Hajiko ...สุนัขผู้คอยนายจนลมหายใจสุดท้าย

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    <TABLE class=tablebg cellSpacing=1 width="100%"><TBODY><TR></TR><TR><TD align=middle>[​IMG]
    Hajiko.jpg [ 170.05 KiB | เปิดดู 123 ครั้ง ]
    คำอธิบาย: ภาพบน - เจ้าฮาจิโกะเมื่อปี 1932 (2475)
    ภาพล่าง - รูปปั้นของเจ้าฮาจิโกะ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ความพลัดพราก เมื่อเกิดขึ้นกับมนุษย์

    มนุษย์ส่วนใหญ่....แสดงออกด้วยการโศรกเศร้าเสียใจ


    ลองมาดูการต้องพลัดพรากจากบุคคลอันเป็นที่รัก

    ที่เกิดกับสุนัขชื่อ "ฮาจิโกะ" (ประเทศญี่ปุ้น)

    **เรื่องของฮาจิโกะ**
    สุนัขผู้ซื่อสัตย์
    Hachiko Monogatari


    ย่านชิบูยะ ในประเทศญี่ปุ่น
    มีรูปหล่อสุนัขตัวหนึ่ง ชาวญี่ปุ่นหลายคนรู้จักมันเป็นอย่างดี
    มันตัวแทนให้ระลึกถึงความรัก และมิตรภาพระหว่างคนกับสุนัข
    เจ้าฮาจิโกะ (Hachikō) สุนัขพันธุ์อากิตะ (Akita)
    คือ
    ตำนานเบื้องหลังรูปปั้นนี้


    เรื่องของ เจ้าฮาจิโกะ
    เกิดขึ้นระหว่าง 10 พย.2466 ถึง 8 มีค.2496 (Nov 10,1923 - March 8, 1935)

    ฮาจิโกะ เป็นสุนัขสายพันธุ์อคิตะ (Akita) ,
    เกิดที่เมืองโอดาเตะ จังหวัดอคิตะ ประเทศญี่ปุ่น

    ลืมตาขึ้นมาดูโลกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 1923 (2466) ในจังหวัดอากิตะ
    เมื่ออายุได้เพียง 2 เดือน เจ้าฮาจิโกะ ถูกส่งตัวไปอยู่กรุงโตเกียวกับเจ้านายของมัน คือ
    เอซะบุโระ อุเอะโนะ ศาสตราจารย์ประจำคณะเกษตรศาสตร์
    แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล(มหาวิทยาลัยโตเกียวในปัจจุบัน)

    ศาสตราจารย์รู้สึกภาคภูมิใจกับเจ้าฮาจิโกะเป็นอย่างมาก
    มันเป็นสุนัขอากิตะสายพันธุ์แท้ซึ่งหาได้ยากในสมัยนั้น

    วันที่เจ้านายต้องไปทำงานจะต้องไปขึ้นรถไฟที่ สถานีชิบูยะ
    เจ้าฮาจิโกะ จะคอยส่งเจ้านายถึงประตูหน้าบ้าน

    จากนั้นเมื่อถึงเวลา 15.00 น. ซึ่งเป็นเวลาเลิกงานแล้ว
    เจ้าฮาจิโกะจะมากระดิกหางรอพบเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟเสมอ

    เมื่อเสียงรถไฟมาถึงสถานี เจ้าฮาจิโกะ เจ้าชะเง้อหน้ามองหานายของมัน
    เมื่อเจ้านายมันเดินออกจากประตูสถานี มันก็จะวิ่งไปหาและออดอ้อน
    ศาสตราจารย์จะก้มลงกอดมัน และพากันเดินกลับบ้าน เป็นเช่นนี้ทุกวัน วันแล้ววันเล่า

    วันที่ 21 เดือนพฤษภาคม 1925 (2468)
    ศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย

    วันนั้น ฮาจิโกะยังคงมารอเจ้านายของมันที่สถานีรถไฟ
    มันไม่มีทางรู้ได้หรอกว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายของมันอีกแล้ว

    หลังจาก การเสียชีวิตของที่ศาสตราจารย์อุเอะโนะ ภรรยาของเขาได้ย้ายบ้านไป
    โดยนำเจ้าฮาจิโกะไปไว้กับญาติของศาสตราจารย์ที่อยู่ห่างออก
    บ้านใหม่ของ ฮาจิโกะ อยู่จากบ้านเดิมของมัน และสถานีรถไฟซิบูยะ หลายกิโลเมตร

    เจ้าฮาจิโกะ ไม่ยอมอยู่กับเจ้านายใหม่ของมัน
    ทันทีที่มันหลุดออกมาได้ มันวิ่งตรงไปที่บ้านเก่า
    เมื่อไม่เจอใคร มันจึงกลับไปรอที่สถานีรถไฟ เหมือนเมื่อครั้งที่เจ้านายของมันยังมีชีวิตอยู่

    หลังจากนั้น ทุกๆ วัน เมื่อถึงเวลา 15.00 น.
    ผู้คนย่านนั้น จะเห็นเจ้าฮาจิโกะ มานั่งอยู่ที่เดิม จนกระทั่งพระอาทิตย์ตกดิน มันก็จะหายไป
    มันไปอาศัยหลับนอนอยู่บริเวณใกล้เคียงกับสถานีรถไป

    ไปนอนอยู่ใกล้ๆ บ้านเก่าของมันบ้าง เพื่อเฝ้ามองดูคนในบ้าน เผื่อว่า เจ้านายมันมาปรากฎตัว

    คิคุซะบุโระ โคบายาชิ อดีตคนสวนของศาสตราจารย์
    ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟเป็นคนคอยดูแลเจ้าฮาจิโกะ

    ในเวลาที่อากาศเย็นลง มันก็จะไปหลบอยู่ใต้ซากรถไฟเก่าบ้าง
    เพื่ออาศัยความอบอุ่น หลับนอน

    มันรอเวลา บ่าย 3 โมง เพื่อที่จะไปรอเหมือนเช่นทุกวัน
    เมื่อเสียงรถไฟมาถึงสถานี เจ้าฮาจิโกะ ก็จะลุกลี้ลุกลนชะเง้อหน้ามองหานายของมัน
    คนแล้วคนเล่า เดินผ่านมันไป.....ไม่มีเจ้านายของมัน
    จนกระทั่ง คนสุดท้ายเดินผ่านไป มันจึงจะกลับไปที่อยู่ของมัน

    วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ที่มันรอคอย

    ผู้คนย่านนั้น มองดูมันด้วยความสงสาร ซึ่งก็ได้ให้ความช่วยเหลือ ด้วยการให้อาหารแก่มัน

    เรื่องราวความซื่อสัตย์ของมัน เริ่มเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ

    โดยเฉพาะเมื่อเรื่องราวของมันถูกตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในปี 1932
    ทำให้ผู้คนทั่วสารทิศเดินทางมาดู มาเล่นกับเจ้าฮาจิโกะ

    ชาวญี่ปุ่น ได้ยกให้เจ้าฮาจิโกะเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเด็กๆอีกด้วย

    ในเดือนเมษายน 1934 อันโดะ เทะรุ ศิลปินชื่อดังจึงได้ทำรูปหล่อทองแดงของเจ้าฮาจิโกะขึ้นมาเพื่อยกย่อง และนำไปตั้งไว้ที่สถานีรถไฟชิบูยะ


    คืนวันหนึ่ง .........
    .....เจ้าฮาจิโกะ เกิดมีความรู้สึกบางอย่างที่ พิเศษกว่าคืนอื่นๆ ที่ผ่านๆ มา
    ....มันออกไปรอนายของมันที่เดิม โดยไม่รอให้ถึง บ่าย 3 โมงอย่างเช่นที่เคย

    มัน...รอ..คอย.....หลายชั่วโมง...ผ่านไป

    มันรู้สึกเหนื่อยล้า..... แต่มันก็เชื่อว่าวันนี้แหละ.....มันจะได้พบนายของมัน อย่างแน่นอน

    ความเหนื่อยล้า....ทำให้ มันต้องเปลี่ยนจากท่านั่ง

    มันล้มตัวลงนอน ด้วยจิตใจที่กระชุ่มกระชวยกว่าทุกๆ วัน ที่ผ่านมา
    มันนอนลง....ด้วยจิตใจที่หวังว่า....นายของมันจะกลับมา อย่างแนะนอน......ในไม่ช้า
    ทว่า.....มันไม่ได้ลุกขึ้นยืน อีกเลย

    วาระสุดท้าย แห่งการรอคอย.....มาถึงแล้ว กว่า 10 ปี....แห่งการอคอย

    ล้มหายใจสุดท้าย.....หมดลงไปพร้อมกับ....การสิ้นสุดแห่งการรอคอย

    เจ้าฮาจิโกะ จะได้พบกับเจ้านายของมันหรือไม่.......คงเหนือความหยั่งรู้


    วันที่ 8 มีนาคม 1935 (2478)
    ผู้คนที่เคยผ่านไปมาในย่านนั้น หลายคนต้องหลั่งน้ำตา

    เจ้าฮาจิโกะ นอนนอนคอยเจ้านายของมันเหมือนทุกๆ วัน เหมือนกว่า 10 ปี ที่ผ่านมา

    ต่างกันตรงที่ วันนี้ มันไม่มีลมหายใจแล้ว

    คนที่เคยให้อาหารแก่มัน ยังคงเตรียมอาหารมาเหมือนเช่นทุกวัน
    แต่วันนี้ ฮาจิโกะ ไม่ลุกขึ้นมาขออาหารแล้ว


    ข่าวการตายของฮาจิโกะถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 ของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น

    ร่างของฮาจิโกะ ได้รับการเชิดชูอย่างเกียรติ
    มันถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ในกรุงโตเกียว

    แม้ว่าฮาจิโกะจะจากไปแล้วแต่เรื่องที่น่าสนใจจากฮาจิโกะยังคงไม่จบ

    ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้เหล็กและโลหะเป็นอย่างมาก
    จนถึงกับต้องเอารูปหล่อของเจ้าฮาจิโกะมาหลอมเลยทีเดียว

    กระนั้นความซื่อสัตย์ของฮาจิโกะยังคงไม่เคยถูกลืมไปจากใจชาวญี่ปุ่น
    เพราะในเวลาต่อมาได้มีการจัดทำรูปหล่อของฮาจิโกะขึ้นมาอีกครั้งในเดือนสิงหาคม 1947
    ศิลปินผู้รับหน้าที่นี้ก็คือ อันโดะ ทะเคะชิ ลูกชายของ อันโ ดะ เทะรุ
    ผู้ที่ทำหน้าที่สร้างรูปหล่อฮาจิโกะเมื่อครั้งแรกนั้นเอง

    ปัจจุบันจุดที่รูปหล่อฮาจิโกะตั้งอยู่นั้นได้กลายเป็นจุดนัดพบยอดนิยมของย่านชิบูยะ

    ทั้งนี้ นอกจากรูปหล่อที่ย่านชิบูยะแล้ว ยังคงมีรูปปั้นที่เตือนให้ระลึกถึงฮาจิโกะอยู่อีกหลายแห่ง เช่น ที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ ในจังหวัดอากิตะ บ้านเกิดของเจ้าฮาจิโกะ เป็นต้น
    ส่วนเรื่องของเจ้าฮาจิโกะยังคงเป็นที่เล่าขานในญี่ปุ่น ถึงขนาดมีการนำไปสร้างเป็นละคร ภาพยนตร์ การ์ตูน และอื่นๆอีกมากมาย

    <!-- m -->http://www.bloggang.com/mainblog.php?id ... 7&gblog=11
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อ่านแล้วเศร้าจัง
     
  3. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    เรื่องนี้สร้างเป็นหนังหลายครั้งแต่ไม่กล้าดูเพราะเศร้ามาก
     
  4. อิสวาร์ยาไรท์

    อิสวาร์ยาไรท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,608
    ค่าพลัง:
    +1,955
    :'( สงสารสุนัข ทุกตัวเลย รักสุนัข
     
  5. ป้ามด

    ป้ามด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +86
    ความรักและความซื่อสัตย์ของหมาจะยิ่งใหญ่มากกับคนที่เลี้ยงป้ารักหมาทุกตัวที่เห็น
     
  6. วันมงคล

    วันมงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    414
    ค่าพลัง:
    +1,303
    อ่านแล้วซาบซึ้งมากๆในความจงรักภักดีของเจ้าฮาจิโกะ
    สุนัขที่ซื่อสัตย์ต่อเจ้านายของมัน ขอบคุณมากสําหรับบท
    ความดีๆที่สอนให้มีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อผู้มีพระคุณ
    ของเราและท่านทั้งหลายพึงจะต้องปฎิบัติเช่นกัน...สาธุ...


     
  7. omio

    omio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,679
    ค่าพลัง:
    +5,213
    [​IMG]

    (บน) ร่างของฮาจิโกะที่อยุ่ตรงกลางซึ่งเก็บเอาไว้ในพิพิธภัณฑ์ (ล่าง ซ้าย) รูปปั้นของฮาจิโกะที่หน้าสถานีรถไฟโอะดะเตะ
    (ล่าง ขวา) หลุมศพของฮาจิโกะที่ตั้งอยู่ด้านข้างของหลุมศพศาสตราจารย์อุเอะโนะ
     
  8. ucon888

    ucon888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2009
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +993
    รักหมาทุกตัวที่ไม่มาไล่ฟัดผม
     
  9. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    วันนี้มีวิธิทำบุญที่เห็นผลชงัดมา บอกต่อเป็ธรรมทานคะ ใครสนใจก็ลองเอาไปปฏิบัติดูนะคะรับรอง คุณจะรู้สึกถึงความค่อยๆเปลี่ยนแปลง เพราะลองทำวิธีนี้ด้วยตัวเองแล้ว
    เป็นคำกล่าวของ พญานาคราชในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถ และ
    ท่าน พระอาจารย์เกษม อาจิณฺณสีโล ท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่หล้า พระอริยะเจ้าแห่งวัดภูจ้อก้อ จ.มุกดาหาร คำกล่าวของพญานาคราช ข้าพเจ้าได้พบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ เมื่ออ่านดูแล้วเกิดความศรัทธา จึงไดพิมพ์แจกเป็นกุศล วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถได้มีหลวงพ่อ องค์หนึ่งได้นั่งสวดมนต์ อยู่ในโบสถ์ ขนะนั้นมีงูตัวหนึ่ง เลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธรูปในโบสถ์ หลวงพ่อเมื่อได้เห็นงูก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ ในรูปของพราหมณ์ แล้วกล่าวกับหลวงพ่อว่า " เจ้าไม่ต้องกลัว และตกใจ เจ้าจงฟัง " ข้าพเจ้าคือ พญานาคราช ได้จุติ ณ วัดแห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้าย และคนบาป คนที่ทำกรรมไว้มากจักได้พินาศไป จากโลกนี้ และเจ้าจงประกาศ ให้ ทุกคนได้รู้ว่า ผู้ใดนำเรื่อของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก มันผู้นั้นจักมีโชคลาภ มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมปราถนาทุกประการ และผู้ใดรู้อย่าได้คิด ว่าหลอกลวง หรือไม่เชื่อ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว หรือ ถ้าศรัทธาผู้ใดคิดจะพิมพ์แจกอย่าพลัดวันประกันพรุ่ง หรืออ่านแล้วฉีกทิ้ง ผู้นั้นจักมีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับตัว เมื่อรู้เรื่องแล้วให้พิมพ์แจกหรือแจกต่อๆไป
    หรือ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวก็ได้ไม่บังคับ จากนั้นหลวงพ่อได้แจกจ่ายต่อๆไป ท่านได้สำเร็จวิชาต่างๆ และโกบินตะแห่งประสาทคุปตา และอีกหลายคน อ่านแล้วอย่าลบหลู่ หากศรัทธาในพิมพ์แจกจ่าย หรือ

    ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
    Download Bonus การทำบุญถูกวิธี.pdf คลิ๊กที่นี่

    อยากบอกก่อนนะคะว่านี่ไม่ใช่เห็นแล้วเอามา เผยแพร่ทันทีเลย แต่ วิธีนี้ลอง ทำด้วยตัวเองดูแล้ว คิดว่าทุกปัญหาแก้ได้แน่นอน
    คืออยากเล่าเผื่อธรรมทานอะคะ คิอเป็นคนที่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ เก็บเงินไม่อยู่
    วันหนึ่งมีคนส่ง e - mail มาให้เลยลองทำบุญตามวิธีนี้ดู พอลองทำบุญตามวิธีนี้ดูรู้สึกว่าได้ผลเพราะ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ใช้เงินเปลืองอยู่แล้ว
    จึงทำให้มีปัญหาเรื่องเงินบ่อยๆ อันนี้ก็อีกข้อนึง
    แต่อีกอย่างนึงก็คือว่าถึงแม้ตั้งใจเก็บแบบตั้งใจเก็บ จริงๆ สุดท้าย จะมีคนมาเอาเงินนั้นไปตลอดไม่เหลือแม้บาทเดียว คือมีคนมาเบียดเบียนเราตลอด หรือไม่ก็ตัวเองนี่แหล่ะ คือบางทีมันก็มีเรื่องจำเป็นจริงๆที่จะต้องจ่ายออกไป แบบว่าจ่ายออกไปแบบไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ...........
    แต่พอทำบุญด้วยวิธีนี้แล้ว รู้สึกว่าเก็บเงินอยู่จริงๆ รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยขึ้นมาก รู้สึกได้เลยว่าไม่มีคนมาเบียดเบียนเลย
    บางทีเหมือนจะต้องเสียเงินแต่ก็ไม่ได้เสีย อันนี้เรื่องจริงค่ะอึ้งเหมือนกัน แบบว่าเหมือนปฏิหาร เลย อันนี้ ส่วนตัวคือ จะทำบุญด้วย การทานต่อหน้าพระพุทธรูป บนหิ้งพระ คือแบบว่าหากล่องมาใส่เงิน สมมุติว่าเป็นบาทพระอะคะ แล้วพอได้มากพอก็จะไปบริจากเพื่อศาสนา ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าตัวเองจะเอาเงินที่ถวายนั้นไปใช้ เพราะตัวเองเป็นคนที่แบบว่าพลานเงินอย่างไม่เหลือเพราะมันจะมีเหตุให้ต้องเสียเงินอย่างงี้ร่ำไป ตั้งแต่จำความได้อะคะ เป็นอย่างงี้มาตลอด หมดๆแบบว่า บาทเดียวก็ไม่เหลือ ตอนแรก กลัวบาปมากๆ แบบทาน วันละบาท 2 มั้ง 7 มั้ง อุทิศให้เทวดาประจำตัว แล้วก็เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเงิน และปัญหาอื่นๆ หรือถ้าวันไหนไม่ได้ทาน ก็จะสวดมนต์ หรือไม่ก็นั่งสมาธิ อะคะ แล้วก็รู้สึกว่าการเงินเราดีขึ้นจริงๆ
    ก็เลยอยากบอกบุญต่อ อะคะ แล้วก็คิดว่าจะเผยแพร่ ต่อไป เพราะคิดว่าเป็นธรรมทานด้วย ยังงัยก็ลองทำดูนะคะ ...........^-^........... หยวน
    Download Bonus การทำบุญถูกวิธี.pdf คลิ๊กที่นี่
     
  10. AngelHeart

    AngelHeart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,437
    คนบางคนยังสู้ สุนัขตัวนี้ไม่ได้เลย
     
  11. AngelHeart

    AngelHeart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    333
    ค่าพลัง:
    +1,437
    link ไม่ขึ้นจร้า
     
  12. บูชาพุทธ

    บูชาพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +858
    ซึ้งจังค่ะ อ่านแล้วตื้นตันมาก ๆ
     
  13. ปรานต์

    ปรานต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    270
    ค่าพลัง:
    +668
    การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์
     
  14. ขุนแผนน้อยน่ารัก

    ขุนแผนน้อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +772
    สิบปี แห่งการรอคอย

    สิบปี่แห่งความซื่อสัตย์

    อนุโมทนา
     
  15. ftyi

    ftyi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +9
    อ่านแล้วน้ำตาจะไหลเสียให้ได้ เลย รักสุนัขทุกตัวเหมือนลูก
     
  16. เหมยหลิน

    เหมยหลิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +220
    เคยดูเป็นแค่ทีเซอร์ของหนังเรื่องนี้

    เศร้ามากค่ะ

    ไม่กล้าดูเป็นหนังแบบเต็มๆ

    กลัวทำใจไม่ได้
     
  17. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    <TABLE class=tborder id=post35307 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_35307 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">เหลือจากท่าน แต่ละวันผู้คนมากหน้า หลายตาต่างดั้นด้นข้ามป่าข้ามเขาผ่านหนทางอันทุรกันดารไปกราบท่าน เพื่อให้ช่วยแก้ไขปัญหาเคราะห์กรรม ต่างๆ ซึ่งท่านก็เพียงแต่แนะนำหลักการ ใช้บุญแก้กรรมแบบง่ายๆ แต่ทว่า............ ได้ผลชะงักงันอย่างคาด ไม่ถึงอย่างชนิดที่ไม่มีพระรูปไหนกล้าพูดแนะนำได้อย่างนี้ เรามักท่องเป็นคาถาอยู่ร่ำไปว่า เวรกรรมนั้น แก้ไม่ได้ แต่พระอาจารย์ท่านยืนยันรับประกันอย่างหนักแน่นให้ฟ้าผ่าห่ากินว่า.......... แก้ได้ ไม่ต้องลงทุน อะไรมาก ไม่ต้องทำ พิธีสวดอะไรให้ใหญ่โตเสียเวลา เสียเงินเสียทองให้มากมาย แต่ปัญหาใหญ่อยู่ที่ว่า ทุกวันนี้คนทำบุญกันไม่เป็น ดึงบุญที่เคยทำมาใช้ ก็ทำไม่เป็น เป็นแต่ตะบันก้มหน้าก้มตาชดใช้กรรม อย่างเดียว อย่างจนตรอกอยู่ท่าเดียว
    คำกล่าวของพญานาคราช ข้าพเจ้าได้พบหนังสือเล่มนี้โดยบังเอิญ เมื่ออ่านดูแล้วเกิดความศรัทธา จึงไดพิมพ์แจกเป็นกุศล วันหนึ่งในโบสถ์ของวัดศิริประสุประตินาถได้มีหลวงพ่อ องค์หนึ่งได้นั่งสวดมนต์ อยู่ในโบสถ์ ขนะนั้นมีงูตัวหนึ่ง เลื้อยออกมาจากหน้าพระพุทธรูปในโบสถ์ หลวงพ่อเมื่อได้เห็นงูก็เกิดอาการกลัว หลังจากนั้นงูก็ได้กลายเป็นมนุษย์ ในรูปของพราหมณ์ แล้วกล่าวกับหลวงพ่อว่า " เจ้าไม่ต้องกลัว และตกใจ เจ้าจงฟัง " ข้าพเจ้าคือ พญานาคราช ได้จุติ ณ วัดแห่งนี้ เพื่อบำบัดปัดเป่าความชั่วร้าย และคนบาป คนที่ทำกรรมไว้มากจักได้พินาศไป จากโลกนี้ และเจ้าจงประกาศ ให้ ทุกคนได้รู้ว่า ผู้ใดนำเรื่อของข้าพเจ้าไปพิมพ์แจก มันผู้นั้นจักมีโชคลาภ มีความสุขความเจริญ คิดสิ่งใดสมปราถนาทุกประการ และผู้ใดรู้อย่าได้คิด ว่าหลอกลวง หรือไม่เชื่อ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว หรือ ถ้าศรัทธาผู้ใดคิดจะพิมพ์แจกอย่าพลัดวันประกันพรุ่ง หรืออ่านแล้วฉีกทิ้ง ผู้นั้นจักมีภัยพิบัติเกิดขึ้นกับตัว เมื่อรู้เรื่องแล้วให้พิมพ์แจกหรือแจกต่อๆไป
    หรือ ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวก็ได้ไม่บังคับ จากนั้นหลวงพ่อได้แจกจ่ายต่อๆไป ท่านได้สำเร็จวิชาต่างๆ และโกบินตะแห่งประสาทคุปตา และอีกหลายคน อ่านแล้วอย่าลบหลู่ หากศรัทธาในพิมพ์แจกจ่าย หรือ

    ให้เก็บไว้สวดมนต์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
    อยากเล่าให้ฟังอะคะ ว่าตอนแรกยังไม่ได้นำมาเผยแพร่เป็นธรรมทาน
    ทันทีเลย แต่ ว่าก็ลอง ทำบุญตามวิธีนี้ดูแล้ว เลย มั่นใจคิดว่าทุกปัญหาแก้ได้แน่นอน ไม่ว่าปัญหาหนี้สิน เงิน ความรัก ครอบครัว ฯลฯ
    คืออยากเล่าเผื่อธรรมทานอะคะ คือเป็นคนที่มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ เก็บเงินไม่อยู่
    วันหนึ่งมีคนส่ง e - mail มาให้เลยลองทำบุญตามวิธีนี้ดู พอลองทำบุญตามวิธีนี้ดูรู้สึกว่าได้ผลจริงๆเพราะ โดยส่วนตัวเป็นคนที่ใช้เงินเปลืองอยู่แล้ว
    จึงทำให้มีปัญหาเรื่องเงินบ่อยๆ อันนี้ก็อีกข้อนึง
    แต่อีกอย่างนึงก็คือว่าถึงแม้ตั้งใจเก็บแบบตั้งใจเก็บ จริงๆ สุดท้าย จะมีคนมาเอาเงินนั้นไปตลอดไม่เหลือแม้บาทเดียว คือมีคนมาเบียดเบียนเราตลอด หรือไม่ก็ตัวเองนี่แหล่ะ คือบางทีมันก็มีเรื่องจำเป็นจริงๆที่จะต้องจ่ายออกไป แบบว่าจ่ายออกไปแบบไม่เหลือแม้แต่บาทเดียว ...........
    แต่พอทำบุญด้วยวิธีนี้แล้ว รู้สึกว่าเก็บเงินอยู่จริงๆ รู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยขึ้นมาก รู้สึกได้เลยว่าไม่มีคนมาเบียดเบียนเลยอีกเลย
    บางทีเหมือนจะต้องเสียเงินแต่ก็ไม่ได้เสีย สะงั้น อันนี้เรื่องจริงค่ะอึ้งเหมือนกัน แบบว่าเหมือน ปาฏิหาริย์ ส่วนตัวคือ จะทำบุญด้วย การทานต่อหน้าพระพุทธรูป บนหิ้งพระ คือแบบว่าหากล่องมาใส่เงิน สมมุติว่าเป็นบาทพระอะคะ แล้วพอได้มากพอก็จะไปบริจาคเพื่อศาสนา ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันว่าตัวเองจะเอาเงินที่ถวายนั้นไปใช้ เพราะตัวเองเป็นคนที่แบบว่าพลานเงินอย่างไม่เหลือเพราะมันจะมีเหตุให้ต้องเสียเงินอย่างงี้ร่ำไป ตั้งแต่จำความได้อะคะ เป็นอย่างงี้มาตลอด หมดๆแบบว่า บาทเดียวก็ไม่เหลือ ตอนแรก กลัวบาปมากๆ แบบทาน วันละบาท 2 มั้ง 7 มั้ง อุทิศให้เทวดาประจำตัว แล้วก็เจ้ากรรมนายเวรที่ก่อให้เกิดปัญหาเรื่องเงิน และปัญหาอื่นๆ หรือถ้าวันไหนไม่ได้ทาน ก็จะสวดมนต์ หรือไม่ก็นั่งสมาธิ อะคะ แล้วก็รู้สึกว่าการเงินเราดีขึ้นจริงๆ ก็เลยอยากบอกบุญต่อ อะคะ แล้วก็คิดว่าจะเผยแพร่ ต่อไป เพราะคิดว่าเป็นธรรมทานด้วย ยังงัยก็ลองทำดูนะคะ ได้ผลแน่นอน ทุกศาสนาทำได้หมด

    คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานมาแล้ว ทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญ มันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธี ชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญใน สรวงสวรรค์ แล้วพากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสอนสั่งกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอน กรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็เลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้ เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่ เทวดาที่ดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศบุญ ก็ไม่เฉพาะเจาะจงอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยมีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็น เทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย
    บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของแก่ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะ เกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไป เบื้องบนแล้วสะสม เป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้น จึง
    ****ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร /ถวายของให้สงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญ ในทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนพระสวด ยถาสัพพี**** เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯ อย่างที่เคย ปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจาง หายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของ เทวดา ภูต-ผี-ปิศาจ-ครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน

    บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานก่อน เช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย​
    (เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่ม ภาวนาได้เลย หลังลากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรง ยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักจะรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะเตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบ เหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงแต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิต ของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับ บุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง นั่นเอง
    บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลที่ตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า
    บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษา ศีลนี้ จึงถึงแก่....................”
    ยกตัวอย่างอีกกรณี เอาย่อๆเพราะเนื้อหาเยอะมา เช่นถ้าบุตรหลาน สามี ภรรยา หรือคนภายในครอบครัวของท่าน เช่นบุตรหลานไม่ฟัง สามีชอบมีชู้ ฯลฯ
    อันีเราก็สามารถอธิฐานส่งบุญแด่ เทวดาผู้รักสาตัวเค้าเหล่านั้นได้เช่นกันแล้วตั้งจิตอธิฐานบุญนี้ขอให้เทวดาของบุตรหลานท่าน ด้วยบุญตัวข้าพเจ้า ได้อุทิศให้นี้
    ขอเทวดาประจำตัวบุญหลานของข้าพเจ้า มีบุญบารมีเพิ่มพูน มีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น เมื่อส่งบุญเเล้ว เราก็อธิฐานต่อ บอกเทวดาประจำตัว เค้าเหล่านั้น ให้ช่วยตักเตือนเค้าด้วย ........
    การเบิกบุญ
    การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนหรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้แก่ผู้อยู่ในโลก วิญญาณได้ เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคารเราก็ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย แต่การเบิกบุญนั้น ที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือ ให้ตั้งจิตคิดอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจแห่งพระธรรม ด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญของ ข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่..................................... ” จะให้ใครก็คิดนึกให้เอาเอง การเบิกบุญ แจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อยู่ก็ตาม
    การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศตอนกรวดน้ำ ให้ใช้เพียงแค่..การคิด และต้องรีบคิดให้ ทันที!!!! อย่ามัวรีรอชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายวับไปอยู่ ในสวรรค์ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ เราจะชำนาญในการคิด เพราะการคิด...กระแสบุญจะแรงกว่าการพูดอกจากปาก เวลาหย่อนของลงในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทันที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของ หลุดจากมือปุ๊บ เราต้องคิดส่งบุญให้ปั๊บทันทีอย่าช้า!!!!
    ในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การช่วยเหลือคน การได้ทำ ประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที ฯลฯ
    เอาเป็นว่าแค่นี้เเล้วกันนะคะเพราะยาวมาก เพราะอันนี้เคยใส่ลิ้งลงไปให้คลิ๊กแล้ว แต่เข้าดูไม่ได้ ก็เลยต้องเผยแพร่เช่นนี้ ขอให้รวยๆกันทุกคนนะคะ ความครัวมีแต่ความสุขความเจริญ.......[​IMG]

    </TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. damilk

    damilk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +129
    นอน ทุกศาสนาทำได้หมด

    คนเราล้วนเคยสั่งสมบุญให้ทานมาแล้ว ทั้งนั้น ทั้งในชาติก่อนและในชาตินี้ ถ้าจะนึกถึงบุญ มันก็เยอะจนจำไม่หวาดไม่ไหว แต่ด้วยความไม่รู้จักวิธี ชำระหนี้แค้นให้แก่เจ้ากรรมนายเวรดั่งว่า ทำบุญไปก็คิดแต่จะรอให้ตายซะก่อนแล้วจึงค่อยไปรับบุญใน สรวงสวรรค์ แล้วพากันเอาแต่บ่นว่า บุญอะไรก็ทำมาหมดแล้ว ชีวิตไม่เห็นจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงดีขึ้นมาสักที ก็จะดีได้อย่างไร ในเมื่อสักแต่ว่าทำบุญแต่ทำไม่เป็น ถูกสอนสั่งกันมาอย่างผิดๆ มัวแต่ไปรออุทิศให้ตอน กรวดน้ำ เจ้ากรรมนายเวรเขาก็เลยไม่ได้รับ บ้างก็ไม่เคยเผื่อแผ่ให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้ เจ้ากรรมนายเวรที่ตามจองเวรกันอยู่ ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้แก่ เทวดาที่ดูแลรักษากิจการงานห้างร้าน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง แถมบางทีการแผ่อุทิศบุญ ก็ไม่เฉพาะเจาะจงอีก หรือดันไปให้ตอนที่แสงบุญหมดแล้ว เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยมีฤทธิ์น้อย จึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับอานิสงส์บุญจากเราอย่างถูกวิธีบ่อยๆ เขาจะกลายเป็น เทวดาที่มีฤทธิ์ มีอำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย
    บุญอันเกิดจากการให้ทาน เมื่อถวายของแด่พระภิกษุสงฆ์ หรือให้สิ่งของแก่ใคร ไม่ว่าจะเป็นของแก่ พ่อแม่ พี่น้อง ญาติมิตร แม้เอาข้าวให้หมากิน เอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ขณะนั้นจะ เกิดกระแสบุญเป็นแสงเรืองรองแผ่ออกจากตัวผู้ให้ทันที และเพียงไม่กี่วินาทีแสงนี้จะพุ่งหายไป เบื้องบนแล้วสะสม เป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้น จึง
    ****ขอเน้นย้ำว่าหลักสำคัญที่สุดว่า ขณะของหลุดจากมือเมื่อใส่บาตร /ถวายของให้สงฆ์ หรือให้ของแก่ใครก็ตาม เราต้องอธิษฐานจิตแผ่บุญ ในทันที อย่ามัวไปรอแผ่บุญตอนพระสวด ยถาสัพพี**** เนื่องจากการแผ่ให้ตอนพระยถาฯ อย่างที่เคย ปฏิบัติกันมานั้นผิด เพราะกระแสบุญได้เลือนจาง หายไปอยู่ในสวรรค์หมดแล้ว ต้องคิดแผ่บุญในทันทีทันใดว่า บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาตัวข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า หรือ บุญนี้จงเป็นของ เทวดา ภูต-ผี-ปิศาจ-ครุฑ-นาค-ยักษ์ ที่สถิตย์อยู่ในสถานที่เรือกสวนไร่นา หรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขปัญหากลัดกลุ้มในเรื่องไหน

    บุญอันเกิดจากการภาวนา ให้อธิษฐานก่อน เช่นว่า ขอบุญที่จะเกิดจากการภาวนาต่อไปนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้ข้าพเจ้าเจ็บป่วย​
    (เป็นอะไร) หรือเราจะให้ใครก็ให้อธิษฐานเอาเอง แล้วก็เริ่ม ภาวนาได้เลย หลังลากเลิกภาวนาก็ให้อุทิศบุญนี้ไปอีกครั้งหนึ่ง บุญที่เกิดจากการภาวนานี้จะมีพลานุภาพแรง ยิ่งกว่าบุญจากการให้ทานมาก ฉะนั้นพวกภูตผีชั้นต่ำมักจะรับไม่ค่อยได้ เราต้องเปิดช่องไว้ก่อนภาวนา เขาจะเตรียมรับตามกำลังความสามารถของตนเอง เพราะถ้าหากจะให้ตอนที่ภาวนาเสร็จแล้วจึงให้ ก็เปรียบ เหมือนเราปล่อยน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิงแต่เขาเอาภาชนะที่ไม่เหมาะสมมารับ เขาจะรับไม่ได้เนื่องจากกำลังจิต ของเขาไม่แข็งแรงพอ หากเราอธิษฐานเปิดให้เขาเตรียมตัวไว้ก่อน ก็เหมือนกับเปิดก๊อกน้ำออกค่อยๆ ใครมีภาชนะน้อยก็เอามาตวงรับตามกำลังที่เขามี แต่สำหรับเทวดาบุญหนักศักดิ์ใหญ่ท่านสามารถรับ บุญใหญ่หลังภาวนาได้อยู่แล้ว เปรียบเหมือนท่านมีโอ่งมีถังขนาดใหญ่สำหรับรองรับน้ำที่พุ่งจากท่อดับเพลิง นั่นเอง
    บุญอันเกิดจากการรักษาศีล การทำบุญด้วยการตั้งใจรักษาศีล ก็ย่อมเกิดบุญกุศลขึ้นเช่นกัน ทุกครั้งที่ระลึกถึงศีลที่ตัวเองรักษาดีแล้ว ไม่ด่างพร้อย ก็สามารถอธิษฐานส่งบุญได้ว่า
    บุญที่ข้าพเจ้าได้รักษา ศีลนี้ จึงถึงแก่....................”
    ยกตัวอย่างอีกกรณี เอาย่อๆเพราะเนื้อหาเยอะมา เช่นถ้าบุตรหลาน สามี ภรรยา หรือคนภายในครอบครัวของท่าน เช่นบุตรหลานไม่ฟัง สามีชอบมีชู้ ฯลฯ
    อันีเราก็สามารถอธิฐานส่งบุญแด่ เทวดาผู้รักสาตัวเค้าเหล่านั้นได้เช่นกันแล้วตั้งจิตอธิฐานบุญนี้ขอให้เทวดาของบุตรหลานท่าน ด้วยบุญตัวข้าพเจ้า ได้อุทิศให้นี้
    ขอเทวดาประจำตัวบุญหลานของข้าพเจ้า มีบุญบารมีเพิ่มพูน มีอิทธิฤทธิ์เพิ่มขึ้น เมื่อส่งบุญเเล้ว เราก็อธิฐานต่อ บอกเทวดาประจำตัว เค้าเหล่านั้น ให้ช่วยตักเตือนเค้าด้วย ........
    การเบิกบุญ
    การเบิกบุญเก่าที่เคยสั่งสมแต่อดีตมาใช้ บุญที่เราทำไว้แล้วมีมากมายที่สะสมอยู่ในสรวงสวรรค์ ทั้งที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนหรือได้ทำไว้ในชาตินี้ เราสามารถเบิกบุญนั้นมาแจกจ่ายอุทิศให้แก่ผู้อยู่ในโลก วิญญาณได้ เหมือนเรามีเงินเก็บในธนาคารเราก็ใช้บัตรเอทีเอ็มกดเบิกเงินออกมาใช้จ่าย แต่การเบิกบุญนั้น ที่สำคัญลืมไม่ได้เลยคือ ต้องอาศัยอำนาจพระรัตนตรัยขึ้นนำก่อนเสมอ คือ ให้ตั้งจิตคิดอธิษฐานว่า ด้วยอำนาจของพระพุทธเจ้า ด้วยอำนาจแห่งพระธรรม ด้วยอำนาจแห่งพระสงฆ์ จงดลบันดาลให้บุญของ ข้าพเจ้าที่ทำมาในอดีตจนถึงปัจจุบันถึงแก่..................................... ” จะให้ใครก็คิดนึกให้เอาเอง การเบิกบุญ แจกจ่ายนี้สามารถให้ได้ทุกที่ทุกเวลาเมื่อนึกขึ้นได้ ไม่ว่าจะยืน เดิน นั่ง นอน กิน ดื่ม อยู่ก็ตาม
    การอุทิศโอนบุญ ไม่ต้องพูด อย่าไปอุทิศตอนกรวดน้ำ ให้ใช้เพียงแค่..การคิด และต้องรีบคิดให้ ทันที!!!! อย่ามัวรีรอชักช้าเป็นอันขาด เพราะแสงบุญที่เกิดขึ้นจะดำรงอยู่ไม่กี่วินาทีแล้วจะหายวับไปอยู่ ในสวรรค์ ถ้าเราฝึกบ่อยๆ เราจะชำนาญในการคิด เพราะการคิด...กระแสบุญจะแรงกว่าการพูดอกจากปาก เวลาหย่อนของลงในบาตรปั๊บให้คิดส่งบุญทันที และต้องคิดให้ชัดเจนอย่าลางเลือน ให้ของแก่ใครเมื่อของ หลุดจากมือปุ๊บ เราต้องคิดส่งบุญให้ปั๊บทันทีอย่าช้า!!!!
    ในการทำความดีทุกอย่าง เช่นแม้แต่การพูดให้เขาได้สติคิดดี การช่วยเหลือคน การได้ทำ ประโยชน์ส่วนรวม ย่อมก่อให้เกิดความปิติดีใจ นั่นแหละคือบุญ ให้รีบส่งบุญถึงผู้ที่เราต้องการให้บุญทันที ฯลฯ
    เอาเป็นว่าแค่นี้เเล้วกันนะคะเพราะยาวมาก เพราะอันนี้เคยใส่ลิ้งลงไปให้คลิ๊กแล้ว แต่เข้าดูไม่ได้ ก็เลยต้องเผยแพร่เช่นนี้ ขอให้รวยๆกันทุกคนนะคะ ความครัวมีแต่ความสุขความเจริญ.......[​IMG]
     
  19. จันมี

    จันมี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +10
    เศร้ามากเลยค่ะ ไม่อยากดูเลยกลัวจะต้องร้องไำห้ทั้งเรื่องแน่ๆเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...