++ เรื่องที่สงสัย...จิตวิญญาณ เกิดขึ้นได้อย่างไร! ++

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย k_g, 2 พฤษภาคม 2010.

  1. k_g

    k_g เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +170
    ร่างกายก็เป็นที่ประจักษ์กันแล้วว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร -o-'
    แต่จิต และ วิญญาณ นี่สิ เกิดจากอะไรกันแน่?

    แล้วอะไรกันที่เป็นตัวกำหนดให้ชาติแรกที่เราเกิด
    เกิดมาอยู่ในภพภูมิไหน มีฐานะอย่างไร?


    ขออนุโมธนาด้วยค่ะ ^^
     
  2. อาจีฟา

    อาจีฟา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +307
    ผมคิดว่านะ อาจไม่ถูก อิอิ จิตวิญญาณที่มีอยู่น่าจะเป็นลักษณะปกติที่เกิดขึ้นของห้วงสสารพลังงานในจักรวาล
     
  3. Mr.Boy_jakkrit

    Mr.Boy_jakkrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    2,065
    ค่าพลัง:
    +2,682
    เราขอแย้งนิดนึงนะว่า คุณเข้าใจคำว่า จิต และ วิญญาณ ไว้อย่างไร

    จะเข้าใจได้ก็ต่อเมื่อ ตัวเราเองรู้จักจิต รู้จัก วิญญาณ เสียก่อน
    ไม่เช่นนั้นตอบไปก็ยังจะมีคำถามอื่นๆตามมาอีก
    ซึ่งในทางปฏิบัติของผู้แสวงหาธรรมแล้ว สิ่งเหล่านั้นถือเป็นเรื่องนอกตัว และเป็นเรื่องไกลตัวมากสำหรับผู้ยังไม่ปฏิบัติ
     
  4. tee666

    tee666 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +14
    tee

    ท่านคิดว่าหุ่นยนต์ยุคปัจจุบันนี้คิดเป็นไหม และอีก 1000 ปีข้างหน้าจะคิดเป็นไหม ท่านคิดว่ากว่าหุ่นยนต์จะคิดเป็นต้องใช้เวลาเท่าไร และมีองค์ประกอบอะไรบ้างที่จะทำให้หุ่นยนต์คิดเป็นและเหมือนมนุษย์ จิตและวิญญานก็มีองค์ประกอบเหมือนหุ่นยนต์ที่คิดเป็นนั่นแหละ ก็เดาอีกนั่นแหละ
     
  5. มรรคา

    มรรคา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2009
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +101
    นั่นซิครับอยากรู้เหมือนกัน รู้แต่ว่าคนยุคต้นกัปเกิดจากพรหมแต่ไอ้เจ้าดวงจิตนี่ซิมาอย่างไรใครจะตอบได้(kiss)
     
  6. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    ไม่รู้สิ คงเป็นคำถามคล้ายๆกัน กับเอกภพนี้เกิดขึ้นจากอะไร

    แต่ที่แน่ๆ จิตมาจากจิตเดียวกัน จิตที่มาจุติ มาวน เวียนว่าย ในเอกภพนี้ล้วนมีความสัมพันกัน โดยผลการกระทำ (กรรม) ก็ตัวจิตเองนี่แหละที่บันทึกกรรมไว้เอง สสารและพลังงานที่เป็นรูปธรรมจึงมีความสัมพัทกันเช่นนั้นเอง แล

    (เดาเอานะ)

    --------------------------------
    เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว
     
  7. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
    เป็นกระทู้ที่หน้าสนใจมากๆเลยครับ

    คำตอบคือไม่มีคำตอบหรือป่าวครับ

    ไม่มีอะไรเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ทุกอย่างต้องมีที่มา

    แล้วจิตและวิญญาณกำเนิดมาได้อย่างไร หน้าสนใจจริงๆ

    เชิญท่านผู้รู้จริงตอบให้กระจ่างด้วยครับ

    อนุโมทนา
     
  8. คิดดีจัง

    คิดดีจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,626
    ค่าพลัง:
    +5,353
  9. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน..อยากรู้ด้วย..คิดว่าคล้ายโปรแกรมชนิดหนึ่ง..นั่นอาจเป็นที่มาของการหาต้นตออีกว่าใครเป็นผู้สร้างโปรแกรมนี้ขึ้นมา ปัจจุบันมีการพยายามสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ให้ทำงานเหมือนมนุษย์หรือสัตว์มากยิ่งขึ้น..มีเซนเซอร์รับรู้(อินพุท)ปัจจัยต่างๆทางกายภาพดุจดังอายตนะของคนเราแล้วนำมาประประมวลผลทั้งตัดสินใจแล้วกระทำ(เอาท์พุท)ตามโปรแกรมที่ตั้งไว้รวมทั้งพัฒนาเรียนรู้ด้วยตัวเองเพื่อความเหมาะสมต่อหน้าที่การงาน
    ดูๆแล้วไม่ต่างกันเท่าไร ในเมื่อร่างกายเราเองก็ดุจเครื่องยนต์ชีวะชนิดหนึ่งที่ใช้อาหารและกระบวนการสันดาปย่อยสลายเป็นพลังงานในการดำรงชีพแถมมีของเสียด้วย โปรแกรมก็คือจิตวิญญาณมีกระบวนการเรียนรู้ตั้งแต่เกิดหรืออดีตชาติสะสมอยู่ในเมโมรี(ความทรงจำ)เพื่อการเทียบเคียงในการดำเนินชีวิตเพื่อค้นหาสภาวะที่ดีที่สุด(สุขสบาย)ตามที่จิตต้องการหรือเพื่อการอยู่รอดของเผ่าพันธ์ เพียงแต่จิตวิญญาณของคนละเอียดลึกล้ำกว่าคอมพิวเตอร์มากมายก่ายกอง มนุษย์อาจถูกสร้างขึ้นมาจากสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามากก็เป็นได้นี่น่าจะเป็นที่มาของพระผู้สร้าง,พระเจ้า,มนุษย์ต่างดาวผู้ทรงภูมิปัญญา,แต่ทางพุทธเราเรียกว่าธรรมหรือธรรมชาติเนื่องจากยังไม่รู้จริงก็เลยกล่าวกันไปเรื่อยๆตามแต่จะนึกปรุงคาดคะเนเอา เมื่ไรที่เราคิดหรือปรุงแต่งจากอวิชาเมื่อนั้นจิตวิญญาณก็เกิด...แล้วดับสลับกันไป กฏข้อหนึ่งของพลังงานและธรรมชาติคือสสารหรือพลังงานไม่สูญหายไปไหนก็เหมือนกฏแห่งกรรม อาจมีการเปลี่ยนรูปเป็นอีกรูปแบบหนึ่งอย่างที่เราสัมผัสไม่ได้ อุปมาเหมือนกองไฟที่เราก่อขึ้นมา ฟืนก็คือร่างกายเราเมื่อเผาไหม้หมดก็คือตาย ไฟ(พลาสมา)ก็คือจิตวิญญาณที่ต้องการฟืนอยู่ตลอดเวลาเพื่อรักษาสภาวะการเผาไหม้เอาไว้ พลาสมาที่เกิดขึ้นก็เหมือนช่วงที่มีชีวิตอยู่และสิ่งที่เหลือ(เถ้าถ่าน)จากการเผาไหม้ก็คืนสู่ธรรมชาติไป แม้แต่ความร้อนและแสงก็ถูกธรรมชาติดูดซับไปเพื่อเอื้ออำนวยประโยชน์ก่อเกิดแก่สิ่งอื่นต่อไป
     
  10. k_g

    k_g เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +170
    ไม่มีคำตอบอื่นแล้วหรอคะ
    อะไรกันที่เป็นตัวกำหนดให้ชาติแรกที่เราเกิด
    เกิดมาอยู่ในภพภูมิไหน มีฐานะอย่างไร เพาะตอนนั้นเรายังไม่มีกรรมทั้งดีและชั่วเลย
     
  11. ปรม

    ปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2010
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +325
    เกิดจากธาตุรู้


    -*-


    เป็นเหมือนอนุภาคเล็ก ๆ ระดับสสาร


    เคยอ่านเจอในหนังสือ

    ประวัติหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    หน้าท้าย ๆ

    ท่านจะตอบเรื่อง อจินไตยหลาย ๆ เรื่อง
     
  12. มีบ้านแต่ไร้กุญแจ

    มีบ้านแต่ไร้กุญแจ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +59
    - -*.......
     
  13. สมใจ แสงทอง

    สมใจ แสงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +213
    ผมว่าคงมีผู้สร้างแหละครับ แต่หลายคนคงบอกว่า มานเป็นอัตนัยอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ ที่หาคำตอบไม่ได้ เพราะไม่สิ้นสุด แต่ผมว่านะครับ ไม่มีอะไรที่ไม่สิ้นสุดหลอก อาจจะมีไม่สิ้นสุดอยู่ 1 แต่ที่เหลือ อาจเป็นภาพรวงตาแม้แต่ตัวท่านเอง ที่คิดว่าง่ายดาย ดีที่สุด
    แต่จริง ๆ แล้ว เป็นแค่ สิ่งบางอย่างลอวันถึงเวลา

    เอาง่าย ทุกอย่างเริ่มจาก 1 แล้ว 1 นี้คือไคร ผมตอบติ๊งต๊องไปป่ะครับ แหะ ๆ
     
  14. สมใจ แสงทอง

    สมใจ แสงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +213
    บ้างก็ว่านู้บ้างก็ว่านี้ ถึงเค้าอธิบายเรื่องจริงมาเราก็ไม่เข้ามใจหลอกครับ ต้องรู้ด้วยตนเอง

    ลองปฏิบัติสิครับ แล้วท่านจะรู้ ผมก็ดีแต่แนะนำ ตัวเองไม่ทำอะไรเลย

    สาธุครับ
     
  15. สมใจ แสงทอง

    สมใจ แสงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +213
    อานนี้เอาจริงและ อย่าว่าผมละว่าตอบมาก คำถามมานตรงพอดี
    ผมว่าคนเราเกิดมา ก็ตาย เกิดมาก็ตาย อยู่แบบนี้ คุณลองคิดสิว่า มนุษย์ยิ่งใหญ่แค่ไหน รวยแค่ไหน บารมีเท่าไหน ก็สิ้นสุดแค่วา่ เกิดมาก็ตาย เกิดมาก็ตาย ไอที่เที่ยงแท้น่ะ ผมว่ามีแต่หากานไม่เจอเองเพราะว่ามีกิเลส ความอยากได้ ความอยากรู้อยากเห็น จิตคือตัวท่าน สมมุติท่านมีจิตแน่วแน่ คือจิตที่แท้จริง ท่านไม่ต้องลงนรก ผุดสวรรค์ แต่ท่านจะไป ณ ที่ใดก็ได้ ตอนไหนก็ได้ ท่านก็คงต้องเบื่อบ้างแหละ การทำชั่วง่าย
    กานทำดีก็ง่าย การมีบารมี ง่าย การไม่มีบารมีก็ง่าย คนเราบรรลุ แล้วก็ต้องการธรรมดามากที่สุด เพราะธรรมดา อาจจะดีที่สุดก็ได้ เอาง่าย ๆ คุณผู้อ่าน เป็นเทพ ผู้สูงสุด เกิดชาติใดก็ไม่มีไครทำอะไรได้ เกิดหมื่นชาติก็ไม่มีไครทำอะไรได้ แล้วพวกท่านไม่เบื่อบ้างหรือ ผมอยากจะบอกว่า ดวงจิตก็คือ ตัวคุณเองนั้นแหละ แต่เมื่อคุณสงบ
    สังเกตุุคนที่มีจิตใจสงบบ้างหรือเปล่า ว่าแกร่งกล้าเพียงใด เอาง่าย ๆ คุณลองไปฝึกสมาธิให้จิตแก่กล้า เมื่อฝนตกฟ้าผ่าสนั่นหวั่นไหว คุณก็ไม่ตกใจ เมื่อคุณฝึกไปเรื่อย ๆ สงบ คุณก็จะเข้าถึงจิตของคุณอย่างละเอียด ถึงผมจะบอกว่าจิตที่แท้จริงก็คือคุณนั้นแหละ แต่คุณอย่างถ่องแท้ ต้องเข้าให้ถึง มนุษย์ทุกพาก กิเลสหนา เทพบางภาคกิเลสหนา
    ไม่มีไครดีไครชั่วเสมอ ทุกอย่างถูกสร้างมาให้เสมอต้นเสมอปลาย เหมือนหญินหยาง
    แต่ว่าอาจจะมีจุตรงกลางหยินหยางที่เกิดขึ้นมาทำให้มีหยินหยาง

    จิตอาจเป็นอากาศธาตุก็ได้ แต่เท่าที่ผมเข้าใจหรือสัมผัส+กับความคิดคือ จิต นั้น เป็นตัวคุณเองนั่นแหละ แต่ว่าจิตนั้น หนากว่าทุกอย่าง บางกว่าทุกอย่าง พูดง่าย ๆ คือความไม่มีตัวตน แต่คุณสามารถสัมผัสได้โดยการมองเห็น นึกคิด จิตเข้าแข็งไปได้หมดทุกที่ พวกคุณหรือไครสงสัยหรือไม่ว่า พวกพระสงค์หรือคนมีญาณ เวลาท่องนรกหรือสวรรค์ เค้าไปทั้งร่างกายหรือไปแค่จิต ร่างกายนี้หมายถึง จิตที่เห็นทั้งกาย หรือ จิตที่
    มองไม่เห็นตัวเองเลย คือไม่มีตัวตน เอาง่าย ๆ ฝึกอันนี้สิ รูป รส กาย ใจ กลิ่น เสียง คิดซะว่าเป็นเรื่อฝงธรรมดา จิตคุณจะแข็งขึ้น ทุกสิ่งเป็นเรื่องธรรมดา แนะนำแค่นี้แหละ นึกอะไรออกจะมาบอก ขอบคุณครับ
     
  16. amsomegal

    amsomegal Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +92
    มันเป็นคำถามที่ไม่มีวันสิ้นสุดค่ะ เขาบอกจิตวิญญาณธาตุและทุำกสรรพสิ่งกำเนิดมาจากความว่างเปล่้า แม้แต่ผู้สร้างเองนั้น ก็เกิดมาจากความว่างเปล่า เอาล่ะสิ ทีนี้ก็ถามกันต่อไปว่า ใครเป็นผู้สร้างความว่างเปล่า ให้มีพลังสร้างสรรค์สิ่งต่างๆได้ แล้วก็จะุึถามต่อไปว่าใครเป็นผู้สร้าง "ผู้สร้างความว่างเปล่า" มันก็จะถามย้อนกลับไปเรื่อยๆไม่มีวันสิ้นสุุด

    สรุปว่าคำตอบเพียงคำตอบเดียวที่มีคือ ทุกสรรพสิ่งกำเนิดมาจากความว่างเปล่า อย่าได้สงสัยว่าใครคือ ผู้สร้างความว่างเปล่า เพราะมันก็จะุุึถามย้อนไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบวันสิ้้น
     
  17. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,161
    ถาม : ปัจจุบัน เรื่องการเกิดของวิญญาณ ...(ไม่ชัด)... ?

    ตอบ : ยังมีอยู่เป็นปกติ คำว่า วิญญาณของเรานี่หมายถึงจิต การเกิดของจิตนั้นยากลำบากเต็มที เพราะว่าจะต้องประกอบไปด้วยธาตุต่างๆ โดยเฉพาะที่สำคัญที่สุดคือธาตุรู้ ถ้าธาตุรู้จับเข้าไปเมื่อไร ถึงจะปรากฏเป็นจิตขึ้นมา มีโอกาสเกิดได้ แต่ว่าเกิดได้ยากเต็มที ประมาณระยะเวลาไม่ถูก

    ที่อยู่ข้างล่างคือสัตว์นรกที่อยู่แต่ละขุม เอาโลกเราทั้งโลกหย่อนลงไปในนรกขุมหนึ่ง ก็ประมาณทรายเม็ดเดียวในเข่งใหญ่ๆ ขุมเดียวนะ แล้วทั้งหมดที่เหลือนั้นจะเท่าไร นั่น..มากกว่ากันถึงขนาดนั้น

    พวกนั้นพอเขาพ้นกรรมขึ้นมาเป็นเปรต เป็นอสุรกาย เป็นสัตว์เดรัจฉาน พ้นขึ้นมาก็เป็นมนุษย์อีกที มนุษย์จะมีการเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันว่า ทั้งหมดนี้ เมื่อเกิดมาแล้วก็ทำดี ทำชั่ว กันบ้างไปเรื่อยๆ จนวาระสุดท้ายก็ทำดีมากกว่าชั่ว ในที่สุดก็หลุดพ้นเข้านิพพานไป

    แต่ว่าที่ไปแล้วทั้งที่เข้านิพพานไปแล้ว ทั้งที่เป็นเทวดา พรหม ถึงมนุษย์รวมกันยังไม่เท่ากับในนรก นั่นเขาเยอะกว่ามาก แล้วการเกิดของจิตก็เกิดยากเกิดเย็นเหลือขนาด แต่ว่ามันมีโอกาสเป็นไปได้เหมือนกัน

    เหมือนกับว่าแร่ธาตุต่างๆ ที่มีส่วนผสมต่างกัน เอาเป็นว่าทองก็แล้วกัน ทองนี่หลวงพ่อท่านบอกว่าประกอบไปด้วย ตะกั่วเถื่อนก็คือดีบุก ทองแดง สารปากนกแก้ว แร่เพรียงไฟ ๔ อย่างนี้ถ้ามาผสมกัน ในอันตราส่วนที่เหมาะสม ก็จะเป็นทองคำ

    คนเราก็เหมือนกัน ในสภาพของจิตนี่ก็จะมีแร่ธาตุต่างๆ ในจักรวาลที่หมุนเวียนไปมาตามแรงโคจรของดวงดาวต่างๆ ทำให้ผสมกันไปผสมกันมา สำคัญที่สุดก็ธาตุรู้ เมื่อธาตุรู้จับเข้าไปก็เกิดเป็นจิตขึ้นมา พอเกิดเป็นจิตขึ้นมาก็ต้องแสวงหาที่อยู่ซึ่งประกอบไปด้วยกายที่มี ดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ และวิญญาณนี้ไว้รองรับ แต่ว่าโอกาสที่จะเกิดในลักษณะนี้นั้นยากเต็มที


    สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนกรกฎาคม ๒๕๔๔



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard...ead.php?t=1655

    ตรงนี้แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคล จะจริงไม่จริงอย่างไร แต่สุดท้ายเราก็เกิดมาแล้วสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือเบื้องหน้าที่เราจะต้องไปต่อ ตรงนี้สำคัญที่สุด
     
  18. yogibhai2009

    yogibhai2009 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +23
    ผม ว่า คำถาม นี้น่าสนใจมากครับ...

    คำตอบนึง ที่ทำให้เราเริ่มเข้ามาในวัฏสงสารนี้ คือ อวิชชา

    แต่ผมรู้สึกว่ากระทู้นี้ต้องการย้อนถามไปไกลกว่านั้น

    คือ ดวงจิต ที่เกิด อวิชชา นี้ ขึ้นมา ไอ่ดวงนั้น มันเกิดมาจากไหน

    และผมว่า สมมติว่า ดวงจิตนี้ "มีอยู่แล้ว" และจากที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    จิตเดิมงดงามประภัสสร...

    คำถามต่อมาคือ จิตที่งดงามประภัสสรนี้ อยู่ๆ เกิดอวิชชาขึ้นมาได้อย่างไร...

    อะไรทำให้มันเกิดอวิชชา จนต้องเข้ามาสู่วัฏสงสารนี้

    (แสดงว่า ก่อนหน้านี้ไม่ได้อยู่ใน วัฏสงสาร อยู่อย่างประภัสสร ไม่ต้องมาเกิด)

    งง มั้ย ครับ 555
     
  19. Sopasiri

    Sopasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    449
    ค่าพลัง:
    +912
    แรงดึงดูด?ความปรารถนาฺ?การขับเคลื่อนของปัจจัยที่ก่อให้เกิดธาตุ4และธาตุ4ที่ขับเคลื่อน? สรุป งงจ้า ไม่รู้เลย เหอๆ
     
  20. ratercracker

    ratercracker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +729
    คิดเล่นๆ โปรดใช้วิจารณยาน

    ก็นั่นแหละครับ อะไรทำให้ จิตเดิมแท้ ที่อยู่ในสภาวะ พระนิพพาน
    เกิดสั่นสะทือนขึ้น จิตจึงไม่เสถียร แตกออกมากมาย วิ่งไปตามความปราถนายึดเกาะของ จิตแต่ละดวง ในขณะเดียวกันรูปธรรมก็เกิดเอกภพขึ้นพร้อมๆกัน เพราะจิตหยาบขึ้น จึงเกิดธาตุ ทั้ง 4 ขึ้น ประกอบเป็นดวงดาวต่างๆ เมื่อจิตหยาบขึ้นอีกจึงมาจุติบนดวงดาวต่างๆ โดยเฉพาะโลกมนุษย์
     

แชร์หน้านี้

Loading...