สวดมนต์แบบสวดในใจกับสวดออกเสียงนี่ให้ผลต่างกันไหม

ในห้อง 'ประสบการณ์ ผลของการสวด' ตั้งกระทู้โดย maruko_k, 22 พฤษภาคม 2010.

  1. maruko_k

    maruko_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,318
    สวดมนต์แบบสวดในใจกับสวดออกเสียงนี่ให้ผลต่างกันไหมคะ สวดมนต์ทุกวันค่ะ บทเดียวบ้าง หลายบทบ้างแล้วแต่เวลาจะอำนวยค่ะ ถ้าวันไหนมีเวลาน้อยถ้าสวดในใจจะรู้สึกว่าสวดได้เร็วขึ้น ไม่ทราบว่าจะมีผลต่างกันหรือเปล่าค่ะ
     
  2. Nu_Ni

    Nu_Ni เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +2,782
    หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะท่านเมตตาสอนไว้ว่า
    สวดในใจเราได้ยิน ภพภูมิได้ยิน
    สวดออกเสียง เราได้ยิน ภาพภูมิได้ยิน คนข้าง ๆ ได้ยิน ด้วย
     
  3. เกรสคับ

    เกรสคับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    163
    ค่าพลัง:
    +174
    เหมือนหลวงพ่อโต (ไม่แน่ใจว่าใช่หลวงพ่อโตหรือปล่าว)
    เล่าว่า เสียงคนสาธุ ดังไปถึงเทวดา

    สวดพระปริตร
    ในใจ ดังไป หมื่น จักรวาล
    ออกเสียง ดังไปแสนจักรวาล
    ออกเต็มเสียง ถูกอักขระวิธี ดังไป โกฎจักรวาล
    พระอริยะสวด ดังไป อนันตจักรวาล
    ( เรื่องตัวเลขไม่แม่นนะครับ )

    สรุปว่า ผลต่างกันที่จะมีคนได้มาร่วมบุญมากกว่านั่นเอง นั่นหมายถึง บริวารมั้งครับ ทำบุญร่วมกัน
    ว่าแต่ ออกเสียง แต่คนข้างๆเกิดรำคาญ เค้าบาปนะครับ เราบาปด้วย เพราะเราคือต้นบาป
    ดังนั้นเวลาสวดออกเสียงก็ดูด้วยนะครับ
     
  4. Tom_Om

    Tom_Om เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    341
    ค่าพลัง:
    +411
    ตัวเราเองก็บางครั้งก็สวดเสียงดัง ถ้าไม่มีใครอยู่บ้าน แต่ถ้าหลานอยู่ต้องสวดในใจ เพราะห้องนอนเค้าอยู่ติดห้องพระ เกรงว่าจะรบกวน คนชอบมี คนไม่ชอบก็มีนะคะ อนุโมทนาบุญกับทุกท่านค่ะ
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อานิสงส์ของการสวดมนต์ ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>​

    เทศนาโดยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ดังปรากฏในงานของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี จางวางมหาดเล็กในรัชกาลที่ 4 ที่ได้นิมนต์เจ้าประคุณสมเด็จโตมาเทศน์ที่บ้าน
    ครั้นพลบค่ำ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโตพร้อมลูกศิษย์ได้เดินทางจากวัดระฆังมายังบ้านของท่านเจ้าพระยาสรรเพชรภักดี ซึ่งในขณะนั้นมีอุบาสก อุบาสิกา นั่งพับเพียบเรียบร้อยกันเป็นจำนวนมาก ด้วยต้องการสดับรับฟังการเทศน์ของท่านเจ้าประคุณ ณ ที่เรือนของท่านเจ้าพระยา
    เจ้าประคุณสมเด็จโต ได้ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงกล่าวบูชาพระรัตนตรัย เมื่อจบแล้ว ท่านจึงเทศน์ “ เรื่อง อานิสงส์ของการสวดมนต์ ”
    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จโต ได้กล่าวว่ายังมีคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การสวดมนต์มีประโยชน์น้อย และเสียเวลามากหรือฟังไม่รู้เรื่อง ความจริงแล้วการสวดมนต์มีประโยชน์อย่างมากมาย เพราะการสวดมนต์เป็นการกล่าวถึงคุณงามความดี ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าพระองค์ท่านมีคุณวิเศษอย่างไร พระธรรมคำสอนของพระองค์มีคุณอย่างไร และพระสงฆ์อรหันต์อริยะเจ้ามีคุณเช่นไร การสวดมนต์ด้วยความตั้งใจจนจิตเป็นสมาธิ แล้วใช้สติพิจารณาจนเกิดปัญญาและความรู้ความเข้าใจ ประโยชน์สูงสุดของการสวดมนต์นั่นคือ จะทำให้ท่านเป็นผล จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์
    ที่อาตมากล่าวเช่นนี้ มีหลักฐานปรากฏในพระธรรมคำสอนที่กล่าวไว้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มี 5 โอกาสด้วยกันคือ
    • เมื่อฟังธรรม <O:p></O:p>
    • เมื่อแสดงธรรม <O:p></O:p>
    • เมื่อสาธยายธรรม นั่นคือ การสวดมนต์ <O:p></O:p>
    • เมื่อตรึกตรองธรรม หรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น <O:p></O:p>
    • เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ <O:p></O:p>
    การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมา ตั้งแต่สมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้าทรงประกาศพระพุทธศาสนาบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย ต่างพากันมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ โดยแบ่งเวลาเข้าเฝ้าเป็น 2 เวลา นั่นคือ ตอนเช้าเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า เพื่อฟังธรรม ตอนเย็นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าเพื่อฟังธรรม การฟังธรรมเป็นการชำระล้างจิตใจ ที่เศร้าหมองให้หมดไปเพื่อสำเร็จสู่มรรคผลพระนิพพาน การสวดมนต์นับเป็นการดีพร้อมซึ่งประกอบไปด้วยองค์ทั้ง 3 นั่น คือ
    • กาย มีอาการสงบเรียบร้อยและสำรวม
    • ใจ มีความเคารพนบนอบต่อคุณพระรัตนตรัย
    • วาจา เป็นการกล่าวถ้อยคำสรรเสริญถึงพระคุณอันประเสริฐ ในพระคุณทั้ง 3 พร้อมเป็นการขอขมา ในการผิดพลาดหากมีและกล่าวสักการะเทิดทูนสิ่งสูงยิ่ง ซึ่งเราเรียกได้ว่าเป็นการสร้างกุศล ซึ่งเป็นมงคลอันสูงสุดที่เดียว
    อาตมาภาพ ขอรับรองแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าหากบุคคลใดได้สวดมนต์เช้าและเย็นไม่ขาดแล้ว บุคคลนั้นย่อมเข้าสู่แดนพระอรหันต์อย่างแน่นอน

    การสวดมนต์นี้ ควรสวดมนต์ให้มีเสียงดังพอสมควร ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

    *ที่ว่าประโยชน์แก่จิตตน คือ เสียงในการสวดมนต์จะกลบเสียงภายนอกไม่ให้เข้ามารบกวนจิต ก็จะทำให้เกิดความสงบอยู่กับบทสวดมนต์นั้น ๆ ทำให้เกิดสมาธิและปัญญา เข้ามาในจิตใจของผู้สวด

    *ที่ว่าประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ใดที่ได้ยินได้ฟังเสียงสวดมนต์จะพลอย ได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตสงบลึกซึ้งตามไปด้วย ผู้สวดก็เกิดกุศลไปด้วยโดยการให้ทานโดยทางเสียง เหล่าพรหมเทพที่ชอบฟังเสียงในการสวดมนต์ มีอยู่จำนวนมาก ก็จะมาชุมนุมฟังกันอย่างมากมาย เมื่อมีเหล่าพรหมเทพเข้ามาล้อมรอบตัวของผู้สวดอยู่เช่นนั้น ภัยอันตรายต่าง ๆ ที่ไหนก็ไม่สามารถกล้ำกลายผู้สวดมนต์ได้ตลอดจนอาณาเขตและบริเวณบ้านของผู้ที่สวดมนต์ ย่อมมีเกราะแห่งพรหมเทพและเทวดา ทั้งหลายคุ้มครองภัยอันตราย ได้อย่างดีเยี่ยม

    ดูก่อน.. ท่านเจ้าพระยาและอุบาสก อุบาสิกาในที่นี้ การสวดมนต์เป็นการระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณเมื่อจิตมีที่พึ่งคือ คุณพระรัตนตรัย ความกลัวก็ดี ความสะดุ้งกลัวก็ดี และความขนพองสยองเกล้าก็ดี ภัยอันตรายใด ๆ ก็ดีจะไม่มีแก่ผู้สวดมนต์นั่นแล..



    จากหนังสือ อมตะธรรม สมเด็จโต พรหมรังษี <O:p></O:p>

    http://palungjit.org/threads/อานิสงส์ของการสวดมนต์.235888/


    .
     
  6. maruko_k

    maruko_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +1,318
    ขอบพระคุณทุกท่านที่นำข้อมูลดี..ดีมาให้นะคะ ทำให้มีกำลังใจในการสวดมนต์ต่อๆไปค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...