เว็บพลังจิต กรรมที่ยุทำให้คนแตกแยก เลยเกิดเป็น เปรตสุกร

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Komodo, 12 เมษายน 2010.

  1. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    กรรมที่ยุทำให้คนแตกแยก เลยเกิดเป็น เปรตสุกร


    [​IMG]

    สมัยศาสนาองค์สมเด็จพระโลกเชษฐ์พุทธเจ้า ทรงพระนามว่า กัสสป นั้น มนุษย์เรามีอายุยืนประมาณสองหมื่นปี ก็มีคนบวชเป็นภิกษุสามเณร เหมือนกับกาลทุกวันนี้ คราทีนั้น มีภิกษุสองรูป อยู่ด้วยกัน ณ. วัดใกล้ป่าแห่งหนึ่ง รูปอาวุโส มีพรรษาหกสิบ อีกรูปหนึ่งมีพรรษาห้าสิบเก้า พระคุณเจ้าทั้งสอง มีความรักใคร่สนิทสนมดุจพี่น้องคลานตามกันมา ภิกษุผู้อ่อนกว่า ท่านมีสัมมาคารวะเอาใจใส่ ปฏิบัติพระเถระ ประดุจเช่นตนเป็นสามเณร ฝ่ายพระเถรเจ้า ก็มีใจเฝ้าห่วงใยเอาใจใส่ ให้โอวาทภิกษุผู้ด้อยอาวุโสกว่าอยู่เนืองนิตย์

    เมื่อถึงคราวจะวิปริตอาเพศ ก็บังเอิญให้มีพระนักเทศน์ เข้ามาในอาวาสนั้น แล้วเสกสรรปั้นแต่งวาจา กล่าวเปสูญญวาท ให้พระคุณเจ้าทั้งสองแตกกัน เมื่อแตกกันแล้ว ต่างองค์ก็คว้าเอาบาตรเอาจีวรของตน ออกไปจากอาวาสนั้นคนละทิศ พระธรรมกถึก ก็ยึดอาวาสอยู่สบายตามลำพังแต่องค์เดียว หาได้เฉลียวใจ ถึงบาปกรรม ที่ตนกล่าวยุยงส่อเสียด ให้พระสงฆ์แตกกันแม้แต่น้อยไม่

    หนึ่งร้อยปีผ่านไป พระเถรเจ้าทั้งสองที่ถูกยุยงให้แตกกันนั้น มาพบกันเข้า ในอาวาสแห่งหนึ่ง เมื่อต่างก็ปรับความเข้าใจกันดีแล้ว จึงได้ทราบว่า การที่ตนหลงขัดใจกัน ถึงกับต้องออกจากอาวาสด้วยความเสียใจนั้น เป็นแผนการของพระธรรมกถึกผู้ลามก ใจสกปรก คิดจะยึดเอาอาวาสนั้น เป็นที่อยู่ของตน เมื่อรู้แน่แก่ใจเช่นนี้ พระคุณเจ้าทั้งสอง จึงพากันกลับมายังอาวาสเก่า เพื่อจักดูหน้าพระธรรมกถึก ผู้เปสูญญวาท พอพระธรรมกถึก ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นเจ้าอาวาสไปแล้ว ได้ทราบว่า พระคุณเจ้าทั้งสอง กลับกลมเกลียวคืนดีเหมือนอย่างเดิม และกำลังกลับมา จึงเกิดความละอาย อยู่วัดนั้นไม่ได้ ต้องเข้าป่าไป ตั้งหน้าบำเพ็ญธรรม

    แต่อุตส่าห์ตั้งหน้าบำเพ็ญสมณธรรม อยู่ในป่านานนักหนา ก็ไม่อาจจะยังคุณพิเศษ ให้บังเกิดขึ้นได้ เพราะ จิตใจไม่สงบ ความชั่วผิดในครั้งนั้น ติดอยู่ในห้วงความคิด ออกฤทธิ์เป็นนิวรณ์ คอยกางกั้นไม่ให้คุณธรรมเบื้องสูง เกิดขึ้นได้ หมื่นกว่าปีผ่านไป ท่านก็แตกกายทำลายขันธ์ ถึงแก่มรณภาพ อกุศลกรรม เพียงเปสูญญวาท กล่าวส่อเสียดยุยงให้พระสงฆ์โกรธกัน ซึ่งถ้าดูด้วยสายตาสามัญ ก็น่าจะเป็นบาปเล็กน้อย แต่ความจริงไม่ใช่ เพราะ บันดาลให้พระธรรมกถึกรูปนั้น ไปเกิดในอเวจีมหานรก ถูกไฟนรกไหม้อยู่ สิ้นพุทธันดรหนึ่ง ถึงบัดนี้ เศษบาปยังไม่หมด จึงมาบังเกิดเป็นเปรต มีเพศแปลกประหลาด คือ สรีระร่างกาย ของเขาเหมือนมนุษย์ธรรมดา แต่ว่า ส่วนหน้ากลายเป็นหมู มิหนำซ้ำ ยังมีหางงอกออกมาจากปาก เป็นการเพิ่มความน่าเกลียด น่าทุเรศให้เกิดความสังเวช แก่ผู้พบเห็นมากยิ่งขึ้น ตลอดเวลามีหมู่หนอนทั้งหลาย ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ ไต่เข้าไต่ออกอยู่แถวบริเวณช่องปากนั้น เขานั่งทรมานกาย เพราะ ถูกหนอนบ่อนปากอยู่สิ้นกาลนาน

    เท่าที่เล่ามานี้ ต้องการจะชี้ให้เห็นว่า อกุศลกรรมทุกชนิด อย่าได้คิดประมาทว่า เป็นสิ่งเล็กน้อยเป็นอันขาด เพราะ อาจนำไปสู่อบายภูมิได้ทั้งนั้น

    ที่มา : www.nan2day.com/forum/index.php?topic=4826.0
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    <CENTER>***** องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา (คำพูดที่ทำให้แตกแยก) *****

    </CENTER>
    ๕. ปิสุณวาจา (คำพูดที่ทำให้แตกแยก)

    ปิสุณวาจา เมื่อแยกบทแล้วได้ สองบทคือ ปิสุณ - วาจา
    ปิสุณ แปลว่า บดให้ละเอียด หรือทำให้แตกกระจัดกระจาย
    วาจา แปลว่า คำพูด
    เมื่อรวมกันแล้วเป็น ปิสุณวาจา แปลว่า คำพูดที่ทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ได้แก่ พูดส่อเสียด มีวจนัตถะว่า
    "ปิสติ สามคฺคี สญฺจุณฺเณตีติ - ปิสุณา"
    แปลความว่า วาจาอันใด ย่อมบดความสามัคคี คือทำให้แตกแยก กระจัดกระจาย ฉะนั้น วาจานั้น ชื่อว่า "ปิสุณา"
    "ปิสุณา จ สา วาจา จาติ - ปิสุณวาจา"
    คำกล่าวที่บดความสามัคคี คือทำให้แตกแยกด้วย เป็นเจตนาที่เป็นเหตุแห่งการกล่าวนั้นด้วย ชื่อว่า ปิสุณาวาจา
    "ปิยํ สุญฺญํ กโรตีติ - ปิสุณา"
    คำกล่าวอันใด ย่อมทำตัวเองให้เป็นที่รัก และกระทำผู้อื่นให้สูญจากความรัก ฉะนั้น คำกล่าวนั้น ชื่อว่า ปิสุณวาจา
    องค์ประกอบแห่ง ปิสุณวาจา มี ๔ ประการคือ
    ๑. ภินฺทิตฺโพ มีผู้ที่จะถูกทำให้แตกแยก
    ๒. เภทปุรกฺขาโร มีเจตนามุ่งให้แตกจากกัน
    ๓. ปโยโค ทำความเพียรให้แตกจากกัน
    ๔. ตทตฺถ ชานนํ ผู้ฟังรู้เนื้อความนั้น
    ปโยคะ คือความพยายามในปิสุณวาจา มี ๒ อย่างคือ
    ๑. กายปโยคะ การส่อเสียดโดยทางกาย มีการแสดงกิริยาท่าทาง ให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ความหมายของตน
    ๒. วจีปโยคะ การส่อเสียดโดยทางวาจา คือ การพูดยุแหย่ให้บุคคล ๒ ฝ่าย แตกแยกกัน
    การกล่าว ปิสุณวาจานี้ แม้จะครบองค์ประกอบทั้ง ๔ ประการก็ตาม ถ้าผู้ฟัง ปิสุณวาจา กับผู้ถูกส่อเสียดไม่มีการแตกแยกกัน ก็ไม่เป็นการก้าวล่วงกรรมบท แต่ถ้าแตกแยกกัน จึงล่วงกรรมบท
    ปิสุณวาจา ที่จะมีโทษหนัก หรือโทษเบา ขึ้นอยู่กับผู้ถูกส่อเสียดเป็นประการสำคัญ
    ถ้าผู้ถูกส่อเสียด ให้มีการแตกแยกนั้น เป็นผู้มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็ย่อมได้รับ โทษมาก
    แต่ถ้าผู้ถูกส่อเสียดนั้น เป็นผู้ที่ไม่มีศีลธรรม ผู้กล่าวก็มีโทษน้อย
    (คัดจาก หนังสือพระอภิธรรมมัตถสังคหะ)

    ที่มา : www.oknation.net/blog/print.php?id=89173
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2010
  3. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,068
    ค่าพลัง:
    +7,066
    เหอๆ เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้เยยอ้ะ... ^-^
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนากับคุณคมน์เป็นอย่างสูงครับ
    เป็นกรรมหนักที่น่ากลัว คงจะช่วยเตือนสติ
    คนที่ชอบพูดจาให้เกิดความแตกแยกได้ตามสมควร

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา


    [​IMG]</O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 เมษายน 2010
  5. sornchai-k

    sornchai-k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +672
    สงสาร นะสงสารคนเราทุกวันนี้ เวรกรรม เวรกรรม โมทนากระทู้นี้ตรงกับเวลา ช่วงนี้เลยครับ สาธุ
     
  6. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    <object style="height: 344px; width: 425px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/ujOd-Ism3Pk"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/ujOd-Ism3Pk" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="425" height="344"></object>
     
  7. Pajaree Newlove

    Pajaree Newlove เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +183
    A NU MO TA NA, SA TU KA.
     
  8. devbara

    devbara เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,086
    ค่าพลัง:
    +5,400
    ขออนุโมทนาด้วย จริงๆอยากให้คนที่โดนเวรกรรมเล่นงาน ได้เห็นกรรมที่เขาได้ทำ เขาจะได้รู้ว่านี่ล่ะที่เขาโดนเพราะเขาเคยทำอย่างนี้มา ทุกคนจะได้กลัวกันว่าเวรกรรมมันมีจริงๆให้เห็นไปเลย ทุกวันนี้คนมันไม่ค่อยกลัว เพราะมันไม่เคยเห็นเลยคิดว่ามีหรือไม่ สำหรับเรา เชื่อในกฎแห่งกรรม ว่ามีอยู่จริง หว่านพืชฉันใดย่อมได้พืชฉันนั้น ทาน ศีล ภาวนา ดีที่สุด
     

แชร์หน้านี้

Loading...