พระสมเด็จ

มีอีกชุดหนึ่งครับ เป็นพระพิมพ์สามเหลี่ยม แต่ข้างในเป็นพิมพ์พระชุดเบญจภาคี รวมกันทั้ง5 องค์ครับ พอทราบไหมครับ ว่าสร้างสมัยใด

 

พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า

หนังสือศูนย์พระเครื่อง
โดย...ปรัศนีย์ ประชากร
พระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่า
(ต่อจากฉบับที่แล้ว) นิยามคำ

 

พระพิมพ์ชุดนี้ ผมเองพึ่งเคยเห็นครับ แต่พระที่เซียนพระตั้งขึ้นเพื่อเรียกพระสมเด็จ ,พระพิมพ์นางพญา , พระพิมพ์ผงสุพรรณ , พระพิมพ์ซุ้มกอ(หรือพระพิมพ์ทุ่งเศรษฐี) และพระพิมพ์พระรอด ว่าเป็นเบญจภาคี เมื่อประมาณ40-50ปีมานี่เอง สำหรับพระพิมพ์(ตามรูป)นั้น ความคิดเห็นส่วนตัวน่าจะสร้างขึ้นในยุครัชกาลที่ 6 นะครับ ต้องตรวจสอบอีกครั้ง มีฆารวาสบางท่านก็สามารถตรวจสอบรังสีขององค์พระได้หรือตรวจสอบพลังอิทธิคุณขององค์พระได้ครับ ส่วนท่านอาจารย์ประถม นั้น ผมเองได้เชิญท่านไปในงานกฐินวัดบ่อเงินบ่อทองด้วย หากมีความประสงค์จะคุยกับท่าน ผมก็ขอเชิญไปงานกฐินด้วย รายละเอียดงานอยู่ที่ลายเซ็นของผมครับ

.

 

ส่วนพระพิมพ์สมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น ผมเองได้นำไปถวายหลวงพ่อแผนเป็นร้อยองค์ครับ สามารถไปบูชากับหลวงพ่อแผนที่วัดบ่อเงินบ่อทองได้ครับ

.

 

ผมเคยอธิบายเรื่องพระพิมพ์ของวังหน้าและวังหลวงในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้... นี้มาพอสมควร แต่ผมจะนำมาลงให้ได้อ่านพอเป็นสังเขปครับว่าบทความที่คุณphaderm ได้นำมาลงให้อ่านกันนั้น จากหนังสือเรื่องอะไร

ขออนุโมทนาบุญกับคุณphaderm ด้วยครับที่ได้เผยแพร่เรื่องราวที่ผู้คนทั้งหลายไม่ค่อยได้ทราบเรื่องเหล่านี้กัน

<TABLE class=tborder id=post300737 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal">18-08-2006, 06:58 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="FONT-WEIGHT: normal" align=right> #1234 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 width=175>sithiphong<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_300737", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดนิยม



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 08:32 AM
วันที่สมัคร: Dec 2005
ข้อความ: 5,565 <!-- Start Post Thank You Hack -->
Thanks: 2,849
Thanked 14,959 Times in 2,785 Posts <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 2091


</TD><TD class=alt1 id=td_post_300737><!-- message -->

พระเจ้าอโศกมหาราช ท่านได้เชิญหลวงปู่มาเป็นคณะพระธรรมทูต (คณะโสณะ-อุตระ) เดินทางจากอินเดีย มาเมื่อ ปี 235 ท่านอธิษฐานอยู่ครบพุทธศาสนา 5000 ปี (เท่าที่อาจารย์ประถม ท่านทราบมาว่า พระที่ท่านจะอยู่ครบอายุพระศาสนาสมณโคดม 5000ปี นั้น มีทั้งหมดอยุ่ 19 องค์ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ก็อยู่ใน 19 องค์ด้วยครับ)

หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรในปัจจุบัน ท่านเป็นอทิสมันกายครับ แต่ท่านอาจารย์ประถม ท่านเห็นหลวงปู่ในนิมิต(การนั่งสมาธิ) ส่วนพระหลานชายท่าน เห็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ออกมาจากรูปทีละองค์จนครบ 5 องค์ ด้วยตาเนื้อครับ

.​

พระประวัติกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (โดยย่อ)​

ครั้นเมื่อมีการผลัดแผ่นดินใหม่ ในปีพ.ศ. 2411อันเป็นปีแรกแห่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 5 เสด็จขึ้นครองราชย์สมบัติได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สถาปนากรมหมื่นบวรวิชัยชาญขึ้นดำรงตำแหน่งมหาอุปราชวังหน้าทรงพระนามว่า "กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญสถานมงคล"
กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญสถานมงคลทรงเป็นพระราชโอรสองค์ต้นในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาอุปราชในรัชกาลที่ 4มีพรสวรรค์ในด้านศิลปศาสตร์วิทยาการแทบทุกแขนงสาขาคือวิชา รัฐศาสตร์ วิชาการทหารแบบยุโรป การช่างและการฝีมือ หลักการบริหารราชการแผ่นดิน วิชาพุทธศาสตร์ ทรงเชี่ยวชาญด้านวิปัสสนากรรมฐานมาแต่ครั้งเยาว์วัย ทั้งเจนจบในพิชัยสงครามประกอบด้วย ไสยเวทย์มนตรา ท่านได้เริ่มสร้างพระโลกอุดรบรรจุในพระเจดีย์วังหน้ารุ่นแรกประมาณปี พ.ศ.2400 ในสมัยรัชกาลที่ 4 ครั้งเมื่อทรงดำรงราชอิสริยยศ
เป็นพระองค์เจ้ายอดยิ่งยศฯ โดยได้อาราธนาองค์ปรมาจารย์อรหันต์อธิษฐานฤทธิ์ให้เสร็จสรรพ เรียกกันว่า

<O</O
"สมเด็จพระโลกอุดร" หรือพระพิมพ์วังหน้าทรงแกะแม่แบบโดยฝีพระหัตถ์ 2 พิมพ์ และรุ่นต่อมาเป็นฝีพระหัตถ์ล้วนๆเพื่อสร้างแจกในงานพระศพของสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวนอกนั้นสร้างเมื่อสมัยเป็นวังหน้าแล้วอีกหลายรุ่นนอกนั้นสร้างเมื่อสมัยเป็นวังหน้าแล้วอีกหลายรุ่น<O</O
<O</O

ในปีพ.ศ. 2411 ท่านเจ้าคุณกรมท่าได้สั่งให้ช่างทำการต่อสำเภาหลวงขึ้นหลายลำ เพื่อทำการค้าระหว่างประเทศเช่น บังคลาเทศ ศรีลังกา หมู่เกาะสุมาตรา ตลอดจนแหลมมลายูและประเทศจีน เพื่อเป็นการรักษาดุลย์การค้าส่วน กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ได้ดำริให้สร้างเตาเผาอบเครื่องเบญจรงค์ซึ่งถือเป็นเตาแห่งแรกของกรุงรัตนโกสินทร์ ภายในบริเวณพระราชวังหน้าเป็นเตาเผาส่วนพระองค์สาเหตุสำคัญก็คือได้มีการคลั่งเครื่องเบญจรงค์เมื่อต้นรัชกาลที่ 4 และขาดตอนไปในปลายรัชกาลโดยเริ่มหันไปนิยมเครื่องกังใสลายครามเป็นส่วนใหญ่เพราะประเทศทางยุโรป กำลังนิยมมากและมีการสั่งซื้อเครื่องกังใสลายครามจากประเทศจีนเป็นสาเหตุให้กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ จำ
เป็นต้องสร้างเตาเผาอบเครื่องเบญจรงค์ขึ้นมา ซึ่งในการนี้ได้มีการร่วมมือประสานงานจากกับท่านเจ้าคุณกรมท่า ในการสั่งหุ่นถ้วยชามจากทางประเทศจีนที่ไปทำการค้าขายอยู่และการทำเครื่องเบญจรงค์นี้เองที่ต่อมาได้มีบทบาทในการก่อให้เกิดพระสมเด็จปัญจสิริและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าขึ้นมา
.

<!-- / message -->

หนังสือพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า

ชื่อหนังสือ
วิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า
เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค)
ซึ่งเขียนโดย ท่านปรัศนี ประชากร (เป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ) ซึ่งปัจจุบันไม่มีวางขายที่ไหน แต่ยังพอมีจำหน่ายที่ ท่านอาจารย์ประถม อาจสาครครับ แต่ท่านอาจารย์ประถมท่านนำหนังสือเล่มนี้ จำนวน 2 เล่มไปมอบให้หอสมุดแห่งชาติครับ ก็ยังพอหาอ่านได้ครับ หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ในปี 2539 ครับ

<!-- / message --><!-- edit note -->

<!-- sig --><!-- / message --><!-- sig -->
<!-- / message --><!-- sig --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ขออนุโมทนาบุญ

ขออนุโมทนาบุญกับท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร และคุณสิทธิพงศ์ด้วยครับ บทความนี้ท่านอาจารย์ประถมได้เขียนไว้ในหนังสือพระชื่อศูนย์พระเครื่องประมาณ ๒๐ ปีที่ผ่านมาแล้วครับปัจจุบันนี้ไม่มีแล้วครับ ตอนนั้นผมเพิ่งสะสมพระเครื่องใหม่ๆครับ จะทยอยพิมพ์ลงมาให้อ่านเรื่อยๆครับผมใช้จิ้มเอาครับเลยช้าต้องขออภัยท่านที่สนใจทุกท่านด้วยครับ และขอเชิญชวนเพื่อนสมาชิกทุกท่านที่สนใจพระเครื่องชุดนี้นำรูปมาโชว์กันครับเพื่อเป็นการสืบสานแท้บ้างเทียมบ้างไม่ว่ากันถือว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆครับเมื่อสมัยก่อนพระสมเด็จวัดระฆังก็องค์ละไม่กี่สิบบาทครับ(นานมาก)อาจเหมือนพระชุดนี้ที่รุ่นหลัง(หลังมาก)อาจจะเอามาพูดได้ว่าพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่าสมัยก่อนก็ราคาไม่กี่บาทเช่นกันแต่คนไม่นิยทเพราะว่าไม่รู้ที่ไปที่มาแน่นอน ขอบคุณครับ

 

ท่านอาจารย์ประถม ท่านเองรู้จักพระสมเด็จวัดระฆังตั้งแต่ราคาองค์ละ 20 บาทครับ ท่านเองเมื่อก่อนนี้ ท่านก็มีสมเด็จวัดระฆังเยอะครับ (ท่านเองก็ไม่เก็บไว้เลย ท่านแจกเรียบ) แต่ทุกวันนี้ ท่านไม่เคยห้อยพระสมเด็จวัดระฆังอีก แต่ไปห้อยพระวังหน้า ซึ่งเป็นพิมพ์ปิดตาครับ

ผมเองใช้หนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค)
ซึ่งเขียนโดย ท่านปรัศนี ประชากร (เป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ) เป็นบรรทัดฐานการค้นหาพระพิมพ์ของวังหน้าและวังหลวงซึ่งคนทั่วๆไปจะเรียกว่าพระกรุวัดพระแก้ว(พระกรุวัดพระแก้วมีการจัดสร้างขึ้นประมาณปี 2400 จวบจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 มีการสร้างขึ้นจากทั้งวังหน้า ,วังหลวงและวังหลัง )ครับ

หากท่านใดที่ไปงานกฐินวัดบ่อเงินบ่อทอง ผมเองจะนำหนังสือเล่มนี้ติดไปด้วย เผื่อว่าท่านใดจะขอดูครับ
.

 

ผมก็มีเหมือนกัน ทุกวันนี้ยังห้อยอยู่เลย ครับ

 

การที่คนนิยมหรือไม่นิยมนั้น ผมว่าขึ้นอยู่กับพระพิมพ์นั้นทำให้มีราคาได้หรือไม่ได้ แต่คนละส่วนกันกับพระพิมพ์ที่มีพลังอิทธิคุณหรือไม่ และพระพิมพ์มีพลังอิทธิคุณนั้น มีแรงหรือไม่แรงครับ

เรื่องการห้อยพระ ควรตรวจสอบทั้งรูปและนาม คือตรวจทั้งพิมพ์ทั้งเนื้อ ,ตรวจทั้งพลังอิทธิคุณขององค์พระพิมพ์ จึงเป็นการดีที่สุดครับ และอีกประการหนึ่งก็คือ ควรเจาะรูที่กรอบพลาสติคด้วยครับ (ถ้าถามว่าทำไมต้องเจาะรูนั้น ผมแนะนำให้อ่านบทความที่ผมลงในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้)

การตรวจพลังอิทธิคุณนั้น สามารถนำพระพิมพ์ไปให้ผู้มีฌาณหรือผู้ที่มีญาณ (ได้ทั้งพระ ทั้งฆารวาส) ตรวจสอบได้ครับ อย่างพระสายพระอาจารย์มั่นหลายๆองค์สามารถตรวจสอบได้ หรือหลวงพ่อจรัญก็ได้ หลวงพ่อจรัญท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่อิเกสาโรครับ

.

 

พระของหลวงปู่เทพโลกอุดร มีหนังสือเล่มใหนรวบรวมไว้ให้ชมมากที่สุดครับ

 

สนใจเหมือนคุณ tg22070 เหมือนกันครับ ว่าแต่หนังสือที่ อ.ประถมเขียน ชื่อว่าอะไรครับ หาอ่านได้ที่ไหน(ซื้อหา) ครับ อยากได้มาอ่านและไว่ดูว่ามีกี่พิมพ์กี่แบบครับ ท่านใดทราบบอกด้วยคร้าบบบบบบบบบบ

 

ชื่อหนังสือวิเคราะห์พระพิมพ์สมเด็จฯ และพระสมเด็จท่านเจ้าคุณกรมท่า เจ้าพระยาภานุวงศ์มหาโกษาธิบดี (ท้วม บุญนาค) ซึ่งเขียนโดย ท่านปรัศนี ประชากร (เป็นนามปากกาของท่านอาจารย์ประถม อาจสาคร ) เป็นหนังสือที่เกี่ยวกับพระพิมพ์สมเด็จและสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า หนังสือเล่มนี้ต้องไปซื้อกับท่านอาจารย์ประถมที่ชลบุรีเองครับ(หนังสือเล่มนี้ไม่มีวางขายในท้องตลาด และเหลือน้อยเต็มทีแล้วครับ)

ส่วนพระวังหน้านั้น ผมเองมีจำนวนไม่มากนัก การดูพระพิมพ์ของวังหน้าหรือพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกนั้น ผมเองจะให้ท่านอาจารย์ประถม ท่านเป็นผู้ที่ตรวจสอบให้ครับ


.

 

งานมหากฐินสามัคคีวัดบ่อเงินบ่อทอง วันที่29 ตุลาคม 2549 ผมเองได้เชิญท่านอาจารย์ประถม ไปในงานด้วยครับ หากท่านใดอยากจะรู้ว่าพระพิมพ์ที่ตนเองมีอยุ่นั้นเป็นพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านเสกไว้หรือไม่ ให้ลองไปหาท่านในงานได้ครับ

.

 

คุฯ sithipong ครับ ไม่ทราบว่าหนังสือราคาเล่มละเท่าไรครับแล้วถ้าจะไปพบอาจารย์ประถมต้องไปยังไงอ่ะครับ

 

หนังสือเล่มละ 500 บาทครับ ส่วนถ้าจะไปพบท่านอาจารย์ประถม ผมแนะนำให้ไปที่งานกฐินวัดบ่อเงินบ่อทองก่อนนะครับ (ตอนนี้มีคนไปหาท่านมาก ผมเกรงใจท่าน ท่านอายุ 85 ปีแล้ว ผมเกรงว่ามีคนไปมากๆ ท่านจะไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนครับ) ถ้าไปงานกฐินแล้ว จะนัดไปหาท่านอีก ก็สามารถนัดกับท่านได้โดยตรงเลยครับ

.

 

คุณ sithipong ครับ พระปิดตาที่เห็นในรูปเป็นของหลวงปู่เทพโลกอุดรไหมครับ

 

ดูจากรูป ใช่ครับ แต่ว่าองค์ไหนเสกนี่ไม่ทราบครับ ต้องให้ท่านอาจารย์ประถมตรวจ แต่ปกติแล้วหลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านเสกมากหน่อย พระพิมพ์ของวังหน้าและพระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสกนั้น ประมาณร้อยละ 90 จะเป็นหลวงปู่อิเกสาโรท่านเสกไว้ครับ

.

.

 

ถามคุณ sithiphong และคุณ phaderm ครับ พิมพ์แบบนี้หรือ แนวๆนี้ เป็นพระของเจ้าคุณกรมท่า หรือของวังหน้าครับ แล้วใครเป็นคนปลุกเสกครับ



พิมพ์นี้ก็เช่นกันครับ ขอทราบเป็นความรู้หน่อยครับ อ้อ คุณ phaderm ครับไม่ทราบเจอประวัติ รายละเอียดการสร้างแล้วยังครับ ยังไงผมขอหน่อยนะครับ ส่งเป็นเมล์ หรือ สแกนไฟล์ มาก็ได้ครับ jiroj.s@thaiairways.com ครับ



อีกรูปครับ

 

ผมต้องดูด้านหลังด้วยครับ เพราะว่าบล็อคพิมพ์พระนั้น มีการยืมกันระหว่างวังหน้าและวังหลวงครับ แต่องค์กลางคือพิมพ์พุทธประวัติครับ หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าท่านเสกครับ ส่วนพิมพ์อื่นๆนั้น เท่าที่ดูจะเป็นหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก แต่ว่าองค์ไหนเสกต้องดูที่องค์จริงเท่านั้น และต้องให้ลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ประถมท่านหนึ่งเป็นผู้ดูเท่านั้นครับ (การดูเป็นการนั่งสมาธิดูครับ ใน 1 วันจะดูได้ไม่เกิน 5 องค์เท่านั้น)

.

 

พระของวังหน้าและวังหลวงนั้น เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2400 จวบจนปลายรัชกาลที่ 6 จำนวนพระพิมพ์นั้น ผมเคยคุยกับท่านอาจาย์ประถม ท่านบอกว่าพระพิมพ์มีไม่น้อยกว่าเลข 8 หลักครับ

.