วัยรุ่นสาวติดแชทตีแม่ รีดเงินให้หนุ่ม

คนเรา...

 

ไม่มีความเห็นครับ เพราะคิดอะไรไม่ออกไปแป้บนึง

 

เมื่อความโลภบังตา
บางครั้งผลประโยชน์ก็มีค่ามากกว่าชีวิตคนครับ

ผมเจอกับตัวเองมา 4 ปีแล้วครับ

 

อึ่งครับ เด็กสมัยนี้ไม่น่าจะเป็นอย่างนี้เลย

 

ข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ น่าเห็นใจทั้งแม่และลูก
ทราบแล้่วก็ขอให้ช่วยกันอวยพรให้ทั้งสองผ่านวิกฤตินี้ไปได้
********
วันที่ 4 ก.ค. หญิงสาวได้หลบหนีออกไป แต่เจ้าหน้าที่ตามตัวกลับมาได้และพบว่าพฤติกรรมเริ่มเปลี่ยนไป เกิดภาวะซึมเศร้า พูดน้อย ทางบ้านพักเด็กฯ จึงส่งไปโรงพยาบาลลำปาง ให้แพทย์จิตเวชรักษา และพบว่าอาการซึมเศร้าหนักกว่าเดิม จึงต้องส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสวนปรุง

ทั้งนี้ ทางบ้านพักเด็กฯ ได้สอบถามข้อมูลที่แท้จริงแล้วทราบว่า ก่อนที่หญิงสาวจะมีอาการรุนแรงและเริ่มทำร้ายแม่นั้น ถูกบุคคลอื่นทำร้ายจิตใจอย่างรุนแรง จนแม่ต้องนำตัวเข้ารักษาบำบัดที่โรงพยาบาลมหาราช จ.เชียงใหม่ แพทย์ให้ยามารับประทาน และนัดมาเอกซเรย์สมอง แต่เนื่องจากครอบครัวยากจน จึงไม่ได้ไปตามนัด และไม่ได้รับยามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้อาการทางจิตกำเริบ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือเยียวยา ส่วนแม่ของหญิงสาว ทางบ้านพักเด็กฯ จะพาฟื้นฟูสภาพจิตใจเช่นเดียวกัน เบื้องต้นกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดลำปาง มอบเงินช่วยเหลือนางอำพร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายจำนวนหนึ่ง

 

เห็นข่าวในทีวีแล้วสะเทือนใจจริง ๆ ไม่นึกถึงหัวอกคนเป็นแม่ที่ได้เลี้ยงดูมาตั้งแต่แบเบาะ

 

เพราะกรรมจึงทำไห้เป็นไป ขอไห้พ้นทุกข์ ขอไห้พบทางสว่าง ขอไห้มีความคิดเป็นสัมมาทิฐิ

ทั้งคุณแม่ และก็ลูกด้วยนะ

 

หาความ เจริญได้ยาก ไม่ได้แช่ง แต่มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ
นักรบตามชายแดนรอดตายเพราะชายผ้าถุงแม่มาก็เยอะแยะ

 

แม่เค้าบอกว่าน้องเคยเป็นคนเรียนเก่งได้ทุนก็เยอะเหมือนกันแต่ที่เป็นแบบนี้เพราะโดนทำร้ายทางจิตใจอย่างรุนแรงครับต้องรักษาอาการทางจิต อย่าเพิ่งไปว่าเค้า

 

อืม...ถ้ามีปัญหาทางจิตคงต้องบำบัดให้ดี ไม่งั้นเกิดทำร้ายคนอื่นๆที่ไม่เกี่ยวข้อง
เฮ้อ ลำบากใจเหมือนกัน เคยเจอคนโรคจิตทำร้ายเด็ก ....เด็กรอข้ามถนน จู่ๆก็มี
คนมาผลัก ลงถนนทั้งที่ไฟเขียวนั้นแหละ .... จับคนร้ายได้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
เพราะเป็นโรคจิต เด็กตายฟรี พ่อแม่ก็แค่เสียใจ....ไอ้หนุ่มนั้น บำบัดเสร็จก็คงถูกปล่อย
แต่ก็ไม่แน่ ถ้าเกิดเขาทำร้ายใครอีก ก็คงบำบัดอีกรอบ ...แล้วก็ปล่อย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน จริงๆ สมัยนี้ คนบ้าๆบอๆเยอะ ดูไม่ออกหรอก ไม่อยากนั้งบนรถเมล์ แล้วเป็นข่าวหน้าหนึ่ง น่ะ .... อืมมม

 

น่าเห็นใจทั้งสองคนค่ะ เพราะน้องเขาเองก็ถูกทำลายทางจิตจนมีอาการทางจิตที่ควรรักษา
แต่เข้าใจชีวิตคนจนค่ะ ค่าหยูกค่ายา ค่าไปหาหมอแต่ละครั้งมันทากเกินไปจริงๆสำหรับคนหาเช้ากินค่ำ ที่วันๆมีเงินพอแค่เลี้ยงปากท้อง เอาใจช่วยค่ะ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยื่นมือเข้ามาโดยเร็วค่ะ กลัวน้องจะทำร้ายแม่เขาอีกเพราะมีอาการทางจิตค่ะ

 

กรรมอันใดกันหนอ:'''''''''''(

 

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

 

น่าจะเปนเวรเปนกรรมของสองแม่ลูกนะคะ ขอส่งแรงใจให้ผ่านไปด้วยดีทั้งคู่ค่ะ

 

ฮือออออT T ทำไมไปทำอย่างนั้นละคะ><

สงสารคุณแม่จังเลยค่ะ

 

สงสารทั้งแม่ และ ลูก

แต่ว่าสงสารแม่มากกว่า ที่ทำงานหาเลี้ยงลูก ให้ได้เล่าเรียน เผื่อจะพึ่งพาได้ในวันข้างหน้า แต่ลูกก็มาเป็นแบบนี้ นี่แหละ หัวอกคนเป็นแม่

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ชี้ “เด็กหญิงตบแม่” ตัวอย่าง “เน็ต” ชักจูงแยกตัวจากสังคม แนะเท่าทันอย่าคุมสื่อ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 กรกฎาคม 2553 15:14 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “หมอพรรณพิมล” เผยสื่ออินเทอร์เน็ตชักจูงและดึงดูดให้เด็กแยกตัวออกจากสังคม และอาจทำให้มีพฤติกรรมแปลกแยก แนะวิธีแก้ต้องไม่ใช่แค่คุมสื่อ แต่ควรรู้เท่าทัน

พญ.พรรณพิมล หล่อตระกูล ผู้จัดการโครงการศึกษาและเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะของสังคม และผู้อำนวยการสถาบันราชนุกูล กล่าวแสดงความคิดเห็นของเด็กที่ติดสื่ออินเทอร์เน็ตว่า จากการที่ปัจจุบันนี้มีการเติบโตของสื่อผสมและสื่อสมัยใหม่มากขึ้น พฤติกรรมการบริโภคสื่อของเด็กจึงเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามกระแสนิยม เนื่องจากสื่ออินเทอร์เน็ตเป็นช่องทางของการเลือกบริโภคที่สามารถควบคุมได้โดยผู้ใช้ และบางครั้งอิทธิพลของสื่ออินเทอร์เน็ตก็ดึงให้ผู้คนเลือกที่จะปลีกชีวิตออกจากโลกภายนอก ด้วยการใช้เวลาอยู่ตามลำพังในการเสพสื่ออย่างสม่ำเสมอ

ตัวอย่างกรณีที่เยาวชนวัย 22 ปี ชาว จ.ลำปาง ที่ติดอินเทอร์เน็ตจนต้องขอเงินแม่เพื่อไปใช้บริการทุกวันนั้น ส่วนหนึ่งอิทธิพลของสื่ออินเทอร์เน็ตก็นับเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เยาวชนขาดการมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมภายนอก ดังนั้น โลกของเขาในช่วงเวลาของการอยู่ในร้านเพื่อสื่อสารกับบุคลผ่านออนไลน์ จึงเสมือนสังคมเทียมที่ทำให้คลายความเหงาได้

“เยาวชนไทยให้ความสนใจการบริโภคสื่ออินเทอร์เน็ตนั้นเกิดขึ้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่อายุ 12 ปี ขึ้นไป เพศชายนั้นสนใจในรื่องสื่อบันเทิง เกมออนไลน์ เช่น เกมการต่อสู้ เป็นต้น สำหรับเพศหญิงนั้นนิยมเรื่องของการสื่อสารผ่านออนไลน์กับเพศตรงข้าม หรือเพื่อนต่างถิ่นที่สนใจ ซึ่งเกิดขึ้นกับกลุ่มอายุตั้งแต่ 12 ปี หรือวัยที่กำลังศึกษาในชั้นมัธยม ขณะที่เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี นิยมในสื่อโทรทัศน์มากว่าประเภทอื่น” พญ.พรรณพิมล กล่าว

พญ.พรรณพิมลกล่าวด้วยว่า ความก้าวหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างต่อเนื่องของสื่อในสังคม อาจยากต่อการควบคุมให้อยู่ในกรอบเกณฑ์ที่ควรจะเป็น ดังนั้น สิ่งที่ควรแก้ไขไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นควบคุมเนื้อหาในสื่อเท่านั้น หากแต่ทุกฝ่ายต้องเร่งฝึกให้เด็กและเยาวชนรู้เท่าทันธรรมชาติสื่อแต่ละประเภทไปพร้อมๆ กัน เพื่อป้องกันพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ทั้งการเลียนแบบความรุนแรงจากสื่อ การแยกตัวจากสังคมภายนอก ซึ่งถ้าไม่รีบป้องกันปัญหาด้านสุขภาพจิตก็จะตามมา


---------------------------
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
Quality of Life - Manager Online