นิพพานมีลักษณะอย่างไร/บ้านเรือนเป็นอย่างไรครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย varakorn, 21 กรกฎาคม 2006.

  1. varakorn

    varakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +435
    ช่วยตอบด้วยนะครับ
     
  2. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    สถานการณ์ปัจจุบัน มีการตีความพระนิพพานไปมากหลากหลายแบบ สำหรับที่ผมรู้ มี 2 ข้อ

    1. นิพพานสูญ ไม่มีตัวตน ไม่มีตัวตน ไม่มีรูปร่าง เป็นสภาวะ "สูญ"
    2. นิพพานมีสภาวะรองรับ เป็นสถานที่ ที่ซึ่งพิเศษ เป็นชั้นแบบสวรรค์ แต่ว่า มันพิเศษกว่าสวรรค์คือ "ไม่มีสภาวะเคลื่อน" และคนที่จะอยู่ได้อย่างถาวรก็คือ "คนที่เป็นพระอรหันต์"

    ในกรณีที่คุณ เจ้าฟ้าจินดา ถามมานี้ อยู่ใน ข่าย ของข้อที่ 2
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    คู่มือปฏิบัติพระกรรมฐาน (โดยหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)----> หน้า 56

    การเห็นมีหลายชั้น
    ท่านว่าสิ่งที่จะเห็นมีหลายชั้นแต่ต้องปรับปรุงตัวให้เหมาะสม พอที่จะเห็นได้ มนุษย์ธรรมดา
    มีตาไว้สำหรับดูธาตุที่เป็นรูป และเป็นของใหญ่ ธาตุที่เล็กกว่าเล็นไรมนุษย์ก็มองไม่เห็น ตามนุษย์
    นี้เป็นตาที่ดูของหยาบมาก สู้ตาสัตว์เดียรัจฉาน เช่น ตาแมว ตาสุนัขไม่ได้ พอมืด มนุษย์แม้ของ
    ใหญ่ก็มองไม่เห็น ส่วนสัตว์เดียรัจฉานในป่ากลางคืนเดินหากินสบาย ไม่ต้องใช้คบเพลิง หรือ
    ตะเกียงส่องทาง เห็นหรือยังว่า ตามนุษย์เลวกว่าตาสัตว์เดียรัจฉาน? ท่านถาม ตอบท่าน
    ว่า เห็นแล้วขอรับ ท่านเล่าต่อไป มนุษย์นี้ไม่สามารถเห็นพวกยักษ์ผี ที่เรียกว่าอสุรกาย เปรต
    และ สัตว์นรกได้ ถ้าพวกนั้นเขาไม่ให้เห็น ความจริงพวกที่กล่าวถึงนี้มีกายหยาบมาก เห็นง่าย
    เสียงดังฟังชัด พวกที่กล่าวแล้วนั้นก็ไม่สามารถเห็นเทวดาที่มีบุญญาธิการมากกว่าได้ ถ้าเขา
    ไม่ต้องการให้เห็น เทวดาก็ไม่สามารถเห็นพรหมได้ถ้าเขาไม่ต้องการให้เห็น พรหมก็ไม่สามารถ
    เห็นพระอริยะที่เข้านิพพานได้ ถ้าท่านไม่ต้องการให้เห็น ความเห็นนั้นมีคุณพิเศษละเอียดต่างกัน
    ด้วยบุญญาธิการอย่างนี้

    มนุษย์ต้องการเห็น
    ถ้ามนุษย์ต้องการเห็นพวกผี เปรต เทวดา ท่านให้เจริญกสิณกองใดก็ได้ แล้วฝึกทิพย-
    จักษุญาณมีระดับฌาน เพียงอุปจารฌาน หรือฌาน ๑ - ๒ เท่านี้ ก็พอเห็นผีเทวดาได้แต่ไม่
    ชัดนัก แต่จะเห็นพรหมไม่ได้
    ถ้าจะให้เห็นพรหม ต้องได้ฌาน ๔ ชำนาญ ทิพยจักษุญาณจะแจ่มใสขึ้นสามารถเห็น
    พรหมได้ แต่จะเห็นพระนิพพานไม่ได้
    ถ้าอยากจะเห็นพระนิพพาน ต้องเจริญวิปัสสนาญาณ ให้ได้บรรลุพระโสดาบัน
    เป็นอย่างต่ำ
    อาศัยญาณที่ได้ไว้ในสมัยโลกียฌาน พอได้มรรคผลเป็นพระอริยะ ฌานนี้ก็กลาย
    เป็นโลกุตตรฌาน และอาศัยผลที่เป็นพระอริยะ ท่านเรียกญาณที่ได้ว่า
    " วิมุตติญาณทัสสนะ"
    แปลว่าหลุดพ้นจากกิเลสพร้อมด้วยญาณเป็นเครื่องรู้ เท่านี้พระนิพพานก็ปรากฏชัดแก่ญาณจักษุ
    พระโสดานี้ได้แต่เห็นนิพพาน ยังอาศัยนิพพานเป็นที่พักผ่อนไม่ได้ ถ้าสำเร็จอรหัตผลแล้วท่าน
    ก็ไปนอนค้างบนนิพพาน อันเป็นสถานที่อยู่สำหรับตนได้เลย ท่านว่าบนนิพพานก็คล้ายกับพรหม
    มีวิมานแต่วิจิตรมาก ร่างของท่านที่เข้านิพพานเป็นทิพย์ละเอียด ใสสะอาด ใสคล้ายแก้วประกาย
    พรึก มีรัศมีสว่างมากกว่าพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบ
    เพราะความรู้สึกอย่างอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์เรียนถามท่านว่า พระที่เข้านิพพานแล้วอย่าง
    พระอรหันต์ หรือพระพุทธเจ้า ท่านจะมาโปรดพวกที่ยังไม่บรรลุได้ไหม?
    ท่านตอบว่า มาได้ เราจะได้ยินท่านได้ เมื่อจิตเข้าสู่อุปจารฌาน ถ้าท่านต้องการให้ได้ยิน
    เสียง จะเห็นท่านได้เมื่อมีอารมณ์จิตอยู่ในอุปจารฌาน แต่เห็นไม่ชัด ถ้ามีอารมณ์ถึงจตุตถฌาน
    และทรงฌานจนชำนาญ แล้วจะเห็นชัดและได้ยินคำสอนเหมือนเห็นฉันนั่งอยู่ และพูดอยู่อย่างนี้
    ท่านสรุปว่า เรื่องการเห็นมีเป็นระดับอย่างนี้ อย่าเถียงกันเรื่องนิพพานเลย ทำตัวให้ถึงเสียก่อน
    จะเห็นเอง เวลานี้เธอทั้งสามยังเป็นโลกียฌานอยู่ อย่าเพ่อคิดว่าดีแล้ว วิเศษแล้ว ยัง
    ไกลต่อความดี ต่อความวิเศษมากนัก คนที่รู้ว่าตัวดี คนนั้นยังไม่ถึงความวิเศษ คนใดเห็นว่า
    ไม่ว่าอะไรทั้งหมดในโลกนี้ เทวโลก พรหมโลกไม่มีอะไรดี อะไรวิเศษ สิ้นความรักความพอใจ
    ทุกสิ่งทุกอย่าง ยอมรับนับถือกฎธรรมดาผู้นั้นแหละถึงดีถึงความวิเศษแล้ว
    เธอทั้งสามถ้าต้องการ
    ฉัน ฉันจะมาสอนเธอทุกคืนที่เธอต้องการ เมื่อต้องการฉัน ขอให้คิดถึงฉัน เรียกฉันว่า
    อาจารย์ใหญ่ แล้วฉันจะมาพบเธอเสมอ แต่
    ต้องเป็นเวลาดึกสงัด พอฉันเสร็จท่านก็
    ลากลับไป
    เรื่องนิพพานท่านว่าอย่างนี้ ขอท่านผู้อ่าน อ่านแล้วฟังหูไว้หู อย่าเชื่อเกินไป และอย่าเพ่อ
    ปฏิเสธ จนกว่าท่านจะเข้าถึง วิมุตติญาณทัสสนะ เมื่อไร เมื่อนั้นท่านเอาความบริสุทธิ์ของ
    ท่านและญาณเป็นเครื่องรู้พิสูจน์ ท่านจะทราบจริงว่า ท่านอาจารย์ใหญ่พูดนี้ถูกต้องตามความ
    เป็นจริงหรือคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
     
  4. กิมท้ง

    กิมท้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +165
    (bb-flower
    *พระนิพพาน มีลักษณะ "ว่างจากกิเลสทั้งปวง"
    *ถ้าทำจิตให้เข้าถึงได้ก็จะรู้เองจ้ะ ว่าเป็นอย่างไร
     
  5. varakorn

    varakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2005
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +435
    ขอบคุงมากครับ
     
  6. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,524
    สภาวะที่จิตปราศจากการปรุงแต่ใดๆ เป็นสภาวะเดิมของจิตก่อนที่จะมี รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
     
  7. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    718
    ค่าพลัง:
    +3,151
    สภาวะนิพพานแท้จริงน่าจะไม่มีขันธ์ 5 นะ

    ที่ที่เห็นกันด้วยมโนจิต อาจเป็นนิพพานอีกสภาวะนึงที่สามารถแสดงออกให้เห็นก็ได้
     
  8. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ....นั่นแหละ คือสิ่งที่ทุกคนต้องไปดูให้รู้ถึงก่อน...

    ...เส้นทางใด วิธีใด ที่ทำให้ถึงได้ ทำก่อน..

    ....อริยะบุคคลผู้รู้ถึงก่อน จึงตอบไม่ผิดเพี้ยน...เพียรหาคำตอบด้วยตัวของตัวเถิด..

    "...ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม ชื่อว่าเห็นตถาคตด้วย..."...ท่านอยู่ที่ใดรึ?
     
  9. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    มีแต่ผู้ที่เคยไปมาแล้วล่ะครับถึงตอบได้
    ยังไม่เคยไปอย่าอุตริมาตอบเชียวนะครับ บาปหนักหนา
    จะหาว่าไม่เตือน......อิๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
     
  10. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    มโนมยิทธิ .. จะไปพระนิพพานได้

    ด้วยเหตุแห่ง-------->

    1. ศีลครบถ้วน อย่างน้อยศีล 5 ( อย่าว่าแต่นิพพานเลยครับ ไปพระจุฬามณีก็ไม่ได้ครับ ถ้าศีลไม่ครบ 5 ข้อ.. เข้าไม่ได้ )
    2. มีจิตระรึกในพระคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    ** ด้วยเหตุแห่ง ข้อ 1+2 และความดีอย่างอื่น .. บุคคลนั้นไปนิพพานได้ด้วยจิตที่เรียกว่า โคตรภูโสดาบัน อย่างต่ำ ..

    โคตรภู .. คือ จิตที่ก้ำกึ่งระหว่าง บรรลุ กับ ไม่บรรลุ .. ตำราบอกว่าเปรียบดั่ง ขาหนึ่งก้าวไปโลกุตตระแล้ว อีกก้าวหนึ่งยังอยู่โลกียะ
     
  11. ไอ้ใบ้

    ไอ้ใบ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2005
    โพสต์:
    2,254
    ค่าพลัง:
    +7,241
    คำตอบเข้าท่าค่ะ ให้ 5 ดาว
     
  12. YoUxIpUn

    YoUxIpUn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +172
    อนุโมทธาค่ะ
     
  13. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838

    พี่อ้อยคะ เรื่องการเห็นนิพพานเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนค่ะ เป็นเรื่องที่คนศีลไม่บริสุทธิ์เข้าไม่ถึงค่ะ

    ถ้าพี่อ้อยอยากทราบอยากเห็นจริง พี่อ้อยต้องถามตัวเองนะคะว่า ศีลทั้งห้าข้อนั้น บริสุทธิ์แล้วหรือไม่

    ถ้าพี่อ้อยมีศีลบริทธิ์ ตั้งใจปฏิบัติ ยายว่าคนอื่นเห็นได้ พี่อ้อยก็ย่อมเห็นได้เช่นกันค่ะ
     
  14. champobb3

    champobb3 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +42
    รู้ ( ตำรา-ฟัง -เชื่อว่ามี ฯลฯ)
    เห็น ( คิด นึก ปรุงละเอียด สภาวะเทียบเท่าโดยการตัดกิเลสชั่วคราว )
    เป็น ( โสดาบุคคลขึ้นไป เป็นขันธ์นิพพานตามส่วน )


    ต้องพิจารณาว่า ตอนนี้อยู่ขั้นใด
     
  15. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
  16. ผู้เดินทาง

    ผู้เดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +407
    เมื่อกิเลสนิพพานแล้ว ดินแดนนิพพานจะมีหรือไม่ จะงดงามเพียงใด ย่อมไม่มีความหมาย

    เพราะจิตอันกิเลสไม่ครอบงำแล้ว ย่อมไม่ไยดีในโลกธรรมหรือนามธรรมใดๆ ไม่ทุกข์ ไม่เบื่อ ไม่อยาก ไม่มีกุศล ไม่มีอกุศล
     
  17. ผู้เดินทาง

    ผู้เดินทาง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    203
    ค่าพลัง:
    +407
    การรู้ว่าพระนิพพานมีอยู่ หรือแม้การเข้านิพพาน มิได้สร้างความ"ยินดี"ให้บังเกิดแก่จิตของพระอรหันต์

    การปราถนาที่จะรับรู้การมีอยูู่้ของดินแดนพระนิพพาน ก็เพื่อสร้างความยินดี ให้แก่ผู้ที่ยังต้องอาศัยศรัทธา เพื่อนำพาไปสู่การเป็นอรหันต์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 สิงหาคม 2006
  18. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    429
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ครั้งหนึ่งผมเคยมีความเชื่อว่า.. ไม่จำเป็นต้องรู้นรก สวรรค์ นิพพาน เพียงแค่เราเจริญพระกรรมฐานไปตามปกติ.. เราก็น่าจะเข้าถึงซึ่งสุขคติภพได้..

    แต่แล้วเมื่อครูบาอาจารย์ได้ตักเตือนผมด้วยความเมตตา.. ให้ไปพระนิพพานให้บ่อยๆ ให้เป็นปกติ...จิตจะเกาะพระนิพพานได้ดี...

    ผมเห็นว่าเป็นเหตุผลที่ดี.. และเห็นดีเห็นงานตามนั้นครับ ..
     
  19. YoUxIpUn

    YoUxIpUn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +172
    โมทนานะคะ
     
  20. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    839
    ค่าพลัง:
    +1,524
    สภาวะที่ ความคิดเข้าไปไม่ถึง ขณะเข้าถึงสภาวะ จิตจะเป็นอิสะจากรูปนามทั้งหลาย อันได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ แล้วให้พูดว่านิพพานเป็นยังไง ขนาดความคิดยังต้องดับลง เป็นสภาวะเดิมของจิต ก่อนที่จะมามีรูปนามนี้ การบรรลุธรรมระดับนี้จะมีญาณมารองรับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...