ความล้มเหลว คือปุ๋ยที่ดีของการทำงาน เป็นทางผ่านไปสู่ความสำเร็จ

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 12 ธันวาคม 2009.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    ขอบคุณความล้มเหลว<!-- google_ad_section_end -->

    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start -->เป็นความรู้ใหม่ว่า บิล เกตต์ชอบจ้างผู้ประกอบการที่เคยล้มเหลวมาก่อนมาเป็นผู้บริหารระดับสูงขอไมโครซอฟท์
    เหตุผลง่าย ๆ ก็คือ มีแต่ผู้ที่เคยล้มเหลวเท่านั้นที่รู้ดีว่าเส้นทางของความล้มเหลวมีรูปร่าง หน้าตาอย่างไร และความล้มเหลวนั้นเจ็บปวดเพียงใด
    ด้วยประสบการณ์ดังกล่าว จะทำให้เขาไม่นำพาองค์กรไปเส้นทางนี้อีก

    อย่าแปลกใจที่ ทักษิณ ชินวัตร และธุรกิจในเครือ ชิน คอร์ป ไม่ได้รับผลกระทบจากการลอยตัวค่าเงินบาทเมือ่ ปี 2540
    ทักษิณ นั้นเคยล้มเหลว เคยเจ็บตัวจากการลดค่าเงินบาทในอดีต
    เขารู้ว่าความเจ็บปวดจากการลดค่าเงินบาทเป็นอย่างไร
    เมื่อสถานการณ์การเงินของประเทศเริ่มย่ำแย่ในช่วงต้นปี 2540 เขาจึงซื้อประกันความเสี่ยงเงินกู้ต่างประเทศทั้งหมด
    การลอยตัวค่าเงินบาทจึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจในเครือ
    เพราะความล้มเหลวจากการลดค่าเงินบาทในปี 2527 ทำให้ทักษิณไม่เจ็บตัวในปี 2540

    ความล้มเหลว แตกต่างจากความสำเร็จ ไม่ใช่เพียงผลที่เกิดขึ้นทันที
    แต่หมายถึงแง่มุมของการจดจำด้วย
    ความล้มเหลว จะเป็นความจดจำแบบฝันร้าย
    นึกถึงทีไร บรื๋อวว.....ปริกลี่ฮีท ทุกที
    จดจำแบบหวาดกลัวและหวาดระแวง

    ไม่เหมือนกับความสำเร็จ ที่เป็นฝันดีที่น่าจดจำ
    ทุกครั้งที่ล้มตัวนอน ยังไม่ทันกลับตาก็อยากฝันแล้ว
    ความสำเร็จ จึงทำให้คนเชื่อมั่นและประมาท
    เหมือนที่มีคนบอกว่า คนที่รบชนะติดต่อกัน 100 ครั้ง
    การรบครั้งที่ 101 จะอันตรายที่สุด
    ความประมาท ก็จะเดินมาหาคนนั้นโดยมี ความพ่ายแพ้ แอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง

    และแปลกไหมครับ คนที่ชนะบ่อย ๆ มักจะมี ท่าไม้ตายเฉพาะตัว
    เคยชนะท่าไหน ก็จะใช้ท่านั้นประจำ
    คงเหมือนกับอุลตร้าแมน เคยปล่อยแสงท่าไหนชนะสัตว์ประหลาดได้ ก็ปล่อยแสงท่านั้นตลอด
    ยอดมนุษย์ของเราจึงปล่อยแสงท่า “ บวก ” อย่างเดียว

    นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จแต่ละคน มีท่าไม้ตายแตกต่างกัน
    เจริญ สิริวัฒณภักดี จอมยุทธ์น้ำเมาเคยประสบความสำเร็จในธุรกิจเหล้าด้วยการทุ่มตลาด
    ขาย หงษ์ทอง ตัดราคาแม่โขง
    เป็นกลยุทธ์แบบคน กระเป๋าลึก เท่านั้นที่ทำได้
    พอมาทำเบียร์ช้างแข่งกับเบียร์สิงห์ เจริญ ก็ใช้ท่าไม้ตายเดิม คือตัดราคาเพื่อกินส่วนแบ่งทางการตลาดก่อน

    หรือธนินท์ เจียรวนนท์ ของค่าย ซีพี ก็เหมือนกัน
    ประสบความสำเร็จจากธุรกิจเลี้ยงได่ด้วยการร่วมทุนกับยักษ์ใหญ่ด้านการเลี้ยง ไก่ของสหรัฐ จากนั้นก็เริ่ม “ จ๊วบ จ๊วบ ” ความรู้และเทคโนโลยีเรื่อย ๆ
    จนวันหนึ่งความรู้ท่วมหัวก็อยากเอาตัวรอดบ้าง เขาจึงลงทุนเองและพัฒนาเทคโนโลยีการเลี้ยงไก่ขึ้นเรื่อย ๆ จนวันนี้ซีพี แซงยักษ์ใหญ่รายนั้นไปไกลลิบตัว
    ท่าไม้ตายนี้ก็นำมาใช้ในธุรกิจอื่น ๆ รวมถึงธุรกิจฟาสต์ฟู้ด ที่เริ่มต้นด้วยการร่วมทุนกับไก่ทอดเคเอฟซี “ จ๊วบ จ๊วบ “” เสร็จก็เริ่มถอยออกมา
    และวันนี้ซีพี เปิดร้านไก่ทอดของตัวเองขึ้นมา

    ท่าไม้ตายของซีพี คือการเรียนรู้เทคโนโลยีจากคนเก่ง และเอาความรู้นั้นมาพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าเดิม

    ถ้าอธิบายแบบท่าไม้ตายของอุลตร้าแมนคือ ท่าบวก ลบ แล้วค่อยคูณ
    “บวก ” เอาคนเก่งมาร่วมด้วยก่อน แล้วค่อย “ลบ” คนนั้นออก
    จากนั้นจึงใช้ท่า “คูณ ” ขยายตัวแบบรวดเร็วเป็นทวีคูณ

    คนส่วนใหญ่ชอบความสำเร็จ แต่กลัวความล้มเหลว
    ทั้งที่จริง ความล้มเหลว คือปุ๋ยที่ดีของการทำงาน

    เหมือนกิ่งไม้ ที่หักและตกลงสู่พื้นดินกลายเป็นปุ๋ยให้กับต้นไม้
    มุมมองเรื่อง ความล้มเหลว จึงน่าสนใจ

    โซ อิจิโร ฮอนด้า บอกว่าสิ่งที่คุณเห็นคือความสำเร็จที่เป็นเพียง 1 % ของชีวิตผม แต่สิ่งที่คุณไม่เห็นคือ อีก 99 %ที่เป็นความล้มเหลวของผม

    ในมุมของนักวิทยาศาสตร์ เขาไม่เรียกการทำงานที่ไม่ประสบความสำเร็จว่า ความล้มเหลว แต่เขาเรียกว่า การเรียนรู้

    ครั้งหนึ่งผู้ช่วยของ โธมัส อัลวา เอดิสัน บ่นกับเขาว่า เราทำการทดลองเรื่องนี้มา 700 ครั้งแล้ว เรายังไม่พบอะไรเลย
    ก่อนที่จะสรุป เราล้มเหลวเสียแล้ว

    เอดิสัน หัวเราะ แล้วบอกว่าเราไม่ได้ล้มเหลว แต่เราได้เรียนรู้อะไรต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และกำลังใกล้ที่จะพบคำตอบแล้ว
    อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เราเรียนรู้แล้วว่า มี 700 วิธีที่ไม่ควรทำ
    เอดิสัน มองความล้มเหลวเป็นการเรียนรู้รูปแบบหนึ่ง

    คนส่วนใหญ่คิดว่าสิ่งที่เราควรเรียนรู้คือเราควรจะทำอะไร อย่างไร
    ชอบเรียนรู้แต่เส้นทางของความสำเร็จ
    แต่เขาลืมว่าสิ่งที่ควรเรียนรู้ไม่แพ้กันคือ เรียนรู้ว่าไม่ควรทำอะไร อย่างไร

    บิลเกตต์ คงคิดแล้วว่าเรื่องทำอย่างไรให้สำเร็จ ตัวเขาทำได้
    แต่สิ่งที่ขาดแคลนคือประสบการณ์ว่าทำอย่างไรจึงจะ “ ไม่ล้มเหลว ”
    เขาจึงจ้างคนที่ผ่านการทดลองในเรื่องนี้มาแล้วอย่างโชกโชนและเจ็บปวดมาทำงานด้วย
    ตามหลักจิตวิทยาเมืองจันท์เขาบอกว่า ความเจ็บทำให้ความจำดี

    อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบล ผู้ประดิษฐ์โทรศัพท์คนแรกของโลกก็เป็นคนหนึ่งที่มีมุมมองเรื่องความล้มเหลวที่น่าสนใจ
    เขาเชื่อมั่นว่าในโลกนี้ไม่เคยมีใครล้มเหลว
    คนที่คิดว่าตัวเองล้มเหลวเพราะคนนั้นทดลองน้อยไป
    และไม่อดทนที่จะค้นหาต่อไปว่ามีอะไรมากกว่านั้น

    ที่น่าขำก็คือ บางครั้งความล้มเหลวก็กลายเป็นความสำเร็จได้
    อย่าง โคลัมบัส ผู้ค้นพบทวีปอเมริกา ซึ่งน่าจะถือว่าเป็นคนที่ล้มเหลวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเพราะเป้าหมายแท้ จริง โคลัมบัส ตั้งใจจะไปอินเดีย [​IMG][​IMG][​IMG]

    ขอขอบคุณ
     
  2. จักราธร

    จักราธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +180
    เป็นบทความที่ดี..หลายคนต้องการแต่ชัยชนะ..คำถามคือ..มีกี่คนในโลกนี้ที่ชนะทุกครั้ง..
     
  3. patcha2001

    patcha2001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    535
    ค่าพลัง:
    +174
    deeja__a;aa6

    คนประสพความสำเร็จมาตลอด เหมือนว่าวติดลมบน

    แต่ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้ ขึ้นเร็วก็ตกเร็ว

    คนที่มีความรู้ ความสามารถ มีความเพียรความพยายาม

    มีความตั้งใจ และมีกำลังใจดี +มีลูกฮึด เขาเรียกว่า

    คนมีศักยภาพ

    ถ้าตกก็จะเป็นบทเรียนที่ดี เป็นประสบการณ์ ที่จดจำแล้ว

    ย่อมไม่เกิดอีก จะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว

    สามารถก้าวกระโดด ด้วยความมั่นใจ นิ่งกว่าครั้งก่อน

    มีสติ ก้าวไปอย่างมั่นใจ และมั่นคงแน่นอน

    คิดดี หัวก้าวหน้า ขยันหมั่นเพียร มีนำใจ ยึดมั่นในศีลธรรม

    ย่อมนำมาซึ่งเกียรติ เงินทอง ลาภ ยศ และสรรเสริญ


    ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ;ปรบมือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...