กราบเรียนแม่ชีอยากถามเรื่องการนั่งสมาธิหน่อยครับ

ผมพึ่งได้บวชมาแต่รู้สึกว่าน้อยมากครับเพราะผมบวชได้เพียงแค่ 10 วันเท่านั้นเองครับ ก่อนที่ผมบวชผมรู้สึกเบื่อทางโลกมากครับ เบื่อในหลายๆเรื่อง จึงตัดสินใจบวช แต่พอผมบวช ในชีวิตการเป็นพระมันกลับไม่ใช่สิ่งที่ผมได้หวังไว้เลยครับ เลยรู้สึกท้อจนต้องขอลาสิกขา มันงเป็นกรรมเก่า ที่ทำให้ผมอยู่ในผ้าเหลืองได้ไม่นาน ใช่ไหมครับ

ส่วนในตอนที่ผมบวช ผมมีโอกาสได้ฝึกสมาธิครับ หลวงน้าที่ผมได้อาศัยอยู่ กุฏิเดียวกับท่านได้สอนการนั่งสมาธิกลับผมครับ ซึ่งมีบางเรื่องที่ผมไม่เข้าใจครับ และเป็นสิ่งที่แตกต่าง จากความรู้สึกของผม มันเลยรู้สึกต้านเลยทำได้ไม่นานครับ ในตอนนั่งสมาธิ หลวงน้าท่านบอกว่า
1.ขาขวาทับซ้าย มือขวาทับซ้ายนิ้วโป้งห้ามชนกัน จากที่ผมเคยนั่งมา ตอนที่มีโอกาสไปนั่งกับแม่ชี ผมก็นั่งนิ้วโป้งชนกัน มนรู้สึกดีกว่า นิ้วโป้งห้ามแตะกันครับ สรุปแล้วผมควรเอาแตะ หรือ ไม่แตะกันครับ
2.ปิดตานอกเปิดตาใน อันนี้ผม งง มากครับ ในที่ผมเข้าใจคือ เราต้องปิดเปลือกตา แต่เราต้องรับรู้สิ่งต่างๆ เหมือนเดิมกับที่เรายังเปิดตาถูกไหมครับ เช่น ขณะเปิดเปลือกตา เรามองเห็น สิ่งต่างๆ ปกติ แต่เมื่อเราปิดเปลือกตา สิ่งที่เราเห็นคือความมืด ถูกไหมครับ แล้วหลวงน้าบอกว่า เมื่อนั่งแล้วจะเห็นเป็นแสง นั่งหลายครั้งก็ไม่เห็น หรือ เป็นเพราะ ผมไปยึดติดครับ เลยไม่เห็นแสงเป็นสีๆ แต่ตอนที่ผมนั่ง ปิดตามืด จิตมันจะแวบไปเห็นโน้นนี้ ผมก็พายามดึงกลับมาครับ แบบนี้ถูกไหม หรือปล่อยไปเลยครับ ถ้าผมปล่อยไปมากมันจะหลับครับ ผมเคยนั่งแล้วผงก หัวด้วยครับ เลยไม่ปล่อยให้ิตคิดจนเหนื่อยครับ ส่วนพอดึงกลับ มามันก็เห็นความมืดครับ แต่ซักพักก็หมือนจะหลับ เป็นความรู้สึกตอนที่เราจะหลับน่ะครับ แต่ถ้าเราปล่อยให้เลยตามเลยก็หลับ ครับ

อยากให้แม่ชีช่วยแนะนำวิธีนั่งให้หน่อยครับ ผมยิ่งนั่งยิ่งท้อครับ แต่ก็พยายามนั่ง เท่าที่จะนั่งได้บางวันก็ไม่ได้นั่ง สวดทำวัดเย็นกับวัดเช้าอย่างเดียวครับ ขอความกรุณาแม่ชีด้วยน่ะครับ

อยากถามแม่ชีด้วยความว่าตบทองเข้าตัวมันช่วยเรื่องอะไรหรอครับ ต้องใช้จิตสูงมากไหมครับถึงทำได้ แล้วตัวผมหรือคนอื่นๆ จะสามารถทำได้ไหมครับ

นมัสการแม่ชีณัฐทิพย์ ครับ

 

ธรรมสวัสดีค่ะ...
การนั่งสมาธิด้วยรูปแบบขาขวาทับเท้าซ้าย มือขวาวางทับมือซ้าย นั่นท่านเรียกว่าท่าคู้บัลลังล์ ซึ่งจัดว่าเป็นท่าที่สบายที่สุดของร่างกาย เลือดลมเดินสะดวก

แต่ก็ไม่ได้หมายความว่านั่งท่าอื่นไม่ได้นะ ฉะนั้นจะนั่งท่าไหนก็นั่งเถอะตามที่ตัวเองชอบนั่นแหละ แต่ท่าที่คนทั่วไปรู้กันว่าทำสมาธิก็คือท่านั่งที่เอาขามาทับกันนั่นแหละ ส่วนนิ้วโป้งจะชนกันหรือไม่ชนกันมันก็ไม่เป็นปัญหานี่ ชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้นเถอะ

ส่วนคำว่าปิดตานอกเปิดตาใน หมายความว่า ปิด หู ตา จมูก ลิ้น กายจากสัมผัสที่มากระทบลง แล้วเปิดใจภายใน คือ คิดพิจารณาสิ่งที่เกิดภายใน ได้แก่ มีความคิดรับความรู้สึกจากเวทนาทางร่างกาย อารมณ์ของเราเป็นอย่างไร เจ็บทนได้หรือไม่หรือเฉยๆ นี่เรียกว่า เปิดตาในดูใจของตัวเองนั่นแหละ

ขณะที่นั่งหลับตา แสงสีภายในย่อมบังเกิดขึ้นนั่นเป็นเรื่องปกติ สีเหล่านั้นเป็นพลังธรรมชาติที่มีอยู่ สีที่เกิดขึ้นภายในจิตจึงเป็นเสมือนอารมณ์ของเจ้าตัว สีดำ ก็หมายถึงเจ้าตัวมีความกังวลหรือกลัว เรียกว่าขุ่นมัวในใจ สีแดงก็หมายถึงเจ้าตัวเป็นคนที่มีอารมณ์โกรธง่าย ใจร้อนวู่วาม สีเขียว นั้นหมายถึงเจ้าตัวมีอารมณ์ขี้สงสารก็คือเมตตา สีเหลืองก็หมายถึง เป็นคนที่มีอารมณ์ชอบเสาะ
แสวงหาความรู้ เป็นต้น การทำสมาธินั้นเราต้องรู้จักสังเกตความคิดและอารมณ์ตัวเราเองทั้งหมด

ส่วนการสวดมนต์เป็นการเรียนรู้หลักคำสอนของพระพุทธเจ้า เมื่อรู้ว่าพระพุทธเจ้าสอนอะไร มีคุณประโยชน์อะไรบ้างเราก็จะได้นำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้

เรื่องการตบทองนั้นมันเป็นการใช้พลังจิตหรือการกระทำบ่อยๆ อดทน เพียรพยายามจนเกิดเป็นความชำนาญเหมือนอย่างพวกนักมายากล นักกีฬา นักร้อง นักดนตรีนั่นแหละ ถ้าอยากจะทำบ้างก็ต้องเรียนรู้เทคนิคจากนั้นก็ทำประจำสม่ำเสมอเดี๋ยวก็เก่งเองนั่นแหละจ้า

บุญรักษา / ธรรมสวัสดี

 

แล้วนั่งสมาธิคนเราจะเห็นสีในกายได้อย่างไรหรือครับ เวลาผมหลับตาผมก็เห็นเป็นสีดำก่อนแล้ว บางทีก็เหมือนแสงสว่างครับ บางทีก็รู้สึกปวดตาทำให้เราต้องเกรงตาครับ ถ้าไม่เกรงก็เหมือนจะทำให้สมองจับจุดไม่ได้ทำให้สมองต้องคิด แต่พอเราเกรงตามันก็รู้สึกทรมานครับ

อยากทราบด้วยครับเพราะหลวงน้าท่านเคยบอกว่า อาจารย์ของท่านน้าเป็นแม่ชีท่านอยู่ที่ กทม ท่านสามารถ ดูจิตของคนถามพระแม่คงคาได้เพราะร่างกายเรามีน้ำอยู่ 70% หรือมากกว่านั้น เลยอยากทราบว่าเป็นเรื่องจริงหรอครับ แล้วแม่ชีสามารถดูได้ไหมครับว่าจิตผมสามารถฝึกถึงขั้นไหนแล้วครับ หลวงน้าท่านบอกว่าสิ่งที่หลวงน้าฝึกนั้นไม่ใช้ อวิชา เป็นวิชา เพราะ อวิชาคือความไม่รู้จริง

อยากถามเรื่องนี้ด้วยครับเพราะแม่ชีปฏิบัติมาเยอะ อยากทราบว่า ในอีกไม่กี่ปีนี้ โลกเราจะเข้าสู่ ความหายนะจริงหรือครับ ที่ว่าธรรมชาติจะล้างมนุษย์เนื่องจากมนุษย์เริ่มมีเยอะ เริ่มฆ่าฟันกันเอง ผู้ที่อยู่รอดได้จะมีเพียงผู้มีบุญเท่านั้นครับ แล้วจากที่เขาว่า พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปจะลงมาประสูติแทนที่จะประสูติในอีก 2 พันกว่าปีนั้น จะเปลี่ยนเป็นลงมาประสูติเร็วกว่ากำหนดหรอครับ ถ้าเป็นอย่างนั้น ชาตินี้ผมคงเห็นได้น่ะครับ

นมัสการแม่ชีครับ