เจ้าชู้หลายใจ ต้องชดใช้กรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE class=alt1 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>




    ความเจ้าชู้หลายใจเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นปัญหาอยู่ในสังคมปัจจุบัน หลายกรณีความเจ้าชู้ของคู่ครอง ทำให้ครอบครัวต้องแตกแยก เกิดปัญหาสังคมต่างๆ ตามมามากมาย กรรมที่แต่ละคนทำจึงไม่เพียงมีผลต่อตนเอง และครอบครัวเท่านั้น แต่ยังมีผลไปถึงสังคมโดยรวมด้วย เหตุนี้เองพระพุทธเจ้าจึงได้พยายามพร่ำสอนให้ทุกคนมีศีล ๕ เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ตราบใดที่คนในสังคมยังผิดศีลธรรมอยู่นั้น ปัญหาของสังคมย่อมไม่มีวันที่จะหมดไปได้

    เรื่องราวต่อไปนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่เกิดจากความเจ้าชู้หลายใจ จนทำให้เป็นผลร้ายต่อชีวิตและสังคมตามมา เรื่องมีอยู่ว่า
    มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งชื่อว่าสมโภชน์ ชีวิตของเขานับว่าเป็นชีวิตที่ดีพอสมควร สมโภชน์จบการศึกษาระดับปริญญาตรี หลังจากนั้นเขาได้สมัครเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับเงินเดือนมาก ชีวิตของสมโภชน์จึงเป็นอยู่อย่างสบายท่ามกลางเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยความเจริญรุ่งเรือง

    ต่อมาสมโภชน์เกิดตกหลุมรักหญิงคนหนึ่ง ทั้งสองดูใจกันอยู่สักพัก จึงได้ตัดสินใจแต่งงานร่วมกันสร้างครอบครัวต่อไป ระยะแรกๆ ทั้งคู่ก็รักใคร่กันดี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขตลอดมา ไม่มีวี่แววเลยว่าคนใดคนหนึ่งจะเจ้าชู้แอบไปมีใจให้กับคนอื่น

    หนึ่งปีผ่านไป สมโภชน์และภรรยามีลูกด้วยกันหนึ่งคนเป็นผู้ชาย หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู ทั้งสองรักลูกชายคนนี้มาก วางแผนกันไว้ว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกคนนี้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ และจะทำทุกอย่างที่จะทำให้เขาประสบความสำเร็จในชีวิต

    แต่ชีวิตของคนเรานั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดความฝัน มันขึ้นอยู่กับความจริง หรือการกระทำของแต่ละคนต่างหาก ความฝันของสมโภชน์ที่วาดไว้อย่างสวยงามนั้น กำลังจะพังทลายลงเพราะการกระทำของตนเอง

    วันหนึ่งสมโภชน์ได้เจอกับหญิงสาวแสนสวยคนหนึ่ง ตอนแรกเขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก แต่ต่อมาเขามีโอกาสได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนี้จากการทำงานร่วมกัน วันเวลาผ่านไป ทำให้สมโภชน์เริ่มค่อยๆ มีใจออกห่างจากภรรยาของตน หันไปมีใจให้กับผู้หญิงคนใหม่

    ถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆ เขาจะไม่ได้คิดอะไรกับผู้หญิงคนนี้ เขายังรักภรรยาและลูกชายของเขามาก จะทำอะไรก็นึกถึงภรรยาและลูกชายอยู่ตลอดเวลา แต่อำนาจของกิเลสที่มีอยู่ในใจนั้น มันทำให้ความรักที่มีต่อภรรยาค่อยๆ จางหายไปเรื่อยๆ มันบังตาไม่ให้เขามองเห็นผลกรรมชั่วที่จะเกิดขึ้นในอนาคต


    [​IMG]


    นานวันเข้าสมโภชน์ก็ไม่นึกถึงภรรยาและลูกอีกเลย กลับรู้สึกว่า ผู้หญิงคนใหม่นี้เป็นคนดีมีน้ำใจ หน้าตาสวย อยู่ใกล้แล้วรู้สึกอบอุ่นมากกว่า เขาจึงแอบหาเวลามาพบกับผู้หญิงคนนี้อยู่เป็นประจำ จนทำให้ภรรยาเกิดความสงสัย ครอบครัวนี้จึงมีรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

    ภรรยาของสมโภชน์คอยติดตามดูพฤติกรรมของสามี ว่าไปมีใจให้กับคนอื่นหรือไม่ กระทั่งได้ทราบความจริงว่า สามีแอบไปมีผู้หญิงคนอื่น ทำให้เธอทั้งโกรธทั้งแค้นสมโภชน์มาก ทั้งสองคนจึงเริ่มมีปากเสียงกันหนักขึ้นทุกวัน ต่อหน้าลูกชายที่ทำตาปริบๆ นั่งมองดูพ่อแม่ทะเลาะกัน ด้วยความหวาดกลัว

    ในที่สุดทั้งคู่ก็ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน เพราะภรรยาทนรับพฤติกรรมของสามีไม่ไหว ทั้งสองได้แบ่งสมบัติกันคนละครึ่ง ส่วนลูกชายนั้นอยู่กับผู้เป็นแม่ ขณะที่สมโภชน์ แยกไปอยู่กับแฟนใหม่อย่างสุขสบายใจ

    สมโภชน์คิดว่าตนเองได้พบผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว เธอเป็นคนดี มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบดี เขาจึงไว้ใจผู้หญิงคนนี้มาก หากผู้หญิงคนนี้ต้องการอะไรเขาก็จะหาให้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้

    ฝ่ายหญิงสาวรู้ว่าสมโภชน์ไว้เนื้อเชื่อใจมาก จึงค่อยๆ หลอกเอาทรัพย์สมบัติของเขาทีละเล็กละน้อย จนในที่สุด สมโภชน์ยอมยกสมบัติทุกอย่างให้กับภรรยาใหม่ เพราะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดแล้ว ชีวิตของเขาที่เหลือก็ขอฝากไว้ให้ผู้หญิงคนนี้ช่วยดูแล แต่กรรมของสมโภชน์ที่เคยก่อไว้นั้น มันช่างเร็วเหมือนจรวดเหลือเกิน

    เพราะหลังจากที่ผู้หญิงคนนี้ได้ทรัพย์สมบัติจากสมโภชน์ทั้งหมดแล้ว เธอก็เริ่มออกลายให้เห็น เอาใจออกห่างจากเขา แอบไปมีแฟนใหม่ และกำลังหาทางที่จะเลิกกับเขาให้ได้ เธอจึงควงชายชู้มาให้เห็น เท่านั้นเองสมโภชน์ก็เกิดความโมโหสุดขีด เพราะความที่ตนเองทุ่มเทให้กับผู้หญิงคนนี้ทุกสิ่งทุกอย่าง แต่เธอกลับทำกับเขาอย่างโหดร้าย ซึ่งไม่ต่างอะไรกับที่สมโภชน์เคยทำไว้กับภรรยาคนแรกของเขาเลย

    กรรมที่สมโภชน์เคยก่อไว้ เริ่มแสดงออกมาให้เห็นแล้ว เขาถูกภรรยาใหม่ทิ้ง พร้อมกับหลอกเอาทรัพย์สมบัติไปจนหมดสิ้น ชายหนุ่มไม่เหลืออะไรเลย ชีวิตที่เคยสุขสบายจึงตกต่ำลงมาทันที ความเป็นอยู่ก็ย่ำแย่ ครั้นจะกลับไปหาภรรยาเก่า เธอก็ไม่ยอมคืนดีด้วย เพราะเจ็บช้ำใจกับสิ่งทีี่เขาเคยทำไว้กับเธอ

    สมโภชน์จึงกลายเป็นคนล้มเหลวในชีวิต ครอบครัวที่เคยวาดฝันไว้ว่าจะอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า นั่นก็เพราะความมักง่ายใจเร็วของตัวนั่นเอง หากเขารู้จักหักห้ามใจ ไม่ให้ไหลไปตามอำนาจของกิเลส ชีวิตของเขาก็คงไม่เป็นเช่นนี้

    การกระทำของสมโภชน์ไม่ได้มีผลเฉพาะกับตัวเองเท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบไปที่ลูกชายด้วย เพราะช่วงที่เขาเลิกร้างกับภรรยาคนแรกนั้น เธอต้องเลี้ยงดูลูกอย่างลำบาก เพราะฐานะของเธอไม่ค่อยจะสู้ดีนัก และเธอก็มักทำตัวเสเพลอยู่บ่อยๆ เพื่อประชดชีวิต ทำให้ลูกชาย มีปัญหา ทะเลาะกับแม่อยู่เป็นประจำ จนเป็นเด็กที่ขาดความอบอุ่น ในที่สุดก็กลายเป็นเด็กเกเร และไปสร้างปัญหาให้กับสังคมส่วนรวม

    นี่คือผลจากความชั่วของสมโภชน์ เขาไม่เพียงได้รับผลของกรรมชั่วในชาตินี้เท่านั้น ในชาติหน้าเขาจะต้องตกนรกหมกไหม้อีกด้วย!!

    กิเลสตัณหาที่มีอยู่ในใจนั้น หากเราไม่รีบทำลายมันให้หมดสิ้นไป หรือไม่ทำให้มันอ่อนอำนาจลง สักวันมันจะเล่นงานเราอยู่นั่นเอง เหมือนกับสมโภชน์ที่ถูกกิเลสเล่นงานจนชีวิตต้องหมดสิ้นทั้งทรัพย์สินเงินทองและครอบครัวที่เขารัก

    หากเราไม่อยากเป็นเช่นเดียวกับเขา ก็จงพยายามทำ ความดี หาทางกำจัดกิเลสที่มีอยู่ในจิตใจให้หมดสิ้นไป อย่าให้มันมีอำนาจมาชักจูงจิตใจของเราได้ หากปล่อยให้มันมีอำนาจเหนือเราเมื่อใด เมื่อนั้นมันย่อมนำหายนะมาสู่ตัวเรา วิธีการประคองให้จิตใจอยู่เหนืออำนาจกิเลสที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ รักษาศีล ๕ อยู่เสมอ หากเรายึดมั่นในศีล ไม่ล่วงละเมิดศีล ไม่ว่าจะในกรณีใดก็ตาม กิเลสก็จะทำอะไรเราไม่ได้ ชีวิตของเราก็จะพบแต่ความสุขความเจริญ ไม่ว่าในชาตินี้หรือชาติไหนก็ตาม

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 111 กุมภาพันธ์ 2553 โดย มาลาวชิโร)
     
  2. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    อนุโมทนา สาธุครับ ศีลที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนนั้น ดีแล้ว ชอบแล้ว ประเสริฐนักแล้ว ข้าพเจ้าขอน้อมนำมาสู่ใจ
     
  3. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ
     
  4. yaka

    yaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2010
    โพสต์:
    647
    ค่าพลัง:
    +1,384
    ขออนุโมทนาสาธุค่ะ

    ศีล ๕ ข้อ ๓ ห้ามแวะเวียน
     
  5. พีรดนย์

    พีรดนย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +63
    โมทนาสาธุครับ

    เป็นศีลข้อที่ส่งผลกระทบต่อสังคม พอ ๆ กับศีลข้อสุราเลย
     
  6. kathi99

    kathi99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 เมษายน 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +186
    อยากให้สามีของดิฉัน และผู้ชายเจ้าชู้ทุกคนได้อ่าน ... แต่ถ้าพวกเค้ากลัวเค้าก็คงไม่ทำกันหรอก แต่พวกเค้าควรที่จะได้รู้ ว่าสักวันเวรกรรมก็จะตามสนองพวกเค้า .... อนุโมทนาด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มิถุนายน 2010
  7. ปุ๊กกี๊

    ปุ๊กกี๊ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +41
    อนุโมทนา

    ความรัก เป็นสิ่งที่ไม่จีรังยั่งยืน ที่ไหนมีรัก ที่นั้นมีทุกข์ รักมากทุกข์มาก รักน้อย แต่รักนานๆ หากคนเรา รู้จักคำว่าพอดี ก็คงจะไม่ทุกข์ ให้เดินอยู่ในหนทางสายกลาง ก็คงจะไม่มีอะไรที่จะต้องคิดให้เกิดความทุกข์เลย
     
  8. lady_ta

    lady_ta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2008
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +380
    " จงทำในสิ่งที่ถูกต้อง อย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ "

    อนุโมทนาบุญค่ะ สาธุ

    บุญรักษาค่ะ
     
  9. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    บุคคลที่มีคู่ครองแล้ว จะต้องมีธรรมข้อนี้ในใจเสมอ "สทารสันโดษ" คือมี ความยินดีพอใจแต่ในเฉพาะคู่ครองของตน ซึ่งควรหมั่นเจริญให้มาก เพื่อให้มีสติป้องกันสิ่งยั่วยุใจทั้งหลาย ที่จะทำให้เกิดการละเมิดศีลข้อสาม ซึ่งในปัจจุบันมีให้เห็นกันอย่างดาษดื่นเหลือเกิน จนกลายเป็นค่านิยม ของคนรุ่นใหม่ไปซะแล้ว ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ว่าในยุคไหนก็ตาม การครองรักอย่างถูกต้องตามแบบที่ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ทรงแสดงไว้แล้ว นับว่าเป็นประโยชน์สุขแก่มนุษย์ที่สุดแล้วค่ะ

    ขออนุโมทนา สาธุ
     
  10. monsy

    monsy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +341
    ขออนุโมทนาค่ะชาตินี้เห็นแล้วซึ่งทุกข์และความไม่เที่ยงในทุกข์ไม่มีเลยความสุขมีแต่ทุกข์น้อยและทุกขืหนัก ขอแค่เรารู้จักปล่อยวางไปเพื่อลดให้ทุกข์เหลือน้อยที่สุดจะรู้สึกเหมือนมีความสุข(ก็ทุข์มันบางเบาลง)ก็แค่นั้น
     
  11. Bill PEA31

    Bill PEA31 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +417
    กรรมชั่ว แค่เพียงคิดก็ทำให้ใจของเรานั้นเกิดความรุ่มร้อนแล้ว
    หากมีการละเมิดศีล ก็ยิ่งจะทำให้ตนเอง และผู้อื่นต้องเดือดร้อน
    ก็ขอให้ทุกๆท่าน ใช้ชีวิตอย่างมีสติกันนะครับ เพื่อที่จะแก้ปัญหาที่จะเกิดขึ้น
    ได้อย่างมีสติ ดำรงค์ชีวิตอยู่ในศีล5เป็นอย่างน้อย
    ขออนุโมทนากันทุกท่านด้วยครับ
     
  12. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    [​IMG]
    ...อนุโมทนาค่ะ...
     
  13. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    หุหุ กลายเป็นกระทู้ที่มาแรงตอนนี้ไปแล้วครับ
     
  14. lookmo

    lookmo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +44
    ดิฉันก็เคยผิดศีล ข้อนี้ ผู้ชายคนนั้นเข้ามาจีบ โดยที่ดิฉันไม่เคยทราบมาก่อนว่าเค้ามีภรรยาและลูกแล้ว เนื่องจากอายุตอนนั้น เพียง 23 ปี เอง จนคบกันเป็นแฟน พอมารู้ทีหลังก็เลิกเลยค่ะ รุ้สึกว่าเราทำผิดอย่างมากเลย แต่ด้วยความไม่รู้จริงๆ แล้วอย่างนี้ เราจะบาปมากมั๊ยคะ อยากจะขออโหสิกรรม ให้กับครอบครัวเค้าทั้งหมดค่ะ
     
  15. noonei789

    noonei789 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +6,958
    อ่านเเล้วได้ข้อคิดหลายอย่างเเละน้ำตาไหลค่ะ คงไม่มีใครอยากให้คนรักตนเองนอกใจ
    เเต่ถ้าระดับศีลต่างกัน ก็เป็นทุกข์ค่ะ เพราะรักก็ต้องทนต่อไป เพราะ รักเดียวใจเดียว
     
  16. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +3,637
    อนุโมทนากับท่าน ที่มีรักเดียวใจเดียว ที่ไม่ข้องเกียวกับหลายรัก


    ส่วนท่านใดที่เจ้าชู้ ก็เป็นไปตามกรรมก็แล้วกันนะครับ
     
  17. tharushnu

    tharushnu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +1,276
    ไฟอื่นเสมอด้วยไฟราคะ ย่อมไม่มี
     
  18. เจริญใจ

    เจริญใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +127
    สรรพสิ่งบนโลก ล้วนมีเกิดและดับ
     
  19. somkiatdhana

    somkiatdhana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +619
    ขออนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ครับ
    ----------------------------------------
    พุทธวจน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. wattanadist

    wattanadist เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +1,134
    ผมขอบบอกว่ามันเป็นจริงครับ เรื่องกรรมนี้ เพราะผมก็อยากเล่าประสบการณ์ตรงของผมเอง

    อำนาจอกุศลรรมแห่งกิเลสนั้น แรงหานับประมาณมิได้...ต่อต้านยากจริงเหลือเกินครับ
    แต่ก็ยังหลงเหลือแค่อำนาจกุศลกรรมแห่งบุญ(ทาน ศีล สมาธิ) ที่ัยังสามารถต้านมันไว้ได้อยู่นั้นเอง...

    จากประสบการณ์ของผมเอง ผมสามารถบอกอย่างได้ไม่อายว่า "ผมนั้นเป็นผู้ชายเจ้าชู้มาก่อน" เริ่มต้นตั้งแต่สมัยขณะที่ผมยังเป็นนักศึกษาใหม่ ๆ จวบจนจบมาทำงานใหม่ ๆ ตอนเพิ่งจบยังไม่ถึง3เดือน เพราะผมจบมาแล้วก็หางานได้เลยภายในเวลาแค่ 2 เดือนกว่า ผมเป็นวิศวกร ถ้าพูดถึงหน้าตาหรือ รูปธรมมนั้น ก็ค่อนข้างเด่นกว่าคนอื่น ๆ (มันถึงได้เป็นที่มาแห่งกิเลสที่พุ่งเข้ามาหาผมเอง) และก็จนมาถึงกรรมที่มันตามทันผมแล้ว คือว่าผมได้คบกับผู้ญคนนึงซึ่งเธอเป็นคนต่างจังหวัดสวยและน่ารักมากแต่ก่อนที่เธอจะะมาคบกับผมนั้น เธอได้เลิกกับแฟนที่เธอคบอยู่ เพื่อที่จะมาคบกับผม...เราคบกันอย่างจริงใจมีความสุขพ่อแม่ทุกฝ่ายรับรู้หมด และเวลาหยุดก็ได้สลับกับพาไปพักที่บ้านพ่อแม่ของแต่ละฝ่าย เป็นแบบนี้เสมอมาจนกระทั่ง ที่ทำงานเก่าของผมนั้นก็ได้มีผู้ ญ คนนึงซึ่งเธอเป็นในระดับเดียวกันเหมือนผม มีเสน่ห์ดึงดูดใจมากทั้ง ๆ ที่สวยน้อยกว่าแฟนกว่าผมอีกว่างั้นเหอะ...และเธอก็พยายามวิ่งเข้าหาผมเสมอในที่ทำงาน โดยผมก็พยายามบอกว่าผมมีแฟนแล้ว...จนมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต ผมและเธอรวมถึงเพื่อน ๆ ร่วมงานก็ได้ไปร้านอาหารแห่งหนึ่งซึ่ง มันก็มีการดื่มสุรา(ผิดศีลข้อนี้บ่อยด้วยในช่วงนั้น)และอาหารต่าง ๆ ซึ่งผมก็ต้องมีหน้าที่ไปส่งแต่ละคน ทั้ง ๆ ที่วันนั้นในตอนเย็นสัญญากับแฟนว่าจะกลับไปหาแฟนที่บ้านแฟน แต่ก็เมาและกลับไม่ไหว อีกทั้งเรื่องมันก็เกิดอีกเพราะผู้ญคนนั้นที่ทำงานก็ตามผมมาที่ห้องตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ คราวนี้อ่ะ งานเข้า เพราะผมก็กิเลสครอบงำเต็มที่แล้วในตอนนั้น ส่วนเธอเองบอกให้กลับก็ไม่กลับเพราะเพื่อน ๆที่ทำงานคนอื่นๆ ก็รออยู่ด้านล่างซึ่งมากันทางแท๊กซี่...เนื้อเรื่องไม่ต้องพูดถึงผมรู้แค่ว่า ตรงคอผมมันมีรอยช้ำมากของผู้ญคนนั้น...ในอีกวันนึงผมก็รีบกลับไปหาแฟนที่ ตจว. ซ่งพอเจอกันแล้วแฟนผมถึงกับน้ำตาไหลร้องให้เพราะเห็นรอยที่คอผม...จากนั้นมาเธอก็เงียบ ๆ ไป...ส่วนผมนั้นเหมือนเดิมและบอกตัดสัมพันธ์กับผู้ญ ที่ทำงานไปเด็ดขาดแล้วเพราะรู้สึกผิดแล้ว...แต่มันก็สายไปแล้วเพราะแฟนผมนั้นในระยะที่เธอมีอาการเฉย ๆ ชา ๆ นับแต่วันนั้นมา ยืดเยื้อจนประมาณ 2 เดือนกว่า เธอก็แอบไปคบกับผู้ชายคนใหม่จนกระทั่งผมทราบเรื่องเหมือนกันจากในมือถือ ภาพ ข้อความ ซึ่งก็ทะเลาะกับเธอแต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายไรกันเพราะผมไม่ใช่คนแบบนั้น...ตอนนั้นผมมีความคิดมืด 8 ด้าน ขับรถออกมาข้างถนนตอนดึก นั่งกินเบียร์ 1ขวด...แล้วก็คิดว่า มันคงถึงเวลาที่กรรมมันตามผมทันแล้ว ความรักครั้งนี้ของผมก็จบแล้ว เธอไม่เหมือนเดิมแล้ว...และจากนั้นมาเธอก็ไม่ยอมกลับบ้านของเธอโดยหายไปเลยกับผู้ชายคนนั้นแบบยาว ๆ ในช่วงสงกรานต์ซึ่งผมก็อยู่ที่บ้านเค้า พ่อและแม่เค้าก็บอกให้อยู่นี่ก่อนรอแฟนผมก่อนเดี๋ยวจะช่วยกันติดต่อให้...จน 4 วันผ่านไป เธอกลับมา ผมก็เข้าไปกอดเธอแล้วก็น้ำตาไหลพรากบอกกับเธอว่า พี่ขอโทษ พี่ขอโทษ รักมาก ดูแลตัวเองให้ดี ๆ ด้วย (ผมเหมือนกับร่ำราเพราะรู้ว่าเธอหมดรักในตัวผมแล้ว)....แล้วผมก็เดินออกจากบ้านเธอมาพร้อมความเจ็บปวดแบบบอกไม่ถูก จนผมก็กลับมาที่ห้องเหลือที่พึ่งอย่างสุดท้าย คือ พระรัตนไตร นั่นเอง....คืนนั้นผมกลับไปเช่าพระพุทธรูปมาเพื่อที่จะทำหิ้ง 3 องค์แต่คืนนั้นผมไม่มีแรงจริง ๆ มันเพลียและเศร้าใจมาก...นอนกอดพระพุทธรูปแล้วห้องไห้ไม่หยุดทั้งคนจนหลับไป...

    ผมสรุปกรรมของตัวเองได้แล้วว่า
    1. ผมเช้าชู้มาก่อนสมัยตั้งแต่เริ่มเรียน
    2. ผมแย่งแฟนคนอื่นมาเป็นของตัวเอง(แม้ไม่ได้ตั้งใจ)
    3. ผมนอกใจจนทำให้แฟนของผมเสียใจ
    ผมเลยมีจุดจบ ณ ประการเช่นนี้

    เวลาผ่านไปรวดเร็วนัก....นี่ก็ร่วม 5 ปี กว่าแล้ว...พระุพุทธรูปที่ผมนอนกอดแล้วร้องไห้ในคราวนั้นท่านยังอยู่บนหิ้งของผมตราบเท่าจนทุกวันนี้....ท่านคือ ครูของผม ท่านคือที่พึ่งของผม ธรรมมะของท่านเป็นสิ่งสุดวิเศษที่หานับประมาณมิได้ ท่านช่วยให้ผม เลิกเหล้าได้ ท่านช่วยให้ผมดีกว่าแต่ก่อนได้ มากมายนัก
    "ผมขอบูชาพระรัตนไตร ด้วยเศียรเกล้าแห่งข้าพพระพุทธเจ้า"

    อยากให้ทุกคนอ่านแล้ว ถ้าใครยังเป็นแบบผมเมื่อ 5-6 ปีก่อนก็...เอาชนะกิเลสให้ได้ด้วย บารมีแห่งธรรมนะครับ อย่าทำให้คู่ตัวเองเสียใจเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...