ภัยเงียบของพระศาสนา...การสอนให้เด็กรุ่นใหม่ๆไม่เชื่อพระไตรปิฎก

ครับ จากการสังเกตุผมเห็นว่า คนรุ่นใหม่ๆนั้น เขาไม่ค่อยสนใจในพระไตรปิฎกเท่าที่ควรเลย ทั้งที่เป็นคำภีสูงสุดของพระพุทธศาสนาศาสนาของเราเอง กลับไปเชื่อสำนักต่างๆ หรืออาจารย์ต่างๆที่มีความคิดเห็นที่ผิดๆ แต่อยากดัง

และเมื่อคณาจารย์เหล่านั้นศิษย์ถามว่าคำสอนหรือสิ่งที่อาจารย์บอก มันขัดกับพระไตรปิฎก แทนที่จะไปศึกษา กลับบอกว่า พระไตรปิฏกนั้น เชื่อไม่ได้ เพราะเขียนขึ้นมานานแล้ว ผ่านการสังคายนามาหลายครั้ง จึงบิดเบือนเชื่อไม่ได้ ต้องปฎิบัตเท่านั้นถึงจะรู้ .

...โถ.....ตอบศิษย์ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร ทำไม ต้องมาใส่ร้ายพระไตรปิฎกด้วยนะ การสังคายนานั้น กระทำโดยพระอรหันต์ผู้ซึ่งมีสติสมบูรณ์ ดังนั้น มั่นใจได้ว่าไม่ผิดเพี้ยนแน่นอน

...และที่สำคัณ พระไตรปิฎกที่เราใช้อยู่นี่ แม้แตต่างชาตยังรับรองว่า เป็นฉบับที่คงเดิมและน่าเชื่อถือที่สุดในโลก เพราะไม่มีการตัดทอนหรือแก้ใขไดๆเลย ........

อิสลามเขามีอัลกุรุอ่านเป็นคัมภีสูงสุด ใครว่าคัมภีเขาบิดเบือนเขายังเอาจนแทบตาย......

พระคริสเขาก็มีพระคัมภี ซึ่งถือว่าลบหลู่ไม่ได้ และห้ามวิจารณ์...

แต่ชาวพุทธเรากลับบอกว่าพระไตรปิฏกไม่น่าเชื่อถือ........

น่าอายยิ่งนัก อย่าทำอย่างนี้เลย สุดท้ายแล้วคนที่ทำลายศาสนาก็คือสาวกนั่นเอง.....
[bw-cry]

 

อ่ามีด้วยเหรอครับ ..... ใครกันนะ อย่าไปเครียดเลยครับ
ของดี มันย่อมดีจริง อยู่ในตัวอยู่แล้ว คนปฏิบัติดี สังคมก็ดี
คนรุ่นใหม่ที่กล่าวถึงอาจเป็นแค่บางส่วนนะครับ จริงๆผมว่า เฉพาะในเวบนี้ก็มีคนดีๆ
ตั้งมากมาย เราต่อยอดจาก ฐานเดิม น่าจะดีกว่านะครับ พัฒนาสังคมในนี้ และขยายวงออกไป
ผมว่าที่นี่ละ ที่ใช่เลยในความคิดผม หากมีการลงพระไตรปิฏก ลงในเวบนี้ คงจะเป็นสิ่งที่ดีอย่างยิ่ง
และค่อยๆ ทำให้คนอื่นเข้ามาอ่านกัน น่าจะดีนะครับ

 

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในหลักกาลามสูตข้อนึงว่า อย่าเชื่อ เพียงเพราะตำรับตำราเขียนไว้ และอย่าเชื่อเพียงเพราะศาสดาตรัสไว้ การไม่เชื่อในพระไตรปิฎกนั้นก้อไม่คงไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชาวพุทธกระมังครับ เพราะตราบใดก็ตามที่ชาวพุทธคนใดคนหนึ่งไม่เชื่อในพระไตรปิฎกเขาก็ต้องย่อมศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลมาอ้าง หาเหตุผลมางัดล้าง เป็นการพัฒนาปัญญาของตน และเมื่อเขาศึกษามากขึ้นก็ต้องมีความรู้ความเชียวชาญแตกฉานขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก้อเข้าสู่หลักกาลามสูตข้อสุดท้ายที่กล่าวว่าบัณฑิตย่อมเชื่อด้วยเหตุและผลที่ประจักษ์แจ้งด้วยตนเอง...

 

กาลามสูตรนั้น เข้าอกว่าอย่าเชื่อก็จริง แต่เขาหมายถึงว่า ให้ปฏิบัติน่ะ ให้เห็นเองเกิดปัญาเอง ผมเองก็สังเกตเห็นเช่นเดียวกันกับมารสะท้านว่าคนสมัยนี้เขาเชื่อแบบนี้กัน เดือนที่แล้วเจอตั้งสามราย

 

เราปฎิบัติตามทางพระไตรปิฎกเหมือนกับหนังสือเดินทางเข้าสู่หนทางพระนิพพานมิได้เป็นหนังสือที่จะให้ใครเชื่อหรอืไม่เชื่อ

 

ไม่หรอกครับ คุณมารสะท้าน

ปัจจุบันมีพระไตรปิฎกออกมาหลายเวอร์ชัน แล้วยังมีหนังสือธรรมะที่คัดลอกเอาบางส่วนพระไตรปิฎกมาอ้างอิงพร้อมลงหมวดหมู่ไว้ด้วย ผมว่าพอคนรุ่นใหม่อ่านแล้วอยากรู้เพิ่มสามารถเข้าไปค้นหาในเวบไซท์ได้เลยสะดวกดี

ยิ่งมีเวบไซท์พระไตรปิฎก พระไตรปิฎกฉบับซีดี พจนานุกรมพุทธศาสตร์ฉบับประมวลศัพท์ ผมว่าคนรุ่นใหม่เข้าไปอ่านธรรมะในพระไตรปิฎกได้ง่าย สะดวกขึ้น การค้นหาก็ทำได้ง่ายกว่าสมัยรุ่นพ่อ รุ่นปู่อย่างมากๆเลยครับ

ผมว่าคนรุ่นใหม่ๆจะมีความคิดเป็นตรรก ชอบความเป็นเหตุเป็นผล(พุทธจริต) มากกว่าความเชื่อแบบเชื่อไม่มีเงื่อนไข ชอบคนพูดน่าฟัง น่าเลื่อมใส (ศรัทธาจริต) เพราะฉะนั้นเมื่อถึงจุดหนึ่งๆเขาก็จะหันเหมาค้นคว้าตำรับตำราเพิ่มอยู่ดีครับ เมื่อก่อนคนอาจละเลยพระไตรปิฎกไปเนื่องจากมันเยอะ ค้นคว้ายาก แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันผมว่ามันสะดวกมากเลยครับ
(b-smile)

 

ขอขอบคุณคุณมารสะท้านที่ได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาครับ เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้วครับ มันมีการสอนถึงขนาดว่าบางเรื่องในพระไตรปิฏกไม่ใช่เรื่องจริงทั้งที่คนสอนก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงอย่างไรหรือเท็จอย่างไร กลับสอนไปถึงว่ามารมันดลจิตดลใจให้ผู้เรียบเรียงหรือสังคยานาแอบเติมข้อความบางอย่างลงไป และก็มีคนเชื่อว่าเป็นเช่นนั้นจริงด้วยความเชื่อในตัวครูบาอาจารย์ของตน ศรัทธาจนกลายเป็นงมงาย และศาสนาจะเสื่อมก็เพราะคนเหล่านี้ครับ ต่อไปพระไตรปิฏกอาจจะเป็นหนังสือต้องห้ามที่ต้องวางไว้บนแท่นบูชาต้องเฉพาะผูมีบุญบารมีเท่านั้นจึงอ่านรู้เรื่อง สั่งสอนขนาดที่ว่าตัวอาจารย์เองมีบารมีมากกว่าพระพุทธเจ้าสามารถอัดบุญให้คนเข้าถึงธรรมมะได้ ถ้าเป็นแบบนี้มันไม่ใช่ศาสนาพุทธแล้วครับน่าจะไปตั้งเป็นศาสนาใหม่ให้รู้แล้วรู้รอดไป คนจนแทบจะไม่มีโอกาสได้ไปนิพพานเหมือนคนอื่นเขาเพราะใช้เงินซื้อสวรรค์นิพพานเป็นเรื่องของคนรวย มีแต่ข้ออ้างที่เป็นเรื่องสนองกิเลสของตนเองแทบทั้งสิ้น ใครไม่ทำตามอย่างที่ตนทำก็บอกว่าพวกนี้มันเป็นมารไปแล้ว มันเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก ทำไมพวกเราไม่ลองหันมาปฎิบัติแบบจริงๆจังให้ธรรมเกิดขึ้นในจิตใจของเราเองเป็นที่พึ่งแห่งตนเองได้
พระพุทธองค์บอกทางให้เราอย่างพร้อมมูลแล้วอย่าไปมัวเทิดทูลบูชาคนอื่นอยู่เลยมันไม่ได้เกิดมรรคผลอะไรเลย
ครับ ลองถามตัวเองดูว่าจิตของเราเคยได้รับความสงบละเอียดปราณีตบ้างไหม มองเห็นกิเลสที่อยู่ในใจมีอะไรบ้างลดละไปได้แค่ไหน มีความเพียรในการปฎิบัติมากน้อยอย่างไร ทำตามแบบอย่างพระพุทธองค์หรือยัง ถ้าเราทำตามอย่างพระพุทธองค์แล้วผมเชื่อว่าพวกเราจะรักษาศาสนาไว้ได้
สุดท้ายผมมิได้กล่าวโจมตีใครหรือสถานปฎิบัติธรรมใดแต่เขียนจากประสบการณ์ที่ได้ประสบพบมาเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจให้พวกเราช่วยกันรักษาศาสนาของเราไว้ให้มนุษยชาติสืบต่อไป

 

คุณ prarahu ครับที่ว่า "ตัวอาจารย์เองมีบารมีมากกว่าพระพุทธเจ้าสามารถอัดบุญให้คนเข้าถึงธรรมมะได้" จากประสบการณ์ของคุณคือสำนักไหนครับที่เพี้ยนได้ขนาดนี้ หากไม่สะดวกตอบทาง Private Message ได้นะครับ

 

ต้องขอโทษคุณกรุงเก่าที่ผมไม่สามารถตอบได้เพราะกลัวติดคุกและกลัวอิทธิพลมืดครับ แม้กระทั่งพระระดับบิ๊กๆยังไม่กล้าจัดการอะไรเลยครับ แต่ผมจะบอกให้ว่าคุณรู้จักดี ทุกอย่างทำเป็นระบบถ้าไม่เข้าไปสัมผัสจะไม่มีทางรู้
พวกที่เข้าไปหลงเป็นแค่เปลือกที่ได้สัมผัส พวกที่จะได้รับการอัดบุญต้องได้รับการคัดเลือกครับแน่นอนกระเป๋าต้องหนักครับ และค่อนข้างจะมีชื่อเสียงพอที่จะเป็นกระบอกเสียงให้เขาได้
สุดท้ายผมขอร้องว่าห้ามเดาหรืออ้างชื่อวัดใดวัดหนึ่งขึ้นมานะครับเดี๋ยวลูกศิษย์ของเขาจะมาต่อความยาวสาวความยืดอย่างไม่จบสิ้น ผมเขียนแค่นี้ก็อาจจะมีการรายงานไปถึงพวกเขาแล้วก็ได้

 

อึ่ม..สงสัยจะเป็นที่เดียวกับที่ผมทราบมาว่าสั่งวัตถุเหมือนพระบรมสารีริกธาตุแบบเม็ดข้าวสารจากเชียงรายมาเมื่อเร็วๆนี้สงสัยเอาไว้ให้คนทำบุญหรือบูชา แต่บังเอิญที่มีผู้รู้ได้สัมผัสก่อนแล้วให้เป็นที่สงสัยว่าแบบอื่นๆก็มีบารมีหมดแต่พอทดสอบชุดที่ถูกสั่งคัดสวยๆเพื่อที่นี่ไหงบารมีหายไปไหนหมด สงสัยต้องให้คุณบัวใต้น้ำไปดูถึงที่ว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นดังว่าจริงหรือไม่แต่กลัวแกจะไม่ไปเพราะไม่อยากไปยุ่ง เคยได้ยินมาคนที่เคยนวดใกล้ชิดก็ไม่ไปแล้วผมพยายามตามหาอยู่อยากรู้ว่าทำไม คนเราจะดีก็ต้องทั้งต่อหน้าและลับหลัง เอกิเลสผมนี่ยังเยอะอยู่นะยังชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านอยู่จึงยังไม่ไปไหนซะที สวัสดีครับ

 

คนนวดใกล้ชิดรู้อะไรดีๆเยอะครับ ถ้าคุณเจอท่านให้ท่านเล่าแล้วคุณต้องอ้าปากค้าง มีหลายเรื่องครับที่ผมไม่กล้าเล่าให้ฟัง ฟังแล้วไม่ประเทืองปัญญาเลยครับ อีกอย่างพวกที่เป็นลูกศิษย์ชอบดูถูกคนอื่นและยกตนข่มท่านว่าตัวเองเจอของดีที่สุดในโลกแล้วแต่ละเรื่องมีแต่เขาเล่ามาทั้งนั้น น่าเอาเวลาไปปฎิบัติให้มันได้มรรคผลขึ้นมาจะดีกว่า เวลาที่มีอยู่ไปดูแลพ่อแม่เถอะชาติไหนๆก็ทดแทนบุญคุณท่านไม่หมด มาเสียเวลากับการมานั่งยกย่องกับคนไกลตัวที่เราหลงว่าเขาเป็นผู้วิเศษยอมตายถวายชีวิตให้ยังได้ ทั้งที่ไม่เคยรู้เบื้องหน้าและเบื้องหลังว่าเป็นมาอย่างไร ไอ้ที่กล่าวมาทั้งหมดผมเป็นมาแล้วทั้งนั้น กว่าหูตาสว่างเสียเวลาไปเยอะและเป็นโชคดีที่ไม่เคยห่างจากธรรมมะ ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าการเล่าเรื่องของกระผมทำให้ผู้ใดขุ่นข้องหมองใจก็ต้องขออภัยเพราะมิได้มีเจตนาร้ายแอบแฝง และคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกฎแห่งกรรมครับ

 

เอ...แล้วตกลงว่าครายหว่า......

 

คือครอบครัวผมทั้งหมดยกเว้นผมนะครับ เป็นสาวกที่นี่ทั้งหมด มีผมคนเดียวที่ค้าน เพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะอธิบายให้เข้าใจได้ครับ และผมก็ถือว่าชั่วดีอยู่ที่คนฟังแล้วคิดและนำไปปฏิบัติหรือเปล่าน่ะครับ ไม่ได้อยู่ที่คนสอน เพราะคนสอนก็เอาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาหากินเท่านั้นแหละครับ ไม่ทราบว่าคุณพระราหูพอจะเปิดข้อมูลอะไรสักนิดได้ไหมครับ เพราะทุกวันนี้เหมือนผมเป็นแกะดำคนเดียวครับ แต่ผมไม่ได้จะไปบอกต่อหรอกนะครับ เพียงแต่ว่ารู้เพื่อความแน่ใจมากขึ้น ว่าผมไม่ได้บ้านะ...กลัวบ้าครับ
ขอบคุณมากครับ (เอาแบบส่วนตัวก็ได้ครับ หรือทางอีเมล์ก็ได้ครับ)

 

ใครเคยได้ยินเรื่องที่องค์สมเด็จโตเสด็จหนีเข้าป่าเพราะไม่ต้องการทำสังคายนาพระไตรปิฎกมั่ง


ถามเฉยๆ

ถึงคุณมารสะท้าน


กระเจียวขออนุญาติก๊อปปี้รูปยันต์พระพุทธจักรนะคะ ก็อปไปแล้ววว

 

Don't worry baby! ไม่ต้องไปใส่ใจครับ พระพุทธศาสนาไม่ใชศาสนาที่คนบารมีน้อยวาสนาน้อย จะศรัทธาได้โดยง่ายครับ ใครจะว่าไรก็ตาม ดีชั่วไม่ได้อยู่ที่ปากคนพูดครับ หากแต่ดีชั่ว เป็นกฏที่มีอยู่เอง ไม่ว่าใครจะพูดไปแบบใด แต่กฏธรรมชาติทั้งหลาย ยังเป็นไปตามกฏครับ มีเกิดทุกสมัย มีตายทุกสมัย สิ่งทั้งหลายไม่เที่ยง โปรดตั้งใจทำความดีของเราต่อไปเถอะครับ.








[b-hi]

 

ค้นกระทู้นี้เจอจากgoogleครับ เรื่องสมเด็จโตเสด็จหนีเข้าป่า ตอนถูกเชิญไปช่วยสังคายนาพระไตรปิฎก ไม่ทราบใครพอจะมีหลักฐานเรื่องนี้บ้างครับ ต้องการนำไปลงสกู๊ปในจุลสารของชมรมจริยธรรมที่บริษัทครับ