วิธีปลุกพระอย่างง่าย ๆ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย chatyamn, 1 เมษายน 2006.

  1. marine24

    marine24 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    2,224
    ค่าพลัง:
    +15,636
    เคยอ่านจากหนังสือเขาบอกว่า ก่อนเอาสร้อยพระเครื่องสวมคอ นั้น ให้อาราธนาพระเครื่องทุกครั้ง ผมทำประจำ สวดว่า "พุทธังอาราธนานัง ธรรมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง พุทธังประสิทธิเม ธรรมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม"
     
  2. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    ของผมมีเสริมข้างหน้านิดหนึ่งครับ

    สาธุพุทธังวันทามิ สาธุธรรมมังวันทามิ สาธุสังฆังวันทามิ พุทธังอาราธนานัง ธรรมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง พุทธังประสิทธิเม ธรรมังประสิทธิเม สังฆังประสิทธิเม
     
  3. chatsiri

    chatsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +195
    ตอนนี้ผมก็ได้อาราธนาพระอยู่ตลอด แม้แต่พระภิกษุ หรือพระประธานในโบสถ์ก็อาราธนาท่านได้ ส่วนพุทธคุณ ๑. ด้านแคล้วคลาด มือจะวิ่งออก และเข้า ลักษณะแนวขนานจากตัว ๒. ด้านเมตรา มือจะมาวนเป็นรูปวงกลมอยู่ที่ใบหน้าเรา ๓. ด้านคงกระพัน มือจะวิ่งเข้าทุบกับอกเราอย่างแรง ๔. ด้านคุ้มครองปกป้องอัตราย มือจะวิ่งแนวขนานต่ำ ๆ แล้วจะย้ายมาวิ่งวนรอบ ๆ ตัวเรา (มีในพระกริ่งทั่วไป) แต่ถ้ามีทั้งหมดก็จะดีนะแล้วแต่เกจิท่านใดจะมีณานในลักษณะใด เรียกง่าย ๆ ว่าเก่งทางไหน ท่านว่าอาจารย์สมัยก่อน ๆ จะเน้นทางคงกระพันชาตรี แต่เค้าบอกว่าทางนี้ผู้บูชาจะร้อนวิชา สมัยนี้ต้องเมตรา ค้าขาย หมดยุคตีต่อยกันแล้วเราชาวพุทธ ศิษย์เดียวกัน (ตถาคตเจ้า) ธรรมรักษาทุก ๆ ท่าน
     
  4. chatsiri

    chatsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +195
    ตอนนี้ผมก็ได้อาราธนาพระอยู่ตลอด แม้แต่พระภิกษุ หรือพระประธานในโบสถ์ก็อาราธนาท่านได้ ส่วนพุทธคุณ ๑. ด้านแคล้วคลาด มือจะวิ่งออก และเข้า ลักษณะแนวขนานจากตัว ๒. ด้านเมตรา มือจะมาวนเป็นรูปวงกลมอยู่ที่ใบหน้าเรา ๓. ด้านคงกระพัน มือจะวิ่งเข้าทุบกับอกเราอย่างแรง ๔. ด้านคุ้มครองปกป้องอัตราย มือจะวิ่งแนวขนานต่ำ ๆ แล้วจะย้ายมาวิ่งวนรอบ ๆ ตัวเรา (มีในพระกริ่งทั่วไป) แต่ถ้ามีทั้งหมดก็จะดีนะแล้วแต่เกจิท่านใดจะมีณานในลักษณะใด เรียกง่าย ๆ ว่าเก่งทางไหน ท่านว่าอาจารย์สมัยก่อน ๆ จะเน้นทางคงกระพันชาตรี แต่เค้าบอกว่าทางนี้ผู้บูชาจะร้อนวิชา สมัยนี้ต้องเมตรา ค้าขาย หมดยุคตีต่อยกันแล้วเราชาวพุทธ ศิษย์เดียวกัน (ตถาคตเจ้า) ธรรมรักษาทุก ๆ ท่าน
     
  5. fujiayu

    fujiayu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +1,001
    ผมเองก็สวด พุทธังอาราธนานัง.......
    แล้วจึงเอาพระเครื่องคล้องคอ แค่นี้ก็ขนลุก
    ตามแขน เห็นได้อย่างชัดเจน (ไม่ได้คิดเออ
    เอาเอง) จนเป็นปรกติครับ ถึงแม้จะไม่ทุกครั้ง
    แต่บ่อยมาก

     
  6. เชน

    เชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,037
    สวัสดีครับ การปลุกพระนั้นอาการที่สั่นไม่ไช่เกิดจาก พระท่านหรอกครับ เป็นเพียงจิตของคุณนั้นตั้งมั่นเป็นองค์ฌาณ จนเกิดปีติขึ้น ปีติ ความปลาบปลื้มเอิบอิ่มใจ มีจิตใจชุ่มชื่นเบิกบาน ไม่อิ่มไม่เบื่อในการเจริญภาวนา
    อารมณ์ผ่องใส ปรากฏว่าเมื่อหลับตาภาวนานั้นไม่มืดเหมือนเดิม มีความสว่างปรากฏคล้ายใคร
    นำแสงสว่างมาวางไว้ใกล้ๆ บางคราวก็เห็นภาพและแสงสีปรากฏเป็นครั้งคราว แต่ปรากฏอยู่ไม่นาน
    ก็หายไป อาการของปีติมีห้าอย่างคือ

    ๓.๑ มีการขนลุกขนชัน ท่านเรียกว่าขนพองสยองเกล้า
    ๓.๒ มีน้ำตาไหลจากตาโดยไม่มีอะไรไปทำให้ตาระคายเคือง
    ๓.๓ ร่างกายโยกโคลง คล้ายเรือกระทบคลื่น
    ๓.๔ ร่างกายลอยขึ้นเหนือพื้นที่นั่ง บางรายลอยไปได้ไกลๆ และลอยสูงมาก
    ๓.๕ อาการกายซู่ซ่า คล้ายร่างกายโปร่ง และใหญ่โตสูงขึ้นอย่างผิดปกติ
    อาการทั้งห้าอย่างนี้ แม้อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นอาการของปีติ ข้อที่ควรสังเกตก็คือ
    อารมณ์จิตชุ่มชื่นเบิกบานแม้ร่างกายจะสั่นหวั่นไหว บางรายตัวหมุนเหมือนลูกข่างแต่จิตใจก็เป็นสมาธิ
    แนบแน่นไม่หวั่นไหว มีสมาธิตั้งมั่นอยู่เสมอ การกำหนดจิตเข้าสมาธิก็ง่าย คล่อง ทำเมื่อไร เข้าสมาธิได้
    ทันที อาการของสมาธิเป็นอย่างนี้ เองครับ และทุกท่านจะเกิดปีติไม่เหมือนกัน ดังนั้นการปลุกพระจึงไม่น่าจะไช่แต่หากเป็นอาการของ จิตที่แน่วแน่จนเกิดปีติขึ้น และแต่ละรายก็เกิดไม่เหมือนกัน


    แต่หลักไหญ่ของการประพฤติปฎิบัติธรรมคือ การทำความเห็นไห้แจ้ง จากอวิชชาตัณหา อุปาทานที่ห่อหุ้มจิต ไห้เข้าถึง โลกุตระธรรม
     
  7. ธรรมนูญ

    ธรรมนูญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    198
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่แสดงออกมาก็ไม่ใช่พลังหรือพุทธคุณที่สื่อออกมาให้รับรู้อย่างนั้นใช่ไหมครับ
    แล้วการตรวจสอบที่แท้จริงเป็นเช่นใด หรือว่าไม่มีเลย
     
  8. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    ...เข้ามาบ่น...อยากมีกล้องออร่าจัง....สิ่งที่คิดไว้ว่า...ก่อนปลุกพระถ่ายรูปไว้...และขณะปลุกพระก็ถ่ายรูปไว้....เอารูปสองรูปมาเปรียบเทียบ ดูการเปลี่ยนแปลง ดูความแตกต่าง...ทั้งก่อนและหลังต่างกันหรือไม่...

    ที่คิดว่าน่าจะต่างกัน อยากดูสี ที่ต่างกันด้วย.....
     
  9. ตาผีปอบ

    ตาผีปอบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +63
    พระจำวัดอยู่ดีๆ จะไปปลุกทำไมอ่ะ ระวังโดนด่านะ
    ถึงเป็นพระเครื่องก็คงอยากพักผ่อนเหมือนกัน

    ตอนเด็กๆตาก็เคยปลุกพระ ก้อนอิฐปาหลังคาก้อนเดียว ตื่นทั้งกุฏิ
    (ล้อเล่นนะ อิอิ)
     
  10. หน่อนเรศวร

    หน่อนเรศวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +110
    ผมว่าสวดมนต์และเจริญสมาธิจะดีกว่านะครับ
     
  11. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    นี่ก็คือการทำสมาธิอย่างหนึ่งครับ....คาถาอาคมก็เช่นกัน....ตามความเห็น ส่วนตัวคือ กลอุบายทำให้ใจสงบ เป็นสมาธิ แต่มีมากหลายวิธี ที่ทำให้จิตว่างจากนิวณ์ ถึงเพียงชั่วคราว แค่เพียงงูแลบลิ้นก็บุญมหาศาลแล้ว.
     
  12. amm.

    amm. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    243
    ค่าพลัง:
    +613
    ความหมายของคำว่าปลุกพระที่พระอาจารย์สอน...
    ท่านบอกว่าเป็นการระลึกถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้าและเพื่อเป็นการให้คุณแห่งพระที่มีการปลุกเสกมาเปล่งพลังส่งมาที่ตัวเราเพื่อปกป้องคุ้มครองเรา...เป็นการส่งจิตไปยังท่านก่อนเพื่อให้ท่านส่งจิตเมตตากลับมา...
    อนึ่ง..เช่น..เราเข้าไปกราบขอพรพระ...ท่านก็เมตตาส่งบารมีมาให้...แต่ถ้า
    เราไม่เข้าไปกราบไหว้ขอพรท่าน...ท่านก็ไม่ให้...เพราะท่านไม่รู้จะให้ใคร...เพราะไม่มีผู้ขอ...
     
  13. mail2wissnu

    mail2wissnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +7,865
    อย่างนี้เรียกว่าเข้า ฌาน 3 เลยรึป่าวครับ
    เพราะละ วิตก และ วิจารณ์ แล้ว เข้าปิติไปโดยตรงเลย
     
  14. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,274
    ค่าพลัง:
    +13,236
    ขอเรียนถามครับ
    1. ถ้ามือที่กำพระขึ้นไปวนรอบศีรษะหลายๆรอบ มีอิทธิคุณด้านใดครับ
    2. ถ้ามือที่กำพระทุบไปตามร่างกายไม่เฉพาะอก ไปตามแขนตามขาหมายถึง
    อะไรครับ
    เพราะผมเคยปลุกออกมาในลักษณะนี้ อย่างอื่นก็เหมือนของคุณที่บอกไว้ครับ
     
  15. จิ๊กซอ

    จิ๊กซอ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    2,062
    ค่าพลัง:
    +2,356
    อาการตัวสั่นเหมือนเจ้าเข้า เป็นอุปทานของจิตตัวเองล้วนๆครับ....การตรวจสอบพุทธคุณนั้น ใจต้องนิ่งสงบจนจิตละเอียด ถึงจะทราบสิ่งที่ละเอียดได้....มันรู้ได้เฉพาะตน....เช่น
    1.คงกระพันเนื้อตัวตึง
    2.มหาอุดอึดอัดไปถึงศรีษะ
    3.เมตตาสบายๆขนลุกเบาๆทั้งตัว
    4.เสน่ห์ คล้ายๆเมตตาแต่จะรู้สึกวิ่งหมุนที่ด้านหลังท้ายทอย

    ที่กล่าวมานี้เป็นอาการแต่ละบุคคล แต่ละคนจะรับรู้ไม่เหมือนกัน....
     
  16. chopper1972

    chopper1972 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +13,151
    การภาวนาจับพลังพระของหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านให้ภาวนา "สุนักขัตตัง สุมังคะลัง"
    ...แต่วัตถุมงคลที่หลวงพ่อฯ ท่านห้ามจับพลังอย่างเด็ดขาดคือ"ธงมหาพิชัยสงคราม"ครับ เพราะอาจถึงตายได้
     
  17. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    ปลุกทำไมครับ พระจะหลับจะนอน

    เอิ๊กกกก ล้อเล่นนะครับ^^
     
  18. คุณ พรีช

    คุณ พรีช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +494
    อันว่าปลุกพระนี้ ผมเคยทำอยู่ เเต่ผมจะใช้คำว่า"สัมผัสพุทธคุณ" หรือจับพลังพระนั้นเเหละ เเต่ผมทำเเล้วมันไม่ได้สั่นนะ เเต่ความรู้สึก มันจะมีกระเเส คล้ายๆไฟฟ้าสถิต เหมือนตอนที่เราปิดTVใหม่ๆเเล้วเอามือไปเเต๊ะที่หน้าจอ กระเเสมันวิ่งขึ้นมาเลื่อยๆ จากมือที่จับพระไว้ บางที่พระองค์ไหน พระอาจารย์ผุ้ปลุกเสกเก่งๆ จะมีความรู้สึกว่า กระเเสพลังของพระมันมีอยุ่ทั้งตัวเรา เเขน ขา ตลอดทั้งตัวก็รู้สึกว่ามันชาๆ มีกระเเสพลังสถิต เเปลบๆๆ อยู่ทั้งตัว การที่จะรู้ว่าพระองค์นั้น พุทธคุณเด่นทางด้านไหน ผมใช้วิธีการอธิฐานก่อน คือถ้า พระนี้มีพุทธคุณสูงทางเมตตา ก็ขอให้กระเเสพลังเริ่มขึ้น เริ่มรู้สึกที่นิ้วก่อยก่อน หรือถ้าพระดีทางมหาอุด ก็ขอให้กระเเสพลัง เริ่มขึ้นทางนิ่วหัวเเม่มือก่อน เป้นต้น เเต่คนภายนอก จะไม่รู้นะครับว่ารับกำลังสัมผัสพุทธคุณพระ เพราะเราไม่มีอาการสั่น ตำรับการสัมผัส ทดสอบพุทธคุณ วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เเบบนี้ เป็นตำรับ สายหลวงพ่อเทียม วัดกษัตรา ผมเรียนมากับ หลวงพ่อสายทอง วัดพรหมนิวาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. kaioon

    kaioon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    156
    ค่าพลัง:
    +190
    ไม่เกี่ยวหลอกคับที่ต้องบวชพระก่อน ไม่บวชก็ทำได้
     
  20. chatyamn

    chatyamn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +4,056
    ครับผม...ไม่เกี่ยวกับการบวชก่อนครับ...ตอนนั้นพ่อแก่บอกว่าทำได้ตอนบวชพระ ก่อนหน้านี้ทำเท่าไหร่ก็ไม่ได้....น้าผมก็บอกว่าได้ตอนบวชปลาย ๆ พรรษา...ผมก็สงสัยแล้วถ้าไม่บวชหละทำได้ไหม ก็เลยลองหัดทำดู.....ทำอยู่สองปีก็ทำได้ครับ.

    แต่ตอนนี้ก็เหมือนเดิมได้อาการเดียวคือมือสั่นอย่างเดียว....แต่รู้สึกจะมีกระแสวิ่งออกจากตัวผมด้วยเข้าของที่จับ...

    คงเป็นการ จับกระแสพระ....แต่ที่ผมเข้าใจก็คือปลุกพระ...น้าและพ่อแก่พาเรียกอย่างนั้น.

    แต่ละคนคงมีอาการไม่เหมือนกันนิ...การจับกระแสก็มีหลากหลายวิธี....นี่ก็เป็นเสน่อย่างหนึ่งได้ให้เราศึกษา และได้เรียนรู้ ได้กระทำ...สนุกกับการได้เกิด...ได้สร้างบารมี...ได้เรียนรู้สรรพสิ่ง.
     

แชร์หน้านี้

Loading...