เขาว่าชาติภพไม่มีจริงผมไม่รู้เถียงเขาไม่ได้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย kk008, 13 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. cheterk

    cheterk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +1,568
  2. nuza

    nuza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +263
    เข้าใจความรู้สึกของคนตั้งกระทู้นะ แต่ก่อนนั้นเราก็เป็นคนไม่มีจุดยืนทางศาสนา ลองศึกษา ลัทธิต่างๆ ไปตามตามเรื่อง เพื่อหา สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เคยลองไปสัมผัสกับ ศาสนาหนึ่ง ซึ่งนับถือ พระเจ้า ตอนแรกก็รู้สึกดี เขาให้มีศรัทธา เราก็ทำตามเขาไป ไปเข้ากลุ่มกับเขา คือใน 1 สับดาห์ นอกจากวันอาทิตย์ที่ต้องไปโบถส์ เนี่ย เขาจะรวมกลุ่มกัน ตอนค่ำ ในกิจกรรมนี่ ก็มีการร้องเพลง ต่างๆ แล้วก็ ภาวนา ถึงพระเจ้า ในความรู้สึกต่งๆนานา ต่างคนก็ต่างพูดกันไป แล้วเราถามเขาว่า "ถ้าคนที่ทำความดีมาตลอดชีวิตเลยนะ..ไม่เคยทำความชั่วเลยเนี่ยตายไปจะตกนรกไหม.." เขาบอกว่าตกนรก..ถ้าคนๆนั้นยังไม่ได้รู้จักพระเจ้า แต่ถ้าใครทำความชั่วแล้วไปสารภาพบาปต่อพระเจ้า พระเจ้าจะล้างบาปแกเขา แล้วเขาจะไม่ตกนรก เราเลยเถียงเขาว่า ไม่มีเหตุผลเลย คนทำดีแต่ไม่รู้จักพระเจ้า (การรู้จักพระเจ้านั้นคือการที่เราตั้งเข้าศาสนาของเขา) ต้องตกนรก พอเจอเข้าอย่างนี้ เราเลยถอยดีกว่า มันขัดกับความรู้สึกของเรามากๆ เรารับไม่ได้ แต่ถึงยังไง เราก็ไม่ลบหลู่นะ พระเจ้าของเขาจะมีจริงหรือไม่ตรงนี้เรา ไม่ขอออกความเห็น เพียงแต่เหตุผลข้อนี้ที่เราทำใจไม่ได้ แล้วเราก็เลยหันมาหาศาสนาพุทธ ทั้งๆที่เป็นของใกล้ตัวนี่นะ แต่ศึกษาหลังใครเขาเพื่อน พบว่ามันตรงกับจริตของเรา เพราะ
    - พระพุทธเจ้า สอนให้ปฏิบัติ ให้เห็นจริง มิได้ให้เชื่ออย่างงมงาย ทุกอย่างพิสูจน์ได้ ถ้าเราตั้งใจปฏิบัติ
    - พระพุทธเจ้า สอนให้เห็นสิ่งที่เป็นอยู่จริง (ทุกสิ่งมีในธรรมชาติ ธรรมะของพระพุทธเจ้า มีในธรรมชาติทุกอย่าง)
    - พระพุทธเจ้าสอนว่า กรรม นั้น เกิดแก่ผู้กระทำ (กรรมคือการกระทำ) พระท่านบอกว่า ใครทำกรมมใด ย่อมได้ผลกรรมนั้น

    แค่ 3 ข้อเท่านี้แหล่ะข้าพเจ้ายอมสิโรราบแล้ว พุทธศาสนาคือ วิทยาศาสตร์ ถ้าคุณอยากรู้ ว่า ภพชาติมีจริงไหม คุณพิสูจน์ได้ตัวเอง พระพุทธเจ้าท่านมีคำแนะนำไว้แล้วทุกเรื่อง ศึกษามันอย่างจริงจัง คุณก็จะรู้

    ทฤษฏีสัมพันธภาพ ของไอสไตน์ ที่กลายมาเป็น อาวุธร้ายนั้นนะ แนวคิดจากเรื่องนี้ ไอสไตน์นำมาจากพระไตรปิฏกของพระพุทธเจ้า ก่อนตายไอสไตน์ภาวนาไว้ว่า ถ้าได้เกิดชาติหน้าของเกิดมาภายใต้พระพุทธศาสนา

    พระพุทธเจ้าทรงค้นพบระบบ จักวาลก่อนนักวิทยาศาสตร์คนใดในโลก ทรงตรัสว่าโลกกลม เมื่อ 2 พันปีมาแล้ว ขณะที่ฝรั่งหัวแดง จะมาเพิ่งเถียงกันว่าโลกเรากลมนะไม่แบน

    นักวิทยาศาสตร์ ชื่อดัง และ ทฤษฎีต่างๆ อย่าง ชาล์ ดารวิน กาลิเลโอ ดาร์วินชี นี่ ทฤษฎีของพวกเขากลับถูก บุคคลในศาสนาของเขาเองต่อต้านอย่างหนัก ทั้งๆที่มีข้อพิสูนจ์ได้ แต่ทษฎีพวกนี้ไปขัดกับคำสอนของศาสนาที่ว่า พระเจ้าเป็นผู้สร้างโลกและจักรวาล ซึ่งตรงนี้นั้นความจริงจะเป็นยังไง ข้าพเจ้าไม่รู้ แต่ถ้าเราศรัทธาสิ่งใด สิ่งหนึ่ง อย่างจริงใจและจริงจัง และสิ่งนั้นทำให้คุณมีความสุข และเป็นคนดี ข้าพเจ้าว่าดีทั้งนั้น อยู่ที่ว่าชอบแบบไหน แต่ข้าพเจ้าหัวดื้อ มาแต่เด็ก ชอบลองเอง รู้เอง

    เพื่อนข้าพเจ้านับถือคริตส์ เขาบอกว่า มันง่ายดี มันสำเร็จรูปไปหมด อย่างของพุทธต้องปฏิบัติ มันทำไม่ไหว แต่เราเป็นเพื่อนที่รักกัน เราไม่ดูถูกซึ่งกันและกัน ไม่ทำลายศรัทธาของกันและกัน เวลาข้าพเจ้าเดือดร้อน เพื่อนก็ว่า จะ ขอพรพระเจ้าเพื่อช่วยข้าพเจ้า เวลาเพื่อนเดือดร้อน ข้าพเจ้าก็ว่า จะสวดมนต์นั่งกรรมฐานให้นะ ต่างคน ต่างขอบใจกัน ศาสนาคริตส์สอนให้มีความรักกับทุกคน แม้แต่ศัตรู ของเราก็มีนะ พรมหวิหาร4ไง ตรงนี้เราชื่นใจนะ ส่วนลัทธิๆอื่นใด ก็จงศึกษาเอาเถิดด้วยปัญญา อย่างมงาย

    เหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนั้น แค่ยกตัวอย่างให้เห็นว่า สิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ มันเป็นสิ่งที่มีอยู่จริงตามธรรมชาติ ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีอยู่แล้วในธรรมชาติ เพียงแต่ไม่มีใครเป็นอัจฉริยะ และฉลาดๆมากๆ แบบพระองค์ท่าน ท่านตรัสรู้ แล้วย่อยสิ่งเหล่านั้นให้ง่าย แล้วนำมาสอนพวกเรา นำมาโปรดสัตว์
     
  3. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    อนุโมทนาสาธุกับทุกท่านอีกครั้ง

    อย่าย่อท้อนะครับทุกท่าน อิทธิบาท 4 นั่นแหละจะทำให้กิจการงานทุกอย่างสำเร็จ ไปถึงที่สุดได้ คน ๆ นั้นต้องทำด้วยตัวเอง ไม่มีใครช่วยหรือทำให้กันได้ จะไถ่บาปให้กันก็ไม่ได้ ครูบาอาจารย์ทั้งหลายท่านบอกวิธีให้แต่เราต้องทำเอง ใครก็ช่วยไม่ได้ ตามกฎ thermodynamics ข้อที่หนึ่ง พลังงานเปลี่ยนรูปไม่ได้หายไปไหน มันก็ต้องรอกลับมาหาเจ้าของ ใครทำอะไรก็ต้องได้ผลของสิ่งนั้น ข้ามภพข้ามชาติเป็นล้าน ๆ ปี มันก็จะกลับมาหาเจ้าของ ใหญ่ขนาดไหน เก่งกล้าสามารถวิเศษอย่างไร ก็ไม่ใหญ่กว่ากรรม และไม่อาจหนีกรรมไปได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2007
  4. ee56054

    ee56054 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +130
    ในความคิดของผมนะ พระพุทธเจ้าไมได้สอนให้เรากราบไหว้อย่างเดียวนะ มีอะไรมาก็กราบไหว้ เชื่อเค้าไปหมด ที่เรากราบไหว้พระพุทธเจ้าไม่ใช่ขอโน้นขอนี้แต่เป็นการเคารพและนอบน้อมท่านมากกว่า เรามีปัญญาเอาไว้ทำไมละ และอีกอย่างนะ มีศาสนาไหนมังละ ที่มีแนวทางปฎิบัติที่มีเหตุผล ไม่ใช่มีแต่กราบไหว้อย่างเดียว เคยลองปฎิบัติถึงที่สุดแล้วหรือยังละ
     
  5. คนพุทธค่ะ

    คนพุทธค่ะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ไม่มีชาติหน้า

    เกิดมาชาติเดียวก็เพียงพอแล้ว และให้เราทำชีวิตของเราที่มีอยู่ในวันนี้ให้ดีที่สุด ไม่ใช่รอว่าชาติหน้าค่อยทำอย่าหวังพึ่งน้ำบ่อหน้า อย่ายึดติดกับตัวเอง
    อย่ายึดติดกับสรรพสิ่ง ตายไปก็เอาไปไม่ได้

    ... ทุก ๆ ศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ไม่ว่าจะศาสนาใด เราก็คือพี่น้องกัน ...

    คำสอนท่านพุทธทาส
    การปฏิบัติธรรมบางทีก็ไม่ต้องการคำอธิบายทีฟุ้งเฟ้อ เพียงแต่ลงมือทำไป
    จริง ๆ เราก็จะได้รับผลจริงทันที เหมือนคนที่เอามือจุ่มน้ำร้อนจะจะรู้ว่าความร้อนเป็นอย่างไร

    และก็เช่นกันคนที่รู้หลักการก็จะรู้ว่าความจริงเป็นเช่นรัย....
     
  6. อิติปิโส_ภควา

    อิติปิโส_ภควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +242
    พี่ก็ไม่รู้จะบอกน้องยังไงนะคะ แต่พี่คิดว่าน้องอย่าไปอะไรกับมันมากเลย ไม่ว่าจะศาสนาไหน ศาสดาองค์ใดก็ตาม นับถือเพื่อเป็นเครื่องเหนี่ยวนำจิตใจ ไม่ใช่นับถือแล้วจิตตก ศาสนามากจากศรัทธา ศรัทธามาจากความเชื่อ พวกฝรั่งเขามองว่าศาสนาพุทธไม่เป็นศาสนา แต่เขามองว่าศาสนาพุทธเป็นปรัชญาตะวันออก จะเห็นว่า ฝรั่งบางคนนั่งสมาธิ เดินจงกรม เชื่อโชคลาง แต่ไม่ไหว้พระ... เขาทำได้ไม่ผิด เพราะเขามองว่าเป็นปรัชญา ซึ่งลึกซึ้งเกินความเชื่อไปแล้ว ปัญหาเหล่านี้ที่น้องถามมันตอบได้ยาก เพราะเป็นเรื่องปัจจเจก รู้เฉพาะตนเองคนเดียว หากน้องเคยเห็นผีบ่อย ๆ น้องกล้าบอกใครไหมล่ะ ว่า...น้องเห็น เขาได้หาว่าบ้า..ปะไร จริงไหม ถ้าสับสนมาก พี่แนะนำให้กราบคุณพ่อ คุณแม่ นั่นแหละ ผู้มีพระคุณตัวจริง ไม่ต้องตามหาหรอกว่าศาสนาพูดจริง ไม่จริง 3 เรื่องที่ไม่ควรเถียงกัน คือ 1.ศาสนา 2.การเมือง 3.ความรัก มันไม่มีถูกไม่มีผิด พูดกันไป เถียงกัน มีแต่จะทะเลาะกัน จริงไหมคะ ??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 กันยายน 2009
  7. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    น้องก็ไปเถียงกับเขาทำไม
    ไม่ใช่ว่าใครเสียงดังกว่าชนะเลิศเมื่อไรเล่า โอ้
    ก็เราไม่ศรัทธาน่ะ ก็ไม่ไปดิ
    เขาศรัทธาก็ให้เขาไปของเขาสิ

    ถ้าเป็นเพื่อนรักเรา มันอยากให้เราไปเป็นเพื่อนก็ไป
    แต่ก็ถ้าเราไปวัดก็ให้มันไปเป็นเพื่อนเรามั่ง (ผลัดกัน)
     
  8. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ

    ถ้าเป็นอร


    หากถูกรุ่นพี่บังคับใจให้ไป ตื้อเยอะๆ จนเราต้องไป อรมองว่า


    การเริ่มต้นก็เริ่มจากการบังคับ แล้วไหนเลยจะพูดถึงความศรัทธาได้

    เหมือนพูดกึ่งบังคับให้เชื่อ

    ศาสนาใด ๆนั้นอยู่ร่วมกันมาได้ เพราะ ต่างก็ไม่กล่าวร้ายกันและกัน

     
  9. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144

    อันนี้หลายคนคงตอบได้ว่า ไม่ได้ขึ้นอยู่ ที่บรรพบุรุษ เสมอไปหรอก
    อรมองว่า ครอบครัวที่พ่อแม่พากันกินเหล้าให้ลุกเห็นประจำ ให้ลุกซื้อ ชวนลูกลองดื่ม จนกลายเป้นนิสัย ก้เป็นไปได้

    แต่มันขึ้นอยู่กับคนคนนั้นเอง ด้วย
    บ้านเรา แม่กะพ่อ เล่นหวยใต้ดิน โต๊ะบอลด้วย เหล้าเบียร์ไม่กิน

    เราก็ไม่เห็นจะสนใจเล่นหวย หรือแทงบอลเลย เฉยๆน่ะค่ะ
    เราก็ทำกรรมฐานของเราไป เมื่อก่อน เหล้าก็ดื่มนิดๆนะ ทั้งที่พ่อแม่ไม่ดื่ม เดี๋ยวนี้ไม่ดื่มตลอดชีวิตแล้ว เหล้ามันก็รสชาติไม่ถูกปากเหมือนน้ำอัดลม

    เบียร์ก็ขม สุดๆ ชิมๆ ก็ไม่ชอบแล้ว

    เป็นต้น

    ลองพิจารณาดูง่ายๆเลย เค้าสอนแบบนี้ suidical สิ่งที่เค้ากล่าวแท้ๆ ^_^
     
  10. hatcheryorn

    hatcheryorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2010
    โพสต์:
    615
    ค่าพลัง:
    +2,144
    อันนี้ขอแสดงความคิดเห็นนะค่ะ

    เปรียบเทียบคร่าวๆ

    เมื่อก่อน สัตว์ประเสริฐ มนุษย์ มีน้อยมาก แต่สัตว์เดรัจฉารมาก
    สัตว์เดรัจฉาร พยายามที่จะบำเพ็ญตน ให้สามารถเกิดมาเป็นมนุษย์ ซึ่งก็สามารถเกิดเป็นมนุษย์ได้มากขึ้น มากขึ้นเรื่อยๆ มดรังนึงกี่ล้านตัว?
    ถ้ามดล้านตัว สะสมบุญจนเกิดมาเป็น มนุษย์ล่ะ


    ยุคหิน ที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ ตายเยอะๆ (ตามการกล่าวอ้างทางวิทยาศาสตร์) สัตว์พวกนี้อาจจะใช้กรรมหมดแล้ว เกิดเป็นมนุษย์ได้นี้ มนุษย์ตายก็กลับเป็นสัตว์ได้ ตามความดี ความเลว

    อีกอย่าง สัตว์บางชนิดก็สูญพันธ์ นั่นคือ พวกกลุ่มนี้ อาจจะกลับมาเกิดใหม่เป็นมนุษย์หมด

    โอ๊ย หากพูดกันไปอีก ประชากรโลก ถือว่าน้อยมากๆ ค่ะ เพราะไปเวียนว่ายเป็นสัตว์เดรัจฉารใช้กรรมด้วย
    ^_^
     
  11. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    พวกคริสต์นี่เถียงง่ายที่สุดแล้วครับ ^^
    แค่พูดเรื่อง... เขาก็เงียบกริบกันแล้ว อิอิ แต่อย่าเลย
    สันติ สันติ สันติ นะจ๊ะ

    การเกิดที่ไม่มีเหตุ ย่อมเป็นความคิดของคนที่ตื้นเขิน
    ที่การเกิดครั้งหนึ่ง เป็นการเกิดที่ไม่เท่าเทียม เป็นการเกิดแบบเดาสุ่มของผู้สร้างหรือ???
    เหตุผลผู้ที่สร้างมนุษย์ จึงทำให้ทางแห่งความรอดในทัศนะของเขาเองมีไม่เท่ากันแหละ
    เหตุใดผู้สร้างจึงสร้างของเล่นมาทดสอบแล้วอ้างว่าบริสุทธิ์ไม่พอ ...ไร้สาระสิ้นดี
    บาปต้นกำเนิดเพราะบรรพบุรุษไปกินแอปเปิ้ล... แล้วสร้างต้นนั้นไว้ทำไมหละ???

    เหตุที่คนเกิดมาไม่เท่าเทียมกัน นั้นมีเหตุในเชิงลึกก็คือผลจากกรรมนั่นเอง
    เหตุที่ทำไมคนมาเกิดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตอบไปเลยว่า
    - สรรพสัตว์นั้นมีจำนวนอนันต์ มีเกิดมีตาย เวียนว่ายไม่สิ้น เพราะยังคงไว้ในความไม่รู้(อวิชชา)
    เหตุที่คนเกิดขึ้น คือดวงจิตใดๆ ทำเหตุไว้เหมาะกับภูมิมนุษย์ก็ย่อมได้เกิดในภูมิมนุษย์
    ซึ่งถ้านับแล้วมีจำนวนไม่เยอะเลยนะ ในชมพูทวีปแห่งนี้ - -
    มีเดรัจฉานอยู่ตั้งมากมาย สัตว์ที่เป็นอาทิสมานกายอีก แล้วดูคุณภาพประชาการที่เพิ่มขึ้นมาด้วยเถิด
    ว่าเศษอกุศลกรรมมากเพียงไหน ดูคุณภาพชีวิตพวกเขา เขาเหล่านั้นมีเศษอกุศลกรรมติดมา
    เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เขาหมดอายุขัยในภพภูมิอื่นแล้ว มาปฏิสนธิในภพภูมิมนุษย์
    เพิ่มพูนจำนวนประชากร รอวันที่มนุษย์จะเสื่อม แล้วกลับมาน้อยลงอีกครั้ง
    มันเป็นเรื่องของกรรมปัจเจก กรรมร่วม กรรมแฝง กรรมสำแดง เรื่องพวกนี้มันต้องดูกันเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2010
  12. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    อย่ามองแบบอุจเฉททิฏฐิสิครับ
    จะกลายเป็นคนไร้ปัญญาไปนะ ^^
    ไม่มีเกิด-ตาย ไม่มีเวียนว่ายทางภพภูมิ ระบบอิทัปปัจจยตาก็เจ๊งอะสิครับ???
    เคยมองถึงระบบปัจจัยสัมพันธ์มั้ยครับ หรือประมวลอะไรก็ประมวลมันทื่อๆหยาบๆไป ไม่ได้คิดอะไรให้มันเชื่อมโยงเลย - - ไม่ไหวๆ
    ชาตินี้ของคุณ คุณก็ดูสิ ว่ามีชาติเดียว มันเดาสุ่ม มั่วซ่ั่วขนาดไหน
    ถ้ามันมีปัจจัยรองรับเชื่อมโยงกัน มันจะเป็นเหตุเป็นผล ว่าที่เป็นอย่างนี้มันมีเหตุและผล ซึ่งความจริงแล้ว ทุกสิ่งมันเป็นเรื่องที่เชื่อมโยงกัน เป็นเหตุเป็นผล
    มันไม่แยกจากกัน ถ้ามองให้เป็น... กรรมอดีต กรรมปัจจุบัน กรรมอนาคต
    และกลไกอื่นๆอีก เรามองต้องมองให้เป็นมิติ ไม่ใช่แยกเป็นส่วนๆ
     
  13. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ถ้าไอ้หัวหน้า อยากรู้ว่า ทำไมมนุษย์มันเกิด มาก ให้มันฝึกกสิณแสงสว่าง กสิณไฟก็ได้ หรือจะเอาธรรมกายก็ได้ ถ้ามันหกเดือน นั่งสมาธิอยู่ในห้องคนเดียว ให้ค่าจ้างมันด้วย หกเดือนให้มันนั่งอยู่ เรามาให้ข้าวให้น้ำมัน ให้คำตอบมันเวลามันถามแค่นั้นพอ
    ถ้ามันกล้าทำมันจะรู้ว่ามันเชื่อผิด
     
  14. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ลืมไป ขอเปลี่ยนคำว่า "ถ้า" เป็น"ท้า" แทนเน่อ
     
  15. บัวล้านนา

    บัวล้านนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +436
    ผมขอตอบตามความเห็นผมนะในฐานะที่เคยเป็นสมาชิกที่นี่มาหลานาน
    1.ที่นี่สอนเรื่องผู้ชายผู้หญิงใครไม่แต่งงานเข้าสวรรค์ไม่ได้นะครับ
    2.มีการปลดปล่อยบรรพบุรุษ(ให้คนที่ถูกคัดเลือก(เปิดวิญญาณ)ไปช่วยคนที่ตกนรกให้รอด)
    3.ที่นี่กล่าวว่าได้รับคำบรรชาจากพระเยซูให้ทำแผนการพระเจ้าให้สำเร็จ

    ผมอยู่ที่นี่มานานนะคับแต่น่าแปลกที่นี่มีทูตสวรรค์(เทวดา)สมาชิกบางส่วนเปิดฝ่ายวิญญาณ(เห็นวิญญาณ) ส่วนตัวผมก็เคยเห็นแต่เป็นวิญญาณที่ไม่ดีนะคับ ไม่เเปลกหรอกคับที่คุณจะสับสนเพราะเค้านำหลักการของหลายศาสนามารวมกัน ผู้นำศาสนาและครอบครัวสามารถติดต่อฝ่ายวิญญาณไปนรกสวรรค์ได้ (หนังสือวัดพระธรรมกายเคยกล่าวถึงความเชื่อนี้ด้วยนะครับลองไปหาดู) ในหนังสือของหลวงพ่อฤาษีลิงดำเคยบอกว่าพระเยซุไปชั้นดุสิต (ซี่งเป็นเขตที่ไม่ธรรมดา) วิญญาณอิสลามขอให้แผ่เมตตาให้ หลังความตายก็มีที่เดียวแหละคับทุกศาสนามาที่เดียวกันหมด แต่ละความเชื่อก็เห็นโลกหลังความตายไม่เหมือนกัน (ก็ไม่น่าจะแปลกอะไร) ไม่ใช่ว่าคนนับถือศาสนาพุทธจะขี้นสวรรค์กันหมด หรือความเชื่ออื่นจะตกนรกหมด แต่ผลอยู่ที่การกระทำมากกว่าคับ แต่ศาสนาพุทธสอนให้ใช้เหตุและผลไม่ใช่ใช้ แต่ความเชื่อคับ (พระพุทธเจ้าสอนให้มีปัญญา) ผมว่าคุณเอาเวลาไปเรียนให้จบรามคำแหงเถอะคับ (เดาถูกเป่าคับ)เรียนให้จบแล้วค่อยมาศึกษาก็ไม่แปลก เอาแบบผมก็ได้ พุทธก็ศึกษา คริสต์ก็ศึกษา ลัทธิอื่นๆๆก็ศึกษา แต่แนะนำอย่าศึกษาลัทธิคอมมิวนิสต์นะคับ บาปหนักจริงๆๆ การศึกษาความเชื่ออื่นไม่ผิดหรอกคับแต่ต้องใช้ปัญญาและเหตุผล นำสิ่งดีๆๆมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ผมว่าคุณกำลังสับสนกับชีวิตมากเลยนะคับ (ผมก็เคยเป็น)

    ข้อสังเกตของผมนะคับทุกความเชื่อพูดแต่เรื่องสวรรค์

    แต่มีศาสนาพุทธที่เดียวแหละคับที่พูดเหนือกว่าสวรรค์และพรหม (นิพพาน)

    เลือกเอาว่าอยากได้อะไรคับ ขออภัยคับถ้าข้อความไม่เหมาะสม
     
  16. โมก

    โมก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +1,737
    องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า"ผู้ที่มีบุญถึงจะพบกับพระศาสนาของพระองค์ที่แท้จริง" พุทธศาสนาสอนให้ปฏิบัติเอง พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าอย่าเชื่ออะไรง่ายๆ ต้องปฏิบัติเองรู้ได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเจอคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ แล้วคนพวกนี้ติดกับโลกียะหนึบหนับถอนไม่ขึ้น ไม่คิดจะมาปฏิบัติอะไรให้ยุ่งยากให้ทรมานสังขาร คนพวกนี้รักสบาย
    รักโลกีย์ มนุษย์แบ่งเป็นหลายเหล่าเหมือนบัวนั่นล่ะ อะไรรู้บอกไป เชื่อไม่เชื่อช่างเขา บอกแล้วปล่อยวาง
     
  17. palpats

    palpats Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +97
    [FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2]
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ​
    [/FONT]​
    [/FONT]​
    [/FONT][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2],

    [/FONT]
    [/FONT]
    [/FONT][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2]
    เป็นสิ่งที่ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน​
    [/FONT]​
    [/FONT][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2][FONT=LayijiMaHaNiYomV1.2];

    [/FONT]
    [/FONT]
     
  18. ศรีธาตุ

    ศรีธาตุ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +52
    เราเป็นพุทธศาสนิก ไม่ต้องไปกังวลกับเรื่องนอกศาสนาหรอก เขาจะสอนยังไงก็ช่างเขา มาดูที่จิตใจเรานี่แหละ ดูกันเห็นๆ จะได้ไม่เกิดจิตตก ฟุ้งซ่าน
    ศาสนาพุทธเรา เป็นวิทยาศาสตร์ พิสูจน์ได้ เป็นเรื่องพิสูจน์ได้
    เรื่องภพเรื่องชาติ มันเรื่องไกลตัว จริงๆ มีการเกิด..ก้ต้อง มีดับ
    บางทีมันเกิดๆ ดับ อยู่ทุกขณะจิตก็มี นี่ถ้าอดีตกาลชาติที่แล้ว...เราปฏิบัติธรรม สะสมมาจนบรรลุ พระอรหันต์ หรือเข้าถึงพระนิพพาน เราคงไม่เกิดมาแบบนี้ มาสงสัยในธรรมนี้อีก...พิสูจน์ ธรรม อันเป็นธรรมชาติ ธรรมชาติที่เป็นจริงมีอยู่จริง เกิดตามเหตุตามปัจจัย นี่ต่อไปเราก็คงจะดับ(ตาย) แล้วก็ต้องเกิดอีกตามเหตุตามปัจจัย...เราพิสูจน์โดยการปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรงตามคำสอนแล้ว...รับรอง เรื่องภพเรื่องชาติ การเกิด-ดับ คุณจะไม่สงสัยอีก
    ขอเจริญในธรรม
     
  19. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    ศาสนาทุกศาสนา สอนดีหมด ไม่ต้องการจะพาดพิงถึงศาสนาใดๆ

    (ตอนที่เรียน มหาวิทยาลัย กว่าจะหนีจากผู้ชักจูงพวกนี้ได้ เล่นเอาแย่ หลังๆต้องใช้ไม้แข็ง คือ ไม่พบ ไม่เจอ ไม่ว่าง ไม่ไป เดี๋ยวก็ดีเอง ที่เจ็บใจทุกวันนี้ มีอยู่คำหนึ่งเขาว่า ศาสนาของเขาทำให้คนมีปัญญามีเงินและพัฒนามากกว่าศาสนาใดๆในโลก ได้ยินเท่านี้ ตบะแตกเลย มีแต่สอนให้คนโลภสิไม่ว่า..เฮ้อ)

    เอาเป็นว่า....น้องต้องศึกษาศาสนาของเราให้ดีก่อน ว่าจริงๆแล้วศาสนาของเรา

    สอนเรื่องอะไร จุดมุ่งหมายคืออะไร แล้วน้องจะเข้าใจว่า สิ่งที่พระุพุทธเจ้าสอน

    เป็นเหตุและผล และมีอยู่จริง และสามารถรู้ได้ถ้าปฏิบัติจริง

    เอาง่ายๆ....เรื่องกรรม มันก็เป็นสิ่งที่เราได้พบได้เห็นกันอยู่ และเราก็เข้าใจถึง

    เรื่องกรรมดี ถ้าไม่ใช่กฏแห่งกรรม มนุษย์เราคงจะเกิดมาหล่อมาสวยรวยกันทุก


    คน คงไม่มีใครเลือกที่เกิดเป็นคนพิการ คนจน ถ้าเราไม่บ้าอยากเกิดแบบนี้นะ


    สิ่งที่เน้นมากที่สุด ก็คือ การไปนิพพาน ที่ๆเราสามารถพ้นทุกข์ได้ อธิบายให้เขา


    ฟังว่า การเกิดมันทุกข์อย่างไร เรามีเงินเราก็ทุกข์(ไม่เชื่อไปถามคนรวยดูว่าทุกข์


    ไหม) คนหล่อคนสวย มีทุกข์ไหม (ไม่เชื่อก็ไปถามเขาดูได้ว่าทุกข์ไหม)


    ถ้าไม่อยากทุกข์ ก็ต้องหาทางหลุดพ้นจากตรงนี้ ศาสนาพุทธมีคำอธิบาย

    ทุกอย่าง ซึ่งตัวน้องก็ต้องศึกษาด้วย เพราะจะได้เข้าใจได้อย่างแท้จริง และ

    สามารถตอบเขาไ้ด้อย่างมั่นใจ

    ที่แน่ๆ...อย่าปล่อยให้เขาถามเราอย่างเดียวสิ เพราะดูเหมือนเราจะถูกบุกอยู่ฝ่าย

    เดียว บุกเขาคืนบ้าง
     
  20. radian235

    radian235 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    84
    ค่าพลัง:
    +17
    ผู้ใดอาศัยคำสอนในลัทธิตน เพื่อดูหมิ่นคำสอนลัทธิอื่นเรากล่าวว่ายังห่างไกลพระนิพพาน

    บางครั้งการไม่พูดหรือชักสะพานทิ้งเสีย ก็ดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...