จิตคือพุทธะ (ถอดจากเสียงหลวงปู่ดูลย์)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย kengkenny, 23 กันยายน 2009.

  1. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ท่านเข่งครับ ตัวท่านเที่ยวได้บอกคนโน้นคนนี้ว่า อย่าใส่ใจเลย แล้วท่าน
    เคยส่องกระจกมองตัวเองบ้างมั้ยครับ ท่านอย่ามาเสแสร้งแกล้งทำเป็นพูดดีเลย
    ครับ ผมรู้สึกคลื่นไส้ ท่านพอรู้จักสำนวนที่เขาใช้ว่ากล่าวบุคคล จำพวกท่าน
    ไหมครับ เขาเรียกมือถือสาก ปากถือศีลหรืออีกอย่างครับว่า ปีศาจคาบคัมภีร์

    ...........ผมว่านะครับเรื่องทั้งหมดทั้งปวง มันก็มาจากตัวท่านนั้นแหละ
    ทำเป็นเอาธรรมของครูบาอาจารย์มาโพสท์ พยายามทำให้คนอื่นมองตัว
    เป็นผู้ดีมีกุศล แต่ที่ไหนได้ การโพสท์ธรรมก็เพื่อเป็นฉากบังหน้า หลังฉากตั้ง
    แก๊งสุมหัว หาวิธีชำแหละ หนึ่งในพระรัตนไตย พระสงฆ์ที่สอนแนวทางที่ตน
    มีอคติอยู่ เอาเป็นว่าท่านเป็นหัวหน้าแก๊ง ส่วนคนอื่นเป็นแค่สมุน กรรมหนัก
    กรรมเบา เดี๋ยวธรรมก็จัดสรรให้เองละครับ
    ...........กับคำพูดของท่านที่ว่า"เอาความคิดมาห่ำหันตัดทอนกำลังใจผู้อื่น"
    ในประโยคคำพูดที่ผมยกมาของท่าน ถ้าท่านคิดว่าจะกระทบกระเทียบผมแล้ว
    ละก็ ผมขอย้อนกลับคำที่กำลังฮิตว่า"เอาดีใส่ตัว เอาชั่วให้คนอื่น"
    ท่านกรุณาตั้งสติแล้วนึกย้อนไป เอาเฉพาะกระทู้นี้ก็พอว่าใครกันครับที่ กำลังห่ำ
    หันกำลังใจผู้อื่น ตัวท่านนั้นแหละเป็นตัวตั้งตัวตีในสิ่งที่ท่านกำลังกล่าวอยู่
    พยายามทำทุกสิ่งถึงขนาดลงทุนไปหา ลิงก์หาโพสท์เก่ามา
    ไม่ใช่เพื่อสอนธรรมหรอก แต่เพื่อ อาจเรียกว่าทำลายล้างเลยก็ว่าได้กับ
    ผู้ปฏิบัติอีกฝ่าย และพยายามทำลายศรัทธาของคนอีกกลุ่มหนึ่ง
    ซึ่งบุคคลทุกคนย่อมมีสิทธิที่จะเคารพศรัทธาใครก็ได้ ฉะนั้นท่านไปคิดดู
    ใหม่นะว่าใครกันแน่ ที่กำลังห่ำหันทำร้ายหรือทำลายกำลังใจกำลังศรัทธาผู้
    อื่นอยู่
    ...........และที่สำคัญที่สุด ที่ผมโพสท์เข้ามาในกระทู้นี้ เพราะผม
    เห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องการปฏิบัติธรรมเลย แต่มันเป็นเรื่องของขบวนการ
    ทำลายล้าง พระสงฆ์ที่เป็นหนึ่งในพระรัตนไตย รวมความแล้วทั้ง
    หมดทั้งมวล กระทู้นี้มันเป็น อกุศลครับ ผมถือว่าเข้ามาชำระล้างสิ่ง
    สกปรกครับ ไม่ได้เข้ามาขัดขวางการปฏิบัติของใคร

    ........ท่านไม่ต้องมากระแทกแดกดัน ทำเหมือนไล่ให้ผมไปปฏิบัติหรอกครับ
    ตัวผมนะครับจะบอกให้ ผมเริ่มปฏิบัติตั้งแต่ตื่นนอน และปฏิบัติทั้งวันครับ
    แล้วเรื่องสตินั้นนะผมมีทั้งวันครับ มันก็ไปๆมาๆตามประสาของจิต
    ผมไม่ไปนั่งบังคับมันหรอกครับ
    ผมจะบอกให้ครับร้านค้าข้างบ้านผม เจ้าของร้านก็ทำสมาธิเหมือนกันครับ
    แกนุ่งชุดขาวอยู่กับบ้านทั้งวัน ในร้านแกชอบเปิดเพลงสวดหรือบทสวดมนต์
    ตัวผมใหม่ๆยังเคารพเจ้าของร้านแกเลย เห็นแกที่ไรก็ทักทายทุกที แต่หลัง
    จากที่เห็นกิริยาที่แท้จริงของแกแล้ว ผมต้องออกห่าง เรื่องอะไรรู้ไหมครับ
    แกไปรู้ว่าเมียแกทอนเงินให้ลูกค้าเกินไป เท่านั้นแหละครับ พ่อตาแม่ยาย
    โคตรเหง้าสักหลาดทางฝ่ายเมียแก ถูกแกขุดขึ้นมาด่าเสียไม่มีชิ้นดี


    ........สติจะอยู่กับใคร ใครมีมากมีน้อย มันต้องขึ้นอยู่กับจิตผู้นั้นด้วย
    กับคนที่วันๆจ้องหาเรื่องหาหลักฐานมาทำร้ายหรือทำลายผู้อื่น โดยที่
    คิดว่าสิ่งที่ตัวทำเป็นการปฏิบัติ เป็นกุศล ผมพูดได้คำเดียวครับ มัน
    น่าสงสารบุคคลพวกนั้นจริงๆ
    ........สติเป็นกุศลนะครับ พูดง่ายๆมันเป็นการรู้เนื้อรู้ตัว แต่ท่านกลับ
    ปล่อยให้โทสะจริตชักจูงปรุงแต่งเสียเลยเถิด มิหน่ำซ่ำแทนที่จะมี
    ศีลธรรมประจำใจไว้บ้าง จริตปรุงแต่งไม่ว่ากัน นี้ดันปล่อยให้ถล่ำลึก
    ไปถึงกายกระทำในสิ่งที่ไม่ควร เอาเป็นว่ากรรมมันเกิดแล้ว กรรม
    ใครๆก็รับไป กรรมผมๆยินดีรับ กรรมท่านๆก็รับไปหรือว่าท่านไม่รับ
    ครับ
    ........อ่านแล้วอย่าพาลโมโหโทโส ลบกระทู้ทิ้งอีกนะครับ นั้นเป็นจริตและ
    การกระทำของเด็ก หรือถ้าเป็นผู้ใหญ่ก็ผู้ใหญ่ปัญญาอ่อนครับ
     
  2. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    แล้วจะไปโมโหทำไมเจ้าเด็กน้อย บุญพิชิตเอ๋ย ที่ผมต้องลบกระทู้นั้นเพราะว่า มันจะเป็นแหล่งรวมของความสรกปรกทางใจ ที่หนึ่งในนั้นก็คือท่านเองไงครับ และเพื่อไม่ให้ใครต้องมาสลดสังเวชในความคิดของท่านและเตือนท่าน ทั้งแรงและเบาบ้างก็เพื่อให้ท่านนั้นมีสติ มันจะไม่ดีกว่าหรือ ที่จะมาคอยคิดว่าคนนั้นคนนี้มือถือสากปากถือศีล เพราะความจริงผมพูดไปท่านก็คงคิดว่าผมอยากเด่นอยากดัง ความเด่นดังในสังคมโลกมนุษย์นี้มันให้อะไรกับคุณหรือครับ ถึงได้คิดและทำไปเพื่อสิ่งนั้นกัน ทำไมผมจะไม่รู้ว่าคุณนั้นปฏิบัติไปเพราะความหลงงมงายในคำสอน เพียงไม่อยากกล่าวอะไรทั้งสิ้น ถ้าคุณแยกแยะไม่ออกว่า อะไรตำราอะไรตัวตน และเป็นสิ่งที่ผมพยายามอธิบายให้ไปในทางเดียวกันเป็นพระธรรมเป็นพระศาสนาอันมีพระสมณโคดมเจ้าเป็นพระศาสดาแล้ว แม้เจอพบพระอริยบุคคลจากเบื้องต้นสู่สูงสุดท่านก็จะไม่รู้ไม่เห็นในธรรมของท่านเหล่านั้นเลย เพราะความหลง เช่นเดียวกับกลุ่มของท่าน ทั้งที่เป็นหยิงและเป็นชาย ไม่ว่าท่านจะคิดว่าผมชอบยกตำรามาอ้าง หรือไม่ก็ตาม แต่นั้นเป็นเพียงแค่แวบเดียว เพียงหนึ่งขณะจิตที่อยากทำบุญทำกุศลต่อเพื่อนผู้ร่วมทุกข์ด้วยกัน ไม่ให้หลงอยู่ ติดอยู่ในห้วงตัณหา โดยเฉพาะความ มี อัสสมิมานะ ในตัวตนของท่านซึ่งจะนำพาไปสู่ กิเลสอันต่ำทรามที่ท่านทำอยู่ทุกวัน จนท่านไม่รุ้ด้วยซ้ำว่านั่นคือกิเลส หลงคิดว่านั่นเป็นธรรมชาติของตนเองไปแล้ว บางคนในกลุ่มคนเช่นท่านถึงกับกล่าววาจาหยาบ ก้าวล่วงพระธรรม สบถเหมือนกับว่าธรรมนั้นทำให้เป็นทุกข์ แล้วผมก็เตือนด้วยไฟ แต่ไม่ใช่ไฟที่ใช้ทำลายเพราะมันจะดับลงเมื่อไม่มีประโยชน์จะทำอีกแล้ว เพราะหากท่านไม่แก้ไขตัวเองก็คงไม่มีใครแก้ไขแทนท่านได้ ผมมีหลักชัดเจนในทางธรรมอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องส่องกระจกเพื่อให้รู้ว่านี่คืออะไร ไม่ต้องอ่านให้มากมายก็เข้าใจตามสภาพธรรมนั้นๆได้ แต่ท่านกับผมก็ต่างกันอยู่ในเรื่องของปัญญาอยู่มากในอันจะเข้าใจและตีความพระธรรม ว่าเป็นไปเพื่ออะไร และทำไมต้องมีพระธรรม พอกล่าวเช่นนี้ก็รู้สึกเหมือนมีอัตตานุทิฐิเกิดขึ้น แต่เพราะต้องการให้ทราบในเจตนาว่า ณ ที่แห่งนี้เป็นที่ๆซึ่งจะนำธรรมที่ได้ปฏิบัติมาดีแล้วแนะนำและแก้ไข ให้ไปเพื่อความพ้นทุกข์ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อ สร้างเสริมกิเลส ราคะ ตัณหา โทสะ และ โมหะ ให้พอกพูน เหมือนเช่นท่านและพวกพ้อง
    เจ้าเด็กน้อยบุญพิชิตเอ๋ย
    อีกเรื่องหนึ่ง การนำเอาธรรมของครูบาอาจารย์มาโพสต์นั้นมันไม่ใช่ความผิดเลย ท่านเข้าใจอะไรผิดไปอย่างแรงและเป็นความคิดของผู้ที่มีจิตตกต่ำอย่างมากเพราะ
    1.ของครูบาอาจารย์นั้น เป็นสิ่งที่เราทั้งหลายปฏิบัติสืบต่อกันมา
    2. ถึงตำที่สุดในจิตที่ตกต่ำก็ยังมีกุศลเพราะนึกถึงธรรมของพระสงฆ์องค์อรหันต์
    3. แต่การใช้ครูบาอาจารย์เป็นเครื่องมือในการแสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนและหมู่คณะนั้นเป็นเรื่องไม่สมควร
    4. อยู่ที่เราเห็นธรรมนั้นแล้วเกิดความเลื่อมใสศรัทธายิ่งขึ้นหรือเสื่อมศรัทธาลงไปนั้นเพราะอะไร
    ส่วนตัวผมไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรความเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัยผมก้อไม่เคยลดลง ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์สาวกธรรมดาหรือพระอริยะบุคคลทั้งหลายจนถึงพระอรหันต์ผมก็ยังเคารพศรัทธาไม่เปลี่ยนแปลงเหมือนเดิม ไม่ได้แยกแยะว่าต่ำหรือสูง เพราะทั้งหมดเป็น พระรัตนตรัย
    5. ส่วนตัวบุคคลของแต่ละคนนั้นมันเรื่องของเขา เขาอยากเป็นอะไรก็เรื่องของเขา อยากเป็นพระอรหันต์ก็เรื่องของเขา และบางทีเขาก็ไม่ได้อยากเป็นมีคนยื่นให้ก็มี
    ท่านควรจะนำธรรมที่ดีมีประโยชน์มาใช้พิจารณาให้มากน่าจะดีกว่า หลงเพ้อพก เห็นตำราเป็นน้ำชา เนื้อไว้ดื่มกิน ท่านจะคิดว่าเป็นเพราะผมทำให้เป็นแบบนี้ นั้นขอให้ท่านคิดให้ดีๆ เพราะในที่นี้ก็มีหลายคนที่ติดตามดูความคิดและการกระทำของท่านอยู่และมีทั้งที่ชื่นชมยินดีและรังเกียจท่านก็มีอยู่ ขอให้ท่านคิดพิจารณาไตร่ตรองให้ดีๆก็แล้วกันครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  3. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ท่านเข่งครับ ผมขอบอกท่านนะครับ ท่านเป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นไม่เปลี่ยน
    ที่ว่าไม่เปลียน ก็คือเรื่องการพัฒนาในการโพสท์ข้อความ อ่านเข้าใจยาก
    หรือเป็นเพราะ พูดกันไปคนละเรื่อง เหมือนฉาญาที่ท่านได้รับว่าน้ำท่วมทุ่ง ผัก
    บุ้งโหรงเหรง ปวดหัวครับ แล้วเย็นนี้จะมาอนุเคราะห์ ตอบท่านในทุกเรี่อง ถึงแม้
    มันจะทำให้ผมมึนงงกับข้อความของท่านก็ตาม
     
  4. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอยิ้มก่อนครับ อยากตอบก็ตอบ แต่ก่อนตอบท่านต้องรู้ก่อนว่าทั้งหมดนั้นมันเป็นประโยคคำถามหรือประโยคบอกเล่า เพราะถ้าเป็นประโยคบอกเล่า ท่านบอกว่าท่านจะตอบ นั้นแปลว่าท่านนั้นแทบไม่เหลือสติไว้ใช้แล้ว และบอกว่าผมพูดทั้งหมดนั้นมันเข้าใจยาก แล้วมันจะแตกต่างอะไรกับสิ่งที่คุณคิดว่าคุณเข้าใจละครับ เพราะคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าคุณเข้าใจถูกต้องในสิ่งที่คุณคิดไว้ ว่าคนนั้นอย่างนั้น คนนั้นอย่างนี้ มันไม่ได้ยากเลยเพียงแค่บอกให้รู้เฉยๆ ว่ามันน่าจะมีประโยชน์กว่าไหม และผมก็ไม่เห็นว่าตรงไหนที่ผมเขียนต้องตีความอะไรเลยนี่ครับ ต้องรู้จักเปิดใจบ้างครับ ยังไงๆโลกก็มีสองด้าน คือ ด้านที่โดนพระอาทิตย์จึงมีแสงสว่างและความอบอุ่นกับด้านที่ไม่โดนจึงเย็นและมืด มันง่ายนิดเดียว ไม่ได้เสียหายเลยในการที่จะแก้ไขตนเอง ให้หมดไปให้ละไปจากความคิดที่เป็นอกุศล ถ้าตามตำราก็ว่าไว้เด็กอ่านหนังสืออกทุกคนอ่านได้ คือ กรรม และมันจะเป็นอย่างไรถ้ารู้เพียงเท่านั้นมันใช้ได้จริงหรือในทางธรรม หรือมันเป็นเพราะอย่างอื่นครับ โปรดอ่านให้ดีๆนะครับ
    เสียดายคุณ วินทะลุไม่อยู่ด้วย แต่ก็เท่านั้นเพราะเพราะเห็นผักบุ้งแค่ต้นเดียวเหมือนกันเลย ไม่ต้องมาอนุเคราะห์ผมก็ได้ครับ เพราะผมเองก็ไม่ได้อนุเคราะห์ใคร ผมไม่ได้เก่งกาจอย่างที่คนอื่นเขาคิดและเป็นกันครับ เพราะว่ารู้ว่ายังไม่สิ้นสุดหนทางแห่งวัฏจักรนี้และไม่อยากหลอกตัวเองด้วยว่า จบแล้วพรหมจรรย์ มันไม่ใช่เรื่องเลย ถ้าจะอนุเคราะห์ขอให้อนุเคราะห์ตนเองเพื่อตนเองเถอะนะครับ ถึงผมอ่านผมก็ได้แค่อ่านเหมือนกันและยังไงๆผมก็เข้าใจในสิ่งที่คุณให้อ่านอย่างแน่นอน ทุกประการครับทุกคำพูดด้วยครับแม้คุณบอกว่าจะตอบผมก็เข้าใจคุณแล้วว่าคุณเป็นไง ก็อย่างที่บอกครับอยากตอบก็ตอบ อยากอนุเคราะห์ก็รับแต่อนุเคราะห์ตัวเองเถอะครับดีที่สุดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2009
  5. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    เข้ามาอ่านกระทู้ครับ อ่านแล้วเห็นว่า ที่หนังสือเล่มนี้ มีคำสอนของท่าน "ฮวงโป" อยู่ในนั้น น่าจะทราบได้จากคำนำของหนังสือครับ ลองเข้าไปดาวน์โหลดหนังสือได้ที่

    แจกหนังสือ จิต คือ พุทธะ
     
  6. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ท่านเข่งครับการเอาธรรมของครูบาอาจารย์มาโพสท์ มันไม่ใช่ความผิดอยู่แล้ว
    มันเป็นกุศลด้วยซ้ำไป แต่การกระทำของท่านมันไม่ใช่ครับ ท่านโพสท์ธรรม
    นั้นด้วยใจที่มีเลศนัย เรียกได้ว่าอกุศลโดยสิ้นเชิง วิธีการก็โดยการโพสท์ธรรม
    นำไปก่อน เพื่อให้สมาชิกมาวิจารณ์ ที่นี้ก็ทำตัวเป็นพ่อพระนักบุญคอยปราม
    เพื่อนสมาชิก แต่ที่ไหนได้สักพักเริ่มลงมาผสมโรงแล้วครับ ดูหลักฐานครับ

     
  7. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ปากก็ว่าจะออกจากทุกข์...แต่โกรธอยู่ก็ยังไม่รู้ว่าโกรธ..ถึงจะรู้ว่าโกรธแต่ยังปล่อยออกมาเรี่ยราด..แบบนี้..หมายความว่างัย..งะ

    ปากก็ว่าจะออกจากทุกข์..แต่ทุกข์อยู่ก็ยังไม่รู้ว่าทุกข์..ถึงจะรู้ว่าทุกข์แต่ยังปล่อยให้จมปลัก..แบบนี้..หมายความว่างัย..งะ

    แต่ก็ยังคิดว่า..ตัวทำดี..ทำถูก..นะเนี้ย..

    รักแบบหลง ๆ ..ก็เป็นแบบนี้แหละ..กลัวว่าของที่รักที่หลงจะเสียหาย..เลยเสียหัว

    นี้ขนาดของนอกตัวนะเนี้ย..เป็นได้ขนาดนี้

    ถ้าเป็นตัว..เป็นร่างกาย..มันจะแกะความยึดได้งัยไหว..

    ปากก็พูดไปเถอะ..จะออกจากทุกข์นะ..แต่ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของอวิชชาต่อไป..

    รู้มัยว่า..ลักษณะของอวิชชา..มันเป็นยังงัย?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  8. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ขอชี้แจงสักเล็กน้อยนะเด็กน้อย เป็นเด็กจริงๆคิดอะไรก็เหมือนเด็ก เพราะคิดว่าการแค่อ่านตำรานั้นก็บรรลุธรรมนั้นมันไม่ใช่เลยเด็กน้อย ผมก็กล่าวในแบบที่ไม่ได้คิดชิงชังใครก็อย่างที่เห็น ว่าผมเจอพี่ธรรมภูตมานานแล้วและเห็นความผิดเพี้ยนไปของธรรมอยู่พอสมควร และกระทู้นี้ผมเองย่อมรู้ดีว่า ใคร และเสียงใคร ด้วยเหตุปัจจัยอะไรก็ตาม ทั้งหมดเริ่มจากความคิดที่ว่า จิต นั้นไม่มีเกิดดับ มีคนถามว่าหลวงปู่ดูลย์ไม่เคยกล่าว แต่ผมเคยได้ยินท่านกล่าวไว้ เพราะนั่นคืออาการของการปรุงแต่งไปก็เรื่องธรรมชาติของจิต ซึ่งผมรู้อยู่ก่อนหน้านี้แล้วมากมายนักตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้ศึกษาอะไรเป็นพิเศษ เพราะครั้งแรกที่มองเห็นผมก็เห็นเป็นไตรลักษณ์ แต่นั่นก็อาศัยเหตุปัจจัยทั้งสิ้น จึงมีความเกี่ยวเนื่องกับอริยะสัจจ์ทั้ง ๔ ครับ ในตอนแรกผมก็เข้าใจว่าหลายท่านนั้นละอัตตาได้แล้ว แต่ก็มีหลายท่านทำได้จริงๆ เพราะตอนแรกผมก็ไม่ได้อ่านอะไรมากมายหรอกของพี่ธรรมภูต คือ มันติดที่เรื่องเดียว คือ จิตคือเรา ผมจึงแย้งและแย้งท่านตั้งนั้นเป็นต้นมา ดังจะเห็นได้จากหลายๆกระทู้ครับ ในช่วงแรกๆที่ผมเข้ามา มันจึงเป็นเรื่องบังเอิญทั้งที่ผมไม่รู้จักพระปราโมทย์ด้วยซ้ำ มันบังเอิญจริงๆ ที่ผมดันไปฆ่า...ในตอนต้น นั่นเพราะผมหลงไปจริงๆกับความคิดของจิต เพราะตอนนั้นผมก็โดนกิเลสหลอกเหมือนกันว่าแท้จริงจิตก็คืออวิชชา แต่ตอนนี้เมื่อปฏิบัติไประดับหนึ่ง ก็เริ่มรู้ว่านี่จิต นี่อวิชชา นี่นา ดังนั้นมันก็เลยเป็นเหตุให้คนอื่นเขาหาเรื่องเพราะเข้าใจว่าผมเป็นผู้เริ่มต้น แต่เนื่องจากผมเข้าใจธรรมในระดับที่ท่านสอนอยู่แล้วว่ามันคืออะไร จึงแก้กลับไปให้ว่า เมื่อไม่มีสติแล้ว ความเป็นจริงอะไรมันจะมี และหลายๆท่าน ก็หลงเข้าใจว่าการทำสมาธิ ได้ฌานนั้นฌานนี้ มีองค์ฌานครบอย่างนั้นอย่างนี้ ผมถามหาสติกลับบอกไม่รู้รู้แต่ วิตก วิจารณ์ ปิติ สุข เอกัตคตา ซึ่งล้วนเป็นตำราทั้งนั้น เช่นเด็กน้อยบุญพิชิตเป็นต้น ดัวนั้นคำสอนที่ว่า สติเกิดเองจึงไม่ใช่เรื่องที่จะทำให้เห็นความเป็นจริงมรรคผลนิพพานได้ นี่เรื่องราวมันเป็นอย่างนี้ ส่วนเรื่องอื่นๆ คือ ผมกับพี่ธรรมภูตนั้นมีเพียง อัสมิมานะในขั้นละเอียดของพี่เขาเท่านั้น เด็กน้อยบุญพิชิตเอ๋ยนั้นศึกษามาก็น้อย ปฏิบัติก็ยิ่งน้อย เพราะจิตมีแต่ฟุ้งซ่าน เพราะขาดการฝึกสติ แม้กระทั่งอาจารย์ขันธ์ หรือ พี่นิวรณ์ ผมก็เตือนเพราะด้วยหวังดีทั้งสิ้นไม่ได้คิดสิ่งอื่นใดเลย ทั้งสองคนนี้เขามีธรรมอันลึกซึ้งอยู่แล้ว แต่นิวรณ์มีกำลังมากนั่นก็เรื่องของเขาทั้งสอง ส่วนผมนั้นถ้าจะปกป้อง ผมก็ไม่ได้ปกป้องใครเลยผมปกป้องเพียงพระธรรม อันมี พระรัตนตรัยเท่านั้น ครับดังนั้น ผมถึงกล่าวแก่หลายท่านว่า ความศรัทธา นั้นเริ่มจากความเคารพ นับถือ ก็ลองๆหาอ่านดูเอา เพราะส่วนใหญ่ก็อธิบายให้ท่านจีโอฟัง เพราะไม่อยากให้ท่านจีโอเข้าไปในกองไฟนั้นเช่นกันครับ มันไม่ได้มีอะไรเป็นไปอย่างที่ท่านหรือเด็กน้อยบุญพิชิตนั้นเข้าใจเลยครับ แม้พระอาจารย์ของท่านไม่ใช่พระอรหันต์ผมก็เคารพศรัทธาเช่นกัน เพราะท่านเป็นพระสงฆ์สาวก ถือเป็นพระรัตนตรัย อันเราทั้งหลายต้องรักษา แก้ไข สืบต่อกันไปด้วยความพากเพียร เรียนตำราก็ดี ปฏิบัติก็ดี จนได้ผลคือ ความพ้นไปจากความยึดมั่นถือมั่นทั้งหลายไม่ใช่เหรอครับ ต้องหัดคิดสิ่งดีๆบ้าง จิตใจจะได้ไม่ฟุ้งซ่านแล้วก็ปล่อยวางความคิดที่ไม่แน่ใจลง ทิ้งไปบ้างก็จะเข้าใจความเป็นจริงด้วยสติปัญญาครับ
     
  9. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    จิตคือเรา??? อ่านเต็มๆที่นี่

    เรานั้น เมื่อจิตเป็นสมาธิ บริสุทธิ์ ผ่องแผ้ว ไม่มีกิเลสเครื่องยียวน
    ปราศจากอุปกิเลส อ่อน ควรแก่การงาน ตั้งมั่น ถึงความไม่หวั่นไหวอย่างนี้

    โน้มน้อมจิตไปเพื่ออาสวักขยญาณ
    ได้รู้ชัดตามเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกข์สมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา
    เหล่านี้อาสวะ นี้อาสวสมุทัย นี้อาสวนิโรธ นี้อาสวนิโรธคามินีปฏิปทา.

    เมื่อเรานั้นรู้เห็นอย่างนี้
    จิตก็หลุดพ้น แม้จากกามาสวะ แม้จากภวาสวะ แม้จากอวิชชาสวะ
    เมื่อจิตหลุดพ้นแล้ว ก็มีญาณหยั่งรู้ว่า หลุดพ้นแล้ว
    ได้รู้ชัดว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว
    กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้ มิได้มี.

    แถมให้อีกบท
    ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา

    เราในที่นี้ คงไม่ใช่พระวรกายของพระพุทธองค์นะ
    เพราะตอนนั้นพระวักกลิจับชายจีวรอยู่

    ถ้าเราไม่ใช่จิตที่บริสุทธิ์ปราศจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง ของพระองค์
    แล้วเราคือใคร???

    ;aa24
     
  10. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    สาธุ..คุณธรรมภูต..จากข้อความข้างบนนี้..นะครับ

    ขอบคุณในความเป็นกัลยาณมิตร..ครับ..สาธุ

    สำหรับเรื่องนี้..ผมคิดว่า..ผมวางใจได้ถูกต้อง..นะครับ..แต่ท่าทางก็ปล่อยไปตามธรรมชาติ..

    ทุกท่าทางก็ดูใจว่าออกท่านี้ด้วยใจ.อะไร..โกรธมั้ย..อยากให้คนเขาว่าเราดีมั้ย..อวดดีมั้ย..ถ้ามีพวกเหล่านี้ก็ทำให้น้อยลงก่อนแล้วค่อยแสดงท่าออกไป..

    แค่น้อยลงที่สุดเท่าที่คนธรรมดา ๆ อย่างผมจะทำได้..(แต่ในใจลึก ๆ มันบอกว่า..ฉันทำได้ดีแบบคาดไม่ถึงเชียวแหละคุณเอ๋ย..)

    เพราะอะไร?

    เพราะผมคิดว่า..

    แม้แต่พระเทวทัตก็ยังจะเป็นถึงพระปัจเจกพุทธเจ้าได้เลย..แล้วในโลกนี้เราจะไปประมาทใครได้..

    แต่ผิดถูก..ก็ว่ากันไปตามเรื่องตามราว..

    ครับ..แม้ไม่ใช่พระอรหันต์..แต่หากปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ..ก็เป็นสุปะฏิปันโนได้.ครับ

    ปล. ผมชอบคำนี้จัง.............เด็กน้อยบุญพิชิต
    ผมไม่อยากเห็นคำนี้เลย....เด็กน้อยจีโอyimm
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  11. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ก่อนที่จะอธิบายความ ผมจะสะกิดสะเกาในข้อความด้านบนนี้หน่อยครับ
    ข้อความที่ว่า "ปกป้องเพียงพระธรรม อันมีพระรัตนตรัยเท่านั้น อันที่จริง
    ต้องใช้ว่า"ปกป้องพระรัตนตรัย อันมีพระธรรมเท่านั้น"มันถึงจะถูกครับ การ
    โพสท์ข้อความซี้ซั่ว ไร้ความรับผิดชอบหรือไร้วุฒิภาวะแบบนี้ มันอาจทำ
    ให้เด็กๆหรือผู้เริ่มศึกษาไขว้เขวได้ นี่แหละน่าไม่ชอบเรียนหนังสือ ไม่ทำ
    ความเข้าใจปริยัติผลก็เป็นดังนี้แล
    .........มันแปลกอยู่อย่างตัวเองชอบด่าชาวบ้านเขา ชอบใช้บัญญัติ ชอบ
    ลอกตำรา แล้วเหตุฉะไหนถึงแนะนำให้ผมไปหาอ่าน ไอ้คำว่าอ่านมันก็อ่าน
    ตำรา อ่านบัญญัติละครับ แล้วทั้งหมดทั้งปวงที่ร่ายยาวมามันไม่ใช่บัญญัติรึ
    เหตุเพราะการที่ท่านไม่มีความรู้ในบัญญัติ เลยรู้สึกป็นปมด้อย
    เลยพาลหาเรื่องด่าคนอื่นว่าใช้บัญญัติ ลอกตำราแล้วปากที่บอกว่าปกป้องพระ
    ธรรมนะ พระธรรมไม่ใช้ปริยัติ ไม่ใช่ตำราหรือบัญญัติหรอกรึ

    ...........แล้วเรื่องที่บอกว่าออกมาปกป้องพระธรรมนะ แบบนี้เรียกผู้ร้ายปาก
    แข็งครับ พอเห็นว่ามีผู้อื่นรู้ว่าตัวเองหลอกชาวบ้าน เอาหน้ากากนักบุญมา
    ใส่ปกปิดโฉมหน้าอันแท้จริง ก็รีบแก้ตัวเป็นพัลวัน ผมรู้สึกสอิดสะเอียนมาก
    เลยครับ ทั้งที่หลักฐานก็มียังแก้ตัวไปน้ำขุ่นๆ แถมแอบเหน็บคนอื่นล้างแค้นด้วย
    ไอ้คำที่ท่านเรียกผมเด็กน้อยนะ เขาเลิกใช้นานแล้ว ท่านจำคำที่ผมจะย้อน
    ท่านไว้นะเผื่อไปไว้ใช้เรียกคนอื่น ท่านเข่งทารกเฒ่าเอ๋ย มันดูดีกว่ามั้ยครับ
    สมฐานะทั้งวัยวุฒิและคุณวุฒิ

    ..........ท่านกล้ามาพูดได้เต็มปากเต็มคำนะว่าปกป้องพระธรรม ให้ธรรมะ
    ..........บทความที่ท่านนำมาโพสท์นะ มีผู้นำมาโพสท์ไม่รู้กี่หนต่อกี่หนแล้ว
    แล้วก็อย่าปฏิเสธนะว่าไม่รู้ว่า เมื่อโพสท์ธรรมของหลวงปู่ที่ไรจะต้อง มีสมาชิก
    มาถกเถียงกันทุกที ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นขาประจำ ตัวท่านเองก็เป็นหนึ่งในนั้น
    รู้แล้วทำไมชอบลบกระทู้ทิ้ง เพราะมันเป็นหลักฐานประจานตัวเองนะเอง ท่าน
    เข่งทารกเฒ่า

    ...ท่านก็รู้ท่านก็เข้าใจนี้ครับ แล้วเหตุไฉนการกระทำมันตรงกันข้าม การกระทำ
    ของท่าน มันเป็นเพียงแค่ต้องการให้ชาวบ้านดูดีมีคุณธรรม โดยใช้แผนให้คน
    อื่นทำลายกันเอง มันน่าไหมละฮือ ขอบอกอีกอย่างครับ ถ้าท่านอยากจะด่าจะ
    ว่าผมก็ว่ามาตรงๆ ขอร้องละครับ อย่าเอาธรรมมาหลอกด่าชาวบ้านเขา อย่า
    เอาความดีของธรรมมาปนกับความเลว มันไม่เท่เลิกเสียเถอะมันเก่าแล้ว
    .......แล้วไอ้การที่ท่านไปกล่าวถึงท่านขันธ์ ท่านนิวรน์นั้นนะ แบบนี้ต้อง
    เรียกว่าได้ดีถีบหัวส่ง ก็ไม่ใช่เพราะท่านอาศัยสอดแทรก แบบที่เรียกว่าทะลุ
    กลางปล้อง ตอนที่ท่านทั้งสองกำลังสนทนากันหรอกหรือ ผมถึงรู้จักชื่อท่าน

    ........ผมบอกกล่าวไว้เลยนะครับ ครูบาอาจารย์ที่ผมเคารพ ไม่ใช่มีอยู่แค่
    พระที่พวกท่านกำลังรวมหัวกันโจมตีอยู่ ผมเอาธรรมของผู้ใดแม้เพียงบทเดียว
    ผมก็นับบุคคลผู้นั้นเป็นอาจารย์ครับ
    .......และผมก็มาคิดดูว่าพระท่านก็คงคิดแบบเดียวกันนี้ คือได้รับความรู้จาก
    ใครแม้แต่น้อยนิด ก็ต้องเคารพเขาเป็นครูเป็นอาจารย์ แต่ทำไมพวกท่านกลับ
    เอาการมีคุณธรรมในใจของพระมา แปรเปลี่ยนใส่ใคร้ ทำตัวออกนอกหน้า ทำ
    เหมือนพระท่านไปโมเมอย่างนั้นแหละ อย่างกับว่า กำลังถูกแย่งท๊อปฟี่
    แย่งขนม พวกเหล่าทารกเฒ่าเอ๋ย
     
  12. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ผมรู้ครับท่านจีโอ ความหมายของอวิชาถ้านำมาใช้กับตัวท่านคือ
    ความกลัว และ การใช้มุขเดิมซ่ำซาก ผมขออธิบายเลย

    .....มุขเดิมซ่ำซากของท่านก็การทำตัว เหมือนจิ้งเหลน ที่ว่าเหมือนจิ้งเหลน
    ก็คือแผลบไปแผลบมา ลื่นไหลยิ่งกว่าปลาไหลในโลงศพ
    ท่านจีโอครับท่านเคยสังเกตุอาการ ของจิ้งเหลนมั้ยครับ ถ้าท่านสังเกตุมันดู
    มันก็อาการแบบเดียวกับท่านนั้นแหละครับ แค่โผล่มาแลบลิ้นแผลบๆ แล้ว
    ก็วิ่งเข้ารู น่าสงสารพวกจิ้งเหลน ท่านจีโอพอรู้ไหมว่า พวกมันอยู่ไฟลัม
    อะไร
    .....ส่วนเรื่องเรื่องความกลัว เราจะรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเกิดความกลัว สังเกตุได้
    ง่ายครับ ส่วนใหญ่จะอ้างโน้นอ้างนี้ แล้วเราจะรู้ถึงลิมิตหรือปริมาณความ
    กลัวได้ด้วยการดูจากสิ่งที่ผู้นั้นอ้าง อย่างเช่น มีคนมาถ้าต่อยก็จะอ้าง พ่อ
    ห้ามมีเรื่องกับคนอื่น ลิมิตแค่ดีพอไหวเพราะมีเหตุมีผลในตัว
    .......แต่เรื่องที่อยากให้ดูถึงความกลัวที่เกินขนาด จนกลายเป็นอวิชาที่
    กัดกร่อนใจตัวเอง จนต้องทำให้มีอาการน่าสมเพศเวทนายิ่งนักก็คือ

    ..... เวลากำลังสนทนากับผู้อื่นอยู่ดีๆ แล้วไม่มีปัญญาจะตอบโต้คู่
    สนทนา ทำให้เกิดความกลัวขึ้นมา แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรละว่าลิมิต
    ของความกลัวขนาดไหน ก็ต้องดูจากสิ่งที่บุคคลนั้นอ้างครับ ผมยก
    ตัวอย่างให้ดูนะมันเป็นความกลัวแบบทะลุมิเตอร์ เช่น
    ........กำลังสนทนากันอยู่ดีๆบุคคลนั้นอ้างว่า " พอแค่นี้ก่อนแฟนหรือเมีย
    โทรมาตามแล้ว " ฮา...ฮา...ฮา แบบนี้ไม่รู้ว่ากลัวผมหรือกลัวเมียฮา..ฮา

    เออ! เรื่องความกลัวนี้ยังมีอีกนะครับ แบบว่าเห็นกันสดๆร้อนๆเลยก็คือ
    การไปแอบอยู่ข้างหลัง ลูกพี่นานๆก็โผล่หัวออกมาด่า ฝ่ายตรงข้ามที่แบบนี้
    แถวบ้านผมเรียกไอ้ลูกกระจ๊อกครับ โบราณเค้าบอกว่า เกาะชายกระ
    เบนผู้ใหญ่
    .....ผมจะปลอบแบบภาษาอีสานให้ฟังนะ " บ่ต้องย่านดอก บัก..จีโอเอ๋ย"
     
  13. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ผิดก็ว่าไปตามผิดสิ ถูกก็ว่าไปตามถูกสิ การที่ผมเตือนท่านทั้งหลายก็ไม่ใช่เรื่องของการได้ดีแล้วถีบหัวส่ง แต่ถ้าผมไม่บอกต่างหากจะกลายเป็นรู้แล้วไม่บอก ปล่อยให้เขาลงสู่ห้วงอเวจีนรก เพราะความหลง จะเห็นได้จากสิ่งที่ดีของท่านเหล่านั้นผมก็ฟังด้วยดีเสมอมาส่วนสิ่งไหนไม่ดีผมก็บอกก็เตือนกันไปตามกาลเทศะ ไม่ใช่จะแยกแยะไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไรเช่นท่านทั้งหลาย เปรียบเหมือนการขบกินอาหารก็ต้องเลือกในสิ่งที่ตนควรกินเพราะยังเลือกได้ก็เลือกแต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งการเลือกถือเป็นทิฐิก็ไม่เลือกแต่ใช้ปัญญาในการเสพหรือนำเอาสิ่งต่างๆมาสู่กายใจ ดูยังไงก็ไม่เหมือนกับที่ท่านว่าเรื่องเด็กแย้งขนมเลย แต่เอาเถอะหากท่านเป็นเพียงเด็กมีความคิดยังเด็กอยุ่ก็ตามแต่ท่านเถอะครับ เพราะยังไงผมก็ย่อมทราบดีกว่าท่านแน่นอนว่า ท่านทั้งสองอาจารย์ขันธ์และพี่นิวรณ์ทราบเจตนาที่แท้จริงของผมเป็นเช่นไร และแตกต่างจากเด็กน้อยอย่างบุญพิชิตแน่นอนครับ อีกอย่างท่านรู้ได้ยังไงว่าใครเป็นยังไงหรือเพราะท่านคิดว่าตนเองเท่านั้นที่รู้ที่เก่งกว่าผู้อื่น คนอื่นไม่มีใครรู้ได้เท่ากับท่านเลยไม่มี และอะไรหรือที่ทำให้ท่านคิดได้อย่างนั้น รวมไปถึงทุกๆท่านที่อ่านข้อความนี้ด้วย ว่าอะไรที่ทำให้คิดเช่นนั้น หากสรรพสิ่งนั้นไม่แน่นอนแล้วพื้นฐานความไม่แน่นอนย่อมเกิดกับสัตว์ทั้งหลายได้ ด้วยกรรมที่สั่งสมมา ทั้ง อดีต ปัจจุบัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  14. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ถ้าชอบพุทธพจน์กันนักก็ลองอ่านดูสิว่า มันตรงกับผู้ที่คิดว่าจิตเป็นเรานั้นเข้าใจไหม

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุถุชนผู้มิได้สดับ พึงเบื่อหน่าย คลายกำหนัดและพ้นไปในกาย อันประกอบขึ้นด้วยธาตุทั้งสี่นี้ได้. เพราะเหตุไร ? เพราะความก่อขึ้น ความสลายตัว การรวมตัว การแยกตัว ของกายอันประกอบขึ้นด้วยธาตุทั้งสี่นี้ อันบุคคลเห็นได้. เพราะเหตุนั้น บุถุชนผู้มิได้สดับจึงพึงเบื่อหน่ายคลายกำหนัดและพ้นไปในกายนั้นได้."

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แต่ธรรมชาติที่เรียกว่าจิตบ้าง ใจ (มโน) บ้าง วิญญาณบ้าง อันใด,<SUP></SUP> บุถุชนผู้มิได้สดับ ไม่ (สามารถ) พอที่จะเบื่อหน่าย คลายกำหนัด และพ้นไปในธรรมชาตินั้นได้ เพราะเหตุไร ? เพราะธรรมชาตินัน อันบุถุชนผู้มิได้สดับ ฝังใจ ยึดถือ ลูบคลำ (ด้วยใจ) มานานแล้วว่า "นั่นของเรา เราเป็นนั่น นั่นเป็นตัวตนของเรา." เพราะเหตุนั้น บุถุชนผู้มิได้สดับ จึงไม่ (สามารถ) พอที่จะเบื่อหน่ายคลายกำหนัด และพ้นไปได้ในธรรมชาตินั้น."
    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุถุชนผู้มิได้สดับ พึงถือกายอันประกอบขึ้นด้วยธาตุทั้งสี่นี้ว่า เป็นตนดีกว่า. การถือว่า จิตเป็นตนไม่ดีเลย. เพราะเหตุไร ? เพราะกายอันประกอบขึ้นด้วยธาตุ ๔ นี้ ที่ตั้งอยู่ ๑ ปี, ๒ ปี, ๓ ปี, ๔ ปี, ๑๐ ปี, ๒๐ ปี, ๓๐ ปี, ๔๐ ปี, ๕๐ ปี, ๑๐๐ ปี แม้ตั้งอยู่เกิน ๑๐๐ ปี ก็ยังเห็นได้. แต่ธรรมชาติที่เรียกว่าจิตบ้าง ใจบ้าง วิญญาณบ้างนั้น ในกลางคืนกับกลางวัน ดวงหนึ่งเกิดขึ้น ดวงหนึ่งก็ดับไป."

    หมายถึง การเห็นความยึดมั่นถือมั่นด้วยกายนั้นเกิดขึ้นได้และเกิดขึ้นแน่นอนและพอมองเห็นได้ว่าเป็นตัวเป็นตน แต่กับจิต ที่ไม่มีตัวมีตนฉนั้นแล้วจะมองเห็นเป็นของๆเราอย่างนี้เลยแล้วได้อย่างไรกันเล่า
    สังยุตตนิกาย นิทานวัคค์ ๑๖/๑๑๔ ​
     
  15. kengkenny

    kengkenny เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,878
    ค่าพลัง:
    +2,500
    ตรงนี้อธิบายบุญพิชิต ไม่อยากเห็นผู้มีใจปราถนาในธรรมต้องเข้าใจผิดในผู้อื่น เกี่ยวกับคำว่า
    พระรัตนตรัยอันมีพระธรรม กับ พระธรรมอันมีพระรัตนตรัย มันต่างกันตรงไหนหนอ เมื่อไม่มีสิ่งหนึงก็ย่อมไม่มีอีกสิ่งหนึ่ง เด็กน้อยเอ๋ย เพราะชอบมองหาสิ่งที่คิดว่าผู้อื่นผิดอยู่เป็นนิจ จิตจึงไม่เข้าถึงธรรมคือความเป็นจริง และที่สำคัญเด็กน้อยก็เป็นเด็กน้อยอยู่อีกนั่นแหละพระศาสดาก็บอกอยู่ว่าแม้พระพุทธเจ้าองค์ก่อนก็ตรัสรู้ธรรมนี้ก่อนเราอีกไม่รู้กี่พระองค์นับไม่ได้ ดังนั้นความหมายเพียงแค่นี้ ไม่น่าจะต้องใช้สมองให้เปลืองเซลล์สมองเลยทำไม พระรัตนตรัยพึ่งเกิดเมื่อ ไม่นานนี่เองแต่พระธรรมนั้นมีมานานแล้ว และมีเฉพาะพุทธศาสนิกชนที่ดีที่ประพฤติธรรมสมควรแก่ธรรมเท่านั้น ที่จะได้อานิสงค์ของการประพฤติปฏิบัติยังให้เกิดเป็นพระอริยะสงฆ์อริยะบุคคลเกิดขึ้นมากมาย และคำว่าพระธรรมอันมีพระรัตนตรัย นั้นหมายถึง ธรรมที่มีพระศาสดาองค์ปัจจุบันเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นามว่า
    พระสมณโคดม พระองค์นี้ไงครับเป็นผู้ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เองและสั่งสอนสัตว์โลก ทั้งมนุษย์และเทวดาในกาลกัปล์นี้นี้และยังให้เกิดพระรัตนตรัยเกิดขึ้นในโลกในกาลกัปล์นี้ ไม่รู้จะเข้าใจไหมถ้าไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไรครับ
    เจ้าเด็กน้อยบุญพิชิต
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2009
  16. บุญพิชิต

    บุญพิชิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    686
    ค่าพลัง:
    +418
    ท่านผู้เฒ่าเข่งครับท่านกำลังเพ้อเจ้ออะไรอยู่ ขอร้องละท่านอย่าทำให้ผม
    กลัว อย่าทำให้ผมเหมือนคุยกับคนเสียสติซิครับ
    ........ท่านนี้ไปกันใหญ่แล้ว ท่านรู้ไหมว่าสมาชิกในนี้ที่เขาคุยกัน เขาคุยถึง
    ศาสนาพุทธ ที่มีพระโคดมเป็นศาสดา ท่านไปเอาศาสนาหรือพระเจ้าองค์ไหนมาคุยกันครับ
    ........แล้วพระรัตนตรัย หมายถึง แก้วสามดวง อันประกอบด้วย
    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นะครับ

    .......เรื่องพระรัตนตรัยก็เช่นกัน เกิดหลังจากพระพุทธเจ้าตรัสรู้ไม่กี่เดือน
    โดยการมาโปรดเทศนาเหล่า ปัจจวัคคี แล้วท่านเหล่านั้นจึงขอบวชกับพระพุทธเจ้า

    ......เอ๋! ผมว่ามันจะไม่ชอบมาพากลแล้วละ
    ถามจริงครับ ท่านเป็นคนๆเดียวกับคนที่ใช้
    ล็อกอินว่า "ผู้รู้แจ้ง"หรือเปล่าครับ รู้สึกออกแนวเพี้ยนๆเหมือนกัน
     
  17. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    บอกว่า..แฟน..ดันเติมให้เป็น..เมีย..

    คุณนี้มันตรงไม่เป็นเน๊าะ..บอกตรง ๆ ก็ยังคิด..เบี้ยว ๆ อีก..

    วันอาทิตย์..ครับ..เป็นวันของเขา..

    คุณนี้น่าจะไปเป็น..ผู้กำกับหนัง..นะ..หรือว่า..เป็นอยู่..ก็ไม่รู้..คิดได้เป็นตุเป็นตะ...ดี

    อะไรนะ..ไอ้ลูกกระจ๊อก..หรอ..

    คำนี้..คงมีค่า..สำหรับคุณมากนะซินะ..อุตส่าเน้นตัวหนาเชียว

    แต่..แขกอย่างผมไม่รับ..

    เจ้าของคำพูดก็รับกลับไปแล้วกัน..:cool:
     
  18. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    อื้มม...อวิชชา...คือความกลัว..นี้หรือที่คุณบุญพิชิต..เข้าใจ

    น่าสงสาร..จัง
     
  19. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    [​IMG]

    พระพุทธพจน์ส่วนนี้ ผู้ศึกษาจำนวนมาก ยึดเอาตามตัวหนังสือที่เห็น
    ที่พระองค์ตรัสว่า
    “การยึดถือเอาร่างกายเป็นตนยังชอบกว่าการยึดถือเอาจิตเป็นตน”
    โดยขาดความเฉลียวใจถึงความนัยที่ซ่อนไว้

    โปรดสังเกตพระพุทธพจน์ที่มีมา
    เมื่อทรงตรัสถึง ปุถุชน(คนหนาด้วยกิเลส )
    จะมีนัยที่ตรงกันข้ามกับพระอริยสาวกเสมอ

    พระพุทธพจน์ส่วนนี้ก็เช่นกัน ทรงหมายให้เห็นว่า

    ปุถุชนผู้มิได้สดับยึดถือเอาร่างกายเป็นตน ชอบกว่า...
    เพราะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนว่า
    ร่างกายนี้มีอายุ ๑ ปีบ้าง...๒ ปีบ้าง...ร้อยปีบ้าง...เป็นต้น

    แต่พระตถาคตทรงเห็นมากกว่านั้น
    ทรงเห็นว่าร่างกายประกอบด้วยธาตุ ๔+ธาตุรู้(จิต)
    เพราะมีจิตครอง จึงทำให้เกิดเป็นขันธ์ ๕ ขึ้น
    หรือก็คืออารมณ์และอาการของจิตที่เนื่องด้วยอารมณ์ หรือ จิตสังขารนั่นเอง

    และขันธ์ ๕ เกิดขึ้นที่จิตและดับไปจากจิต ตลอดเวลาทั้งกลางคืนและกลางวัน

    อัสสุตวตาสูตร

    ;aa24
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    ท่านจีโอ14ครับ
    อย่าได้ถือคนบ้า อย่าไปว่าคนเมา

    ;aa24
     

แชร์หน้านี้

Loading...