มีใครยอมสละแม้ชีวิตเพื่อรักษาศีลบ้าง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เถรี, 5 กรกฎาคม 2006.

  1. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    เคยบ้างไหมที่ยอมสละแม้ชีวิตเพียงเพื่อจะรักษาศีล 5 ไว้ให้มั่น
    แต่บางคนในสมัยนี้กลับมีข้ออ้างต่างๆนานา เพื่อที่จะผิดศีลกัน เช่น
    " ถ้าไม่ให้ผมทำฟาร์มเลี้ยงกุ้งปลา เลี้ยงไก่ เลี้ยงหมูเอาไปขาย แล้วผมกับครอบครัวไม่อดตายหรือ"

    " เรื่องคอร์รัปชั่นนี่ ใครๆ เค้าก็ทำกันทั้งนั้น เราไม่ทำเหมือนเค้า เราจะอยู่ได้อย่างไร"

    " เรื่องเป้นชู้กับลูฏเมียเค้าเนี่ย ก็ฝ่ายหญิงเค้าเต็มใจให้ผม ล่วงเกินนี่ จะบาปยังไง"

    " เรื่องโกหกกันนี่ ผมว่ามันเรื่องธรรมดานะครับ งานธุรกิจมันต้องใช้เล่ห์เหลี่ยม หลีกหนีไม่พ้นหรอกครับ ขืนไม่ให้ทำก็อดตาย"

    "สุรา บุหรี่ เบียร์ เป้นแฟชั่นของสังคม ใครไม่แตะต้องก็ร่วมสังคมไม่ได้หรอกครับ มนุษย์เราต้องเกี่ยวข้องติดต่อกันอยู่ในสังคม เราจะไปฝืนได้ยังไง เดี่ยวใครๆ เขาไม่ยอมคบกับเรา ผลประโยชน์ต่างๆ ก็พลอยเสียหายไปหมดเท่านั้น"

    นี่คือข้ออ้างของคนในยุคนี้ เขาไม่เคยนึกหรือแม้แต่ได้ฟังได้รู้ว่า ควรสละสิ่งใดบ้างเพื่อรักษาธรรม เขากลัวแต่เรื่องการอดตายในชีวิตปัจจุบัน กลัวแต่เรื่องจะไม่ได้รำรวยเฉพาะในชีวิตนี้ แต่ไม่เคยนึกถึงเลยว่า ชีวิตในภพข้างหน้าจะต้องทุกข์ยากลำบากเพียงใด นี่คือเรื่องของคนโง่เขลา คนขาดปัญญา มองสิ่งใดๆตื้นๆ เอาเฉพาะหน้า ไม่นึกถึงระยะไกล

    อาชีพดีๆ ที่ปราศจากบาปกรรมมีถมเถไป เพียงแต่อาจจะรวยไม่ได้ทันใจ ก็ไม่ยอมกระทำ ชอบอาชีพที่เป็นบาปกรรม เห็นว่ารวยได้เร็วดี นี่คือพวกโลภมาก

    เรื่องคอรัปชั่นที่เอามาอ้าง ครั้นถูกแนะนำว่า ให้เอาเงินที่ได้เหล่านั้นมาทำบุญซี ก็ไม่ยอม แสดงว่าความจริงในใจคือมีความโลภอยู่เต็มแต่หาเหตุอื่นมาอ้าง

    เรื่องกาเมสุมิจฉาจาร ก็เป็นเพราะความติดรสในเรื่องเพศจนไม่กลัวบาป

    เรื่องพูดปด ก็ทำเสียจนเห้นเป้นของปกติ เสียคุณภาพของความเป้นคนไปจนหมด

    เรื่องเสพของมึนเมานี่ เขาไม่รู้ว่า แม้ขณะเสพจะไม่ได้ประพฤติผิดศีล แต่สิ่งที่เสพนั้น มีทั้งส่วนที่เป้นของหยาบและของละเอียด พิษในของหยาบ เช่น พิษของแอลกอฮอล์ในสุราทำลายสุขภาพในกายหยาบ สารพิษส่วนที่เป้นของละเอียดก็ไปทำลายในกายมนุษย์ละเอียด เวลาตายกายละเอียดหลุดไปจากกายหยาบ กายละเอียดก็ถูกสารพิษที่เป้นของละเอียดทำลายไปด้วย เวลาไปเกิดใหม่จึงมีธาตุของความโง่ สติปัญญาฟั่นเฟือนติดตามไป ร่างใหม่ที่เกิดขึ้นก็ล้วนแต่ไม่มีปัญญาและอ่อนแอ คนบ้าใบ้ ปัญญาอ่อน ฟั่นเฟือนวิกลจริตต่างๆ ที่เราพบเห็น ล้วนแต่มีอดีตชาติเป็นผู้เสพของเสพติดด้วยกันทั้งนั้น
     
  2. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    พระท่านบอกไว้ว่า ใครมีศีล 5 ไม่ครบ คนนั้นไม่ใช่คนบริบูรณ์ ศีลขาดไปข้อหนึ่ง ก็เหลือความเป็นคนอยู่ 80% ถ้าขาดทั้ง 5 ข้อ ก็ไม่ใช่คนเลย บางทีท่านก็ใช้คำหนักๆว่า "ไม่มีศีล ก็เป็นหมาน่ะซี"

    คนกับสัตว์มีตรงกันอยู่ 4 อย่าง คือ การต้องกินอาหาร การเสพกามเพื่อสืบพันธุ์ การนอนหลับพักผ่อน และการกลัวต่อมรณภัย แต่สิ่งที่มนุษย์มีเหนือสัตว์อื่นๆคือ เรื่องการมีคุณธรรม ฉะนั้น ถ้าใครปราศจากคุณธรรม โดยเฉพาะศีล 5 ซึ่งเป้นคุณธรรมของมนุษย์แล้ว เราจะเรียกว่าเขาเป้นสัตว์ตัวหนึ่ง ก็ไม่น่าจะแปลกอะไร

    (b-oneeye)
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    เรื่องละเอียด คนเข้าใจมีน้อยครับ...

    แต่ไม่เกี่ยวกับว่าน้อยหรือมาก สำคัญคือ เป็นแบบนั้นจริงๆ
     
  4. panuwat_cps

    panuwat_cps เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +433
    ไม่รู้เหมือนกันว่าจะทำได้หรือเปล่านะ แต่ตอนนี้ก็พยายามรักษาให้ครบทั้ง 5 ข้อแหละ พิจารณาดูแต่ละวันก็ไม่ขาดนะ แต่จะมีพร่องบ้างไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่าเพราะไม่เคยตั้งใจที่จะทำผิดศิลเลยยกเว้นเผลอบ้างหรือไม่เจตนาบ้าง แต่ก็พยายามระมัดระวังตัดคำว่าไม่เป็นไรออกเพราะข้อ 1 ปาณาติบาท เคยคิดว่าเราไม่ตั้งใจจะฆ่าพวกแมลงคิดว่าไม่เป็นไรแต่ก็ทำให้เขาเดือดร้อนอยู่ดี พอคิดว่าถ้าเป็นเราบ้างถึงเขาไม่เจตนาทำกับเราแต่เขาคิดว่าไม่เป็นไรเราจะรู้สึกอย่างไร จึงพยายามตัดคำว่าไม่เป็นไรออกแล้วพยายามระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเบียดเบียนอย่างสุดกำลัง แต่ว่าจะถึงขั้นยอมสละแม้ชีวิตเพื่อรักษาศิลยังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลยตอบไม่ได้เหมือนกัน
     
  5. เสขะ

    เสขะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +1,077
    สำหรับผมแล้ว แรกๆ ก็มีความรู้สึกของบุคคลรอบข้างมองในอาการเช่นเดียวกับท่าน แต่ก็มั่นในสิ่งที่เราถือปฏิบัติจนทำให้รอบข้างยอมรับและเข้าใจ ในความเป็นเอกอุ ของเรา จงรักษาจิตตน ดีกว่าไปสนใจกับบุคลที่ยังไม่เข้าใจธรรม เวลาเหลือน้อยแล้ว พุทธแท้ๆไม่ได้บ่งบอกที่สัมมโนครัว สู้กับสิ่งรอบข้างนั่นก็คือการปฏิบัติด้วยการรักษาจิต
     
  6. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ผมพยายามรักษาศีล ... พยายามทำเป็นกิจวัตร จนปัจจุบันรู้สึกว่าจะรักษาศีลง่ายดีครับ ... แต่ว่าจะยุ่งกับคนอื่นน้อยลง เพราะคนอื่นพาผิดศีลซะเยอะแยะ ..
     
  7. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    ธรรมยอมรักษาผู้ประพฤติธรรม.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 7 กรกฎาคม 2006
  8. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656

    ถูกต้องนะค้าบบ ข้อสำคัญเวลาอยู่กับคนหมู่มาก คือต้องปฏิเสธให้เป็น หนักแน่นในศีลหน่อย อย่าหลวมตัวว่าเอาหน่อยน่ะ
     
  9. penney

    penney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    322
    ค่าพลัง:
    +1,137
    เคยลองถือศีลอุโบสถดูค่ะ
    แล้วมีเรียนอย่างหนักหลังเที่ยง
    วันนั้นตั้งใจไว้แล้ว ว่าจะต้องลองรักษาข้อ 6
    (ไม่ทานอาหารหลังเที่ยง) ให้ได้ แต่ข้ออื่นก็ไม่ได้ลืมนะคะ
    แต่ไม่แน่ใจว่าขาดป่าวแต่ที่แน่ๆ เอาสติไว้ที่ข้อ 6 ก่อน
    เป็นการทดลองตัวเองอ่ะค่ะ หิวนะคะ หิวมากๆด้วย
    แต่ก็บอกกับตัวเองไม่กินๆ ยอมตายดีกว่าถ้าศีลข้อนี้ขาด
    (เป็นคนกินตลอดเวลาอ่ะค่ะ เลยต้องสู้กับใจตัวเองอ่ะค่ะ)
    สรุปแล้วก็เลยนอนเลย อิอิ จะได้ไม่ต้องกิน ตื่นเช้ามา
    ก็ยังไม่ตายอิอิ ดีจริงๆ ไว้วันพระหน้าถือใหม่
    ต้องค่อยๆเน้นทีละข้อก่อน(สำหรับเรานะ) แล้วมันจะได้ชิน
    พอชินแล้วจะได้รักษาได้ครบจนได้

    ฟังดูอาจจะดูแปลกๆอาจเป็นเพราะว่านิสัยเรา
    จะผิดก็มีแค่ 2 ข้อเท่านั้นอ่ะค่ะ (ในศีล 8 นะ)
    เรื่องกิน กะเรื่องปาก อิอิ ปากไม่อยู่นิ่งก็เลยจะทำให้บาป
    เอ้าสู้ๆ มีจิตตั้งใจรักษาศีล ถ้าจะตายเพราะไม่ทำผิดศีล
    ก็ยังดีกว่าต้องมาตายเพราะผิดศีล ยังไงๆ จิตเราเป็นกุศล
    ถึงตายยังไงๆ ก็น่าจะได้ไปที่ดีๆนะ
     
  10. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ผู้รักษาศีลย่อมชีวิต...

    ก็คือผู้มีความมั่นใจเด็ดขาดแล้วว่า .. การผิดศีลนี้ไม่ใช่สาระอะไรเลย
    (ตีความจากตำรา)
     
  11. angus

    angus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +2,724
    พยายามรักษาให้ครบหมดนะ แต่รู้สึกข้อมุสา ยากหน่อย เพราะยอมขาดบางเรื่อง ....บางครั้งมันจำเป็นจริงๆ อย่างเช่นคนที่เขาเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็ก เขาป่วยมาก เส้นเลือดแตกในสอง 2 หน รักษาไม่หาย เดินไม่ค่อยได้ล้มตลอด เขาถามว่าเขาจะหายไหม เนี่ย....ตอบเร็วมาก ว่าหาย แต่จริงแล้วไม่ช่าย เพราะต้องการให้จิตใจเขาดีมากกว่า ถ้าบอกตรงไป กำลังใจคนแก่จะตก ยิ่งไปเร็วเท่านั้น ........เลยถือเอาเจตนาเป็นหลัก ( ไม่ช่ายมุสาทั่วนะ )
     
  12. angus

    angus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    545
    ค่าพลัง:
    +2,724
    เส้นเลือดแตกในสมอง******* พิมพ์ผิด
     
  13. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    พูดลำบาก สักกายทิฏฐิคนจะตาย ก็คือ กลัวตาย ..

    ก็ถ้าเค้ามีน้ำใจยอมรับกฎไตรลักษณ์ เค้าก็จะไม่วิตก .. นี่ดันมากลัวตายซะงั้น สักกายทิฏฐิเค้าก็ปิดกั้นการรับความจริงไปแล้ว

    บางทีคนป่วยเนี่ยครับ ... เราให้กำลังใจเฉยๆ ก็อย่าพยายามโกหกเลยครับ ... แค่ให้เค้าคิดในทางที่ดี ดีขึ้นเรื่อยๆก็พอ...

    แม่นบ่อๆๆ
     
  14. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +2,488
    อืมม การรักษาศีลนะไม่ยาก ผมว่าถ้าอยู่กับคนไม่เยอะนะรักษาไม่ยากนะ แต่ถ้ามาอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากเช่น เพื่อนๆ ที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ มีโอกาสผิดมีสูงมาก เพราะจิตเราจะพาไปให้คนอื่นๆเดือนร้อน และดีไม่ดีเบียดเบียนตัวอีก สำหรับ ผมนะ วันเสาร์ อาทิตย์ เป็นวันที่ศีลสะอาดสุดๆ วันปกติ มักจะโดนประมาณ มุสา นะ แบบว่าชอบโม้ ชอบเม้าส์ กับเพื่อนที่ Office อิอิ แต่ผมไม่เจตนาให้เขาเดือนร้อนนะ แต่ให้เขาๆมีความสุขๆกัน
     
  15. เถรี

    เถรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    326
    ค่าพลัง:
    +6,511
    ณ ปัจจุบันนี้ มีความรู้สึกว่า

    ถ้าขาดศีลข้อใดข้อหนึ่งไป

    ก็เหมือนตัวเองเป็นคนไม่สมบูรณ์....

    ขาดไปหนึ่งข้อ ก็เหมือนขาดแขนไปหนึ่งข้าง...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2006
  16. Raindrops

    Raindrops เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +1,147
    ศีล รักษาจนเป็นนิสัย เมื่อจะทำผิดศีลก็จะมีจิตสำนึก ไม่ทำ
    ศีล เมื่อไม่รักษา จนตนคิดว่าเป็นธรรมชาติตน ก็จะไม่มีจิตสำนึกว่าตนทำผิด
    ศีล รักษาให้เป็นปกติ ย่อมง่าย
    ศีล รักษาไม่สม่ำเสมอ สำนึกหาย
    รักษาให้เป็นปกติ จะเป็นไปเอง ไม่ต้องลำบากฝืนใจ
    สิ่งสกปรกแม้เล็กน้อยเปื้อนตัวเรา เรายังว่าสกปรก
    สิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อยแม้เปื้อนจิต จะไม่สกปรกได้อย่างไร
    ศีลเป็นตัวป้องกันการเปื้อนของจิต รักษาเกราะดี ภายในย่อมสะอาด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2006
  17. XZODIA

    XZODIA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2006
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +124
    ปัจจุบันยึดศีล5 เป็นหลัก กรรมบท10 เป็นรอง
     
  18. ท่าข้าม

    ท่าข้าม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2006
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +2,513
    ชอบๆ กระทู้นี้ ศีล 5 ทำให้ตนเอง และคนรอบข้างมีความสุขเพราะเราไม่เบียดเบียนกัน ท่าข้ามรู้จักศีล 5 และถือศีล 5 ได้เพราะหลวงพ่อฤาษี(ท่านได้ให้สมบัติที่สำคัญมากจริงๆ) ถึงเจอเรื่องบีบคั้น แค่ไหน ท่าข้ามก็ไม่ทำลายศีล(อาจเป็นเพราะสติหรืออะไรก็ไม่รู้) ท่าข้ามเคยโดนเพื่อนด่า(ไม่ใช่เพื่อนที่ไปวัดด้วยกัน) "ไอ้หน้าตัวเมีย" เพราะท่าข้ามไม่กินเหล้ากับเขา (ตูจะบ้า ด่าไปเหอะตูไม่กินหรอกไอ้เวลลล) จะละเมิดศีล 5 เมื่อไหร่คิดมาก จนคนรอบข้างบอกว่า อย่าคิดมากเลย คิดได้ไง ทำได้ไง ทนได้ไง (ไม่รู้ดิ เป็นเพราะเบื่อนรกมั้งตู) เว๊ปนี้เป็นเว๊ปที่ดี อย่างน้อยทำให้รู้สึกดี ว่าคนที่เขา คิดดี ทำดี ยังมีอยู่นะ (ส่วนมากเพื่อนที่คิดดี ทำดี คือเพื่อนที่ไปวัดด้วยกัน) ก็ถ้ามีคนดีเพิ่มอีก ชาติมีความสุข โลกก็มีความสุขเนาะ ดีใจเอ๊ย ดีใจจัง โมทนากับทุกคนจ้า
     
  19. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    "เรื่องกฏของกรรมนี่ถ้าเรามั่นคงในทาน ศีล ภาวนา เขาจะสนองเราได้ไม่ถึง ๒๕% อีก ๓ ส่วนนั่นโดนอานุภาพของทาน ศีล ภาวนาป้องกันไว้แล้ว"_____หลวงพี่เล็ก

     
  20. Toutou

    Toutou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    1,455
    ค่าพลัง:
    +8,107
    คำว่า ศีล แปลว่า ปกติ

    คำว่า ศีล แปลว่า ปกติ
    ถ้าเราเป็นฆราวาส ถ้าหากว่าเป็นฆราวาสปกติของปุถุชนก็ดี หมายถึงเป็นผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ผู้เข้าถึงไตรสรณาคมน์
    กัลยาณชน หมายถึง ผู้ทรงฌาน
    อริยชน 2 ขั้น หมายถึง พระโสดาบันกับพระสกิทาคามี อย่างนี้ต้องมีศีล 5 เป็นปกติ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระโสดาบันกับพระสกิทาคามีต้องทรงศีล 5 เป็นปกติ จึงจะชื่อว่าพระโสดาบันกับสกิทาคามี
    สำหรับอารมณ์อารมณ์จิตถ้าเข้าถึงพระอนาคามี ตอนที่เข้าถึงพระอนาคามีนี่จะมีศีล 8 เป็นปกติ เพราะว่าพระอนาคามีเป็นผู้ตัด กามฉันทะ กับ ปฏิฆะ อารมณ์แห่งกามารมณ์ย่อมไม่มีในพระอริยเจ้าระยะนี้ คือ ว่าพระอนาคามี
    สำหรับพระอรหันต์ก็ไม่ต้องพูดกัน
    สำหรับพระภิกษุสามเณรก็เหมือนกัน ภิกษุสามเณรมีศีลคงที่ แต่มีจิตดีขึ้นเพราะทรงศีลบริสุทธิ์
    เป็นอันว่า ศีล แปลว่า ปกติ หมายความว่าคนทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ถ้าไม่ต้องการขาดทุน หมายถึงว่าเราเกิดมาเป็นคนแล้ว ถ้าตายจากคนกลับไปเกิดเป็นสัตว์นรกหรือว่าไปเกิดเป็นเปรต เป็นอสุรกาย หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือว่าเกิดเป็นคนแต่มีสภาวะเท่าเดิม อย่างนี้ถือว่าเราขาดทุน
    ฉะนั้น ปกติของคนจะต้องปฏิบัติในศีลให้บริสุทธิ์ ถ้าจะมาเกิดเป็นคนอีกก็ต้องเกิดเป็นคนดีกว่านี้ คำว่าดีกว่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ต้องมีโภคะมากไปกว่านี้
    แต่เนื้อแท้จริง ๆ ถ้าปฏิบัติในศีลบริสุทธิ์จะต้องมีโภคสมบัติดีกว่านี้ มีรูปร่างหน้าตาสวยกว่านี้ และต้องมีทุกสิ่งทุกอย่างดีกว่าทั้งหมดคือ
    (1) มีอายุยืนยาวตลอดอายุขัย ไม่ป่วยไข้ไม่สบาย และก็ไม่ตายก่อนอายุขัย
    (2) มีทรัพย์สินสมบูรณ์บริบูรณ์ ทรัพย์สินทุกอย่างจะไม่มีอันตรายจากไฟไหม้ จากน้ำท่วม จากลมพัด จากโจรผู้ร้าย
    (3) คนในปกครองจะอยู่อยู่ด้วยดี ไม่มีใครดื้อด้าน อยู่ในโอวาททุกอย่าง
    (4) วาจาศักดิ์สิทธิ์ วาจาหอมหวนเป็นที่ปรารถนาในการรับฟังของคนดีทั่วไป อย่าลืมนะผมพูดว่าสำหรับคนดีทั่วไป สำหรับคนเลวไม่ต้องไปคำนึงถึง คนเลวเราจะพูดดีขนาดไหนมันก็เลวขนาดนั้น อย่าไปสนใจ
    (5) แล้วก็จะต้องมีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ดีกว่านี้
    นี่หมายถึงว่าถ้าเรามีศีลบริสุทธิ์

    ที่มา ลานธรรมเสวนา
     

แชร์หน้านี้

Loading...