พบรอยเท้าเปล่า และโครงกระดูกมนุษย์บนดวงจันทร์ (มีภาพประกอบ)

<TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>


อารัมภบท
เป็นความบังเอิญของผมอย่างหนึ่งที่ได้เจอบทความแปลกนี้ และได้ทดลองสืบค้นดูในเรื่องความลับขององค์การน่าซ่า ที่ทำตัวลับๆ ปิดข่าวบ้าง เปิดข่าวบ้าง เฉกเช่นเรื่อง Area51 ก็เลยนำเรื่องแปลกๆ มาให้พิจารณาดู และโปรดใช้พิจารณาญาณ

เรื่องราวของทฤษฏีสมคบคิด (Conspiracy Theory)
ในเรื่องราวของทฤษฎีสมคบคิดนั้น คือความเชื่อของแต่ละบุคคล ซึ่งอาจจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ อาจจะให้คุณหรือโทษก็ได้ เพราะเป็นแนวคิดของกลุ่มคน แต่หลักๆจะเน้นในเรื่องของ "ศาสนา การเมือง และวัฒนธรรม" เป็นหลักสำคัญดังนั้นผู้อ่านจะต้องวิเคราะห์ คิดถึงเหตุและปัจจัย ความเป็นไปได้ ประกอบด้วย


โครงกระดูกมนุษย์บนดวงจันทร์

​

เรื่องราวที่ถูกปกปิดมานานหลังจากการไปเยือนดวงจันทร์ด้วยยาน Apollo 11 ของอเมริกา จากภาพถ่ายของยานลูนาร์โมดูล (Lunar Module) ได้พบสิ่งแปลกประหลาดที่เป็นภาพของโครงกระดูกมนุษย์บนดวงจันทร์ !!! โดยจากคำกล่าวอ้างและจากภาพถ่ายมากกว่าพันใบของ Dr.Kang Mao-Pang นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์ชาวจีน ซึ่งแถลงเรื่องนี้ที่ปักกิ่ง และเป็นผู้เคยทำงานให้กับองค์การนาซ่า (NASA) เป็นผู้ที่ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้และแสงดรูปภาพที่ว่า บางภาพเป็นภาพรอยเท้าเปล่าประทับอยู่บนผิวดวงจันทร์ ไม่ใช่ภาพแบบที่นาซ่าเคยนำออกมาแสดงแต่อย่างใด Dr.Kang กล่าวว่าเป็นภาพที่นำมาจากการสำรวจดวงจันทร์ครั้งนั้น โดยเค้าอ้างว่าได้มาจากผู้ปฏิบัติการ Apollo 11 ในนาซ่า แต่ไม่ได้เปิดเผยตัวตน และไม่ใช่ได้มาจาก 3 คนนั้น (นีล อาร์มสตรอง, เอ็ดวิน (บัซ) อัลดริน และ ไมเคิล คอลลินส์ ) เขากล่าวว่าคนที่ให้ทั้งข้อมูลและรูปถ่ายเหล่านี้ไม่มีชื่ออยู่ปฏิบัติการครั้งนั้นด้วยซ้ำไป "ทางอเมริกานั้นปกปิดเรื่องนี้ และซ่อนมันเอาไว้กว่า 20 ปีมาแล้วทั้งยังเก็บโครงกระดูกมนุษย์ไว้อย่างลับๆ จนบัดนี้ และอเมริกานั้นไม่คิดว่าคนอื่นพิเศษพอจะแบ่งบันข้อมูลต่างๆ ที่มีให้" ส่วนทางอเมริการนั้นก็ไม่ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องรูปภาพถ่ายมากกว่า 1,000 เหล่านี้แต่อย่างใด จากภาพถ่ายของรอยเท้าเปล่าของมนุษย์และโครงกระดูกบนผิวหน้าดวงจันทร์นั้น รายละเอียดแสดงให้เห็นถึงว่าคนเหล่านั้นสวมกางเกนยีนส์ !?!?!?!


บางทีอาจเป็นไปได้ว่ากระดูกเหล่านี้อาจถูกขนมายังดวงจันทร์ด้วยเหตุผลบางประการ ซึ่งซากโครงกระดูกเหล่านั้นถูกแยกออกเป็นส่วนๆ Dr.Kang กล่าวว่าเป็นเรื่องยากมากที่จะพิสูจน์ว่ามันอายุเท่าใดถ้าไม่ได้ทำการวิเคราะห์มันโดยตรง และกล่าวว่าเขายังครอบครองทั้งรูปถ่ายและเอกสารจดหมาย ที่ซึ่งระบุเกี่ยวกับภารกิจบนดวงจัทร์และโครงกระดูกว่ามันเป็นโครงกระดูกมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย บางทีอาจจะเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกพิภพที่ทำการลักพาตัวมนุษย์ไปเพื่อทดลอง พอเสร็จการทดลองแล้วร่างของมนุษย์ทดลองอาจจะถูกนำมาทิ้งบนดวงจันทร์ก็เป็นได้ เอกสารที่เขานำมากกล่าวอ้างนั้นประทับตรา "ลับที่สุด" บนเอกสารนั้นระบุวันที่ 3 ส.ค.1969 นั่นหมายความว่าหลังจากที่ยาน Apollo 11 กลับสู่โลกได้ 2 สัปดาห์หลังที่ นีล อาร์มสตรอง และ บัซ อัลดรินและไมเคิล คอลลินส์ได้ไปเหยียบดวงจันทร์(ไมเคิลไม่ได้ลง) ในวันที่ 20 ก.ค. 1969 ซึ่งรายงานจากการไปดวงจันทร์ส่วนใหญ่จะถูกขีดทับจนไม่สามารถอ่านได้ แต่ก็พออ่านได้ความว่าสิ่งมีชีวิตนอกพิภพมีอะไรเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่ทางนาซ่าเองก็ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้โดยกล่าวว่าไม่มีการปกปิดอะไรทั้งสิ้น และปฏิเสธต่อหลักฐานของดอกเตอร์ชาวจีนผู้นั้น และกล่าวว่าทุกอย่างทางเราก็แสดงไปให้ดูแล้วยังไม่ยอมเชื่อกันอีก ครับ ก็อยู่ในเรื่องราวบทตำนานของทฤษฎีสมคบคิดและเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่ง ก็ไม่เป็นรู้แน่นอนว่าทางนาซ่าหรือ Dr.Kang จะเป็นผู้ที่โกหกต่อชาวโลก ไม่ว่าความจริงจะเป็นเช่นไร ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินดีกว่าครับ


*** ขอบคุณที่มาจาก....
๑. Mythland.org ลิงค์อ้างอิงตอนที่ 1 โครงกระดูกมนุษย์บนดวงจันทร์ - Conspiracy Theory - Mythland Board :: เรื่องลึกลับ ลี้ลับ UFO จานบิน จานผี มนุษ
๒.ขอบคุณที่มาภาพ (เง้ยตายละหว่า ลืมสนิทเลยแฮะ เดี๋ยวผมหาเจอแล้วจะบอกให้ เพราะลืม Save ลิงค์ไว้ ... แต่ถ้าหากท่านใดพบลิงค์ช่วยขอบคุณแทนผมด้วยนะครับ จักขอบพระคุณยิ่ง)
๓.และขอบคุณ th.wikipedia.org ในเรื่องทฤษฎีสมคบคิด

 

ไม่อยากจะเชื่อจริงๆเลยนะ แต่ก็เก็บไว้เป็นความรู้ติดหัวครับ

 

องค์การ "นาส้า" นับเป็นองค์กรใหญ่ที่มีการบริหารงานทรัพยากรบุคคลที่แย่ที่สุดในโลกองค์กรหนึ่ง

คนในองค์กรจ้องแต่จะนำความลับออกมาเปิดเผย
ตกลงว่าทุกวันนี้ "นาส้า" ยังมีความลับอะไรหลงเหลืออีกมั๊ยเนี่ย

ขนาดองค์กรครองโลกอย่าง "อลูมินาตำหนิ" ยังถูกเปิดเผยแผนการณ์อย่างละเอียดทุกเม็ด

โลกนี้คงไม่มีองค์กรลับหรือความลับอะไรหลงเหลือแล้วล่ะนะ




องค์การ "นาส้า" ต้องเปลี่ยนเป็น "นาไส้(แตก)"

เลยไม่แน่ใจว่า "Nasa" มีความลับมากเรื่อง หรือใครหลายคนสร้างเรื่องแล้วเอา "Nasa" มาเป็นองค์กรสร้างเครดิตให้ผู้นิยมอวกาศกระแส

 

เหมือน FW mail นั่นแหล่ะครับ ส่งมาต่อๆกัน จากใครเริ่มก่อนก็ไม่รู้ อ่านแล้วเชื่อกันจัง

 

อ่านแล้วเชื่อเลยก็งมงาย
อ่านแล้วปิดใจไม่เชื่อไม่เอา ก็ฟุ้งซ่าน ประมาทต่อความจริงหรือความลวง ปิดหูปิดตาตัวเอง

อ่านแล้วพิจารณาวิเคราะห์ด้วยสติปัญญาตน ดูตามพยานหลักฐาน พิจารณาตามจริง
ก็ได้ประโยชน์เป็นสติปัญญาความรู้เพิ่มพูน ถ้าพิจารณาไม่เป็น ก็รู้แล้ววางไป สักว่ารู้
เผื่อวันหนึ่งความจริงปรากฏจะได้เข้าใจเรื่องง่ายๆ เพราะมีข้อมูลพื้นฐานไว้บ้างแล้ว
ถ้าทำไม่ได้สักอย่าง ก็พิจารณาตนเองว่าจะเริ่มหัดพัฒนาสติปัญญาตนเอง หรือทำตาม
นิสัยเดิมๆก็จะทำอะไรไม่เป็นซักอย่างไปเรื่อยๆไม่รู้ลูกเดียว เชื่อลูกเดียว ไม่เชื่อลูกเดียว
ต่อให้ความจริงปรากฏออกมาแค่ไหน ก็ไม่ได้มีประโยชน์ต่อคนแบบนั้น ติดอยู่ในความไม่รู้
ไปจนตาย เกิดใหม่ก็เหมือนเดิม ตายไปก็เหมือนเดิม

ข้อมูล ทฤษฎีต่างๆ และเรื่องราวในโลกนี้มีมากมาย
บางคนอ่านครั้งเดียวก็เข้าใจ เก็ทเลย เพราะเขามีพื้นฐานมาคือมีของเก่ามาบ้างแล้ว
ทำมา อ่านมา ทำความเข้าใจ สะสมมา พอเจออะไรใหม่ๆ ก็จะเข้าใจแล้วพิจารณา
เพิ่มพูนสติปัญญาไปได้เรื่อยๆ ต่อยอดไปได้เรื่อย
แต่คนที่ไม่เคยสะสมมาเลย ก็เข้าใจยากไม่รู้ที่มาที่ไป มึน งง ไปต่อไม่เป็น
เหมือนการอ่านหนังสือ รอบที่1จะงง รอบที่2เริ่มจะรู้เรื่อง รอบที่3เริ่มเข้าใจ รอบที่4ก็แตกฉาน
ต้องมีวิริยะ ฉันทะ ในการอ่าน สติปัญญาไม่ใช่ของส้มหล่น ต้องสะสม ต้องเพียรรู้
อยากจะเป็นคนรอบรู้กว้างขวางก็ต้องขยันอ่านขยันคิดในทางที่ถูก
คนที่มีความรอบรู้เวลาเห็นความจริงปรากฏก็จะเข้าใจง่ายและเร็ว ตัดสินความจริงได้ถูก
แยกแยะความจริงความลวงได้ เพราะมีข้อมูลสำหรับพิจารณาได้รอบด้านลึกซึ้งกว้างขวาง

บางคนก็หลง บางคนก็ประมาท ไปเรื่อยๆ ก็อยู่กับความไม่รู้ ไปเรื่อยๆ
พิจารณาแยกแยะความจริงความลวง ไม่ได้ ก็เป็นเหยื่อให้พวกอื่นปั่นหัวได้ง่ายๆ
เพราะเชื่อง่าย หรือไม่เชื่อเลย จะไม่เคยแยกแยะอะไรจริงไม่จริง
ไม่เคยทำใจเป็นกลางและดูความจริงที่ปรากฏให้เป็น รอเวลาความจริงปรากฏตัวไม่เป็น
ถ้าไม่มีข้อมูลความจริงและความลวงสะสมไว้ก่อน เวลาความจริงปรากฏก็จะงง
ไม่รู้เรื่องอะไรเป็นอะไร เวลาความจริงปรากฏตัวก็จะหลงไปกับความจริงอีก ก็ไม่รู้อะไรอีก
เสียหายหลายแสน เสียเวลาหายใจทิ้งไปวันๆ ไม่มีอะไรเพิ่มพูน

 

อนุโมทนาด้วยนะครับ สำหรับธรรมบทนี้

เป็นธรรมที่ถึงใจหยาบๆ ของผมจริงๆ ผมมันประเภทต้องโดนเข่นเเบบนี้แหละ มันจะถึงใจดี อนุโมทนาอีกครั้งครับ

 

เห็นข้อความเหล่านี้อย่าเอาเป็นอารมณ์ ขอคิดว่าให้เป็นความรู้ก็พอ ส่วนจริงหรือไม่ เราไม่สามารถรู้ได้ อย่าเชื่อซะทั้งหมด ในเมือเราไม่ได้เห็นด้วยตา ไม่ได้สำผัสด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ลบหรู่ เพราะไม่ว่าสิ่งใดก็สามารถเกิดขึ้นได้เสมอ หรือบางที โลกพระจันทร์ ในอดีตเคยเป็นโลกมนุษย์มาก่อนก็ได้ใครจะรู้ แต่ขอบคุณค่ะในข้อความแปลกใหม่ ให้ประดับความรู้ค่ะ

 

ใช้สติในการเชื่อครับ

 

ยังมีอีกหลายเรื่องที่องค์การ นาซ่า ยังคงปิดบังอีกมามาย

 

ส่วนจริงหรือไม่ เราไม่สามารถรู้ได้ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้เสมอ

 

นานาจิตตัง

 

อยากรู้ยี่ห้อกางเกงยีนส์มากกว่าอะครับ

 

ไหนบอกว่ามีนับ 1,000 ภาพ
เห็นเอามาลงให้ดูรูปเดียว และก็เล็กกระจิ๊ดริด

 

สิ่งที่มนุษย์ยังไม่ค้นพบยังมีอีกมาก สิ่งที่มองไม่เห็นมันไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่จริงนะครับ แต่ฟังหูไว้หูดีที่สุด ใช้สติและหลักเหตุผลเป็นตัวพิจารณา

 

มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเถอะ

 

ไม่น่าเป็นได้

 

ถ้ายังไงลองไปถามพวกได้ดวงตาที่สามดิ ปัจจุบันนี้คงไม่หาหรอกมั่งนะ เเต่ผมเจอมาสองคนเเละเปงเพื่อนของเพื่อนบ้าง เปงพ่อของพ่อเพื่อนอีกที เเต่ได้ฟังบรรยายของดอกเตอร์ อุไร
มาเขาว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง ถ้าจำไม่ผิดมี สาม นิ้ว เกิดเเบบโอปาทิกะ อยู่คนละชาเนลกับมนุษย์ มีความเจริญกว่าเราทั้งด้านจิตใจเเละเทคโนโลยี

 

สวมกางเกงยีนส์ด้วย โอ้วววววว

 

แบบนี้เรียกว่าข่าวตัดแปะหรือเปล่า หาหลักฐานได้ไหม มีมูลความจริงที่จะให้ใครเชื่อได้หรือ กระทู้นี้อย่าหวังจะได้เป็นพันหน้าเลย 3หน้าก็ไม่ถึง

 

โครงกระดูกของมนุษย์จากนครแอตแลนติสหรือเปล่า