ทำไมพระพุทธเจ้าถึงไม่ปลงผม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Igiko_L, 8 พฤศจิกายน 2009.

  1. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :cool: ท่านผู้รู้ทุกๆท่านค่ะ เพื่อนฝากคำถามมาว่า
    เหตุใดพระพุทธเจ้าท่านจึงไว้ผม โดยที่ไม่ปลงผมดังพระสาวกรูปอื่นๆ
    ขอบคุณทุกๆท่านที่เข้ามาตอบนะค่ะ
     
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    เพื่อนของเจ้าของกระทู้เป็นคนช่างสังเกตและเป็นคนขี้สงสัย ซึ่งความขี้สงสัยนั้น หากเรารู้จักใช้ให้เป็นประโยชน์ ใช้ในทางที่ควร ก็จะเป็นอานิสงส์ผลบุญต่อผู้นั้น

    สำหรับคำถามนี้ บอกได้เลยว่า เป็นคำถามที่หาคำตอบได้ยาก เพราะสิ่งที่จะตอบนั้น เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้า ปุถุชนคนธรรมดาหากตอบไปโดยเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือคาดคะเน ก็จะเป็นการปรามาสพระรัตนตรัยได้

    ดังนั้น ขอให้เจ้าของกระทู้และเพื่อนระงับความสงสัยนี้เสีย สู้หันมาศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้รู้แจ้งเห็นจริงเสียยังดีกว่า แล้วจะพบว่ามหัศจรรรย์นั้นมีจริง !

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  3. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ข้าพเจ้าได้อ่านมาดังนี้...
    ...พระทัยจะทรงบรรพชา จึงดำริว่าเกศาของอาตมะนี้ไม่สมควรแก่สมณเพศ บุคคลผู้อื่นที่จะตัดพระเกศพระโพธิสัตว์เห็นปานดังอาตมะก็บมิได้มี ควรอาตมะจะตัดโมฬีแห่งตนเองด้วยพระขรรค์ ในขณะนั้น รัตนขรรคาวุธอันเป็นทิพย์ก็ตกลงมาจากอากาศปรากฎแก่พระพักตร์ จึงทรงจับพระขรรค์ให้ฉินทนาการ และพระเกศาก็ปรากฎยาวประมาณสององคุลี ม้วนกลมเป็นทักขิณาวัฏทุกๆเส้น ทั่วทั้งพระอุตมังคศิโรตน์ ตั้งอยู่กำหนดเท่านั้นจนตราบเท่าปรินิพพาน จะได้วัฒนาการขึ้นมาอีกหาบมิได้ แลพระมัสสุโลมาก็ปรากฎพอควรแก่พระเกศา กิจที่จะปลงจะตัดสืบไปอีกในเบื้องหน้านั้นบมิได้มี

    ภาพของพระพุทธเจ้าหลายรูปถูกวาดตามพระพุทธรูป ซึ่งมีลักษณะมีพระเกศาม้วนอยู่บนพระเศียร
    แต่ตามที่อ่านมานี้ สรุปได้ว่าภายหลังจากตัดพระเกศา พระเกศาที่เหลือทุกเส้นได้ขดเวียนขวาจนทั่ว แล้วพระเกศาก็ไม่ได้ยาวขึ้นอีก
     
  4. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    โมทนาครับ

    ผมเห็นด้วยว่า คำถามนี้ เป็นคำถามที่ไม่ควรถาม เพราะปรามาสพระ
    และเป็นคำถามที่ไม่ควรตอบ เพราะเสี่ยงต่อการปรามาสพระ

    ต้นทุนในการถาม และการตอบ คือ การปรามาสพระ

    ดังนั้นไม่คุ้มเลยที่จะสงสัย ตอบถูกก็เสมอตัว ตอบผิดก็ปรามาส

    คิดแล้วอุเบกขาดีกว่า อยู่เฉยๆไม่เจ็บตัว

    โมทนา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2009
  5. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ใครบอกครับ พระพุทธเจ้าพระองค์ไม่ได้ไว้ผมนะ ครับ พวกพราหมณ์หรือชฎิลทั้งหลายในชมพูทวีปยังเรียกพระองค์ว่า สมณะโล้นเลย......
     
  6. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ที่เห็นในรูปรึพระพุทธรูปนะ เป็นการจินตนาการของคนออกแบบนะครับ
     
  7. ผมจะเป็นคนดี

    ผมจะเป็นคนดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +7
    ผู้ประเสริฐ ไม่ได้อยู่ที่เครื่องนุ่งห่ม ห่มเหลืองหรือห่มขาว โกนศีรษะหรือไม่โกน เพราะเป็นเพียงสัญลักษณ์ของพระ ของผู้ประเสริฐ ของผู้ทำความดีเท่านั้น ถ้าโกนหัวห่มเหลืองหรือห่มขาวแล้ว แต่ไม่ทำความดี ก็ยังไม่ถือว่าเป็นพระ ในทางตรงกันข้าม ผู้ที่ไม่ได้ห่มเหลือง ไม่ได้โกนหัว แต่ทำความดีอย่างสม่ำเสมอ ผู้นั้นแลคือพระ



    http://www.kammatthana.com/D_350.htm
     
  8. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ลักษณะมหาปุริส ๓๒ ประการ ลักษณะที่๓๒. มีพระอุณหิส(กรอบหน้า)และพระเศียรเป็นขอบเสมอกัน ดุจประดับด้วยกอบพระพักตร์ ลักษณะอนุพยัญชนะ ๘๐ ประการ ลักษณะที่ ๘๐. มีพระเกตุมาลา(พระรัศมีซึ่งเปล่งอยู่เหนือพระเศียร)กล่าวคือ ถ่องแถวแห่งพระรัศมีอันโชตนาการขึ้น ณ เบื้องบนพระอุตมังสิโรตม์(กระหม่อม) พระองค์เองก็ศีรษะโล้นเหมือนสาวกของท่านนั้นละครับ แต่พระองค์มีลักษณะพระเศียรที่งดงาม
     
  9. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    หลายท่านตอบไว้ดีแล้วครับ.....

    ถ้าเป็นความเห็นผมนะ......ผมตอบได้แต่เพียงว่าเกิดไม่ทัน....คือไม่ทันเห็นว่าท่านไว้ผมหรือไม......จากตำราที่หลายท่านบอกไว้ก็คงเป็นอย่างนั้น.....

    สำหรับผมเห็นว่าพระธรรมที่ท่านให้ไว้สำคัญครับ.....
     
  10. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    :boo:หนูบอกเพื่อนตามคำแนะนำของพี่แล้วนะคะ เพื่อนบอกเสียใจมาก
    และได้ไปสวดมนต์ที่วัดกัน เค้าได้กล่าวคำขอขมา พระรัตนไตร ที่ได้กล่าววาจาล่วงเกิน เละบอกให้หนูเข้ามา กล่าวขอโทษกับทุกๆท่าน พร้อมลบกระทู้นี้ออกไป
    หนูขอบคุณพี่ๆทุกคนนะค่ะ ที่ได้เข้ามาตอบ มาแนะนำให้ความรู้
    ขอบคุณคะ
     
  11. อารมณ์สุนทรีย์

    อารมณ์สุนทรีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +1,740
    ผู้ที่ไม่รู้จะได้รู้ครับ ดีแล้ว

    บางสิ่งก็ไม่ควรถาม เพราะอาจจะไม่มีสาระ หรือไม่เกิดประโยชน์

    พระท่านสอนให้พิจน์ธรรมของท่าน

    ผมก็เห็นคนสงสัยกันมาก ศาสนาอื่น จะชอบถามว่า พระพุทธรูปสร้างมาเกินจริง

    เพราะเขาไม่เคยเห็น แต่น่าเสียดายที่เขามั่วมาแต่สงสัยในสิ่งที่ไม่ควร

    พระพุทธเจ้าสอนให้เห็นธรรม

    แทนที่จะมาพิสูจน์กันให้แท้ไปเลย กับแค่ศีล ๕ ยังไม่มี แล้วสมควรเรียนตนเองว่ามนุษย์ รึ

    สบายๆนะครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  12. 9Chai

    9Chai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +107
    ขอร่วมอนุโมทนากับคำถามดีๆแบบนี้นะครับ...(^^)
    ตามที่ผมเคยได้ยินมานะครับ
    พระเกศาของพระพุทธรูปนั้นม้วนเป็นก้อนกลมเล็กๆนั้นเป็นการแทนถึงปัญหาและความทุกข์ที่มนุษย์เราต้องพบเจอ
    ส่วนพระเกตุที่เป็นรูปเปลวเพลิงนั้นหมายถึงไฟแห่งปัญญาที่ใช้ปัญหาและความทุกข์เหล่านั้นครับ
     
  13. intaratip

    intaratip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +2,614
    องค์สมเด็จทรงปลงพระเกศาเหมือนพระทุกองค์ครับ และปลงครั้งเดียวตอนทรงออกผนวช เส้นพระเกษาได้ม้วนเวียนขวาติดหนังพระเศียรโดยอัตโนมัติ ไม่เป็นตุ่ม ๆ ตามแบบพระพุทธรูปที่เราเห็นกัน ทำให้มองเหมือนพระทั่วไป แต่จะแตกต่างตรงที่ จะมีพระฉัพพรรณรังสีเปล่งประกายออกตลอดเวลา ทำให้ผู้พบเห็นปลื้มใจและแยกออกว่าเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ.....................
     
  14. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ครั้งหนึ่ง พระเจ้าอชาติศัตรูท่านกินไม่ได้นอนไม่หลับ(ได้ฆ่าพ่อตัวเอง) หมดชีวกเลยแนะนำให้ท่านไปหาพระพุทธเจ้า พอไปถึงสวนมะม่วงที่ประทับของพระพุทธเจ้า พระเจ้าอชาติสัตรูไม่อาจรู้ได้เลยว่าองค์ไหนคือพระพุทธเจ้าเพราะ ภิกษุปลงผมใหม่ ทุกรูปรวมพระพุทธเจ้าด้วย หมอชีวกเลยบอกว่า องค์ที่ประทับอยุ่ตรงกลางคือพระพุทธองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 4 พฤษภาคม 2010
  15. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    คำว่า " ปรามาส " แปลว่าดูถูกหรือจับผิด ท่านทั้งหลายไม่ได้ดูถูกหรือจับผิดพระพุทธเจ้าเลย อย่าคิดมากกันเลยนะครับ กระทู้นี้ดีมากครับคนอื่นจะได้ความรู้ ซึ่งพระพุทธเจ้าเองท่านคงไม่ว่าพวกเราทั้งหลายหรอกครับ
     
  16. yoottapong

    yoottapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +761
    ผมฝันเห็นพระพุทธเจ้า2ครั้ง
    ครั้งแรกฝันเห็นพระพุทธเจ้านุ่งห่มจีวรสีกลักดำมีจอมผมที่พระเศียรพระพักต์ออกไปทางญี่ปุ่นๆ
    ครั้ง2ฝันเห็นพระพุทธเจ้าพระเศียรโล้นโพกด้วยผ้าลายเสือที่พระเศียรรัศมีที่พระเศียรสว่างไสวเหมือนจันทร์เพ็ญ ทรงนุ่งห่มจีวรสีแดง

    ผมว่านะครับน่าจะเป็นไปตามยุคของแต่ละสมัยพระพุทธเจ้าการนุ่งห่มไม่เหมือนกันรวมทั้งการปลงผมหรือไม่ปลงผมก็เป็นไปตามยุคตามสมัยของพระพุทธเจ้านั้นๆ
     
  17. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    ไม่ใช่พระเจ้าอโศกนะครับ
    ที่กระทำปิตุฆาตแล้วได้พบหมอชีวกแล้วหมอชีวกพาไปพบพระพุทธเจ้านี่ คือ พระเจ้าอชาตศัตรู นะครับ

    พระเจ้าอโศกนี่ ท่านประสูติหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานไปแล้วได้ 200 ปีนะครับถ้าจำไม่ผิด
    หรือก็คือ ท่านไม่ได้อยู่ในสมัยที่พระพุทธเจ้ายังมีพระชนม์
     
  18. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    เพราะตัดผม ออก และผมนั้นก็ละเอียดบาง ขมวดเวียนขวา พวกพราหมณ์ จึงเรียกว่าสมณะโล้นไง ล่ะครับ

    เหมือนพระบวชใหม่ แล้วผมขึ้นมาสัก หนึ่งเซ็นต์ เราก็ยังเรียก ท่านว่า ท่านโกนผม หรือ (ขออภัยนะครับ)ท่านหัวโล้น ๆได้

    จริงๆอีกอย่าง คำว่าสมณะโล้น ยังเป็นคำดูถูกของพวกพราหมณ์ มากกว่า
    เพราะ ถือคติคนที่โกนผมออก คือคน ไม่ดี
     
  19. มหา

    มหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +973
    พระเจ้าอชาตศัตรู ครับ ไม่ใช่พระเจ้าอโศก

    ขอแถมอีกนิด

    เวลาจันทร์เพ็ญ แสงรำไร
    ท่ามกลางป่ามะม่วง
    พระจำนวนมาก นั่งเงียบสงบ
    ถูกเงาต้นมะม่วงบังบ้าง ไม่บังบ้าง
    และพระเจ้าอชาตศัตรู นั่งบนหลังช้าง
    มองจากที่สูงลงมา
    ใครจะรู้ว่า พระรูปไหน คือพระพุทธองค์
    เพราะ
    หนึ่ง ตกตะลึงต่อพระจำนวนมากรูป
    สอง เงียบสงบจนน่าตกใจ
    สาม จากที่สูงหลังช่าง ยังมองเห็น พระจำนวนมาก ทั้งยังกลางคืน

    ปัจจัย ที่ว่ามานี้ เป็นใครถ้าอยู่ในสถานที่เดียวกับ พระเจ้าอชาตศัตรู ก็ดูพระพุทธเจ้า กับพระสงฆ์ไม่ออก
    นอกเสียจากว่าจะมองในระดับของ หมอชีวก ในระดับพื้นดิน และรู้อยู่ว่า ในวันนี้ พระองค์จะยังทรงประทับนั่ง ณที่ไหน เป็นประจำโดยบ่อยๆ
    ก็จะไม่มีสาวกมานั่ง ณ ที่นั่งของพระองค์ เพราะอาศัยความเคารพ

    จึงคาดได้ว่าพระองค์ น่าจะอยู่ ณ จุดนั้น พร้อมกับคงมองแล้ว ให้แน่ใจ จึงตอบพระเจ้าอชาตศัตรู
     
  20. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    ขอตอบนะครับ พระพุทธเจ้าทรงปลงพระเกศานะครับแล้วพระเกศาที่เหลือ ก็ขมวดเป็นทักษิณาวรรติไม่ขึ้นอีกเลย ครับ ส่วนที่เราเห็นเป็นเส้นผม เพราะในสมัยพระเจ้ามิลินท์ กรีกเป็นชาติแรกที่สร้างพระพุทธรูป เขาได้ถามว่าพระพุทธเจ้าต่างกับพระสงฆ์อย่างไร พระสงฆ์ท่านก็บอกว่าไม่ต่างทรงปลงผมเช่นกัน เมื่อไม่อาจแยกได้ ด้วยปฏิภาณนายช่างกรีก จึงตีความว่าพระพุทธเจ้าเป็นธรรมราชา น่าจะแตกต่างจากพระสงฆ์ทั่วไป จึงทำพระเกศาเป็นลอน และเนื่องจากอินเดียกษัตริย์จะทรงมวยผมแล้วใส่เครื่องมงกุฏ กรีกจึงให้มีการมวยพระเกศาแต่ไม่มีศิราภรณ์เพื่อให้แตกต่างจากรูปเคารพ ระหว่างพระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ ซึ่งศิลปะแบบการทำพระพุทธครั้งแรกคือ คันธารราษฎร์ ปัจจุบันคือแคว้น แคชเมียร์ครับ
    [​IMG]
    ครับพระพุทธรูปยุคแรกจึงผสมระหว่างอินเดียและกรีกครับจึงดูว่าพระองค์ไว้ผมครับอันนี้คัดมาจากวิกิครับ
    พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า เริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 เมื่อชาวกรีก ที่ชาวชมพูทวีป (อินเดียโบราณ) เรียกชาวต่างแดนว่า "โยนา" หรือ "โยนก" โดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือ พระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธาราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล (Sakala) หลังจากที่ได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า นาคเสน จึงมีเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำพระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำถามคำตอบปุจฉาวิสัชนา ซึ่งถูกเขียนบันทึกเป็นหนังสือและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงมาก เรื่องนี้ก็คือ มิลินทปัญหา - The Milinda Panha or The Questions of King Minlinda) ได้มีการสร้างสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันธาราฐ ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปนั้นมีลักษณะต่างๆ ตามพุทธประวัติ (ปางพระพุทธรูป)
    พระพุทธรูปรูปแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแคว้นคันธาราฐ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 หรือ 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ว่า แบบคันธาราฐ โดยถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธาราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก และต่อมาในภายหลัง ราวพุทธศตวรรษ ที่ 4-12 มีคตินิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดเล็กๆ (พระเครื่อง) บรรจุไว้ในพุทธเจดีย์
    สนใจเรื่องพุทธศิลป์แต่ละสมัยเพิ่มเติมอ่านได้ที่ http://www.buddhakhun.org/main//index.php?board=5.0

    หมายเหตุ ผมว่าคำถามน้องเขาดีครับไม่ได้ปรามาสตรงไหนเลย สงสัยถามเคลียร์ดี คนที่ว่าน้องเขาต่างหากไม่รู้ศาสตร์พุทธศิลป์แล้วยังไปปิดกั้นความรู้คนอื่นอีกครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...