พระเทวเทพบรมโพธิสัตว์

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 28 กรกฎาคม 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ในกาลเมื่อสิ้นพระศาสนาของ พระรังสีมุนี แล้ว มัณฑกัปป์ที่ทรงพระพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์นั้นก็ล่วงลับดับสูญไป เกิดแผ่นดินขึ้นมาใหม่ ก็ชื่อว่ามัณฑกัปทรงพระพุทธเจ้าสองพระองค์เหมือนกัน คือสุภพราหมณ์บุตรแห่งโตไทยพราหมณ์นั้นคนหนึ่ง เป็นบรมโพธิสัตว์ จะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า พระเทวเทพสัพพัญญูฯ กับโตไทยพราหมณ์นั้นคนหนึ่งเป็นบรมโพธิสัตว์จะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า พระนรสีหสัพพัญญู ในมัณฑกัปป์อันเดียวกันฯ

    สุภพราหมณ์บรมโพธิสัตว์ จะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าก่อนนั้นทรงพระนามว่า พระเทวเทพ
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - มีสรีรกายสูงได้ ๘๐ ศอก [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - มีพระชนมายุยืนได้ ๘ หมื่นปี [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - ไม้จำปาเป็นพระมหาโพธิ
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - ประกอบด้วยพระพุทธรัศมียังโลกธาตุทั้งปวงให้สว่างรุ่งเรืองอยู่เป็นนิจจกาล ปราศจากฤดูเย็น และร้อน อันว่าฉัพพรรณรังสีทั้ง ๖ ประการ มีสัณฐานเปรียบเหมือนช่อฝักบัวเมื่อยังอ่อนๆ อยู่นั้น[/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]- ด้วยเดชะพุทธานุภาพ พื้นแผ่นปฐพีบังเกิดข้าวสาลี มีกลิ่นโอชารสหอมวิเศษ
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - และต้นไม้กัลปพฤกษ์ ประกอบไปด้วยสรรพสิ่งต่างๆ มนุษย์ทั้งหลายได้อาศัยบริโภคข้าวสาลีและประดับประดาสรีรกาย มิได้กระทำการถากไร่ไถนาค้าขาย ผิวพรรณแห่งมนุษย์ทั้งหลายนั้นก็งามผุดผ่องเป็นสีทองโดยปรกติ ถึงไม่แต่งตัวก็งามอยู่เองเป็นอัตรา ด้วยสรีรกายนั้นเหลืองเป็นสีทองเนื้อละเอียดเป็นอันดีงามฯ

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตร พระเทวเทพสัพพัญญูเจ้า ครั้งเมื่อเป็นบรมโพธิสัตว์ ได้สร้างพระบารมี ๑๐ ประการ บริบูรณ์ด้วยทานและศีล แต่กองพระบารมีครั้งหนึ่งเป็นยอดพระบารมี ปรากฏเป็นปรมัตถบารมีมกุฏทาน เหตุดังนั้นพระองค์จึงได้ซึ่ง พระพุทธสมบัติ เป็นอันมาก ตรัสดังนั้นแล้วจึงนำซึ่งอดีตนิทานมาตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่า...
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] อตีเต กาเล ในอดีตกาลล่วงลับไปแล้วช้านาน สุภพราหมณ์นี้เมื่อครั้งศาสนา สมเด็จพระโกนาคมน์สัมมาสัมพุทธเจ้า ได้บังเกิดเป็น พระยาฉัททันต์ ตัวประเสริฐ อาศัยอยู่แทบฝั่งฉัททันต์สระที่ป่าหิมพานต์ ครั้งหนึ่งพระอัญญาโกณฑัญญเถระเจ้า ผู้เป็นพระสาวกแห่งสมเด็จพระโกนาคมน์เจ้า มีพระชนมายุสังขารจวนจะสิ้นแล้ว เข้าสู่นิพพานแทบฝั่งฉัตรทันต์สระ ในกาลครั้งนั้น อันว่าพระยาช้างศรีเศวตมงคลขาวขาวสะอาดดังไกลาสเงินยวงเป็นอันงาม ก็มีความปรารถนาซึ่งพระสัพพัญญุตญาณ พระบรมฉัตรทันตชาติคชสารตัวประเสริฐ บังเกิดเป็นโพธิสัตว์เสพอาศัยอยู่ในขอบฝั่งสระนั้น ครั้นเที่ยวไปได้ทัศนานุตตริยาคุณเห็นกองบุญก็บังเกิดความยินดีโสมนัสที่ได้พบเห็นพระสรีรกายแห่งองค์พระขีณาสพ พระอัญญาโกณฑัญญเถระ พระยาช้างเผือกผู้โพธิสัตว์จึงตั้งจิตอธิษฐานลงว่า เราจะกระทำการปลงพระสรีรกายพระมหาสาวกนั้นในประเทศนี้ แล้วก็ร้องประกาศแก่ฝูงเทพยดาทั้งหลายว่า เชิญท่านมาช่วยด้วย อันว่ากองกุศลใดเราได้กระทำไว้แต่ชาติปางก่อนแม้นมีอยู่แล้วขอจงมาอุปถัมภกยกเอาเลื่อยทิพย์อันหนึ่งมาให้ในสำนักแห่งเรา ด้วยเดชะกองกุศลของพระยาช้างตั้งจิตอธิษฐานดังนั้น อันว่าเลื่อยทิพย์ก็บันดาลลอยมาตกลงตรงหน้าแห่งพระยาช้าง พระยาช้างก็ตัดงาทั้งสองให้ขาด แล้วก็เอางาของตัวข้างหนึ่งกระทำเป็นโกศ อีกข้างหนึ่งกระทำเป็นรูปนกยูงทองประดับเป็นอันงาม จะกระทำฌาปนกิจเผาสรีรกายพระขีณาสพนั้นฯ [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]จึงมีคำพระอาจารย์กล่าวโจทย์ว่า พระยาช้างฉัตรทันต์เป็นชาติเดียรฉาน เหตุดังฤาจึงเอางาของอาตมากระทำเป็นโกศ มีรูปนกยูงทองประดับเป็นอันงามได้ พึงให้นักปราชญ์ผู้มีปัญญากล่าววิสัชนาแก้ด้วยประการดังนี้ว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]พระยาช้างฉัตรทันต์นั้นเป็นสัตว์เดียรัจฉานก็จริงแล แต่ว่าเป็นบรมโพธิสัตว์ก่อสร้างพระบารมีมามากแล้ว เดชะพระบารมีทั้งหลายของพระยาช้างก็ร้อนขึ้นไปถึงอาสน์แห่งสมเด็จอมรินทราธิราช จึงมีเทวบัญชาสั่งพระวิษณุกรรมเทพบุตร ให้ลงมานิรมิตสรรพการเครื่องฌาปนกิจทั้งปวงสำเร็จแล้ว

    ครั้งนั้นพระยาช้างแก้วก็ถอนเอาผมในศีรษะของอาตมากระทำเป็นไส้ประทีปตามถวายเป็นเครื่องสักการบูชา ฝ่ายว่าช้างบริวารทั้งหลายก็มาประชุมแวดล้อมพร้อมกันทั้ง ๘ หมื่น ๔ พัน กระทำสมโภชรื่นเริงบันเทิงใจเล่นเป็นโกลาหลด้วยพวกพลช้างนั้นถ้วนถึง ๗ วัน แล้วก็เชิญอสุภกัมมัฏฐาน คือพระกเฬวระสรีรกายพระขีณาสพเจ้าออกจากโกศยกขึ้นวางในรูปนกยูงทอง จึงเอาแก่นจันทร์แดงมีกลิ่นอันหอมลงรองเรียบไว้เป็นอันดี แล้วก็ตั้งลงซึ่งพระอสุภกัมมัฏฐานแห่งองคืพระขีณาสพเจ้า แล้วจึงเชิญขึ้นวางไว้บนเศียรเกล้าของอาตมา แล้วก็เอาเพลิงจุดเผาพระศพสรีร ณ เบื้องบนแห่งศีรษะตนนั้น ครั้นเตโชธาตุเผาผลาญสังหารพระสรีรศพย่อยยับลงแล้ว รูปนกยูงทองที่เป็นเชิงตะกอนซึ่งตั้งอยู่บนศีรษะพระยาช้างนั้น ก็ประดุจดังว่ามีจิตวิญญาณแล้วก็บินไปบนอากาศเวหา อันว่าอสุภกัมมัฏฐานแห่งองค์พระขีณาสพเจ้านั้นก็อันตรธานสาบสูญหายไปสิ้น มิได้มีเศษแต่พระสรีรธาตุทั้งหลายนั้นตกลงเรี่ยรายอยู่บนแผ่นดิน ในที่นั้นฝูงเทพยดาทั้งหลายก็ตกแต่งเจดีย์บรรจุพระสรีรธาตุไว้

    ในกาลนั้นพระยาช้างฉัตรทันต์จึงกระทำปณิธานความปรารถนาว่า
    เดชะที่ข้าพเจ้าได้เลื่อยงาทั้ง ๒ ของข้าพเจ้ากระทำเป็นเครื่องสักการบูชาพระอสุภกัมมัฏฐานของพระสาวกเจ้านี้ ขอให้เป็นปัจจัยได้สำเร็จแก่พระสร้อยเพชชุดาญาณ ในอนาคตกาลเถิดฯ
    [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [/FONT]
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] ครั้นพระยาช้างสิ้นชีวิตก็ได้ขึ้นไปบังเกิดในดุสิตเทวโลก เป็นเทพบุตรเสวยทิพยสมบัติในวิมานอันเกษมนิราศภัยฯ

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตรผู้เจริญ อันว่าสุภพราหมณ์นี้ แต่ครั้งพระโกนาคมน์เจ้าได้ก่อสร้างพระบารมีดังนี้ จะได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งทรงพระนามว่า พระเทวเทพสัพพัญญูผู้ประเสริฐในอนาคตกาลโน้น แสดงมาด้วยเรื่องราวพระสุภพราหมณ์บรมโพธิสัตว์คำรบ ๗ ก็ยุติแต่เพียงเท่านี้
    [/FONT]

    http://sites.google.com/site/sphrathewtheph/-1
     
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณที่นำมาให้อ่านค่ะ
     
  3. บุตรพระแม่อนุตตรธรรม

    บุตรพระแม่อนุตตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +428
    พระโพธิสัตว์ ไม่ยึดมั่นถือมั่น ในสิ่งต่างๆในปุคคลักษณะ อาตมลักษณะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...