เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

กู่สันตรัตน์ ต.กู่สันตรัตน์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม
อาจารย์สามตาพาเที่ยวกู่เมืองอิสาน
คำว่า "กู่" ก็คือ ปรางค์ หรือ ปราสาทค่ะ


เชิญอาจารย์ พี่เห็ดหอม พี่sid2 เล่าเลยค่ะ จะมาเติมรูปให้อีกที
มาทัวร์กับชมรมคนตาทิพย์ ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปแน่นอน
เอ...ว่าแต่อาจารย์กะพี่sid2 ขูดเลขมาเผื่อป่าว อิอิ
พี่เห็ดหอมค่อยเป็นพระเอกชุดขาวตอนใกล้จบแล้วกันเนาะ ให้เป็นตากล้องไปก่อน 555...

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
ตอน เส้นทางสู่พระธาตุนาดูน
......................................................................

พอจอดรถสนิท ก็ก้าวลงมายืน...มองไปรอบๆๆ
ทางขวามือเป็น เรือนไม้เก่าแก่ โทรม..อายุน่าจะเกิน 100 ปี
ทางซ้ายมือ เป็น ตึกใหญ่กำลังก่อสร้าง..เห็นนั่งร้าน ยังค้ำอยู่
เป็น อาคารขนาดใหญ่ หลังคาทรงไทย..เหมือนศาลากลางจังหวัด ทั่วๆๆไป
คงจะเป็น ศาลา ปฏิบัติธรรม...เพราะไม่เห็นวัด
.......................................................................
ตรงหน้า เป็น เต้นท์ มี พระพุทธรูปตั้งอยู่ ตามรูป ที่ คุณ ตัว กลมๆๆ เอาขึ้นมา

เราสามคน จึงเดินตรงเข้าไปกราบพระพุทธรูป
ขณะที่กราบ มีพลังเย็น แห่งพุทธบารมี ลอย ออกมาสัมผัส
ซึ่งเป็นอย่างนี้ ทุกครั้งที่ได้มากราบองค์พระ ที่ ศักดิ์สิทธิ์
................................................................

 

มองเห็น กล่องใส่ปัจจัย..ถวายวัด อยู่ ข้างๆๆ
ก็นำซองใส่เงิน ที่บรรดาสมาชิก ได้ มาทำบุญไว้ที่บู๊ธ 042
ก่อนมา ตั้งใจ..จะแวะทำบุญ ไว้ สามวัด...นี่คือ สถานที่แรก
ก็หยิบซองแรก ..จบพนมมือ แผ่บุญ แทน สมาชิก
ทั้งหลายที่ได้สละเงินบุญไว้...ใส่ลงในตู้..
ด้วยความรู้สึกซาบซ่าในแรงบุญ
....................................................................
การมาทำบุญ ที่ บู๊ธ 042..เป็นการทำบุญที่ ให้ความรู้สึกสัมผัส
ต่างกับ การไปทำบุญที่ วัด..ที่ ต้องใส่ตู้
ระบุ..ค่าน้ำ/ค่าไฟ ..ค่าธรณีสงฆ์ ..ฯลฯ
แต่ที่บู๊ธ 042 เป็นการส่งบุญ แบบ อี เอ็ม เอส EMS
...........................................................
ขณะที่ ส่งบุญ โดยการชูมือขึ้นสูง..เพื่อ จิตขึ้นไปสูง สู่เบื้องบน
กล่าวถวายบุญ ต่อ หน้า บรรดาเทพ ที่ อยู่ ณ ที่ นั้น
และมี บรรดา เจ้ากรรมนายเวร มารอ รับ บุญ ต่อ หน้า เทวดา และเทพ
...............................................................................
พอ จิตเราส่ง..สิ่งที่ เป็นพลังชีวิตของเรา..คือ งูไฟสองตัว ที่เรียกว่า
กุณฑลินี Kundalini...ที่ นอนอยู่ที่ปลายก้นกบ.
.จะยืดตัว นำบุญส่ง....ยืดตัวผ่าน เราขึ้นไปยัง ส่วนที่สูงสุด ของร่างกาย
คือ..กระหม่อม บนศีรษะ
ขณะที่งูไฟ สองตัว ผ่านกายเราขึ้นไป..
เราจะมีอาการเสียว ซ่านซ่า ที่ ตลอดสันหลัง.
.ขึ้นไป จนถึงกระหม่อม
...............................................................
เป็นอาการที่ ผู้ใดมาทำบุญ แบบ อี เอ็ม เอส..จะรู้สึก เช่นนี้ ทุกคน
ทำให้แน่ใจ ว่า บุญ นั้น..เจ้ากรรมนายเวร มารับแล้ว แน่นอน
ใครอยากมีความรู่สึกเช่นนี้..ให้มา ลองได้
ถ้าไม่รู้สึก ..ตามที่ว่า..ให้มาเอาเงินคืนได้
................................................................

 

ทำบุญ เสร็จ เรียบร้อย..ก็จะ..ก้าว ถอยกลับออกมา
ก็ได้ ยินเสียง คนพูด...... ก็หันไปดู
อ้อ มีพระสงฆ์ มานั่งอยู่ ด้านหลังที่ มองไม่เห็น ในตอนแรก
"ให้ขึ้นไป บนศาลานะ..มีของดี...ขึ้นไปเถอะ " ท่านย้ำ
.................................................................
เราก็หันกลับ แล้ว เดินมาที่ศาลา ที่ ค่อนข้างทรุดโทรมมาก
วศาลาโย้เย..บรรไดเอียง..และผุ เพราะ ความเก่า
เราค่อยๆๆ ย่องก้าวขึ้นไป..แบบ คลานสี่ตีน..เพราะกลัวบันไดหัก
.........................................................................
เป็นเรือนไม้ยกสูง ชั้นเดียวขนาด 5 คูร 8 เมตร...พอโผล่ขึ้นไป
อ้อ...ทำเป็นพิพิธภัณฑ์..เก็นพระเครื่อง และ พระพุทธรูป
ใส่ ในตู้กระจกใส..ให้มองเห็น
บางส่วนมี..ซี่กรงป้องกันการถูกโจรกรรม
.....................................................................
ลองสัมผัสพลังดู..ก็พบ ว่า แรง พอ สมควร
เป็นพลังในรูปแบบ ของ พระธาตุนาดูน..
ที่ผู้คนกำลัง นิยม และแสวง
เมื่อ จบ เราก็ ถอย กลับลงมา
ออกรถ..สู่ด้านนอก เพื่อ เดินทางต่อ
.......................................................
ออกมาก็เลี้ยวขวาทันที
เพราะ ประตูของ สวนธรรม กับ กู่ สันตรัตน์ อยู่ติด กัน
เลี้ยวเข้าไป..ตาก็มองกวาดไป ทั่ว
มองเห็นว่า ที่ นี่ จัดทำเป็นสวนสาธรณะ ส่วนหนึ่ง
แยก ตัว กู่ หรือ ปรางค์ออกไป โดยมี แนวรั้ว กำแพง หินทรายแบ่งเขตไว้
.............................................................................
ส่วนที่เป็น สวนสาธรณะ..จัดทำ เป็น กรีน สนามหญ้า เขียว
มี สระน้ำใส..น้ำเย็นตา..ริมสระ ผู้คนเอาเสื่อและ อาหารปิคนิค
มานั่งกินกันแบบครอบครัว...มีรถจอด อยู่ใกล้ๆๆ 4-5 คัน
..................................................................
ขณะนั้นเวลาเกือบ บ่ายสามโมง..เราต้องรีบหน่อย
เดินลิ่วๆๆเข้า หา ช่อง ประตูเข้าของ องค์ปรางค์ ที่เห็น อยู่ทางขวา
พอมาถึงช่อง..ก็หยุดพนมมือ..กล่างขอ อนุญาต เจ้าที่ เพื่อ เข้าไป
........................................................................
(มีต่อ)

 

ตอบ คุณ Aries
วัดนางนอง เมื่อ ตรวจด้วยพลังพุทธบารมี
พบว่า เป็น 1 ใน 18 วัด ที่เราได้ พบว่า เป็นวัดที่ พระศรีอาริย์ ได้ เลือกไว้
เรารู้..โดยสัมผัส แต่ยังไม่ได้ ไป กราบที่ วัดนี้..
คงจะเป็นเพราะอยู่ใกล้เกินไป..จึงยังไม่ได้ ไป
.........................................................................
ใครมีบุญ ถึง ไปไหว้ ก่อนได้ เลย ครับ
............................................................................

 

ยินดีในบุญครับคุณตัวกลม
ผมขอเป็นตากล้องละกันไม่ขอเป็นนายแบบ
ล่องใต้มาหลายวัน ระนองยันกระบี่
เมื่อวานมีโอกาสได้ไปวัดถ้ำเสือ
ได้กดพิมพ์พระประจำวันเกิดบรรจุเป็นพระ
ไว้ในองค์พระธาตุที่กำลังก่อสร้าง

วันนี้ท่านใดคิดว่าจะแวะไปทักทาย
อาจารย์อาชวินขอเป็นวันจันทร์นะครับ
วันนี้อาจารย์หยุดหนึ่งวัน

 

ยินดีในบุญค่ะพี่เห็ดหอม ไปทำงานยังหาโอกาสทำบุญตลอดเลยนะคะ
*************************
มา ลงรูปให้อาจารย์สามตานี่ ตัวกลมเลยได้ความรู้อีกเยอะ
ที่กู่สัน ตรัตน์ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ สมเด็จพระราชินีนาถ เสด็จมาทอดพระเนตร ตามจารึก
แล้วคราวต่อมาก็ยังมี สมเด็จพระพี่นางเธอฯ สมเด็จพระเทพฯ เสด็จมาที่นี่ด้วย
แสดงว่า ต้องมีความพิเศษใช่มั้ยล่ะคะ



กู่ สันตรัตน์ แผนผังเหมือน อโรคยาศาลา ทั่วไป
สำหรับบรรณาลัย กล่าวกันว่าเป็นที่เก็บคำภีร์ทางศาสนา สูตรยา บ้างก็ว่าเป็นที่สำหรับเปลี่ยนชุด
เตรียมการก่อนเข้าทำพิธีที่องค์ ปราสาทประธาน หรือบางครั้งยังว่าเป็นที่ส่งศพ เพราะพบรูปปั้นพระยม




บริเวณ ด้านหน้า ร่มรื่นมีการแวะมาจอดรถ รับประทานอาหาร



มอง จากซุ้มประตู(โคปุระ) จะเห็นทางเดิน ไปสู่องค์ปราสาท ด้านซ้ายเป็นบรรณาลัย
อาจารย์ สามตา กับพี่sid2เดินวนรอบองค์ปราสาทประธาน เพื่อค้นหาสถานที่ สถิตย์ของผู้ดูแล

 

บาราย(สระน้ำ) ที่บูรณะแล้ว มีพญานาคเฝ้า คงความศักดิ์สิทธิอยู่


ใกล้ๆสระน้ำ มีการนำวัตถุมงคลไว้ให้บูชา พิมพ์พระธาตุนาดูนทำใหม่ เต็มตู้ แต่ทว่า
พลังไม่เต็มเท่าของจริง


กำลังจะเดินกลับไปที่รถแล้วเชียว ได้ยินเสียงแว่วๆจากทางด้านหลัง เลยอดไปดูไม่ได้
ไปเจอกองศิลาแลง ซากส่วนของกำแพงกู่ด้านหลัง เลยช่วยกันส่งบุญให้วิญญาณเจ้า
ของเสียงที่ต้องการบุญนั้น

 

มีวัดแห่งพระศรีอริยเมตตัยที่มีอยากทราบว่าวัดใดบ้างเท่า

ที่เคยได้ไปกราบและสัมผัสมีอยู่หลายวัดดังนี้

วัดคุ้งท่าเลา ลพบุรี

วัดไลย์ ลพบุรี

วัดราชาธิวาส สามเสน กทม.

วัดนางนองวรวิหาร จอมทอง กทม

วัดเฉลิมพระเกียรติ นนทบุรี

วัดปัญญานันทาราม คลองหก ปทุมธานี

วัดสระลองเรือ บ่อพลอย กาญจนบุรี

วัดเขาคีรีวงค์ นครนายก

วัดพร้าว โพธิ์พระยา สุพรรณบุรี

วัดพระศรีอริยเมยตัย ราชบุรี

มูลนิธิพระเจ้า5พระองค์ หนองคาย

วัดไชยาติการาม อำนาจเจริญ

วัดสุวรรณาราม ชุมพร

หอพระพทุธสิหิงค์ นครศรีธรรมราช

วัดมงคลสุธาวาส พังงา

วัดเขาวง พรหมจรรย์ อุทัยธานี

วัดศรีโคมคำ พะเยา

วัดบ้านป้าง อ.ลี้ ลำพูน

วัดสะแก พระนครศรีอยุธยา

วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา

วัดป่านานาชาติ อุบลราชธานี

วัดพระแก้ว เชียงราย

วัดอักโขชัยคีรี ลำปาง

23 แห่ง ท่านใดอยู่ใกล้วัดใดเชิญนะครับ

มีข้อมูลที่ใดเพิ่มจะแจ้งเพิ่มเติมนะครับ

 

เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
บนเส้นทา่งสู่ พระธาตุนาดูน มหาสารคาม
..........................................................
ยืนสงบที่ทางเช้า...เห็น สิ่งก่อสร้างด้วนศิลาแลง สามหลัง
มองหาว่า..เจ้าที่ อยู่ ณ หลังใด
คำตอบจากสัมผัส...มาจากปรางค์องค์กลาง..ที่เป็นประธาน
ก็ตรงเข้าไป...ค่อนข้างเร็ว เพราะ ต้องทำเวลา
.....................................................................
พอผ่านช่องประตููู กลาง...มีพลังแรงจาก กรอบประตูหิน..
มาปะทะทำให้ ตัวชา...อ้อ เขามาต้อนรับที่หน้า ประตูเลย
เราก็ กล่าวขอบคุณ ที่ มาต้อนรับ.และอนุญาติ ให้เข้ามา
.............................................................................
เดินเข้าไป ห้องใน...ไม่มีพลังใดๆๆ.
.แปลว่า เขาไม่อยู่ ที่ นั่น
ก็ออกเดินดู..ศิลป ภายนอก โดยรอบ..และตอยดูว่า เขาตามมาด้วยหรือ เปล่า
ก็ไม่พบ ว่ามีพลังใดๆๆโดยรอบ
แต่พอแหงนหน้า มอง สูงที่ ยอดปรางค์..พลังวิ่ลงมาทันที
..............................................................
อ้อ!!!...เขาไปอยู่บนยอดสูง
จากตำแหน่งนั้นมองเห็น โดยรอบ...
เขาจึงมองดูเรา..โดยไม่ต้องเคลื่อนที่ ตาม
...............................................................
พอเ้ดินดูและสัมผัสพลังได้ ครบถ้วนก็กล่าวขอบคุณ และลาเจ้าที่
..เดินออก มายังรถ...เดินยังไม่ถึงรถ..ก็มีเสียงเรียกมาจาก ด้านหลัง
ทั้งหมด รู้สึกเหมือนๆๆกัน...ก็หันกลับไปมอง ว่า มีใครส่งจิตเรียก หรือ ??
............................................................................

 

มองเห็นจากระยะ..ค่อนข้างไกล
เป็นกองก้อนหิน ศิลาแลง กองสุมๆๆ..คล้ายกองขยะที่กองไว้
จึงเดินเข้าไปใกล้ๆๆ..จนมายืนชิด กองหิน

เข้าใจว่า ในการบูรณะ สิ่งก่อ สร้างทั้งหมด ที่ กาลเวลาผ่านไป นับพันปี
บูรณะ สิ่งก่อสร้าง ส่วนใหญ่ ให้ สวยงามได้ เรียบร้อย (ดูจากรูป)
ที่เหลือ คงจะเป็น ส่วนเกิน..ยังไม่มีเวลาและงบประมาณ ทำต่อ ..เลยกองไว้
...................................................................................
ใครเรียกเราหว่า ..ทางจิต
ก็ใช้ตาในมอง ที่ กองหินศิลาแลงนั้น
ที่ก้ิอนใหญ่ ตรงกลาง เห็น พญานาค เศียรเดียวเฝ้า อยู่
คงจะเฝัา ไม่ให้ ใครมา ขโมย /ยก เอาก้อนหินไป...นั่นเอง
..................................................................
เขาเหงา...ไม่มีใครมาเห็น เขา..มาคุยกับเขาได้ ทางจิต
พอพวกเรามา..เขาก็รู้ว่า คุยกับเราได้..จึงได้ ส่ง จิตเรียกเรามา
เขาบอกเราว่า..เฝ้ากองหินนี่ มานานแล้ว...เป็นหน้าที่..ไปไหนไม่ได้
เรื่องเหนื่อย และ น่าเบื่อ นั้น....ไม่ต้องพูดถึงเลย
.........................................................................
เราจึง กล่าว อนุโมทนา บุญ..ที่เขาได้ ทำหน้าที่ เป็น รปภ..มานานนัน พันปี
เขาก็พอใจที่ได้ สนทนากับเรา...และแผ่บุญให้เขาด้วย
.................................................................

 

เดินกลับมาที่รถ....ทางขวามือ มีสระน้ำ..หรือ สระโบกขรณี
เก็บน้ำไว้ พิธีกรรมที่ศักดิ์ สิทธิ์...มองลงไปในสระ
เห็นพญานาคเฝ้า อยู่...แต่เราจะรีบไป..จึงไม่อยู่.... รอสนทนาด้วย

ทางซ้ายมือ..มี ร้านค้าย่อย...มีตู้กระจก..ตั้งโชว์
ในตู้ มี พระเครื่องให้เช่า บูชา...เป็นพิมพ์ พระธาตุนาดูน.
เราดูและสัมผัส พลัง พบว่า..เป็นของทำใหม่..เลียนแบบ
พลัง จึงไม่ใช่...ราคาเช่า59 /129/200 บาท

ในขณะที่ี ของแท้.ราคาเช่า ขึ้นหลัก หมื่น..ภึงแสนบาท
ที่ในปัจจุบัน ผู้คนแสวงหา กัน..เนื่องจากแรงทางด้าน แคล้วคลาด
จนมีการโจรกรรม ไป จาก พิพิธภัณฑ์..แล้วไป ขาย.
.และถูกจับได้ ในที่สุด (ตามข่าว หนังสือ พิมพ์ เมื่อไม่นานมานี้)
.......................................................................

 

ดูอาจารย์ผอมๆ ไป รักษาสุขภาพด้วยนะขอรับ

 

เรื่องเล่าก่อนนอนคืนนี้ (ต่อ)
บนเส้นทางสู่ พระธาุนาดูน มหาสารคาม
...................................................................
มีคนสงสัยและถามกันมามากว่า
เวลาเล่า การไปพบ มหาเทพ หรือ สิ่งศักดิ์ สิทธิ์ ตามสถานที่ ต่างๆๆ
การมองเห็นและการสัมผัสเป็น ยังไง
ก็นึกขึ้้นได้ ว่า..เออ...จริง..ไม่เคยบอกใครเลย..ในเรื่องนี้
.........................................................................
การตอบ จึงต้อง การอธิบาย ในทางวิชาการหน่อย
เพราะ เป็นของ วิทยาศาสตร์...ไม่ใช่การมั่วแต่ประการใด.

1. คนเรามีร่างกาย..ทางหลักของพลัง..คือ เรามีธาตุสี่ ดิน/น้ำ/ลม/ไฟ
เราจึงต้องกินข้าว และอาหาร...นั่นคือ ส่วนใหญ่ ที่เป็น ธาตุดิน

กินอาหาร..............................ได้ ธาตุดิน

พอกินอาหาร...เราก็ต้องกิน น้ำ.......ได้ ธาตุน้ำ

เราหายใจเข้าไป ................. ได้ ธาตุลม

เราได้่ ออกซิเจน จากอากาศ..........ได้ ธาตุไฟ

เมื่อ ครบธาตุทั้งสี่..ชบวนการเพื่อชีวิตได้เริ่มขึ้น.
เกิดกระบวนการที่เรียกว่า..เมตาบอริสซึ่ม..การเผาเพื่อให้เกิด พลัง เพื่อ ชีวิค
อวัยวะต่างๆๆทุกระบบของ กาย ทำงานร่วมกัน แบบสามัคคี
ปอด หายใจ/ หัวใจเต้น/ตับย่อย/ไต ขับถ่าย...ฯลฯ.. ทำงานร่วมกัน
ร่างกายจึงเหมือน โรงงานชั้นดี อย่างหนึ่ง

โรงงานจึงมีเสียงอึกทึก...เสียงหัวใจ ดัง..หมอ เอาหูฟังได้
เมื่อมีเสียง..ก็จะมีคลื่นสั่นออกมาด้วย..ความถี่ของคลื่น แปลออกมาเป็นแสง
แสงก็แผ่ ออกมา รอบ ตัว..เป็น แสงวง ชั้นๆๆรอบกาย ที่เรียกว่า แสงงออร่า
หรือ แสงชีวิต...และทางกายภาพ..ทำให้เกิด กระแสพลังชีวิต ที่เรียกว่า
พลังชีวิต Human Electric Field...คล้ายกระแสไฟฟ้า สถิตย์
...................................................................................

 

2. คนเรามีพลังจิต..มีหลากหลายขนาด ความแรงของพลัง
มีอำนาจรัศมีตั้งแต่ 5.00-400.00 เมตร
ตนที่ นั่งสมาธิ มานานและนิ่ง...พลังจิตก็จะมาก

พลังชีวิต รวมกับพลังสมาิธิจิต...ทำให้เกิดพลังรวม วนอยู่ รอบตัว
ถ้าพลังสมาธิจิตสูง ถึงระดับ..ก็จะทำให้ มีตาทิพย์ นั่นเอง
ดังนั้นการทำสมาธิ นานๆๆ..จะทำให้ มีตาทิพย์ได้
...........................................................................
สรุปแล้ว คนเรา..มีธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ.....
และมีวงแสงแห่งพลัง ที่ี มีอำนาจและมีพลัง คล้ายๆๆพลังไฟฟ้า สถิตย์
............................................................................
บรรดา เทวดา/ เทพ/-พญานาค/ครุฑ/ผีป่า/นางไม้..มีเพีบงธาตุลม
และมีพลังออกมา...ก็คล้าย พลังไฟฟ้า ชนิด หนึ่ง

ดังนั้นเมื่อมีการพบกัน ระหว่างผู้ที่ มีพลังจิตสูง มีตาทิพย์ กับ เทวดา..เทพ..ฯลฯ
ก็จะคล้าย ๆ วงจรไฟฟ้า สอง วงจรมาพบกัน ...ก็เกิดการช๊อตกัน

เวลาไฟฟ้าในบ้านดูดเรา..เราจะมีอาการกระตุก..ช้ก วืดๆๆ..
ต้องรีบเอามือ ออก
แต่การช๊อตกัน ระหว่าง เรา กับ สิ่งที่ มีพลังเหล่า นั้น.
.เป็นอาการดูด หรือ ดันซ่าๆๆ...
ในทำนองเดียวกับ เวลาเราเอาแท่งแม่เหล็กมาดันกัน (ขั้วเหมือน)
และเอามาดูดกัน (ต่างขั้ว)
.................................................................
ถ้าสิ่งนั้น มีพลังสูง..เราจะมีอาการซ่า จนตัว ชา
และ ตัวเกร็ง /ตัวแข็ง ในบางกรณีย์
.....................................................................
(มีต่อ)

 

จะลง กทม วันนี้แล้วครับหวังว่าจะได้ไปพบท่านอ.อาชาวินที่บูท042เร็วๆนี้ครับ ใฝ่ฝันมานานแล้วครับ เบอร์โทรยังเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ จะได้โทรหาถูก รบกวรตอบทีน่ะครับท่านอาจารย์

 

สวัสดีตอนเช้าครับ...

 

ฟังอาจารย์พูดแล้วก็นึกถึงตัวเองน่ะครับ
เวลานั่งสมาธิครั้งใด ตัวจะแข็งและเกร็งทุกครั้งที่นั่ง
บางครั้งก็เหมือนว่าเกร็งจนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ
เกิดขึ้นทุกครั้งจนเป็นเรื่องปกติแล้วล่ะครับ
พอเวลาเริ่มเป็น ก็คิดตลอดเวลาว่า
หากจะเป็นอะไร หรือจากโลกนี้ไปก็ไม่เสียดาย
เพราะตายในระหว่างการปฏิบัติกรรมฐานถือว่าเป็นบุญอย่างสูง
ยังไงเกิดมาก็ต้องตายอยู่แล้ว

 

รออ่านข้อความต่อเนื่องสุดท้าย ของอาจารย์สามตา เฝ้าอยู่ครับ