คำถาม เรื่องน่าสงสัยเกี่ยวกับการนั่งสมาธิ ( ตอบด้วย ขอบคุณครับ )

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย zeangame, 13 พฤษภาคม 2010.

  1. zeangame

    zeangame สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    คือว่า

    ก่อนหน้านั้นผมได้ลองฝึก กสิน10 ดู
    แล้วผมรู้สึกว่ามันยากเกินไป
    ก็เลยไปฝึกนั่งสมาธิ จะพยายามให้เข้า ณาน 4 ให้ได้
    ก่อนนั่งสมาธิก็ไหว้พระ สวดมนต์ แผ่เมตตา
    แล้วก็นึกในใจว่าต้องนั่งสมาธิได้รู้สึกว่าตัวเองกำลังโยกเยก ขนลุก


    พอผมนั่งสมาธิช่วงแรกก็รู้ว่าตัวเองนั่งยังไม่ค่อยมีสมาธิ
    แต่ก็พยายามรวบรวมสมาธิ
    นั่งได้สักพักก็รู้สึกว่าควบคุมตังเองไม่ได้
    รู้สึกว่าหัวเริ่มหงายขึ้นไปเลื่อนๆ
    หายใจถี่ขึ้นเรื่อยเหมือนคนเหนื่อยแต่ไม่เหนื่อย
    ขนก็ลุก
    ความรู้ขณะนั้นผมก็บอกไม่ถูกว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม

    ช่วยตอบทีครับ....
    ขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ ที่นี้
     
  2. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815

    เป็นเพียงอาการหนึ่งเมื่อจิตเริ่มนิ่งในระดับหนึ่ง เรียกว่าปิติ ซึ่งเป็นธรรมชาติของจิต แต่ละคนอาจมีอาการไม่เหมือนกัน อย่าไปสนใจ อย่าไปสนใจอาการต่างๆเหล่านี้ เพียงรู้ว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เพียงรู้ไว้อย่างเดียวก็พอ อย่าไปต่อยอด ปรุงแต่ง มันเพิ่มเติม หยุดสงสัยในเรื่องราวต่างๆ อยู่กันลมหายใจ หรือคำบริกรรมไว้ให้มั่น การที่หายใจถี่ขึ้น เข้าใจว่ากำลังตั้งใจพยายามอยู่กับลมหายใจ พยายามทำสมาธิอย่างมุ่งมั่น........โมทนาด้วยนะจ๊ะ พยามต่อไปเมื่อจิตรวมแล้ว อาการต่างๆจะหายไปเองอ เหลือแต่ความสงบ นิ่ง สบาย นะจ๊ะ
    การทำสมาธินั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือความเพียรนะจ๊ะ ความเพียรอย่างที่ทำอยู่นี้แหล่ะ ชอบแล้วจ๊ะ หุ หุ หุ
     
  3. rasetsacrifa

    rasetsacrifa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +127
    เป็นเหมือนกันเลย ทำให้ผมปฏิบัติต่อไปได้ลำบากมากเลย หยุดทำมาสักพักแล้วหล่ะครับ ^^ ขอบคุณผู้รู้ทุกท่านนน
     
  4. วันมงคล

    วันมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,303
    ขอเป็นกําลังใจให้ปฎิบัติต่อไปเรื่อยๆ "เวลานั่งเขาห้ามอยาก เพราะถ้าอยากแล้วมันจะไม่ได้" ขอให้มีสติอยู่กับปัจุบันดูลมหายใจเข้า ลมหายใจออก อย่ารีบร้อน ค่อยเป็นค่อยไป แล้วค่อยศึกษาเป็นขั้นเป็นตอนต่อไปนะครับ ขออนุโมทนาด้วย.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. zeangame

    zeangame สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอบคุณที่ให้คำตอบดีดีน่ะครับ
     
  6. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    มันเป็นช่วงแรกๆ เมื่อก่อนผมก็เป็น สมัยนี้ไม่เห็นเป็นเลย แรกๆเราสนใจมัน เพราะเราไม่เคย ยิ่งไม่เคยยิ่งสนใจและสงสัย ยิ่งสนใจและสงสัย ก็ทำให้เราติดอยู่ตรงนั้น หายใจถื่ติดขัด อึดอัด เพราะเราไปสนใจมัน เราสนใจอย่างเดียวคืออะไรจะเป็นก็ปล่อยให้มันเป็น พอไม่สนใจมันก็ค่อยๆหาย พอหายเราก็กับมาคิดว่าทำไมมันไม่เกิดทำไมมันไม่มี หรือว่าเราปฎิบัติได้ถอยลง ความจริงไม่ครับ
    สมัยก่อน จะเข้าสมาธิ จะต้องตัวขยายใหญ่ก่อนถึงรู้ว่าเข้าสมาธิได้ระดับหนึ่งแล้ว แต่ทุกวันนี้ไม่เห็นมันจะใหญ่ขึ้นเลย แต่รู้ตัวว่ามันก้าวล้ำไอ้ตัวใหญ่ไปแล้ว ตัวขยายนั่นมันแค่อาการ ปิติ เฉียดปฐมฌาณ ยังไม่เข้าฌาณเลย

    อย่างว่า ทำสมาธิ อย่าไปสนว่ามันจะไปถึงไหน ฝึกทุกวัน เหมือนชาวนา ว่านข้าว ยังงัยต้นข้าวมันต้องเกิด สักวันข้าวมันต้องออกรวง ตอนนี้ไม่เห็นอะไร วันหน้ามันต้องเห็น
     
  7. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    รบกวน จขกท มาอ่านเเละฟังกระทู้ 3 อันนี้เเล้วกันเเล้วนําไปปฏิบัติครับ เจริญในธรรมครับ

    วิธีนั่งสมาธิขั้นเบื้องต้นของหลวงพ่อฤาษีลิงดํา

    http://www.palungjit.org/smati/books/index.php?cat=420

    อุปสรรคและวิธีแก้ไขในการทำสมาธิ

    http://www.buddhism-online.org/board/index.php?topic=891.0

    ฟังกันหลงเรื่องนิมิตในสมาธิ

    http://palungjit.org/threads/ขั้นของสมาธิ.1589/
     
  8. toomdoi

    toomdoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +839
    อนุโมทนาครับ

    เป็นอาการเริ่มต้นของการนั่งสมาธิ ขอให้นั่งต่อไปเรื่อยๆ ก็จะควบคุมตัวเองได้ และจะได้รู้แจ้งในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสสอนเอาไว้ "ว่าทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง เกิดขึ้นและดับไป"
     
  9. sadyh

    sadyh Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +37
    ผมว่าคนที่จะฝึกกสิณน่าจะต้องข้องฌาน ๔ แบบนึกปุปปัป ฌาน ๔ อยากเข้าฌาน ก็เข้าอยากออกก็ออก แบบว่าสั่งได้ แบบนี้ถึงจะฝึกกสิณได้
    ผมว่าถ้าไม้ชำนาญอย่างที่ว่าไปแล้ว อย่าแตะกสิณเลยเสียเวลา ใช้อานาปานุสติจับลมหายใจไปก่อนดีกว่าครับชำนาญแล้วค่อยฝึกกสิณก็ยังไม่สายครับ
    ถ้าคุณมีความพยายามยามนะ แนะนำว่าให้กำหนดเวลาเช่น1 สัปดาห์ 1เดือน ฝึกจริงจัง ต้องพยายาม รอผลดูอาการของอารมณ์ให้ดีครับ เดี๋ยวก็ได้ ถ้าตั้งใจ...
    ผมว่าคนที่เข้าเว็บนี้ส่วนใหญ่มีบุญบารมีกันไม่น้อยไม่ยาก เข้าฌาน ง่ายแต่รักษาอารมณ์ฌาน นะยาก ขี้เกียจนะแหละ ขี้เกียจเลยไม่ได้ซักที00ฮิ ฮิ
     
  10. กินรีปักษา

    กินรีปักษา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +24
    นั่งสมาธิ

    1. เมื่อก่อนที่ยังไม่ได้นั่งสมาธิบ่อยๆๆจะเห็นชาวโลกทิพย์เทวดานางฟ้าท่านยมสิ่งที่คนน้อยคนมองเห็นเห็นเป็นประจำหลังจากได้สวดมนต์และนั่งสมาธิเป็นประจำไม่เคยเห็นอะไรเลยนอกจากความเบาของร่างกายเกิดจากอะไร
     
  11. ลุงมหา

    ลุงมหา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +1,092
    จะสร้างบุญบารมี หรือจะเอาโน่นเอานี่

    ขออนุญาติครับ
    ไม่ทราบว่าพอเริ่มปฏิบัติคุณก็จะเอา กสิน 10 บ้าง
    จะเอา ฌานสี่ บ้าง ไม่ทราบว่าคุณไปเอาข้อมูลมาจากใหน
    บอกให้เอาบุญก็ได้ครับ ไอ้ที่คุณว่ามานั้นน่ะ การปฏิบัติแบบชาวบ้านทั่วไปนั้นน่ะ
    ที่ว่าได้นูนได้นี่นั้นน่ะ ถ้ามันได้จริง มันก็ได้แบบชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้นละครับ
    ถ้ามันได้แบบจริงแท้แน่นอน เหมือนพระเจ้าพระสงฆ์ที่ท่านปฏิบัติแบบเอาตายเข้าว่านั้น พระท่านก็คงไม่ต้องมาบวชกันล่ะครับ
    แล้วที่อยากได้นั้นน่ะแค่เริ่มก็ผิดแล้ว
    ทางธรรมกับทางโลกมันไม่เหมือนกันนะครับ
    ทางโลกต้องตั้งเป้าไว้แล้วมุ่งสู่เป้าหมายได้แน่่
    แต่ทางธรรมนั้น รู้อะไรมาต้องทิ้งให้หมด อยากรู้อะไรต้องภาวนาเอา ถ้าบุญบารมีน้อย ก็ต้องอาศัยครูบาอาจารย์คอยประคับประคองบอกทางให้
    แค่ท่านสอนว่า หายใจเข้า พุทธ หายใจออก โธ บางท่านยังไปไม่เป็นเลย
    บางท่านปฏิบัติไป รู้ไป เห็นไป จิดมันเข้าใจไป จิตมันเข้าใจไปก็พอแล้ว ไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับโน่นกับนี่ให้มันยุ่งยากซับซ้อนเข้าไปอีก
    เมื่อก่อน ธรรมแบบตัวหนังสือบนแผ่นกระดาษเบ่งบาน
    มาตอนนี้ กลายเป็นตัวหนังสือบนจอภาพ ก็หนักเข้าไปอีก
    ท่านอาจารย์ปู่ทวด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ก็เห็นที่พิพธภัณวัดสุทธาวาส ท่านก็มีหนังสือสวดมนต์เล่มเล็กๆเล่มหนึ่ง สมุดจดบันทึกอืกเล่มเท่านั้นละครับ ท่านก็ยังถือว่าเป็นปรมาจารย์แห่งยุกต์ได้
    บางครั้งผมก็สงสัย ท่านต่างๆที่ โพสท์บ้างตอบบ้าง ในนี้น่ะ ท่านเคยปฏิบัติบ้างหรือเปล่า ถ้าปฏิบัติจริงๆแล้ว ทำไมแค่บอกเล่าเรื่องราว อธิบายอะไร ผมก็ไม่รู้พากันไปเอาภาษามาจากใหน ยิ่งอ่าน ยิ่งปวดหัว
    น่าสงสารอนุชนรุ่นหลัง เข้ามาอ่านแล้วเขาจะได้อะไร
    ตัวผมเองครูอาจารย์สอนว่า หายใจเข้า พุทธ หายใจออก โธ
    ผ่านไปสองเดือนไปหาท่านอีก ท่านบอกว่า ดีแล้วเป็นบุญบารมีของเจ้า
    ก็เลยรู้ว่าที่ท่านบอกภาวนานั้นน่ะเป็นการสร้างบุญบารมี
    ในเมื่อก่อนปฏิบัติ รู้อะไรให้ลืมให้หมด แล้วจะไปรู้มากๆไปทำไม
    เข้ามาในนี้นึกว่าจะได้มาชว่ยตอบ ปัญหาการติดขัดในการปฏิบัติ
    กลับมาเจอแต่ปัญหาเนื่องจากการรู้มากเกินไปก่อนการปฏิบัติบ้าง
    ปัญหา อยากได้ อยากดี อยากมี อยากเป็น บ้าง
    แล้วเราจะทำกันยังไงล่ะทีนี้
    หรือจะปล่อยให้เป็นลิงแก้แห เป็นเจ็กขายลวดอยู่ยังงี้
    ผมก็ไม่รู้จะช่วยยังไงได้
    ก็ว่ากันไปก็แล้วกัน
    ขอบคุณครับ
    ลุงมหา
     

แชร์หน้านี้

Loading...