อยากทราบความเห็นของเพื่อนๆ เกี่ยวกับ วัดพระธรรมกาย ว่าคิดกันอย่างไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย มารสะท้าน, 5 มกราคม 2005.

  1. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +825
    ผม อ่านแล้ว เห้นด้วยกับความคิดคุน อำนาจครับ
     
  2. mikky

    mikky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    894
    ค่าพลัง:
    +577
    สุดท้ายมันสำคัญที่ปัญญาเราเองน่ะครับ เหมือนกับตอนท้ายที่คุณอำนาจคิดได้น่ะครับ ไม่ได้ว่าธรรมกายนะครับ แต่หมายถึงว่า เราจะทำมากทำน้อย หรือทำจนหมดตัว มันอยู่ที่กำลังของเรา เราต้องพิจารณาเอง อย่าไปตามคนอื่น การปฏิบัตืธรรมทุกสายดีทั้งนั้น ถ้ามีจุดหมายที่พระนิพพาน ไม่ใช่สายใดสายหนึ่งจะดีแต่สายอื่น ๆ ไม่ดี เหมือนแม่น้ำหลาย ๆ สาย ท้ายที่สุดก็ต้องไหลลงทะเล และมหาสมุทรผืนเดียวกันหมด

    แต่ระวังนิดหนึ่งบางที่เราปฏิบัติอยู่ในบึง แต่เข้าใจว่าเป็นแม่น้ำที่จะไหลลงมหาสมุทรใหญ่ อย่างนี้โมหะครอบงำแล้วครับ

    วางใจเฉย ๆ บางทีที่เราไม่ชอบเพราะ สิ่งนั้นมันไม่ถูกจริตเรา และเราอาจไม่ได้เป็นศิษย์-อาจารย์ กับท่านอาจารย์ในวัดนั้น มันก็ไปกันไม่ได้ แต่ของเขาอาจไปถูกกับจริตของคนอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเท่าที่เห็นศิษ์ธรรมกายที่ทำตัวปรกติ อยู่กับสังคมอย่าสว่างามก็มีมากน่ะครับ อย่าเอามาติดที่ใจ มันจะเสียหายกับเราเอง ใครจะเป็นอย่างไรก็ช่าง คุมไม่ให้ใจเราขุ่นมัวเป็นใช้ได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2008
  3. prarahu

    prarahu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    843
    ค่าพลัง:
    +2,664
    ขออนุโมทนากับคุณอำนาจครับ ผมดีใจที่คุณอำนาจเดินทางตามมัชชิมาปฎิปทาครับ ไม่ได้ศรัทธาจนถึงขั้นยอมตายถวายชีวิต ผมเองเป็นธรรมทายาทปี20ครับสมัยโบสถ์ยังสร้างไม่เสร็จเลยครับ ความรู้สึกผมก็เหมือนคนอื่นละครับศรัทธาจนมองว่าการปฎิบัติแนวอื่นไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่เมื่อปฎิบัติธรรมนานขึ้นมีประสบการณ์มากขึ้นก็ต้องกลับมาย้อนดูตัวเองว่าสิ่งที่เรารู้มาถูกต้องทั้งหมดหรือไม่ ผมเองตอนอยู่ที่วัดผมเองปฎิบัติแบบเอาเป็นเอาตายเพื่อให้ถึงดวงปฐมมรรคจนแล้วจนรอดไม่เห็นอะไรเลยครับ ลืมไปครับผมไม่ได้บวชเพราะคุณแม่ไม่อนุญาติครับท่านกลัวผมไม่สึกแต่ผมอยู่ทำงานในวัดประมาณ2ปีผมถึงกลับมาอยู่บ้าน รู้เห็นอะไรมาเยอะที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ผมกลับมาอยู่บ้านมันไม่เป็นปกติครับทุกคนลงความเห็นว่าใกล้เพี้ยนเต็มทน ผมอยู่บ้านโกนหัวพูดจาสำรวมระวังมากเพื่อนฝูงหายหน้าหายตาไปหมด แต่สุดท้ายเมื่อได้คิดพิจารณาแล้วมองว่าตัวเราเองจะอวดเคร่งไปหรือเปล่าถ้าทำตัวแบบนี้จะอยู่ในสังคมได้อย่างไร การปฎิบัติมันทำกันที่ใจมิใช่หรือ พอคิดได้ก็ค่อยๆผ่อนคลายจากการดำเนินชีวิตให้ดูไม่ผิดเพี้ยนจากคนอื่นแต่ยังถือศีล5และยังตรึกนึกถึงดวงแก้วในศูนย์กลางกายตลอดเวลา
    จนมีอยู่วันหนึ่งหลังจากปฎิบัติธรรมไป2ชั่วโมงก็ถึงเวลานอน ผมก็ปิดไฟในห้องทั้งหมดก็ล้มตัวลงนอนอยู่ดีๆในท้องผมก็เกิดแสงสว่างจ้าปรากฎขึ้นสว่างกว่าดวงอาทิตย์หลายสิบเท่าแต่ไม่มีความร้อนครับเย็นและสงบด้วยความดีใจรีบลุกมานั่งต่อดวงธรรมหายวับไปเลยครับตอนหลังจึงมาทราบว่าความอยากเห็นอยากรู้เป็นตัวการขัดขวางการเข้าถึงธรรมครับ ต้องวางใจให้นิ่งเป็นกลางๆใจก็จะเดินเข้าหาความสงบเองครับ มาระยะหลังผมเองไม่ได้ไปวัดธรรมกายเป็น10ปีแล้วครับไม่ขอบอกเหตุผลนะครับ จากนั้นผมก็มาต่อวิชชาธรรมกายกับหลวงพ่อภาวนาที่วัดปากน้ำจนได้รู้เรื่องราวต่างๆมากมายจนที่สุดผมได้กราบเท้าหลวงปู่โลกอุดรที่คนล่ำลือว่ามีอยู่จริงหรือไม่
     
  4. Tom

    Tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +289
    สรุปว่า สิ่งไหนดีก็เก็บไว้ สิ่งไหนไม่ดีก็ทิ้งไป
     
  5. Pure

    Pure Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +50
    อนุโมทนาบุญกับคุณอำนาจ คุณ mikky และคุณ prarahu ด้วยครับ
    คุณ mikky พูดเป็นปรัชญาดีจังครับ
     
  6. เสาวนีย์

    เสาวนีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +251
    อนุโมทนาบุญกับเหล่าธรรมทายาททั้งสองด้วยค่ะ
    สาธุ
    เราเป็นหญิงนะ แต่เราชื่นชมการบวชที่นี้ค่ะ ที่ต้องให้คนที่จะบวชต้องอยู่วัดกินข้าววัดโกนหัว ก่อน 1 เดือน
    เราว่าดีนะค่ะ ไม่ใช่ว่า จะบวชอีกสองวันสามวัน ยังเสเพลอยู่ข้างนอกเลย เราเคยฟังหลวงพ่อทัตตะ ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนบวชรุ่นแรก มันมีปัญหาค่ะ คือ เด็กจะหนีกลับ เอาล่ะซิ ที่วัดเค้าก็คิดต้องทำไงดี หลวงพ่อทัตตะบอกว่า
    จับโกนหัวเลย เพราะก่อนมาก็ต้องบอกใครๆไปทั่ว บอกเพื่อน บอกญาติ ก็เหมือนคุณอำนาจบอก ว่า จะอาย
    แล้วจะไปบอกใครได้ไง เพิ่งหายจากบ้านมาไม่กี่วัน แถมกลับมาหัวโล้นมาอีก โดยหัวเราะเยาะ ว่าแค่นี้ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปทำอะไรได้ ถือว่า เป็นอุบายที่ใช้ได้ค่ะ ท่านคงต้องการ ให้เหล่าธรรมทายาท พยามทำตัวเองให้ดีมากๆ กลั่นกายวาจาใจบริสุทธิ์ ก่อนห่มผ้าแห่งธงชัย ผ้ากาสาวพักตร์ และเชื่อมั๊ย! เมื่อพ่อแม่เห็น รับรองปลื้มทุกราย คนบวชก็ปลื้ม เราว่าปลื้มมากๆ ด้วย เพราะได้ผ่านการทดสอบมาได้ เพราะการบวชที่นี่หลวงพ่อทัตตะท่านยังบอกว่า ไม่ใช่บวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณอย่างเดียว บวชเพื่อตัวเองด้วย
    ส่วนคุณ prarahu ตอนอยู่วัด คุณคงเครียดเกินไปค่ะ แต่เราว่าการสำรวมระวังกายใจ เป็นสิ่งที่ดีนะค่ะ แต่เมื่อมาอยู่ทางโลก มันทำให้คุณดูแปลกไปไงค่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่ดี ที่ควรทำไม่ใช่เหรอค่ะ
    ตอนนี้เราก็ไปรถบัสที่ทางผู้นำบุญจัด ซึ่งเราว่า ดีนะ ได้รู้จักคนเพิ่มขึ้นด้วย แต่บางคนมีรถส่วนตัวก็สะดวกดีค่ะ บางคนก็ร่วมกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ใครมีรถก็สับกันเอารถที่บ้านกันไป แชร์แค่น้ำมันค่าทางด่วนกันไป ซึ่งรถบัสที่ทางผู้นำบุญจัด เราก็อาจร่วมบุญกับเค้าสัก 10 บาท 20 บาท หรือจะมากจะน้อยอันนี้แล้วแต่ศรัทธรา หรือไม่มีจริง ๆ ก็ไม่เห็นเป็นไร และตอนเข้าวัดใหม่ ๆ ก็ตักบาตรหน้าบ้าน จนปัจจุบันนี้ ซึ่งไม่ใช่พระวัดพระธรรมกาย เป็นวัดใกล้บ้าน
    เงินนั้น หามายาก ก็ยังไม่ใช่เศรษฐ๊นะ มีบ้าง เราก็เลือกทำบ้าง แต่จะหนักมาทางวัดพระธรรมกาย ที่อื่นก็ทำ วัดต่างจังหวัดมีใครมาบอกบุญก็ทำ ใครจะสร้างโรงเรียนมาบอก ก็ขอร่วมบุญด้วยตามกำลัง เพราะปัจจัยยังมีน้อย จึงต้องแบ่งสรรกันไป แต่เราเชื่อว่า สิ่งใดๆ ในพระพุทธศาสนา มีคนใช้งานตลอดเวลาไม่ว่าสงฆ์หรือฆราวาส และเป็นจำนวนมาก ซึ่งแน่นอนว่า เค้าเหล่านั้น ย่อมมีคุณธรรมความดีในตัวพอสมควร เพราะไม่เช่นนั้นก็จะอยู่ไม่ได้ อยู่ได้ไม่นาน บางท่านตายในผ้าเหลือง ผ้าขาว หากเปรียบเทียบก็เหมือนพระท่านร้อนผ้าเหลืองนั้นแหละ ใครมาฉุด มารั้งไว้ให้อยู่ก็ไม่อยู่ บ้างท่านบอกว่า เหมือนบ้าบุญ หวังบุญ ยึดติดในวัตถุ ฯลฯ แต่เราเชื่อว่า อย่างน้อย ๆ คนไม่หวังบุญอะไรเลย ทำไปเพราะเห็นว่ามีประโยชน์มากกว่า พื้นที่ใช้เพียง 5 - 10 คน แต่พื้นที่ตามวัดต่าง ๆ ในต่างจังหวัด ก็เป็นสิ่งที่ควรช่วยกันทำเช่นกัน เพื่อจรรโลงพระพุทธศาสนาไปจวบจน 5,000 ปี
    ขออนุญาตนำคำพูดของคุณอันนต์มาเล่าให้ฟังว่า ท่านได้เล่าให้พวกเราฟังว่า แม่ของท่าน ชอบไปทำบุญตามวัดไปต่าง ๆ ในต่างจังหวัด คุณอนันต์บอกแม่ของท่านว่า "เพราะแม่ต้องการเห็นความเป็นอนาถา (ความยากจน) ไม่ใช่อยากเห็นความสมถะ(ความเรียบง่าย)"
    ไปดูสิ่งก่อสร้างที่วัดซิค่ะ เราเห็นโบสถ์วัดนี้ครั้งแรก เออ! เรียบง่ายดีแท้ ผนังโบสถ์เรียบจัง เพิ่งรู้ว่า หลวงพ่อทัตตะ และคุณยาย ท่านคุม กำชับช่างเลยก็ว่าได้ เวลาก่อสร้าง ให้ร่อนทรายละเอียดสุด ๆ แล้วค่อยใช้ ซึ่งมันจะทำให้แข็งแรง และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ เวลามันพุผังมาจะซ่อมแซมง่ายแค่ไหน ไม่ต้องมาติดกระจกกันให้พร่าวเต็มวัดไปหมด ไม่ต้องมาปั้นมาแต่งอะไรกันมาก แล้วต่อไปก็ไม่รู้ว่า จะมีช่างฝีมือดีๆ แค่ไหน
    ขนาดปัจจุปัน ยังขาดช่างมีฝีมือดีๆ เลย แล้วในอนาคตล่ะ จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้
    สิ่งไหนดีก็รับไป สิ่งไหนไม่ดี เอาไว้เป็นบทเรียน
    ศิษย์วัดพระธรรมกาย รับฟังเสียงทุกคนแหละค่ะ แต่ทุกคนล่ะ เคยรับฟังเสียงศิษย์วัดพระธรรมกายบ้างหรือเปล่า
    หลวงพ่อธัมมะบอกว่า หากไม่มีสายบุญมาร่วมทำกันมา ซึ่งแต่ละคนย่อมมีครูบาอาจารย์ของแต่ละคนแต่ละกลุ่มอยู่แล้ว จะให้ไปลากเอาช้างไปฉุดก็ไม่มา
    ถึงแม้บ้างท่านบอก ไม่ใช่แนวทางที่ตอนนี้สามารถถึงฝั่งพระนิพพานได้ ยอมรับว่า ใช่ เพราะมาทางโลกีย์ธรรม
    เพราะ การไปถึงฝั่งพระนิพพานไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยกำลังบารมีทุกประการรวมกัน ที่เรียกว่า บารมี 10 ทัศให้เต็มบริบูรณ์ และทานย่อมเป็นสิ่งเบื้องแรก ที่มนุษย์สามารถทำได้ง่ายสุด หากยังตัดใจซึ่งการบริจาคทานไม่ได้ จะไปหวังอะไรได้กับสิ่งอื่น ๆ ท่านใดที่ศึกษาพระพุทธประวัติ มาอย่างละเอียดละออ ท่านจะเห็นได้ว่า ทานเป็นสิ่งเบื้องแรกที่พระพุทธองค์ท่านทำ แล้วก็ทำบารมีอื่น ๆ ในเวลาต่อมา แต่ท่านก็ไม่เคยทิ้งซึ่งการให้ทาน ซึ่งแน่นอนว่า พระพุทธศาสนาและวัดพระธรรมกาย ก็สอนให้ทำทุกอย่างควบคู่กันไป ซึ่งในเบื้องต้น คงเป็นทานศีลภาวนา ส่วนบารมีอื่นไม่ว่า ปรมัตหรือเนกขัมมะ ฯลฯ ก็แล้วแต่กำลังของแต่ละคนล่ะค่ะว่า จะหนักไปทางไหน การที่บางท่านมีญาณ มีฌาญ ล้วนมาจากการกระทำในอดีตที่สั่งสมกันมา ระยะทางกว่าจะไปที่หวังจะยาวจะใกล้แค่ไหน ซึ่งทุกคนหวัง ฝั่งพระนิพพาน เพราะไม่ใช่การคิดการอ่านการนึกเอาเองนิค่ะ
    ส่วนศิษย์ธรรมกาย หวังไปถึงที่สุดแห่งธรรม ติดตามหลวงพ่อวัดปากน้ำ และหมู่คณะไป ซึ่งก็ยังไม่รู้อีกยาวนานแค่ไหน
     
  7. เสาวนีย์

    เสาวนีย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +251
    ด้วยความรู้อันน้อยนิดจริงๆ ขอตัวข้างพเจ้า
    แล้วที่ใคร ๆ บอกว่าทำบุญไม่หวังบุญ ใครทำบุญแล้วหวังบุญไม่ดี เราไม่เชื่ออะ อย่างน้อยหวังสุขในสิ่งที่ทำ ให้ไปด้วยความสบายใจในภพชาตินี้ นั่นมันก็คือความหวังเหมือนกัน หวังในสิ่งที่ทำ ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น พอเวลาทุกข์ใจหนัก ๆ หรือเจ็บป่วยหนัก ไม่หวังบุญเหรอค่ะ ให้มาช่วยปัดเปา
    ใครไม่หวังเช่นนี้ แล้วทำได้ด้วย ข้าน้อย ขอประนมกรกราบท่านด้วยความบริสุทธิ์ใจ ขอนับถือด้วยใจจริงค่ะ
    ^/\^
    ทำบุญไม่หวังบุญหนุนนำ นั่งสมาธิแล้วไม่หวังบารมี ไม่หวังอะไรเลย จะด้วยเหตุผลประการใดก็แล้วแต่
    เช่น ทำด้วยความสบายใจ หรือเป็นสิ่งที่ควรทำ ฯลฯ
    ขอถามท่านผู้รู้สักนิด แล้วจะเอาอะไรไปพระนิพพานค่ะ
     
  8. Tom

    Tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +289
    ถ้าสิ่งที่ทำอยู่เป็นสิ่งที่ดี ก็ให้มั่นใจทำไปเถอะ ไม่ว่าจะเป็นใคร หรืออยู่หมู่คณะไหน หากทำดีก็ดีทั้งนั้นแหละ อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติ ศาสนา เผ่าพันธุ์ หรือนิกายไหนๆก็ตาม ขอเพียงทำดีไว้ ผมก็ว่าOKแล้ว ต่างคนต่างทำหน้าที่ที่ดีของตัวเองให้ดีที่สุด

    ผมคิดว่าไม่ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร ทำสิ่งดีเข้าไว้ แล้วโลกจะเป็นดั่งที่เราฝันไว้
     
  9. wanted

    wanted Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +50
    อนุโมทนาด้วยกับการสร่างกุศลครับแต่ขักใจกับธรรมกายอยู่อย่างเดียวก็คือทำไมต้องทำบุญด้วยเงินถ้าพระถือศีล227ข้อถ้ารับเงินปรับเป็นอาบัติไช่ไหมครับช่วยติบให้ด้วยนะครับ
     
  10. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,107
    ค่าพลัง:
    +2,695
    เพื่อนผมไปบวชมาเหมือนกัน เค้าก็บอกว่าดีนี่นา หุหุ
    แต่ผมไม่เคยได้ไปเลยนะ
     
  11. tha99

    tha99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +66
    ผมก็เคยไปบวชครับ ประมาณปี 37 ตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอม ม.1 กำลังจะขึ้น ม.2 ครับ สนุกมากๆ เค้าให้ห่มขาวก่อน 1 อาทิตย์ แล้วบวชอีก 20 กว่าวัน (จำไม่ค่อยได้แล้วอ่ะ) ตอนแรกๆคิดถึงบ้านมากๆครับ เพื่อนๆที่ไปร้องไห้จะกลับบ้านกันเยอะมาก มีหลายคนทนไม่ได้ ขอกลับไปก่อนเลยครับ ส่วนผมนี่ใจแข็ง บ้านไม่โทร จดหมายไม่ส่ง ไม่ต้องมาด้วยครับ เดี๋ยวทำใจไม่ได้ (ใจแข็งแต่เด็ก)

    แรกๆลำบากมาก ตื่นตี 5 นอน 3-4 ทุ่ม ทุกวัน ตอนห่มขาวต้องท่องบทสวดอีก โดนสอบเป็นคนๆเลยครับ หลังๆมันทันเวลา หลวงพี่ให้สอบทีละ 4-5 คน ยากมากๆครับท่องตอนแรก หลังๆเพื่อนมันเอาบทสวดมาร้องเป็นเพลงแร๊ฟซะ ฮาโคดๆ ...

    ตอนบวชก็ไม่ค่อยมีอะไรเหมือนพี่อำนาจหรอกนะครับ เพราะว่ายังเด็ก ส่วนมากจะเฮฮา หลวงพี่มีให้เตะบอลบนลานธรรมด้วยครับ ช่วงใกล้จะสึก (เตะข้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ๆนั่นเลยอ่ะ มีอยู่องเดียว) ... ซักพัก มีโยมผู้หญิง 2 คนเดินมาครับ ท่าทางจะเคร่งมาก มาถึงว่าเณรใหญ่เลย "นี่เณรคะ เณรจะมาเตะฟุตบอลตรงนี้ไม่ได้นะคะ นี่มันสถานที่ศักดิ์สิทธ์ (แท่งทอง รึเปล่าไม่รู้) ไม่ใช่ที่ที่จะมาเล่นอะไรอย่างนี้นะคะ" ... เณรก็งงๆดิ อารายวะ มาว่าเณรอีก วันๆเณรได้แต่นั่งสมาธิ สวดมนต์ ฟังธรรม เณรยังเด็ก ขอเตะบอลไม่ได้หรองายว้า (คือคิดครับ เกิดพูดออกมา โยมหญิงว่าไม่หยุดแน่ๆ) ...

    ด้วยความจำเป็น เณรก็ต้องหยุดครับ กำลังเตะกันมันๆแท้ๆ ... เอ้อลืมไป ข้างหลังองค์พระจะเป็นเนินชันมากๆครับ ก็มีเณรบางกลุ่มเอาแผ่นกระดานแถวนั้นมาเล่นเป็นสเก็ตบอร์ดซะ ... แต่ก็ต้องเลิกกันหมดครับ โยมแกเอาจริง

    ตอนบวชนั่งไม่เห็นอะไรเลยครับ มืดสนิท แต่ดีมากๆครับ เพราะตอนสึกออกมาใหม่ๆเป็นคนใจเย็นมากๆๆๆ ไม่ขี้ตกใจด้วย เมื่อก่อนเป็นคนโมโหง่ายมาก อะไรนิดอะไรหน่อย หงุดหงิดหน้าเสียแล้ว ... มีอยู่ทีนึง เจองูตัวเล็กๆเลื้อยเข้ามาในบ้าน อยู่ข้างๆโอ่ง ยายผมกำลังเอาไม้เขี่ยๆไล่มันอยู่ ส่วนผมเดินปนั่งคุกเข่าดูมันเฉยเลย ลืมไป ไม่มีอาการกลัวเลยครับ

    ส่วนเรื่องวัดธรรมกายนี่ เมื่อก่อนดีมากๆครับ ต้องยอมรับ พี่ชายผม2คนก็เคยบวชวัดนี้ด้วย เมื่อก่อนไม่หรูเหมือนสมัยนี้ครับ แล้วเดี๋ยวนี้เริ่มคล้ายๆกับพยายามบังคับให้คนทำบุญ พวกครอบครัวผมก็เลยแยกตัวออกมาครับ (ออกมาประมาณ 8 ปีแล้ว เพราะมันเริ่มแปลกขึ้นทุกวันๆ)

    สุดท้ายนี้ ... ฟังหูไว้หางครับ เฮ้ยยยย ฟังหูไว้หูครับ
     
  12. tha99

    tha99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +66
    อ่านของพี่อำนาจ ที่บอกว่า "จนวันหนึ่งเริ่มมีอาการแปลกๆ นั่งแล้วตัวสั่นไปหมด น้ำตาไหล ขนลุกซู่ไปหมด หลวงพี่หลวงพ่อก็บอกว่าเป็นอาการปกติ เป็นปิติ ไอ้เราก็คิดในใจว่าปิติอะไร เจ็บจะตายอยู่แล้ว" ผมเคยเป็นด้วย แต่เป็นทีเดียวครับ ตอนนั้นรู้สึกตัวจะลอยๆด้วย แล้วผมเริ่มกลัวครับ ใจเริ่มเต้นแรง บวกกับที่แม่ผมบอกว่า เค้านั่งสมาธิแล้วเคยเจอวิญญาณมาจ่อตรงหน้า (เพื่อนก็เคยเจอ) ผมเลยชักหวั่นๆ เลยออกเลยครับออกกกกกก ตั้งแต่นั้นมา ไม่ว่าจะนั่งเป็นชั่วโมงก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยครับ สงสัยกลัวๆด้วย เหอะๆๆ ไม่อยากเจอผี
     
  13. Tom

    Tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2005
    โพสต์:
    266
    ค่าพลัง:
    +289
    (b-oneeye)

    เค้าหาเงินไปสร้างสิ่งต่างๆ ไม่ไช่เหรอ ถ้าไม่ทำบุญด้วยเงิน ทำด้วยข้าวปลาอาหารจะเอาไปสร้างได้ไหมล่ะ
     
  14. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +97
    ม่ายว่าครับม่ายว่า...ก็ตั้งกระทู้ให้ออกความเห็นนี่นา มีคนมาออกความเห็นแล้วจาว่าได้ไงครับ อิๆๆ

    ใครมีความเห็นแบบใหนก็ว่ามาอีกนะครับ จากลับมาอ่าน...
     
  15. kiatkiat

    kiatkiat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +825
    ยินดีด้วย กับทุกๆท่นครับ
     
  16. wanted

    wanted Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +50
    ตอบอีกที่

    อ้าวถ้าเกิดนำเงินมาจากจิตศัทธาก็คงจะดีแต่ว่าถ้าหากไปแจกพระหรือเครื่องรางของขลังคงจะไม่เป็นเงินที่บริสุทธิ์ไช่ไหมครับหรือจะอ้างว่าแจกให้เป็นของกำนังให้แก่ญาติโยมก็คงจะไม่ไช่อีกเพราะที่เราไปทำบุญนั้นเราไม่หวังสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว........มิได้คิดจะทำลายพุทธศาสนานะครับเพียงแต่ออกความคิดเห็น (deejai)
     
  17. Candle

    Candle เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2004
    โพสต์:
    269
    ค่าพลัง:
    +909
    โมทนาด้วยครับ คุณอำนาจ

    ดีใจครับที่ได้อ่านเรื่องของคุณอำนาจครับ เห็นความตั้งใจจริงที่จะบวชแล้ว รู้สึกดีๆขึ้นมาเยอะเลยครับ ผมเองเคยบวชเหมือนกันครับ เพิ่งสึกมาเมื่อปีที่แล้วเอง ผมจะคล้ายๆคุณอำนาจเหมือนกันครับ แต่ยังน้อยกว่าเยอะครับ ผมเห็นด้วยนะครับกับคุณอำนาจ ผมว่าการทำบุญก็ทำแต่พอให้เราไม่เดือดร้อนครับ ยึดหลักทางสายกลางครับ(||)
     
  18. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ขอบคุณครับคุณ อำนาจ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_28141", true); </SCRIPT> ที่เขียนให้อ่านกัน ผมก็อ่านจบ
    -------------------------------------------------------
     
  19. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ผมไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับธรรมกายและไม่รู้อะไรลึกๆ
    พอทราบรายละเอียดเล็กๆตามข่าวในทางลบ

    มองจากภาพรวมๆ ผมคิดว่า แนวการเผยแผ่พุทธศาสนาแบบของวัดธรรมกายนั้น ok
    สอนให้คนเป็นคนดีทำดี มีศิล สมาธิและปัญญา ได้ในระดับหนึ่ง
    และมีส่วนดีมากกว่าส่วนอื่น และน่าให้ความสนับสนุน
     
  20. ช่องนี้ช่องเดียว

    ช่องนี้ช่องเดียว บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    www.dmc.tv

    ท่านใดที่ต้องการทราบว่า แท้จริงแล้ว คำสอนที่แท้จริงของวัดพระธรรมกาย เป็นอย่างไร เหมือนหรือแตกต่างจากที่ท่านได้ฟังเขาเล่ามาหรือไม่อย่างไร ขอเชิญที่นี่เลยครับ www.dmc.tv
     

แชร์หน้านี้

Loading...