ข่าวด่วนหลวงพ่ออุตตมะมรณะภาพเช้าที่18ต.ค.49

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย yut2u, 18 ตุลาคม 2006.

  1. yut2u

    yut2u เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +464
    [​IMG]

    ขอเรียนลูกศิษย์หลวงพ่ออุตตมะทุกท่านโปรดทราบ
    ขณะนี้หลวงพ่ออุตตมะที่พวกเราเคารพรักได้มรณะภาพอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลศิริราช
    เวลาประมาณ 07.30น. วันที่18 ต.ค.49
    ส่วนรายละเอียดนั้นจะแจ้งให้ทราบภายหลังเนื่องจากเราต้องเดินทางเข้าก.ท.ม.ด่วน

    yut2u@hotmail.com
     
  2. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    <TABLE width=577 align=center><TBODY><TR><TD width=315> <TABLE width=577 align=center><TBODY><TR><TD width=315>พฤษภกาสร</TD><TD width=250>อีกกุญชรอันปลดปลง </TD></TR><TR><TD>โททนต์เสน่งคง</TD><TD>สำคัญหมายในกายมี </TD></TR><TR><TD> นรชาติวางวาย</TD><TD>มลายสิ้นทั้งอินทรีย์ </TD></TR><TR><TD>สถิตทั่วแต่ชั่วดี</TD><TD>ประดับไว้ในโลกา </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=250>
    </TD></TR><TR><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD> </TD><TD></TD></TR><TR><TD></TD><TD>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    http://www.thairath.co.th/online.php?section=newsthairathonline&content=23436

    <TABLE height=34 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=780 border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-LEFT: 30px">หลวงพ่ออุตตมะมรณภาพ โรคอัมพาตเรื้อรัง [18 ต.ค. 49 - 07:56]
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (18 ต.ค.) โรงพยาบาลศิริราช แจ้งว่าหลวงพ่ออุตตมะ หรือ พระครูอุดมสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้มรณภาพแล้วด้วยโรคอัมพาต หลังจากเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลศิริราช มาเป็นเวลาเกือบ 2 ปี รวมอายุ 95 ปี<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    รายงานระบุว่า หลวงพ่ออุตตมะ หรือ พระครูอุดมสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เกิดที่เมืองมุกกะเหนียง ในสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า ปี กุน พ.ศ. 2454 ได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาทางพุทธศาสนาที่วัดมุกกะเหนียง จนจบหลักสูตร และได้เดินทางไปศึกษาต่อยังเมืองร่างกุ้ง สอบได้ เปรียญธรรมชั้นเอก (ป.ธ.7) หลวงพ่ออุตมะเคยจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ ในท้องที่ อ. โพธาราม อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี และ จ.สมุทรปราการ ต่อมา พ.ศ. 2500 ได้ลงมือสร้างก่อวัดขึ้นที่ฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อย ชื่อวัด "วังก์วิเวการาม" เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งของชาวไทยและชาวมอญในถิ่นทุรกันดาร จนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วไป ในวันเดิน ท่านจะมีประชาชนทั้งชาวไทยชาวมอญในประเทศและนอกประเทศเข้ามาร่วมทำบุญมีงานรื่นเริงเป็นประจำทุกปี<o:p></o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. punpraya

    punpraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2006
    โพสต์:
    1,256
    ค่าพลัง:
    +2,228
    ขอกราบหลวงพ่อสิ่งใดที่เคยล่วงเกิน หลวงพ่อขอได้โปรดงดโทษแก่ลูกด้วย
     
  5. GARU

    GARU เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +1,283
    อนิจจา วต สงขารา อุปปาทวย ธมมิโน อุปปชชิตวา นิรุชชนติ เตสงวูปสโม สุโข



    สาธุด้วยการบูชาในครั้งนี้ในตามท่านไปโดยพลันเทอญ -/I\-
     
  6. ลัก...ยิ้ม

    ลัก...ยิ้ม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    3,409
    ค่าพลัง:
    +15,762
    กราบเท้าหลวงพ่อค่ะ ท่านเมตตามากที่กรุณาละซึ่งสังขาลนะเวลาช่วงนี้
     
  7. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หลวงพ่ออุตตมะมรณภาพ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 ตุลาคม 2549 11:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=150>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>หลวงพ่ออุตตมะ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขะบุรี จังหวัดกาญจนบุรี มรณภาพแล้ว ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อช่วงเช้าวันนี้

    วันนี้(18 ต.ค.) โรงพยาบาลศิริราชแจ้งว่า พระครูอุดมสิทธาจารย์ หรือ หลวงพ่ออุตตมะ เกจิอาจารย์ชื่อดัง เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม อำเภอสังขะบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ได้มรณภาพแล้วขณะอายุ 95 ปี ที่โรงพยาบาลศิริราช เมื่อเวลา 07.22 น.หลังจากเข้ารับการรักษาตัวด้วยโรคไต หัวใจและอัมพาตที่โรงพยาบาลศิริราชตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย.47
    ทั้งนี้ แพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิตว่าเป็นเพราะติดเชื้อในกระแสโลหิต ส่วนรายละเอียดของการมรณภาพทางโรงพยาบาลจะเปิดแถลงข่าวชี้แจงในเวลา 11.30 น.

    ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บรรดาศิษยานุศิษย์ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลศิริราชเป็นจำนวนมาก โดยมี ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล และท่านผู้หญิงเพ็ญศรี วัชโรทัยเป็นผู้มารับศพ และทางโรงพยาบาลแจ้งว่า จะเปิดให้พุทธศาสนิกชนและศิษยานุศิษย์ได้เคารพศพได้ระยะหนึ่งที่ใต้อาคารอดุลยเดชวิกรม ชั้น 1

    สำหรับประวัติของพระครูอุดมสิทธาจารย์ (หลวงพ่ออุตตมะ) นั้น หลวงพ่อเกิดเมื่อปีกุน พ.ศ. 2454 ที่เมืองมุกกะเหนี่ยง ในสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า ได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาทางพุทธศาสนาที่วัดมุกกะเหนียงจนจบหลักสูตร และได้เดินทางไปศึกษาต่อยังเมืองร่างกุ้ง สอบได้เปรียญธรรมชั้นเอก (ป.ธ.7) และเป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวกการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

    ส่วนประวัติโดยย่อนั้น เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ หลวงพ่ออุตมะ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุศึกษาในสำนัก ศาสนศึกษาในเมืองย่างกุ้ง สอบได้ชั้นสูงสุดซึ่งเรียกว่าชั้น "ปาร์คู" แต่ยังไม่ทันประกาศผลก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องอพยพหนีสงคราม ในระหว่างสงคราม พระอาจารย์จันทิมา ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของท่าน และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในทางกฤตยาคมเป็นที่เลื่องลือได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ท่านจนจบสิ้น เมื่อสงครามโลกยุติ ท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปมาระหว่างประเทศไทยกับเมืองเย ผ่านเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งแสนจะทุรกันดาร จนถูกกองโจรขบวนการกู้ชาติจับ แต่ท่านก็สามารถใช้วิชาความรู้รอดชีวิตมาได้

    หลวงพ่ออุตตมะคุ้นเคยกับภูมิประเทศไทยเพราะเคยจำพรรษาอยู่ตามวัดต่าง ๆ ในท้องที่อำเภอ โพธาราม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และสมุทรปราการ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2500 ท่านได้ลงมือสร้างวัดขึ้นที่ฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อย ชื่อวัด "วังก์วิเวกการาม" เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งของชาวไทยและชาวมอญในถิ่นทุรกันดาร จนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วไป ในวันเดินท่านจะมีประชาชนทั้งชาวไทยชาวมอญในประเทศและจากนอกประเทศ เข้ามาร่วมทำบุญมีงานรื่นเริงเป็นประจำทุกปี

    ต่อมามีการสร้างเขื่อนเขาแหลมบริเวณวัดน้ำจะท่วมทั้งหมด จึงได้ย้ายวัดขึ้นไปอยู่บนเขาโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นผู้จัดสร้าง ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างเกือบจะเสร็จสิ้นแล้วเหลืออยู่แต่เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาที่บริเณวัด ที่เป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามงดงามแห่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้ท่านหลวงพ่อได้รับนิมนต์จากประชาชนทั่วทั้งประเทศ เพื่อไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกทั้งในงานวัดและงานมงคลต่าง ๆ อยู่ เสมอ มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธามากทั้งชาวไทยและชาวมอญรวม ทั้งพม่า

    หลวงพ่ออุตตมะ เป็นชื่อหรือฉายาในพระบวรพระพุทธศาสนาของท่าน คือ อุตตมะ หรืออุตตโม เราทั้งหลายจึงมักนิยมเรียกนามท่านตามฉายาสงฆ์ดังที่กล่าวมานี้

    หลวงพ่ออุตตมะ เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ชอบเดินธุดงค์อยู่ป่าดงมากกว่าอยู่วัดวาอาวาส ท่านถือแนวทางการประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานเยี่ยงพระอริยเจ้าทั้งหลายที่เคยได้กระทำมาแล้ว พร้อมกับเป็นขวัญใจของชาวไทยและชาวรามัญองค์หนึ่งในยุคนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>Ref.
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9490000129592
     
  8. shesun

    shesun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    471
    ค่าพลัง:
    +1,327
    เถเร ประมาเดนะ ทวารัตตะเยนะกะตัง
    สัพพัง อะปะราทัง ขะมะตุโนภันเต

    หากลูกได้เคยล่วงเกินหลวงพ่อประการใด ด้วยกายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ทั้งที่ล่วงรู้ หรือไม่ล่วงรู้ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ลูกกราบขอขมา ขออโหสิในกรรมทั้งปวง อย่าได้เป็นบาปเวร อย่าได้ขัดขวางทางนิพพาน ขอบารมีหลวงพ่อปกแผ่คุ้มครองพุทธศาสนิกชนให้อยู่ดีมีสุข พ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงเถิด
     
  9. คน153

    คน153 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +280
    สาธุ ขอกราบหลวงพ่อแทบเท้าครับ เคยไปกราบท่านสมัยวัดเดิม ท่านฉันอาหาร 9 คำเท่านั้น และยังมีเมตตาสูงมาก เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านหนึ่ง
     
  10. นายวีระศักดิ์ ท

    นายวีระศักดิ์ ท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2006
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +1,003
    รู้สึกเสียใจกับข่าวการมรณะภาพของหลวงพ่ออุตตมะ
     
  11. มหาหินทร์

    มหาหินทร์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2005
    โพสต์:
    21,454
    ค่าพลัง:
    +181,786
    สัจจธรรม อันเที่ยงตรง ขององค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงตรัสไว้

    อนิจจัง..
    ทุกขัง..
    อนัตตา..

    หลวงพ่อท่าน เป็นครู.. แสดงให้พวกเรา ได้เห็นจริง..
    ตามคำตรัสสอนแล้ว....

    วันนี้..

    หรือ วันหนึ่งข้างหน้า อันใกล้นี้....

    ก็ต้องเป็นวัน ที่เราต้องแสดงเป็น"ครู" ให้แก่คนอื่น ๆ บ้าง เช่นกัน....

    กราบ..
    กราบ..
    กราบ..

    ...................................................................................
     
  12. pong-sit

    pong-sit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,626
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +17,781
    กราบนมัสการแทบเท้า หลงงพ่อ อุตตมะ ด้วยความเคารพ
    กราบ.....
    กราบ.....
    กราบ.....
     
  13. DevilBitch

    DevilBitch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    9,776
    ค่าพลัง:
    +36,838
    ยายผีป่าทราบ่าวการมรณะภาพของหลวงพ่อจากคุณหงสนาถ ว่าหลวงพ่อไปเมื่อเวลา 7.22 น. ของวันนี้

    ถามว่าตกใจไหม ไม่ตกใจค่ะ เพราะรอคอยการละสังขารของหลวงพ่อตั้งแต่ตอนไปกราบและนวดฝ่าเท้าท่านพร้อมกับคุณพี่พิมภาภรณ์ (พี่ตุ่น) ที่ตึกอัษฎางษ์ ชั้น 3 โรงพยาบาล ศิริราช เพราะน้องเฟริสบอกว่า น้องเค้าไปเฝ้าหลวงพ่อทุกสัปดาห์ หลวงพี่เล็กก็บอกกับพวกลูกศิษย์หลายคนว่า ไปกราบท่านซะ


    ตอนที่ไปกราบท่าน ตั้งจิตอุทิศส่วนกุศลอันน้อยนิดที่มิสามารถเทียมท่านได้ บอกหลวงพ่อว่า ขอขมาและขอให้ท่านยินดีกับบุญกุศลของลูกคนนี้ด้วย และบารมีใดๆ ที่หลวงพ่อประสงค์เจือจุนลูก อาทรลูกก็ได้โปรดดึงลูกและสรรพสัตว์ในอนันตจักรวานที่ยังโง่งมอยู่ให้หลุดพ้นด้วยเถิดนะพ่อ

    ตอนที่ตั้งจิตสงบสักพักรู้สึกได้ว่าหลวงพ่อท่านลุกนั่งซ้อนสังขารของท่านและมองมาที่เราสองคน ยิ้มน้อยๆ (คิดว่าไม่อุปทานนะคะ เพราะว่าภาพนั้นเจ้าเฟริสเอามาลง เป็นภาพที่เหมือนในจิตสัมผัสเลย แล้วยายทราบว่า ท่านไปข้างบนตั้งนานแล้ว แต่ท่านรอละสังขารหลังงานในหลวง และทราบว่ามีเกจิหลายองค์ทั้งอรหันต์ และมหาโพธิสัตว์พร้อมละสังขารหลังงานนี้ค่ะ ทำไม เพราะอะไร อันนี้เราต้องอนุดมทนากับทุกๆ องค์ค่ะ

    ลูกหลานชาวพุทธเอ๋ย อย่านิ่งเฉย อย่าเฉื่อยชา อย่ารอช้า เวลาจะเสียเปล่า เอาดีให้ได้เดมื่อวันที่เจ้าตายจะได้ไม่เสียชาติเกิดครั้งนี้นะลูกเอ๋ย
     
  14. Wisdom

    Wisdom ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,675
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +26,542


    [​IMG]

    กราบนมัสการแทบเท้า หลวงพ่อ อุตตมะ ด้วยความเคารพขออนุโมทนากับบุญบารมีใดๆก็ตามที่หลวงพ่อท่านได้บำเพ็ญสร้างมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันเพื่อเป็นกำลังในการบำเพ็ญบารมีเพื่อพระโพธิญาณของลูกด้วยเทิอญขอรับหลวงพ่อ...หลวงพ่อเปรียบเสมือนว่าเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดแก่เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งหลาย...สาธุขอรับ

    [​IMG]

    กราบ.....

    กราบ.....

    กราบ.....
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 ตุลาคม 2006
  15. pattarawat

    pattarawat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,671
    ค่าพลัง:
    +7,981
    ขอธรรมะที่หลวงพ่อแสดงได้ขจรขจายไปในท่ามกลางเหล่าปุถุชนทั้งหลาย ให้สามารถเข้าถึงซึ่งธรรม และสามารถเป็นแสงสว่างท่ามกลางความมืดมิดแก่ชาวโลกด้วยเถิด สาธุ
     
  16. poramase

    poramase เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +592
    เคยได้กราบท่านเมื่อสักสิบกว่าปีที่แล้ว เมื่อวานนี้ก็นึกถึงท่านขึ้นมาโดยบังเอิญ ไม่นึกว่าวันนี้จะได้รับรู้ข่าวนี้ ลูกขอกราบขมาหากล่วงเกินหลวงพ่อท่าน ขอบารมีพระเป็นที่พึ่งแห่งชาวพุทธตลอดไป
     
  17. pinkaew

    pinkaew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +122
    กราบ...
    กราบ...
    กราบ...
    ยังไม่เคยไปกราบองค์จริงท่านเลย หลังจากนี้คงได้แต่ตั้งจิตกราบ T-T
     
  18. นายระฆัง

    นายระฆัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +37
    อาลัยหลวงพ่อ

    ขอให้ดวงพระวิญญาณของหลวงพ่อที่รักและเคารพยิ่ง จงสู่ดินแดนแห่งสุคติภูมิ อันมีพระนิพพานเป็นจุดหมายปลายทางข้างหน้าด้วยเทอญ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2006
  19. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>พระราชินีทรงรับศพหลวงพ่ออุตตมะไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์

    </TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [​IMG] พระราชินีทรงมีพระกรุณารับศพหลวงพ่ออุตตะไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันที่ 19 ต.ค.นี้ หลังมรณภาพด้วยโรคอัมพาต


    เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 เวลา 07.22 น. ที่ห้องไอซียู ชั้น 3 หอผู้ป่วยอัษฎางค์ โรงพยาบาลศิริราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชอุดมมงคล หรือ "หลวงพ่ออุตตมะ" เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังแห่งภาคตะวันตก มรณภาพอย่างสงบด้วยอาการอาพาธจากโรคชรา โรคหัวใจ ไตวายเรื้อรัง และอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ ซึ่งภายหลังจากศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะทราบข่าว ต่างพากันทยอยมารออยู่ที่บริเวณหน้าห้องไอซียูอย่างเนืองแน่นกว่า 100 คน เพื่อเข้าไปกราบเคารพศพภายในห้องไอซียู
    ต่อมาเวลา 10.40 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนศพหลวงพ่ออุตตมะออกจากห้องไอซียูไปยังตึกอดุลยเดชวิกรม เพื่อฉีดฟอร์มาลินรักษาสภาพศพ โดยมีลูกศิษย์ของหลวงพ่อนำพระพุทธรูปพระแก้วมรกตและลูกประคำของหลวงพ่อใส่พาน เดินนำหน้าระหว่างทางไปยังตึกอดุลยเดชวิกรม จากนั้น ในเวลา 12.30 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนศพออกจากตึกอดุลยเดชวิกรมขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำศพไปประกอบพิธีที่วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
    น.พ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผอ.โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า หลวงพ่ออุตตมะมรณภาพเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 07.22 น. จากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ สิริอายุรวม 96 ปี โดยหลวงพ่ออุตตมะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2547 เวลา 11.44 น. ด้วยโรคไต
    ทั้งนี้ หลังจากที่หลวงพ่อเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากอยู่ในวัยชรา ร่างกายไม่แข็งแรง จึงทำให้เกิดอาการติดเชื้ออยู่เป็นระยะๆ และเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลวงพ่อเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง คณะแพทย์พยายามให้การรักษาอย่างสุดความสามารถด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาอาการติดเชื้อได้ กระทั่งมรณภาพในที่สุด
    "ช่วงที่หลวงพ่ออุตตมะเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลวงพ่อไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถลืมตาได้เป็นเวลากว่า 1 ปี ซึ่งนอกจากหลวงพ่อจะเป็นโรคไตแล้วยังมีโรคหัวใจ โรคปอด สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ประกอบกับท่านอายุมาก จึงทำให้ระดับในการรู้ตัวลดลงด้วย ตั้งแต่เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับหลวงพ่ออุตตมะไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์มาโดยตลอด กระทั่งหลวงพ่อละสังขารจากไปอย่างสงบ" น.พ.ประสิทธิ์ กล่าว
    พระสนธยา พระลูกวัดวังก์วิเวการาม ลูกศิษย์หลวงพ่ออุตตมะ กล่าวว่า การสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่ออุตตมะจัดขึ้นที่วัดวังก์วิเวการาม โดยหลวงพ่ออุตตมะเคยปรารภสมัยที่ยังมีชีวิตไว้แล้วว่า ในวันแรกของพิธีศพ ต้องการให้สวดเป็นสำเนียงมอญ และจะขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมกับขอพระราชทานเพลิงศพด้วย
    สำหรับประวัติ หลวงพ่ออุตตมะ หรือ "พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.กาญจนบุรี ทั้งยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ชาวมอญผู้มีบทบาทผู้นำคนสำคัญของชาวมอญพลัดถิ่นที่สังขละบุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ปีจอ จุลศักราช 1272 (พ.ศ.2453) ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ต.เกลาสะ อ.เย จ.มะละแหม่ง เป็นบุตรของ นายโง และนางทองสุข อาชีพทำนา มีพี่น้องรวม 12 คน เนื่องจากเป็นทารกเพศชาย เกิดในวันอาทิตย์ จึงมีชื่อว่า "เอหม่อง"
    บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเกลาสะ ต.เกลาสะ อ.เย จ.มะละแหม่ง เมื่อจุลศักราช 1291 (พ.ศ.2472) โดยมี พระเกตุมาลา เป็นพระอุปัชฌาย์ ปีนั้นเองหลวงพ่อศึกษาภาษาบาลีและพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมตรี และอีกปีหนึ่งต่อมาสอบได้นักธรรมโท แต่ไม่นานหลวงพ่อก็ตัดสินใจสึกออกมาไปช่วยพ่อแม่ทำนา
    ต่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ โดยมี พระเกตุมาลา วัดเกลาสะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระนันทสาโร วัดโมกกะเนียง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระวิสารทะ วัดเจ้าคะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ.2476 ได้รับฉายาว่า "อุตตมรัมโภ" แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด หลวงพ่ออุตตมะตั้งใจบวชไม่สึกตลอดชีวิต
    พ.ศ.2474 หลวงพ่ออุตตมะสอบได้นักธรรมชั้นเอก ณ สำนักเรียนวัดปราสาททอง อ.เย จ.มะละแหม่ง ต่อมา พ.ศ.2484 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดสุขการี อ.สะเทิม จ.สะเทิม ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ขณะนั้นบ้านเมืองกำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงพ่อจึงเดินทางกลับวัดเกลาสะ และเป็นอาจารย์สอนภาษาบาลีแก่พระภิกษุ สามเณร
    จากนั้นได้ลาพระอุปัชฌาย์ไปศึกษาวิปัสนากรรมฐานที่วัดตองจอย จ.มะละแหม่ง และวัดป่าเลไลย์ จ.มัณฑะเลย์ จนมีความรู้ความสามารถเรื่องวิปัสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธคมเป็นอย่างดี พ.ศ.2486 หลวงพ่อจึงเริ่มออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ในประเทศพม่า และเข้ามาในไทยครั้งแรกทาง จ.เชียงใหม่
    ในปี 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านที่เป็นชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น และสร้างเสร็จในเดือน 6 ของปีนั้นเอง แต่เนื่องจากยังมิได้มีการขออนุญาตจากกรมการศาสนา วัดที่สร้างเสร็จจึงมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" ตั้งอยู่บนเนินสูง ในบริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี
    ถัดมาในปี 2505 เมื่อได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาเป็นที่เรียบร้อย หลวงพ่ออุตตมะจึงตั้งชื่อสำนักสงฆ์ตามชื่ออำเภอเก่า (อำเภอวังกะ) ว่า "วัดวังก์วิเวการาม" จากนั้น พ.ศ.2513 หลวงพ่อเริ่มสร้างพระอุโบสถวัดวังก์วิเวการาม โดยปั้นอิฐเอง ถัดมา พ.ศ.2518 หลวงพ่อก็เริ่มสร้างเจดีย์จำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย และสร้างเสร็จในปี 2529
    ส่วนตำแหน่งด้านการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ของหลวงพ่ออุตตมะ ในปี 2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม พ.ศ.2505 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณาราม พ.ศ.2509 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2511 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูอุดมสิทธาจารย์ ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลชั้นโท
    จากนั้นใน พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอก พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระอุดมสังวรเถร และ พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชอุดมมงคล ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในฐานะศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณารับศพหลวงพ่ออุตตมะไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน และวันที่ 19 ตุลาคมนี้ จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

    -->
    พระราชินีทรงมีพระกรุณารับศพหลวงพ่ออุตตะไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ พระราชทานน้ำหลวงอาบศพวันที่ 19 ต.ค.นี้ หลังมรณภาพด้วยโรคอัมพาต
    เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2549 เวลา 07.22 น. ที่ห้องไอซียู ชั้น 3 หอผู้ป่วยอัษฎางค์ โรงพยาบาลศิริราช ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระราชอุดมมงคล หรือ "หลวงพ่ออุตตมะ" เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี พระสายวิปัสสนากรรมฐานชื่อดังแห่งภาคตะวันตก มรณภาพอย่างสงบด้วยอาการอาพาธจากโรคชรา โรคหัวใจ ไตวายเรื้อรัง และอาการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ ซึ่งภายหลังจากศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะทราบข่าว ต่างพากันทยอยมารออยู่ที่บริเวณหน้าห้องไอซียูอย่างเนืองแน่นกว่า 100 คน เพื่อเข้าไปกราบเคารพศพภายในห้องไอซียู
    ต่อมาเวลา 10.40 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนศพหลวงพ่ออุตตมะออกจากห้องไอซียูไปยังตึกอดุลยเดชวิกรม เพื่อฉีดฟอร์มาลินรักษาสภาพศพ โดยมีลูกศิษย์ของหลวงพ่อนำพระพุทธรูปพระแก้วมรกตและลูกประคำของหลวงพ่อใส่พาน เดินนำหน้าระหว่างทางไปยังตึกอดุลยเดชวิกรม จากนั้น ในเวลา 12.30 น. โรงพยาบาลได้เคลื่อนศพออกจากตึกอดุลยเดชวิกรมขึ้นรถพยาบาล เพื่อนำศพไปประกอบพิธีที่วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
    น.พ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ผอ.โรงพยาบาลศิริราช กล่าวว่า หลวงพ่ออุตตมะมรณภาพเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 07.22 น. จากการติดเชื้อในกระแสโลหิตจากภาวะปอดอักเสบ สิริอายุรวม 96 ปี โดยหลวงพ่ออุตตมะเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช ตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน 2547 เวลา 11.44 น. ด้วยโรคไต
    ทั้งนี้ หลังจากที่หลวงพ่อเข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาล เนื่องจากอยู่ในวัยชรา ร่างกายไม่แข็งแรง จึงทำให้เกิดอาการติดเชื้ออยู่เป็นระยะๆ และเมื่อ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลวงพ่อเกิดอาการติดเชื้ออย่างรุนแรง คณะแพทย์พยายามให้การรักษาอย่างสุดความสามารถด้วยการให้ยาปฏิชีวนะ แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาอาการติดเชื้อได้ กระทั่งมรณภาพในที่สุด
    "ช่วงที่หลวงพ่ออุตตมะเข้ามารับการรักษาที่โรงพยาบาล หลวงพ่อไม่รู้สึกตัวและไม่สามารถลืมตาได้เป็นเวลากว่า 1 ปี ซึ่งนอกจากหลวงพ่อจะเป็นโรคไตแล้วยังมีโรคหัวใจ โรคปอด สมองขาดเลือดไปเลี้ยง ประกอบกับท่านอายุมาก จึงทำให้ระดับในการรู้ตัวลดลงด้วย ตั้งแต่เข้ามารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงรับหลวงพ่ออุตตมะไว้เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์มาโดยตลอด กระทั่งหลวงพ่อละสังขารจากไปอย่างสงบ" น.พ.ประสิทธิ์ กล่าว
    พระสนธยา พระลูกวัดวังก์วิเวการาม ลูกศิษย์หลวงพ่ออุตตมะ กล่าวว่า การสวดพระอภิธรรมศพหลวงพ่ออุตตมะจัดขึ้นที่วัดวังก์วิเวการาม โดยหลวงพ่ออุตตมะเคยปรารภสมัยที่ยังมีชีวิตไว้แล้วว่า ในวันแรกของพิธีศพ ต้องการให้สวดเป็นสำเนียงมอญ และจะขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ พร้อมกับขอพระราชทานเพลิงศพด้วย
    สำหรับประวัติ หลวงพ่ออุตตมะ หรือ "พระมหาอุตตมะรัมโภภิกขุ" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.กาญจนบุรี ทั้งยังเป็นพระภิกษุสงฆ์ชาวมอญผู้มีบทบาทผู้นำคนสำคัญของชาวมอญพลัดถิ่นที่สังขละบุรี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 4 ปีจอ จุลศักราช 1272 (พ.ศ.2453) ที่หมู่บ้านโมกกะเนียง ต.เกลาสะ อ.เย จ.มะละแหม่ง เป็นบุตรของ นายโง และนางทองสุข อาชีพทำนา มีพี่น้องรวม 12 คน เนื่องจากเป็นทารกเพศชาย เกิดในวันอาทิตย์ จึงมีชื่อว่า "เอหม่อง"
    บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดเกลาสะ ต.เกลาสะ อ.เย จ.มะละแหม่ง เมื่อจุลศักราช 1291 (พ.ศ.2472) โดยมี พระเกตุมาลา เป็นพระอุปัชฌาย์ ปีนั้นเองหลวงพ่อศึกษาภาษาบาลีและพระปริยัติธรรมจนสอบได้นักธรรมตรี และอีกปีหนึ่งต่อมาสอบได้นักธรรมโท แต่ไม่นานหลวงพ่อก็ตัดสินใจสึกออกมาไปช่วยพ่อแม่ทำนา
    ต่อมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุที่วัดเกลาสะ โดยมี พระเกตุมาลา วัดเกลาสะ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระนันทสาโร วัดโมกกะเนียง เป็นพระกรรมวาจารย์ พระวิสารทะ วัดเจ้าคะเล เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 เมษายน พ.ศ.2476 ได้รับฉายาว่า "อุตตมรัมโภ" แปลว่า ผู้มีความพากเพียรอันสูงสุด หลวงพ่ออุตตมะตั้งใจบวชไม่สึกตลอดชีวิต
    พ.ศ.2474 หลวงพ่ออุตตมะสอบได้นักธรรมชั้นเอก ณ สำนักเรียนวัดปราสาททอง อ.เย จ.มะละแหม่ง ต่อมา พ.ศ.2484 สอบได้เปรียญธรรม 8 ประโยค ที่สำนักเรียนวัดสุขการี อ.สะเทิม จ.สะเทิม ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดของคณะสงฆ์ในประเทศพม่า ขณะนั้นบ้านเมืองกำลังเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 หลวงพ่อจึงเดินทางกลับวัดเกลาสะ และเป็นอาจารย์สอนภาษาบาลีแก่พระภิกษุ สามเณร
    จากนั้นได้ลาพระอุปัชฌาย์ไปศึกษาวิปัสนากรรมฐานที่วัดตองจอย จ.มะละแหม่ง และวัดป่าเลไลย์ จ.มัณฑะเลย์ จนมีความรู้ความสามารถเรื่องวิปัสนากรรมฐาน ตลอดจนวิชาไสยศาสตร์และพุทธคมเป็นอย่างดี พ.ศ.2486 หลวงพ่อจึงเริ่มออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ ในประเทศพม่า และเข้ามาในไทยครั้งแรกทาง จ.เชียงใหม่
    ในปี 2499 หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านที่เป็นชาวกะเหรี่ยงและชาวมอญ พร้อมใจกันสร้างศาลาวัดขึ้น และสร้างเสร็จในเดือน 6 ของปีนั้นเอง แต่เนื่องจากยังมิได้มีการขออนุญาตจากกรมการศาสนา วัดที่สร้างเสร็จจึงมีฐานะเป็นสำนักสงฆ์ แต่ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" ตั้งอยู่บนเนินสูง ในบริเวณที่เรียกว่า "สามประสบ" เพราะมีแม่น้ำ 3 สายไหลมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี
    ถัดมาในปี 2505 เมื่อได้รับอนุญาตจากกรมการศาสนาเป็นที่เรียบร้อย หลวงพ่ออุตตมะจึงตั้งชื่อสำนักสงฆ์ตามชื่ออำเภอเก่า (อำเภอวังกะ) ว่า "วัดวังก์วิเวการาม" จากนั้น พ.ศ.2513 หลวงพ่อเริ่มสร้างพระอุโบสถวัดวังก์วิเวการาม โดยปั้นอิฐเอง ถัดมา พ.ศ.2518 หลวงพ่อก็เริ่มสร้างเจดีย์จำลองแบบจากเจดีย์พุทธคยาที่ประเทศอินเดีย และสร้างเสร็จในปี 2529
    ส่วนตำแหน่งด้านการปกครองคณะสงฆ์และสมณศักดิ์ของหลวงพ่ออุตตมะ ในปี 2504 เป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม พ.ศ.2505 เป็นเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณาราม พ.ศ.2509 เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พ.ศ.2511 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2512 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูอุดมสิทธาจารย์ ตำแหน่งเจ้าคณะตำบลชั้นโท จากนั้นใน พ.ศ.2516 ได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นพระครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอก พ.ศ.2524 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ ที่พระอุดมสังวรเถร และ พ.ศ.2534 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชอุดมมงคล ม.ร.ว.ดิศนัดดา ดิศกุล เลขาธิการมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในฐานะศิษย์ของหลวงพ่ออุตตมะ กล่าวว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณารับศพหลวงพ่ออุตตมะไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์เป็นเวลา 7 วัน และวันที่ 19 ตุลาคมนี้ จะมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา: คมชัดลึก
    http://www.komchadluek.net/2006/10/18/a001_57225.php?news_id=57225
     
  20. maiyasan

    maiyasan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ลูกขอกราบนมัสการแทบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯด้วยความเคารพและอาลัยยิ่ง และขอได้มีส่วนอนุโมทนาในบารมีที่พระเดชพระคุณหลวงพ่ออุตตมะได้ปรารถบำเพ็ญ ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...