน่ะ ผมทราบได้.
แค่จะมีคนคิดถึงผมด้วยอารมณ์ปองร้ายด้วยคุณไสยฯ พระของผมก็จะบอกผมด้วย.
เลิกคิดเลิกอาฆาต ผมอโหสิ.

ถ้าถาคาไม่ได้ผลก็สวด อิติปิโสฯ

พอหายดีเสร็จแล้ว...
ก็ไปใส่บาตรทำบุญให้คนที่ส่งของมาด้วย(จะได้อโหสิให้ขาดกัน)

ย้ำ!! ไปใส่บาตรทำบุญให้คนที่ส่งของไสยศาสตร์มาด้วย
เรากับเขาจะได้ตัดขาดจากกันไปคนละทางไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวต่อกันอีก

 

คืนวันที่ 3 ธค. เราก็ฝันอ่ะดิ่..ในฝันเรานอนอยู่ มีคนผู้ชายมาปลุกเรา และบอกว่า จะถอนของ ออกให้ ถ้าไม่เอาออกอีกหน่อยจะเป็นมะเร็งนะ...ไอ้เราก็งัวเงีย ตื่นขึ้นมา อ้อๆๆค่ะๆๆๆ ขอบคุณค่ะ ลุกออกจากเตียง ชายผู้นั้นมาพร้อมไฟฉายเล็กๆนำทางหนึ่งอัน เราก็ยังเห็นแม่นอนอยู่บนเตียงเลย...ในฝันนั้นเรายืนหันหลัง ชายผู้นั้นก็เอาฝ่ามือทั้งสองมาวางที่หลังเรา (เหมือนหนังจีนกำลังภายในแบบนั้นเลยค่ะ) แป๊บนึงเหมือนมีกระแสพลังงานวิ่งลงจากคอไล่ลงมาที่ปลายเท้าค่ะ ประมาณสามรอบ ไอ้เราก็แอบเหลือบไปดูข้างๆนิดนึง..เห็นเป็นปลายจีวรพระสงฆ์แว้ปๆในความมืด ที่มาแสงจากไฟฉายของ ชายผู้นั้น..ไอ้เราก็พูดไปว่า...อ้าว..นู๋เป็น ญ นะคะ ท่านมาโดนตัวนู๋ได้เหรอคะ..ณ วินาที ท่านก็พูดสวนกลับมาว่า..อุตสาห์แวะมาช่วย (ยังจะพูดมากอีก)..จะรีบไปพระธาตุช่อแฮ ต่อ..
ท่านก็คือ พระสงฆ์รูปนั้นนั่นเอง ที่ให้กรรมฐานเรา เมื่อเดือนก่อน..ที่แวะมาช่วยเรา
แล้วเราก็ตกใจตื่น...ดูนาฬิกา ตีสามเจ็ดนาทีค่ะ...ดีใจมากๆค่ะ..ที่สุดเลย...

ว่าแล้วเรายังไม่ได้โทร.คุยกับท่านเลยค่ะ ไม่รู้จะเริ่มต้นเล่าเรื่องยังไง..
ก็คงโทร.บอกท่านแค่ว่า..เราจะทำกรรมฐานวันที่ 8-14 นี้ค่ะ ขอท่านช่วยดูหนูด้วยนะคะ

พระสงฆ์รูปนี้ ท่านบวชเรียนมาตั้งแต่เด็ก จากเณร ก็มาเป็นพระนักพัฒนา ท่านอายุ 37 ปี ค่ะ มองภายนอก ดูไม่ออกเลยค่ะว่าท่านเป็นพระปฏิบัติด้วย..
เราเพิ่งรู้จักท่านก็เมื่อวันที่ 14 พย.นี่แหละค่ะ..

เราไม่รู้นะว่า..เพื่อนๆคิดยังไงกันบ้าง...ส่วนตัวเราแล้ว..ดีใจสุดๆๆๆๆค่ะ...

 

มีสตินะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

 

รู้ขนาดกับว่าหมอเป็นคนที่ใหนเลยเหรอครับ....

อันอื่นไม่แนะนำ....เขาพูดไปหมดแล้ว....

 

ได้กลินควันธูปลอยมาอยู่บนหัวก็สงสัยจึงแปลกๆสงสัยไม่หาย

เมื่อวันก่อน ผมเริ่มรู้ตัว
ผมก็เลยตะโกนด่าชื่อไอดีในบอร์ดพลังจิตดังลั่นห้องผมให้รู้ว่าผมรู้ตัวแล้วนะ
เลยเล่นแรงขึ้น ผมก็เลยกลับไปวัดทำกรรมฐานอีกรอบ
ให้คุณยายแม่ชีสอบอารมณ์ให้อีก

เมื่อตอนเกือบบ่ายนี้เองยังเคียดแค้น
เล่นส่งคุณไสยมาเป็นกลิ่นกระจายมาทั่วห้อง
ถามน้องที่พักอยู่ในห้องเดียวกัน
"มึงได้กลิ่นอะไรไหม?"
"พี่ ผมไม่ได้กลิ่น!!"
เอาหล่ะ กูโดนเล่นอย่างแรงแน่ๆคงแค้นแบบแช่งชักหักกระดูกกันไปข้าง!!
คงเคียดแค้นน่าดูที่ผมมีวิชาครูบาดีไว้ป้องกัน!!
ให้ผมได้สูดดมเล่น
(มันไม่ได้มาเป็นจุดๆ แบบอยู่หน้าคอมพ์ หรือบนเตียง แบบคราวที่แล้ว)

ทำคนถือศีลถือสมาธิเสียศูนย์แบบนี้บาปมหันต์
ถ้าเป็นคนลุ่มหลงผิดหลักธรรม คงโดนล่ออีกหลายเกมส์ จนกู่ไม่กลับ

ผมก็เลยอาราธนาพระคาถา เสกไว้ทั่วห้อง
แล้วก็อาราธนาบารมีองค์หลวงพ่อแผ่ปกคลุมทั่วห้อง กลิ่นมันก็เลยหายไป

ยังเอาจิตของภูติผีตามมาส่องถึงในห้องอีก ผมก็รู้
ไม่เข็ด เลยทำน้ำเสกเองอาบเสีย
ยังไม่หาย ยังหลอกล่อด้วยกลิ่นมายาเดิมๆอีก
คือว่าอยากลองเชิงก็ว่า.

ผมก็เลยถามพระผมว่าเค้ายังเคียดแค้นอยู่หรือเปล่า
เก็บของกลับคืนไปเสร็จ แต่ในใจยังคงเครียดแค้นอยู่เลย พระผมก็รู้.

 

จงเชื่อมั่นในพระรัตนไตร

 

คือคนที่ส่งของมาคงคิดว่าผมอยู่มหาลัยปี4 ใกล้จะจบอยู่แล้ว
ยังวัยละอ่อนละเอ๊าะคงไม่ประสิประสาอะไร
นึกว่ากูเหนือว่า กูทำของจนชำนาญ กูแน่ เลยหลงตัวเอง

ปล่อยของมาเสร็จเรียบร้อย ในใจแอบหัวเราะคิกๆๆๆๆว่ากูสำเร็จ
เลยไม่นึกว่าผมนั่งสมาธิเพื่อการหลุดพ้นเลยไม่หลงกลได้ง่าย
จึงไปเข้าวัดอย่างด่วนที่สุดเพื่อไปสอบพระกรรมฐานดูอารมณ์
พระท่านจึงบอกว่าโยมอย่าไปไหนเลย อยู่ที่นี่ก่อน

คงไม่ได้นึกว่าผมก็มีครูบาคุ้มเกล้าอยู่เหมือนกัน
จึงรอดตัวพ้นสติวิปลาส
อโหสิต่อกันเถอะ

ไสยยังคงอยู่ในร่างกายหมดจริงหรือหมดลวงๆ
ไม่ต้องมาลองเชิงกัน!!!
ผมใช้เพนดูลั่มสร้อยคอองค์พระพิฆเนศตรวจดูได้...

 

ศรัทธาในพระองค์อย่างสุดใจ
วิริยะในการปฏิบัติธรรมที่พระองค์ทรงชี้นำไว้
มีปัญญาแตกฉานตัดพันธนาการของมารได้

ขอพุทธานุภาพคุ้มครองท่าน สาธุๆๆ

 

คนทำของใส่กันมีเยอะสมัยนี้มากๆ(แม้แต่ที่เข้ามาเว็บนี้ก็ตาม) กว่าสมัยก่อนด้วยซ้ำครับ เพราะข้อมูลมันหาฝึกกันง่ายไปดูเอาเหอะในเน็ตในหนังสือมีหมด
ขอเสริมความคิดอะไรนิดนึงนะครับ
เรื่องที่คุณคิดว่าตัวเองแน่ตัวเองมีพลังจิตที่เข้มแข็ง หรือมีอะไรคุ้มครองคุณก็ดีอ่ะครับมันก็ดีอยู่ แต่ถ้าคุณไปอาฆาตพยาบาทใส่กันหรือคิดว่าแน่ทำมาเถอะกรูไม่กลัว อย่างงี้มันก็คงไม่จบกันง่ายๆหรอกนะครับ อโหสิให้กันเถอะ ต่อให้คุณทำคืนเค้ามันก็แค่เจ็บตัวกันไปเจ็บตัวกันมาไม่เลิก

 

ชอบจริง คนเพี้ยนเยอะดี อ่านแล้วสนุก

 

พลังแห่งศีล พุทธคุณ อาณุภาพเหลือคณา อวิชชาไม่สามารถ
เทียบได้เลย ขอให้ทุกท่านมีความสุขในการปฎิบัติธรรมครับ

 

ผลแห่งกรรมย่อมเป็นไปตามกรรม..นั่นคือการชดใช้..ยอมรับ..และอโหสิกรรม..แล้วดำรงตนในธรรม..