พระโพธิสัตว์เป็นพระโสดาบันหรือไม่ครับ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ผู้พ่ายแพ้ขันธ์ 5, 28 กันยายน 2004.

  1. จันทโค

    จันทโค เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,866
    ค่าพลัง:
    +35,603
    ตอบ ไม่ใช่ครับ คนละภูมิกันนะครับ โสดาบันเป็นแค่สาวกภูมิ ส่วนพระโพธิสัตว์เป็นพุทธภูมิ ( ถ้าท่านไม่ละปรารถนาซะก่อน )
     
  2. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    ผู้ปรารถนาพระโพธิญาณก็ดี ผู้ปรารถนาพระนิพพานก็ดี ล้วนต้องปฏิบัติเพื่อการละสังโยชน์ 10 ประการ เช่นเดียวกัน

    ผู้ปรารถนาพระนิพพานเมื่อละสังโยชน์ 3 ข้อแรกได้ ก็เข้าสู่ความเป็นพระโสดาบันหรือพระสกิทาคามีตามกำลังใจที่ปฏิบัติได้ เมื่อละสังโยชน์ข้อ 4 และข้อ 5 ได้ ก็เข้าสู่ความเป็นพระอนาคามี และเมื่อละสังโยชน์ส่วนที่เหลือคือข้อ 6 - 10 ได้ก็เข้าสู่ความเป็นพระอรหันต์ หากเป็นพระภิกษุสงฆ์ เรียกว่า เป็นพระอริยสงฆ์หรือพระอริยเจ้า แต่หากเป็นบุคคลธรรมดาหรือเป็นฆราวาส เรียกว่า พระอริยบุคคล

    สำหรับผู้ปรารถนาพระโพธิญาณเมื่อละสังโยชน์ได้ ไม่ว่าจะเป็น 3 ข้อแรก หรือละสังโยชน์ข้อ 4-5 ได้ หรือละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อได้ ก็ไม่ถือเป็นพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี หรือพระอรหันต์ แต่มีอารมณ์ใจและมีคุณธรรมเทียบเท่าตามลำดับขั้นของการละสังโยชน์ในแต่ละลำดับนั้นๆ





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010
  3. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    เท่าที่เคยเห็น ท่านtamsak(ผู้ลาพุทธภูมิ) โพสต์อยู่ในกระทู้ต่างๆ ก็มีบทนี้ล่ะครับ เป็นบทที่น่าชื่นใจยิ่งคือตอบแบบรู้จริงไม่มีข้อแย้งได้เลย ขออนุโมทนาครับ
     
  4. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    ขอบคุณสำหรับลูกยอผลโต ผมนำความรู้จากครูบาอาจารย์และจากประสบการณ์ที่ตนเองประสบมา มาบอกเล่าให้ทราบเท่านั้นครับ

    เมื่อประมาณ 4-5 ปี ก่อนนั้น ผมตั้งความปรารถนาจะมุ่งสู่พระนิพพานตามรอยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง เนื่องจากไม่เคยทราบความปรารถนาที่เคยตั้งไว้ในกาลก่อน กระทู้ในยุคแรกๆ ของผมจึงระบุไว้ว่าเพื่อพระนิพพานและขอโมทนาบุญกับผู้ปรารถนาพระโพธิญาณทุกท่าน

    ต่อมาได้ทราบว่า ตนเคยตั้งความปรารถนาไว้อย่างไร และบำเพ็ญมามากน้อยเพียงใด จึงได้กลับมาสู่แนวทางแห่งการปฏิบัติเพื่อพระโพธิญาณต่อไป



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010
  5. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    สาธุๆ ดังๆอีกทีครับ ขอให้เจริญธรรมในแนวทางของตนนะครับ

    ผมชอบใจท่านขึ้นอีก1กิโลเลย เหอๆ ขอให้ท่านนำเอาธรรมเฉพาะตนแบบนี้ ยกประกาศให้เป็นธรรมทานบ่อยนะครับ

    ยุคหลังกึ่งพุทธกาลต้องอาศัยผู้มีธาตุธรรมอย่างท่านอยู่นะครับ

    ออ.รักษาลีลาเฉพาะแบบของท่านนี้ ให้ได้เป็นหลักเลยนะครับ (ทิ้งลีลาของเดิมจากของ ล.พี่เล็กไว้ข้างหลังบ้างก็ดี มันมีมากไป เหอๆ)

    น่ายกมือขึ้นพนมให้สูงท่วมหัว (อันเป็นของยกขึ้นได้ยากของผม)สัก3ที เพื่อสรรเสริญความเป็นธรรมของท่านจริงๆ กล่าวชมมากไปป่าวหนอ...
     
  6. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิตทุกท่านครับ

    -พระโพธิสัตว์ หมายถึง ผู้มีความปรารถนาสูง เพื่อสำเร็จเป็นพระพุทธเจ้า

    แต่ก็สามารถลาพุทธภูมิ เพื่อ เป็นสาวกภูมิได้ เมื่อลาแล้วก็จะสำเร็จเป็นพระอริยะ

    ได้ทุกระดับครับ

    -ผู้ปรารถนาเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ก็ทำนองเดียวกันครับ

    สาธุ

     
  7. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    โมทนาครับ


    สังโยชน์ ๑๐

    1. สักกายทิฏฐิ - หมดความเห็นว่าร่างกายนี้เป็นของเรา หมดความยึดมั่นถือมั่นในระดับหนึ่ง
    2. วิจิกิจฉา - หมดความสงสัยในคุณของพระรัตนตรัย คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    3. สีลัพพตปรามาส - ความถือมั่นศีลพรต โดยสักว่าทำตามๆ กันไปอย่างงมงาย เห็นว่าจะบริสุทธิ์หลุดพ้นได้เพียงด้วยศีลและวัตร หรือนำศีลและพรตไปใช้เพื่อเหตุผลอื่น ไม่ใช่เพื่อเป็นปัจจัยแก่การสิ้นกิเลส เช่นการถือศีลเพื่อเอาไว้ข่มไว้ด่าคนอื่น การถือศีลเพราะอยากได้ลาภสักการะเป็นต้น ซึ่งรวมถึงการหมดความเชื่อถือในพิธีกรรมที่งมงายด้วย
    4. กามราคะ - หมดความติดใจในกามคุณ
    5. ปฏิฆะ - ไม่มีความกระทบกระทั่งในใจ

    6. รูปราคะ - ไม่มีความติดใจในวัตถุหรือรูปฌาน
    7. อรูปราคะ - ไม่มีความติดใจในอรูปฌานหรือความพอใจในนามธรรมทั้งหลาย
    8. มานะ - หมดความยึดมั่นถือมั่น
    9. อุทธัจจะ - ไม่มีความฟุ้งซ่าน
    10. อวิชชา - ไม่มีความไม่รู้จริง
    พระโสดาบัน ละสังโยชน์ 3 ข้อต้นได้
    พระสกทาคามี ทำสังโยชน์ข้อ 4 และ 5 ให้เบาบางลงด้วย
    พระอนาคามี ละสังโยชน์ 5 ข้อต้นได้หมด
    พระอรหันต์ ละสังโยชน์ทั้ง 10 ข้อ


    อิอิ ไปแอบ COPY มาอีกแล้ว ไม่ว่ากันนะครับ ท่านพี่อิอิ


    <!-- google_ad_section_end -->
     
  8. J47

    J47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2010
    โพสต์:
    500
    ค่าพลัง:
    +3,405
    ถูกต้องแล้ว กร๊าฟฟฟฟฟฟ โมทนาครับ


    โมทนา(กับตัวสีม่วง)ด้วยครับ
    ขอให้ท่านพี่สำเร็จไวๆๆๆๆๆๆ++++ นะครับ
    สำเร็จแล้วมาโปรดผมด้วย
    (ตอนนั้น)ผมจะเอาสิ่งที่สูงที่สุดในตัวของผมคือ ศีรษะ(ตัดแล้วบูชา)บูชาพระธรรม และบูชาพระรูปโฉมอันงดงามของท่าน
    สาธุๆๆๆๆๆๆๆ
     
  9. แสงส่องทาง

    แสงส่องทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2010
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +223
    เป็นไม่ได้ เว้นไว้แต่ลาพุทธภูมิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...