บุญอะไรส่งผลให้กิจการค้ารุ่งเรือง

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย krasin, 9 เมษายน 2010.

  1. krasin

    krasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +2,821
    ข้าพเจ้าปกติก็ชอบทำบุญ เป็นประจำ แต่กำลังจะทำกิจการส่วนตัว เป็นกิจการไม่ใหญ่โต พอเลี้ยงตัวได้ พ่อแม่ลูก อยากทราบว่าทำบุญอะไรให้กิจการค้ารุ่งเรืองบ้างครับ ที่ทำประจำก็ถวายสังฆทาน ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างโรงพยาบาล ปัจจัยไม่เยอะ แต่ทำด้วยใจเป็นกุศลจริงจริงครับ
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861
    สวดมนต์ก่อนนอน แล้วแผ่เมตตา สิ ครับ

    ทำทุกๆวัน ทำจิตให้มีเมตตากับสรรพสัตว์ เหล่าเทพเทวา ทุกหมู่เหล่า อย่างไม่มีประมาณ
    ท่านเหล่านั้นก็จะมาอำนวยอวยพรให้กับเราทุกค่ำคืนเช่นกัน สิ่งดีๆที่ไม่คาดคิดจะมาบังเกิด
     
  3. pornsak

    pornsak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +272
    อืมช่าย...เห็นด้วยกับที่ ท่าน Nirvana กล่าวอะครับ

    ทำบุญด้วยใจเป็นกุศล หนะ ดี ... แต่ถ้าจะให้เยี่ยม ลองทำตามนี้นะครับ

    1 ถวายผลบุญกุศลที่ได้ทำให้กับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์, พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์, พระอรหันต์สาวกทุกพระองค์, และ พระโพธิสัตว์เจ้าทุกพระองค์

    2 จากนั้น อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับ พ่อแม่, ญาติพี่น้อง, ครูอาจารย์, เทวดารักษาตนและพระภูมิเจ้าที่ ที่เราอยู่, เจ้ากรรมนายเวร, เปรตและสัมภเวสี, ตลอดถึงสัพสัตว์อื่นๆใดๆ

    แค่ทำเพิ่มอีก 2 steps นี้นะครับ ...เยี่ยมครับ...อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2010
  4. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,193
    ค่าพลัง:
    +7,815



    <CENTER>๓. อิฎฐสูตร</CENTER>[๔๓] ครั้งนั้น ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดี เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
    ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มี
    พระภาคได้ตรัสกับท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีว่า ดูกรคฤหบดี ธรรม ๕ ประการนี้
    น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้โดยยากในโลก ๕ ประการเป็นไฉน คือ
    อายุ ๑ วรรณะ ๑ สุขะ ๑ ยศ ๑ สวรรค์ ๑ ดูกรคฤหบดี ธรรม ๕ ประการ
    นี้แล น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้โดยยากในโลก ฯ
    ธรรม ๕ ประการนี้ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้โดยยากในโลก
    เรามิได้กล่าวว่าจะพึงได้เพราะเหตุแห่งความอ้อนวอน หรือเพราะเหตุแห่งความ
    ปรารถนา ถ้าธรรม ๕ ประการนี้ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้โดยยาก
    ในโลก จักได้เพราะเหตุแห่งความอ้อนวอน หรือเพราะเหตุแห่งความปรารถนา
    แล้วไซร้ ในโลกนี้ ใครจะพึงเสื่อมจากอะไร ดูกรคฤหบดี อริยสาวกผู้ต้องการ
    อายุ ไม่ควรอ้อนวอนหรือเพลิดเพลินอายุ หรือแม้เพราะเหตุแห่งอายุ อริยสาวก
    ผู้ต้องการอายุ พึงปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นไปเพื่ออายุ เพราะปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อ
    อายุที่พระอริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้อายุ อริยสาวกผู้นั้นย่อม
    ได้อายุที่เป็นของทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ อริยสาวกผู้ต้องการวรรณะ ไม่ควร
    อ้อนวอนหรือเพลิดเพลินวรรณะ หรือแม้เพราะเหตุแห่งวรรณะ อริยสาวกผู้ต้อง
    การวรรณะ พึงปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อวรรณะ เพราะปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อ
    วรรณะ ที่อริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้วรรณะ อริยสาวกนั้น
    ย่อมได้วรรณะที่เป็นของทิพย์ หรือเป็นของมนุษย์ อริยสาวกผู้ต้องการสุข ไม่
    อ้อนวอนหรือเพลิดเพลินสุข หรือแม้เพราะเหตุแห่งสุข อริยสาวกผู้ต้องการสุข
    พึงปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อสุข เพราะปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อสุขที่อริยสาวกนั้น
    ปฏิบัติแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้สุข อริยสาวกนั้นย่อมได้สุขที่เป็นของทิพย์
    หรือของมนุษย์ อริยสาวกผู้ต้องการยศ ไม่ควรอ้อนวอนหรือเพลิดเพลินยศ หรือ
    แม้เพราะเหตุแห่งยศ อริยสาวกผู้ต้องการยศ พึงปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อยศ
    เพราะปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อยศที่อริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้ยศ
    อริยสาวกนั้น ย่อมได้ยศที่เป็นของทิพย์ หรือของมนุษย์ อริยสาวกผู้ต้องการ
    สวรรค์ ไม่ควรอ้อนวอนหรือเพลิดเพลินสวรรค์ หรือแม้เพราะเหตุแห่งสวรรค์
    อริยสาวกผู้ต้องการสวรรค์ พึงปฏิบัติปฏิปทาอันเป็นไปเพื่อสวรรค์ เพราะปฏิปทา
    อันเป็นไปเพื่อสวรรค์ ที่อริยสาวกนั้นปฏิบัติแล้ว ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้สวรรค์
    อริยสาวกนั้นย่อมได้สวรรค์ ฯ
    ชนผู้ปรารถนาอายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สวรรค์ ความเกิด
    ในตระกูลสูง และความเพลินใจ พึงทำความไม่ประมาทให้
    มากยิ่งขึ้น บัณฑิตทั้งหลาย ย่อมสรรเสริญความไม่ประมาท
    ในการทำบุญ บัณฑิตผู้ไม่ประมาทแล้ว ย่อมยึดถือประโยชน์
    ทั้งสองไว้ได้ คือ ประโยชน์ในปัจจุบัน และประโยชน์ใน
    สัมปรายภพ ผู้มีปัญญา ท่านเรียกว่าบัณฑิต เพราะบรรลุถึง
    ประโยชน์ทั้งสองนั้น ฯ




    <CENTER>ปัตตกรรมวรรคที่ ๒

    </CENTER><CENTER>ปัตตกรรมสูตร
    </CENTER>[๖๑] ครั้งนั้นแล ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค
    ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว พระผู้มี
    พระภาคได้ตรัสว่า ดูกรคฤหบดี ธรรม ๔ ประการนี้ น่าปรารถนา น่าใคร่ น่า
    พอใจ หาได้ยากในโลก ธรรม ๔ ประการเป็นไฉน คือ ขอโภคะจงเกิดขึ้นแก่
    เราโดยทางธรรม นี้เป็นธรรมประการที่ ๑ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ
    หาได้ยากในโลก เราได้โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ขอยศจงเฟื่องฟูแก่เรา
    พร้อมด้วยญาติและมิตรสหาย นี้เป็นธรรมประการที่ ๒ อันน่าปรารถนา น่าใคร่
    น่าพอใจ หาได้ยากในโลก เราได้โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ได้ยศพร้อม
    ด้วยญาติและมิตรสหายแล้ว ขอเราจงเป็นอยู่นาน จงรักษาอายุให้ยั่งยืน นี้เป็น
    ธรรมประการที่ ๓ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก เราได้
    โภคะทั้งหลายโดยทางธรรมแล้ว ได้ยศพร้อมด้วยญาติและมิตรสหายแล้ว เป็นอยู่
    นาน รักษาอายุให้ยั่งยืนแล้ว เมื่อตายแล้ว ขอเราจงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ นี้
    เป็นธรรมประการที่ ๔ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก
    ดูกรคฤหบดี ธรรม ๔ ประการนี้แล น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้ยาก
    ในโลก ฯ
    ดูกรคฤหบดี ธรรม ๔ ประการ ย่อมเป็นไปเพื่อให้ได้ธรรม ๔ ประการ
    นี้ อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก ธรรม ๔ ประการ
    เป็นไฉน คือ สัทธาสัมปทา ๑ สีลสัมปทา ๑ จาคสัมปทา ๑ ปัญญาสัมปทา ๑
    ดูกรคฤหบดี ก็สัทธาสัมปทาเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัย ย่อมเป็นผู้มีศรัทธา
    เชื่อพระปัญญาตรัสรู้ของพระตถาคตว่า แม้เพราะเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคพระองค์
    นั้น เป็นพระอรหันต์ ... เป็นผู้จำแนกธรรม ดูกรคฤหบดี นี้เรียกว่าสัทธาสัมปทา
    ก็สีลสัมปทาเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ
    เป็นผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือ สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท
    นี้เรียกว่า สีลสัมปทา ก็จาคสัมปทาเป็นไฉน อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ มีใจ
    ปราศจากมลทิน คือ ความตระหนี่ มีจาคะอันปล่อยแล้ว มีฝ่ามืออันชุ่ม ยินดี
    ในการสละ เป็นผู้ควรแก่การขอ ยินดีในการจำแนกทาน อยู่ครอบครองเรือน
    นี้เรียกว่าจาคสัมปทา ก็ปัญญาสัมปทาเป็นไฉน บุคคลมีใจอันความโลภไม่สม่ำ-
    *เสมอ คือ อภิชฌาครอบงำแล้ว ย่อมทำกิจที่ไม่ควรทำ ไม่ยินดีกิจที่ควรทำ
    เมื่อทำกิจที่ไม่ควรทำ ไม่ยินดีกิจที่ควรทำอยู่ ย่อมเสื่อมจากยศและความสุข
    บุคคลมีใจอันพยาบาทครอบงำ ... อันถีนมิทธะครอบงำ ... อันอุทธัจจกุกกุจจะ
    ครอบงำ ... อันวิจิกิจฉาครอบงำแล้ว ย่อมทำกิจที่ไม่ควรทำ ไม่ยินดีกิจที่ควรทำ
    ย่อมเสื่อมจากยศและความสุข ดูกรคฤหบดี อริยสาวกนั้นแลรู้ว่า อภิชฌาวิสม-
    *โลภะเป็นอุปกิเลสของจิต ย่อมละอภิชฌาวิสมโลภะอันเป็นอุปกิเลสของจิตเสียได้
    รู้ว่า พยาบาท ... ถีนมิทธะ ... อุทธัจจกุกกุจจะ ... วิจิกิจฉา เป็นอุปกิเลสของ
    จิต ย่อมละวิจิกิจฉาอันเป็นอุปกิเลสของจิต ดูกรคฤหบดี เมื่อใดอริยสาวกรู้ว่า
    อภิชฌาวิสมโลภะเป็นอุปกิเลสของจิตดังนี้แล้ว เมื่อนั้นย่อมละเสียได้ เมื่อใด
    อริยสาวกรู้ว่าพยาบาท ... ถีนมิทธะ ... อุทธัจจกุกกุจจะ ... วิจิกิจฉา เป็น
    อุปกิเลสของจิตดังนี้แล้ว เมื่อนั้น ย่อมละเสียได้ อริยสาวกนี้เราเรียกว่า เป็น
    ผู้มีปัญญามาก มีปัญญาหนาแน่น เป็นผู้เห็นทาง เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยปัญญา นี้
    เรียกว่า ปัญญาสัมปทา ดูกรคฤหบดี ธรรม ๔ ประการนี้ ย่อมเป็นไปเพื่อให้
    ได้ธรรม ๔ ประการนี้แล อันน่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ หาได้ยากในโลก ฯ
    ดูกรคฤหบดี อริยสาวกนี้แล ย่อมเป็นผู้กระทำกรรมอันสมควร ๔
    ประการ ด้วยโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร สั่งสมขึ้นด้วยกำลัง
    แขน มีเหงื่อโทรมตัว ประกอบในธรรมได้มาแล้วโดยธรรม กรรม ๔ ประการ
    เป็นไฉน คือ อริยสาวกในธรรมวินัยนี้ ย่อมเลี้ยงตนให้เป็นสุข เอิบอิ่ม
    บริหารให้เป็นสุขโดยชอบ เลี้ยงมารดา บิดา ให้เป็นสุข เอิบอิ่ม บริหารให้
    เป็นสุขได้โดยชอบ เลี้ยงบุตร ภรรยา คนใช้ คนงาน และบริวารให้เป็นสุข
    เอิบอิ่ม บริหารให้เป็นสุขได้โดยชอบ เลี้ยงมิตรและอำมาตย์ให้เป็นสุข เอิบอิ่ม
    บริหารให้เป็นสุขได้โดยชอบ ด้วยโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่น
    เพียร ฯลฯ นี้เป็นฐานะข้อที่ ๑ ที่อริยสาวกนั้นได้ถึงแล้ว คือ ถึงโดยควรแก่
    เหตุ ได้บริโภคแล้วโดยควร อีกประการหนึ่ง อริยสาวกย่อมป้องกันอันตราย
    ทั้งหลายที่เกิดแต่ไฟ แต่น้ำ แต่พระราชา แต่โจร หรือแต่ทายาทผู้ไม่เป็นที่รัก
    เห็นปานนั้น ด้วยโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร สั่งสมขึ้นด้วย
    กำลังแขน มีเหงื่อโทรมตัว ประกอบในธรรม ได้มาแล้วโดยธรรม กระทำตน
    ให้สวัสดี นี้เป็นฐานะข้อที่ ๒ ที่อริยสาวกนั้นได้ถึงแล้ว คือ ถึงโดยควรแก่
    เหตุ ได้บริโภคแล้วโดยควร อีกประการหนึ่ง อริยสาวกเป็นผู้ทำพลี ๕ ประการ
    คือ ญาติพลี อติถิพลี ปุพพเปตพลี ราชพลี เทวตาพลี ด้วยโภคทรัพย์ที่ตน
    หามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร สั่งสมขึ้นด้วยกำลังแขน มีเหงื่อโทรมตัว
    ประกอบในธรรม ได้มาโดยธรรม นี้เป็นฐานะข้อที่ ๓ ที่อริยสาวกนั้นได้ถึงแล้ว
    คือ ถึงแล้วโดยควรแก่เหตุ ได้บริโภคแล้วโดยควร อีกประการหนึ่ง อริยสาวก
    ย่อมยังทักษิณาอันมีผลในเบื้องบน ให้อารมณ์อันเลิศ มีสุขเป็นวิบาก เป็นไปเพื่อ
    เกิดในสวรรค์ ให้ตั้งไว้เฉพาะในสมณพราหมณ์ผู้งดเว้นจากความประมาทมัวเมา
    ผู้ตั้งอยู่ในขันติและโสรัจจะ ฝึกฝนตนผู้เดียว ยังตนผู้เดียวให้สงบ ยังตนผู้เดียว
    ให้ดับกิเลส เห็นปานนั้น ด้วยโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร
    สั่งสมด้วยกำลังแขน มีเหงื่อโทรมตัว ประกอบในธรรมได้มาโดยธรรม นี้เป็น
    ฐานะข้อที่ ๔ ที่อริยสาวกนั้นได้ถึงแล้ว คือ ถึงโดยควรแก่เหตุ ได้บริโภคแล้ว
    โดยควร ดูกรคฤหบดี อริยสาวกนั้นชื่อว่าเป็นผู้กระทำกรรมอันสมควร ๔ ประการ
    นี้ ด้วยโภคทรัพย์ที่ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียร สั่งสมขึ้นด้วยกำลังแขน
    มีเหงื่อโทรมตัว ประกอบในธรรม ได้มาโดยธรรม ดูกรคฤหบดี โภคทรัพย์
    ของใครๆ ถึงความสิ้นไป นอกจากกรรมอันสมควร ๔ ประการนี้ เราเรียกว่า
    สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ สิ้นเปลืองไปโดยไม่สมควร ใช้สอยโดยไม่สมควรแก่เหตุ
    ส่วนโภคทรัพย์ของใครๆ ถึงความสิ้นไปด้วยกรรมอันสมควร ๔ ประการนี้ เรา
    เรียกว่า สิ้นเปลืองไปโดยเหตุอันควร สิ้นเปลืองไปโดยสถานที่ควร ใช้สอย
    โดยสมควรแก่เหตุ
    โภคทรัพย์ทั้งหลายเราได้บริโภคแล้ว คนที่ควรเลี้ยง เราได้
    เลี้ยงแล้ว เราได้ข้ามพ้นอันตรายทั้งหลายไปแล้ว ทักษิณามี
    ผลอันเลิศ เราได้ให้แล้ว อนึ่ง พลีกรรม ๕ ประการ เรา
    ได้กระทำแล้ว ท่านผู้มีศีล สำรวมอินทรีย์ ประพฤติพรหมจรรย์
    เราได้บำรุงแล้ว บัณฑิตอยู่ครอบครองเรือน พึงปรารถนา
    โภคทรัพย์ เพื่อประโยชน์ใด ประโยชน์นั้นเราได้บรรลุแล้ว
    โดยลำดับ กรรมที่ไม่เดือดร้อนในภายหลังเราได้กระทำแล้ว
    นรชนผู้มีอันจะตายเป็นสภาพ เมื่อคำนึงถึงเหตุนี้ เป็นผู้ตั้ง
    อยู่แล้วในธรรมของพระอริยะ บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญ
    เขาในโลกนี้ทีเดียว ครั้นเขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงใน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2010
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    สวดมนต์ รักษาศีล นั่งสมาธิ เเผ่เมตตาในทุกๆวันครับ ส่วนเ่รื่องคาถาก็ขอเเนะนําพระคาถาชินบัญชร พาหุง เเละบทขอขมาพระรัตนตรัยครับ บทอิติปิโสด้วย คือท่องให้มากกว่าอายุเราหนึ่งจบ เช่น ถ้า จขกท อายุ 20 ก็ท่อง 21 จบ ถ้า 25 ก็ 26 จบครับ ท่องให้ได้ทุกวันนะครับ เเล้วชีวิตจะไม่มีอะไรติดขัดครับ เจริญในธรรมครับ
     
  6. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    ๙. วณิชชสูตร ว่าด้วยการค้าขาย
    [๗๙] ครั้งนั้น ท่านพระสารีบุตรเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ฯลฯ ได้ทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้การค้าขายอย่างเดียวกัน พ่อค้าบางคนประกอบเเล้วขาดทุน ...บางคนประกอบแล้วได้กำไรไม่เท่าที่ประสงค์ ...บางคนประกอบแล้วได้กำไรตามที่ประสงค์ ...บางคนประกอบแล้วได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์
    พ. ตรัสตอบว่า ดูก่อนสารีบุตร บุคคลบางคนในโลกนี้เข้าไปหาสมณะก็ดี พราหมณ์ก็ดี ปวารณาสมณะหรือพราหมณ์นั้นให้บอกขอปัจจัยได้
    บุคคลนั้นปวารณาด้วยปัจจัยใด ไม่ให้ปัจจัยนั้น (แก่สมณพราหมณ์นั้น) บุคคลนั้นถ้าตายจากอัตภาพนั้นมาสู่อัตภาพนี้ หากประกอบการค้าขายอันใด การค้าขายอันนั้นย่อมขาดทุน
    ส่วนบุคคลบางคน เข้าไปหาสมณะก็ดี พราหมณ์ก็ดี ปวารณาสมณะหรือพราหมณ์นั้นให้บอกขอปัจจัยได้ บุคคลนั้นปวารณาด้วยปัจจัยใด ให้ปัจจัยนั้นไม่เท่าที่ (สมณพราหมณ์นั้น ) ประสงค์ บุคคลนั้นถ้าตายจากอัตภาพนั้นมาสู่อัตภาพนี้ หากประกอบการค้าขายอันใด การค้าขายนั้นย่อมได้กำไรไม่เท่าที่ประสงค์
    ส่วนบุคคลบางคน เข้าไปหาสมณะก็ดี พราหมณ์ก็ดี ปวารณาสมณะหรือพรามหณ์นั้นให้บอกขอปัจจัยได้ บุคคลนั้นปวารณาด้วยปัจจัยใด ให้ปัจจัยนั้นตามที่ (สมณพราหมณ์นั้น ) ประสงค์ บุคคลนั้นถ้าตายจากอัตภาพนั้นมาสู่อัตภาพนี้ หากประกอบการค้าขายอันใด การค้าขายอันนั้นย่อมได้กำไรตามที่ประสงค์.
    ส่วนบุคคลบางคน เข้าไปหาสมณะก็ดี พราหมณ์ก็ดี ปวารณาสมณะหรือพราหมณ์นั้นให้บอกขอปัจจัยได้ บุคคลนั้นปวารณาด้วยปัจจัยใด ให้ปัจจัยนั้นยิ่งกว่าที่ (สมณพราหมณ์นั้น) ประสงค์ บุคคลนั้นถ้าตายจากอัตภาพนั้น มาสู่อัตภาพนี้ หากประกอบการค้าขายอันใด การค้าขายอันนั้นย่อมได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์
    ดูก่อนสารีบุตร นี้แล เป็นเหตุเป็นปัจจัย ให้การค้าขายอันเดียวกันพ่อค้าบางคนประกอบแล้วขาดทุน ...บางคนประกอบแล้วไม่ได้กำไรเท่าที่ประสงค์ ...บางคนประกอบแล้วได้กำไรตามที่ประสงค์ ... บางคนประกอบแล้วได้กำไรยิ่งกว่าที่ประสงค์.
    (พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒)
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    เอาวิธีทําสังฆทานที่บ้านเองทุกวันไปทําด้วยก็ดีครับ จขกท ลองอ่านดูเเล้วนําไปปฏิบัติครับ เเต่อย่างที่บอกครับ อย่าทําไปคิดไปว่า ต้องรวยๆๆๆๆๆๆ ทําใจให้สงบครับ ถ้าถึงเวลา ทุกอย่างลงตัวเเล้ว เขาจะมาเองครับ ปล่อยวางครับ อย่าไปยึดติดครับ ทําดียังไงต้องได้ดีเเน่ๆครับ อย่าสงสัยครับ เจริญในธรรมครับ

    วิธีทําสังฆทานทึ่บ้านเองทุกวัน ดีมากครับ นําไปใช้ได้เลยครับ อานิสงส์เเรงครับ
    http://www.buddhism-online.org/board/index.php?topic=570.0
    http://www.buddhism-online.org/board/index.php?topic=124.0
     
  8. bluemachine

    bluemachine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +184
    สวดคาถาเงินล้านร่วมด้วยครับ
     
  9. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    <TABLE class=tborder id=post3292892 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175></TD><TD class=alt1 id=td_post_3292892 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้ว

    ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย
    ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี
    ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้
    และจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า
    ตั้งแต่วันนี้ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน

    และขออุทิศส่วนกุศลนี้ให้แก่เทพยดาทั้งหลาย
    ที่ปกปักษ์รักษาข้าพเจ้า เทพยดาทั้งหลายทั่วสากลพิภพ
    และพระยายมราช ขอเทพยดาทั้งหลาย และพระยายมราช
    จงโมทนาส่วนกุศลนี้และจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศล
    ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

    และขอแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว
    ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้
    ให้แก่ท่านทั้งหลายที่มีชีวิตอยู่ก็ดีที่ล่วงลับไปแล้วก็ดี
    ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี ที่เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี
    เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี อาทิ บิดามารดา เป็นต้น
    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนาส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์และความสุขเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้า
    จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด

    [COLOR=blue][COLOR=red]และขอถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว [/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=blue][COLOR=red]สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ พระบรมวงศานุวงศ์ [/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=blue][COLOR=red]ทุก ๆ พระองค์[/COLOR][COLOR=red]ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน [/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=blue][COLOR=red]มีพระราชประสงค์สิ่งใดขอให้สำเร็จ[/COLOR][/COLOR]
    [COLOR=blue][COLOR=red]ตามพระราชประสงค์ทุกประการเทอญ[/COLOR][/COLOR]

    ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าทั้งหลายได้บำเพ็ญมาแล้ว
    ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาตินี้
    อผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
    ในชาติปัจจุบันนี้เถิด หากไม่สามารถเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
    ในชาติปัจจุบันนี้ได้ ขอให้คำว่า ไม่มี ไม่รู้ ไม่เป็น ไม่สำเร็จ
    จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้
    ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง

    http://palungjit.org/threads/ขம.ml#post3146526ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย วัดเขาชี จ.พิษณุโลก
    โครงการก่อสร้าง "ศูนย์ปฏิบัติธรรมแสงธรรมสุทธา"
    [​IMG] [​IMG]ขอเชิญทำบุญสร้างพระประธานสมเด็จองค์ปฐมและศาลาแก้วพระจุฬามณีปฏิบัติธรรมที่นครศรีธรรมฯ<!-- google_ad_section_end -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  10. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    อยากให้บุญส่งผลเร็วต้องหมั่นระลึกนึกถึงบุญที่ทำไว้ให้ปลื้มสุดปลื้ม และนั่งสมาธิเยอะๆ เอาใจจรดในกลางบุญนั้น
     
  11. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,302
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ครับ เห็นด้วยครับ สวดคาถาเงินล้านเข้าไปด้วยครับ วันละเก้าจบครับ อ้อ เเต่ตอนสวด อย่าไปคิดว่า จะรวยๆๆๆๆๆ นะครับ ให้ตั้งใจสวดเพื่อให้เกิดสมาธิครับ ทําไปทุกวันครับ อย่าไปคิดอะไร ซักวันจะเข้าใจเองครับ เจริญในธรรมครับ
     
  12. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    นี่ไม่ใชจดหมายลูกโซ่นะคะ เพราะ เราไม่ได้บังคับให้ใคร ส่งต่อแต่หากท่านผู้อ่านท่านใดอ่านแล้ว
    เห็นว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์
    ต่อคนอื่น เพื่อเป็นบุญกุศลก็ช่วยกันเผยแผร่นะคะ

    Download Bonus การทำบุญถูกวิธี.pdf คลิ๊กที่นี่!
     
  13. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    นี่ไม่ใชจดหมายลูกโซ่นะคะ เพราะ เราไม่ได้บังคับให้ใคร ส่งต่อแต่หากท่านผู้อ่านท่านใดอ่านแล้ว
    เห็นว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์
    ต่อคนอื่น เพื่อเป็นบุญกุศลก็ช่วยกันเผยแผร่นะคะ

    Download Bonus การทำบุญถูกวิธี.pdf คลิ๊กที่นี่! <!-- google_ad_section_end --><!-- / message -->
     
  14. หนีนรก

    หนีนรก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    152
    ค่าพลัง:
    +666
    ถ้าถามว่า อยากรวย
    ตอบ อยาก
    ถ้าถามว่า อยากให้กิจการรุ่งเรือง
    ตอบ อยากมากๆ
    ถ้าถามว่า รุ่งเรืองแล้วจะสบายขึ้นมั้ย
    ตอบ กลัวว่าจะลำบากกว่าเดิม ภาระมากขึ้นรับผิดชอบมากขึ้น ท่าจะไปไหนไม่ได้เลย
    คำถามสุดท้าย ถ้ารวยแล้ว ไม่ช่วยให้ตัวเองและครอบครัวสบายขึ้น มีความสุขขึ้นจะรวยไปเพื่ออะไร เพื่อเพิ่มความทุกข์และลดความสุขของตัวเองเหรอ
    ตอบ (เสียงเศร้า) ไม่รวยก็ได้ อย่าทรุดเป็นพอ ขอแค่มีทรัพย์พอจะสงเคราะห์ตัวเอง ครอบครัว และมีเงินทำให้บุญแบบไม่เสียดายเป็นพอ ถือว่าใช้หนี้ชีวิตแล้วกัน :'(
    ส่วนที่เหลือ จะทำงานสุดแรง เท่าที่ใจจะรับได้ แต่อย่าให้ความสุขหายไปเลย สาธุ
     
  15. ฉัตรดา

    ฉัตรดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +510
    อนุโมทนาค่ะ เป็นความคิดที่ดีมากๆค่ะ
    ช่วงนี้ ดิฉันบุญซางลงค่ะ เจอปัญหาการเงิน ทำให้ท้อ เบื่อและเซ็ง อยากจะสวดมนต์นั่งสมาธิก็ไม่มีกระจิตกระใจ
    ขอแค่อย่าทรุดก็เป็นพอ จริง ๆ ค่ะ ขอแค่มีพอสงเคราะห์ครอบครัวและตัวเราไม่ให้เดือดร้อน มีเหลือให้ทำบุญสงเคราะห์ผู้อื่นบ้างก็สุขมากแล้ว
     
  16. hi5

    hi5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +701
    ข้อห้ามที่แน่ ๆ อย่าไปทำให้สมบัติของชาวบ้าน สมบัติของส่วนรวมต้องวิบัติ เช่น ไปช่วยบรรดาแกนนำทั้งหลาย ทำการเผาบ้านเผาเมือง

    ข้อปฏิบัติคือ รักษาสมบัติอันเป็นส่วนรวม สมบัติของสังคม ความร่มเย็นเป็นสุขของสังคม และสนับสนุนคนสุจริตให้ปกครองบ้านเมืองตามหลัก ธัมมาธิปไตย คือ ให้ธรรมะปกครองโลก
     
  17. พธบ

    พธบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    720
    ค่าพลัง:
    +2,348
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=CIDhXGGyYTs]YouTube - แนะนำการขอและการบูชาเจ้าที่[/ame]
     

แชร์หน้านี้

Loading...