น้ำใจพระนาง "ยโสธราพิมพา" พระนางแก้วในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Starpegasus, 11 มกราคม 2009.

  1. Starpegasus

    Starpegasus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    252
    ค่าพลัง:
    +826
    พอดีได้อ่าน "เรื่องจริงอิงนิทาน (พิเศษ)" ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เป็นตอนที่หลวงพ่อท่านเล่าพระพุทธประวัติ ถึงตอนหนึ่งรู้สึกซึ้งมากๆในน้ำใจของ "พระนางแก้ว" ผู้บำเพ็ญบารมีคู่พระโพธิสัตว์ เป็นสมัยที่พระพุทธเจ้าทรงเสด็จไปโปรดพระยูรญาติ ณ เมือง กบิลพัสดุ์ และได้พบกับพระนางยโสธราพิมพาเป็นครั้งแรก หลังจากที่ไม่ได้พบกันตั้งแต่วันที่พระองค์ได้ตัดสินใจเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์ จะเป็นอย่างไร ลองอ่านดูครับ

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CJoe%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <o:DocumentProperties> <o:Author>พิมพ์โดยคุณชัยกฤษณ์ pdf by praruttanatri.com</o:Author> <o:Version>11.6568</o:Version> </o:DocumentProperties> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> [FONT=&quot]"เมื่อองค์สมเด็จพระชินวรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนาโปรดหมู่พระประยูรญาติ อันมีพระราชบิดา คือพระเจ้าสุทโธทนะมหาราชเป็นประธานแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทรงระลึกพระนางพิมพาที่เป็นคู่บารมีกันมา นับตั้งแต่เอนกชาติ คือ ตั้งแต่เริ่มต้นที่องค์สมเด็จพระทศพลทรงปรารถนาพระโพธิญาณ พระนางพิมพาก็เข้าไปตั้งปณิธานปรารถนาต่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ว่าปรารถนาเป็นคู่บารมีขององค์สมเด็จพระชินสีห์จนกว่าจะบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ[/FONT]

    [FONT=&quot]และก็พระเจ้าสุทโธทนะมหาราชกับพระนางสิริมหามายาราชเทวี เวลานั้นก็เป็นชาวบ้านธรรมดา ต่างคนต่างก็เข้าไปเฝ้าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าองค์นั้น ว่าขอเป็นพระพุทธบิดา ขอเป็นพระพุทธมารดาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีเด็กชายคนหนึ่งเข้าไปเฝ้าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ว่าขอเป็นราชโอรส เป็นลูกติดตาม[/FONT]

    [FONT=&quot]นี่เป็นอันว่าสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทราบความจริงว่า ยอดหญิงพิมพาเป็นคู่บารมีกันมาตั้งแต่ต้นจนอวสาน การแสดงพระธรรมเทศนาโปรดหมู่พระประยูรญาติและสมเด็จพระราชบิดาคราวนั้นปรากฏว่า พระนางพิมพาไม่ยอมไปฟังเทศน์ มีคนไปกราบทูลให้ทรงทราบ พระนางก็ตรัสว่า "ในเมื่อพระลูกเจ้าเสด็จมาถึงประเทศนี้แล้ว และองค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทรงรู้จักตำหนักนี้ดี เคยอยู่มาก่อน ถ้าองค์สมเด็จพระชินวรไม่เสด็จมาโปรดเราถึงที่ เราก็ไม่ไป"[/FONT]

    [FONT=&quot]นี่เพราะอาศัยน้ำใจที่พระนางมีความรัก ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าทรงปฏิบัติแต่ครั้นองค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์เสด็จมา พระนางก็เกิดการน้อยใจว่า ตำหนักนี้เคยอยู่ ทำไมองค์สมเด็จพระบรมครูจึงไม่มาเทศน์โปรดสอนเราถึงตำหนัก เมื่อท่านไม่มาเราก็ไม่ไป[/FONT]

    [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดา ทรงรู้น้ำพระทัยของพระนางพิมพาดี องค์สมเด็จพระชินสีห์จึงทรงตั้งใจจะไปโปรดพระนางพิมพาถึงตำหนักที่อยู่ และองค์สมเด็จพระบรมครูก็ทรงทราบว่า การไปคราวนี้ พระนางพิมพาอาศัยที่มีความรักความอาลัยอยู่เดิมจะเข้ามากอดที่ขาของพระองค์แล้วก็พร่ำรำพันถึงความทุกข์ และความรักในอดีต กิจนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาของสตรี แต่ถ้าเราจะห้ามพิมพาไม่ให้ทำอย่างนี้ การบำเพ็ญบุญบารมีมาถึงสี่อสงไขยกับแสนกัป ความจริงพระนางพิมพาไม่เคยทำบุญด้วยตนเองเลย มีอย่างเดียวเราทำอะไร เธอยินดีด้วยช่วยโมทนา เป็นปัตตานุโมทนามัย หากว่าเราห้ามพิมพาไม่ให้มากอดขาเราแล้วไซร้ พิมพาจะอกแตกตาย ไม่ได้บรรลุมรรคผล เป็นอันว่าผลที่ติดตามมาถึงสี่อสงไขยกับแสนกัปก็จะไม่เกิดผล ถ้าเราห้ามเธอไม่ให้มากอดขาเรา[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อองค์สมเด็จพระทศพลทรงตัดสินพระทัยว่าเรื่องอย่างนี้จะเกิดขึ้นมาก็ "ไม่เป็นไร เพราะจิตใจของเราไม่มีกิเลสแล้ว" แต่องค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็ทรงมีความไม่ประมาท (ไม่ใช่ว่า ไม่มีกิเลสแล้วจะทำอะไรก็ได้ ไม่เกรงใจคนที่อยู่ในโลกีย์วิสัยจะติฉินนินทาเพราะว่า นินทาปสังสา เป็นธรรมดาของชาวโลก แม้จะกล่าวโดยธรรมจะมีผลไม่ใหญ่ แต่ทางคดีโลกนี้ไซร้มีผลใหญ่มาก คือคนใดก็ตามที่ถูกนินทาว่าร้าย กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ กว่าที่เขาจะรู้ว่าคนที่ถูกนินทาเป็นคนบริสุทธิ์ เป็นคนดี ดีไม่ดีชาวบ้านชาวเมืองก็หลงเกลียดหลงโกรธไปนับเวลาเป็นแรมเดือน ซึ่งเราท่านทั้งหลายก็คงเคยโดยมาบ้างเหมือนกัน)[/FONT]

    [FONT=&quot]เป็นอันว่า เมื่อองค์สมเด็จพระทศพลทรงทราบตามความเป็นจริงแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วจึงได้ทรงชวนพระโมคคัลลาน์และพระสารีบุตร ๒ ท่านไปเป็นเพื่อน เพื่อเป็นพยาน คือให้ทั้งสองท่านรับทราบไว้ด้วยจะได้ช่วยแก้ความเข้าใจผิดของคนต่อภายหลัง ขณะที่เดินไประหว่างทางยังไม่ถึงตำหนักของพระนางพิมพาราชเทวี สมเด็จพระชินสีห์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า "พระสารีบุตร และพระโมคคัลลาน์ ถ้าเราทั้งสามเจ้าไปในตำหนักของพระนางพิมพาแล้ว ถ้าพระนางพิมพาจะมากอดขาเรา ขอเธอทั้งสองจงอย่าห้าม และขอจงเข้าใจว่า เวลานี้จิตใจของตถาคตน่ะไม่มีอะไรแล้ว แต่ทว่ามีความห่วงใยในพระนางพิมพา ถ้าเธอทั้งสองห้าม เธอไม่มีโอกาสเข้ามากอดขาเรา เธอจะอกแตกตาย เพราะการบำเพ็ญบารมีมาในกาลก่อนไซร้ เธอไม่ได้ทำเอง มีหน้าที่อย่างเดียว คือ โมทนาความดีที่ตถาคตทำ ฉะนั้น การบรรลุมรรคผลของพระนางพิมพาจึงต้องเนื่องด้วยตถาคต จะหาทางช่วยตัวเองให้บรรลุมรรคผลนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้"[/FONT]

    [FONT=&quot]พระสารีบุตร พระโมคคัลลาน์ท่านเป็นพระอรหันต์ ท่านเข้าใจว่าเรื่องการจับต้องเนื้อ จับต้องการเพื่อราคะ มันไม่มีแก่พระอรหันต์[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อพระนางพิมพาทราบจากเจ้าพนักงาน ก่อนที่องค์สมเด็จพระพิชิตมารจะเสด็จไป พระนางพิมพาก็ดีใจ หายจากความทุกข์โศก ชำระร่างกายให้สะอาด และทราบว่าสมเด็จพระบรมโลกนาถยังทรงเครื่องย้อมน้ำฝาก พระนางนาถก็ทรงแต่งตามนั้น แล้วโกนศีรษะเหมือนกับพระทุกท่าน ดู ๆ ไป ก็คล้ายกับนางภิกษุณี แต่ตอนนั้นยังไม่มี เมื่อพระนางทราบข่าวสมเด็จพระชินสีห์จะเสด็จไป ก็ให้สาวใช้ทำสถานที่ให้สะอาด มีอะไรที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยชอบใจในกาลก่อน พระนางก็สั่งทำเพื่อองค์สมเด็จพระชินวรทั้งหมด[/FONT]

    [FONT=&quot]ครั้นเมื่อองค์สมเด็จพระบรมสุคตเสด็จเข้าไปแล้ว นางแก้วก็เข้ามากอดขาร้องไห้เหมือนกัน ตามที่องค์สมเด็จพระภควันต์ตรัสไว้ เมื่อพระนางสร่างจากความโศกแล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว จึงได้มีพระพุทธฎีกาสั่งสอนพระนางพิมพาว่า[/FONT]

    "[FONT=&quot]เธอจงอย่าคิดอาลัยในร่างกายและชีวิต เพราะที่ตถาคตออกสู่มหาภิเนษกรมณ์ไม่ได้โกรธ ไม่ได้เกลียดเธอ แต่มีความหวังอยู่อย่างเดียวว่า ถ้าเราจะทรงชีวิตอยู่ตามธรรมดาของบุคคลธรรมดา เรื่องการเกิด แก่ เจ็บ ตาย แบบนี้ มันจะหาที่สุดไม่ได้ ทั้งนี้ เพราะการเสวยราชสมบัติเป็นกษัตริย์มันก็มีสภาพไม่พ้นเหมือนบุคคลธรรมดา คือ กษัตริย์ก็ดี ยาจกเข็ญใจก็ดี คนธรรมดาก็ดี มีความเกิดขึ้นมาเป็นเบื้องต้น ร่างกายก็เสื่อมโทรมไปตามลำดับในท่ามกลาง ในที่สุดต่างคนก็ต่างตายเหมือนกัน ชีวิตการเกิดและการตายของสองเรานี้นั้นนับชาติไม่ถ้วน ล้วนแล้วแต่การเกิดมาครั้งใดก็มีแต่ความเหน็ดเหนื่อยร่างกาย[/FONT] [FONT=&quot]เหน็ดเหนื่อยใจ[/FONT] [FONT=&quot]และในที่สุดเราก็ต้องตายกัน[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าหากเราจะต้องเกิดมาแล้วก็ตายกันอย่างนี้ไปเรื่อย[/FONT] [FONT=&quot]ๆ[/FONT] [FONT=&quot]หาที่สิ้นสุดไม่ได้แล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ขึ้นชื่อว่า[/FONT] [FONT=&quot]ความสุขใจ[/FONT] [FONT=&quot]มันก็ไม่มี[/FONT]”

    “[FONT=&quot]เวลานี้พี่คือตถาคตได้เข้าถึงการจบแห่งการเวียนว่ายตายเกิดสำหรับตถาคตไม่มี[/FONT] [FONT=&quot]แดนที่จะพึงไป[/FONT] [FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]พระนิพพาน[/FONT] [FONT=&quot]เป็นแดนอมตะ[/FONT] [FONT=&quot]หาความตายไม่ได้[/FONT] [FONT=&quot]และเป็นแดนที่มีความสุขที่สุดที่เรียกว่า[/FONT] [FONT=&quot]เอกันตบรมสุข[/FONT] [FONT=&quot]เป็นความสุขอย่างเลิศประเสริฐกว่าความสุขใด[/FONT] [FONT=&quot]ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ที่จะพึงหาได้ในวัฏสงสาร[/FONT] [FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]ความสุขในการเป็นมนุษย์ก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ความสุขในการเป็นเทวดาก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ความสุขในการเป็นพรหมก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ยังสุขไม่เท่ากับความสุขในพระนิพพาน[/FONT]”

    “[FONT=&quot]ฉะนั้น[/FONT] [FONT=&quot]ขอน้องหญิงพิมพาราชเทวี[/FONT] [FONT=&quot]ซึ่งเป็นคู่บารมีของตถาคตมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของเธอจงทรงไว้ซึ่งสัจจธรรม[/FONT] [FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]ความดี[/FONT] [FONT=&quot]ตอนต้นให้คิดถึงกฎของธรรมดา[/FONT] [FONT=&quot]มองดูร่างกายของเรา[/FONT] [FONT=&quot]ร่างกายของเธอเมื่อก่อนนี้เป็นเด็ก[/FONT] [FONT=&quot]ต่อมาเป็นวัยสาว[/FONT] [FONT=&quot]เวลานั้นสวยสดงดงามเป็นอย่างยิ่ง[/FONT] [FONT=&quot]จะหาหญิงใดมีผิวพรรณผุดผ่องสวยงามเสมอเหมือนนั้นแสนยาก[/FONT] [FONT=&quot]แต่ทว่าเวลานี้เราสองคนด้วยกันต่างคนต่างก็มีอายุเกินกว่า[/FONT] [FONT=&quot]๓๐[/FONT] [FONT=&quot]ปี[/FONT] [FONT=&quot]และจะ[/FONT] [FONT=&quot]๔๐[/FONT] [FONT=&quot]ปีแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]จงมาดูว่าเราสองคนนี่[/FONT] [FONT=&quot]ยังคงสดสวย[/FONT] [FONT=&quot]มีผิวพรรณผ่องใส[/FONT] [FONT=&quot]ยังเป็นหนุ่มเป็นสาวเหมือนสมัยก่อนหรือไม่[/FONT]”

    [FONT=&quot]ขณะเมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตรทรงเทศน์[/FONT] [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ก็มีการแสดงภาพของพระองค์ให้เศร้าหมอง[/FONT] [FONT=&quot]พระนางพิมพาก็มองหน้าพระพุทธเจ้า[/FONT] [FONT=&quot]มองทั่วทั้งพระวรกาย[/FONT] [FONT=&quot]เห็นว่าพระรูปพระโฉมขององค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาค่อย[/FONT] [FONT=&quot]ๆ[/FONT] [FONT=&quot]เหี่ยว[/FONT] [FONT=&quot]ค่อย[/FONT] [FONT=&quot]ๆ[/FONT] [FONT=&quot]แห้งลงมาทีละน้อย[/FONT] [FONT=&quot]ๆ[/FONT] [FONT=&quot]ก็สลดใจ[/FONT] [FONT=&quot]แล้วก็มองดูกายของพระนางเองเล่า[/FONT] [FONT=&quot]ก็พบว่า[/FONT] [FONT=&quot]โอหนอ[/FONT] [FONT=&quot]กายของเรานี้ก่อนที่องค์สมเด็จพระชินสีห์จะเสด็จออกมหาภิเนษกรมณ์[/FONT] [FONT=&quot]ร่างกายของเราเป็นที่น่านิยมน่าชื่นชมมีความน่ารักน่าชื่นใจ[/FONT] [FONT=&quot]เพราะมีความผ่องใสในผิวพรรณ[/FONT] [FONT=&quot]และเนื้อหนังนี้นั้นก็เต็มไปด้วยความอวบอัดเต่งตึงน่ารัก[/FONT] [FONT=&quot]แต่ทว่าระหว่างนี้ร่างกายของเราก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ร่างกายขององค์สมเด็จพระชินสีห์ก็ดีรู้สึกว่าเศร้าหมองลงไปมาก[/FONT] [FONT=&quot]ฉะนั้นพระธรรมเทศนาที่องค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าซึ่งเคยเป็นพระสวามีเรานี้เทศน์เป็นความจริง[/FONT]

    [FONT=&quot]เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเห็นพิมพายอดหญิง[/FONT] [FONT=&quot]มองเห็นตามความเป็นจริงแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระประทีปแก้วจึงได้กล่าวต่อไปว่า[/FONT] "[FONT=&quot]พิมพา[/FONT] [FONT=&quot]เราไม่ใช่ว่าเกิดมาแล้วแก่เท่านี้[/FONT] [FONT=&quot]จงดูหมู่พระประยูรญาติผู้ใหญ่ของเราดูชั้นปู่[/FONT] [FONT=&quot]ชั้นย่า[/FONT] [FONT=&quot]ชั้นตา[/FONT] [FONT=&quot]ชั้นยาย[/FONT] [FONT=&quot]ไปถึงชั้นทวดของเราก็ได้[/FONT] [FONT=&quot]ที่เรารู้จักชื่อท่านทั้งหลายนั้นร่างกายของท่านอยู่ที่ไหน[/FONT] [FONT=&quot]ในที่สุดท่านก็ต้องตายไปหมดทุกคน[/FONT] [FONT=&quot]เราเองซึ่งมีความเกิดขึ้นในเบื้องต้น[/FONT] [FONT=&quot]มีความแก่ในท่ามกลาง[/FONT] [FONT=&quot]ในที่สุดเราก็ต้องตาย[/FONT]

    [FONT=&quot]ฉะนั้น[/FONT] [FONT=&quot]นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปขอพิมพาน้องหญิง[/FONT] [FONT=&quot]จงอย่าสนใจในร่างกายของพี่[/FONT] [FONT=&quot]และก็จงอย่าสนใจในร่างกายของเธอ[/FONT] [FONT=&quot]และก็จงอย่าสนใจในร่างกายของบุคคลใดทั้งหมด[/FONT] [FONT=&quot]จงกำหนดจิตว่า[/FONT] [FONT=&quot]ร่างกายนี้ไม่ช้าก็ต้องสลายตัว[/FONT] [FONT=&quot]เพื่อทำให้กำลังใจเป็นสุข[/FONT] [FONT=&quot]พิมพา[/FONT] [FONT=&quot]จงนึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัยทั้งสามประการ[/FONT] [FONT=&quot]คือ[/FONT] [FONT=&quot]พระพุทธรัตนะ[/FONT] [FONT=&quot]พระธรรมรัตนะ[/FONT] [FONT=&quot]พระสังฆรัตนะ[/FONT] [FONT=&quot]สามประการนี้ให้ประจำใจของพิมพาราชเทวี[/FONT] [FONT=&quot]เธอจะมีความสุข[/FONT] [FONT=&quot]และหลังจากนั้นจงปฏิบัติในศีลห้าประการให้เคร่งครัด[/FONT] [FONT=&quot]และปฏิบัติให้เป็นอัตโนมัติ[/FONT] [FONT=&quot]คือเป็นปกติ[/FONT] [FONT=&quot]จิตนี้คิดไว้เสมอว่า[/FONT] [FONT=&quot]ถ้าตายจากชาตินี้ไปแล้ว[/FONT] [FONT=&quot]ขึ้นชื่อว่า[/FONT] [FONT=&quot]มนุษยโลกก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]เทวโลกก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]พรหมโลกก็ดี[/FONT] [FONT=&quot]ไม่มีสำหรับเรา[/FONT] [FONT=&quot]สิ่งที่เราต้องการนั่นก็คือพระนิพพาน[/FONT]"

    [FONT=&quot]เมื่อองค์สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเทศน์จบ[/FONT] [FONT=&quot]ก็ปรากฏว่า[/FONT] [FONT=&quot]พระนางพิมพาราชเทวี[/FONT] [FONT=&quot]ได้บรรลุโสดาปัตติผล[/FONT] [FONT=&quot]เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอารมณ์แห่งความข้องใจที่คิดว่า[/FONT] [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทอดทิ้งพระนางก็หมดไป[/FONT] [FONT=&quot]กราบขอขมาโทษต่อองค์สมเด็จพระจอมไตรในกรที่พระนางล่วงเกินด้วยประการทั้งปวง[/FONT] [FONT=&quot]สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ทรงมีพระพุทธอภัยให้แก่พระนางพิมพา[/FONT]

    [FONT=&quot]หลังจากนั้น[/FONT] [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพร้อมไปด้วยพระโมคคัลลาน์[/FONT] [FONT=&quot]พระสารีบุตรก็เสด็จกลับยังที่ประทับคือ[/FONT] [FONT=&quot]มหาวิหารที่พระเจ้าสุทโธทนะมหาราชจัดถวายไว้[/FONT] [FONT=&quot]ต่อมาอีกนานเท่าไรไม่ทราบชัด[/FONT] [FONT=&quot]องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ก็ได้เทศน์โปรดพระนางพิมพาราชเทวีจนได้บรรลุอรหัตผลเป็นพระอริยบุคคลสูงสุดในพระพุทธศาสนา[/FONT] [FONT=&quot]และปรากฏว่าท่านได้เข้าพระนิพพานก่อนองค์สมเด็จพระบรมศาสดาจะปรินิพพาน[/FONT]

    [FONT=&quot]สำหรับพระราหุล[/FONT] [FONT=&quot]ราชโอรสนั้นองค์สมเด็จพระภควันต์ทรงให้บวชเณร[/FONT] [FONT=&quot]และต่อมาก็บรรลุอรหัตผลเช่นกัน[/FONT] [FONT=&quot]และก็เข้าพระนิพพานก่อนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นเดียวกับพระนางพิมพา[/FONT] [FONT=&quot]และพระเจ้าสุทโธทนะมหาราช[/FONT]"

    บุญกุศลความดีจากการเผยแผ่จะพึงมีพึงได้ประการใด ขอถวายบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม พระนางยโสธราพิมพา หลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระรัตนตรัย

    อุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายในวัฎฎะสงสารจะใช่ญาติหรือไม่ใช่ญาติก็ดี จะอยู่ภพภูมิใดก็ดี ขอให้เจริญในธรรม มีนิพพานเป็นที่ไปแน่วแน่โดยทั่วกัน โดยฉับพลันเทอญ

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CJoe%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <o:DocumentProperties> <o:Author>พิมพ์โดยคุณชัยกฤษณ์ pdf by praruttanatri.com</o:Author> <o:Version>11.6568</o:Version> </o:DocumentProperties> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Angsana New"; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:"Cordia New"; panose-1:2 11 3 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-alt:"Cordia New"; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65537 0;} @font-face {font-family:AngsanaUPC; panose-1:2 2 6 3 5 4 5 2 3 4; mso-font-alt:AngsanaUPC; mso-font-charset:222; mso-generic-font-family:roman; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:16777219 0 0 0 65536 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; mso-bidi-font-size:14.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Angsana New";} @page Section1 {size:595.3pt 841.9pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:35.4pt; mso-footer-margin:35.4pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มกราคม 2009
  2. AddWassana

    AddWassana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    11,698
    ค่าพลัง:
    +21,186
    ขออนุโมทนาสาธุ "พระนางแก้ว" ผู้บำเพ็ญบารมีคู่พระโพธิสัตว์..."
     
  3. ณฐพัฒนศักดิ์

    ณฐพัฒนศักดิ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +60
    อ่านแล้วซึ้งใจมากครับ
    ในความรักที่พระนางพิมพามีต่อพระพุทธเจ้า

    ขออนุโมทนาครับ
     
  4. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    อนุโมทนา สาธุ ในบุญที่พระนางพิมพาได้กระทำนี้ด้วยน้ำพระทัยที่แน่วแน่ค่ะ สมเป็นยอดหญิงนางแก้ว จริงๆ

    [​IMG]
     
  5. ร่มโมกข์

    ร่มโมกข์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +67
    ขอข้าพเจ้าพึงมีส่วนบุญที่ท่านได้กระทำแล้วด้วยเถิด สาธุ.....
     
  6. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +1,453
    ถ้าไม่มีนางแก้ว จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างไร
     
  7. coolz

    coolz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +1,337
    สาธุ...

    นางแก้วต้องรักและมั่นคงในพระโพธิสัตว์ แต่สิ่งที่นางจะรักมากกว่าคือรักมวลมหาสรรพสัตว์ ...............

    เช่นนั้นแล้วจึงเป็นแรงหนุนให้พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี เพื่อมุ่งเข้าสู่พระโพธิญาณ.............
     
  8. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471

    กราบนอบน้อม องค์พระแม่เจ้าฯ อยู่เหนือเศียรเกล้า
    ขอมีส่วนแห่งพระสัทธรรม ที่องค์พระแม่เจ้าบรรุลแจ้งแล้ว
    สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

    อนุโมทนา ท่านเจ้าของกระทู้ค่ะ
     
  9. หัสดี

    หัสดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +173
    พระยโสธราพิมพาปรินิพพาน

    พระนางพิมพา เป็นพระนามของชายาเจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งต่อมาได้เสด็จออกบรรพชา
    และได้ตรัสรู้เป็นพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนางเป็นที่รู้จักในหลายพระนาม
    คือ ยโสธรา ยโสธราพิมพา ภัททา กัจจานา และภัททากัจจานา

    พระนางพิมพานั้นได้เริ่มต้นติดตามเป็นคู่รักคู่บารมีพระโพธิสัตว์ มาตั้งแต่ครั้งต้น ๔ อสงไขยกับเศษแสนมหากัปก่อน ได้ร่วมสุข ร่วมทุกข์ ได้ร่วมสร้างบุญบารมีมากับพระโพธิสัตว์ยาวนานกว่าสตรีอื่น
    บางชาติ พระนางพิมพาก็เกิดมาเป็นเพียงหญิงชาวบ้านฐานะต่ำต้อย แต่บางชาติก็ได้เกิดเป็นนางแก้วชายาของพระบรมจักรพรรดิ แต่ไม่ว่าจะเกิดมาในฐานะใด ในฐานะที่เป็นคู่บารมี พระนางพิมพาก็ต้องมีความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ คือ ต้องเกิดเป็นหญิงซึ่งถือเป็นอภัพฐานะมาโดยตลอด ต้องเสียสละทรัพย์เพื่อช่วยพระโพธิสัตว์บริจาคทาน ต้องเสียสามีอันเป็นที่พึ่งเมื่อพระโพธิสัตว์ต้องออกบวช ต้องเสียบุตรธิดา และแม้แต่ต้องเสียชีวิตและร่างกายตนเอง เพื่อให้พระโพธิสัตว์บริจาคเป็นมหาทาน
    ความเสียสละและความทุกข์ยากทั้งปวงของพระนางพิมพา ได้เปิดเผยออกมาจากวาจาของพระนางเอง เมื่อพระนางในเพศพระอรหันต์ได้กราบทูลลาพระพุทธเจ้าเสด็จเข้านิพพาน ว่า

    "... ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า เมื่อหม่อมฉันท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร หากมีความพลั้งพลาดใดในพระองค์ ขอพระองค์ทรงโปรดประทานโทษแก่หม่อมฉันด้วยเถิด

    ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันชื่อ ยโสธรา เป็นปชาบดีของพระองค์

    ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันเมื่ออยู่ในพระราชวังของพระองค์ ได้เป็นประธานใหญ่กว่าหญิงทั้งปวง สมบูรณ์ด้วยรูปสมบัติ และอาจารสมบัติ นารีทั้งมวลเคารพหม่อมฉันเหมือนพวกมนุษย์เคารพเทวดา

    ข้าแต่พระมหามุนี อธิการเป็นอันมากของหม่อมฉันย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ ข้าแต่พระมุนีมหาวีรเจ้า ขอพระองค์พึงทรงระลึกถึงกุศลกรรมเก่าของหม่อมฉันเถิด

    ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันสั่งสมบุญไว้เพื่อประโยชน์แก่พระองค์

    ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันงดเว้นอนาจารในสถานที่ไม่ควร แม้ชีวิตก็ยอมสละเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ได้

    ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อให้เป็นภรรยาผู้อื่นหลายพันโกฏิกัป เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย

    ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่ออุปการะหลายพันโกฏิกัป เพื่อประโยชน์แก่พระองค์ หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย

    ข้าแต่พระมหามุนี พระองค์ประทานหม่อมฉันเพื่อประโยชน์เป็นอาหารหลายพันโกฏิกัป หม่อมฉันมิได้เสียใจในเรื่องนั้นเลย หม่อมฉันบริจาคชีวิตหลายพันโกฏิกัป เพื่อให้ประชุมชนพ้นจากภัย ก็ยอมสละชีวิตของหม่อมฉันให้

    ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันย่อมไม่เคยหวงเครื่องประดับและผ้านานาชนิดซึ่งอยู่ที่ตัว เพื่อประโยชน์แก่พระองค์

    ข้าแต่พระมหามุนี ทรัพย์ ข้าวเปลือก ปัจจัย เครื่องบริจาค บ้าน นิคม ไร่นา บุตร ธิดา ช้าง ม้า โค ทาสี ทาสา มากมายนับไม่ถ้วน พระองค์ทรงบริจาคแล้วเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ พระองค์ทรงตรัสบอกหม่อมฉันว่า เราย่อมให้ทานพวกยาจก เมื่อเราให้ทานอันอุดม เราย่อมไม่เห็นเธอเสียใจ
    ข้าแต่พระมหามุนี หม่อมฉันยอมรับทุกข์มากมายหลายอย่างจนนับไม่ถ้วนเพื่อประโยชน์แก่พระองค์ ข้าแต่พระมหามุนีหม่อมฉันได้รับสุขย่อมอนุโมทนา และในคราวที่ได้รับทุกข์ก็ไม่เสียใจ เป็นผู้ยินดีแล้วในที่ทุกแห่งเพื่อประโยชน์แก่พระองค์
    หม่อมฉันมีอายุ ๗๘ ปี ล่วงเข้าปัจฉิมวัย ถึงความเป็นผู้มีกายเงื้อมลงแล้ว ขอกราบทูลลาพระมหามุนี หม่อมฉันมีวัยแก่ มีชีวิตน้อย จักละพระองค์ไป มีที่พึ่งของตนได้ทำแล้ว มีมรณะใกล้เข้ามาในวัยหลัง
    ข้าแต่พระมหาวีรเจ้า หม่อมฉันจักถึงความดับในคืนวันนี้ มิได้มีชาติ ชรา พยาธิ และมรณะ จักไปสู่นิพพานที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง เป็นบุรีอันไม่มีความแก่ ความตายและไม่มีภัย...." <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=1 borderColor=#ffffff cellPadding=5 width=250 bgColor=#f4f4f4 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff align=middle>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25>buddha_1168.jpg </TD></TR></TBODY></TABLE>

    www.gmwebsite.com/Webboard/Topic.asp?TopicID=Topic-090625070040158<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. หัสดี

    หัสดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +173

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...