ด่วนที่สุด ขอเชิญสมาชิกแสดงความคิดเห็นเพื่อ''ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย''

ในห้อง 'ประกาศจาก เว็บพลังจิต' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 20 สิงหาคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. konsongkrung

    konsongkrung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +56
    ความคิดเห็นเพื่อ"ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย"

    ควรให้ศาสนามีบทบาทต่อการศึกษาของไทยให้มากขึ้น โดยทุกโรงเรียนน่าจะมีการจัดการให้พระสงฆ์ บาทหลวง หรือผู้เผยแพร่ศาสนา มาเป็นครูหรืออาจารย์สอนให้นักเรียน นักศึกษาในสถาบันการศึกษา อย่างน้อย เดือนละ 1 วัน ดีกว่าจะให้แต่ละสถาบันการศึกษานำนักเรียนนักศึกษาไปเข้าวัดเข้าโบสถ์ที่จัดขึ้นนานทีปีหน

    ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  2. samaice

    samaice เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,017
    หักเงินเดือน สส ถวายวัดทั่วประเทศ 30% พระบวชเกิน หนึ่งปีควรมีเงินเดือน ตามขั้น
     
  3. บุตรพระแม่อนุตตรธรรม

    บุตรพระแม่อนุตตรธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    548
    ค่าพลัง:
    +428
    ศาสนาเราสามารถนำมาปฏิรูปประเทศได้นั้นก็คือ ต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ฝ่ายผู้ปกครองบ้านเมืองควรนำหลัก ธรรมิกสังคมนิยม มาใช้ให้เกิดผล ดังที่ท่านรัฐบุรุษอาวุโสปรีดี พนมยงค์ เคยจะลองใช้ในอดีต แต่มิทันก็ปลาศนาการไปแล้ว
     
  4. tbt

    tbt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +138
    ผมมีข้อคิดนิดหน่อย
    - คงต้องมองที่เด็ก ผมเคยสอนให้เด็กเป็นคนดีมากกว่าเป็นคนเก่ง เพราะคนเก่งถ้าไม่ดีมีปัญหาตามมาที่หลัง เพราะตอนนี้ยิ่งที่เป็นตัวแทนเราทุกระดับ ไม่มีคุณธรรม ถูกผิด แยกไม่ออกเอาแต่ผลประโยชน์ ตั้งแต่ระดับล่างถึงระดับบน สังเกตคนดีไม่ค่อยเล่น จึงเป็นปัญหาระดับประเทศขณะนี้อยู่ ดีชั่วแยกไม่ออกเห็นแก่เงินทำได้ทุกอย่าง คงแก้ยาก
    - เรื่องศาสนา ในหมู่ราชการด้วยแล้ว ถ้าใครพูดเรื่องศาสนา พวกมันจะว่าบ้าเลยไม่ก็แปลกจากผวก ถ้าคนเราทิ้งตรงนี้แล้วจะดีได้อย่างไร เช่น ถ้ามีกีฬา หรือประกวดก็จะทำทุกอย่างให้ได้ชัยชนะ ถูกผิดไม่มี เด็กก็จำติดตัวไป เรื่องศาสนาก็มีแต่ในทะเบียนบ้านเท่านั้นหลักปฏิบัติไม่จริงจัง ถ้าเป็นไปได้ผู้นำทุกระดับควรถือศีล 5 จะดีที่สุด
    - ความคิดของผม ยังคิดว่าถ้ามีมากๆอยากจะสร้างสถานที่ปฏิบัติธรรมไว้ให้ผู้สนใจได้มาปฏิบัติกัน วัดมีมากแต่ไม่มีที่ปฏิบัติ หรือ ครูผู้นำปฏิบัติ มีเป็นบางวัด ถ้าเป็นไปได้น่ามีทุกวัด แล้วก็มีปฏิบัติสายนั้นไม่ถูก สายนี้ไม่ถูกบางคนเลยงงๆ สำหรับผมดีทุกสาย
    - ช่วงนี้ดูระดับประเทศ ระดับทั่วไป วุ่นไปหมด คนนั้นก็ถูก คนนี้ก็ถูก โยนกันไปโยนกันมา และอีกอย่างสื่อ ละคร ทั่วไปสำคัญ เด็ก ผู้ใหญ่ เลียนแบบ ต้องระวังเป็นอย่างมาก ผมเดินกรุงเทพหนังโป๊มากมาย
    -ผมเลยต้องอ่านเตือนใจ (ไม่ต้องไปคิดแก้โลกมันเป็นแบบนี้มานานแล้ว ถูกผิดในโลกนี้ไม่มีทุกอย่างเป็นกรรม)
     
  5. rojanasak_m

    rojanasak_m เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +125
    เท่าที่จำได้ครับผมเรียนวิชา พุทะศาสนาแค่ประถมต้นครับแล้วก็....จากนั้นจนจบระดับสูงๆแทบจะจำไม่ได้แล้วครับว่าวิธีการดำเนินชีวิตที่ดีเป็นอย่างไร....ทุกวันนี้ทำงานก็มีแต่..ชิงดีชิงเด่น....ประจบสอพอ.....แข่งขันด้วยกลโกงต่างๆ....แย่งชิ่งตำแหน่งหน้าที่ถึงกับฆ่ากันตาย-ตามข่าวอยู่ทุกวันเพื่ออะไรเพื่อความอยู่รอดหรือ-ก็เปร่า-เพื่อสนองกิเลสตัณหาของตัวเอง..ฯลฯ....ผมขอเสนอ...ให้บันจุวิชาพุทธศาสนาเข้าไปจนถึงระดับปริญญาเอกเลยครับ...โดยเน้นการดำเนินชีวิตแบบมีคุณะธรรม เพราะว่าทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญคือกลุ่มผู้ที่มีน่าที่พัฒนาประเทศ...ได้แก่...คณะ-รัฐมนตรี...และนักธุรกิจ...ถ้า2กลุ่มนี้ได้รับการพัฒนาด้านการศึกษาวิชาศีลธรรมแล้วครับ....รับรองบ้านเมืองเจรฺญก้าวหน้า..ไม่มีการคอรัปชั้นอย่างแน่นอนครับ
     
  6. ่่่่jaruwan prasobbou

    ่่่่jaruwan prasobbou Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +86
    อนุโมทนาด้วยคะ

    อนาคตเบื้องหน้าไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น อยากให้คนไทยทุกคนหันมาเข้าวัดฟังธรรมกันมากขึ้นเพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ตัวเองเพื่อให้จิตใจได้เข้าถึงซึ่งธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเพื่อที่จะได้นำไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์ที่ดีต่อตนเองและสังคม จิตใจจะได้ไม่ขุ่นมัวมกมุ่นอยู่แต่ในกฎเกณฑ์ที่ทำให้ตัวเองเครียด
    รู้จักปล่อยวางละเว้นสิ่งที่เป็นอบายมุขทั้งปวงจิตใจจะได้แจ่มใสเบิกบาน

    เข้าวัดฟังธรรมกันเยอะๆนะคะ:cool:
     
  7. หมั่นเพียร

    หมั่นเพียร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    254
    ค่าพลัง:
    +708
    ยินดีกับเว็บพลังจิตด้วยคนค่ะ ที่ได้รับเกียรติจากรัฐบาลในครั้งนี้ ขอร่วมเสนอความคิดเห็นด้วยคน

    หัวข้อ ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย

    ปฏิรูป คือ การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงซึ่งนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง นำไปสู่สิ่งที่ดียิ่งขึ้น
    และความเจริญ ความรุ่งเรืองที่เกิดขึ้นย่อมมีพื้นฐานที่แข็งแรงและมั่นคง ทั้งทางกายภาพ และชีวภาพ ไม่ใช่เจริญแค่วัตถุแต่จิตใจไม่เจริญตาม ดังนั้น การพัฒนาเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ต้องมี ศาสนา ควบคู่กันไป (ศาสนาหมายถึงความดีงาม ความด้านจิตใจที่ควบคู่ไปด้วย

    ต้องจัดให้ศาสนามีบทบาทในการดำเนินชีวิต เป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต คือเริ่มที่ครอบครัว โรงเรียน ชุมชน ภาครัฐต้องเข้ามามีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมด้านศาสนาในสถาบันต่างๆ ให้มากและตรงจุดยิ่งขึ้น เช่น โรงเรียน ต้องจัดหลักสูตรการสอนศาสนา ให้กับเด็กและเยาวชน เพื่อปลูกฝังจิตใจให้มีศาสนา เป็นต้น
     
  8. บุพนิมิต

    บุพนิมิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,690
    ค่าพลัง:
    +7,034
    ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย...ตรงประเด็น ไม่อ้อมค้อมนะครับ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ท่านทรงค้นพบมัชฌิมาปฏิปทา คือทางสายกลาง ว่าเป็นแก่นแท้แห่งการแก้ไขทุกข์ทั้งปวง ดังนั้น...ด้วยหลักหรือตรรกนี้ ศาสนาจึงต้องดำรงความเป็นสายกลางไว้ให้มั่น ด้วยทุกวันนี้..ผู้คนทั้งหลายล้วนรวมกลุ่มอยู่ห่างจากทางสายกลาง ตึงเกินไปก็มาก...หย่อนเกินไปก็เยอะ และพอถูกสิ่งเล้าจากปัจจัยต่างๆเข้ามากระตุ้นให้กิเลสในตนหวั่นไหว รัก โลภ โกธร หลง ทำให้วิ่งวนข้ามสิ่งที่เป็นทางสายกลางไปทั้งทางด้านตึง และด้านหย่อน เป็นช่วงความถี่ที่กว้าง ก็เลยเป็นเหตุให้ตนเองวุ่นวาย สังคมวุ่นวาย ประเทศวุ่นวาย และโลกวุ่นวาย

    หากศาสนา หรือผู้ที่เป็นตัวแทนของศาสนา ไม่ยืดมั่นหรือเป็นตัวอย่างของความอยู่ตรงกลางแล้วไซร้ คงยากที่จะทำให้สังคมเกิดความปรองดอง และสงบสุข

    ความแน่นอน...คือความไม่แน่นอน และสิ่งที่ไม่แน่นอน...ก็คือความเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาเปลี่ยน กิเลสในตัวคนเรานี้ร้ายนัก และแต่ต่างกันไปในแต่ละบุคคล สิ่งที่ดีที่สุดคือเริ่มที่ตัวเรา อย่าไปคิดหรือรอให้คนอื่นเริ่ม..ที่จะปฏิบัติตามทางสายกลาง...และศาสนาเท่านั้นที่จะช่วยเป็นแบบอย่างในการตั้งมั่นอยู่บนทางสายกลางแก่บุคคลและสังคมครับ
     
  9. ประสงค์ 1994

    ประสงค์ 1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    103
    ค่าพลัง:
    +453
    ปลูกฝังเยาวชนรวมทั้งประชาชนให้เข้าวัดทุกวันอาทิตย์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 21 สิงหาคม 2010
  10. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    ข้อความเดิมของ "พระปองพล"
    เราสามารถทำให้ธรรมะอยู่ได้ทุกที่ โดยการทำเป็นเสียงตามสาย เหมือนวิทยุชุมชน (ไม่จำเป็นต้องมีโฆษณา) อย่างห้องน้ำในห้างสรรพสินค้าที่ส่วนมากจะเปิดเพลงเบาๆ ฟังสบายๆ สุนทรีย์ๆ ระหว่างที่ทำธุระส่วนตัวอยู่ ก็มีโอกาสนั่งฟังไปด้วย ถ้าใครฟังแล้วชอบแล้วสนใจ เค้าจะเริ่มสรรหามาฟังเอง เป็นการปลูกฝังความใฝ่รู้ และปลูกฝังธรรมะไปในตัว (ขอความร่วมมือจากห้างสรรพสินค้า อาจเปิดสลับกับโฆษณาของห้างเองก็ได้เพื่อการค้าส่วนหนึ่งขึ้นกับพิจารณาจาก ทางห้างฯ)

    ทำไม่ได้ค่ะ คนที่เดินซื้อของ จิตคิดเรื่องของที่จะซื้อ เพลงบรรเลงเบา ๆ สบาย ๆ ช่วยให้สิ่งที่เรากำลังคิดดีขึ้น ห้างฯ คงไม่ยอมเอาเทปธรรมะมาเปิดแน่นอน อีกอย่างเวลาเราฟังธรรมะ เราชอบเข้าสมาธิในการฟัง เพื่อจับใจความในการเทศน์ ซึ่งจะได้ประโยชน์ในการฟังอย่างมาก

    ถ้าเป็นการจัดฟังเทศน์โดยนิมนต์ พระอาจารย์มาเทศน์ ทุกวันอาทิตย์ หรือเดือนละครั้ง แบบนี้เป็นไปได้มากค่ะ ห้างฯ เขามีสถานที่พร้อมอยู่แล้ว ให้เขตเป็นคนออกกฏหรือขอความร่วมมือไปยังห้างฯ ในพื้นที่ แล้วใช้วัดในพื้นที่เป็นผู้เข้าไปร่วมจัดกิจกรรมนี้ก็ได้ค่ะ เออ...ไม่เลวนะ
     
  11. สุปราณี(ปู)

    สุปราณี(ปู) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +284
    สมัยก่อน ประเทศไทยยังไม่มีการเรียนการสอนระบบอื่นเข้ามามากนัก ผู้สอนนักเรียนสมัยก่อนจะเป็นโรงเรียนวัด มีพระเป็นครูสอนมาตลอด ความแตกต่างทางด้านความรับผิดชอบ ชั่วดีจึงแตกต่างกัน ในโรงเรียน สมควรที่จะเพิ่มวิชาพุทธศาสนาให้มากขึ้น ที่ทำงานส่วนราชการและเอกชนก็ต้องเพิ่มเวลาในการให้ความรู้กับพนักงาน เพื่อความสุขทั้งผู้ใ้ห้และผู้รับ อนุโมทนาค่ะ
     
  12. nunoiyja

    nunoiyja เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2010
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ถึงแม้มาไม่ทันแต่ก็ขอเสนอนิดๆ ด้วยความคิดที่ด้อยปัญญาของกระผม

    "อริยสัจ ๔"

    สรุปง่ายๆ สั้นๆ อริยสัจ ๔ สามารถแก้ได้ครับ
    เพราะ ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งเหตุแห่งผล
    พระบรมศาสดาทรงสอนให้เ้ห็นเหตุ รู้เหตุ แล้วเเก้ที่เหตุ เหมือนกับในหลวงของเราสอนไว้ว่า

    "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"


    ผุ้มีปัญญาเอาไปต่อยอดเองนะครับ ผมผู้ด้อยปัญญา เสนอได้แค่นี้
    ขอบคุณครับ
     
  13. veget_1

    veget_1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +1,006
    ขอ อนุโมทนา สาธุ ครับ<!-- google_ad_section_end --> ....ดินดีต้นไม้เจริญงอกงาม
     
  14. Peak_14

    Peak_14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +465
    ใช่ๆ ควรจะปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็กแล้ว...แต่ปัจจุบันและอนาคตที่ใกล้จะถึงนี้ล่ะจะทำไงดีหนอ..ขอเป็นรูปธรรมนิดๆ

    ฮืม...น่าจะมีการตัวแทนแต่ละศาสนาร่วมกันจัดทำหลักสูตรสูตรธรรมาภิบาลและจริยธรรมสำหรับผู้บริหารบ้านเมือง และออกเกณฑ์มาตรฐานแล้วส่งปรมาจารย์จากแต่ละศาสนามาให้การอบรมแก่ผู้บริหารทุกคนโดยเฉพาะผู้ที่จะถูกพิจารณาที่จะก้าวไปเป็นผู้บริหารระดับสูงทั้งหน่วยงานรัฐ-รัฐวิสหกิจ-เอกชนก็ได้ รัฐมนตรีหรือสูงกว่านั้น

    โดยต้องอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติอย่างเข้มข้นแล้วสอบผ่านจึงจะมีสิทธิได้รับใบอนุญาตการแต่งตั้งเป็นผู้บริหารหากพบว่าผู้ใดทำผิดหลักจริยธรรมขั้นไดก็น่าจะมีการจัดเรทติ้ง แล้วเรทติ้งที่ว่านี้ชาวบ้านสามารเช็คได้ตลอดเวลา แค่ยิงอินฟาเรดใส่บาร์โค๊ด แมทริกซ์ ใช้มือถือถ่ายเข้ากล้องเวปแคมก็ปรากฏเรทจริยธรรมของคนคนนั้นได้ตลอดเวลา แต่ทั้งนี้ก็ควรจะมีคณะกรรมการตรวจสอบและมีสิทธิ ตัดแต้ม เช่น เห็นว่ากินเหล้าก็ตัดแต้มไป มีเมียกิ๊กก็ตัดแต้มไป ตอแหลก็ตัดแต้มไป บางคนกินหมูก็โดนไป โดนใบสั่ง หรือถูกยึดเหมือนใบขับขี่ก็ว่ากันไป บทลงโทษก็มีเช่น ส่งไปทำงานการกุศลให้สังคม แจกแบบสวดมนต์ ปฏิบัติธรรมเป็นต้นถึงได้แต้มคืนหรือรับใบอนุญาตคืน......แนวๆก็เอามาจากกฏหมายจราจรที่เค้าออกมาลงโทษคนเมาแล้วขับนั่นแหล่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 สิงหาคม 2010
  15. เอ๊าะ

    เอ๊าะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +581
    ผมว่าปฎิรูปได้ยากได้แค่แรกๆเท่านั้นเองผู้มีอำนาจและผู้หลักผู้ใหญ่ยังไม่รู้จักที่จะปฎิรูปตนเองเลยมีแต่เพียงลมปากและพระสงฆ์ยังไม่สามัคคีกันเลยและยังกีดกันการเกิดมีพระภิกษุณีเลยพุทธเจ้าท่านฝากภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา ให้ดุแลพุทธศาสนาไว้ไม่ใช้หรือทำไม่พระยังกีดกันภิกษุณีเลา
     
  16. ไตรย

    ไตรย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    78
    ค่าพลัง:
    +345
    เด็กนักเรียนทุกคนต้องเรียนวิชาจริยธรรมและศีลธรรมทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง
    (ศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ)
    เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
     
  17. ngekjaja

    ngekjaja สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +8
    ขออนุโมทนา กับทุกๆ ท่านด้วยนะค่ะ
    เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ

    เห็นด้วยกับคุณ ปฐมฌาณ นะค่ะ ที่ควรต้องปลูกฝังตั้งแต่รากหญ้ากันเลยทีเดียว
    สิ่งที่ควรสั่งสม คือหลักธรรม ขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
    และที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ ในชีวิตได้จริง คือ มงคลชีวิต 38 ประการ
    ที่ควรให้เด็ก สมัยใหม่และรวมถึงผู้ใหญ่ได้อ่าน ศึกษา ให้ขึ้นใจ นำหลักธรรมมาใช้ ช่วยยกระดับจิตใจ ในเรื่องของการทำงาน การมีจิตใจที่มีคุณธรรม และจริยธรรม ค่ะ

    ปัญหาหลายอย่างๆ คงอาจไม่เกิด ถ้าเรารู้จักหน้าที่ของตนเอง และหมั่นเช็คการกระทำของตนเองเสมอๆ ค่ะ
     
  18. Mr.tom

    Mr.tom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2005
    โพสต์:
    269
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,185
    อนุโมทนาครับ ความเห็นที่ทุกท่านเสนอไปก็บริบูรณ์ดีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ขอให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องนำไปปฏิบัติจริง ๆ ทำอย่างที่เสนอจริง ๆ ก็เพียงพอแล้วครับ...
     
  19. prapanuch

    prapanuch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +853
    โอนเงินแล้วนะ 500 บาท ค่าโอน 20 บาท

    อยากให้มี โรงเรียน สอนศาสนาวันอาทิตย์ ในเรือนจำ
     
  20. pom_chaovarit

    pom_chaovarit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    3,805
    ค่าพลัง:
    +9,776
    ศาสนากับการปฏิรูปประเทศไทย
    ในความคิดเห็นของผมแยกเป็น 2ข้อหลักใหญ่ๆ ผมขอเสนอเป็น "ด้านข้อดี" กับ"ด้านข้อเสีย" ดังนี้ครับ
    ด้านข้อดี
    1.เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ มีการอ้างอิง จัดทำและผนวกเป็นเนื้อหา ทฤษฎีและปฏิบัติ ได้
    2.การผนวกธรรมะในทางพุทธศาสนาเข้ากับการปฏิรูปเป็นแนวคิดที่ดีเป็นอย่างยิ่ง ถ้าสามารถใช้เครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเพื่อติดตามผล และสามารถชี้วัดผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม
    3.เป็นการปลูกจิตสำนึกที่ดีให้กับคนในประเทศ
    ด้านข้อเสีย
    1.เป็นเพียงคู่มือหรือเนื้อหาเพื่อใช้เป็นแผนที่ในการนำทาง
    2.ไม่สามารถที่จะบังคับใช้ได้ให้เหมือนกับกฏหมาย เพราะศาสนาเป็นแนวทางที่ชี้นำทางแสงสว่างมาให้กับมนุษย์ แต่คนหรือมนุษย์ที่จะเดินตามแสงสว่างนั้น ไม่มีข้อบังคับขึ้นอยู่กับความสมัครใจและความศรัทธาเท่านั้นที่จะสัมฤทธิ์ผล
    3.การปฏิรูปประเทศไทยก็คล้ายกัน ย่อมมีคนเห็นด้วยและประพฤติปฏิบัติตาม และย่อมมีคนอีกกลุ่มหนึ่งเฉยๆ ส่วนกลุ่มสุดท้ายก็เห็นขัดแย้งไม่ร่วมด้วย
    โดยสรุปผมมีความคิดเห็นว่า
    - ตราบใดที่ไม่สามารถบังคับใช้ให้่เหมือนกับกฏหมายได้ ผลสำเร็จที่เกิดขึ้นก็คงน้อย สัมฤทธิ์ผลคงยากเป็นอย่างยิ่ง
    - สมานฉันท์/ทางสายกลาง ทุกคนรู้ ทุกคนทราบ แต่ความต้องการในแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน ตราบใด ที่มนุษย์ยังไม่สามรถ ละความโลภ ความโกรธ ความหลงได้ : การปฏิรูปก็เป็นเหมือนหนังสือ1เล่ม ที่ย่อมมีคนกลุ่มหนึ่งอ่านหนังสือ และคนอีกกลุ่มหนึ่งไม่เปิดอ่านหนังสือ เพราะความขัดแย้งและมองต่างมุมในสังคมเรานั้นยากยิ่งที่จะเยียวยาได้.
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...