กรรมเป็นสิ่งลี้ลับ ......

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย apichai53, 26 ธันวาคม 2009.

  1. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    ...........ก่อนเที่ยงวันหนึ่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งอยู่ทางถนนราชดำเนินเที่ยงวันนั้นเราได้พบพร้อมหน้าตามที่นัดหมายไว้เมื่อเราได้กินอาหารและได้สนทนาอย่างกันเองเป็นที่สนุกสนานสิ่งใดที่ทำให้เราสนุกสนานและสบายใจได้ สิ่งนั้นก็เห็นจะได้แก่การคุยกับเพื่อนฝูงมิตรสหายที่ถูกคอถูกนิสัย รู้จักสนิทเข้าใจกันดีรู้เรื่องและพูดเรื่องที่เกิดประโยชน์ได้รับความรู้เบิกบานทั้งผู้พูดเล่าเรื่องและผู้ฟังแกมขำขันทำให้อารมณ์เคร่งเครียดในการงานอย่างจำเจก็ผ่อนคลายลง

    เรื่องที่คุยกันทั้งมีสาระและไม่เป็นสาระหลายรสบางครั้งก็มีเรื่องทำให้เศร้า ตามปกติเราก็ชอบเรื่องสนุกทุกครั้งเราได้มาร่วมกินอาหารและคุยกันส่วนมากมักจะเพลิดเพลินลืมเวลางานไปชั่วขณะหนึ่ง และมักจะออกจากห้องอาหารเป็นพวกสุดท้าย ที่โต๊ะอาหารนั้นเรามีทั้งผู้ที่เคยร่วมกินอาหารเป็นประจำ และมีบางท่านนานๆจะได้โผล่มาร่วมกินอาหารด้วยสักครั้ง วันนั้นเราได้สนทนากันถึงเรื่องกรรมความจริงที่เป็นเรื่องเศร้าที่เกิดขึ้นแล้ว ซึ่งเราก็ควรรู้ไว้จะได้ไม่หลงลืมตัวพิจารณาถึงเรื่องกรรม เพื่อนผู้เคยเป็นนายธนาคารมาแล้วได้กล่าวขึ้นว่า

    ผมเล่าเรื่องกรรมเป็นความจริงผมได้พบมาแล้วเพราะมันไม่ใช่อื่นไกล ผู้นั้นเป็นเพื่อนที่รักสนิทสนมกับเพื่อนมากเพราะเราเป็นเพื่อนร่วมชั้นกันมา หมอนี่เกลียดแมลงสาบเป็นที่สุดในชีวิตเห็นที่ไหนเป็นไม่ได้ต้องไล่ตีทำลายจนตายถึงจะสบายใจ ถ้ามีเวลาก็จะรื้อตามตู้ตามลิ้นชักโต๊ะ พบเป็นฆ่าดะ คล้ายจะมีความอาฆาตพยาบาทติดในนิสัยสันดานเป็นศัตรูคู่อริกับพวกแมลงสาบมาแต่อดีตชาติมาก่อน แปลกเหลือเกิน

    เพื่อนผู้นี้เป็นนักดื่มอย่างคอทองแดง ต่อมาก็ไม่พ้นหลักธรรมชาติคือ เกิด แก่ เจ็บ ตาย ที่สุดก็ได้ป่วยไข้ได้ถึงแก่กรรมลงในฐานะผู้เป็นเพื่อนที่รักสนิทสนมกันมากเมื่อรู้ว่าเพื่อนตายก็เสียดายและมีความอาลัยรักอย่างมนุษย์ปุถุชนทั้งหลายเพื่อนได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ผมได้ช่วยงานเท่าที่ผมจะช่วยได้การสวดศพจนที่สุดก็บรรจุศพ เพื่อคอยเวลาที่จะทำการฌาปนกิจในเวลาอันสมควร

    ต่อมาเมื่อใกล้ถึงกำหนดวันที่จะทำการฌาปนกิจศพก็จัดแจงไปเอาซากสังขารที่ใส่ไว้ในโลง บรรจุไว้ในกุฎิศพซึ่งโบกซีเมนต์ไว้ก็ต้องใช้สัปเหร่อและผู้ช่วยกะเทาะปูนซีเมนต์ที่เปิดช่องกุฎิออกและก็ช่วยกันลากและยกโลงศพขึ้นมา ภรรยาของผู้ตายเกิดอยากดูหน้าของสามีครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกเผาไหม้ละลายไปในกองไฟ

    พวกสัปเหร่อและผู้ช่วยได้จัดการตามประสงค์ของเจ้าภาพผู้เป็นภรรยาของผู้ตาย ช่วยกันงัดฝาหีบศพ เมื่อฝาถูกเปิดออกแล้วทำให้ทุกคนเห็นแล้วตื่นเต้นตกตะลึง ผู้หญิงก็ร้องกรี๊ด ผมเองเห็นแล้วก็งงเหมือนกันนึกในใจว่านี่มันเป็นไปได้หรือ แทนที่จะเห็นศพแห้งตามสภาพของเวลาและเสื้อผ้าที่สวมใส่กลับเห็นแมลงสาบนับหมื่นนับแสนไต่ซ้อนกันยั้วเยี้ยอยู่ในโลงศพจนมองไม่เห็นร่างของซากศพ

    เมื่อเปิดฝาโลงออกได้รับแสงสว่างภายนอกพวกแมลงสาบมันก็วิ่งกันชุลมุน บางตัวก็บินออกจากโลงพวกผู้หญิงตกใจกลัวร้องโวยวายเอะอะทั้งขยะแขยงสะอิดสะเอียนกลัวพวกแมลงสาบในโลงจะบินมาเกาะหน้าเกาะตาคอยหลับตาเอาผ้าปัดอย่างโกลาหล บางคนที่สะอาดก็กลัวจะติดเชื้อโรคพากันหลบหนีออกให้ห่างเมื่อพวกแมลงสาบหนีแยกออกไปแล้วสิ่งที่เห็นในโลงซากศพเหลือเพียงกระดูกเรือนร่างขาวโพลน ไม่มีเสื้อผ้าหรือเนื้อหนังเหลือติดอยู่เลย พวกแมลงสาบคงแทะกินหมด ผมมานึกดูก็ประหลาดมากกว่าทำไมเจ้าพวกแมลงสาบมันจึงเกิดขึ้นหรือไปอยู่ภายในหีบศพได้เพราะนอกจากตอกตะปูปิดแน่นแล้ว อากาศก็เข้าไม่ได้ยังยาด้วยชันไม่ให้มีกลิ่นรอดออกมาได้ ผมก็นึกไม่ออก นี่ก็เห็นจะเป็นกรรมตามสนองหรือความอัศจรรย์ของกรรม

    ข้าพเจ้าได้ฟังแล้วก็คิดว่ากรรมเป็นสิ่งลี้ลับซึ่งหาเหตุผลไม่ได้ย่อมจะเกิดขึ้นจากการสร้างบุญหรือบาปเป็นต้นเหตุและประกอบด้วยอำนาจของจิตคิดผูกพยาบาทอาฆาตจองเวรเป็นสื่อทำให้เกิดผลกรรมท่านผู้ตายเป็นผู้มีพลังจิตเกลียดแค้นชิงชังพยาบาทสูงมีต่อพวกแมลงสาบจึงได้เกิดผลกรรมโต้ตอบตามสนองดังที่ได้เป็นไปแล้ว

    เรื่องนี้ทำให้ข้าพเจ้าเกิดคิดถึงเรื่องแพทย์ผู้หนึ่งแม้จะเป็นเรื่องนานแล้วก็ดี แต่ก็คิดว่ายังไม่เก่าเกินไปที่จะนำมากล่าวไว้ในที่นี้เพื่อจะได้มีโอกาสพิจารณาเปรียบเทียบเรื่องกรรม

    นานมาแล้วได้มีท่านผู้หนึ่งมาจากต่างจังหวัดต้องการพบข้าพเจ้าเมื่อเราได้มีโอกาสสนทนากันแล้ว ท่านผู้นั้นก็ได้เล่าให้ฟังว่าจังหวัดที่ท่านอยู่นั้นมีแพทย์ผู้หนึ่งมีความชำนาญรักษาโรคชาวบ้านทั่วไปแถบนั้นยกย่องว่าเป็นหมอเทวดา แม้ไข้หนักหมออื่นไม่รับแล้วหากจะมาหาหมอนี้ถ้าได้รับปากว่า หายก็ไม่มีอะไรวิตกเจ้าของไข้ก็เป็นอันนอนใจเชื่อถือได้ว่าคนไข้ไม่ตายแน่ ฉะนั้นคนไข้และชาวบ้านเชื่อถือมาก หมอคนนี้มีเสียอย่างหนึ่ง คือ ค่ารักษาแพงมากบางคนหายแล้วก็แทบจะหมดเนื้อหมดตัว ฉะนั้น ชาวบ้านไม่ชอบที่เป็นหมอขูดเลือดไม่ว่าคนมี คนจน หรือพระภิกษุ ไม่ยอมเห็นแก่ใครเป็นอันขาด ขาดความเมตตาเห็นอกเห็นใจ

    เหตุนี้แม้ความเก่งความสามารถของหมอจะมีผู้ยกย่องสรรเสริญว่าเหมือนหมอเทวดาก็ดีแต่ก็มีไม่น้อยที่สาปแช่งว่า ขูดเลือดขูดเนื้อ แม้คนยากจนไม่มีเงินก็ไม่รักษาให้คนเจ็บกลัวตายก็ต้องวิ่งกู้หนี้ยืมสิน หรือผู้เพียงมีที่ดินที่นาหรืออะไรก็ต้องจำนองจองจำมาให้ค่าหมอรักษาแทบจะหมดตัว

    ต่อมามีภิกษุสูงด้วยสมณศักดิ์อาวุโส เป็นที่เคารพของชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปท่านได้เกิดป่วยขึ้นมีอาการมาก มีคนแนะนำให้ท่านไปหาหมอผู้นี้ท่านก็บอกว่าอาตมาไม่มีเงินจะให้ค่าหมอ เพราะเขาเป็นหมอเงินหมอทองไม่เห็นแก่หน้าใครเลย

    พวกลูกศิษย์ก็บอกว่าท่านเป็นพระภิกษุที่ชาวบ้านชาวเมืองนับถือมาก บางทีหมอจะลดหย่อนผ่อนให้ก็ได้ที่สุดท่านก็อุตส่าห์ตะเกียกตะกายพาสังขารไปหาหมอคิดว่าถ้าเชิญหมอมารักษาที่วัดทำให้เสียค่ารักษาก็จะสูงขึ้นมาอีกเมื่อได้ไปพบหมอบอกกับหมอไปตามความเป็นจริงว่า อาตมามีเงินไม่มากนักจะออกปากชาวบ้านก็เกรงใจ อยากจะทราบว่าอาตมาจะเสียเงินค่ารักษาเท่าใดอาตมาจะได้เตรียมไว้ให้ ถ้าขาดไม่มากก็จะขอร้องญาติโยมช่วยออกให้หมอพูดให้กำลังใจว่า"สำหรับท่านไม่เป็นไรหรอกครับยังไม่ต้องคิดก่อนก็ได้ ผมจะไม่คิดมาก รักษาให้หายดีเสียก่อนค่อยพูดกัน"

    พระรูปนั้นท่านก็คิดว่า ครั้นจะรบเร้าให้บอกราคาก็เกรงใจในเมื่อหมอได้บอกว่าจะไม่คิดมากคิดแพง ก็ต้องตกลงให้รักษา ต่อมาท่านก็หายเป็นปกติท่านก็เตือนหมอให้เก็บค่ารักษา แล้วไม่ช้าหมอก็ได้ทำบิลให้คนนำมาส่งให้ท่านเมื่อท่านได้เห็นตัวเลขจำนวนที่ต้องจ่ายในบิลแล้วก็ต้องตะลึงงงลมแทบจับเพราะจำนวนเลข ๔ ตัว แต่ตัวหน้าเป็นเลขแก่ ท่านบอกว่าเห็นบิลเท่านั้นเหงื่อท่วมตัวเพราะไม่รู้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาให้หมอมากมายได้ นึกไม่ออกการที่จะขอลดกับหมอนั้นไม่เกิดประโยชน์อะไร เพราะหมอพูดคำเดียว

    เมื่อหมดทางท่านก็หาของในกุฎิมีอะไรพอจะแลกเปลี่ยนเป็นเงินก็จัดการเก็บเล็กๆ น้อยๆ เพื่อสะสมไว้ใช้หนี้หมอที่ขาดอีกมากก็จำเป็นต้องอาศัยญาติโยม เพื่อช่วยกันสงเคราะห์ให้ท่านได้ใช้หนี้พวกลูกศิษย์และผู้ที่เคารพเมื่อรู้เรื่องนี้ก็ได้พยายามไปพูดกับหมอขอความเห็นใจแต่ทุกคนก็ผิดหวัง เพราะหมอไม่ยอมลดราวาศอกพวกชาวบ้านต่างก็ได้แต่สาปแช่งหมอหน้าเลือดไม่ยกเว้นแม้แต่พระสงฆ์แล้วพวกชาวบ้านทั่วไปก็ได้ช่วยกันบริจาคคนละมากบ้างน้อยบ้างแต่ไม่วายพากันสาปแช่งว่า"เมื่อไหร่ไฟนรกจะเผาผลาญหมอหน้าเลือดคนนี้นะคิดค่ารักษาคนยากคนจนก็หนักอยู่แล้ว แต่นี่มาทำกับพระกับเจ้าซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านชาวเมืองทั่วไป"

    เมื่อชาวบ้านชาววัดรู้เรื่องถึงไหนก็สาปแช่งถึงนั่นว่าเป็นคนไม่มีศาสนา เห็นเงินเป็นใหญ่ไม่รู้จักศีลธรรมบุญบาปที่สุดก็ช่วยกันออกเงินตามมีตามเกิดจนถวายท่านได้ตามจำนวนนั้นมอบจ่ายค่ารักษาให้หมอไป

    ตามปกติหมอเป็นคนละเอียดถี่ถ้วนมีสติไม่ประมาทระวังตัวอยู่เสมอ และเป็นคนมัธยัสถ์ เห็นจะเป็นเพราะถึงเวลาของกรรมทำให้หมอเห็นผิดเป็นชอบ ขาดสติ เกิดความประมาท ก็คือวันหนึ่งหมอเห็นปี๊บใส่แอลกอฮอล์ซึมรั่ว จึงเอาแอลกอฮอล์ในปี๊บมาถ่ายลงถังเวลานั้นไม่มีไฟฟ้าใช้จึงต้องใช้แสงสว่างจากเทียนไขส่องอยู่ไกลๆ จากที่สูงห่างๆเมื่อแอลกอฮอล์ถ่ายจากปี๊บลงสู่ถัง จะเป็นเพราะผลกรรมถึงคราวที่จะตามสนองทำให้เทียนไขตั้งไว้บนหิ้งสูงหยดก้นเทียนติดไม่แน่น เกิดตกลงมาจากหิ้งพอดีแอลกอฮอล์เมื่ออยู่ใกล้ไฟ เทียนไขก็ไม่ดับเกิดเป็นเปลวไฟแลบลุกพรึบขึ้นทันใดนั้นเปลวไฟก็ลุกลามรวดเร็วไวเกินที่หมอจะทันป้องกันหรือหลบหนีได้ไฟลุกลามเข้าไปในปี๊บ ความอัดและความกดดันของแก๊ซแอลกอฮอล์ทำให้เกิดระเบิดขึ้นแอลกอฮอล์ก็กระจายไปท่วมตัวหมอแล้วไฟก็ติดขึ้นทันทีเสียงระเบิดได้ทำให้ผู้คนญาติพี่น้องตกใจ

    ภรรยาวิ่งมาเห็นไฟกำลังลุกท่วมหมอกำลังทุรนทุราย ไม่สามารถจะช่วยตัวเองได้ภรรยาเห็นตกใจแทบสิ้นสติ ไม่ช้าชาวบ้านใกล้เรือนเคียงวิ่งมาช่วยกันดับและหมอก็ล้มพับกลิ้งลงไปนอนกับบนพื้นห้องแถวนั้นร้องครวญครางด้วยพิษไฟปวดแสบปวดร้อน ญาติเห็นอาการไม่ดีหนักมากเพราะเนื้อรอบนอกสุกหมอต้องทนทุกข์ทรมานมาก จึงได้รับจัดส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯความทุรนทุรายด้วยพิษร้อนของไฟเผาผลาญร่างกายนั้นเป็นเรื่องที่เจ็บปวดเจ็บแสบเหลือที่จะทรมานต่อไปได้หมอถึงแก่กรรมลงในโรงพยาบาลกรุงเทพฯ

    ชาวบ้านชาวเมืองเคยด่าเคยแช่งหมอมาก่อนแต่พอรู้ว่าหมอถูกเผาทั้งเป็น และได้ถึงแก่กรรมเสียแล้วต่างก็พากันเสียใจเศร้าสลดเสียดายที่ต้องเสียหมอที่เก่งในทางรักษาคนไข้ที่ยกย่องเป็นเทวดาที่ได้เคยรักษาคนจวนตายให้รอดชีวิตมาได้ไม่น้อย ความโกรธแค้นของทุกคนหายไปสิ้นมีความรักความอาลัยเสียดายที่หมอดีๆ ในทางรักษาต้องตายจากไปแม้จะเป็นผู้ที่ขูดเลือดขูดเนื้อบ้าง คนก็อยากให้หมอมีชีวิตอยู่เพื่อความอุ่นใจก็ยังดีกว่าไม่มีหมออยู่เลย

    ทุกคนเมื่อรู้ข่าวก็ไม่เว้นที่จะสงสารและอาลัยครั้งใดที่มีคนป่วยหนักญาติพี่น้องก็จะพากันบ่นคิดถึงหมอเทวดาแต่สิ่งเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไปเป็นอดีตแล้วจะไม่กลับมาเป็นปัจจุบันอีกเหลือไว้แต่ความหลังที่ในจังหวัดเคยมีหมอเทวดาที่สามารถรักษาคนที่จวนจะตายให้ฟื้นขึ้นมาได้ บัดนี้ได้ผ่านไปแล้วและไม่ช้าก็จะค่อยๆ ลืม ไม่ว่าจะเป็นความดีหรือความชั่ว คงเหลือไว้แต่ "กรรม"ซึ่งเป็นสิ่งลี้ลับไม่สามารถจะมองเห็นได้คอยติดตามสนองแก่ผู้สร้างกรรมดีหรือกรรมชั่วต่อไป…………
    กรรมเป็นสิ่งลี้ลับโดยท.เลียงพิบูลย์จากหนังสือกฎแห่งกรรมทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๒
    ***************************************************

    http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=294
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2009
  2. สี่จุด

    สี่จุด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    705
    ค่าพลัง:
    +3,658
    เราเป็นคนหนึ่งที่กลัวแมลงสาบมากๆๆๆๆๆๆๆ
    เมื่อก่อนเห็นจะขอให้ใครก็ได้กำจัดทิ้ง แล้วก็
    จะเจอะเจอกับมันตลอด เด๋วนี้ ถ้าเห็นก็ขอให้
    คนเอาไปทิ้งนอกบ้าน และทุกคืนวัน จะสวด
    อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้ ขอไม่ให้มีกรรมต่อ
    กัน ถ้าชาติหนึ่งชาติไหนเคยสร้างกรรมกันมา
    ก็ขออโหสิกรรมต่อกัน รู้สึกจะดีขึ้นมากๆเลย
    ไม่ค่อยเจอแล้ว ก็พยายามทำใจไม่ให้กลัว แต่
    มันอดไม่ได้
     
  3. จิตนิพพาน

    จิตนิพพาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    233
    ค่าพลัง:
    +414
    anu mo tha na sa tu krab....
     
  4. จักราธร

    จักราธร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +180
    โลงบานเอกชน..ราคาพันล้าน หมื่นล้าน ผุดยังกะดอกเห็ด
    หมาลัยเอกชน..ราคาพันล้าน หมื่นล้าน กระจายอยู่ทั่วประเทศ
    คนกลุ่มนี้..หากเป็นคนดี ประเทศก็จะเจริญอย่างรวดเร็ว หากเป็นคนไม่ดี..มันจะรวยกันอยู่กลุ่มเดียว ที่สำคัญคือพาประเทศมั่วไปตามอารมณ์ครับ..
     
  5. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอให้หมั่นสร้างความดี เพื่อเป็นกุศลคุ้มครองตนเอง
     
  6. saipote

    saipote เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2009
    โพสต์:
    6,115
    ค่าพลัง:
    +9,778
    อนุโมทนาสาธุค่ะ มนุษย์ทุกคนล้วนเกิดมาตามกรรม กรรมเป็นผู้กำหนด แล้วในเล่ามาสร้างกรรมเพิ่มในชาติปัจจุบัน
     
  7. apichai53

    apichai53 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    630
    ค่าพลัง:
    +2,261
    สวัสดีปีใหม่ 2553 สมาชิกห้องกฎแห่งกรรมทุกท่านครับ
     
  8. Phuttapume

    Phuttapume เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    21
    ค่าพลัง:
    +150
    กรรมนั้นมิได้เป็นสิ่งลี้ลับแต่เป็นเพราะชนที่รับผลแห่งกรรมนั้นไม่มีปัญญาญาณไประลึกชาติหนหลังได้จึงไม่รู้เหตุของกรรมไม่กลัวบาปบุญเพราะลืมเสียแล้วว่าเคยตกนรก
     

แชร์หน้านี้

Loading...