แนวทางในการรับฟังคำทำนายเกี่ยวกับมรรคผลนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 14 เมษายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,859
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,173
    <TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    ถาม : สมมติว่า ได้ยินว่าชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย

    ตอบ : เรื่องที่เกี่ยวกับมรรคผลนิพพาน เสียงที่มาทำนายห้ามเชื่อเด็ดขาด รับทราบไว้ด้วยความเคารพ แต่ไม่ต้องไปสนใจ เพราะว่าถ้าหากเราไปได้จริง เรารับรู้แล้ว เราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติ เพื่อฝึกให้ได้อย่างนั้นจริงก็แค่เสมอตัว แต่ถ้าเรายังไปไม่ได้จริง ถึงเวลารับรู้แล้วเกิดความประมาท นอนตีพุงเฉยๆ ชาตินี้เราไปได้แน่ ชาตินี้คุณขาดทุนยับเยินเลย เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นคำทำนายเกี่ยวกับเรื่องมรรคเรื่องผล ไม่ต้องไปใส่ใจ ยกเว้นพระพุทธเจ้าเสด็จมาชัดเจนแจ่มใสเลย แต่ว่าลักษณะนั้นของท่าน ก่อนที่ท่านจะพยากรณ์เรา ท่านก็ต้องมาสอนเราอยู่ระยะหนึ่งแล้ว

    ถาม : ท่านมาสอนเลยหรือครับ ?

    ตอบ : จะว่าท่านมาเลย จริงๆ แล้วท่านก็อยู่บนพระนิพพาน ที่เห็นเป็นองค์ท่าน ภาษาพระเรียกว่า ฉัพพรรณรังสี แต่ว่ามาปรากฏเฉพาะหน้าเหมือนกับท่านมาเอง คือในความเป็นทิพย์ท่านสามารถที่จะแบ่งการทำงานออกไปเป็นหมื่นเป็นแสนได้พร้อมกัน อาจโปรดคนเป็นแสนๆ คน เป็นแสนๆ ที่ ได้พร้อมกันได้ องค์จริงของท่านอยู่ในนิพพานโน้น ขอให้เป็นองค์ที่ได้เห็น จะเป็นองค์จริงหรือเป็นฉัพพรรณรังสีก็ให้ได้เห็นเถอะ สำคัญไม่ได้เห็นนั่นสิ



    สนทนากับพระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    กระโถนข้างธรรมมาสน์ เดือนกันยายน ๒๕๔๕


    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=261




    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 เมษายน 2010
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ





    ------------------------------------------------------------------------------------------------

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย วัดเขาชี หมู่ ๑๕ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก

    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย-วัดเขาชี-จ-พิษณุโลก.233681/

    http://www.watkhaochee.com/ <O:p</O:p
     
  3. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาสาธุค่ะ คำสอนของพระพุทธเจ้านั้นยิ่งใหญ่มาก

    ________________________-

    สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

    จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน

    ตามรอยพระพุทธเจ้า ในฐานะที่ได้เกิดมาเป็นลูกของท่าน
     
  4. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    นั่นสินะครับ จะตั้งใจปฏิบัติไปเรื่อยๆ ครับ จะไม่ไปบังคับกะเกณฑ์ ได้ก็ได้ ไม่ได้ก็ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ครับ
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา


    [​IMG]</O:p>
     
  6. jasmins

    jasmins เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,757
    <meta http-equiv="Content-Type" content="text/html; charset=utf-8"><meta name="ProgId" content="Word.Document"><meta name="Generator" content="Microsoft Word 11"><meta name="Originator" content="Microsoft Word 11"><link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Angsana New \;"; panose-1:0 0 0 0 0 0 0 0 0 0; mso-font-alt:"Times New Roman"; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-format:eek:ther; mso-font-pitch:auto; mso-font-signature:0 0 0 0 0 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0in; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-language:AR-SA;} @page Section1 {size:8.5in 11.0in; margin:1.0in 1.25in 1.0in 1.25in; mso-header-margin:.5in; mso-footer-margin:.5in; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0in 5.4pt 0in 5.4pt; mso-para-margin:0in; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ[/FONT][FONT=&quot]<o:p></o:p>[/FONT]
     
  7. skisawa

    skisawa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2006
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +33
    ผมว่าผมพอเข้าใจน่ะครับว่านิพพานคือการหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง เลยอยากถามหน่อยครับว่า

    1.พระอรหันต์ซึ่งหมดกิเลสแล้ว ถือว่านิพานไหมครับแล้ว พระอรหันต์ท่านรู้ตัวท่านได้อย่างไรว่าท่านเป็นอรหันต์ หรือว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบอกหรอครับแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่งศักสิทธิ์นั้นไม่ใช้มารมากันไม่ให้พระท่านบรรลุอรหันต์
    2.การจะนิพพานนั้นต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นหรือป่าวครับ ถ้าเป็นพระ หรือ สามัญชนธรรมดาได้ไหมครับ
    3.นิพพานที่ผ่านมามีไหมครับนอกจากพระพุทธเจ้า
    4.หลังจากที่นิพพานไปแล้วท่านไปที่ไหนหรอครับ ชั้นพรหมโลกป่าวครับที่นั้นมีพระพุทธเจ้าหลายองค์เลยหรอครับ แล้วเป็นไปได้ไหมที่พระพุทธเจ้าที่ผ่านมา ไม่ช่ายพระพุทธเจ้าของศาสนาพุทธแต่เป็นศาสนาอื่น ถ้าเกิดใช้งั้นแสดงว่าศาสดาทั้ง ศาสนาอิสลาม คริสต์ ท่านก็ถือว่านิพพานอย่างนั้นด้วยหรอครับ
    5.นิพพานไปแล้วจะมีความสุขไหมอ่าครับ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่ท่านก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านเกิดบนสวรรค์ท่านเป็นเทวดาแต่เบื่อหนายในเทวดา ท่านจึงมาเกิดเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น แล้วก็หลุดพ้นและนิพพานเมื่อท่านนิพพานไปแล้วท่านจะเบื่อหรือป่าวครับ ถ้าเบื่อก็แสดงว่านิพพานไม่ช่ายจุดสูงสุดสิครับ แล้วอะไรคือจุดสูงสุดกันแน่ครับ
    6.การนั่งสมาธิผมเคยอ่านว่าห้ามสงสัยในสิ่งต่างๆ เช่น ห้ามสงสัยว่าการนั่งสมาธิจะช่วยให้หลุดพ้นจริงหรือ แบบนี้มันไม่กลายเป็นว่าเราหลอกจิตของตัวเราเองหรอครับ

    ผมมีคำถามในใจหลายเรื่องมากมายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและการนั่งสมาธิ ถ้าเกิดใครพอให้คำปรึกษาได้ก็เป็นเรื่องดีมากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 เมษายน 2010
  8. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,244
    อยากให้อ่าน ให้ศึกษาก่อนครับ ถ้าติด ถ้าขัด ค่อยมาถามดีกว่าครับ อย่าว่า ๆ คนอย่างผมจะทำให้ใครต่อใครเขาหมดกำลังใจในการปฏิบัติเลยครับ
    คนเอาจริงต้องพยายามก่อนครับ ใฝ่หาทางเดินไปนิพพาน เจอแล้วทำ ติดขัดแก้ แก้ไม่ได้ถาม ครับ

    อีกอย่างถามก่อนครับว่านับถือพระพุทธศาสนาหรือเปล่าครับ แล้วจะไปนิพพานจริงไหมครับ นิพพานไม่จำกัดศาสนา เพราะไม่มี แต่ผู้ที่จะไปได้ต้องปฏิบัติตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระพุทธศาสนา เท่านั้นครับ

    สิ่งที่ถามมาทั้งหมดนั้น บางข้อเป็นปัจจัตตัง และบางอย่างก็เป็นลักษณะคำถามที่พระพุทธเจ้าห้ามถาม เพราะถ้าถามจะมีส่วนแห่งความเป็นบ้า

    เชื่อผมนะครับ ไปอ่านไปศึกษา เอาแบบจริง ๆ ไม่ใช่ตามไปหน้าเวบนั้น อ่านอันนั้นที อ่านอันนี้ที พระนิพพานนั้นดีจริง แต่เราต้องใฝ่ดีด้วย

    อ้อ อีกอย่างลืมบอกไปว่า สลัดเอาความคิดทางโลกทิ้งให้หมดนะครับ ใช้ไม่ได้ อย่าเพิ่งไปคิดว่าต้องอย่างนั้นไหม ต้องอย่างนี้ไหม เพราะติดที่สงสัยอย่างเดียวจนไม่ปฏิบัตินี่ครับ
     
  9. skisawa

    skisawa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2006
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +33
    pmntr ผมควรที่จะศึกษาจากไหนละครับ ผมนั่งสมาธิผมก็ไม่รู้ว่าผมพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ไม่รู้ว่าที่นั่งไปแบบไหนนิ่ง แบบไหนเข้าฉาน ถ้านั่งไปเรื่อยๆแบบนี้คงไม่พัฒนาแน่ครับ ผมต้องไปหาอาจารย์สอนหรือป่าวครับแบบนี้ แต่หลังจากนั่งสมาธิบ่อยๆที่เห็นผลคืออ่านหนังสือจำได้ไวครับ กลับนั่งตอนตื่นนอน มันจะตื่นได้เต็มที่ แค่นั้นครับ 555 อนุโมทนาครับ
     
  10. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้ ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. beverzone

    beverzone เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    589
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +2,174
    อนุโมทนา สาธุครับ

    ดวงก็คือดวงวันยังค่ำ ที่ไม่สามารถเอาแน่อะไรกับมันได้
    แต่มันขึ้นอยู่การกระทำของเรา ณ ปัจจุบันขณะ
    ซึ่งสามารถเปลี่ยนแผนผังเส้นใยแมงมุมการดำเนินชีวิตได้ว่า เลือก ที่จะไปเส้นทางไหน
     
  12. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา สาธุ

    "สำคัญที่ไม่ได้เห็นนี่สิ" ปิดท้ายได้โดนจุดมากครับ ^^
     
  13. พระวิภังค์

    พระวิภังค์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +2,238
    ขออนุญาติอนุเคราะห์คุณ skisawa ตามภูมิความรู้อันน้อยนิดนะครับ

    1.พระอรหันต์ซึ่งหมดกิเลสแล้ว ถือว่านิพานไหมครับแล้ว
    ถือว่านิพพานครับ เพราะคำว่านิพพานเป็นสภาวะที่กิเลสไม่สามารถครอบงำได้อีก หรือดับกิเลสได้นั่นแหล่ะครับ เมื่อพระอรหันต์เป็นผู้ปราศจากกิเลสอย่างหมดจดโดยสิ้นเชิงแล้ว จึงจัดว่าทรงภาวะแห่งนิพพานได้ แต่เนื่องจากท่านกล่าวไว้ว่า นิพพานธาตุหรือภาวะแห่งนิพพานมี ๒ แบบ คือ ๑.สอุปาทิเสสนิพพาน ดับกิเลสแล้วแต่ขันธ์ห้ายังอยู่ ๒.อนุปาทิเสสนิพาน ดับกิเลสแล้วไม่มีขันธ์ห้าเหลือ
    พระอรหันต์ท่านรู้ตัวท่านได้อย่างไรว่าท่านเป็นอรหันต์ หรือว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาบอกหรอครับแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าสิ่ง ศักสิทธิ์นั้นไม่ใช้มารมากันไม่ให้พระท่านบรรลุอรหันต์
    ไม่จำเป็นต้องมีใครมาบอกหรอกครับ เพราะในพระไตรปิฎกแสดงไว้ชัดเจนว่า เมื่อดับกิเลสได้เป็นสมุทเฉทประหารแล้ว ย่อมรู้ชัดเองว่า "ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจอื่นในการทำกิเลสให้สิ้นไม่มีอยู่อีกแล้ว..." เปรียบไปก็เหมือนกับเมื่อคุณขี้จนสุดแล้ว ก็คงไม่ต้องรอให้ใครมาบอกนะครับว่าคุณยังขี้สุดแล้ว

    2.การจะนิพพานนั้นต้องเป็นพระอรหันต์เท่านั้นหรือป่าวครับ ถ้าเป็นพระ หรือ สามัญชนธรรมดาได้ไหมครับ
    ต้องทำความเข้าใจกับคำว่านิพพานเสียก่อนนะครับ ว่านิพพานเป็นภาวะของพระอรหันต์ แต่คุณคงจะหมายความว่าพระปุถุชนหรือคนธรรมดาจะสามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้หรือเปล่าใช่มั๊ยครับ ถ้าใช่ก็ต้องบอกว่าได้ครับ ดูอย่างพระเจ้าสุทโธทนะ พระบิดาขององค์สมเด็จท่านสิครับ ก็ไปดับกิเลสเป็นสมุทเฉทประหารเข้าสู่พระนิพพานได้ในวาระสุดท้ายของชีวิต (จริงคนสมัยนี้ก็มีอยู่นะครับ แต่ที่อ้างสมัยก่อนเพราะมีลงไว้ในพระคัมภีร์ จะได้ไม่ต้องมีข้อถกเถียงกันต่อไป)
    3.นิพพานที่ผ่านมามีไหมครับนอกจากพระพุทธเจ้า
    เพียบครับ เช่น พระอัครสาวก พระโมคคัลลาน์ พระสารีบุตร พระอานนท์ พระอสีติทั้งหลาย เหล่านี้เป็นองค์ที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรองรับเอง และก็มีลงมาเรื่อยจนถึงยุคปัจจุบันนี่ล่ะครับ

    4.หลังจากที่นิพพานไปแล้วท่านไปที่ไหนหรอครับ ชั้นพรหมโลกป่าวครับที่นั้นมีพระพุทธเจ้าหลายองค์เลยหรอครับ แล้วเป็นไปได้ไหมที่พระพุทธเจ้าที่ผ่านมา ไม่ช่ายพระพุทธเจ้าของศาสนาพุทธแต่เป็นศาสนาอื่น ถ้าเกิดใช้งั้นแสดงว่าศาสดาทั้ง ศาสนาอิสลาม คริสต์ ท่านก็ถือว่านิพพานอย่างนั้นด้วยหรอครับ
    อย่างไปรู้เลยครับว่าหลังจากท่านนิพพานแล้วท่านไปไหนกัน บอกไปคุณก็พิสูจน์ไม่ได้ แล้วจะรู้ไปทำไมล่ะครับ ...แต่ไม่ใช่ชั้นพรหมโลกแน่นอนครับ (คำถามต่อจากนี้ออกแนวหลุดโลกไปแล้วครับ ขอไม่ตอบขี้เกียจตามใจกิเลสคุณ)

    5.นิพพานไปแล้วจะมีความสุขไหมอ่าครับ
    สุขที่สุดครับ ดังที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง" "นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง"
    พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่ท่านก่อนตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ท่านเกิดบนสวรรค์ท่านเป็นเทวดาแต่เบื่อหนายในเทวดา ท่านจึงมาเกิดเพื่อแสวงหาทางหลุดพ้น แล้วก็หลุดพ้นและนิพพานเมื่อท่านนิพพานไปแล้วท่านจะเบื่อหรือป่าวครับ ถ้าเบื่อก็แสดงว่านิพพานไม่ช่ายจุดสูงสุดสิครับ แล้วอะไรคือจุดสูงสุดกันแน่ครับ
    ที่เบื่อก็เพราะยังมีความตัณหาอันเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ และยังไม่เข้าใจชัดในไตรลักษณ์ คือไม่รู้ว่าทุกสิ่งอย่างได้มาแล้วก็ต้องเสียไป เพราะความได้มาแล้วเสียไปนี่แหละจึงเป็นเหตุให้เกิดตัณหา เมื่อมีตัณหาก็เป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เมื่อเห็นทุกข์ก็มีความเบื่อหน่าย และก็ในเมื่อท่านตรัสรู้แล้วดับทุกข์ได้โดยสิ้นเชิงแล้ว ท่านจะไปเบื่ออะไรอีกละครับ มันหมดเชื้อไปแล้วนี่เนาะ

    6.การนั่งสมาธิผมเคยอ่านว่าห้ามสงสัยในสิ่งต่างๆ เช่น ห้ามสงสัยว่าการนั่งสมาธิจะช่วยให้หลุดพ้นจริงหรือ แบบนี้มันไม่กลายเป็นว่าเราหลอกจิตของตัวเราเองหรอครับ
    ในระหว่างนั่งถ้าคุณนั่งสมาธิถ้าคุณนั่งคิดนั่งสงสัยแล้วจิตมันจะไปสงบได้อย่างไรล่ะครับ แล้วเมื่อจิตคุณไม่สงบแต่เต็มไปด้วยความความคิดความฟุ้งซ่าน แล้วมันจะไปพบความจริงได้อย่างไรละครับ
    ส่วนนอกเวลาถ้าคุณสงสัยอะไรก็จะค้นหาไปศึกษาดูเอา ให้มันรู้ชัดเห็นชัดว่าทำอย่างไรแล้วมันดีจริง แล้วก็จึงทำ


    "แล้วที่ท่านบอกไม่ให้คิดไม่ให้สงสัยในระหว่างการปฏิบัติน่ะ จริงๆคุณคงไม่รู้ตัวหรอกว่า นั่นไม่ใช่ความคิดไม่ใช่ความสงสัย แต่เป็นอารมณ์ของความฟุ้งซ่านวกวนไม่รู้จบต่างหากครับ"


    ผมมีคำถามในใจหลายเรื่องมากมายเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและการนั่งสมาธิ ถ้าเกิดใครพอให้คำปรึกษาได้ก็เป็นเรื่องดีมากครับ

    ศึกษาให้ชัดแล้วปฏิบัติให้มากไว้นะครับ
     
  14. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +2,244
    คุณ Skisawa ต้องลองหาการปฏิบัติที่เข้ากับตัวคุณเอง ผมบอกไม่ได้หรอกครับ ผมไม่สามารถรู้ได้ แต่ถ้าคนมักสงสัยคุณอาจเป็นพวกวิตกจริต (จริตในที่นี้เป็นการแบ่งลักษณะนิสัยของคนตามพระพุทธศาสนานะครับ เดี๋ยวเข้าใจผิด) ก็ได้ครับ ต้องลองไปปฏิบัติในกรรมฐาน อานาปานุสสติกรรมฐาน อ่านดูก็ได้ครับว่ากรรมฐานนี้ปฏิบัติอย่างไร ผมทำก็ศึกษาเองตามหนังสือ แล้วไปตามหาครูบาอาจารย์เอาครับว่าท่านไหนสอนเราได้ กรรมฐานไหนที่เราชอบ
    ผมไม่รู้ว่าคุณมาทางไหน ครูบาอาจารย์องค์ใดที่จะสามารถชี้แนะคุณได้ เอาว่าคุณเคยอ่านหนังสือแล้วรู้สึกถูกชะตากับครูบาอาจารย์รูปไหนบ้างหรือเปล่าครับ การปฏิบัติแบบไหนที่คุณชอบ ตามนิสัย ตามจริต คุณอาจจะไม่ใช่พวกวิตกจริตก็ได้ครับ ผมไม่รู้ต้องลองวิเคราะห์ตัวเองครับ
    การปฏิบัติมี ๔๐ แบบกรรมฐาน กับมหาสติปัฏฐานอีกหนึ่ง ตามชอบเลยครับ
    หนังสือแต่ละเล่ม การเขียนแต่ละแบบ ของแต่ละครูบาอาจารย์ก็แตกต่างกันไปตามความรู้ความสามารถ เทคนิควิธีแนวทางต่าง ๆ ครับ
    ถ้าตั้งใจจริง ไม่มีทางไม่ได้ ขอให้ก้าวหน้าครับ โมทนาครับ สาธุ
     
  15. sornsill

    sornsill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +515


    พระอรหันต์ท่านคงไม่มาเข้าเว็บหรอกครับ คุณมาถามคนที่มีกิเลสเหมือนกันคงยากที่จะตอบ เพราะคนที่เข้ามาในเว็บนี้คงยังไม่มีใครเป็นพระอรหันต์แน่ แต่ผมจะตอบตามภูมิรู้ของผมนะ (ผิดถูกขออโหสิกรรม และขอขมาต่อพระรัตนตรัยขอรับ) และถ้าเข้าใจไม่เข้าใจก็เรื่องของท่าน ตอบตามข้อ
    ๑.เรื่องพระอรหันต์ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นพระอรหันต์เป็นเรื่องของปัจจตังครับ รู้ได้ด้วยตนเอง เหมือนคุณปวดขี้คุณก็รู้คนเดียวว่าคุณปวดขี้คนอื่นหารู้ด้วยไม่ เหมือนตอนทารกที่รู้ว่าเมื่อร้องไห้เพราะหิวนม เด็กรู้ได้ไงว่าต้องร้องไห้
    ๒.การจะนิพพานคือจิตไปในดินแดนที่ไม่มีกิเลสไม่มีความยากไม่มีเชื้อให้มาเกิด ถ้ายังผูกพันธ์กับสิ่งต่างๆในโลกคือ รัก โลก โกรธ หลง อยู่ก็ไม่มีทางนิพพานได้
    ๓.คนที่จะไปนิพพานได้มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และอรหันต์สาวก ในแต่ละพุทธันดร
    ๔.หลังจากที่นิพพานไปแล้วท่านก็หลุดพ้นก็ไปนิพพานเป็นที่สิ้นสุด ชั้นพรหมโลกเป็นชั้นของพรหมไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็คือพระพุทธเจ้า ศาสนาอื่นๆเป็นเรื่องของศาสนาอื่นท่าน
    ๕.นิพพานสุขไม่สุขก็ลองไปดูสิท่าน ลองไปด้วยการปฏิบัติให้ได้ ย่อๆโดยมี ทาน ศีล สมาธิ และวิปัสนา เอาแค่ท่านมีจิตคิดให้ทานบริสุทธิแล้วท่านมีใจเป็นสุขได้ก่อนแล้วอื่นๆท่านจะรู้เองว่าสุขขนาดไหน แต่ถ้าท่านยังมัวเมาในกิเลสคือ กาม กิน เกียรติยศอยู่ ท่านก็ไม่รู้จักความสุขในธรรมหรอกครับ เพราะกิเลสมันบังท่านอยู่
    ๖.การนั่งสมาธิคือทำจิตให้นิ่ง ท่านทำให้นิ่งได้มั๊ยละ ถ้าไม่นิ่งมันก็ยังไม่รู้ตัวสุขทางธรรมหลอก เพราะใจที่ไม่นิ่งมันยังแส่ส่ายไปหาสุขทางโลกธรรม ทางกาม ทางสารพัดร้อยแปด คำถามมากมายเหมือนท่านที่ถามมา และการทำสมาธิไม่ใช่แค่นั่ง อย่างเดียวไปศึกษาหาเองนะ และการปฏิบัติไม่ใช่ปฏิบัติแค่วันเดียว ชั่วโมงเดียว นาทีเดียว แล้วรู้ ต้องทำมาหลายๆพบชาติ ตราบใดที่ยังกิเลสหนาไม่มีทางพบ ถ้าอยากพบก็เริ่มแต่วันนี้สร้างบารมีให้ตัวเอง สร้างบารมี๑๐ ทัศ ต้องสร้างตลอดชีวิต

    ผู้ที่ยังมีความสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ ท่านเหล่านั้นไม่เคยนำไปปฏิบัติ ไม่เคยปฏิบัติตัวตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และยังเป็นผมมีอกุศลกรรมบังตาอยู่ จะไม่มีทางได้รู้อรรถธรรมได้ คงรู้ได้เพียงแค่คิดว่า...?
     
  16. sornsill

    sornsill เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +515


    พระอรหันต์ท่านคงไม่มาเข้าเว็บหรอกครับ คุณมาถามคนที่มีกิเลสเหมือนกันคงยากที่จะตอบ เพราะคนที่เข้ามาในเว็บนี้คงยังไม่มีใครเป็นพระอรหันต์แน่ (และพระอรหันต์ท่านสอนแต่คนที่ท่านควรสอนและมีกุศลกรรมสืบเนื่องกันมาเท่านั้น) แต่ผมจะตอบตามภูมิรู้ของผมนะ (ผิดถูกขออโหสิกรรม และขอขมาต่อพระรัตนตรัยขอรับ) และถ้าเข้าใจไม่เข้าใจก็เรื่องของท่าน ตอบตามข้อ

    ๑.เรื่องพระอรหันต์ท่านรู้ตัวหรือไม่ว่าเป็นพระอรหันต์เป็นเรื่องของปัจจตังครับ รู้ได้ด้วยตนเอง เหมือนคุณปวดขี้คุณก็รู้คนเดียวว่าคุณปวดขี้คนอื่นหารู้สึกปวดด้วยไม่ อีกตัวอย่างเหมือนทารกที่หิวนมแล้วต้องร้องไห้ขอนม เด็กรู้ได้ไงว่าต้องร้องไห้ ถึงจะได้นม

    ๒.การจะนิพพานคือจิตไปในดินแดนที่ไม่มีกิเลสไม่มีความยากไม่มีเชื้อให้มาเกิด ถ้ายังผูกพันธ์กับสิ่งต่างๆในโลกคือ รัก โลก โกรธ หลง อยู่ก็ไม่มีทางนิพพานได้ ลองศึกษาเรื่องจิตดู ดูจิตตัวเองตอนนี้อยู่ก็ได้

    ๓.คนที่จะไปนิพพานได้มีพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และอรหันต์สาวก ในแต่ละพุทธันดร

    ๔.หลังจากที่นิพพานไปแล้วท่านก็หลุดพ้นก็ไปนิพพานเป็นที่สิ้นสุด ชั้นพรหมโลกเป็นชั้นของพรหมไม่ใช่พระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็คือพระพุทธเจ้า ศาสนาอื่นๆเป็นเรื่องของศาสนาอื่นท่านคนละเรื่องคนละคำสอนไม่ปะปนกัน แต่การไปต่างที่กัน

    ๕.นิพพานสุขไม่สุขก็ลองไปดูสิท่าน ลองไปด้วยการปฏิบัติให้ได้ ย่อๆโดยมี ทาน ศีล สมาธิ และวิปัสนา เอาแค่ท่านมีจิตคิดให้ทานบริสุทธิแล้วท่านมีใจเป็นสุขได้ก่อนแล้วอื่นๆท่านจะรู้เองว่าสุขขนาดไหน แต่ถ้าท่านยังมัวเมาในกิเลสคือ กาม กิน เกียรติยศอยู่ ท่านก็ไม่รู้จักความสุขในธรรมหรอกครับ เพราะกิเลสมันบังท่านอยู่

    ๖.การนั่งสมาธิคือทำจิตให้นิ่ง ท่านทำให้นิ่งได้มั๊ยละ ถ้าไม่นิ่งมันก็ยังไม่รู้ตัวสุขทางธรรมหลอก เพราะใจที่ไม่นิ่งมันยังแส่ส่ายไปหาสุขทางโลก ทางกาม ทางสารพัดร้อยแปด คำถามมากมายเหมือนท่านที่ถามมา และการทำสมาธิไม่ใช่แค่นั่ง อย่างเดียวไปศึกษาหาเองนะ และการปฏิบัติไม่ใช่ปฏิบัติแค่วันเดียว ชั่วโมงเดียว นาทีเดียว แล้วรู้ ต้องทำมาหลายๆพบชาติ ตราบใดที่ยังกิเลสหนาไม่มีทางพบ ถ้าอยากพบก็เริ่มแต่วันนี้สร้างบารมีให้ตัวเอง สร้างบารมี๑๐ ทัศ ต้องสร้างตลอดชีวิต

    ผู้ที่ยังมีความสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอยู่ ท่านเหล่านั้นไม่เคยนำไปปฏิบัติ ไม่เคยปฏิบัติตัว(กาย วาจา ใจ) ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ และยังเป็นผมมีอกุศลกรรมบังตาอยู่ จะไม่มีทางได้รู้อรรถธรรมได้ คงรู้ได้เพียงแค่คิดว่า...?
     
  17. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    ตอนแรกทิพย์ก็สงสัยอย่างที่คุณ skisawa สงสัย แต่ไม่มีใครอธิบายอะไรให้เข้าใจทั้งนั้นเลยทิ้งไปไม่ใส่ใจพระศาสนา จนวันหนึ่งไปเขาคิชกูฏ ขึ้นไปถึงแนวผ้าแดง เห็นเขาเขียนขอคำอธิษฐานกันเยอะไปหมด สงสัยว่าเขียนทำไม ก็ได้คำตอบว่า ใครที่เขียนขออะไรไว้กับพระพุทธเจ้าจะสัมฤทธิ์ผลทุกประการ (แค่คำขอพร1คำ) ทิพย์เลยขอให้ตัวเองไปนิพพานในชาตินี้ เพราะเข้าวัดทีไร พระท่านก็อวยพรให้พวกเราถึงนิพพานกันทุกที หลังจากนั้นไม่นาน เหมือนมีเทวดานางฟ้าสิงร่างค่ะ กลายเป็นคนขวนขวายหาอ่าน หาฟังธรรมจากทุกแหล่ง ฟังมาก ๆ หูแทบไม่ปล่อยวางจากเรื่องธรรมมะ โหลดใส่มือถือฟังทุกอย่างที่หามาได้ พอฟังมากเข้า ๆ อยากปฏิบัติแล้วที่นี้ ทำอย่างไรละ เข้าวัดค่ะ เข้าออกวัดโน้น วัดนี้ ก็ไม่สมใจที่อยากได้ มาลงตัวที่วัดสังฆทาน บวชถือศีลแปด จำได้ว่า เริ่มถือศีลครั้งแรก วันที่8/8/52 เอาเลขวันเกิดของตัวเองเป็นปฐมฤกษ์ หลังจากนั้นก็บวชทุกครั้งที่มีโอกาส จนรู้สึกว่าเราต้องมีอะไรมากกว่านี้ เริ่มแส่ส่ายหาวัดที่น่าจะมีอะไรมากกว่านี้ มารู้จักวัดท่าซุง กับการฝึกมโนมยิทธิที่วัดนี่เอง ไปบวชที่วัดท่าซุง เข้าฝึกมโนมยิทธิ เมื่อวันที่ 5/12/52 ผู้คนมากมาย ทุกอย่างที่บอกมาไปคนเดียวตลอดรายการ ไม่มีเพื่อน ถ้าจะเป็นเพื่อนคิดว่าคงเป็นไม่เทวดาก็นางฟ้า ที่เขี่ยวเข็ญให้ปฏิบัติธรรมอย่างที่เรียกว่า พลิกชีวิตตัวเองจากสีดำเป็นสีขาวได้อย่างมหัศจรรย์ค่ะ พอไปเข้าชั้นมโนฯ ที่วัดท่าซุง เหมือนได้เปิดที่คว่ำอยู่ให้หงายออก เห็นภาพทุกอย่างที่คุณครูผู้ฝึกนำไป(แม่ครูปราโมทย์) เห็นท่านพ่อ ท่านแม่ เห็นสมเด็จองค์ปฐม เห็นพระวิสุทธิเทพ มารู้ที่หลังว่าเป็นสมเด็จองค์ปฐม กับพระวิสุทธิเทพ เมื่อเลิกจากฝึกมโน เดินเที่ยววัดถึงรู้ว่าเป็นสองท่านนี้ ที่เราเห็นในภาพนิมิต เนื่องจากไปวัดท่าซุงเป็นครั้งแรกในชีวิต ไม่มีเวลาเดินชมวัด จนกว่าตัวเองจะเสร็จภารกิจที่ตั้งใจไว้เสียก่อน ไม่งั้นไปเดินตรงไหนก็จะไม่สบายใจ พอรู้ว่าภาพพระที่เห็นในมโนฯ กับพระที่ประดิษฐานในวัดท่าซุงเป็นภาพเดียวกัน ยิ่งเกิดความปลื้มใจมากขึ้นในสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดกับตัวเอง

    ตอนนี้ที่คิดว่าขอนิพพานชาตินี้ ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เพราะตอนนี้ก็ยังคงปฏิบิติอยู่ไม่เสื่อมคลาย เคยมีบางวันสวดมนต์ทำวัตรเย็นที่บ้านแล้วไม่ได้กำหนดจิตขึ้นไปที่สวรรค์นิพพาน กำลังสวดมนต์อยู่เพลิน ๆ ก็เห็นพระพุทธเจ้าในภาพพระสงฆ์ มีฉัพพันธะรังสี มารับทิพย์ไปวางไว้ที่ ๆ เคยนั่งแบบไม่น่าเชื่อ บางวันเรารีบสวดมนต์ก็ไม่ได้กำหนดจิตนั่งสมาธิไปที่นั่น ซึ่งแม่ครูมักย้ำเสมอว่าใครที่ได้แล้วอย่าทิ้ง ให้พยายามรักษาไว้ให้ดีขึ้น ภาพที่มัว ๆ พยายามทำให้แจ่มชัดขึ้น
    ที่เล่ามาไม่ได้เอามาอวดอะไรค่ะ เพราะกว่าจะได้มาก็เรียกว่าต้องอดทนมาก ปฏิบัติมาก สวดมนต์มาก เดี๋ยวนี้วันไหนไม่ได้ทำวัตรสวดมนต์ จะอึดอัดใจ เหมือนขาดอะไรในชีวิต ความมืดดำที่เคยปกคลุมชีวิตอยู่ ความสงสัยในพระสงฆ์และข้อคิดข้อธรรมต่าง ๆ ทิพย์แก้ข้อสงสัยเหล่านั้นด้วยตนเอง โดยมีคุณพ่อ คุณแม่ บนสวรรค์นิพพาน เป็นผู้คอยจูงใจให้จิตใฝ่ธรรมะ มีหลวงพ่อฤาษีลิงดำเป็นผู้สั่งสอนข้อธรรมต่างๆ ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้ถึงนิพพาน มีหลวงพ่อโต วัดสังฆทาน เป็นผู้รักษาจิตวิญญาณให้เกิดความสงบเยือกเย็น เมื่อไปกราบและนั่งสมาธิอยู่กับท่านในโบสถ์แก้ว
    หาก คุณskisawa สงสัยเรื่องต่าง ๆ ลองค้นคว้าด้วยตัวเอง อาจเป็นผู้โชคดีเหมือนทิพย์ ที่ข้อสงสัยต่าง ๆนั้น มีแฝงอยู่ในธรรมของหลวงพ่อฤาษีฯ แล้วทั้งหมด ขึ้นอยู่ว่า เวลาฟังหรืออ่านเราจับใจความของท่านและเอามาพิจารณาตีความได้มากน้อยแค่ไหนค่ะ
    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกข้อสงสัยจางหายไปจากดวงจิตค่ะ แถมอีกนิด ถ้าเราให้ทาน รักษาศีล5 บำเพ็ญภาวนา(สวดมนต์) ชนิดที่เรียกว่าเอาจริงเอาจังไม่เหลวไหล เผลอ ๆ คุณอาจได้ของแถมมาให้อัศจรรย์ตัวเองว่าเราทำได้หรือ เช่น ตาทิพย์ หูทิพย์ เป็นต้น ไม่ได้ให้เชื่อเลย..ทิพย์อาจโกหกก็ได้ ถ้าอยากพิสูจน์ ต้องเสี่ยงชีวิตทุ่มเทให้กับพระตถาคตดู ไม่เสียหาย เสียเวลา หรือเสียเงินเลย มีแต่ได้ กับได้ ค่ะ
     
  18. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    เพื่อสนับสนุนการตั้งใจปฏิบัติให้ถึงนิพพานให้ได้ในชาตินี้ จึงเก็บมาฝาก
    โหลดใส่มือถือ เปิดฟังด้วยการนั่งสมาธิฟังจะได้ผลดี หรือจะเปิดฟังไป ทำโน่น ทำนี่ไปก็ได้ไม่ว่ากัน แต่ขอให้ฟังเถอะ ฟังให้ดี จับใจความให้ได้ หลวงพี่เล็กจะตอบคำถามของคุณตามข้างต้นค่ะ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 เมษายน 2010
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...