สึนามิที่ชวา-คำเตือนมหาวินาศภัยใกล้เยือน

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 19 กรกฎาคม 2006.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    'สึนามิ'ที่ชวา-คำเตือน'มหาวินาศภัย'ใกล้เยือน

    [​IMG]





    ย้อนหลังไปเมื่อ 1 มกราคมที่ผ่านมา "มติชน" เคยนำเสนอรายงานเรื่องคำเตือนของนักวิชาการด้านธรณีวิทยาแผ่นดินไหวชื่อดังชาวอเมริกันอย่าง เคอร์รี่ เซียห์ ไว้ว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่ก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 พื้นผิวเปลือกโลกใต้ทะเลบริเวณใกล้เคียงกันนี้เปลี่ยนสภาพไปอย่างมาก แต่แทนที่สภาพที่เปลี่ยนแปลงไปดังกล่าวจะทำให้พื้นผิวใต้ทะเลมีเสถียรภาพมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวกับก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่องไปยังบริเวณใกล้เคียง
    [​IMG]
    ผลลัพธ์จากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ดังกล่าวในความเห็นของนักธรณีวิทยาชาวอเมริกันผู้นี้นั้น น่าจะทำให้โอกาสเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เกิดขึ้นในแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกด้านใต้ลงมาจากจุดที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ระดับความรุนแรง 9.3 ริกเตอร์ดังกล่าวมีมากขึ้นกว่าเดิม เร็วขึ้นกว่าเดิม และที่สำคัญก็คือ ระดับความรุนแรงและผลกระทบแทบจะอยู่ในระดับเดียวกันหรือร้ายแรงกว่าเหตุการณ์เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม ที่อยู่ในความทรงจำของโลกทั้งโลกมาจนถึงขณะนี้

    ผ่านมา 6 เดือนเศษ ข้อมูลของสำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา (ยูเอสจีเอ) ระบุว่า เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ระดับ 7.0 ริกเตอร์ขึ้นไปในพื้นที่ที่เรียกกันว่า "ริง ออฟ ไฟร์-วงแหวนไฟ" ที่พาดผ่านริมขอบมหาสมุทรแปซิฟิกทั้ง 2 ด้านและรวมถึงอาณาเขตพื้นที่ของประเทศอินโดนีเซียด้วยนั้น มากจนผิดสังเกต

    กล่าวคือโดยเฉลี่ยแล้วในช่วง 1 ปี จะเกิดแผ่นดินไหวดังกล่าวราว 19.4 ครั้งต่อปี แต่ในปี 2549 นี้เพียงครึ่งปีแรก มันเกิดขึ้นมาแล้วมากกว่า 30 ครั้ง

    ที่น่าสนใจก็คือ เหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งหลังสุดซึ่งเกิดขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานั้น เป็นเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในอินโดนีเซีย ครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2549 จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้กับเมืองยอร์กยาการ์ตา บนเกาะชวา ระดับความรุนแรงเดิมวัดได้ 6.3 แต่ยูเอสจีเอปรับความรุนแรงใหม่ในเวลาต่อมาเป็น 7.1 ริกเตอร์ มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวกว่า 5,800 คน

    ครั้งล่าสุด คือเหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นนอกชายฝั่งเกาะชวาเมื่อประมาณ 15.15 น. วันที่ 17 กรกฎาคม 2549 วัดระดับความรุนแรงได้ถึง 7.7 ริกเตอร์ จนถึงขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแน่นอนแล้วมากกว่า 300 คน



    ประเด็นสำคัญก็คือ เหตุแผ่นดินไหวทั้ง 2 ครั้งเกิดขึ้นบนแนวรอยเลื่อน "ซุนดา เทรนช์" ตามที่เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายไว้ไม่ผิดเพี้ยน

    แผ่นดินไหวครั้งหลังสุดที่ทำให้เกิดสึนามิขึ้นมานั้น เกิดห่างจากจุดที่เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายไว้ว่าจะเกิดเพียง 600-700 กิโลเมตรเท่านั้น!

    ความเคลื่อนไหวของเปลือกโลกในขณะนี้ ดูเหมือนกำลังตอกย้ำคำทำนายของนักธรณีวิทยาชาวอเมริกันผู้นี้ให้เป็นความจริงขึ้นมา

    ดังนั้น จึงควรค่าอย่างยิ่งที่จะย้อนกลับไปตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดอีกครั้งว่า เคอร์รี่ เซียห์ ทำนายเอาไว้ว่าอย่างไร? และใช้ข้อมูลอะไร วิธีการใด มาใช้ในการทำนายทายทักดังกล่าว



    **อะไรเกิดขึ้นในคืน"มหาสึนามิ"

    หลังเกิดเหตุสึนามิไม่นาน เรือเพื่อการวิจัยสัญชาติเยอรมนีชื่อ "ซอนเน่" กับเรือลักษณะเดียวกันชื่อ "เพอร์ฟอร์เมอร์" ของสหรัฐอเมริกา ยกเลิกภารกิจที่ทำอยู่ทั้งหมดของตัวเองทันทีเพื่อมุ่งหน้าลงมายังพื้นที่เป้าหมายในมหาสมุทรอินเดีย

    เรือทั้งสองลำเต็มไปด้วยวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นในการสำรวจทางธรณีวิทยาและสมุทรศาสตร์ ปกติแล้วการตอบรับภารกิจใดๆ จะต้องผ่านการ "จองล่วงหน้า" นานเป็นปีๆ แต่ความน่าสะพรึงกลัวของสึนามิในวันบ๊อกซิ่งเดย์ ทำให้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวหมดความสำคัญลงไปทันที

    นานหลายเดือนที่เรือทั้งสองลำพร้อมนักวิจัยอีกเป็นจำนวนมากตระเวนซิกแซ็กข้ามไปมาจนครอบคลุมทั่วพื้นที่บริเวณท้องทะเลนอกชายฝั่งด้านตะวันตกของเกาะสุมาตรา ตรวจสอบพื้นผิวใต้ทะเลลึก มองหารายละเอียดทุกอย่างที่จะนำมาใช้ประโยชน์ได้

    ภายใต้ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด บรรดานักวิทยาศาสตร์ นักธรณีวิทยา และนักวิจัยได้รายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพื้นใต้ทะเลเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ถี่ยิบแบบนาทีต่อนาที

    พวกเขาพบว่าตลอดคืนคริสต์มาสของปี 2547 แรงดันมหาศาลผลักให้แผ่นเปลือกโลกที่เป็นหินหนาหลายสิบกิโลเมตรที่เรียกว่า "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" เคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตกอย่างบ้าคลั่ง มันไปปะทะกับแผ่นเปลือกโลกหนาหนักอีกแผ่นที่เรียกว่า "ซุนดา เพลต" ซึ่งด้านบนของมันคือสุมาตราและภาคพื้นทวีปเอเชีย ก่อให้เกิดการเบียดอัด เสียดสี กระแทกกระทั้นกันขึ้นตลอดเวลา

    01.58 น. ตามเวลายุโรปกลาง (08.58 น. ตามเวลาไทย) ของวันที่ 26 ธันวาคม 2547 แผ่นเปลือกโลกเก่า "ซุนดา เพลต" บางส่วนไม่อาจทานแรงเสียดทานได้อีกต่อไป ริมขอบด้านหนึ่งแตกหักออก ส่วนที่เหลือถูกแรงดันของ "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" ดันกระแทกในลักษณะมุดลงจนโยนตัวขึ้นเบื้องสูง

    นั่นเป็นที่มาของแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 9.3 ริกเตอร์ที่รุนแรงที่สุดในรอบ 40 ปี และรุนแรงเป็นอันดับ 3 เท่าที่เคยมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เป็นต้นมา

    แนวตะเข็บของผิวพื้นใต้ทะเลนอกชายฝั่งสุมาตราที่เรียกว่า "ซุนดา เทรนช์" ปริแยกออกจากกันเริ่มตั้งแต่บริเวณที่ตรงกับจุดเหนือสุดของเกาะสุมาตรา รอยแตกดังกล่าวลึกถึง 160 กิโลเมตร มันปริแยกออกจากกันไล่ขึ้นไปทางเหนือด้วยระดับความเร็วสูงถึง 2.5 กิโลเมตรต่อวินาที เมื่อตอนที่มันหยุดการปริออกจากกันนั้น กินระยะทางทั้งหมด 1,300 กิโลเมตรพอดี พื้นมหาสมุทรด้านตะวันออกของแนวดังกล่าวถูกผลักพรวดสูงขึ้นถึง 15 เมตรโดยฉับพลันเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวอย่างเฉียบพลันและรุนแรงของมวลน้ำทะเลมหาศาลที่กลายเป็นสึนามิมหาภัยในอีกไม่กี่นาทีต่อมา

    แผ่นดินไหวครั้งนี้เขย่าโลกทั้งโลก เหมือนกับเราสะบัดผ้าขี้ริ้วพลิ้วเป็นระลอกด้านหนึ่งไปจรดปลายอีกด้านหนึ่ง ศรีลังกาทั้งเกาะขยับพรวดสูงขึ้นหลังจากนั้นก็ตกฮวบลงต่ำกว่าระดับเดิม 9 เซนติเมตร เกาะจำนวนหนึ่งเคลื่อนที่ไปจากจุดเดิมหลายสิบเซนติเมตร อนุทวีปอินเดียทั้งหมดเคลื่อนไปทางตะวันออกเป็นระยะทาง 2 เซนติเมตรเต็มๆ

    หลายสัปดาห์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว เปลือกโลกทั้งโลกยังสั่นไหว...

    และทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่เคอร์รี่ เซียห์ นำมาใช้ประกอบการพิจารณาก่อนที่จะคาดการณ์ไว้ว่า มหาวินาศภัยรอบใหม่กำลังมาเยือนในอีกไม่นาน



    **ประสบการณ์สำรวจ 12 ปี

    เมื่อถูกถามว่าอะไรทำให้เขาแน่ใจถึงกับประกาศว่าจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่มหึมาและคลื่นมหาวินาศขึ้นอีกครั้งในบริเวณนี้ เคอร์รี่ เซียห์ ใช้การค้นคว้าวิจัยและการสำรวจนานกว่าทศวรรษของเขาในพื้นที่ละแวกนี้เป็นคำตอบ

    เซียห์บอกว่า เขากับทีมงานสำรวจพื้นที่นอกชายฝั่งสุมาตรามานานกว่า 12 ปีแล้ว ข้อมูลที่ได้มานั้นทำให้สามารถเรียนรู้ถึงความเคลื่อนไหวทางธรณีวิทยาของพื้นที่แถบนี้ได้ย้อนหลังกลับไปถึง 1,000 ปี คิดเป็นวัฏจักรของการเกิดแผ่นดินไหวและภาวะสงบเพื่อสะสมพลังได้ 3 รอบพอดี

    นั่นถือเป็นข้อมูลที่สมบูรณ์แบบมากที่สุดเท่าที่เคยมีการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกทุกแนวเท่าที่เคยมีมาทั้งหมด

    เซียห์กับทีมงานใช้ข้อมูลจากการสำรวจ 3 อย่างประกอบกันเข้าเป็นองค์ความรู้ดังกล่าว ประการแรก เขาศึกษาข้อมูลและหลักฐานในเชิงประวัติศาสตร์ทั้งหมดเท่าที่มีอยู่เกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในย่านนี้ ประการถัดมา เขาติดตั้งอุปกรณ์กำหนดตำแหน่งผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) บนเกาะใหญ่น้อยต่างๆ ตามแนวปะทะของแผ่นเปลือกโลกใต้สมุทร จีพีเอสบนเกาะเหล่านี้สามารถวัดการเคลื่อนของเกาะเหล่านั้นได้ละเอียดยิบขนาดเป็นมิลลิเมตร บ่งบอกถึงการเคลื่อนไหวและทิศทางของแผ่นเปลือกโลกที่อยู่ใต้มันได้เป็นอย่างดี

    ประการที่ 3 ที่ถือเป็นประการสำคัญที่สุด พวกเขาใช้วิธีอ่านเหตุการณ์ในอดีตผ่านการตัดขวางแนวปะการังนอกชายฝั่งของเกาะต่างๆ ที่อยู่ตามแนวปะทะ หรือแนวรอยเลื่อนของเปลือกโลกบริเวณนี้ เพราะมันเป็นที่เก็บหลักฐานของสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไว้เหมือนกับ "วงปี" ของต้นไม้ใหญ่

    แนวปะการังของเกาะต่างๆ ดังกล่าวนั้นจะถูกแรงผลักที่เคลื่อนไปในทางตะวันออกของแผ่นเปลือกโลกอินโด-ออสเตรเลียน เพลต ทำให้มันมุดต่ำลงราว 5 เซนติเมตรต่อปีทุกๆ ปี จะมีก็แต่ในปีที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเท่านั้นที่แผ่นเปลือกโลกจะถูกดันให้สูงขึ้นระหว่าง 5-10 เมตร ผลักแนวปะการังให้พ้นน้ำทะเลและแห้งตาย ก่อนที่จะถูกดึงให้ค่อยๆ ลดต่ำลงสู่ใต้น้ำอีกครั้ง ร่องรอยการตายของปะการังในเหตุการณ์ดังกล่าวคือหลักฐานสำคัญที่เซียห์และทีมงานค้นพบ

    เคอร์รี่ เซียห์ ระบุว่า รอยแยกของเปลือกโลกที่เกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อ 26 ธันวาคม 2547 และ 28 มีนาคม 2548 นั้นฉีกแผ่นเปลือกโลกออกจากกันเหมือนเราฉีกไม้ไผ่ออกจากกันเป็น 2 ซีก หรือเหมือนกับการรูดซิปให้แยกออกจากกัน ปัญหาก็คือ แรงที่ทำให้เกิดรอยแยกดังกล่าวนั้นยังไม่ได้หมดไป และ รอยแยกที่เกิดขึ้นเป็นระยะทาง 1,300 กิโลเมตรนั้นเป็นเพียงแค่ 1 ใน 4 ของแนวปะทะระหว่างแผ่นเปลือกโลกทั้ง 2 แผ่นเท่านั้น

    สิ่งที่เซียห์พยายามจะบอกก็คือ แนวปะทะของเปลือกโลก 2 แผ่นที่ว่านั้นกำลังเสียดสีกันและสั่งสมพลังใกล้จะถึงจุดแตกหักแล้ว ในขณะเดียวกัน แรงผลักที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งดังกล่าวยิ่งเพิ่มแรงดันให้กับแผ่นเปลือกโลกให้มากยิ่งขึ้นไปอีก

    เขาเปรียบเทียบให้เห็นรูปธรรมไว้ชัดเจนอย่างยิ่งว่า แผ่นดินไหวใหญ่เมื่อ 26 ธันวาคม และ 28 มีนาคม นั้นผลักให้ "อินโด-ออสเตรเลียน เพลต" เคลื่อนเข้าหา "ซุนดา เพลต" ด้วยระยะทางเทียบเท่ากับการเคลื่อนที่เป็นเวลา 50 ปี

    หรือพูดง่ายๆ อีกอย่างว่า ระยะเวลาที่สมควรเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขึ้นอีกครั้งถูกผลักให้เกิดเร็วขึ้นอีก 50 ปี เพราะการเคลื่อนที่ของเปลือกโลก 2 ครั้งดังกล่าวนั้น!

    จากการตรวจสอบ "วงปี" ของปะการังในแถบด้านใต้ของ "นีอาส เควก" ลงมา เซียห์พบว่า บริเวณนั้นไม่เคยเกิดแผ่นไหวใหญ่ๆ อีกเลยนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1833 เป็นต้นมา เขายังพบด้วยว่าค่าเฉลี่ยของการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวตกประมาณ 220 ปีต่อครั้ง

    นั่นหมายความว่า ครั้งต่อไปจะเกิดใกล้เคียงกับปี 2053 หรือปี พ.ศ.2596 แต่ถ้าหากนำเอาแรงผลักจากเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งมาคำนวณร่วมด้วย แผ่นดินไหวใหญ่ครั้งใหม่น่าจะเกิดขึ้นใกล้เคียงกับปี 2003 หรือปี 2546 ที่ผ่านมา

    แต่ในเมื่อผ่านช่วงเวลาดังกล่าวมาแล้ว ยังไม่เกิดเหตุแผ่นดินใหญ่ระดับมหาธรณีวินาศภัยดังกล่าวขึ้นตามแนวรอยเลื่อนดังกล่าว

    นั่นทำให้ เคอร์รี่ เซียห์ สรุปใจความของผลการสำรวจของเขาไว้ว่า แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในบริเวณด้านใต้ของเกาะนีอาส น่าจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ มากกว่าในอีกหลายสิบปีข้างหน้า!

    เขาเชื่อว่า จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวหนใหม่นี้จะอยู่ค่อนไปทางตอนกลางของเกาะสุมาตรา บริเวณตรงกับเมืองปาดัง เมืองใหญ่ที่สุดของเกาะแห่งนี้

    ระดับความรุนแรงของมันจะใกล้เคียงหรือมากกว่าระดับความรุนแรงของแผ่นดินไหว เมื่อ 26 ธันวาคม 2547...

    และจะก่อให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ ขึ้นอย่างแน่นอน



    **ระบบเตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย

    ข้อมูลของเคอร์รี่ เซียห์ สอดคล้องกับผลการตรวจสอบพื้นที่เดียวกันของทีมนักวิทยาศาสตร์อีกหลายทีม อย่างน้อยที่สุด นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและทีมสำรวจจากเยอรมนีก็พบข้อเท็จจริงในทำนองเดียวกัน

    ทีมสำรวจวิจัยของสถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเลไลป์นิซ แห่งมหาวิทยาลัยคีล ของเยอรมนี ใช้เครื่องโซนาร์กวาดไปทั่วพื้นที่บริเวณดังกล่าวใต้ท้องทะเลลึกกว่า 5,000 เมตร แล้วนำข้อมูลที่ได้มาจำลองเป็นภาพขึ้น

    ภาพที่ได้บ่งบอกอย่างเดียวกัน แผ่นอินโด-ออสเตรเลียน เพลต ชนแล้วมุดลงไปใต้แผ่นซุนดา เพลต สั่งสมพลังจากการผลักและดันไว้มหาศาล

    นักวิจัยของมหาวิทยาลัยคีลตรวจสอบร่องรอยทั้งหมดและบอกไว้เมื่อเร็วๆ นี้เช่นกันว่า ไม่มีร่องรอยการเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ๆ ใดๆ เลยทางรอยเลื่อนของเปลือกโลกด้านใต้ของเกาะนีอาส มันหมายความได้อีกอย่างว่า...มหาภัยจากใต้มหาสมุทรระลอกใหม่ จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อในเร็วๆ นี้! เราเตรียมพร้อมเผชิญกับการอาละวาดของธรรมชาติระลอกใหม่แล้วหรือยัง?

    ถ้าไปถามคำถามนี้กับโคอิชิโร มัตสึอูระ ผู้อำนวยการสำนักงานองค์การเพื่อวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก คำตอบที่ได้ก็คือ งานเพื่อสร้างระบบการเตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรอินเดียรุดหน้าไปมาก แต่ยังไม่แล้วเสร็จ

    ตอนนี้มีการจัดตั้งสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหวใหม่ขึ้น 25 สถานี ส่งข้อมูลตามเวลาจริงให้กับศูนย์เตือนภัยสึนามิของประเทศต่างๆ 26 ประเทศ มีเซ็นเซอร์ติดตั้งแล้วเสร็จในพื้นทะเลลึกเพื่อตรวจจับและรายงานความเคลื่อนไหวของคลื่นยักษ์แล้ว 3 จุด

    แต่เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า ทั้งหมดนั่นยังไม่เพียงพอต่อการแจ้งเตือนหายนภัยดังกล่าวล่วงหน้า

    ยังคงมีภารกิจอีกมากมายนักจำเป็นต้องดำเนินการ


    [​IMG]








    ที่มา : [​IMG]





    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กรกฎาคม 2006
  2. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    ต้องขอบคุณในความพยายามของคุณ เคอร์รี่ เซียห์ (และหนูตาด้วยที่หาข่าว) การพยายามเฝ้าติดตามเหตุแผ่นดินไหว จนได้วิธีคาดหมายตำแหน่งที่จะเกิดขึ้นได้ใกล้เคียงขึ้นกว่าเดิม...
    อนาคตของแผ่นดินไหว ดูจะรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า..ตอนนี้ ใต้ฝ่าเท้าเราคงมีการเลื่อยแผ่นดินกันอยู่ไม่หยุดหย่อน ขณะที่บางคนไม่ได้เอะใจแม้แต่น้อย!...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2006
  3. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    เพิ่งมาใส่รูป..จ๊ะ..เพราะช่วงเอาข่าวมาอั๊พเนตเดี้ยง..
     
  4. landends

    landends เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2006
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +477
    อืม ...ครับ
     
  5. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,093
    ค่าพลัง:
    +62,396
    หายไวๆนะครับ..(อย่าป่วยนานๆเดี๋ยวผมตกข่าว อิ..อิ..)
     
  6. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    อย่างพี่ mead อ่ะน๊ะจะตกข่าว..เป็นไปไม่ด๊ายยย..![​IMG]
     
  7. ชัยมงคลรัศมี

    ชัยมงคลรัศมี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +174
    อืม......
    ที่ว่าเกาะอินโด จะจม......จะเป็นจริงหรือนี่....
    ....แล้วจะจมจริงๆ เมื่อไหร่
    (b-oneeye) (b-oneeye) (b-oneeye)
     
  8. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
    อนุโมทนา ครับ
    แจกไฟล์ - รวมภาพพระพุทธรูป ที่สำคัญของประเทศไทย - รวมรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก และพระอริยสงฆ์ - รวมรูปภาพ พระอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ที่เคารพ ศรัทธา
    http://thaihotbiz.com/dmc/budha-picture-book.zip

    พระนิพพาน จากคำครูอาจารย์
    http://www.geocities.com/pranipan/

    VDO ของสัตว์ต่างๆ ที่จะต้องถูกนำมาเป็นอาหารให้เราได้กิน เรื่องจริงที่หลายคนไม่เคยเห็น ว่าน่าสงสารแค่ไหน อานิสงส์ ๑๐ ประการ ของการไม่กินเนื้อสัตว์ ( อันนี้ผมผิมตามหน้าปก CD นะครับ )
    1. เป็นที่รักของบรรดาเทพพรม ตลอด จนมนุษและสัตว์ทั้งหลาย
    2. จิตอันเป็นมหาเมตตาย่อมบังเกิดขึ้น
    3. สามารถตัดขาดความอาฆาต ดับอารมณ์ เหี้ยมโหดเคียดแค้นในใจลงได้
    4. ปราสจากโรคภัยร้ายแรงมาเบียดเบียนร่างกาย
    5. มีอายุมั่นขวัญยืน
    6. ได้รับการปกป้องคุ้มครองจากวัชรเทพทั้งแปด
    7. ยามหลับนิมิครเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม เป็นศิริมงคล
    8. ย่อมระงับการจองเวร สลายความอาฆาตแค้นซึ้งกันและกัน
    9. สามารถดำรงอยู่ในกระแสแห่งนิพาน ไม่พลัดหลงตกลงสู่อบายภูมิ
    10. ทันทีที่ละสังขารจากโลกนี้ จิตญาณจะมุ่งสู่คติภพ

    http://thaihotbiz.com/dmc/ก่อนที่จะมาเป็นอาหารให้เราได้กิน2.zip

    ดาวธรรม ถ่ายทอดสด รายการธรรมะ 24 ชม. ทั่วโลกและเสนอ Case Stady กฏแห่งกรรม

    http://www.dmc.tv/multimedia.php?mediaURL=http://203.146.251.191/vcont100k_2


    วัดถ้ำเขาวง อ. บ้านไร่ จ. อุทัยธานี
    ขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง สวยงามมาก และ ได้ทำบุญด้วย คือ ที่วัดถ้าเขาวง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี พวกเราศิษย์เก่า มช. ไปเมื่อ 23-24/10/47 ที่ผ่านมา สวยงามมาก และยังเป็นสถานที่ปฎิบัติธรรมด้วยน่ะ ขับรถสะดวกมาก อาหารการกิน ก็เยอะ รับรองใครที่ชอบโพสต์ ถ่ายรูป เก็บภาพประทับใจ ตากล้องต้องบ่นว่าเมื่อยแล้วล่ะ เพราะว่าทุกมุมสวยไปหมด เผอิญพวกเรากลับมาเมื่อวันอาทิตย์ รูปยังไม่เรียบร้อย ค่อยขึ้นเน็ตให้ดูน่ะ ว่าสวยงามขนาดไหน (วิวหรือ สถานที่น่ะ) ไม่เสียค่าเข้าชม มีการถวายสังฆทานด้วยน่ะ มีให้อาหารปลา มีสระน้ำ และขากลับเดอนทางผ่านทางสุพรรณบุรี ยังแวะเที่ยวบึงฉวาก และอ่างเก้บน้ำกระเสียว วัดป่าเลไลย์ และ อนุสรณ์ดอนเจดีย์ให้อีกด้วย ได้ทั้งความรู้ ทำบุญสนุกสนาน ถ่ายรูปเต็มที่ และ คุ้มค่ากับการท่องเที่ยวอีกด้วยน่ะ ดูรูปภาพที่นี่ครับ

    http://thaihotbiz.com/dmc/tumkawwong.zip

    สำคัญคือ ที่นี่มีถ้ำ สงบเงียบ เตรียมไว้ให้นั่งสมาธิ วิปัชชนา โดยสามารถไปนอนค้างคืนได้ เช่นไปเย็นวันศุกธ์กลับเย็นวันอาทิตย์เป็นต้น เพราะเราจะได้เข้าสู่ธรรมชาติ ไกลความวุ่นวายในเมือง สงบสุขกับธรรมชาติที่แท้จริง

    แถมท้าย แจกไฟล์
    - รวมภาพพระพุทธรูป ที่สำคัญของประเทศไทย
    - รวมรูปภาพพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้า พระอัครสาวก และพระอริยสงฆ์
    - รวมรูปภาพ พระอริยะสงฆ์ ครูบาอาจารย์ ที่เคารพ ศรัทธา

    http://thaihotbiz.com/dmc/budha-picture-book.zip


    อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดาบิดาของข้าพเจ้ามีความสุข
    อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข
    อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุสุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้าขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข
    อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุสุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวงขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุสัพเพ เปตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวงขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
    อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุสัพเพเวรี
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข
    อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตาโหนตุ สัพเพ สัตตา
    ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ
     
  9. หนูมาลี

    หนูมาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2005
    โพสต์:
    607
    ค่าพลัง:
    +1,148
    กรุงเทพจะถูกทำลายเพราะน้ำท่วม
    เราคิดว่า จะ อพยพ ย้ายไปอยู่ทางอีสานไม่ก็ทางเหนือ อยู่เหมือนกัน
    เพราะเท่าที่ทราบ คราวนี้คงจะท่วมจริงๆแน่ หลัง สิงหา 2549 อะไรจะเกิดมันก็เกิดขึ้นได้ ในหลวงเคย ทรงตรัสไว้ว่า
    น้ำท่วมมี 3 สาเหตุ
    1. น้ำจากฟ้า - (ฝนตกหนัก)
    2.น้ำจากทะเล -(ระดับน้ำทะเล ท่วมสูง)
    3.น้ำจากบนพื้นโลก-( น้ำไหลบ่าเอ่อท่วม - เขื่อนแตก - กระแสน้ำเปลื่ยนทิศทาง)กรุงเทพ อาจจะ น้ำท่วม เพราะ 3 สาเหตุรวมๆกันก็ได้

    เพราะ น้ำฝน ที่ตกใน กทม รุนแรงมาก ทำให้ มีน้ำขัง ในหลายพื้นที่ ในกทม และ แถบภาคกลาง ถ้าให้เราพยากรณ์นะ

    ทางเหนือ จะเกิด -------- กระแสน้ำเปลื่ยนทิศ เพราะใช่ว่าอยู่ ที่สูงๆแล้วจะ ปลอดภัย ถ้าน้ำมันไหลแรงมากๆ ก็เป็นไปได้ ที่เมือง ทั้งเมือง จะถูกกระแส น้ำไหล บ่าลงมา ทับ จน แหลกไปในคืนเดียว

    ทางใต้ กับ แถบ ติดทะเล ------- จะน้ำท่วม เพราะกระแส น้ำทะเล ท่วมสูงมาก บวกกับฝนตกหนัก

    ทางภาคกลาง จะได้ รับความเดือดร้อน จาก น้ำจากฟ้า และ แม่น้ำเจ้าพระยา
    มีระดับ ความสูงอย่างรวดเร็ว

    อีสาน ก็จะ ได้รับ ภัยจากฝนที่ตกหนักมากเกินไป

    ในยุคสงคราม เงินไม่มีความหมาย
    ในยุค ที่โลกจะเกิด กลียุค ก็เช่นกัน เงินไม่มีความหมายหรอกคะ

    เราควรหาที่ ปลอดภัย ไปอยู่อาศัยได้แล้ว
    ไม่ก็เตรียม น้ำสะอาด อาหารแห้ง ยารักษาโรค ไฟฉาย ไว้เผื่อฉุกเฉินก็ดี
     
  10. เซียนสมัครเล่น

    เซียนสมัครเล่น Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +79
    น้ำท่วมvsสึนาเมะ

    แล้วราชบุรี บ้านผมจะอยู่ได้ไม๊เนี่ย(sing) (b-evil2) [b-wai] (b-wow) เครียด ! กลัวตาย ! กินเหล้า......
     
  11. jdean

    jdean เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +147
    ผมอยู่เหนือจะเป็นอะไรรึปล่าวนี่
     
  12. wasawat

    wasawat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +33
    กลัวอะไรกับความตายล่ะคับเนี่ย หึๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...