เศรษฐีออสเตรียพบสัจธรรมเบื่อชีวิตร่ำรวย "ยิ่งมียิ่งทุกข์"

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 16:08:49 น. มติชนออนไลน์ <!--อ่านล่าสุด คน-->

<CENTER></CENTER>
[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]สุดทึ่ง เศรษฐีออสเตรียพบสัจธรรมเบื่อชีวิตร่ำรวย "ยิ่งมียิ่งทุกข์" ขายทุกอย่าง หันไปอยู่ในกระท่อมเล็ก[/FONT]





[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>"เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 11 ก.พ.ตีแผ่ชีวิตของนาย"คาร์ล ราเบเดอร์"มหาเศรษฐีออสเตรีย ซึ่งได้ค้นพบสัจธรรมเบื่อชีวิตที่ร่ำรวย เพราะเห็นว่าคนเรายิ่งรวยก็ยิ่งไม่มีความสุข และได้หันมาขายทุกอย่างในชีวิต และเตรียมใช้ชีวิตอย่างสมถะในกระท่อมเล็ก ๆ โดยรายงานระบุว่า นายราเบเดอร์ ขณะนี้ได้เตรียมขายคฤหาสน์หรู 3,455 ตร.ฟุต ติดทะเลสาบ,ห้องซาวน่า และมุมวิวเหนือภูเขาแอลป์ เป็นมูลค่า 1.4 ล้านปอนด์ โดยก่อนหน้านี้ เขาได้เริ่มขายบ้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ 17 เฮคเตอร์ ด้วยมูลค่า 613,000 ปอนด์ และที่ได้ขายไปแล้วก็คือ เครื่องร่อนจำนวน 6 ลำ มูลค่า 350,000 ปอนด์ รถยนต์หรูออดี้ มูลค่า 44,000 ปอนด์ [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นอกจากนี้ เขายังได้ขายธุรกิจขายเครื่องอุปกรณ์และเครื่องตกแต่งภายใน ที่สรางความร่ำรวยให้แก่เขาด้วย ขณะที่รายได้ทั้งหมดของเขาจะยกให้มูลนิธีที่เขาตั้งขึ้นในลาตินอเมริกาและ อเมริกากลาง โดยเขาจะหันไปอาศัยยังกระท่อมไม้เล็ก ๆ แถบภูเขา หรือเตียงนอนธรรมดา ในเมืองอินน์บรัค[/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]เศรษฐีออสเตรียรายนี้เปิดเผยว่า ความคิดของเขาตอนนี้ก็คือไม่ต้องทิ้งอะไรเหลือไว้เลยในชีวิต และเงินจะเป็นสิ่งที่ขัดขวางไม่ให้ความสุขเข้ามาในชีวิต และที่ผ่านมา เขารู้สึกว่า ตัวเองกำลังเป็นทาสแห่งการแสวงหาทางวัตถุที่เขาไม่ได้ต้องการหรือจำเป็นต้อง มี [/FONT]

[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]นายราเบเดอร์บอกว่า จุดพลิกผันที่ทำให้เขาค้นพบสัจธรรมดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่เขาพักผ่อนลองวีค 3 สัปดาห์กับภรรยาที่เกาะฮาวาย เขารู้สึกว่าเขาไม่สามารถพบกับความสุขกับชีวิตระดับห้าดาว และแม้ว่าเขาและภรรยาจะใช้เงินไปเท่าไหร่ แต่กลับพบว่าทุกคนนั้นไร้ตัวตน ทั้งเจ้าหน้าที่โรงแรม หรือแขก ต่างเล่นบทบาทของตัวเองบนโลกแห่งวัตถุทั้งสิ้น [/FONT]



[FONT=ms sans-serif, Tahoma, DB ThaiTextFixed, Thonburi]และเมื่อเดินทางไปเที่ยวแอฟริกา เขาก็รู้ว่าว่า ความร่ำรวยของคนเรานั้นยืนอยู่บนความยากจนของคนอื่น และนั่นทำให้เขาตระหนักขึ้นมาทันว่า "ถ้าเขาคิดจะไม่ทำอะไรเสียตั้งแต่ตอนนี้ เขาก็จะสบายไม่ต้องทำอะไรอีกในชีวิตที่เหลือ"[/FONT]


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1265879430&grpid=&catid=06

 

ฝากบอก...นักการเมือง ของไทย ด้วยก็ดี

 

อนุโมทนาครับ

 

จริตที่เป็นชาวพุทธ

ขอเรียนท่านที่สามารถสื่อกับเศรษฐีหนีรวยผู้นี้ว่า
ท่านควรจะเดินทางมาหาความพ้นทุกข์ที่เมืองไทย
ไปวัดหนองป่าพงได้ยิ่งดี เพราะมีเพื่อนต่างชาติมาก
ขอคิดเอาเองนะครับว่าท่านผู้นี้มีจริตเป็นพุทธแท้
ขออนุโมทนาในจริตนี้ครับ

 

ตาสว่าง....

 

สัจธรรม นี่งั้ยที่ไม่ว่าจะรวย จะจน

คุณก็เป็นเจ้าของได้

ความสุขอยู่ที่ใจไม่ใช่วัตถุ

 

ขอให้ผลบุญที่ท่านได้ทำไว้
จงนำพาให้ท่านพบกับความสุขที่แท้จริงครับ

 

เขามีภรรยาดีนะ

 

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ.....ความคิดประเสริฐแท้......ถ้าคนไทยส่วนใหญ่คิดแบบนี้กันมากๆคงจะดี จะได้ลดการเบียดเบียนซึ่งกันและกัน(^_^)

 

เห็นด้วยค่ะ อาจเคยเป็นพุทธศาสนิกชนที่หลงไปเกิดต่างแดน

 

ฝรั่งที่รวยกว่าเศรษฐีไทยร้อยเท่า คิดแต่จะสละทาน

เศรษฐีไทยบางคนยิ่งรวย ก็ยิ่งคิดอุบายโกงสารพัด เอาเปรียบประชาชนคนยาก
สามารถหลอกคนบางชนชั้น คนบางอาชีพ ให้เชื่อได้ แต่..
ประชาชนที่ตาสว่างมีมากกว่า และคอยสาปแช่งคนโกงชาติอยู่ทุกวัน
สมบัติร้อน ๆ ครอบครองได้อีกแค่สิบปีก็ตายจากแล้ว เอาสมบัติบุญไม่ดีกว่าเหรอ