เรื่องเด่น ช่วงชีวิตที่หายไปของพระเยซู...ไปศึกษาพุทธศาสนาที่อินเดีย

มันจะได้ขึ้นเวปดราม่ามั๊ยนะ

 

ได้ความรู้เพิ่มเติมขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณค่ะ

 

กินโรตีเพลินเลย ซดมาม่าไปด้วย นี่แหละชีวิตเนาะ
กิเลสไม่เสแสร้ง ตรงไปตรงมา ความจริงมันก็สะเทือนซางเหมือนกัน
ใครอยู่บนภู ก็กินโรตีดูหนังชีวิตอิงความจริงกันเพลิน อะนะ

 

พี่ครับ เพ่ พี่เพลิน

หรือว่า โดนจนมึน จนชา ผมว่าน่าจะเป็นอันหลังมากกว่านะเพ่

มาจากหลายทิศทางเสียเหลือเกิน คนละตุ๊บ ละตั๊บ

ผมว่าเพ่มึนแล้วน้า มันรู้สึกมึนๆชาๆไช่ปะ

หุหุ

 

จงอย่าตั้งอยู่บนความประมาทครับ...สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมในอดีตที่เสมือนทำด้วยวจีกรรม มันได้ถูกบันทึกไว้ด้วยจิตของแต่ละคนไว้เรียบร้อยแล้วครับ รอแต่เพียงวิบากจะมาเท่านั้นครับ

 

ถ้าไม่หัดอยู่บนภูก็ยากจะรู้ได้เองว่า เพลิน กับมึน มันต่างกันยังไง เนาะ
สะเทือนซาง แต่หยุดกายกรรม วจีกรรมได้ทัน ก็โอเคนะ
วันหน้าซางมันก็กระเทือนน้อยลง จนเลิกกระเทือนไปเอง คิดว่างั้นนะ
ตอนนี้กระทือนซางก็รู้ว่ากระเทือนซาง ก็โอ แระ

 

เป็นไปได้ครับ

โดยปรกติถ้าคนเราเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บก็จะคิดถึงสถานที่เรียกว่าบ้าน หรือที่ๆเราเคยอาศัยอยู่นานๆ การอยู่ที่เดิมที่โดยเค้าทำร้ายคงไม่ดีแน่จึงต้องกลับมาที่ๆเคยอาศัย ที่ๆปลอดภัยกว่า ส่วนที่เรารับรู้กันคือ ศาสนาพราหมณ์นั้นเกิดก่อนพุทธ พุทธเกิดก่อนคริส คริสเกิดก่อนอิสลาม อันนี้เป็นที่รู้กันอยู่แล้ว
การที่พราหมณ์จะมีอิทธิพลกับพุทธ และ พุทธจะมีอิทธิพลกับคริส ก็เป็นเรื่องธรรมดา และ จุดเกิดของศาสนาผมหมายถึงระยะทางก็พอที่จะเดินทางถึงกันได้
ถ้าสมมุติ ศาสนาพุทธอยู่ที่ทวีปอเมริกา แล้ว คริสอยู่ฝากเอเชีย ok อาจจะต้องมาคิดกันหน่อยว่าระยะทางมีทะเลกั้น ยุคนั้นไม่สามารถเดินทางข้ามได้ทำไมถึงเหมือนกันอันนี้น่าคิด
โดยปรกติศาสนาไหนก็มีหลักคล้ายๆกัน คือเรื่องการให้ทำความดี ไม่ทำความชั่ว อันนี้เป็นความจริงคงไม่ถึงกับผูกขาดว่าเป็นของศาสนาใด ใครคิดก่อน เพราะเป็นหลักความจริง ข้อมูลที่อ่านมานี้อาจจะมีผลกระทบด้านความเชื่อเพราะเหมือนกับว่า issa นั้นมาศึกษาคำสอนของพุทธ จะทำให้ความรู้สึกของชาวคริสนั้นรู้สึกไม่สามารถรับได้ (บางท่าน) ก็อย่างที่กล่าวในเมื่อความจริงมันเป็นสิ่งที่ดี (ทำดี ไม่ทำชั่ว) ไม่เป็นจะแปลกถ้าใครจะไปศึกษาของใคร
ในพุทธประวัติ พระพุทธเจ้าก็เคยศึกษาจาก พราหมณ์
ถ้ามันเป็นความจริงก็น่ายอมรับและยกย่องมิใช่หรือ บางครั้งคนเราก็ให้ความเชื่อมาบดบังความจริง อย่างเรื่องโลกกลมโลกแบนในสมัยก่อน เรื่องนี้ถ้าหลักฐานสามารถพิสูจน์ได้และยอมรับว่าเป็นจริง พวกเราทั้งโลกก็น่าจะยินดี เพราะที่แท้จริงแล้วนั้นพวกเรานั้นเป็นพี่น้องกัน เป็นผู้ที่ควรรักกัน นับถือกัน เพราะมีผู้นำหรือพระเจ้าเป็นองค์เดียวกัน ไม่ควรที่จะทะเลาะกันต่อไป และไม่ควรมีสงครามศาสนาต่อกัน
ผมเชื่อว่าทุกศาสนานอกจากจะสอนในเรื่อง ทำดี ไม่ทำชั่วแล้ว ยังสอนให้ยอมรับความเป็นจริงด้วย...............

 

ออ...รับทราบ ขอรับ .. คนเรานี่มีหลายด้านจริงๆ ขอบคุณ สำหรับความรู้
บางทีแล้ว แสงหิ่งห้อยในคืนเดือนดับ คงไม่มี จริง .....

 

นั้งบนภูดูเสือกัดกัน....มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ (ขงเบ้ง สามก๊ก)

 

ขอบคุณค่ะ! ~คุณน่าจะเป็นเทพแห่งสันติภาพนะ น่าจะเข้ามาตั้งแต่เมื่อวาน จะได้ไม่บานปลายซะขนาดนี้ แต่ก็ดีนะ ทำให้รู้ว่า"ใครอารมณ์ไหน" เป็นบททดสอบอย่างนึงที่ทุกคนน่าจะหันกลับมามองตัวเองว่า"การปฎิบัติธรรมที่แท้จริง"มันคืออะไร?มันควรจะเป็นอย่างไร?มันยากมากทีเดียว...ขอบอก

 

นั่งบนภูดูเสือของตัวกัดกัน นะตะเอง
เสือ=กิเลสมารในใจของตนเอง

ถ้านั่งบนภูดูเสือของคนอื่นกัดกัน อาจมีหลงมีเผลอ โดนเสือของตัวเอง
แหกกรงไปช่วยเขากัดก็ได้นะ อตร.มิใช่น้อย ถ้าดูเสือของตัวเองก็ไม่ค่อย
หลุด ไม่ค่อยเผลอหรอก นอกจากจะหลุดจากดูเสือตัวเองไปดูเสือของคนอื่น
แบบเพลินลืมตัวแล้วก็อิน แบบว่าเสือในตัวเรามันจะได้พลังงานได้เชื้อเพลิง
เต็มสูบ แล้วมันลืมตัวทนอยู่ไม่ได้ อาจจะไปเข้าข่ายสามก๊ก ยกพวกตีกัน อิอิ

ปล.เราไม่ได้มีเจตนาแบบขงเบ้ง ณ. สามก๊ก นะ ทุกอย่างที่เกิดมันเป็นธรรมชาติของคน
ที่ต้องเรียนรู้เอาเอง ที่นี่ไม่ใช่เวทีราชดำเนินที่เขาเชิญมาชกกันแล้วแอนตาซิลเขาจะแจกทองให้ทุกแผล
ทุกแผลที่เกิดที่เรา หรือที่คนอื่น คงไม่มีใครต้องการให้มันเกิด แต่ที่มันเกิดเพราะธรรมชาติของคน
มันเป็นอย่างนั้น ถ้าไม่เรียนรู้ธรรมชาติของตัวเอง ก็คงไม่มีวันเอาชนะธรรมชาติของตัวเองได้
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นคงไม่มีใครต้องการจะเห็น ไม่ได้ต้องการจะได้ยิน แต่มันก็ห้ามคนอื่นไม่ได้
บอกไปก็ไม่ได้ยิน ไม่รู้จะทำไงเหมือนกัน ก็ต้องยอมรับความจริงของตนเองกันไปตามกรรม
ทุกโพสท์ทำไปแล้ว เกิดแล้ว เอามาเรียนรู้ ผิดเป็นครู ถูกเป็นครู ย่อมได้ชื่อว่าเป็นบัณฑิตผู้มี
ความเพียรในการฝึกฝนตนให้เจริญในทางที่ถูกที่ควร

 

เกิน มาตรฐาน ของดราม่าแล้วครับ ..... กระทู้กลายพันธ
กลายเป็น กระทู้เพื่อชีวิต ไปแล้ว พี่น้อง ครับ

 

กระทู้สาธารณะ คือ โอเพ่นเวิร์ล ควรมีสติก่อนโพสท์
และถ้ารู้ว่าโพสท์ไหนไม่สมควร ทำไปเพราะขาดสติวู่วาม
รู้ตัวแล้วก็ไปลบทิ้งมั่งก็ได้ ถือเป็นบททดสอบของตัวเอง
โพสท์ที่เราทำไปมันแก้ไขได้ ลบทิ้งได้ แต่ชีวิตเราที่ทำผิด คิดผิด ดำเนินผิด ไปแล้ว
เป็นอดีตไปแล้ว มันกลับไปลบไปแก้ไขอดีตไม่ได้เหมือนโพสท์ในกระทู้ ก็ลองตรองดูนะ
เราจะใช้อะไรเป็นบทเรียนสอนใจก็ได้ทั้งนั้น ถ้ารู้จักพลิกแพลงใช้ให้เป็นประโยชน์ส่วนตน

แต่อย่าไปหลอกลวงคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเองก็แล้วกัน เอาเจตนาดีเป็นที่ตั้ง
ผลจะดีหรือร้าย ก็ถือเป็นประสบการณ์สอนตน เป็นครูสอนตน

 

555...บังเอิญจริง เราเป็น มวยศอก และ ถนัดอาวุธยาวโดยธรรมชาติ
ไม่เคยคิดเก็บคะแนน หวังเพียงน๊อคคู่แข่งเท่านั้น ไม่ออม ไม่ยั้ง ถึงเอาไม่ลง
แอนตาซิลได้แจกแน่นอน ....... ถ้าคู่ชกเป็นกิเลสในใจเรา เราก็ไม่เก็บคะแนน
ยังไงก็เอาให้น๊อค อย่างน้อย จะทำอะไรแล้ว ควรทำให้ดีเกินมาตรฐานไปเลย
แล้วทำให้เป็นนิสัย ขำๆ อิอิ เอ เราเริ่มเห็นชายหาด หรือว่า ..... ที่นี้คือ ทะเล

 

เราก็มาเรียนรู้ที่นี่ ปัญญาเกิดที่นี่ สิ่งใดที่เราเรียนรู้แล้วคิดว่ามีประโยชน์เราก็จะคืนให้ที่นี่
ไม่มีผิดไม่มีถูก สำหรับคนที่ตั้งใจจะเรียนรู้ เราเชื่อว่าทุกคนมีเจตนาดีเป็นที่ตั้ง
เราเชื่อว่าผู้ที่ตั้งใจจะพัฒนาตนให้สูงขึ้น ย่อมมีเมตตา มีกรุณา รู้อภัย ให้ซึ่งกันและกัน
ทุกคนที่โพสท์มาก็ถือเป็นครูของเราทั้งนั้น
อนุโมทนากับทุกท่าน ที่ใฝ่หาความรู้และมุ่งพัฒนายกระดับของจิตใจตน
เราก็ยังเป็นปุถุชนผู้ใฝ่การศึกษาหาความรู้ ย่อมมีทำผิดและถูกได้เท่าๆกัน
สิ่งใดไปล่วงเกินทำให้ผู้ใดไม่ชอบใจ ก็ขออภัยด้วยนะคะ

 

ถูกต้อง ครับ คุณขวัญ สิ่งทีขัดข้องหมองใจ แนวคิดในแง่ลบ ก็เหมือนกับ
เจ้าบ้านที่ต้อนรับเราด้วยอาหารและของฝากแต่ถ้าเราไม่รับ อาหารและของฝาก
จะเป็นของใครละ ..... มีเพื่อนชาวพุทธพูดประโยคนี้ คำพูดเรียบง่ายมาก
แต่ทำเราอึ้ง ตอนนั้นทะเลาะกันตามประสาเพื่อนสนิท...

 

แสงหิ่งห้อยในคืนเดือนที่ดับ ได้ประจักษ์คุณค่าจริงแท้หรือ
ได้อะไรในความมืดอย่างนั้นลือ เที่ยวยึดถือแสงริปคว้าสุขใจ

อันแสงน้อยส่องทางได้เพียงจุด เดินสะดุดแสงไม่พอน่าสงสาร
รวมกันมากส่องทางพาได้ไกล ได้ก้าวไปสู่ทางที่ท่านมา

ท่านมองหาแสงอันน้อยเพื่อประสงค์ หรือว่าคงความคิดในเวหา
หิ้งห้อยน้อยหรือตะวันไม่นำพา ถ้ายังหาแสงในใจไม่เคยเจอ

 

โมทนาค่ะ อ่านแล้วสะดุด (ในทางดี)
อยากรู้จักคุณโมก พระอาจารย์ใหญ่ของคุณเป็นใครน่ะค่ะ สงสัยจะครูบาอาจารย์เดียวกันหรือเปล่า ที่ปัจจุบันท่านอยู่สุพรรณหรือเปล่า

รบกวนตอบทางนี้หรือ PM ก็ได้

 

มึงมันโง่..ที่ไม่รู้ว่าตัวโง่

พระอาจารย์ข้า..ยังน้อบน้อมต่อพระเยซู..เพราะท่านรู้พระเยซูคือใคร..

ไม่โง่บัดสบอย่างคนปากดีว่านับถือท่าน..แต่ไม่ยักกะทำตามที่ท่านสอน..

ไหน..ตบแก้มซ้าย..แล้วหันให้ตบแก้มขวา..นะ..ทำได้ไม่??

รู้ไม่ทำไมท่านสอนอย่างนี้??..แล้วคนที่ทำอย่างนี้ได้..ได้อะไร??

ตรงนี้ลึกซึ่ง..คนโง่ ๆ ไม่เข้าใจหรอก..ไร้สตินิยมเอ๋ย..

กูรู้จักพระเจ้า..รู้จักพระเยซู..ดี..กว่าคนโง่บัดสบอย่าง..มึง..ซะอีก

ไม่ได้โม้นะเว้ย..

และอีกอย่าง..

ประเทศที่เจริญก้าวหน้าของมึง..ใช่มั้ย..ที่..ที่ยกกองทหารไปฆ่าคนอิรัก..ฆ่าคนที่ปากี..ฆ่าคนที่อัฟกา..นะ

อ้อ..ห้ามลืม..ที่ฮิโรชิม่า..กับ..นางาซากิ..ด้วยนิ..ซิวิไลดีเน๊าะ

สมัยโบราณก็ชอบล่าเมืองขึ้น..เอาคนดำไปทำทาส..ซะด้วยซิ

เจริญมากนะมึง..ไปกราบมันไป๊..

(คนปากเน่าอย่างมึง..มันต้องเจอกับปากปลาร้า..อย่างกู..เพิ่มมาเห็นนะเนี้ย)

แม้..พูดมาได้
พระพุทธเจ้า มึงนะ มีตัวตนจริงหรือเปล่า งมงายกันอยู่ได้
อ้อ..ลืมไป..ลืมว่าอยู่หลังเขา

 

คุณเก่งจัง! เข้าใจลึกซึ้งได้ดีจริงๆ ขออนุโมทนา