สนทนาธรรมหัวข้อวิชชาธรรมกายขั้นสูงสุด

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย คนโกหก, 22 ตุลาคม 2006.

  1. คนโกหก

    คนโกหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +1,413
    เรียนท่านกัลยาณมิตรทั้งหลาย


    เราต่างใฝ่หาในพระธรรม เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น
    เมื่อได้มีบุญวาสนา แม้นไม่ได้พบพาเจอหน้ากัน ใคร่จะสนทนาธรรม
    ด้วยสักคราหนึ่ง

    เรามีความธรรมโดยย่อ ให้ท่านขยายดังนี้



    ในกายมีธรรม
    พระธรรมกาย
    พระธรรมมีหนึ่ง
    จึงเป็นสัจธรรม

    องค์พระมากมาย
    ไม่ใช่สัจธรรม
    องค์พระเพียงหนึ่ง
    จึงเป็นสัจธรรม

    หนึ่งเดียวในกาย
    ย่อมไม่ใช่สากล
    ธรรมกายสากล
    จึงไม่ใช่หนึ่งเดียว

    องค์พระมีกรอบ
    ธรรมจึงจำกัด
    องค์พระเพียงหนึ่ง
    จึงไม่สากล

    ธรรมกายสากล
    คือสุดยอดธรรมกาย
    ธรรมกายจากหนึ่ง
    ไร้ซึ่งกรอบกาย

    ขยายองค์พระจากหนึ่ง
    ไร้กรอบไร้ประมาณ
    ขยายทั่วจักรวาล
    ธรรมกายจึงสากล

    สรรพสิ่งมีกลาง
    ตรงกลางมีธรรม
    ทุกกายทุกสรรพสิ่ง
    แท้จริงมีธรรม

    สรรพสิ่งมีกลาง
    ตรงกลางมีธรรม
    ธรรมจากสรรพสิ่ง
    จึงเป็นธรรมสากล

    ธรรมกายสากล
    จึงหาได้จากทุกสิ่ง
    ธรรมกายสากล
    ซ่อนกลอยู่ในกลาง





    เรียนท่านกัลยาณมิตร โปรดจงขยายความธรรมโดยนัยนี้เทอญ
    .................................................................
     
  2. weirchai

    weirchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +1,410
    ธรรมกาย คือกายแห่งการตรัสรู้ธรรม ที่มีอยู่ในมนุษย์ทุกๆ คน "ธรรมะ" คือพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงบรรลุ และทรงนำมาตรัสสอน ธรรมกาย เป็นสภาวะธรรมภายใน ที่ผู้ปฏิบัติสมาธิทุกคนสามารถเข้าถึงได้ เมื่อดำเนินจิตเข้าสู่เส้นทางสายกลาง
    และเนื่องจาก "ธรรมกาย" มีอยู่แล้วในตัวของเราทุกๆ คน จึงเป็นสิ่งสากล สำหรับมนุษยชาติ ทุกชาติ ทุกภาษา และศาสนา ที่จะปฏิบัติเพื่อการเข้าถึง และเมื่อได้เข้าถึงพระธรรมกาย ก็จะพบความสุขที่แท้จริง จิตใจก็จะสะอาดบริสุทธิ์ และจะสามารถนำศักยภาพภายใน ออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ ...

    หากตีความออกมาผิดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ.ที่นี้ด้วยครับ โปรดเรียนเชิญท่าน ผู้รู้ท่านอื่น จงมาช่วยกันขยายความข้างบนต่อด้วยครับ ​
     
  3. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ธรรมกายขั้นสูงสุด คือการเข้าถึงสภาวะที่สามารถดำรงอยู่ทุกที่ คือการเข้าถึงสภาวะที่เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่เรียก ปฐมเหตุของสรรพสิ่ง
     
  4. animejanai

    animejanai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    520
    ค่าพลัง:
    +494
    ส่วนมากพวกที่สอน เบี่ยงจากที่พระพุทธองค์สอน ไม่ควรจะเรียกว่าพุทธ
     
  5. คนโกหก

    คนโกหก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    481
    ค่าพลัง:
    +1,413
    เรียนท่านบำรุง


    เรานี้ซ่อนความนัยไว้มาก เพราะเกรงว่าท่านจะติด
    ในขั้นต่างๆ แต่ตอนนี้ ท่านกลับย่อความนัยที่เรา
    เกรงว่าท่านจะติดไว้ได้หมด



    ปฏิสัมภิทา 4 ของท่านเราไม่สงสัยแล้ว

    สาธุ.......
     
  6. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. กฤษณะ

    กฤษณะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +52
    ช่วยแนะนำผมด้วยครับ
     
  8. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    วิชชาธรรมกาย นี่แหละคือ ของแท้
     
  9. stefa

    stefa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,241
    ค่าพลัง:
    +1,790
    วิชชาธรรมกาย นี่แหละคือ ของแท้
     
  10. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ท่านโกหกครับ กระผมไม่มีคุณธรรมอะไรเลย ที่กล่าวมานั้นคือคุณธรรมของพระอริยะหลายๆท่านที่ผมลอกมา แค่นั้นเองครับ
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    รวมเป็นหนึ่ง ยังถูกตรึงซึ่งเหตุ-ผล

    สูงสุดนั้นไม่สูงสุด /

    ( ปล.อย่าเข้าใจว่าผมวิเศษหรือเข้าถึงอะไร แต่ธรรมแสดงธรรม )


    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    " เมื่อถึงฝั่ง แม้แต่ธรรมที่ตถาคตบัญญัติอันเปรียบดังแพ ยังต้องทิ้ง "

    พุทธพจน์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ตุลาคม 2006
  12. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เอางี้แล้วกัน คุณ TONY JAAA ธรรมกายสูงสุด คือสภาวะธรรมของผู้บรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
    ถ้าคุณยังบอกว่า สูงสุดยังไม่สูงสุด หรือ รวมถูกเป็นหนึ่งยังตรึงด้วยเหตุผล ผมก็ไม่รู้จะกล่าวยังไงแล้ว ครับ
     
  13. bamrung

    bamrung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2006
    โพสต์:
    836
    ค่าพลัง:
    +1,524
    ขอแก้ คำว่าอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็น พุทธภูมิแทนนะครับ เช่นการบรรลุธรรมของพระปัจเจกพุทธเจ้า การบรรลุธรรมของพุทธโพธิสัตตย์(อริยโพธิสัตตย์) เพราะคำว่าอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นศัพท์ที่ใช้สำหรับการบรรลุธรรมของพระพุทธเจ้า-
     
  14. telwada

    telwada เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,606
    ค่าพลัง:
    +1,817
    อนิจจา
    ร่างกายของคนเรา เป็นสิ่งไม่เที่ยงแท้ ย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    เป็นธรรมชาติ เป็นความจริง แล้ว เป็นความจริงแล้ว
     
  15. ohogamez

    ohogamez เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +2,327
    OO แด่พระคุณครู ผู้มั่นคงในพระสัมมาสัมโพธิญาณ OO
    <HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ท่านผู้ทรงคุณ ปิดทองหลังพระ

    เกินกว่าพรรณณาได้ ได้บันทึกไว้ในไดอารี่ มีความดังนี้ว่า

    00000000000000000000000000000000000000000
    2535

    ระยะนี้มีแต่ข่าวพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติสายต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง
    ทั่วประเทศ ต่างออกข่าวจะขอทำพระนิพพานให้แจ้งใน
    ปัจจุบันชาติ พากันลาพุทธภูมิ ว่าการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อ
    สร้างบารมีนี้ เป็นทุกข์นัก ต่างขอลาเข้าฝั่งพระนิพพานกัน
    ดีกว่า

    เมื่อข้าพเจ้ารู้เช่นนี้ก็มาคิดพิจารณาถึงตัวเอง ทำไมเราจะไม่
    ทำพระนิพพาน ให้แจ้งในปัจจุบันชาตินี้เหมือนเขาเหล่านั้น
    เล่า คิดได้เช่นนั้น ข้าพเจ้าจึงสลักเข้าไส้กลางขึ้นสู่ปราสาท
    ทำวิชชาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ

    <CENTER>
    "หลวงพ่อเจ้าขา ลูกจะทำพระนิพพานให้แจ้ง
    ขอลาเข้าฝั่งในชาตินี้เจ้าค่ะ"
    </CENTER>
    ข้าพเจ้าพนมมือแป้กราบเรียนหลวงพ่อ เสียงหลวงพ่อดัง
    ก้องกลับมาว่า.........

    "ให้ทบทวนภพชาติในอดีตเสียก่อนว่า
    เจ้าปรารถนาสิ่งใด อีก 3 วันค่อยพูดกัน"


    นิมิตพลันปรากฏว่าพวกเรานักสร้างบารมีทั้งหลายยืนอยู่หน้า
    ชายฝั่งทะเล อันกว้างใหญ่ เพื่อมาเก็บดวงตะวัน พระสงฆ์ผู้
    มีชื่อเสียงมากท่านหนึ่ง เอ่ยปากขอเก็บตะวันก่อนผู้ใด
    ท่านพยายามแสดงฤทธานุภาพอยู่นาน ก็ทำไม่สำเร็จ
    จึงหันหลังเดินจากไป พร้อมกับถือขวดน้ำปลาติดมือไปด้วย
    พวกเราพยายามเรียกท่านกลับมาเถอะ อย่าเอาขวดน้ำปลา
    เลยนั้นคือชีวิตชาวโลกปุถุชน ผู้มีโลกียธรรมนะท่าน ข้าพเจ้า
    จึงตะโกนออกไปว่า.......

    [​IMG]

    "ท่าน.........ตะวันเก็บไม่ยากอย่างที่ท่านคิดนะท่าน"

    ข้าพเจ้าพูดพลาง กางแขนสองข้างยื่นไปข้างหน้า
    อัศจรรย์ !!! ดวงตะวันลอยติดเข้ามาในอ้อมแขนทั้งสองของ
    ข้าพเจ้า

    "หลวงพ่อ นี้หมายความว่าอย่างไร ? ลูกไม่เข้าใจ"

    "หากทุกคนขอลาเข้าพระนิพพานกันหมด ใครเล่าจะทำงาน
    เพื่อพระศาสนา ศาสนจักร อาณาจักร พุทธจักร ของ
    พระ ตถาคตเจ้าจะเป็นเช่นไร และบุคคลใดที่คิดจะทำพระ
    นิพพานให้แจ้งเป็นภพชาติสุดท้าย ต้องประมูลฤทธิ์กับฝ่าย
    มาร แน่ใจหรือว่าจะบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว ไม่เปิดช่องกรรมอัน
    ใดเป็นจุดอ่อนให้เหล่าพญามารมารอนรานได้"


    ข้าพเจ้ากลับมาคิดพิจารณาถึงคำของหลวงพ่อท่าน และสาว
    เครื่อง เดินเข้าไปในภพชาติอันยาวไกลที่ผ่านมา ค้นแล้วค้น
    อีกอยู่หลายคืน จึงประจักษ์ชัดว่าชาตินี้ข้าพเจ้าทำงานถวาย
    ต้นธาตุต้นธรรมสบายที่สุดแล้ว

    นับตั้งแต่คืนที่ข้าพเจ้าคิดลาเข้าพระนิพพาน ข้าพเจ้าถูกพระ
    เดชพระคุณ หลวงพ่อวัดปากน้ำให้ข้าพเจ้าตอกย้ำมหาปณิธาน
    อยู่ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเดิน ยืน นั่ง นอน ทุกกาลทุกเวลา
    เสียงจะก้องอยู่ในมโนวิญญาณว่า

    "ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งอำนาจ สิทธิ ความสำเร็จกิจแห่งศาสนา
    พุทธ วิชชาธรรมกาย มรรคผล นิพพาน ในตำแหน่ง........
    ในฝ่ายบุญภาคปราบ ล้วนทั้งลับและเปิดเผย"


    จนละเมอแต่คำพูดเหล่านี้ ทั้งครอบครัวต่างสงสัยว่าข้าพเจ้า
    บ่นอะไรพึมพำ ๆ แม้ในยามหลับ จริงสินะ ถ้าทุกคนต่างลา
    เข้าพระนิพพาน แล้วงานของศาสนจักร อาณาจักร
    พุทธจักร มรรคผล นิพพาน ในฝ่ายสัมมาทิฐิ แต่ส่วนเดียว
    ใครเล่าจะทำ และทำไม ๆ ๆ ๆ ๆ ต้องเป็นข้าพเจ้าผู้หนึ่งด้วย
    ทำไม ๆ ๆ ๆ ๆ ข้าพเจ้าต้องตั้งมหาปณิธานที่สูงสุดเช่นนี้
    ทำไม ???

    เหตุการณ์ต่อมา ได้แสดงแจ้งชัดตามที่พระเดชพระคุณหลวง
    พ่อกล่าวไม่มีผิด พระปฏิบัติชื่อดัง ๆ ที่ต่างขอทำพระนิพพาน
    ในปัจจุบันชาติ ต่างก็พ่ายแพ้ พญามาร ไม่สามารถประมูล
    ฤทธิ์ได้สำเร็จ ด่านแรกพญามารส่ง ธิดาตัณหาราคะมาเท่า
    นั้น ก็เอวังด้วยประการฉะนี้ จึงเสียดายมาก ๆ ในการที่ท่าน
    เหล่านั้นสร้างบารมีมาอย่างยาวนานแล้ว มาตายอย่างปลา
    น้ำตื้น แล้วตัวข้าพเจ้าเล่า เปรียบเสมือนดอกบัวในกองเพลิง
    อยู่ท่ามกลางกระแสโลก ก็ขออย่าได้ประมาทเลย
    ข้าพเจ้าจะ
    พยายามพากเพียรเรียนรู้วิชชา และทำงานถวายต้นธาตุต้น
    ธรรมต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ ขอเพียงแต่ว่า... พระเดชพระคุณ
    หลวงพ่อท่านโปรดเป็นกำลังใจ ชี้แนะทางให้ถูกมรรคถูกผล

    [​IMG]

    โปรดอำนวยพรแก่ข้าพเจ้า
    โปรดให้ข้าพเจ้าเป็นดังน้ำพุที่พวยพุ่งอยู่ตลอดเวลา


    ดังคำที่หลวงพ่อให้ลูกก้องอยู่ทุกขณะจิต..
    ข้าพเจ้าทรงไว้ซึ่งอำนาจสิทธิ....

    และแล้วข้าพเจ้าก็ปิดฉากวิชชามณีรัตน์ เข้าสู่วิชชาภาค
    ปราบ - วิชชารบ อย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ข้าพเจ้าใช้เวลาครึ่ง
    ชั่วโมงฝ่าเหตุ 19 อย่างทะลุทะลวง หลังจากที่ติดมาเป็น
    เวลาสองปีเต็ม ที่วิชชาไม่ก้าวหน้าเพราะไม่มีเวลาต่อยอด

    เป็น สุด หมด ไม่มี ว่างเปล่า ดับ ลับ หาย สูญ สิ้นเชื้อ
    ไม่เหลือเศษ หล่อเลี้ยง เป็น อยู่ เป็นรส เป็นชาด เป็นไอ
    เป็นแก็สกรด...


    หยุดในหยุด ๆ ๆ ๆ ๆ นิ่งในนิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ กลางของกลาง ๆ ๆ
    ๆ ๆ ดับหยาบไปหาละเอียด ๆ ๆ ๆ ๆ ดังนี้

    ระดับสมาธิ : เทวภูมิ 6 คือ 1. จาตุมหาราชิกา
    2. ดาวดึงส์
    3. ยามา
    4. ดุสิต
    5. นิมมานรดี
    6. ปรนิมมิตวสวดี

    ระดับรูปฌาน : รูปภูมิ 16 คือ

    ปฐมฌานภูมิ 3 มี 1.ปาริสัชชา 2.ปุโรหิตา 3.มหาพรหมา

    ทุติยฌานภูมิ 3 มี 4.ปริตตาภา 5.อัปามาณาภา
    6.อาภัสสรา

    ตติยฌานภูมิ 3 มี 7.ปริตตสุภา 8.อัปปามาณสุภา
    9.สุภกิณหา

    จตุตถฌานภูมิ 2 มี 10.เวหัปผลา 11.อสัญญีสัตว์

    สุทธาวาสภูมิ 5 มี 12.อวิหา 13.อตัปปา
    14.สุทัสสา 15.สุทัสสี 16.อกนิฏฐา

    ระดับอรูปฌาน : อรูปภูมิ 4 มี 1. อากาสานัญจายตนภูมิ
    2. วิญญาณัญจายตนภูมิ
    3. อากิญจัญญายตนภูมิ
    4. เนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ

    โคตรภูมิ : กายธรรม (โยคาวจรภูมิ) ขาหนึ่งเหยียบโลก
    ขาหนึ่งเหยียบธรรม เส้นแบ่งเขตโลก - ธรรม ถ้าข้ามพ้น
    ระดับนี้คือ มุ่งโลกุตตรธรรม คือ ธรรมล้วน ๆ สู่อริยภูมิ
    อริยสมาบัติ : โลกุตตรภูมิ 9 มี มรรค 4 ผล 4
    นิพพาน 1

    1.โสดาบันมรรค 2.โสดาบันผล
    3.สกิทาคามีมรรค 4.สกิทาคามีผล
    5.อนาคามีมรรค 6.อนาคามีผล
    7.อรหัตมรรค 8.อรหัตผล

    เข้านิโรธ เข้านิโรธลงไปในดวงธรรมของพระพุทธเจ้าแก่ ๆ
    หยาบละเอียดตัวเราทั้ง 18 กายและกายมนุษย์ เข้านิโรธ
    พร้อมกัน

    ความอัศจรรย์เลือนลั่นแห่งโลกธาตุภายในก็ปรากฏ

    เห็นสิบแล้วเห็นศูนย์ เป็นเค้ามูลสืบกันมา
    เที่ยงแท้แน่หนักหนา ตั้งอนิจจาเป็นอาจิณ
    จุติแล้วปฏิสนธิ ย่อมวนเวียนอยู่ทั้งสิ้น
    สังขาราไม่ยืนยิน ราคีสิ้นเป็นตัวมา


    ปัญญารอบรู้ เพราะการทำลายกิริยา คือตัวสมมติทั้งหลาย
    ลงได้ ตลอดเวลาที่เดินบนเส้นทางธรรมในปัจจุบันชาติ
    ข้าพเจ้าไม่มีอะไรจะบำเพ็ญทาน ได้แต่อุทิศทุกสิ่งทุกอย่าง
    ที่ข้าพเจ้าพึงมี พึงได้ สละขาดจากใจ มีแต่ให้ และให้
    ด้วยจิตอันบริสุทธิ์ เป็นทานในรัตนะ 7 คือ ตา หู จมูก
    ลิ้น กาย ใจ จิตวิญญาณ ทั้งสละไม่โลภและไม่ยึดติดไม่
    หลง เป็น รูปรัตนะ เสียงรัตนะ กลิ่นรัตนะ รสรัตนะ สัมผัส
    รัตนะ ธรรมรัตนะ อายตนะภายนอก 6 อายตนะภายใน 6
    เชื่อมเป็นหนึ่ง สู่สภาวะเดิม เป็นจิตล้วน ๆ ที่สงสารสัตว์โลก
    ผู้ตกอยู่ในความทุกข์ยาก อยากให้ทุกท่าน พ้นจากกองทุกข์
    ทั้งหลาย ไม่ติดในวิชชาต่าง ๆ ที่พึงมี พึงได้ ตามสภาวะ
    ธรรม มุ่งค้นหาแต่ธรรมอันประเสริฐที่จะปลดเปลื้องความ
    ทุกข์ของมวลสัตว์ที่แท้จริง เป็น

    เป็นฐิติจิต ฐิติธรรม
    เป็นวิราคธาตุ วิราคธรรม
    เป็นธาตุล้วน ธรรมล้วน
    เป็นธาตุเป็น ธรรมเป็น ฉะนี้แล

    ขณะจิตหนึ่งที่รวดเร็วปานลูกศรออกจากคันธนูไปสู่เป้าหมาย
    กายละเอียด เปลี่ยนแปลงเร็วมาก แค่กระพริบตา หยุดเข้า
    ไปใน ดวงธรรม ดวงศีล ดวงสมาธิ ดวงปัญญา ดวงวิมุติ
    ดวงวิมุติญาณทัสสนะของแต่ละกาย อันมี

    1.กายมนุษย์หยาบ 2.กายมนุษย์ละเอียด

    3.กายทิพย์หยาบ 4.กายทิพย์ละเอียด

    5.กายพรหมหยาบ 6.กายพรหมละเอียด

    7.กายอรูปพรหมหยาบ 8.กายอรูปพรหมละเอียด

    9.กายธรรมหยาบ 10.กายธรรมละเอียด

    11.กายโสดาหยาบ 12.กายโสดาละเอียด

    13.กายสกิทาคาหยาบ 14.กายสกิทาคาละเอียด

    15.กายอนาคาหยาบ 16.กายอนาคาละเอียด

    17.กายอรหัตหยาบ 18.กายอรหัตละเอียด

    ขึ้นสู่อายตนะนิพพานปล่อยกายที่เข้าสิบแล้วเห็นศูนย์ จะเห็น
    อีกอายตนะ ซึ่งแตกต่างออกไป กายที่เป็นองค์พระเหมือน
    พระพุทธรูป(ธรรมกาย) กลับกลายเป็นกายมนุษย์ที่ละเอียด
    ปราณีต สุขุมลุ่มลึก ละเอียดใสเป็นแก้ว ขาว ใส บริสุทธิ์
    และรัศมีสว่างมาก (ธรรมกาย เป็นกายพระ แก้วกายธรรม
    เป็นกายมนุษย์พิเศษ) ศูนย์กลางกายฐานต่าง ๆ ทะลุทะลวง
    เป็นท่อแสงพุ่งจากสุดโลก(ใต้สะดือ 4 นิ้ว) ไปสุดธรรม
    ตำแหน่งจอมประสาท(กลางกระหม่อม) เรียกโปร่งฟ้า

    ปรากฏกายพระพุทธเจ้าอยู่เหนือเศียรเกล้าประจำอยู่ที่สุด
    ธรรมนี้ (เหตุการณ์นี้ทำให้กระจุกผมตรงตำแหน่งโปร่งฟ้า
    เปลี่ยนเป็นสีขาวทันที)

    "แก้วกายธรรม ..........แก้วกายธรรม ........
    ...................รูปัง สูญญะ สูญนิยะตา อีวา รูปา
    รูปา นา เวทะ สูญ นิยะตา สูญญา ตายะนา เวทะ สารูปัง
    ยา รูปัง สา สูญนิยะตา ยะ สูญนิยะตา สารูปัง
    อีวา อีวา วิญญานา สังญา สังขารา วิญญานัง........
    .......................
    ........คะเต คะเต ปาราคะเต ปาระสังคะเต โพธิสัตวา"

    เสียงมหาปณิธานแห่งภพชาติดังก้องกัมปนาทไปทั่วอายตนะ

    " ข้าพเจ้าจะละกิเลสทั้งหลายให้หมดสิ้น
    ข้าพเจ้าจะเรียนรู้ธรรมะทั้งหลายให้เจนจบ
    ข้าพเจ้าจะโปรดสรรพสัตว์เข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน
    ข้าพเจ้าจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ "

    ลำดับนั้นตัวข้าพเจ้ากลับกลายรูปลักษณ์เป็นพระโพธิสัตว์ยืน
    อยู่ บนดอกบัว ถอดระหัสวิชชาพระมหากรุณาธารณีสูตรได้
    สำเร็จ ในพริบตานั่นเอง

    แล้วก็มีเสียงรับขึ้นอย่างก้องกังวานว่า

    " Sa...dhu Sa...dhu Samyak Sambodhi Sa..dhu Sa..dhu"
    (สาธุ สาธุ สัมมา สัมโพธิ สาธุ สาธุ)

    ข้าพเจ้าประจักษ์ชัดถึงคำพูดของหลวงพ่อที่ว่า
    ขุดบ่อล่อธารา ขุดตื้น ๆ น้ำ บ่ มี
    ขุดถึงที่ น้ำจึงไหล
    เป็นฉันใด


    00000000000000000000000000000000000000000000


    สิ้นการอ่านบันทึก ข้าพเจ้ายิ่งมีมโนปนิธานมั่นคงยิ่งในทางนั้น
    <!-- / message --><!-- sig -->__________________
    http://www.palungjit.org/board/attac...1&d=1151031031

    จุดมุ่งหมายของข้อวัตรปฏิบัติ
    - มุ่งหาความเป็นพุทธะทั้งหลายตั้งแต่อดีต
    ปัจจุบัน และ อนาคต เข้ามาไว้ในตัวเอง

    - ใช้กาย เป็นที่ชุมนุมแห่งจิตของพุทธะ
    ใช้วาจา แสดงธรรมอันเป็นสัจจะของพระพุทธเจ้า
    ใช้ใจ แสดงความเป็นพุทธะที่เป็น “จิตเดิมแท้” ออกมา
    <!-- / sig -->
     
  16. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,803
    ค่าพลัง:
    +18,982
    ธรรมกายขั้นต้นผมยังไม่รู้จักเลย

    หุหุ ขอแอบมาอ่านแล้วกันนะครับ..

    โมทนาธรรมดีครับ
     
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    *********************************************


    ผมต่างหากไม่เอาไหนเลย ครับคุณอ้น คุณถ่อมตัวจัง
     
  18. พรเทพ คชมาศ

    พรเทพ คชมาศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +1,295
    บทกลอนแด่ท่าน OO
    .......................


    นิพพานนั้นสุขไฉน
    มองเบื้องล่างลงไป
    เสียงร่ำไห้สัตว์นรก
    ทำผิดด้วยความไม่รู้
    เพราะขาดครูชี้แนะ
    นึกได้ก็แค่ เสียใจ
    ต้องทนทุกขเทวนา
    นานหนักหนาไม่จบสิ้น
    มือนั้นขวักไขว่หา
    ดวงตาเปี่ยมสงสาร
    แม้นเรานี้อยู่นิพพาน
    จักทิ้งไปเพื่อเอื้อมลง
    แม้นสัตว์ไม่พ้นทุกข์
    เรานี้สุขได้ไฉน
    ได้นิพพานมาฉันใด
    คืนให้แด่ผู้ทุกข์ทน




    อันนิพพานนั้นได้แต่ใดมา


    สองเท้าน้อยๆ สละราชบัลลังก์, ลาภยศชื่อเสี่ยงทุกสิ่ง
    กลายเป็นคนจรร่อนเร่ อดข้าวจนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูก
    แลกชีวิตซึ่งพระธรรม


    สองเท้าน้อยๆ เดินไปทั่วแว่นแคว้น มิได้พึ่งอภิญญาใดๆ
    ฝนตกแดดออก ทางจะรกชัฏ แห้งแล้งกันดารก็เดินไป
    ถือบาตรผ่านหน้าบ้านคน ยืนรอ บ้างด่า บ้างมองหยามหมิ่น


    สองเท้าน้อยๆ ไม่สนสิ่งใด เพียงคิดแต่ว่าสิ่งนี้หนอ
    คือ ทางหลุดพ้นทุกแห่งสรรพสัตว์ทั้งมวล เรานี้จะทำต่อไป
    ดังประหนึ่งผู้ว่ายน้ำกลางทะเล เงยหน้าไม่เห็นฝั่ง
    แต่เฝ้าเพียรว่ายไปไม่หยุดหย่อน

    สองเท้านั้นเดินทุกวัน ตราบจนไม่สามารถเดินต่อไปได้อีก..
     
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
    ถึง คุณเช่นท่านอีกคน


    โมทนาครับ


    ฟ้า-ดิน ทวยเทพ ได้รับการร้องขอจากสรรพชีวิตให้ช่วยหลายสิ่งมากมาย

    แต่มีใครบ้างเป็นผู้ทำงานให้ท่านเหล่านั้นบ้าง

    ...จะมีสักกี่คนมีคุณธรรม และความตั้งใจจริง


    ....ท่านไม่ได้เดินคนเดียวหรอกครับ ด้วยความเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีใจเช่นท่านนี้แหละ ท่านเหล่านั้นต้องการนัก...
     

แชร์หน้านี้

Loading...