จุดเริ่มต้นของความแตกแยกในประเทศไทย มุมมองธรรมะมาจากอะไร?

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 16 กันยายน 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    วันมืด คืนสว่าง


    [​IMG]


    แสงนีออนส่องคืนพลางสว่างไสว
    แสงอาทิตย์ลดลงไปด้วยเมฆหนา
    วันกลับมืด คืนกลับสว่าง ช่างมายา
    โลกนี้หนา มันบ่แน่นักดอกนาย​


    ยามอาทิตย์ส่องแสงยิ่งแรงร้อน
    คนกลับห่อนหลบหายเข้าเคหา
    หนีอาทิตย์ร้อนแรง หาชายคา
    เลือกเอาแสงนีออนมาส่องแทน​


    .............................................​
     
  2. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    โลกแปรเปลี่ยนเป็นฤดูกาลนั้นดียิ่ง
    สรรพสิ่งเปลี่ยนแปลงบนโลกสดสี
    ความรู้สึกของคนสิ..ติว่า..มันไม่ดี
    แตไม่ทำสิ่งดีดี...ตอบแทนโลกเลย
    .....
    อยู่ด้วยกัน ยังรักกันไม่ได้
    ความเห็นอกเห็นใจไม่ทำนี่
    ความเป็นคนเหมือนกัน ..จำหน่อยสิ
    ถามอีกที..เกิดมาแล้ว ดีกว่าคนอื่นตรงไหนกัน
     
  3. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    อริยะสัจ4คือความจริงของตัวตน
    เกิดเป็นคนควรเป็นคนไม่คิดหนี
    สิ่งที่เป็นหายใจอยู่ก็รู้ดี
    คนเรานี้คิดอยากเป็นเช่นเทวดา
    ......
    ความจริงของธรรมชาตินั้นมีอยู่
    แต่ไม่รู้ว่ามันควรเหมาะที่ตรงไหน
    อารมณ์คิดหรือกายอยากจะสนองใคร
    กายกับใจควรคู่กัน ไม่กล้ำเกิน
    ....
    คนอยากดีดีที่ไหนใจหรือกาย
    คนอยากได้ได้ตรงกายหรือใจหนอ
    กายมันหิว ใจหิวมากกว่า หรือจะพอ
    คนเราหนอ กินแค่อิ่ม หิวคืออะไร
    ...
    เวลาเกลียดเกลียดที่กายหรือที่จิต
    เวลาคิดใจคิดออกนอกกายหนอ
    กายแค่ต้องการอิ่มแต่ใจสิไม่รู้พอ
    โอ้ใจหนอ คิดแต่จะเอา เอามาทำอะไร
    ...
    คนอื่นก็หิวหิวเหมือนเรา ก็เท่านั้น
    เมื่ออิ่มพลันกายหายหิว ก็ปกติหนอ
    นี่คืออารมณ์ธรรมชาติที่รู้พอ
    คนเราหนอกลับลืมเลือนความพอดี
    ...
    .....
    กายอยากได้อยากมีคือธรรมชาติ
    ใจขี้ขลาดกลับไม่เอาหรือโลภโมโทสัน
    ใจมันคิดไม่ตามกาย.ผิดปกติพลัน
    คนเรานั้นลืมตัวตน ก็เพราะใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ความเห็นใจหรือ? ความเมตตาหรือ? คืออะไรกัน?


    ในเมื่อก็นิยามกันเอาเองทั้งนั้น
    ความเมตตาของคนเราไม่เหมือนกันหรอก


    บางคนปราบคนเลว
    เพื่อให้ตนเป็นคนดี
    นั่นเขาว่าเมตตาแล้ว
    แต่บางคน ยอมเป็นคนเลว
    เพื่อที่จะเข้าใจคนเลวให้ได้
    เขาเลยว่าไร้เมตตาธรรม
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746

    พราหมณ์แนะนำวิธีแก้วิชาถอดดวงใจมาหรือไง?
    หึๆ ไม่สำเร็จหรอก ยุคสมัยนี้วิชามันพัฒนาไปเยอะแล้ว
     
  6. Thepkanya

    Thepkanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2008
    โพสต์:
    166
    ค่าพลัง:
    +10,071
    ตั้งแต่ 16 ก.ย.53 ไป ฝากช่วย Check พลังงานให้หน่อยนะ ว่า..เป็น....พุทธคุณ หรือยัง (แล้วอย่าลืม...บอกด้วยนะ อยากรู้เหมือนกัน เพราะ มีท่านหนึ่ง...โทรมาบอกแล้ว เมื่อตอนสาย จะได้รู้ข้อมูลว่า...ตรงกัน หรือไม่)

    1) อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    2) หมุดคณะราษฏร์ และลานพระบรมรูป ของ พระพุทธเจ้าหลวง
    3) รัฐสภา
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ถอดดวงใจ แยกกาย แยกจิต


    [​IMG]


    กายเพียงที่อาศัยหาใช่ยึด
    ใช้เพียงโปรดจิตมืดสว่างได้
    ใจย่อมอยู่รอดและปลอดภัย
    เมื่อแยกกายแยกจิต ถอดดวงใจ


    ถวายร่างสังขารโปรดสัตว์โลก
    สัตว์ร้ายหลายเหล่าให้พ้นความโศกเศร้า
    ถวายจิตวิญญาณเพื่อขัดเกลา
    ไม่ยึดจิตยึดกายเข้า ก็แยกกัน


    ......................................
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    ไม่อยากลองฝึกหน่อยล่ะ วิชชาอำมตะนะ
     
  9. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ความจริงของธรรมชาติอันประเสริฐ
    ความเป็นเลิศของมนุษย์สุดตรงไหน
    ก็ดูกายของตนนำพาไป
    สิ่งใดใดที่ดีก็ควรทำ
    ...
    ทำแล้วดีกับดีเองนั้น เล็กน้อย
    ทำดีแล้วคอยมองแต่ ประโยชน์ฉัน
    ทำแบบนี้ทุกคนทำได้ แต่ ลืมกัน
    ว่าชื่อมันคือเห็นแก่ตัว ไม่เห็นใคร
    .....
    ทำเพื่อผู้อื่นนั้นคิดมากกันนักหนา
    ต้องดูว่าเขาดีกว่าหรือด้อยกว่าฉัน
    ดูแต่คนอื่นว่าเขาดีแค่ไหนกัน
    แต่ดีนั้นต้องเข้าตัวถึงยอมทำ
    ....
    ยังไม่พอในความดีที่ตนรัก
    ยังต้องเอาดีหนักมากคนอื่น
    ให้ชื่นชม ยกย่อง ทุกวันคืน
    ยิ้มระรื่นถ้าผู้อื่น ดีกับตน
    ....
    แต่ทุกคนหารู้ หรือไม่ว่า
    ในเวลาที่ มีความสุข หรือ สุขสม
    กลับเก็บเงียบกลัวคนอื่น มาแบ่งชม
    ไม่นิยม แบ่งปัน ฉันคนเดียว
    ...
    ที่แน่แน่ คนอื่นนั้น ไม่แตกต่าง
    แบ่งเขาบ้างความรัก เมตตานี่
    คนเราสุขสุขเพราะได้รอยยิ้มดีดี
    ยิ้มที่มีความจริงใจจากผู้คน
    ....
    ความจริงใจ นั้นหาได้ ทั่วไปหรือ
    เพราะมันคือธรรมชาติที่พากันลืมนั่น
    ธรรมชาติของคนที่ควรจะรักกัน
    แต่พากันลืมไปแล้ว.....ลาลับเลือน
    ...
    ศาสดา ท่านค้นหา และพบความจริงนี้
    ดูดีดี พากันหา อะไรอยู่
    หานิพพาน หาสววรค์ หากันน่าดู
    แต่ไม่รู้ว่าที่หา หาอะไร
    ..
    หาแต่ดี ว่าต้องดี ดีอยู่ไหน
    มาอวดใครกันเล่าความดีนี้
    ตนเองยังอยากให้คนอื่น ยอมรับว่าดี
    แล้วทีนี้ ใครกันเล่า จะ(ยอม)รับรองกัน
    ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    รับรองหรือ?


    ไม่มีใครรับรองธรรมให้พระพุทธเจ้าหรอก
    ผู้เดินตามรอยพระพุทธเจ้าย่อมเข้าใจเช่นนั้นเหมือนกัน


    ดังนั้น พระจี้กงจึงชื่อว่า "พระบ้า" ในสายตาชาวบ้าน
    ก็ดี มีสุข ไม่มีคนมาแห่ห้อมล้อมบ้าๆ บอๆ อิสระดีแท้


    คารมดีนี่ เดี๋ยวไปทำธุระก่อน จะมาโต้คารมต่อ
     
  11. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ศาสดาท่านสอนไว้ให้รู้ทั่ว
    ใจกับตัวของตนรักษามั่น
    อย่าเตลิดอย่าแยกทางเหินห่างกัน
    เพราะว่ามันคือความจริงที่ต้องยอม
    ....
    ยอมรับด้วยหัวใจไร้กังขา
    ยอมรับมันด้วยปัญญาอันรู้เห็น
    รู้กายใจยอมรับในสิ่งที่เป็น
    อย่าได้เห็นอย่างอื่นดี กว่าที่เป็นตน
    ....
    ไม่แตกต่างกันเลยสรีระ
    ไม่แต่งต่างกันเลยนะโลกที่หมุน
    อย่าแตกต่างกันเลยความการุณย์
    ใจที่หนุน หมุนโลก เราจง รู้พอ
    ....
    รู้ความจริง ของตนและคนอื่น
    รู้ความจริงยิ้มระรื่น เห็นใจหนา
    เราทุกคน เหมือนกัน วันเวลา
    มันมีค่าแค่ที่ เรายังหายใจ
    ....
    ตายไปแล้ว มันก็สูญ ไม่มีค่า
    ที่ทำมา ดีแค่ไหน ใครจะเห็น
    คนทุกคน ล้วนเช่นนี้ โทษกรรมเวร
    แต่ที่โทษ ตัวเอง ไม่ค่อยมี
    ....
    คนลืมค่าของคนของตนแล้ว
    ลืมหมดแล้วสิ่งที่ควร จะทำนี่
    ศาสดาท่านก็สอน ให้ทำดี
    เพื่อชีวิตนี้ จะได้ เห็น ตัวตนของตนเอง
    ....
    คนเรามีค่านั้น วัดที่ไหน
    วัดใจ กับใจ ก็พอนี่
    กายหรือร่าง ที่เกิดมา อย่าโทษไม่ดี
    มันก็มีแบบนี้ ธรรมชาติของคนเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  12. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ยอมรับกรรมคือยอมรับทุกทุกสิ่ง
    จริงไม่จริงก็ต้องรับว่านี่คือฉัน
    เราเกิดมาเลือกเกิดได้ที่ไหนกัน
    ทุกทุกวัน รู้จักตน ว่าคือตน
    .....
    ถ้าทุกคน รู้ว่าคนควร เป็นแบบไหน
    เอาหัวใจเราใส่เขา เขาใส่เรา ลองดูสิ
    ไม่แตกต่าง กันนักหรอก คิดดีดี
    มันจะมีความเข้าใจมากกว่าเดิม
    ....
    ไม่แบ่งแยก ไม่คิดมาก ไม่อยากนั่นนี่
    ดีไม่ดีไม่ไช่สาระสำคัญ กะเธอฉัน
    ถ้าเรายิ้ม เข้าใจ ยอมรับกันและกัน
    ไม่มีวันที่โลกเรา จะร้อนรน
    ...
    ศาสดาสอนว่า มนุษย์คือ สัตว์ประเสริฐ
    ผู้เป็นเลิศมีปัญญา พาสุขสันต์
    อยู่แบบไม่เบียดเบียนกันและกัน
    ฉันว่าสักวัน ควายคงยิ้ม...และชื่นชม
    ....
    หมูหมากาไก่ ก็คง สุขใจนักหนา
    ที่มนุษย์พาตนพบ ความสุขสงบสมานฉันท์
    เลิกร้อนรน เบียดเบียน กันและกัน
    เพราะว่านั่น คือ...ความเป็นคนที่ ควรจะทำ
    ....
    อิอิ..
     
  13. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    วิชา อะไร ก็เป็นไป เพื่อ ค้นหา ความจริง ของตนเอง
    ...
    กรรมฐานอะไร ก็เป็นไปเพื่อ ค้นหา ความจริง ของตนเอง
    ...
    ทุกการปฏิบัติ ก็เป็นไปเพื่อ ให้ ใจกับกาย มันเสมอกัน
    ...
    ทุกคำสอนของศาสดา ก็เพื่อให้ ทุกคน ...เห็นความจริง และต้องยอมรับความจริง ของตนเอง เท่านั้น
    ...
    ถ้าเห็นอย่างอื่น ในแบบ ที่ คิดว่า ตนเอง ไม่ไช่คน....ล้วนเห็นผิด
    ...
    ตา ต้องเห็น ใน ขณะที่ลืมตา...ไอ้พวกที่หลับตาดู....มันผิดปกติ
    ...
    ใจต้อง รับรู้ และเรียนรุ้ที่จะ รู้จริง เห็นจริง ไปพร้อมกาย เท่านั้น ไม่ไช่ให้ ใจเตลิด ออกนอกโลก นอกจักวาล....อันนี้ ล้วน อวิชชา
    ...
    เมื่อใจเตลิด ทุกเวลา ...แล้ว มันจะเป็นคนปกติธรรมดา ไปได้ อย่างไร
    ...
    อย่าลืมล่ะ..
    ..
    อิอิ
     
  14. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    คนธรรมดา คนปกติ....ไม่ไช่คนเก่ง หรือ คนดี......อะไรหรอก
    ...
    คนธรรมดา คนปกติ ก็คือ คนที่ไม่หลอกอารมณ์ ตนเอง และไม่หลอกอารมณ์ต่อคนอื่น
    ......
    ยอมรับในความเป็นคน เหมือนกันและกัน....
    ..
    หิวเหมือนกัน ต้องการอิ่มเหมือนกัน ต้องการความสงบสุขเหมือนกัน
    ..
    ต้องการรอยยิ้ม จริงใจจากกัน และกัน...นอนหลับในโลกใบนี้ด้วยความ ไว้ไจ ได้ ..ตะหากเล่า
    .....
    คุณ ...ทำตัวแบบไหนเอ่ย
    ..
    อิอิ..
    หรือ..ว่า อยากให้ คนอื่น ..ดี เหมือน ..ดีเท่า หรือ ดีกับตนเอง..ก่อน...หรือไง
    ..
    อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2010
  15. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ใจมีแต่ทุกข์..คือ ใจคั๊บใจแคบ
    .....
    ก็ลดตัวลงหน่อยมาจับเข่าคุยกัน...จะโกรธกันรักกัน ก็บอกกันตรงๆ......อิอิ
     
  16. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    ผมจำได้ว่าเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง
    ...
    กล่าวถึงตอนที่พระพุทธเจ้าท่านเสด็จ จากสวรรค์ หลังจาก ไปโปรด มารดาท่าน..แล้ว ออกพรรษา พระพุทธองค์ท่านเสด็จ กลับมายังโลก มนุษย์....
    ...
    แล้วมีเทวดา เนรมิต สะแพน 3 เส้น พระพุทธองค์ ท่าน ทรงแสดงฤทธิ์ ให้ มนุษย์และเทวดา มองเห็นกันและกัน...
    ..........
    แต่มีประโยคเด็ด...ที่พระพุทธองค์ท่าน กล่าวเอาไว้ ...
    ...
    อิอิ
    ..
    ไม่รู่ว่า ใครคิดแบบ นี้หรือเปล่า หรือ เข้าใจหรือเปล่า...ในพุทธพจน์นี้
    ...
    นั่นก็คือ...พุทธองค์กล่าวว่า
    .............
    ..เรื่องของปุถุชน...ก็เป็นหน้าที่ของปุถุชน...จะแก้ไขกันเอง...
    ...
    หมายถึง ปัญหาของมนุษย์โลก ก็เป็นเรื่องมนุษย์โลก จะแก้ไขและช่วยเหลือกันเอง
    พวกเทพเทวดา หรือ สัตว์เหล่าอื่นใด หรือ ภพภูมิอื่นใด..อย่าคิด จะมาช่วยแก้ปัญหาให้ มนุษย์โลกเลย...อิอิ..เพราะ..มัน..อิมพอสสิเบิ้ล..นะนาย
    ...
    อิอิ

    ...
    พุทธองค์ ทรง สรรเสริญว่า มนุษย์คือสัตว์ประเสริฐที่สุดมีปัญญาที่สุด แล้ว ใน ทุกภพภูมิ
    ...
    ก็แสดงว่า ..ความดีของเทวดา บุญของเทวดา...ไม่มีประโยชน์ต่อมนุษย์ ผู้มีปัญญาหรอก
    ..
    แต่ ก็ว่าอะนะ...มนุษย์ มันมีปัญญามาก ปัญหา ก็เลยมากตาม
    ...
    มันก็เป็นเช่นนี้เอง
    ..
    อิอิ...อาเมน
     
  17. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    มาเสวนาเรื่อง...ศีลกันหน่อย พอเป็นกะศัย
    ...
    คนปกติ ก็คือ ปกติแล้วไม่เบียดเบียนใคร
    ..
    คนมีศีล นั้น ก็เพราะ เขารู้ตัวเองว่า เขายังมีความไม่ดี บกพร่องในการรักษา อารมณ์ ของตนเองอยู่
    ...
    ใครมีศีลมาก...ก็หมายถึง..พวกที่รู้ตนเองว่า ยังบกพร่องอยู่มาก....
    คนมีศีลน้อย..ก็หมายถึง คนที่รู้ตัวเองว่า ยังมี ข้อบกพร่องของตนเอง อยู่ไม่มาก
    ...
    พุทธองค์ท่านสอนให้ ผู้มีศีลน้อย ให้ความเคารพ ต่อ ผู้มีศีลมาก นั่นก็หมายถึงว่า
    ..........
    ......
    คนที่ดีแล้ว ปกติแล้ว...ควรอย่างยิ่งที่จะ ให้กำลังใจ หรืออ่อนน้อมถ่อมตน ต่อมนุษย์ ผู้ที่เขารู้ตัวว่า ตนเอง บกพร่อง และ แก้ไข ตนเอง ด้วยศีล...คนที่ไม่ดี แล้วรู้ตัว แล้ว อยากแก้ไข อยากทำดี ด้วยการ รักษาศีล ก็คือ..ผู้ที่ ..กำลัง แก้ไขตนเอง
    ...
    ดังนั้น ..ผู้ใดที่มีศีลมาก....มาก...เราควร กราบไหว้ เคารพบูชา ในน้ำจิต น้ำใจ ที่เขา ตั้งตน ที่จะแก้ไข ตนให้ดี....คนดีแล้ว ควร ให้กำลังใจ คนที่กลับเนื้อกลับตัว นั่นเอง
    ..
    อิอิ
    ..
     
  18. khajonsak9999

    khajonsak9999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,536
    อย่างเช่น นักโทษ...ที่เขาพ้นโทษ ออกมาจากเรือนจำ ด้วยคดี ฆ่าคน
    ...
    อิอิ
    ..
    ถ้าเขา จะตั้งใจเป็นคนดี เราก็ควร ทำดี กราบไหว้เขา พูดจาดีดี ให้โอกาสแก่เขา เหล่านั้น
    ...
    เพราะถ้าท่านพูดผิดหู พวกเขาเมื่อไหร่...พวกเขาอาจจะเข้าคุกอีก..เพราะคำพูดของท่านเป็นตันเหตุก็ได้....
    ..
    อิอิ
    ..
    อาเมน..ตกลง ใครผิด...กันแน่.....
     
  19. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    แม่เบื้องบนบอกว่า "อย่าใจอ่อน"


    ท่านว่าลงเสาตั้งหลักแล้วจะให้คลอนแคลนไม่ได้
    ถ้าเราไม่เป็นหลัก แล้วใครจะเป็นหลัก เมื่อตั้งใจ
    ตั้งปณิธานแล้ว ไม่ควรหันเหไปทางอื่น ไม่มีเหตุผล
    ใดที่จะไม่แน่วแน่ เพียงแค่เห็นวิบากกรรมของมนุษย์
    บางคน เมตตาไม่ใช่คำตอบ ท่านให้อุเบกขาอย่างเดียว
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    เมื่อคืนเพื่อนซาตานพาไป "ฮาเร็ม"


    แต่เราจำมั่นได้ว่าเราตั้งใจจะทำกิจสำคัญแล้ว เขายังเอาเราไป
    ที่นั่นเหมือนฮาเร็มของพระราชา แต่ดีกว่าตรงที่ "ไม่มีข้อห้ามใดๆ"
    เป็นภพแห่ง "Free sex" ที่อิสระเสรีมากๆ เราเห็นเพื่อนๆ ของเรา
    ด้วยที่ปกติพวกเขาจะเก็บความรู้สึกทางกามไว้ต่อหน้าสังคม แต่เขา
    ก็มาปรากฎในที่นั้น ทำให้เราคิดได้ว่า พวกบาทหลวงจำนวนมาก
    คงถูกซาตานพาจิตวิญญาณมาภพนี้บ้างแน่ๆ แต่เราไม่เอาด้วย เรา
    เข้าไปคุยกับคนหนึ่งคนเป็นหัวหน้า แต่เรารู้สึกเหมือนค้นเคย อาจ
    เพราะเราเคยอยู่บนสวรรค์เหมือนกัน เราเคยชอบเหมือนกัน และ
    ไม่นิยมในกฎสวรรค์เหมือนกัน พวกเขาทำผิดกฎสวรรค์แล้วหนีลงมา
    สร้างภพมืดไว้ในใต้พิภพ เชิญเราไปร่วมกับเขาด้วย และเขากำลัง
    สร้างสวรรค์ในแบบที่เขาคิด และคิดว่าเราก็ชอบด้วยบนโลกมนุษย์


    เราบอกว่าเราเข้าใจเขา เรายังเหมือนเดิม แต่เราจะละทิ้งกิจที่ยัง
    ไม่สำเร็จของเราไม่ได้ ดังนั้น เราให้เขาเอาเราไปไว้ที่เดิม พาเรา
    กลับไป ก่อนจะกลับไป มีคนๆ หนึ่ง มากอดเราข้างหลัง เขาไม่ยอม
    ให้เราเห็นหน้า แต่เราสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่คุ้นเคย และสงสาร
    เขาอยู่บ้าง เราก็บอกว่าเราไม่คิดทำลายสิ่งที่พวกเขาสร้างขึ้น แต่เขา
    บางคนตอบมาว่า "ก็พูดอย่างนี้ทุกคน" เหมือนยังไม่เชื่อเรานัก แต่
    เขาก็กลับมาส่งเรา เราก็ตื่นขึ้นมาพอดี
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...