ที่ว่า จิตไม่เที่ยง คือจิต หรืออาการของจิต....

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย 2ชาติตรัสรู้, 2 ธันวาคม 2009.

  1. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    อ้าวแล้วที่พระปราโมทย์บอกว่าเป็นธรรมที่หลวงปู่ดูลย์เทศน์ให้ฟังก่อนละสังขารหละ ตกลงยังไงกันแน่
     
  2. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ขอแสดงทัสนะเล็กน้อย

    จิต ย่อม ไม่ใช่ วิญญาณขันธ์
    ในประวัติหลวงปู่มั่น มีกล่าวไว้ว่า ท่านละรูปขันธ์ได้ขาดเมื่อสำเร็จพระอนาคามีผลญาณ
    แสดงว่า นามขันธ์ยังอยู่ ซึ่งต้องไปต่อสู้กันอีกในอรหันตมรรคญาณ
    เมื่อเบญจขันธ์ดับสนิท คือปล่อยวางได้ ก็เป็นอันว่าเสร็จกิจในพระศาสนา
    การปฏิบัติก็เป็นไปเพื่อความดับทุกข์ พระพุทธเจ้าก็กล่าวไว้แล้วว่าอุปาทานขันธ์ห้าคือ ทุกข์ เพราะไม่รู้ทุกข์ จึงมีการยึดเอาไว้ จึงมีการเวียนว่ายต่อไป
    เมื่อเข้าใจด้วยปัญญา ก็ไม่ไปยึดเอาไว้อีก ทุกข์จะมีหรือไม่มี ก็เรื่องของมัน จิตไม่ไปเกาะไว้ ขันธ์ก็คือขันธ์ ถ้าไม่ยึดในขันธ์ มันก็ไม่ทุกข์ ขันธ์ก็ทำงานไปตามเรื่องตามราวของมัน แต่ไม่ทุกข์ไปกับมัน
    สรุปว่า วิญญาณขันธ์ ไม่ใช่จิต แน่นอน เมื่อจิตบริสุทธิ์ถึงที่สุด วิญญาณขันธ์ก็ถูกขจัดออกไปจากจิต จิตก็กลืนเข้ากับสภาวะของจิตเดิมแท้ หรือ จิตหนึ่ง หรือ นิพพานธาตุ นั่นเอง...
     
  3. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    เรื่องวิญญาณขันธ์ถ้าสายวัดป่าชี้ชัดครับไม่ใช่จิต ขันธ์5 กับ จิต ชัดเจนครับ
    ยกตัวอย่างกัณเทศน์หลวงตาไปลองหาฟังนะครับ

    "ความตายเป็นธรรมดา"
     
  4. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ผู้น้อยยังโง่เขลาอยู่..แต่ก็สรุปแล้วครับ..เก็บใว้ในใจเหมือนกัน:boo:
     
  5. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    คิดว่าจิตหนึ่งไม่ใช่นิพพาน น่าจะจิตตั้งมั่น เป็นเอกัตคตา
    น่าจะเป็นอัปณาสมาธิ

    ชี้แนะด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 15 ธันวาคม 2009
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    ท่านครับ ลองอ่านตรงนี้ดูครับ

    ตอบโดย พระอาจารย์ปราโมทย์ ปาโมชโช From MGR Online

    ถาม ผมสงสัยว่าทำไมคำสอนของหลวงปู่ดูลย์จึงเหมือนกับคำสอนของฮวงโป
    ตอบ เพราะหลวงปู่ยืมถ้อยคำของท่านฮวงโปมาใช้ เรื่องนี้สืบเนื่อง จากท่านเจ้าคุณพระโพธินันทมุนีเป็นผู้นำหนังสือ "คำสอนฮวงโป" ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสแปลไว้ไปถวายให้หลวงปู่พิจารณา หลวงปู่เห็นว่าท่านฮวงโปบัญญัติถ้อยคำไว้ตรงกับสภาวะดีแล้ว และท่านอาจารย์พุทธทาสก็แปลไว้ดีแล้ว จึงนำคำสอนมากล่าวสอนเพียงบางส่วนเท่าที่เห็นว่าผู้ปฏิบัติควรทราบ

    มาในชั้นหลังนี้ได้ทราบว่ามีผู้ตำหนิท่านว่าละเมิดลิขสิทธิ์ คือนำหนังสือของท่านอาจารย์พุทธทาสไปพิมพ์แจกเป็นหนังสือ "จิตคือพุทธะ" ความจริงหลวงปู่ไม่เคยเขียนหนังสือธรรมะ และไม่เคยพิมพ์หนังสือธรรมะแจก มีแต่กล่าวธรรมให้ผู้สนใจฟังอย่างไม่มีรูปแบบและครั้งละไม่กี่คนเท่านั้น และท่านก็ไม่ได้ต้องการชื่อเสียง เกียรติยศหรือได้รับผลประโยชน์อะไร เพียงต้องการให้ผู้ฟังได้รับประโยชน์เท่านั้น

    ส่วนการพิมพ์หนังสือ "จิตคือพุทธะ" ก็เป็นเรื่องที่ลูกศิษย์ลูกหาทำกันเองในชั้นหลัง ถ้าจะว่ามีความบกพร่องที่ไม่มีเชิงอรรถหรือบรรณานุกรมอ้างอิงถึงหนังสือแปลของท่านอาจารย์พุทธทาส ก็ขอให้ว่าลูกศิษย์เถอะ ผู้เฒ่าอายุร่วมร้อยปีท่านไม่เข้าใจเรื่องลิขสิทธิ์อะไรหรอก เหมือนท่านอ่านหนังสือแล้วเห็นว่าถูกต้องดี และสอดคล้องกับธรรมที่ท่านรู้เห็นมาด้วยการปฏิบัติ ท่านก็นำมาเล่าให้ลูกศิษย์ฟังเท่านั้นเอง


    ...........................

    เป็นไปได้มั๊ยครับ ที่หลวงปู่ท่านจะเทศน์อะไรยาวๆ
    ทั้งที่ในขณะนั้นสุขภาพของหลวงปู่ไม่ดีนักเพราะชราภาพมากแล้ว
    และหลวงปู่เองมีปกติไม่พูด หรือพูดน้อยที่สุด
    แล้วจะเทศน์ยาวๆตอนอายุ ๙๖ จะเป็นไปได้หรือ???


    ;aa24
     
  7. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    นั่นมันจิตรวมหรือจิตรวมหนึ่งครับ
    จิตหนึ่งที่ใช้ไปหน่ะถูกแล้ว ยืมหลวงปู่ดูลย์มาใช้ครับ

    ภาษามิใช้ประเด็นสำคัญเท่ากับความหมายที่พยายามจะสื่อด้วยภาษานั้น...
     
  8. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,463
    ค่าพลัง:
    +1,137
    อนุโมทนาครับ เรามาคุยกันเฉยๆนะอย่าคิดว่ามันจะถูกหรือจะผิดไปทั้งหมด
    1ผมก็มิทิฐิว่าทีจะปล่อยวางวิญญาณขันธ์นั้นเป็นไปได้ยาก
    ผมก้เห็นด้วยครับจะวางวิญญานขันธ์ได้นั้นไม่ง่ายเลยแค่การจะเข้าไปรับรู้ถึงสภาะวะจริงที่มันเกิดในปัจจุบันขนะหรือมีสติจริในมันอย่างแท้จริงชัดเจน หรือเห็นเป็นปริเฉท อันเนื่องด้วยจิตที่ฝึกมาดัแล้วนั้นยังยากสำหรับผู้เริ่มดูจิตไหม่แน่นอน การเห็นเวทนารู้อารมในปัจจุบันก้ไม่ใช่แจ้งลงในขันทั้งหมด ทางเริ่มต้นมี ธรรมต่อๆไปก้ยังมีที่สูงขึ้นเป็นลำดับไปจนถึงที่สุดแห่งการละวาง ผู้ที่คิดว่ารู้จักขันธ์รู้จักตนอย่างถ้วนทั่ว อาจยังไม่จริงที่เห็นอาจยังไม่จริงที่จริงอาจยังไม่เห็นหลายท่านจึงไม่รุ้จักสภาวะธรรมที่ใจเหล่านี้เลย ไม่รุ้จักวิญญาน สันยา สังขาร ขันธ์ เพียงแต่มีสติในเวทนาเท่านั้น เมื่อไม่รู้ในจิต ก้เลยมองไม่ออกถึงการที่เราไปจับไปยึดอย่างไร และมองไม่ออกว่าตนนั้นยึดมันอยู่ โดยคิดว่าการเห็นเวทนานั้นเป็นที่สุดแล้ว ผมก้บ่นผ่านๆๆนะ

    2ถ้าจิตยังไม่ละเอียดถึงขั้นวางรูปได้
    จิตที่ฝึกมาดีมีความละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ ผมเคยได้ยินนะแล้วก้คิดว่าจริง
    มีบุคคลผู้
    มีสัมมาทิฐิ 1
    ผู้ประกอปองคุณธรรมนั้น 1
    ผู้ที่ละวางกายได้อย่างแท้จริง 1
    ผู้ที่ละวางใจได้อย่างแท้จริง 1
    ผู้ที่วางกายได้แท้จริงนี้ต้องมีปัญญามาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ{ยังไม่วาง}
    เกิดผัสสะที่มากระทบกาย ละกามฉันทะ และไม่เกิดปติฆะ ต้องมีปัญญาที่รู้เท่าทันทั้ง เวทนา กาย สังขารธรรม และวิญญานที่เกิดดับในปัจจุบันยังไม่รุ้ไม่เห็นส่วนนี้จริงมันจะวางยังไงมันวางด้วยความไม่รู้ มันใช่หรือยัง

    3วิญญาณก็หยั่งลงสู่รูปยังมีอุปทานในรูปและเวทนาอยู่ด้วยสมุทัย
    อันมีเหตุมาจากอวิชชาอันยังไม่แจ้งในรูปและเวทนา
    วิญญาน สังขารธรรมที่ยังคงเกิดอยู่เพราะเนื่องด้วยอาสวะกิเลส เมื่อกระทบความนอนเนื่องในสัญญามีอยู่ไม่ว่าจะเคยกระทำกรรมใดไว้สัญญาขันธ์นั้นมีอยู่
    เช่น เคยไม่ถูกใจพอใจกับคนบางคน ตั้งเนิ่นนานและผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว
    เมื่อพบ อาสวะกิเลสนี้ก้ผุดเกิดขึ้นมันคือสัญญาขัน ซึ่งนอนเนื่องอยู่ก่อนแล้วพอตากระทบรู้อาสวะกิเลส หรืออวิชาก้ทำงาน ปรุงแต่ง สังขารออกมาเป็นอกุศลจิต มีทุขเวทนาเกิด มีความไม่พอใจไม่ชอบใจเกิด เพราะเราไม่รุ้ในต้นตอ กิเลสและอาสวะเราจึง ปรุงแต่งตามมัน หรือสังขาร วิญญานเกิดรับกันสานต่อๆๆไป มีสานต่อ สัญญาในอดีต และมีส่งจิตออกนอกต่อ สัยญาในอนาคต

    4แล้วที่บอกว่าวิญญาณขันธ์เป็นจิตก็ไม่เห็นด้วย
    ตรงนี้ต้องมีสติมากๆๆจะเห็นถึงวิญญานขันเอง ขันในส่วนที่เกิดขึ้นรับรู้ส่วนกระทบ เป็นส่วนหนึ่งไม่ใช่จิตทั้งดวง

    5เมื่อจิตยังมีเชื้อ แห่งวิญญาณก็ยังมีเหตุปัจจัยอันเกิดอาสวะ
    จึงยึดขันธ์อันเป็นวิญญาณเพื่อหยั่งลงสู่นามรูป
    เพราะเป้นปัจจัยแก่กันและกัน

    อนุโมทนาครับ ผมก้ยังเห็นไม่ถ้วนทั่งทั้งยังละวาง ใจไม่ได้เต็มที่ก้พูดไปตามที่เห้นที่เห็นอาจยังไม่จริงที่จริงอาจยังไม่เห็น
     
  9. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024

    งั้นขอรับไปพิจารณาครับ ไม่ขอวิจารณ์เช่นกัน
    ยกองค์หลวงปู่ไว้เหนือเศียรเกล้าครับ
     
  10. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เรื่องหนังสืออาจารย์ฮวงโป กับคำสอน "จิต คือ พุทธะ" ของหลวงปู่ดูลย์

    ผมขอถามท่านผู้ทรงภูมิสูงทั้งหลายว่า คำสอนนั้นถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาหรือไม่?

    ถ้าถูกต้องดีแล้ว ก็ไม่ต้องสนใจอะไรอีก ใครจะลอกใครยังไง อย่าไปแบกไว้เลย...
     
  11. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024

    ถือว่าพูดคุยธรรมะกันครับผิดถูกช่วยแนะนำกันครับ พูดคุยกันตามตรงตามเหตุผล ตามธรรมะให้เกิดปัญญาครับ

    ยินดีได้สนทนาครับ
     
  12. albertalos

    albertalos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    2,463
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เราเรียกเป็นคำเรียกขันธ์ส่วนนามว่าจิต เหมือนเราเรียกดินสอว่าเครื่องเขียน เป็นคำจำกัดความแบบสมมุติ สิ่งที่เป็นสภาวะเหนือสมมุติเมื่อละวางขันธ์ ดับเหตุปัจจัยแล้ว มันก้คือนิพพาน เราก้เรียนกสภาวะนั้นด้วยสมมุติอีกว่าจิต ผมว่าเรารู้ความหมายเพียงแต่ภาษที่ใช้มันเป็นเพียงภาษา
     
  13. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    เรามีศัทพ์ให้เลือกใช้

    จิต เจตสิก(อาการของจิต) ขันธ์

    บ้างว่า จิตคืออาการต่างๆที่รู้สึกได้
    บ้างว่า จิตเป็นผู้รู้อาการเหล่านั้น
    บ้างว่า จิตคือสภาวะว่างๆ พ้นจากความยึดติดทั้งหลาย

    ความเข้าใจที่ถูกต้อง ย่อมนำไปสู่การปฏิบัติที่ตรงทาง และนำไปสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืน
     
  14. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    ครับงั้นเข้าใจแล้วครับ
    ต้องขออภัยด้วยถ้าเข้าใจสิ่งที่สื่อสารมาผิด :)
     
  15. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    โมทนาครับ

    ส่วนตัวคิดว่า จิต คือ ผู้รู้ ผู้ยึดอารมณ์ ผู้ปล่อยอารมณ์
    ตามสายวัดป่า เข้าใจง่ายตามการณ์ปฏิบัติตามพ่อแม่ครูอาจารย์ ส่วนที่จิตไปรู้ไปยึดไปปล่อย นั้นล้วนเป็นอารมณ์ทั้งสิ้น
     
  16. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    สายวัดป่าเหมือนกันครับ
    เข้าใจแบบนั้นเช่นกัน
    จิต คือ ผู้รู้ สิ่งที่ถูกรู้ คือ เจตสิก เป็นสมมติ พ้นจากสมมติ ก็ปรมัตถ์
     
  17. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024
    ยินดีที่ได้สนทนาด้วยครับ

    แล้วมีโอกาสได้สนทนาด้วยใหม่ครับ ขอตัวไปนอนจงกรมก่อนครับ

    555 :)
     
  18. วิมุตติ

    วิมุตติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    2,355
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ท่านนอนจงกรม ผมนอนดูทีวี

    ราตรีสวัสดิ์ครับ...
     
  19. จีโอ14

    จีโอ14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    194
    ค่าพลัง:
    +262
    ภูมิไม่สูง..คงไม่ห้าม..ตอบ..นะครับ

    ถูกขนาดไหน..จึงจะเรียกได้ว่า..ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนา..100 เลยมั้ย..หรือแค่ 60 ก็ว่าผ่านแล้ว

    ถ้าถูกต้อง....อะไรคือถูกต้อง..และ..ถูกต้องกับอะไร..หรือ..ถูกอัธยาศัย

    ดีแล้ว........ดีแล้วของใคร..ของผู้สอน..หรือผู้ฟัง

    จะเห็นว่า..ถูกต้องดีแล้ว..กลับขึ้นอยู่ภูมิธรรมของผู้พิจารณาซะมากกว่า..ขั้นหยาบ ๆ แบบปุถุชน..ก็ว่าถูกต้องแล้ว..แต่ในขั้นละเอียดขึ้นไป..เรื่องเดียวกันกลับผิด..
     
  20. โป

    โป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +256
    <table style="width: 516px; height: 1047px;" id="post2584576" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right">
    </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175">
    </td> <td class="alt1" id="td_post_2584576" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <center><!-- google_ad_section_start -->การสอนดูจิตตอนนี้ ไม่ต่างไปจากท่านสัญชัยปริพาชกในครั้งพุทธกาล<!-- google_ad_section_end -->

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> <!-- google_ad_section_start --> <script type="text/javascript"><!-- google_ad_client = "pub-2576485761337625"; /* 250x250, created 31/01/09 */ google_ad_slot = "7252767143"; google_ad_width = 250; google_ad_height = 250; //--> </script> <script type="text/javascript" src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js"> </script><script src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/expansion_embed.js"></script><script src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></script><script>google_protectAndRun("ads_core.google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</script><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: inline-table; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><ins style="border: medium none ; margin: 0pt; padding: 0pt; display: block; height: 250px; position: relative; visibility: visible; width: 250px;"><iframe allowtransparency="true" hspace="0" id="google_ads_frame1" marginheight="0" marginwidth="0" name="google_ads_frame" src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-2576485761337625&output=html&h=250&slotname=7252767143&w=250&lmt=1286915480&flash=10.0.32&url=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff4%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2589-%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%2581%25E0%25B9%2583%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2584%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B1%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%259E%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2597%25E0%25B8%2598%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A5-212378.html&dt=1286915481015&correlator=1286915481017&frm=0&ga_vid=1164219008.1258858253&ga_sid=1286914293&ga_hid=166242761&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=50&u_java=1&u_h=1024&u_w=1280&u_ah=994&u_aw=1280&u_cd=32&u_nplug=11&u_nmime=59&biw=1280&bih=837&ref=http%3A%2F%2Fpalungjit.org%2Ff4%2F%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%25B9%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B4%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25B5%25E0%25B9%2589-%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%25A1%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%2595%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2587%25E0%25B9%2584%25E0%25B8%259B%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2581%25E0%25B8%2597%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%2599%25E0%25B8%25AA%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%258D%25E0%25B8%258A%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25A2%25E0%25B8%259B%25E0%25&dtd=48&xpc=90VATEumz6&p=http%3A//palungjit.org" style="left: 0pt; position: absolute; top: 0pt;" vspace="0" width="250" frameborder="0" height="250" scrolling="no"></iframe></ins></ins>


    ถ้าเป็นปริพาชกอย่างท่านสัญชัย เราชาวพุทธก็ยังพอให้อภัยได้
    แต่นี่เป็นพุทธบุตรที่ขานนาคเข้ามาเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา
    กลับทำตัวเป็น
    ลูกเต่าอกตัญญูต่อคำสอนของพระบรมครู...




    ธรรมภูต

    ;aa24


    ตัดเอามาแค่บางตอนที่คุณโพสต์ไว้ เอามาให้ดู ( ผมขอกราบขอขมาพระรัตนไตรด้วยครับ กาเยนะ วาจายะเจตะสาวาฯ)

    ให้เห็นว่า...คุณพูดไว้ขนาดไหน และยังไม่ยกตอนที่คุณพูดถึงหลวงปู่ดุลย์ ในตอนที่ คุณแย้งว่า หลวงปู่ท่านเทศน์โดยมีคนเอาไปยัด...........ท่าน


    เห็นว่าคุณกล้าพูดอย่างนั้นกับพระสงฆ์ เลยหรือ ซึ่งหลวงพ่อปราโมทย์ ที่คุณแสดงความไม่เคารพก็ไม่เป็นไร แต่กับหลวงปู่ดุลย์ ที่คุณบอกว่าคุณเคารพ แต่กล้าพูด ประโยคนี้ได้....เลยหรือครับ



    </td></tr></tbody></table>
     

แชร์หน้านี้

Loading...