การที่จิตคิดปรามาสพระอริยเจ้าขึ้นมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 26 มิถุนายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    [​IMG]

    ถาม
    การที่จิตคิดปรามาสพระอริยเจ้าขึ้นมาเองโดยไม่ได้ตั้งใจ?
    จะถือว่าจะเป็นกรรมหรือไม่คะ?
    แล้วพอคิดแล้วก็บอกตัวเองว่าจะไม่คิดอย่างนี้อีก?
    แบบนี้จะบรรเทาวิบากกรรมได้ไหมคะ



    ตอบ
    กรณีของการคิดโพล่งขึ้นมาลอยๆ
    หลายคนสงสัยว่าเป็นกรรมหรือเปล่า
    ต้องตอบว่าเป็นครับ

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าจิตนั้นมีธรรมชาติสั่งสมนิสัย
    คือทำอะไรบ่อยๆ ก็สร้างแนวโน้ม
    ที่จะคิด พูด ทำอย่างนั้นๆอยู่เสมอ เมื่อมีเหตุมากระทบ
    ว่าตามตำรา เจตนาเป็นเจตสิกที่เกิดขึ้นกับจิตทุกดวง
    (แม้ในฝันท่านก็ว่ามีเจตนา แต่น้อยเหมือนน้ำมันฉาบกระทะ
    คือมีก็ไม่ใช่ (เพราะน้อยเกินเอามาใช้จริง)
    ไม่มีก็ไม่เชิง (เพราะมีกลิ่น มีมันติดอยู่)
    ฉะนั้น แม้คิดโดยเหมือนไม่รู้ตัว
    ก็จัดเป็นเจตนา เมื่อเป็นเจตนาก็ต้องเป็นกรรม
    แต่อาจไม่ใช่ อาจิณณกรรม
    เพราะบางทีเราคิดแบบลอยๆแล้วเลิก
    ไม่ได้ย้ำคิด ย้ำทำ อันนี้ผลที่ได้รับก็น้อยลงตามส่วน
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอเผลอคิดไม่ดีแวบเดียว
    แล้วสำนึกได้เดี๋ยวนั้น ตัวสำนึกจัดเป็นมหากุศลจิต
    ยิ่งถ้าเจตนาจะไม่คิด ไม่ทำอีก
    ก็กลายเป็นเกราะคุ้มภัยจากกรรมและวิบากชนิดนั้นๆไปเลย


    ที่มา...ดังตฤณวิสัชนา ฉบับเปิดกรุ - ฉบับที่ ๙๕
    ธรรมะใกล้ตัว

     
  2. Nuntiyagul

    Nuntiyagul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    116
    ค่าพลัง:
    +687
    การที่จิตคิดปรามาสพระรัตนตรัยนั้น ในทางการแพทย์ จะมีโรคอยู่อย่างหนึ่งคือ อาการย้ำคิดย้ำทำ ( Obscessive compulsive disorder ) ผู้ป่วยจะมีอาการวิตกกังวล ย้ำคิดและหรือย้ำทำ สิ่งใดบางอย่างซ้ำๆ เช่น ล้างมือบ่อยๆเพราะกลัวว่า มือจะมีเชื้อโรคติดอยู่ เป็นต้น , ส่วนบางคนอาจจะเป็นแค่ย้ำคิดอย่างเดียว เช่นปรามาสพระรัตนตรัยซ้ำๆ และเมื่อมีความคิดนี้เกิดขึ้นก็จะกังวลว่าจะตกนรก ไม่กล้าเข้าวัด เป็นต้น ซึ่งในทางพระพุทธศาสนา ผลในวันนี้ เกิดจากเหตุในอดีต ( ผลของกรรมที่เราได้เคยทำไว้ในชาติก่อน ) อาจเป็นชาติก่อนที่ได้เคยเกิดเป็นคนนอกศาสนาพุทธ และได้เคยปรามาสพระรัตนตรัยไว้ จะส่งผลมาให้ต้องรับกรรมในชาตินี้เกิดความคิดปรามาสพระรัตนตรัย ทั้งๆที่นับถือศาสนาพุทธ หรืออาจเกิดจากกิเลสมารในใจเรา ต้องการดึงเราให้หลุดออกนอกเส้นทางพระนิพพาน จึงอยากจะขอแนะนำว่า เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นแล้ว ให้ทำใจให้เป็นปกติ อย่ากังวลว่าจะต้องตกนรก หรือรู้สึกผิดในใจ เพราะยิ่งกังวลจะยิ่งเกิดความคิดนี้ซ้ำๆ, ให้พยายามฝึกจิตตนเอง ที่เหมาะสม คือ สติปัฏฐานสี่ตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ให้กำหนดตลอดเวลา กำหนดลมหายใจเข้าออก และรู้กาย รู้อิริยาบถตลอดเวลา เมื่อมีความคิดอกุศลผ่านเข้ามาในใจ ก็ให้กำหนด คิดร้ายหนอ หรือ คิดหนอ และย้อนกลับไปดูลมหายใจใหม่ และตามรู้อิริยาบถใหม่ เช่นนี้ตลอดทั้งวัน (กำหนดทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในใจเรา ตาม แนวสติปัฏฐานสี่ ดูกาย เวทนา จิต ธรรม ) การกำหนดความคิดที่ผ่านเข้ามานั้นเพื่อดึงสติของเราให้กลับมา ไม่ให้หลงไปในความคิด และปล่อยวางความคิดนั้น นอกจากนั้น ให้สวดมนต์ไหว้พระทุกวัน บทที่ควรสวด คือ สวดบทขอขมาพระรัตนตรัย บทพาหุงมหากา และสวดอิติปิโสเท่าอายุ บวกหนึ่ง (หลวงพ่อจรัญ ) , อาการะวัตตสูตร เมื่อสวดมนต์เสร็จแล้วให้ นั่งวิปัสสนากรรมฐานต่อ และก่อนนั่งให้อธิษฐานจิตว่า " หากกรรมใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ด้วยกาย วาจาใจ หรือมีมโนกรรมทุจริตคิดร้ายต่อพระรัตนตรัย ตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ขอให้การสวดมนต์ ไหว้พระ สมาทานศีลห้าประการ และการนั่งวิปัสสนากรรมฐานในครั้งนี้ จงส่งผลเป็นอโหสิกรรมด้วยเทอญ และขอให้ข้าพเจ้าจงกลับมามีจิตใจและความคิดที่เป็นปกติ คิดดี ทำดี พูดดี เคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแน่วแน่ นับแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน" ( เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ชาติหน้าต้องปรามาสพระรัตนตรัยอีก ) และพยายามทำบุญให้สม่ำเสมอ ทั้งการให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา โดยเฉพาะการทำบุญที่มีอานิสงค์มากๆ ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาเท่าที่จะทำได้ เพื่อปลูกฝังข้อมูลส่วนดีที่เป็นกุศลกรรมไว้ในใจเราให้มากๆ และท้ายที่สุดทุกอย่างในโลกนี้ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎของไตรลักษณ์ทั้งสิ้น ความคิดอกุศลที่มีอยู่ในใจก็จะต้องจางหายไปในที่สุดนั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มิถุนายน 2010
  3. beautiful soul^^

    beautiful soul^^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +316
    อนุโมทนา สาธุค่ะ
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอเผลอคิดไม่ดีแวบเดียว
    แล้วสำนึกได้เดี๋ยวนั้น ตัวสำนึกจัดเป็นมหากุศลจิต
    ยิ่งถ้าเจตนาจะไม่คิด ไม่ทำอีก
    ก็กลายเป็นเกราะคุ้มภัยจากกรรมและวิบากชนิดนั้นๆไปเลย
     
  4. แม่พัฟ

    แม่พัฟ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +2
    ตอนนี้เจอปัญหานี้อยู่เหมือนกันค่ะ ไม่ได้ตั้งใจคิดแต่พอคิดก็รู้สึกตัวปั้บแล้วก็กลัวบาปมากจนบางครั้งเครียดไม่อยากเป็นแบบนี้แต่ก็บังคับจิตไม่ได้ไม่อยากเป็นแต่ไม่รู้เมื่อไหรจะหายค่ะ เบื่อมากกับอาการแบบนี้
     
  5. tanatep

    tanatep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +118
    เป็นเหมือนกันครับ ผมเป็น ตอนไปฝึกมโนมยิทธิ ที่วัดท่าซุงครับ ไอ่กิเลสเจ้ากรรมมันดันโผล่ขึ้นมา ไล่ปรามาสเขาไปทั่ว ทั้งคน ทั้งพระ ทั้งเทวดา จะยั้งยังไงก็ไม่อยู่ครับ ในใจจริงๆผมเองมีความเคารพในหลวงพ่อฤาษีกับหลวงปู่ปานท่านมาก ทั้งนี้ความเคารพทั้งหลาย เกิดจาก การได้ฟังธรรมของท่าน ผ่านทางคลิปเสียง และ หนังสือ (เกิดไม่ทันครับ ปีที่ผมเกิด ท่านก็ละสังขาร พอดีครับ)
    จิตมันก็ปรามาสท่าน พอมันปรามาสท่าปปุ๊ป จิตเรานึกได้ปั๊บ รู้มัน ตอนแรกๆก้พยามห้าม ห้าม ห้าม ก็ห้ามไม่อยู่ครับ ทีนี้ พอมันปรามาสท่าปปุ๊ป จิตเรานึกได้ปั๊บ ผมก็ขอขมาพระรัตนตรัยเลยครับ คือ พอมันคิดปรามาส ผมก็ สัพพัง อะปะราธัง เลยครับ เป็นอย่างนี้อยู่ทั้งวัน ไม่รู้เป็นวิบากแต่หนไหน ตกกลางคืน ความรู้สึกคือ เหนื่อยครับ เหนื่อยมาก ผมนอนร้องให้เสียใจกับจิตของตัวเองที่เป็นอกุศล ขอขมาท่านแล้ว ท่านเล่า จนตกดึง ก็ ขอขมาท่านเรื่อยๆ สักพัก ก็ จับอาณาปานสติ ดูลม สักพักก้หลับครับ

    ตื่นมาตอนเช้า พอตื่นมา รู้สึกตัวก้ดูลมเลย รู้สึกว่าจิตได้พัก มันจะแจ่มใสขึ้นมาหน่อยๆครับ
    แต่มันก็มีนึกปรามาสท่านอยู่บ้าง พอมันนึก ผมก็ขอขมาปั๊ป มันฟุ้งนักก้ไปล้างห้องน้ำ กวาดลานวัด ตอนกวาดก้ดูลมไป สักพักก้เบาครับ จิตก้สบาย
    พอตอนสายๆก็ไปไล่เดินกราบขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกๆพระองค์ที่อยู่ที่นั่นครับ

    เหตุการณ์ครั้งนั้นนี่เอาเข้าใจเลยว่า คำว่าประหัดประหารกับกิเลส ที่ หลวงปู่มั่นท่านใช้นี่ มันเป็นยังงั้นจริงๆ มันต้องสู้กัน หักหาญกัน อย่างเหน็ดเหนื่อยจริงๆ

    เห็นว่าไอ่กิเลสนี่เป็นภัยจริงๆ คบกับมันมานาน พาลจะพาเราลงนรกไปกับมัน
    ชาตินี้ก็ถือว่ายังพอมีบุญ ได้เกิดมาในพระศาสนา และใน กัปที่เจริญนี้
    จะขอพยายามประหัตประหาญ เอากับมัน ไม่ให้มันได้มีช่องเข้ามาทำอกุศลได้เลย สาธุๆๆๆ ครับ
     
  6. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    877
    ค่าพลัง:
    +1,844
    เจตนาหังภิกขเว

    ประเด็นนี้คุณก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ ก็เป็นการขาดเจตนา ไม่บาปครับ
    ลักณะการปรามาสเป็นอย่างไร ก่อนหน้านี้เคยทำแบบนี้หรือไม่ ทุกอย่างมีเหตุด้วยกันทั้งนั้น
    หากเป็นการเกิดขึ้นมาเองเลย ในส่วนนี้ผมว่ามันฝังไว้ในอนุสัยของคุณ เมื่อมีเหตุประจวบเหมาะมันก็เกิดขึ้นได้เช่นกัน
    แต่อย่างไรก็ตามถ้าขาดเจตนา และไม่มีเจตนาไปส่งเสริมความคิดว่าถูกต้อง ก็ไม่มีกรรม ไม่เป็นบาปครับ
     
  7. TaoTaoJung

    TaoTaoJung Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2012
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +47
    ในสายตาผม มันเป็นโอกาศที่ดีเลย

    ความคิดที่เรายึดถืออย่างมั่นคง ว่า.. มันเป็นบาปอกุศลหนัก
    ที่เป็นผลผลิตจากใจ ซึ่งเราเคยเข้าใจว่า มันคือเรา ของเรา ความคิดเรา เรากำลังคิด ฯลฯ

    ท่านลองเฝ้าดู ใจตน อย่างต่อเนื่อง และกระชั้นชิดสิครับ
    เฝ้าดูจนกระทั่งวางมันลงได้

    หากไม่ย่อท้อ ท่านอาจได้เห็น ธาตุแท้และพฤติกรรมแห่งใจ
    กฎไตรลักษณ์จะชัดขึ้นมา แต่อาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน
    และจะเข้าถึงคำว่า กายสักแต่ว่า ใจสักแต่ว่า ด้วยตนเอง

    และหลังจากวางลงได้ จะเป็นใจที่ไม่เหมือนแต่ก่อน

    ลองเฝ้าดูอย่างกระชั้นชิด และหาทางวางมันดูครับ
    ไม่นานก็จะเห็นได้ เข้าใจได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...