อยากทราบว่าการนุ่งสั้น บาปไหมค่ะ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย amygirl, 25 กรกฎาคม 2010.

  1. บูชาพุทธ

    บูชาพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +858
    แล้วพวกดารานักแสดงล่ะคะ สวย ๆ หล่อ ๆ และเซ็กซี่กันทั้งนั้น ก็เข้าข่ายกระตุ้นตัณหาราคะของคนอื่นให้เกิดขึ้นได้เหมือนกัน และยิ่งมีคนดูทั่วประเทศ อย่างนี้ถือว่าเขาบาปมากไหมคะ

    อันนี้ถามเพราะอยากรู้จริง ๆ นะคะ
    ใครทราบช่วยตอบทีค่ะ
     
  2. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    พูดยากนะ การจะอธิบายอะไรให้คนหัวสมัยใหม่ฟัง
    หรือเด็กยุคใหม่ เอาเป็นว่า การนุ่งสั้นเข้าวัด
    นั้นไม่ควรทำ คนที่มีวิจารณาญานคงเข้าใจได้
    ถึงจะเข้าไปไม่กี่นาทีแต่ในนั้นก็เขตวัด ควรสำรวม
    กันให้มากค่ะ เพราะเรานั้นเป็นชาวพุทธไม่ใช่ฝรั่ง
    ต่างแดนที่ไม่รู้ขนบธรรมเนียมการสำรวมจำเป็นอย่างยิ่ง
     
  3. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    พวกดารานั่นตัวอย่างนึงที่แสดงถึง การหลงยึดติดกับรูป มีน้อยคู่ที่สวยๆหล่อๆแต่งกันแล้วจะอยู่กันยืด ดารานั่นแหละเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้เยาวชน ผมว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะมารณรงค์ต่อต้านการแต่งกายที่ล่อแหลม หมิ่นเหม่จริยธรรม ผมเลิกดูมานานแล้วละครที่ตบๆตีๆ หาสารคดีหรืออะไรที่มันจรรโลงปัญญาดูดีกว่า แต่งกายล่อแหลมโฉบเฉี่ยว ผมเองก็ไม่ได้วิเศษอะไรหรอกครับกิเลส ตัณหายังมี แต่พยายามให้มันลด ละ เบาลง พอดีคุณบูชาพุทธพูดถึงประเด็นนี้ เลยสะกิดต่อมผมขึ้นมา ผมคนนึงละที่แอนตี้ผู้หญิงแต่งตัวโป๊ถ้าเดินผ่านผม หน้าผมยังไม่มองเลย เกลียดนึกถึงนางจิญจมานวิกาทุกที
     
  4. ธัมมนัตา

    ธัมมนัตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,516
    ค่าพลัง:
    +9,769
    กลุ่มดารานักแสดงพวกนี้หากไม่มีบุญด้านอื่นมารั้งไว้ ด้วยแรงกรรมที่ทำให้คนมีโมหะ คือความลุ่มหลงหลง มัวเมา ในวัตถุ หลงในเงา ชตากรรมก็คงต้องไปชดใช้ในอบายแน่นอน

    การดูหนัง ละครจึงเป็นการก่อราคะตรงๆ เป็นอกุศลจิต ที่เพลินไปตามอำนาจราคะ เรียกว่านันทิราคะ ดูแล้วเพลินไปเรื่อยๆ ตามความเป็นจริงไม่เท่าทัน

    ทั้งนี้แล้วแต่ปัญญาของใครก็ของใคร เรื่องเดียวกัน คนหนึ่งเข้าใจได้เร็วเพราะมีฐานดี คือปัญญามาแต่เก่าก่อน
    เรื่องเดียวกันบางคนก็เฉยๆ ไม่ได้ข้อคิดอะไร แยกแยะอะไรดีอะไรชั่วไม่ออก อาจเพราะมีกรรมบางอย่างบังตาอยู่ เป็นไปตามกฏธรรมชาติ
    กัมมุนาวัตตตีโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามแรงกรรมนั่นเอง
     
  5. Jubb

    Jubb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,281
    ค่าพลัง:
    +2,145
    สมัยก่อนผู้หญิงไทยเปลือยอกโดยการแต่งกายตามประเพณีวัฒนธรรม(ดูตามรูปถ่ายเก่าๆ) ก็คงเลวร้ายมากเลยเนาะ หรือไม่ก็นุ่งผ้าบางๆ แนบเนื้อเห็นจุก หรือสมัยปัจจุบันประเภทแต่งหน้าทาปากเข้าวัดก็ผิดน่ะสิ

    ผมว่าเป็นเรื่องของกาละเทศะ ยุคสมัย ความเหมาะสม ควรหรือไม่ควรมากกว่าบาปหรือไม่บาป ถ้าดูตามที่ยกเอาคำของพระท่านมาอ้างถึง บางทีมันมีเหตุปัจจัยอื่นเข้ามาประกอบ เช่น
    หญิงสาวเหล่านี้สมัยเป็นมนุษย์ชอบประพฤติตนทางอนาจาร คืออวดร่างกายของตนเปลือยร่างต่อสาธารณะ และหลงใหลลุ่มหลงในเสึ้อผ้าอาภรณ์เครื่องตกแต่งประดับกายอย่างไม่ลืมหูลืมตา สามารถกระทำชั่วได้ในทุกสิ่งเพื่อแสวงหาเงินมาซึ้อเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับตัวเองอวดคนอื่น
    ไม่เกี่ยวกับว่านุ่งน้อยห่มน้อย

    เอ่อพอดีผมต้องไปแล้ว...เอาเป็นว่าบาปหรือไม่บาปผมไม่รู้ ผมไม่คิดว่าการแต่งกายวับๆ แวมๆ หรือแต่งสวยๆ งามๆ เป็นบาป แต่เจตนาแต่งเพื่อยั่วยวนผู้ทรงศิลน่าจะบาป การลุ่มหลงในความสวยความงามเป็นธรรมดาของผู้อยู่ในกามไม่น่าจะแปลก แต่การกระทำเลวร้ายเพื่อสิ่งเหล่านั้นก็คงบาปแน่นอน...เหมือนผมชอบรถก็คงไม่บาป แต่ถ้าผมฆ่าคนเพื่อชิงรถคงบาปแน่นอน...
     
  6. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    สังคมเรายังมีอะไรอีกมากมายหลายเรื่องที่ต่างคนต่างมุมมอง ต่างคนต่างความคิด แต่สุดท้ายไม่ว่าจะแตกต่างทางด้านความคิดเห็นกันเช่นไรก็ตาม ขอเพียงทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างสันติ รักใคร่ปรองดองกัน รักในผืนแผ่นดินที่เราเติบโตและอาศัยอยู่ มีหัวใจที่เทิดทูนในสถาบันทั้งสามอย่างเปี่ยมล้น แค่นี้นี่แระค่ะสังคมไทยจะเป็นสังคมที่ทั่วโลกกล่าวขานกันอย่างเซ็งแซ่ แต่จะเป็นจริงหรือไม่ ก็ล้วนอยู่ที่คนไทยทุกคนเท่านั้นเอง
     
  7. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +705
    อยากทราบว่าโทษของการเล่นเน็ตลงอบายด้วยป่าว
    อยากทราบว่าโทษของการพระเครื่องลงอบายด้วยป่าว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กรกฎาคม 2010
  8. afun

    afun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +84
    อ่านมาหลายท่านนะคะ ... ขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ ไม่ขอพูดถึงว่าบาป หรือ ไม่ ปาบ นะคะ แต่จะพูดถึงความเหมาะสมค่ะ

    เป็นคนนครพนมค่ะ มีวัดที่ชอบไปทำบุญอยู่เป็นระยะ คือวัดป่า ใกล้บ้าน อยู่ในหมู่บ้านนะคะ
    เวลาที่ไป สังเกตุดู ญาติโยมที่ไปก็แต่งตัวสำรวมมิดชิดดีค่ะ ผู้หญิงส่วนใหญ่ จะใส่ผ้าถุง และส่วนน้อยจะเป็นกระโปรงยาว กางเกงขายาว กางเกงขาสามส่วน สี่ส่วน แต่ที่สั้นเลยเข่าขึ้นมาด้านบนนั้นไม่พบเห็นนะคะ ...

    ส่วนวัดพระธาตุฯประจำอำเภอนั้น มีบ้างที่พบว่า ในวันพระใหญ่ หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา จะมีญาติโยมไปกันเยอะ ที่แต่งตัวไม่สุภาพก็มีให้เห็นอยู่จำนวนหนึ่ง...ส่วนมากเป็นวัยรุ่น ที่ไปเป็นกลุ่มเพื่อนกัน (จากการสังเกตุ เห็นว่าเกาะกลุ่มด้วยวัยใกล้เคียงกัน)
    และยิ่งหากมีเทศกาลงานบุญประจำปี เช่น บุญเดือนสี่ ที่มักมีการจัดงานวัดที่ติดต่อกันหลายวันมีร้านจำหน่ายสินค้ามาเป็นทิวแถว มีเวทีหมอลำ มีการฉายหนังกลางแปลง อันนี้ การแต่งตัวที่ไม่สุภาพนั้นมีเยอะมากๆค่ะ .... หลายคนขาดกิริยาสำรวม วิ่ง ตะโกน เมา ฯลฯ แต่เข้าใจว่าเป็นเทศกาลงานบุญแบบนี้ที่ไหนๆก็คงเป็นเช่นกัน

    .......................
    มานั่งไตร่ตรองดู พบว่า หากเป็น วันปกติ คนที่ไปทำบุญฟังธรรมที่วัดอยู่เป็นประจำมักจะแต่งกายสำรวมเสมอค่ะ .... แต่หากมีวันสำคัญ หรืองานประเพณี มักมีที่แต่งกายไม่เหมาะสมปนเปเข้ามา

    การแต่งกายเข้าวัดนั้น เห็นควรว่าต้องแต่งกายให้ สุภาพ ไม่นุ่งสั้น เลยเข่าขึ้นมา ไม่ใส่เสื้อรัดรูป เอวสูง เวลานั่ง แลเห็นขอบกางเกงใน ไม่ใส่ สายเดี่ยวแขนกุด คอลึก ค่ะ ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้เกียรติสถานที่ ที่ซึ่งเป็นสถานที่สงบ และเป็นที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ นอกจากนั้นเพื่อให้กายใจเราสงบและสำรวมด้วยค่ะ

    และหาก ไม่ได้ไปวัด หรือ ไม่ได้ทำบุญใส่บาตร แล้ว การดำเนินชีวิตตามปกติ ถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลค่ะ แต่งกายได้ตามรสนิยมส่วนตัวของแต่ละคน
    อย่าง ดิฉันเอง ก็ติดตามแฟชั่นการแต่งตัวอยู่เสมอ เป็นผู้หญิงก็อยากสวยงามเป็นธรรมดา ดั่งที่ว่า ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง เวลาวันว่าง ไปเดินเที่ยวซื้อของในเมืองก็ใส่ขาสั้นเลยเข่ามากอยู่ (แม้ขาจะใหญ่ก็มั่นใจค่ะ) ใส่ แขนกุด ให้เข้ากับกางเกง ดูดีก็มั่นใจแล้วค่ะ

    เวลาทำงานก็แต่งหน้าทาปาก ให้ดูน่าเชื่อถือ ตามบทบาทหน้าที่ในที่ทำงานค่ะ

    ..............................
    สรุปแล้ว ... ไปวัดไปวา จะเป็นคน โบร่ำโบราณไปสักหน่อย แต่งตัวเชยไปหน่อย ก็ทำเถอะค่ะ เพื่อความเหมาะสมแก่สถานที่และตนเอง
    ส่วนความชอบส่วนตัวเมื่อเวลาปกติก็ตามสบายได้เลยไม่ว่ากันอยู่แล้ว แต่อย่าลืมความปลอดภัยแก่ตัวเองด้วย สมัยนี้ อะไรๆก็ไม่น่าไว้วางใจ ค่ะ
     
  9. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ไม่ทราบว่าเป็นคนนครพนมจริง ๆ ป่าวค่ะ โลกมันกลมจริง ๆ เลยเรา
     
  10. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    อืม คุณ afun คม ชัด ลึก มากครับ อ้อ คุณน้ำครับ ออกตัวก่อนนะครับ ความเห็นที่ผมลงไปนั้นมิได้เจตนาว่าร้ายคุณน้ำนะครับ ผมหมายถึงภาพรวมๆนะครับ ยังไงก็ขออภัยครับที่อาจทำให้ระคายใจครับ
     
  11. afun

    afun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +84
    @ คุณน้ำ

    ฝันเป็นคนนครพนมค่ะ ...คุณน้ำก็อยู่นครพนมเหรอคะ ยินดีจังคะ ที่มีเพื่อน นครพนม อยู่ที่เว็ปนี้ด้วย ....^_^ ฝันเป็นคนที่นี่โดยกำเนิด แต่ไปเรียนที่สกลนคร ซะช่วงหนึ่ง และอีกช่วงหนึ่งก็ไปเรียนไกลถึงปักษ์ใต้สุดสยาม สุดท้ายก็กลับมาทำงานที่ บ้านเกิดดังเดิมค่ะ
    ตอนที่รู้จักเว็ปนี้ ก็ชอบมากและแนะนำให้พี่ๆเพื่อนๆที่รู้จักกัน ให้เข้ามาเว็ปนี้ ตอนนี้คิดว่ามีหลายคนที่เข้ามาเว็ปนี้แล้วหละค่ะ ของดีต้องบอกต่อค่ะ
     
  12. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    เป็นคนบ้านสามผง อ.ศรีสงคราม ค่ะ บ้านเกิดเลย แต่ย้ายมาอยู่ตากได้หลายปีแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ย่าก็อยู่นครพนมนี่แระค่ะ
     
  13. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    อือม์ 1 ในกิริยาวัตถุ 10 ประการก็คือ อปจายนมัย คือ การให้ความเคารพบุคคลที่ควรเคารพ ตรงนี้จัดว่าเป็นบุญอย่างหนึ่ง
    และพระภิกษุสงฆ์ก็ถือว่าเป็นบุคคลที่ควรเคารพ เพราะฉะนั้นเวลาเข้าวัด อย่านุ่งสั้น เพราะท่านไม่ได้แสดงความเคารพออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ เพราะท่านเคารพอย่างจริงใจแล้ว ท่านจะระมัดระวังทั้งกาย วาจา ใจ อย่างยิ่ง และจะไม่ต้องมานั่งตั้งคำถามว่านุ่งสั้นเข้าวัด บาปหรือไม่บาป

    เมื่อประมาณปีที่แล้ว ผมไปวัดฉลอง จ.ภูเก็ต มีรถตู้คันหนึ่งวิ่งมาจอดที่ลานวัด พอประตูรถเปิดออก ฝรั่งผู้หญิงวัยรุ่นก้าวขาออกจากรถ เค้านุ่งสั้นครับ แต่พอเค้าลงจากรถปุ๊ป เค้าเอาผ้าที่เตรียมมาพันรอบขาอ่อนของตนเอง แล้วเข้าไปเที่ยวชมพระ ไปกราบหลวงพ่อแช่ม

    นั่นเค้าเป็นคนต่างชาตินะครับ ส่วนจะต่างศาสนาหรือเปล่า ไม่แน่ใจ ตัวอย่างนี้น่าจะสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง

    เฮ้อ .....
     
  14. afun

    afun Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +84
    @ คุณ lionking2512
    ไม่ถึงกับ คม ชัด ลึก ขนาดนั้นหรอกค่ะ อ่านแล้วแอบอมยิ้มเลย แบบว่าพูดไปตามที่เห็นน่ะค่ะ

    @ คุณน้ำ
    ฝันเป็นคนนาหว้าค่ะ อำเภอติดกันเลยนะคะ ตอนนี้ ทำงานที่โพนสวรรค์
    นาหว้ามีพระธาตุ ประจำวันเกิดคือวันพฤหัสบดี นะคะ ใครเกิดวันนี้ เชิญแวะมานมัสการได้ค่ะ ^_^
    ศรีสงคราม มีงานเด่นประจำปีคือเทศกาลกินปลา ใช่ไหมคะ เคยไปเมื่อปี 2551 เขาจะแห่ปลาที่ทำขึ้นเองตัวใหญ่โตมากเลย ทางไปสามผงเป็นทางเดียวกันกับไป บ้านหาดแพงด้วยใช่ไหมคะ มีวัดที่เป็นที่ศรัทธาของประชาชนด้วย เป็นวัดป่า อะไรสักอย่างนี้แหละค่ะ จำไม่ได้ แต่ ได้ยินข่าวเกี่ยวกับวัดที่นั่นบ่อยมาก

    ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
     
  15. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    สงสัยจะเจอฝรั่งคนนั้นคนเดียวแน่เลยที่ทำแบบนั้น
     
  16. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ มีอะไรไปคุยในกระทู้น้ำบ้างก็ได้นะค่ะ ในห้องประสบการณ์พระเครื่องค่ะ กระทู้เรื่องเล่าของน้ำค่ะ
     
  17. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ชอบคำตอบของคุณราคุเรียวซาย เพราะเป็นการสอนผู้หญิง อันได้ชื่อว่าเป็นศัตรูแห่งเพศพรหมจรรย์ให้ควรตระหนักว่าสิ่งใดควรสิ่งใดไม่ควร

    สุดท้ายอยากจะกล่าวถึงบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการอีก ข้อที่ 10 ข้อสุดท้ายก็คือ ทิฏฐชกรรม คือ บุญสำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ตรง

    ถามว่าทำไมข้อนี้มาเป็นข้อสุดท้าย ผมไม่มีคำตอบให้ แต่ตั้งเป็นข้อสังเกตว่าเอ้อ ทำไมไม่เป็นข้อที่ 1 ข้อที่ 5 ข้อที่ 7 แทนละ ?

    แต่ขอบอกไว้ว่า สิ่งที่ผมกลัวที่สุดในการสั่งสมบารมีนั้น มีอยู่ 2 อย่างคือ
    1 เป็นหนี้สงฆ์
    2 มีมิจฉาทิฐิ

    ขอยกตัวอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ได้บำเพ็ญเพียรต่างๆนานา แต่ก็ยังไม่ได้พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ จนในที่สุดพระองค์เกิดปัญญา หรือจะเรียกได้ว่า "มีสัมมาทิฐิ" ค้นพบ "มัชฌิมาปฏิปทา" ในการบำเพ็ญเพียร นั่นแหละ เป็นอานิงสงส์ของคำว่าสัมมาทิฐิละ

    เพราะฉะนั้น สัมมาทิฐิ จำให้ขึ้นใจนะครับ .........
     
  18. นิพ_พาน

    นิพ_พาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,984
    ค่าพลัง:
    +7,810
    คุณน้ำคะอย่างว่างั้นงี้เลย พี่ว่าคุณน้ำคงจะเข้าใจไปคนละทาง หรือคนแนวคิดแล้วค่ะ
    คุณบนนั้นเขาแค่ว่า ผมว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะมารณรงค์ต่อต้านการแต่งกายที่ล่อแหลม หมิ่นเหม่จริยธรรม แกคงหมายถึงดาราบางคนเท่านั้นคงไม่ได้ว่าทั้งหมดค่ะ

    ยิ่งโลกอินเตอร์เน็ตยิ่งกว้างไกลไร้ขอบเขต ถ้ามัวแต่หัวโบราณจนเกินงาม แบบนี้รสชาดของชีวิตจะมีหรอค่ะ ทำไมไม่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเอง
    ถ้าการที่คนเราแต่งตัวโชว์เนื้อหนังมังสา อย่างไม่อายฟ้าดิน นี่คือคนสมัยใหม่พี่ว่าพี่ยอมเป็นคนหัวโบราณดีกว่านะ อย่างน้อยๆคงไม่โดนใครข่มขืนทางสายตา
    แล้วทีวีมีไว้ทำไมค่ะ ทีวีเด๋วนี้ก็มีละครน้ำเน่าทุกช่อง
    นั่นซิคะ เดี๋ยวนี้ผู้จัดละครสมองทึบกันหมดหรือไงคะ ละครสร้างสรรค์ดีๆไม่เห็นมีให้ดูเลยค่ะ อย่างเช่นเรื่องอัตถาครองพิภพ อยู่กับก๋ง สี่แผ่นดิน กว่าจะรู้เรียงสา ละครสาระดีๆ ไม่ค่อยมีออกมาให้เด็กรุ่นใหม่ได้ดูกันเลยนะคะ มีแต่ละครผัวๆ เมียๆ ตบตีแย่งด่าทอกัน มิน่าวัยรุ่นสมัยนี้บางส่วนนะคะไม่ได้เหมารวมทุกคน ถึงได้มีแนวคิดแหวกแนว รับวัฒนาธรรมตะวันกันมากเกินงามค่ะ จนลืมไปแล้วว่าบรรพบุรุษโครตเหง้าของเรานั้นมี วัฒนธรรมไทยๆ ที่ดีเป็นเอกลักษณ์ของเราอยู่แล้วค่ะ วิวัฒนาการโลกเปลี่ยนไปไกลก็จริง แต่ก็รับเอาแต่ส่วนที่ดีของเขามาก็พอค่ะ อะไรที่มันเกินงามสำหรับสังคมไทยๆๆเราอย่าไปรับมาเลยค่ะ เพื่อวันหน้าวันหลังจะได้อบรมลูกหลานเหลนโหลนของเรา ให้รักษาประเพณีอันดีงามของไทยไว้ แม้ว่าบางอย่างจะดูว่าเชยหรือล้าสมัย แต่นั่นก็คือเอกลักษณ์ของชาติเราค่ะ
     
  19. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +705
    ตกลงบาปหรือป่าว สรุปได้ยังครับ ;enter
     
  20. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    830
    ค่าพลัง:
    +705
    เจตนาเป็นหลัก ทุกอย่างมีเหตุมีผลในตัวมัน ตัวอย่างนะครับ ขับรถอยู่หมาวิ่งตัดหน้ากระชั้นกระชิดชนอย่างจัง ผลหมาตาย ถามว่า บาปไหม หรือว่า กรรมของหมาเอง จะว่าบาปมันก็บาปแต่มันเป็นสายบุญสายกรรมที่ทำให้ต้องมาพบเหตุการณ์แบบนี้ อีกตัวอย่าง
    1-นายกอ เดินไม่ระวัง ไปเหยียบเท้านายขอ เข้า แล้วกล่าวคำขอโทษว่าไม่ได้เจตนา นายขอจะยกโทษให้ไหม จะโกรธไหม
    2-นายกอ ตั้งใจเดินไปเหยียบเท้านายขอ แล้วกล่าวคำว่ามีปัญหามั้ย แถมยังพูดว่ามองหน้าด่าพ่อหรือไง นายขอ จะยกโทษให้ไหมโดยถือว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะโกรธไหม(แก้แค้น) ซึ่งคำตอบก็รู้ ๆกันอยู่ ว่า ข้อ1 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร ข้อ2 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร (เป็นกรณีของสามัญชน ไม่ได้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมเพราะอาจจะลดความโกรธได้ไม่มากก็น้อย) ฉนั้นเจตนาเป็นหลักแน่นอน ส่วนตัวผมก็ว่าถ้าถามว่าเหมาะสมไหมแน่นอนย่อมไม่เหมาะสม แต่ไม่น่าจะบาปถ้าเจตนาไม่ได้เป็นไปทางด้านไม่ดี
    เคยได้ยินมาว่า ในอดีต มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง เอาแม่ที่แก่ชรามาอยู่ด้วย บิณฑบาตรได้อาหารมาก็เอาให้แม่กินก่อนแถมยังซักผ้าถุงเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวให้กับแม่อายน้ำให้อีก แล้วพระสงฆ์รูปอื่นที่เห็นก็ไปกราบทูลฟ้องพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงเรียกภิกษุรูปนั้นมาพบแล้วได้ไต่ถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พระสงฆ์รูปนั้นก็บอกว่าจริง พระพุทธเจ้ากับสรรเริญในความกตัญญูกตเวทีต่อมารดาของพระสงห์รูปนั้นเลย นี่ไงเจตนา ในเมื่อภิกษุต้องตัวหญิงไม่ได้ ถามว่ามันบาปไหม เนี่ยไง เจตนาท่านเป็นอย่างไรล่ะ พอจบเอวัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...