ใครพอจะรู้ประวัติ วันเดือนปีเกิด พระอินทร์มั้ยครับ?

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เอกอิสโร, 6 กันยายน 2010.

  1. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    [​IMG]

    Thanawut Arisa Sriwattana
    สวัสดีครั บ ผมชื่อ เด ครั บ แม่ดวงใจแนะนำหั้ยผมมาหาคุณ พอจะรุประวัติ วันเดือนปีเกิด พระอินทร์มั้ยครับ


    <FORM id=commentable_item_992390741_156787121003981 class="commentable_item one_row_add_box autoexpand_mode comment_form_156787121003981" onsubmit=';var d=document.documentElement;if (d.onsubmit) { return d.onsubmit(event); }else { return Event.fire(d, "submit", event); }' method=post name=add_comment action=/ajax/ufi/modify.php ajaxify="1">
      • [​IMG] เอกอิสโร วรุณศรี
      • สวัสดีครับ เด เป็นคำถาม ที่พี่ตอบเลยว่า "ไม่รู้จริงๆ" ครับ แต่จะลองขวยขวายหาดูนะครับ เพราะเท่าที่ผ่านหู ผ่านตา มา ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยครับ

    </FORM>
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    อันนี้ต้องขึ้นไปถามเอง....แล้วหละครับ....
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** เรื่องวันเกิด ****

    ต้องถามคนเป็นแม่
    แม่เป็นผู้คุมการกำเนิด เบ่งคลอดออกมา
    แม่จดจำบอกเล่าให้ลูกฟัง ลูกถือเป็นวันเกิดตัวเอง
    จะอย่างไรก็แล้วแต่ จะเกิดได้ก็ต้องอาศัยแม่
    ส่วน พ่อเป็นผู้ให้กำเนิด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  4. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    เป็นคำถามที่หาคำตอบยากที่สุด ตั้งแต่ ถูกถามมาครับ ช่วย น้องเด หลานเด หน่อยนะครับ
     
  5. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ตั้งแต่มีตำแหน่งพระอินทร์ ก็มีมาตั้งหลายองค์ จะเลือกองค์ไหนล่ะ แล้วจะนับว่าเป็นวันเกิดตั้งแต่ท่านยังเป็นมนุษย์ หรือว่าตายจากความเป็นมนุษย์ แล้วเคลื่อนมาเป็นพระอินทร์
     
  6. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
  7. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    <table width="98%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="1"><tbody><tr><td align="center">บทที่ 4 เทวภูมิ


    </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> <table width="98%" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="p_content">4.3 ตาวติงสาเทวภูมิ

    ตาวติงสาเทวภูมิ หรือ ที่เราเรียกตามภาษาไทยว่า ดาวดึงส์ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 ที่จัดอยู่ในกามภพ เป็นปรโลกฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้จะเป็นที่รู้จักในหมู่พุทธศาสนิกชนมากที่สุด เพราะมีความสัมพันธ์กับเกี่ยวข้องกับมนุษย์มากอีกชั้นหนึ่ง และที่สำคัญมีผู้ปกครองภพ ที่มีชื่อเสียงมาก คือ ท้าวสักกะเทว-ราช หรือพระอินทร์ ซึ่งพระองค์เป็นพุทธศาสนิกชน

    จากการศึกษาพระไตรปิฎกพบว่า พระอินทร์มีส่วนสำคัญในการปกครองเหล่าทวยเทพของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ให้อยู่ อย่างสงบสุข และได้ช่วยเหลือพระบรมโพธิสัตว์อย่างต่อเนื่องตลอดมา หลายภพหลายชาติ จนมีความดีปรากฏให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายได้เล่าขานสืบต่อกันมายาวนาน ในสวรรค์ชั้นนี้ยังมีเรื่องราวมากมายให้ได้ศึกษา เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ตรัสเล่าเรื่องของสวรรค์ชั้นนี้ไว้เป็นจำนวนมากในพระไตร-ปิฎก รวมถึงเหล่าพระสาวกที่ไปเยี่ยมเยือนเหล่าเทพบุตร เทพธิดา แล้วนำบุพกรรมที่ได้ทิพย-สมบัติเหล่านั้นมาเล่า ให้เหล่าภิกษุ และสาธุชนได้ฟังอีกด้วย

    ในหัวข้อนี้ นักศึกษาจะได้ทำความรู้จักกับชาวสวรรค์ชั้นนี้ได้อย่างละเอียดลึกซึ้งมาก ขึ้น ทำให้เห็นความน่ารื่นรมย์ของชาวสวรรค์ ที่เกิดขึ้นจากผลแห่งบุญที่เทวดาเหล่านั้นได้สั่งสมไว้ในอดีตอีกด้วย

    4.3.1 คำแปลและความหมาย

    ตาวติงสาเทวภูมิ หรือดาวดึงส์ มีความหมาย 2 นัย นัยหนึ่ง มีความหมายว่า เป็นที่เกิดของบุคคล 33 คน คือ เกิดเป็นพระอินทร์ 1 เกิดเป็นเทวดาผู้เป็นใหญ่อีก 32

    ส่วนอีกนัยหนึ่ง มีความหมายว่า เป็นพื้นแผ่นดินที่ปรากฏขึ้นในโลกเป็นครั้งแรกก่อนพื้นดินส่วนอื่น เพราะภูมินี้อยู่บนยอดเขาสิเนรุ

    สรุปว่า ตาวติงสาเทวภูมิ คือ สถานที่อยู่ของเทพผู้มีศักดิ์ใหญ่ 33 องค์

    4.3.2 ที่ตั้งและลักษณะของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นี้ อย่างที่ทราบข้างต้นแล้วว่า เป็นที่อยู่ของผู้ปกครองภพ 33 องค์ โดยมี ท้าวสักกเทวราช หรือท้าวโกสีย์อัมรินทร์ ซึ่งเรียกกันสั้นๆ ว่า พระอินทร์นี้ หรือบางทีก็เรียก ท้าวสหัสสนัย คือ ท้าวพันตา เพราะจักขุดีมากเห็นได้ชัดเจน และเห็นได้ไกลมาก เท่ากับดวงตาตั้งพันดวง เป็นประธาน มีหน้าที่ปกครองสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รวมถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้วย สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่บนยอดเขาสิเนรุ สวรรค์ชั้นนี้ เดิมเป็นที่อยู่ของจอมอสูร แต่เมื่อพระอินทร์ผู้เคยเป็นมฆมาณพ เป็นผู้ประกอบกุศลกรรม พร้อมทั้งชักชวนสหายอีก 32 คนให้ประกอบกุศลกรรมต่างๆ เช่น สร้างศาลา และทำถนนหนทาง เป็นต้น อีกทั้งมฆมาณพได้บำเพ็ญวัตตบท 7 ประการ คือ เลี้ยงดูบิดามารดา เคารพยังยำเกรงต่อผู้เฒ่าผู้แก่ในตระกูล กล่าวถ้อยคำอันไพเราะอ่อนหวาน ไม่กล่าววาจาส่อเสียด ไม่ตระหนี่ ตั้งอยู่ในความสัตย์สุจริต และไม่เป็นคนมักโกรธ ครั้นละโลกแล้ว มฆมาณพพร้อมสหาย ได้เกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และได้ทำสงครามสู้รบกับจอมอสูร จนอสูรพ่ายแพ้ จึงต้องอพยพไปอยู่ใต้เขาพระสุเมรุ

    ในชั้นดาวดึงส์จะแบ่งออกเป็น 4 ทิศใหญ่ ตรงกลางจะเป็นเมืองที่ประทับของพระอินทร์ และพระสหาย ชื่อ สุทัสสนเทพนคร ซึ่งอยู่เป็นเมืองศูนย์กลางสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีเวชยันต์ประสาทเป็นจุด ศูนย์กลาง มีการแบ่งการปกครองออกเป็น 3 เขตใหญ่ เขตแรกอยู่วงในใกล้เวชยันตปราสาท มีอยู่ 8 เขต เขตที่ 2 อยู่วงกลาง แบ่งออกเป็น 10 เขต เขตที่ 3 อยู่วงนอกสุดแบ่งออกเป็น 14 เขต รวมเป็น 32 เขต เท่ากับจำนวนของพระสหาย

    มาศึกษารายละเอียดของมหาสุทัสสนเทพนคร ซึ่งเป็นเมืองกลางสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเทพ-นครขนาดใหญ่กว้างขวางมาก ปราสาทต่างๆ ล้วนเป็นแก้วอันเป็นทิพย์ มีกำแพงแก้วแวดล้อมมหานครอีก ชั้นหนึ่ง เนื่องจากสุทัสสนเทพนครมีความกว้างใหญ่ถึง 10,000 โยชน์ ทำให้มีประตูที่กำแพงแก้วถึง 1,000 ประตู และมียอดปราสาทอันสวยงามอยู่เหนือประตูทุกประตู เมื่อประตูเปิดแต่ละครั้งจะบังเกิดเสียงดนตรีทิพย์อันไพเราะกังวาน

    ในท่ามกลางเทพนครนั้น มีเวชยันตปราสาทสูงถึง 1,000 โยชน์ มีความสวยงามสุดพรรณนา ล้วน แล้วประดับด้วยรัตนชาติ 7 ประการ เพราะเป็นที่ประทับของท้าวสักกะจอมเทพ พระนครนั้นประกอบด้วยประตู 1,000 บาน ประกอบด้วยอุทยานสวรรค์และสระโบกขรณี ที่เรือนยอดของเวชยันต์ปราสาทซึ่งมีความสูง 700 โยชน์ ล้วนประกอบด้วยแก้ว 7ประการทั้งสิ้น มีธงหลากสีประดับประดาอย่างสวยงาม ธงต่างๆ เหล่านั้นสูงถึง 300 โยชน์ ผุดขึ้นในท่ามกลางพระนคร ตรงไหนมีคันธงเป็นทองตัวธงจะเป็นแก้วมณี ผืนธงจะเป็นทองระยิบระยับ ถ้าคันธงเป็นแก้วประพาฬ ผืนธงจะเป็นแก้วมุกดา หากคันธงเป็นแก้ว 7 ประการ ผืนธงจะเป็นแก้ว 7 ประการ เหมือนกัน
    ออกจากเวชยันตปราสาทอันเป็นที่ประทับของพระอินทร์แล้ว ซึ่งมีความยิ่งใหญ่อลังการแล้ว ยังมีอุทยานสวรรค์เกิดขึ้นมากมาย

    ทิศตะวันออก มีอุทยานสวรรค์ชื่อ จิตรลดา ที่ใหญ่โตโอฬารมาก สวยงามกว่าสวนที่มีทั้งหมด มีเนื้อที่ประมาณ 500 โยชน์ มีสระโบกขรณี 2 สระ คือ จิตรโบกขรณี และจุลจิตรโบกขรณี เหตุที่สวนนี้ ชื่อจิตรลดา เพราะว่ามีเถาวัลย์ที่พิเศษซึ่งเป็นเถาชั้นยอดอยู่ชนิดหนึ่ง ชื่อว่า อาสาวดี เถาวัลย์ชนิดนี้ หนึ่งพันปีจะออกดอกครั้งหนึ่ง เมื่อออกผลก็จะออกเพียงผลเดียวเท่านั้น ครั้งออกผลแล้วจะส่งกลิ่นหอม ไม่แพ้ดอกปาริชาติ ดังนั้นเถาวัลย์นี้ จึงเป็นที่ดึงดูดตาดึงดูดใจของเหล่าทวยเทพ ต่างรอคอยดูผลของเถาวัลย์อาสาวดีนี้

    ทิศตะวันตก มีอุทยานสวรรค์ชื่อ นันทวัน ในสวนนี้ จะมีสระโบกขรณี 2 สระ คือ มหานันทา-โบกขรณี และจุลลนันทาโบกขรณี และมีแท่นบรรทมสำหรับให้เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ได้ทำการจุติด้วย ซึ่งเทพผู้เกิดจุตินิมิต จะมายังสวนนี้เพื่อทำการจุติ เหล่าทวยเทพสหายก็จะมาอำนวยอวยพรให้บังเกิดในสุคติภพต่อไป
    นอกจากนี้ ที่สวนนันทวัน ยังมีดอกมณฑารพเกิดขึ้นมากมาย เป็นต้นไม้ประจำสวนนันทวัน ดอกไม้นี้เคยตกจากสวรรค์ เพื่อบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขณะที่พระองค์กำลังดับขันธปรินิพพาน ดอกมณฑารพมีสีเหลืองทอง มีรัศมีสวยงามมาก มีกลีบเท่าฉัตร ใบไม้ ละอองเกสรใหญ่เท่าทะนาน และในระหว่างสระก็มีสวน ในระหว่างสวนก็มีสระ สลับกันไปอย่างเป็นระเบียบ งดงาม สระแต่ละสระจะมีขนาดกว้างใหญ่ไม่เท่ากัน แต่ส่วนมากจะกว้างประมาณ 500 โยชน์

    ทิศเหนือ มีอุทยานสวรรค์ชื่อ มิสกวัน ภายในมีสระโบกขรณี 2 สระ คือ สุธรรมาโบกขรณี และธรรมาโบกขรณี

    ทิศใต้ มีอุทยานสวรรค์ชื่อ ปารุสกวัน เป็นสวนสวยที่ใหญ่ที่สุดในทิศนี้ มีสระโบกขรณี 2 สระ คือ ภัททาโบกขรณี และสุภัททาโบกขรณี

    ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ในระหว่างสวนมิสกวันกับสวนนันทวัน มีสระบัวชื่อ ปทุมวัน ซึ่งมีความงามมาก ชาวสวรรค์มักจะพาไปเก็บดอกปทุมนี้ เพื่อไปบูชาพระจุฬามณีในวันพระ 8 ค่ำ 14 ค่ำ และ 15 ค่ำ เป็นประจำ

    ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ในระหว่างสวนนันทวันกับสวนปารุสกวัน มีสระบัวชื่อ อุบลวัน เป็นสระ บัวสาย ที่มีชื่อเสียงมาก

    ทิศตะวันออกเฉียงใต้ ในระหว่างสวนปารุสกวันกับสวนจิตรลดา มีสระบัวชื่อ นิลุบลวัน เป็นสระบัวเขียว ณ บริเวณนี้ จะเป็นที่ประดิษฐานของพระมหาจุฬามณี บุญสถานอันศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าเทวดา ทั้งหลาย ซึ่งจะพากันมากราบไหว้บูชาด้วยทิพยบุปผาอยู่เป็นประจำ เพื่อเติมบุญบารมีให้กับตนเอง เพราะเมื่ออยู่บนสวรรค์แล้ว หมดสิทธิ์ทำความดี มีเพียงสถานที่เดียวที่จะก่อบุญกุศลได้ ชาวสวรรค์ ส่วนใหญ่จะเป็นพุทธศาสนิกชน ครั้งเมื่อเป็นมนุษย์อาจจะมีความเชื่อหลากหลาย เพราะความไม่รู้ ต่อเมื่อได้อยู่บนสวรรค์แล้ว จะรู้ด้วยตนเองว่า ทำบุญในพระพุทธศาสนาจึงจะถูกหลักแห่งการทำบุญ คือ ทำแล้วได้บุญมาก

    ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ในระหว่างสวนมิสกวันกับสวนจิตรลดา จะมีสระบัวชื่อ ปุณฑริกวัน เป็นสระดอกบัวขาว ที่สวนนี้จะมีต้นปาริฉัตร ใต้ต้นปาริฉัตรจะมีบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ ที่ประทับนั่งของพระอินทร์ และยังมีสุธรรมเทวสภา อันเป็นที่ประชุมของเหล่าเทวดาอีกด้วย เยื้องจากสุธรรมเทวสภา จะมีสระแก้วใส และมีป่ามหาวัน ที่ตรงนี้จะมีปราสาทพันหลังเกิดขึ้น สำหรับเป็นที่ประทับของพระอินทร์ และเหล่าทวยเทพผู้มีศักดิ์ใหญ่ ที่เข้ามาเที่ยวชมอุทยานสวรรค์แห่งนี้

    4.3.3 อายุขัยของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    อายุของชาวสวรรค์ชั้นนี้ มีปรากฏใน วิตถตสูตร ว่า

    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย 100 ปีมนุษย์ เป็นคืนหนึ่งของเทวดาชั้นดาวดึงส์ 30 ราตรี โดยราตรีนั้นเป็นเดือนหนึ่ง 12 เดือนโดยเดือนนั้นเป็นปีหนึ่ง พันปีทิพย์โดยปีนั้น เป็นประมาณอายุของเทวดาชั้นดาวดึงส์"

    จากพระสูตรนี้ ทำให้เราทราบอายุของสวรรค์ชั้นนี้ว่า มีอายุ 1,000 ปีทิพย์ อายุของสวรรค์ชั้นนี้จะเป็นหนึ่งเท่าของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ถ้านับเป็นอายุมนุษย์ก็เท่ากับ 36 ล้านปีในเมืองมนุษย์

    4.3.4 การอุบัติและการบริโภคกามของชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    บุคคลเมื่อละโลกแล้ว มีกำลังบุญที่จะได้บังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แล้ว เมื่ออุบัติจะเกิดแบบโอปปาติกะ คือ เกิดแล้วก็เป็นเทพบุตรสุดหล่อ เทพธิดาสุดสวยทันที มีวัยที่งดงาม เทพบุตรอายุประมาณ 18-20 ปี เทพธิดาจะมีอายุประมาณ 16-18 ปี

    การบริโภคกามของเหล่าเทพบุตรและเทพธิดา ยังคงเป็นแบบมนุษย์ มีน้ำเป็นที่สุดเหมือนกัน แต่จะแตกต่างจากสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาตรงที่ไม่มีความพิสดารในการบริโภค กาม และไม่มีการตั้งครรภ์ ไม่มีการเกิดอย่างมนุษย์ ไม่มีการเกิดแบบชลาพุชะ อัณฑชะ สังเสทชะ มีการเกิดแบบเดียว คือ โอปปาติกะ
    </td> </tr> </tbody></table>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กันยายน 2010
  8. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    <table width="98%" border="0" cellpadding="2" cellspacing="1"><tbody><tr><td align="center">บทที่ 4 เทวภูมิ


    </td> </tr> <tr> <td>
    </td> </tr> </tbody></table> <table width="98%" border="0" cellpadding="3" cellspacing="1"> <tbody><tr> <td class="p_content">แนวคิด

    1. สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 ในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้มีความหลากหลายมากกว่าสวรรค์ชั้นอื่น เพราะมีเทวดาหลายเผ่าพันธุ์ และเทวดาบางพวกมีที่อยู่ซ้อนกับภูมิมนุษย์ด้วย สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่ที่เขาสิเนรุ เป็นเสมือนประเทศราชของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ที่ชื่อว่า สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา เพราะมีเทพผู้เป็นใหญ่ครองสวรรค์ชั้นนี้อยู่ 4 ท่าน คือ ท้าวธตรฐ ปกครองด้านทิศตะวันออก มีหน้าที่ดูแล พวกคนธรรพ์ วิทยาธร และกุมภัณฑ์ ท้าววิรุฬหก ปกครองด้านทิศใต้ มีหน้าที่ดูแลพวกครุฑ ท้าววิรูปักษ์ ปกครองด้านทิศตะวันตก มีหน้าที่ปกครองพวกนาค และท้าวเวสสุวัณ ปกครองสวรรค์ด้านทิศเหนือ มีหน้าที่ดูแลพวกยักษ์ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ท้าวจตุโลกบาล คือ มีหน้าที่ดูแลโลกมนุษย์ทั้ง 4 ทวีป ชาวสวรรค์ชั้นนี้มีตั้งแต่ชั้นสูงที่อยู่บนเขาสิเนรุ ชั้นกลางอยู่ที่ป่าหิมพานต์ และชั้นล่างก็อยู่บนพื้นโลกมนุษย์ อายุของชาวสวรรค์ชั้นนี้ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 50 วันในโลกมนุษย์ มีอายุ 500 ปีทิพย์

    2. สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 ในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่บนหน้าตัดของเขาสิเนรุ ที่ชื่อว่าดาวดึงส์ เพราะเป็นที่อยู่ของผู้ปกครองภพถึง 33 พระองค์ โดยมีท้าวสักกเทวราช เป็นผู้ปกครอง มีหน้าที่ปกครองชาวสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาและดาวดึงส์ให้อยู่กันอย่างผาสุก สวรรค์ 2 ชั้นนี้สามารถไปมาหาสู่กันได้ เพราะอยู่ที่เขาสิเนรุเหมือนกัน สวรรค์ชั้นนี้มีความเป็นอยู่ที่ประณีตกว่าสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา มีสถานที่อันน่ารื่นรมย์เป็นจำนวนมาก ทั้งอุทยานสวรรค์ สระโบกขรณี และที่สำคัญมีพระธาตุจุฬามณีที่บรรจุพระเขี้ยวแก้วและพระเมาลีของพระสัมมา สัมพุทธเจ้า อันเป็นที่เคารพสักการบูชาของชาวสวรรค์ทุกชั้นฟ้าอีกด้วย สวรรค์ชั้นนี้มีอายุขัย 1,000 ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 100 ปีในโลกมนุษย์

    3. สวรรค์ชั้นยามา เป็นสวรรค์ชั้นที่ 3 ในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ขึ้นไปในอากาศเป็นระยะทาง ประมาณ 42,000 โยชน์ ที่ชื่อว่ายามา เพราะเป็นที่อยู่ของเทวดาที่มีท้าวสุยามาเป็นผู้ปกครอง สวรรค์ชั้นนี้จะไม่มีดวงอาทิตย์ เหมือนสวรรค์ชั้นจาตุ-มหาราชิกา เพราะพ้นจากการโคจรของดวงอาทิตย์แล้ว อาศัยความสว่างจากรัศมีของสิ่งของต่างๆ บนสวรรค์ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะไม่มีมุมมืด วัตถุทุกชนิดไม่มีเงา ความเป็นอยู่จะสุขสบาย ประณีตกว่าสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกากับดาวดึงส์ สวรรค์ชั้นนี้มีอายุขัย 2,000 ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 200 ปีในโลกมนุษย์

    4. สวรรค์ชั้นดุสิต เป็นสวรรค์ชั้นที่ 4 ในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไปในอากาศเป็นระยะทางประมาณ 42,000 โยชน์ ที่ชื่อว่าสวรรค์ชั้นดุสิต เพราะเป็นที่อยู่ของเทวดาที่มีท้าวสันตดุสิตเป็นผู้ปกครอง สวรรค์ชั้นนี้มีความพิเศษโดดเด่นกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ ตรงที่เป็นที่รวมของพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลาย ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต เพราะสวรรค์ชั้นนี้สามารถอธิษฐานจิตลงมาสร้างบารมีได้ โดยไม่ต้องรอให้หมดบุญ หรือหมดอายุขัยเหมือนสวรรค์ชั้นอื่นๆ เทวดาที่เกิดในสวรรค์ชั้นนี้ มีปัญญามาก ไม่ค่อยประมาทในการดำรงชีวิตในสวรรค์เหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่น มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท้าวสันตดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ที่มีบุญบารมีมากมาแสดง ธรรมให้กับเหล่าเทวดา ทั้งหลายได้ฟัง ความเป็นอยู่ของสวรรค์ชั้นนี้จะประณีตกว่าสวรรค์ทั้ง 3 ชั้น สวรรค์ชั้นนี้มีอายุขัย 4,000 ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 400 ปีในเมืองมนุษย์

    5. สวรรค์ชั้นนิมมานรดี เป็นสวรรค์ชั้นที่ 5 ในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไปในอากาศเป็นระยะทาง ประมาณ 42,000 โยชน์ ที่ชื่อว่าสวรรค์ชั้น นิมานรดี เพราะเป็นที่อยู่ของเทวดาที่มีท้าวสุนิมมิต เป็นผู้ปกครอง ชาวสวรรค์ชั้นนี้เป็นผู้มีบุญมาก สามารถเนรมิตเปลี่ยนแปลงวัตถุต่างๆ ได้ตามต้องการ ซึ่งมีความพิเศษไม่เหมือนสวรรค์ 4 ชั้น ที่สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นแล้ว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ชาวสวรรค์ชั้นนี้มีความเป็นอยู่ที่สุขสบายและประณีตกว่าสวรรค์ 4 ชั้น สวรรค์ชั้นนี้มีอายุขัย 8,000 ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 800 ปีในเมืองมนุษย์

    6. สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เป็นสวรรค์ชั้นที่ 6 เป็นชั้นสุดท้ายในเทวภูมิ จัดอยู่ในกามภพ ฝ่ายสุคติภูมิ สวรรค์ชั้นนี้ตั้งอยู่สูงกว่าสวรรค์ชั้นนิมมานรดีขึ้นไปในอากาศเป็นระยะทาง ประมาณ 42,000 โยชน์ ที่ชื่อว่าสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี เพราะเป็นที่อยู่ของเทวดาที่มีท้าวปรนิมมิตวสวัตดี เป็นผู้ปกครอง เทวดาชั้นนี้ มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นๆ คือ ปรารถนาสิ่งใดมิต้องเนรมิตเอง แต่จะมีบริวารที่รู้ใจที่เกิดด้วยบุญ คอยเนรมิตให้ มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ประณีตกว่าสวรรค์ทุกชั้น สวรรค์ชั้นนี้มีอายุขัย 16,000 ปีทิพย์ วันหนึ่งคืนหนึ่งของสวรรค์ชั้นนี้เท่ากับ 1,600 ปีในเมืองมนุษย์

    วัตถุประสงค์

    1. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาได้อย่างถูกต้อง

    2. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้อย่างถูกต้อง

    3. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นยามาได้อย่างถูกต้อง

    4. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นดุสิตได้อย่างถูกต้อง

    5. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นนิมานรดีได้อย่างถูกต้อง

    6. เพื่อให้นักศึกษาสามารถอธิบายความหมาย ที่ตั้ง ลักษณะ การอุบัติ การบริโภคกาม และอายุ-ขัยของสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีได้อย่างถูกต้อง
    </td> </tr> </tbody></table>
     
  9. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    คุณพนมกุเลนครับ

    เอาองค์ปัจจุบัน นี่ก็แล้วกันนะครับ ช่วยน้องเด ด้วยครับ ผมก็ไม่ได้ถามวัตถุประสงค์ว่า อยากรู้ไปทำไมนะ?
     
  10. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ท้าวสักกเทวราชองค์นี้ อดีตคือท่านมฆะ (มฆมานพ) ชาวแคว้นมคธ ประเทศอินเดีย มีชีวิตอยู่ในยุคก่อนพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันจะตรัสรู้ั (ก่อนพุทธกาล)
     
  11. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    ท้าวสักกะหรือที่เรียกว่าพระอินทร์ องค์ปัจจุบันนี้มีวันเกิด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 36 ล้านปีที่แล้วหลังจากที่ตายจากชาติที่เป็นมฆมาณพ ครั้งที่สองทรงเกิดใหม่อีกครั้งในสมัยพุทธกาล หลังจากฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า เมื่อบรรลุเป็นพระโสดาบันก็ทรงจุติหรือตายแล้วก็บังเกิดเป็นท้าวสักกะองค์ใหม่ที่หนุ่มกว่าเดิม มีรัศมีรุ่งเรื่องกว่าเดิม
    การนับวันเดือนปีในอดีตไม่เหมือนกันในปัจจุบันนี้ที่ใช้ระบบสุริยคติ สมัยก่อนนับกันด้วยระบบที่คล้ายกับจันทรคติในปัจจุบัน
     
  12. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    พระอินทร์หรือม้าวสักกะเทวราชองค์ปัจจุบันเกิด 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อ 36 ล้านปีที่แล้วตอนที่ีตายจากมนุษย์ที่ชื่อ มฆมาณพ สมัยนั้นไม่ได้นับวันเดือนปีอย่างเรา ก็ไม่รู้ว่าจะเอาอะไรไปเปรียบเทียบ เกิดใหม่อีกครั้งเมื่อยุคที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ชีพอยู่
     
  13. วรุณบุตร

    วรุณบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +1,018
    ท่านปู่พนะอินทร์องค์ปัจจุบันท่านคือพระเจ้าพังคราชแห่งอาณาจักรเชียงแสนโบราณ เป็นพระราชบิดาของพระเจ้าพรหมมหาราชครับ วันเดือนปีเกิดท่านไม่ทราบครับ
     
  14. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +3,592
    พระอินทร์มีนามเยอะมาก แต่ผมชอบชื่อ สหัสนัย ครับ
    เจตนาที่ถามคือต้องการจะบูชาพระอินทร์หรือป่าว ในส่วนคําถามตอบไม่ได้ครับ
    อันล่างนี่ไปลอกเค้ามา

    การไปสักการะพระอินทร์ นั้นสักการะได้ทุกวัน ยกเว้นวันพระ เพราะพระอินทร์พระองค์จะเสด็จไปฟังธรรมที่เทวสภา นะครับ

    ในการบูชาพระอินทร์เพื่อขอให้การงานราบรื่นศัตรูพ่ายแพ้ มีโชคมีลาภตลอดปี

    ๑.ดอกไม้สีขาวจะเป็นดอกไม้อะไรก็ได้ ห้ามใช้ดอกบัว(สำหรับพระพุทธเจ้า)
    ๒.พวงมาลัยดาวเรือง ขนาดคล้ององค์เทวรูปได้ ๑พวง
    ๓.ธูปทองนากเงินรวมกัน ๙ดอกเทียนสีผึ้ง ๑บาท๑คู่
    ๕.มะพร้าวน้ำหอม ๑ลูก
    ๖.กล้วยน้ำว้า ๑หวีไม่ต้องสุกจัด
    ๗.นมสด ๑กล่อง ช้างไม้ ๑คู่
    ห้ามถวายสิ่งดองของมึนเมาและหมากพลูเด็ดขาด


    คาถาบูชา นโมสามจบ
    พุทธบูชา มหาเตชะวัณโต
    ธัมมบูชา มหาปัญญะวันโต
    สังฆะบูชา มหาโภคะวะโห ติโลกนาถัง อภิปูเชมิ
    สหัสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง วิโสธายิอิกะวิติ พุทธะสังมิ โลกะวิทู ๓จบ


    สวดขอพรดังนี้ นโมสามจบ
    เอราวะณัสสะ นามะ เทวะราชะกุญชะรัสสะ
    อานุภาเวนะ สัพพะสิทธิ ภะวะตุ เม ฯ ๓จบ


    การบูชาพระอินทร์
     
  15. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
    ปู่อิน..... ผมว่าถ้าไปถามคงโดนว่าแน่ๆเลย มีครัยไปถามไห้หน่อยจิ
    อยากรู้เหมือนกัน งุงิ
     
  16. บูชาพุทธ

    บูชาพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +858
    จะอยากรู้ไปเพื่ออะไรเหรอคะ และ ถ้ารู้แล้วจะทำอะไรต่อไป
    เป็นคำถามที่ยากนะคะ
     
  17. เอกอิสโร

    เอกอิสโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,051
    ค่าพลัง:
    +3,809
    [​IMG]
    ลบออก
    Thanawut Sriwattana

    สวัสดีครั บ บังเอิญมีคนถามมาเยอะ ว่าผมอยากรุไปทำไม ผมตอบกระทู้ไม่เปน แต่ที่อยากรุเพราะว่า ผมตั้งใจจะเขียนหนังสือ ประวัติของท่านอ่าครั บ ละอยากหั้ยมีการจัดงานที่คล้ายๆกับ คเนศจตุรถีบ้าง เพราะว่า พระอินทร์มีความเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนาเยอ<WBR>ะเหมือนกันครั บ แต่ทุกคนมักลืมท่านไปเยอะครั บ
     
  18. nalin101

    nalin101 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    75
    ค่าพลัง:
    +2,029
    ถ้าต้องการเขียนประวัติของท่านล่ะก้อ
    คงต้องฝึกมโน แล้วขึ้นไปสัมภาษณ์ท่านเองล่ะค่ะ
    เพราะไอ้เรื่องที่ท่านทำคนรู้ก็เยอะ คนไม่รู้ก็เยอะ ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...