เปิดอาถรรพณ์วัง หม่อมถนัดศรีเผยมีจริง เวิลด์เทรดรื้อ'กุฏ'ร.4

<TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


"หม่อมถนัดศรี" แฉเหตุแห่งอาถรรพ์วังเพ็ชรบูรณ์ ช่วงเริ่มก่อสร้างห้างเวิลด์เทรดมีการรื้อทำลาย "กุฏ" ที่นั่งสมาธิของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ซึ่งต่อมาเป็นศาลพระภูมิเจ้าที่ปกปักรักษาวังเพ็ชรบูรณ์ เผยควรจารึกเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้

​

เรื่องราวอาถรรพ์บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซา ที่ถูกกลุ่มก่อการร้ายคนเสื้อแดงวางเพลิงจนได้รับความเสียหายพินาศย่อยยับ จนมีเสียงกล่าวขานถึงความเฮี้ยนของสถานที่อันเป็นที่สิงสถิตของเหล่าเทพเจ้าเทวดามากมาย มีคำสาปแช่งต่างๆ นานา อีกทั้งยังเคยเป็นที่ตั้งของวังเพ็ชรบูรณ์ ที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 อย่างไรก็ตาม เรื่องอาถรรพ์ยังไม่มีหลักฐานใดๆ ยืนยันอย่างชัดเจน มีแต่เพียงเรื่องเล่าเป็นตำนานที่ร่ำลือกันมาช้านานเท่านั้น

​

ล่าสุด ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ ผู้จัดการมรดกทายาทของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก ให้ข้อมูลเรื่องนี้ว่า สาเหตุแห่งอาถรรพ์ของบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เกิดขึ้นจากช่วงก่อสร้างศูนย์การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์เมื่อปี พ.ศ.2525 มีการปรับพื้นที่และรื้อถอนทำลายศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำวังเพ็ชรบูรณ์ จนกระทั่งเกิดเหตุอาเพศและภัยพิบัติต่างๆ ที่สร้างความสูญเสียให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการลบหลู่ดูหมิ่นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สมัยรัชกาลที่ 4

ม.ร.ว.ถนัดศรีเล่าว่า กำเนิดของสี่แยกราชประสงค์เริ่มขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงรับสั่งให้ขุดสระใหญ่ 2 สระติดกัน และปลูกดอกบัวมากมาย ส่วนดินที่ขุดขึ้นมาทำเป็นเนินเขาเตี้ยๆ สำหรับสร้างพลับพลาที่เสด็จประทับ มีพระที่นั่ง 2 ชั้น และเรือนบริวาร ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่สำหรับพักร้อน เรียกชื่อว่าวังสระปทุม และโปรดให้สร้างพระอารามที่ริมสระบัว ตั้งชื่อว่าวัดปทุมวนาราม โดยให้พระสงฆ์ธรรมยุติมาอยู่ตั้งแต่แรกในปี พ.ศ.2400 นอกจากนี้ พระองค์ยังโปรดให้สร้าง "กุฏ" ติดกับวัดปทุมวนาราม กุฏมีลักษณะคล้ายถ้ำ สร้างขึ้นด้วยดินที่ขุดขึ้นทำสระบัว โดยมีรูปร่างคล้ายถ้ำขนาดเท่าตัวคนสำหรับนั่งขัดตะหมาดทำสมาธิวิปัสสนากรรมฐาน มีทางเข้า-ออกทางเดียวเพื่อเป็นสถานที่ส่วนพระองค์ของรัชกาลที่ 4 เนื่องจากพระองค์ทรงผนวชนานถึง 26 ปี แม้จะขึ้นครองราชย์แล้ว แต่ยังทรงคุ้นเคยกับกิจวัตรของพระสงฆ์

"ทุกวันพระใหญ่ ขึ้น 15 ค่ำ และแรม 15 ค่ำ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจะเสด็จฯ มายังกุฏเพื่อนั่งสมาธิ ในยุคสมัยต่อมาได้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ หรือศาลพระภูมิเจ้าที่ประจำวังเพ็ชรบูรณ์ ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในปี 2475 วังแห่งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และเล่นแร่แปรธาตุให้เอกชนเช่าที่ดินไปธุรกิจ โดยตระกูลเตชะไพบูลย์ได้เช่าพื้นที่เพื่อสร้างห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ โดยเข้าไปปรับพื้นที่ ถมสระน้ำและนำรถแทร็กเตอร์มาไถรื้อศาลพระภูมิวังเพ็ชรบูรณ์ ซึ่งเท่ากับเป็นการทำลายกุฏของรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุอาเพศจนถึงทุกวันนี้" ม.ร.ว.ถนัดศรีกล่าว

ม.ร.ว.ถนัดศรีกล่าวอีกว่า ในฐานะตัวเองที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกับพระองค์เจ้าหญิงสุทธสิริโสภา พระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก จึงมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลผลประโยชน์และจัดการมรดกของทายาทเจ้านายพระองค์นี้ ในช่วงที่ก่อสร้างห้างเวิลด์เทรด ได้ทักท้วงและห้ามปรามนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ แต่ไม่รับฟัง นอกจากไปรื้อถอนศาลพระภูมิวังเพ็ชรบูรณ์แล้ว ยังไปนำเอาพระตรีมูรติมาตั้งประทับหน้าห้างเพื่อข่มพลังหรือแก้เคล็ดที่ได้ทำลายกุฏ หรือสถานที่นั่งสมาธิของรัชกาลที่ 4 ส่วนเรื่องอาเพศไม่เกี่ยวกับเทพเจ้าองค์ใดๆ ทั้งนั้น แต่สาเหตุที่แท้จริงเกิดขึ้นจากความประมาทของคนและไม่เคารพนับถือพระมหากษัตริย์

"สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการพระราชทานที่ดินบริเวณนี้ว่าให้เป็นที่อยู่อาศัยชั่วลูกชั่วหลาน จนกว่าจะไม่มีผู้สืบสายสกุล ก็ไม่ใช่เรื่องจริง ผมรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เพราะเกิดในวังเพ็ชรบูรณ์ และมีความสนิทสนมกับทายาทสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก จึงรับรู้เรื่องราวทุกเหตุการณ์ ผมขอให้ทุกคนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง ไม่ใช่เชื่อในสิ่งที่เล่าต่อกันมา" ม.ร.ว.ถนัดศรีกล่าวในที่สุด.

​

http://www.thaipost.net/x-cite/250510/22479
ภาพประกอบเพิ่มจากทางอินเตอร์เนท

 

อาถรรพณ์วังเพ็ชรบูรณ์

เปิดประวัติศาสตร์พื้นที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ เคยเป็นที่ตั้งวังเพ็ชรบูรณ์ รัชกาลที่ 4 ทรงพัฒนาที่ดินรอบนอกพระนครเป็นพระราชอุทยานพักร้อน ก่อนที่เจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ โอรสในรัชกาลที่ 5 จะเข้าไปสร้างตำหนัก เผยมีการอัญเชิญพระตรีมูรติประทับเพื่อสะกดวิญญาณชั่วร้าย แต่มีคนทำไม่ดี จึงเกิดเหตุอาเพศ

จากเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายคนเสื้อแดงก่อวินาศกรรมวางเพลิงเผาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พลาซ่า จนเสียหายวอดวายและพังถล่มย่อยยับ ขณะเดียวกันได้เกิดกระแสร่ำลือเรื่องอาถรรพ์บริเวณพื้นที่บริเวณสี่แยกราชประสงค์ ว่าเป็นที่เฮี้ยนและมีคำสาปแช่งมากมาย อีกทั้งยังเต็มไปด้วยบรรดาเทพเจ้า เทวดา ภูตผีและวิญญาณคนโบราณสิงสถิตเฝ้าดูแลพื้นที่ เนื่องจากที่ตั้งของศูนย์การค้าชื่อดังใจกลางกรุงเทพฯ แห่งนี้ เดิมเคยเป็นวังของเจ้านายมาตั้งแต่ยุคสมัยรัชกาลที่ 4 แต่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีนักธุรกิจรายใหญ่เข้ามาครอบครองและพัฒนาสี่แยกราชประสงค์เป็นห้างสรรพสินค้า แต่กลับมีเหตุอาเพศภัยร้ายเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาจนถึงขณะนี้
จากการสอบถามข้อมูลทางประวัติศาสตร์พื้นที่บริเวณสี่แยกราช
ประสงค์ นายเอนก นาวิกมูล นักเขียนสารคดีเชิงประวัติศาสตร์ ระบุว่า ไม่ค้นพบเอกสารหรือหลักฐานใดๆ ที่ยืนยันเรื่องคำสาปแช่งในบริเวณพื้นที่สี่แยกราชประสงค์ มีแต่คำบอกเล่าสืบต่อกันมาเท่านั้น ซึ่งยังไม่มีผู้รู้จดบันทึกเรื่องราวอย่างเป็นทางการ
สำหรับพื้นที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์เคยเป็นวังเพ็ชรบูรณ์ ที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และลำดับที่ 8 ในสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ

นายอเนกเล่าถึงความเป็นมาของวังเพ็ชรบูรณ์ว่า ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มพัฒนาพื้นที่รอบนอกพระนคร พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังปทุมวันเป็นอุทยานพักร้อน เพื่อเป็นที่เสด็จประพาสพักผ่อน โดยทรงมีที่นาหลวงอยู่บริเวณทุ่งพญาไท ริมคลองบางกะปิ มีการขุดสระขนาดใหญ่ 2 สระ ปลูกดอกบัวและพืชพันธุ์ต่างๆ มากมาย สระในเป็นเขตส่วนพระองค์ สระนอกเปิดให้ข้าราชการและราษฎรทั่วไปเข้ามาเล่นเรือได้ ดินที่ขุดขึ้นมานำมาถมเป็นเกาะ พระองค์โปรดฯ ให้สร้างพลับพลาที่เสด็จออกและพระที่นั่งสองชั้น รวมทั้งตำหนักฝ่ายในและโรงละคร เพื่อจัดกิจกรรมรื่นเริง ตั้งชื่อตำบลปทุมวัน มีความหมายว่าสวนดงแห่งดอกบัว และทรงโปรดให้สร้างวัดปทุมวนาราม
ต่อมา สมัยรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดให้ตั้งโรงทหารขึ้นแทนในพื้นที่พระราชวังปทุมวัง เมื่อโรงทหารย้ายออกไป จึงโปรดให้ใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ มีการจัดนิทรรศการกสิกรรมและพานิชการครั้งที่ 1 จัดแสดงพันธุ์ข้าวและเครื่องมือการทำนาและการเกษตร หลังจากนั้นในสมัยรัชกาลที่ 6 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานที่ดินบริเวณพระราชวังปทุมวันแด่สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก สร้างวังเพ็ชรบูรณ์เป็นที่ประทับในปี พ.ศ.2462 โดยสร้างตำหนักประถมเป็นตำหนักแรก ชื่อตำหนักหลายแห่งในวังตั้งตามเพลงไทยเดิม เช่น เรือนกินนรรำเรือน เรือนลมพัดชายเขา ตำหนักสันนิบาตน้อย เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกสิ้นพระชนม์ในปี พ.ศ.2466 หม่อมเจ้าหญิงบุญจิราธร พระชายา ใช้เป็นที่ประทับในเวลาต่อมา จนกระทั่งวังเพ็ชรบูรณ์ตกอยู่ในความดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ภายหลังเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองปี พ.ศ.2475

นักเขียนชื่อดังบอกว่า ตำหนักประถมและเรือนบริวารจำนวนหนึ่งในวังเพ็ชรบูรณ์ได้ถูกรื้อถอนและชะลอมาไว้ที่จังหวัดนนทบุรี ในปี พ.ศ.2527 ซึ่งเป็นที่ประทับของพระวงวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธสิริโสภา พระธิดาสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก ปัจจุบันยังเปิดให้คนทั่วไปเข้าเยี่ยมชมเพื่อศึกษาหาความรู้ อย่างไรก็ดี ประวัติของวังเพ็ชรบูรณ์มีน้อยมาก โดยเฉพาะเรื่องราวอาถรรพ์แต่บรรพกาล ไม่มีการจดบันทึกเป็นหลักฐานเอกสาร จึงมีแต่คำเล่าลือเท่านั้น ส่วนเรื่องรัชกาลที่ 6 ทรงเขียนพินัยกรรมให้ที่ดินเป็นของชนชั้นเจ้านายชั่วลูกชั่วหลานนั้น ก็ยังไม่เคยพบเจอมาก่อน

"ผมเห็นว่าที่ดินตรงนี้เคยเป็นของเจ้านายมาก่อน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเกิดเหตุวางเพลิงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ รัฐบาลก็ควรจะหาแนวทางปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ หรืออุทยานกลางเมือง เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ระลึกถึงรัชกาลที่ 4 และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนทั่วไป" นายเอนกกล่าว

ด้านนายวิศิษฐ์ เตชะเกษม สถาปนิกชื่อดัง และนักวิชาการหลักฮวงจุ้ย กล่าวว่า อาถรรพ์ของวังเพ็ชรบูรณ์มีการเล่าลือว่าเป็นสถานที่ของเจ้านาย เป็นที่มีพลังและเฮี้ยนมาก ถ้าสามัญชนเข้ามาอยู่แล้วรับแรงพลังนี้ไม่ไหว ก็อยู่ไม่ได้ มักจะเจอแต่เรื่องอาเพศ ทำอะไรก็เสียหาย ไม่เจริญรุ่งเรือง จึงเป็นที่มาของการสร้างเทพเจ้าต่างๆ ไว้มากมายบริเวณสี่แยกราชประสงค์
นายวิศิษฐ์เล่าว่า วังเพ็ชรบูรณ์มีการอัญเชิญพระตรีมูรติประทับเพื่อสะกดข่มวิญญาณ เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลกสิ้นพระชนม์ วังเพ็ชรบูรณ์ไม่มีคนดูแล ปล่อยเป็นที่รกร้าง จนกระทั่งมีนักธุรกิจญี่ปุ่นเข้ามาขอซื้อที่ดินเพื่อสร้างห้างไทยไดมารู แต่ก็อยู่ไม่ได้ เพราะเกิดเหตุไฟไหม้เผาวอดวาย และในปี พ.ศ.2525 ทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ต้องการปรับปรุงพื้นที่วังเพ็ชรบูรณ์ให้เป็นศูนย์การค้า จึงได้เปิดให้เอกชนประมูลและทำสัญญาเช่ากับตระกูลเตชะไพบูลย์ แต่กลับมีความล่าช้าเรื่องสถาปนิกผู้ออกแบบและการลงทุน ระหว่างก่อสร้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ก็ประสบปัญหาอุปสรรคทางการเงิน มีอุบัติเหตุคนตาย ไฟไหม้ ดินถล่ม แต่ก็สามารถสร้างจนเปิดห้างได้ในปี 2533 พร้อมกับติดตามหาพระตรีมูรติที่สูญหายไปกลับคืนมาได้ และตั้งบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล

"พระตรีมูรติได้หายไประหว่างการรื้อถอนวังเพ็ชรบูรณ์ และมีพราหมณ์ได้แนะนำคุณวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ไปตามหาและเจอที่ร้านขายของเก่า ตลาดเวิ้งนครเกษม พร้อมกับสร้างองค์จำลองขึ้นหน้าห้างเวิลด์เทรดเพื่อปกปักรักษาที่ตรงนั้น" นายวิศิษฐ์เล่า

เขาบอกอีกว่า คนโบราณมักจะสอนว่าพื้นที่ของเจ้านายไม่ควรเข้าไปครอบครอง เพราะมีเทวดาเฝ้ารักษาและหวงแหนที่มาก ใครไปทำอะไรก็เจอเรื่องอาเพศ ตัวอย่างล่าสุดคือ กลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงเข้าไปปิดสี่แยกราชประสงค์ และก่อความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ จึงได้ถูกเทพเจ้าลงทัณฑ์ในที่สุด.




อาถรรพณ์วังเพ็ชรบูรณ์ | ไทยโพสต์

 

พูดไปพูดมา เข้าหาสีเสื้ออีกแล้ว..

ที่แรกก็พูดถึงอาถรรพณ์ของที่ดินในผืนนี้ ที่ใครเข้ามาบุกรุก(ขอใช้คำนี้) ก่อสร้างอาคารทับลงที่ที่เป็นวังเก่า สุดท้ายก็มีอันต้องเป็นไปต่างๆ นานา

มาคราวนี้ ห้างดังๆ ระแวกนั้น ก็มีอันเป็นไปเช่นกัน
แล้วก็มาจบลงที่สีเสื้อ สรุปเรื่องได้แปลกดี....

ท่านชายหม่อมกล่าวได้เป็นกลางดีกว่าอีก...

 

เห็นด้วยกับคุณสร้อยฟ้ามาลา
อย่าเอาสีเสื้อ การเมืองมายุ่งเกี่ยวกับ เว๊ปธรรมมะ จะดีมาก
โมทนา กับท่านผู้เขียน จ๊ะ

 

สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์

ศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง ย่อมมีเทพยดาอารักษ์พิทักษ์คุ้มครองรักษาอยู่แล้วครับ

..ทุกอย่างอยู่ที่จิต จิตดีก็ดีไป แต่ถ้าจิตอกุศล ไม่บริสุทธิ์ก็เดือดร้อนกันไปครับ

---------------------------------------------------------------------------
อนุโมทนาครับ ขอสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงจงพ้นจากบ่วงแห่งทุกข์ ดวงจิตพบแส่งสว่างแห่งธรรมด้วยเทอญ

 

เห็นด้วยจ้ะ

 

ข้อมูลที่ให้มาหน้าสนใจดีครับ อ่านแล้วก็ชวนให้คิดได้หลายๆเรื่อง

แต่ที่ชอบมากๆคือภาพประกอบสมัยเก่าที่หาดูอยาก คงเป็นแยกราชประสงค์เก่าแน่ๆเลย

 

เห็นด้วยกับการไม่นำสีเสื้อมาเกี่ยวข้อง
สัมมาทิฐิ ควรกล่าวเพื่อให้เกิดประโยชน์
กฎหมายมี ถึงแม้หลายคนไม่เชื่อในกฎหมาย แต่เราก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎบ้านเมือง
จริงคือเท็จ เท็จคือจริง ไม่มีใครรู้ได้ สำคัญที่สุดคือ ใจเราเอง

 

เห็นด้วยค่ะที่ไม่ควรเอาสีเสื้อมาพูดเพราะถ้าจะดูให้ดีเราก็คนไทยพี่น้องกันทั้งนั้น อภัยกันเถิด บุญที่เกิดจากอภัยทานมากนะคะ ใครทำผิดก็ให้กฏแห่งกรรมลงโทษไปใครผิดใครถูกว่าไปแล้วเราทุกคนอาจจะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร คุยเรื่องธรรมมะดีกว่าค่ะมีความสุขกว่ากันเยอะเลย นะคะ คนไทยที่รักทั้งหลาย;aa1

 

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งค่ะ ที่ไม่ต้องไปพาดพิงสีไหน

 

"ผมเห็นว่าที่ดินตรงนี้เคยเป็นของเจ้านายมาก่อน เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เมื่อเกิดเหตุวางเพลิงห้างเซ็นทรัลเวิลด์ รัฐบาลก็ควรจะหาแนวทางปรับปรุงพื้นที่เป็นสวนสาธารณะ หรืออุทยานกลางเมือง เพื่อเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ระลึกถึงรัชกาลที่ 4 และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของคนทั่วไป" นายเอนกกล่าว

ผมชอบคำพูดประโยคนี้ครับ

ขอ อนุโมทนา สาธุ ครับ

 

จะเสื้อสีไหน จะเป็นใครก็ไม่ทราบ
รู้แต่ว่า ทำกรรมใดไว้ ก็ต้องได้รับผลกรรมเช่นกัน

แม้ว่าจะอยู่เฉยๆ มิได้ ร่วมกระทำกรรม อันนั้นก็ตามที
แต่พวกเราคนไทย ก็มีกรรมร่วมกัน จึงได้มารับผลกรรม เหล่านี้ด้วย

 

ประวัติศาสตร์ คือ อดีต ( ต้องศึกษาให้ท่องแ้ท้ )
ข้อมูลข่าวสาร คือ ปัจจุบัน ( เฉกเช่นต้องรู้ว่าสิ่งจริงหรือลวง มีสติ ตามดู )
ความสงบสุข คือ อนาคต ( เก็บ รวบรวมทุกสิ่ง เป็นความทรงจำ สิ่งดีๆใช้นำทางชีวิต )

 

ไม่สมควรเอาสีเสื้อมาเกี่ยวจริงเท็จยังไงเรายังไม่รู้แต่ที่น่าจะรู้ว่าเรามีสีแห่งธรรมบ้างไหมพระพุทธเจ้าท่านยังได้กล่าวจงอย่าเชื่อแม้พระพุทธเจ้า่ที่กล่าว

 

ทำเนียบรัฐบาล เป็นแค่บ้านขุนนาง(เจ้าพระยารามรมฆพ) อาจจะไม่แรงเท่ากับบ้านของเจ้านายครับ

 

กรรมใดใครก่อย่อมได้รับผลนั้น

 

ขอบคุณเจ้าของกระทู้ที่นำมาแบ่งปันครับ...

ส่วนเรื่องสีเสื้อ ถ้าข้อความไม่เหมาะสม ก็น่าจะไปโทษคนที่ให้สัมภาษณ์มากกว่า...

 

"จากเหตุการณ์กลุ่มก่อการร้ายคนเสื้อแดงก่อวินาศกรรมวางเพลิง" ผมว่าคำนี้ไม่เหมาะนะครับ ตอนนี้เราควรให้อภัยกันครับ ไม่ใช่ใส่ร้ายทับถม ยิ่งจะทำให้เกิด ความแตกแยกชิงชังเข้าไปอีกนะครับ

 

ความเห็นส่วนตัว คิดว่าเป็นกฎแห่งกรรมที่ได้มาส่งผล พวกเราทุกคนควรจะอธิษฐานจิตให้ประเทศชาติสงบสุขและให้คนในชาติรักชาติและแผ่นดินไทยที่ทำให้เราได้มีที่อยู่อาศัย ขอให้คนที่อยู่ในไทยและเกิดในไทยรักประเทศไทย ดำเนินชีวิตตามแนวทางของพ่อหลวงตามแบบเศรษฐกิจพอเพียง เริ่มจากตัวเราเอง พยายามรักษาศีล๕ให้ได้มากที่สุด มีเมตตาแก่กัน ต่อไปถ้าคนทั้งชาติเป็นเช่นนี้ได้ก็จะสงบสุขขึ้นเยอะเลย

 

กรรมใดใครก่อ ย่อมได้รับผลนั้นครับ