เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

สวัสดีครับ ทีมท่านผู้สร้างล็อกเก็ตพระแก้วมรกตนะครับ
...ผมขอร่วมจองล็อกเก็ตพระแก้วมรกต สีขาว ๕ องค์ สีดำ ๕ องค์นะครับ วันก่อนมาถามว่าสีเขียวยังพอมีมั๊ย ไม่ได้รับคำตอบ ก็เลยเปิดย้อนไปดูหน้าที่ผ่านมา เห็นบอกหมดแล้ว แต่ตั้งใจแล้วว่าจะทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ กับหลวงพี่บัวพรรณ และก็ถือว่าเป็นการทำบุญต่ออายุให้กับคุณแม่ด้วย ท่านป่วย รวมทั้งต่ออายุตัวเองด้วย แจ้งให้ทราบแค่นี้ครับ ขอบคุณครับ มีความคืบหน้าแจ้งให้ทราบด้วยก็ดีนะจ๊ะ อนุโมทนา คราบบบบ

 

ผมคาดว่าล็อกเกตสีเขียวอาจยังไม่หมด เพราะมีหลายท่านที่จองไว้แล้วเงียบหายไป ไม่ได้โอนเงินหรือติดต่อเข้ามา
ถ้าออกพรรษาแล้ว และถึงกำหนดการส่งล็อกเกต ถ้าท่านที่จองไว้ยังไม่โอนเงินเข้ามา
ก็จะถือว่าสละสิทธิ์ ให้กับผู้ที่ต้องการบูชาต่อไปครับ

ผมขอความกรุณาทุกท่านที่จอง ช่วยตรวจสอบด้วยว่าผมจัดทำรายการถูกต้องหรือเปล่า
ถ้าผมลงจำนวนล็อกเกตที่จองผิดไป หรือยังไม่ได้ปรับการโอนเงิน ก็แจ้งในกระทู้นี้ได้ครับ

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านครับ

 

เพิ่งเข้ามาดู ขออภัยลืมเสียสนิทเลยครับ ผมจองสีเขียวทั้งหมด 7 อัน (โอนไปแล้ว 6 อัน คงค้างอีก 1 อัน วันศุกร์โอนให้ครับ แล้วจะแจ้งให้ทราบครับ

 

ดูจากความตั้งใจของคณะจัดสร้าง ที่ต้องเสียทั้งกำลังทรัพย์ กำลังกาย แล้ว
เรื่องการรอของผมกลายเป็นฝุ่นในสายลมไปเลยครับ

ไหนๆก็เพื่อที่ให้ได้ของดีที่สุด ก็ต้องแลกกับความอดทนหน่อยใช้มั้ยครับ

ขออนุโมทนาในความอุตสาหะของคณะผู้จัดทำด้วยครับ

 

ฝากประชาสัมพันธ์งานบุญครับ

ร่วมหล่อพระประธาน และสร้างพระอุโบสถ กับหลวงปู่เจือ และหลวงตาสัญญา วัดกลางบางแก้ว



Link ครับ

 

อยากให้ลงตารางรายชื่อคนที่จองล็อคเก็ตฉากทองด้วยครับ

คือผมจองล็อกเก็ตฉากทองไว้ 1 องค์ อยากดูเพื่อความมั่นใจครับ

ขอบคุณมากครับ

 

ล็อคเก็ตฉากทองครับ

 

ไม่ทราบว่า หนังสือ จัดทำไปถึงไหนแล้วครับ

 

ในส่วนหนังสือนั้น ผมไม่ทราบเพราะไม่ได้ยุ่งในส่วนนั้น ในส่วนล็อกเกตทั้ง 3 ฉาก ยังไม่พร้อม ฉากทองพร้อมจะส่งให้ทุกท่านแล้ว เพราะอุดและตรวจเช็คเป็นที่เรียบร้อยไม่ทราบว่าจะรับเลยหรือไม่อย่างไร ลองคุยกับเดลต้า ดูน่ะครับ

รายงานเพื่อความเรียบร้อย

ผู้ดูแลวัตถุมงคลเนื่องในวัดป่่าสันติสามัคคีธรรม

 

เกี่ยวกับล็อกเก็ตสีเขียว

สวัสดีครับ
ป้จจัยที่จะโอนตอนนี้โอนได้เลยใช่หรือไม่ครับ อีกอย่างหนึ่งนะครับ
ล็อกเก็ตสีเขียวถ้ามีใครสละสิทธิผมขอจอง สัก 2 องค์นะครับ ถ้าได้ก็คืนสีขาวและดำ อย่างละ 1 นะครับ ขอบคุณอนุโมทนาบุญมากๆ ครับ

 

ผมรบกวนช่วยเช็ค ด้วยครับ ในลำดับที่ 10 สำหรับการจอง ล็อกเก็ตเขียว ที่ได้ จอง และโอนพร้อม ฉากทอง ที่ได้โอนพร้อมกัน แต่บันทึกการโอนเฉพาะ ฉากทอง แต่สีเขียว ยังคง Blank นะครับ

 

ขอบูชาล็อกเกตฉากขาวหนึ่งองค์ครับ ขอบคุณครับ

 

คุณสมณะน้อย เปลี่ยนเป็นล็อกเกตสีเขียวให้แล้วนะครับ ถ้าสะดวกโอนปัจจัยได้เลยครับ

ขอโทษครับคุณอภิญญา8 ผมปรับตารางให้แล้วครับ

 

โอนแล้วครับ 1,300 บาท ครับ
ที่อยู่ pm ครับ ขอบคุณครับ

 

อนุโมทนาครับ

ช่วย pm ที่อยู่มาให้ผมด้วยครับ

 

เมื่อวานผมโอนให้เพิ่มอีก 1200 บาท ไปยังธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชี พระบัวพรรณ เรียบร้อยแล้ว สรุปผมจองทั้งหมด 7 ชิ้น สีเขียวทั้งหมด โอนครบตามจำนวนทั้งหมดแล้วครับ

 

pm ที่อยู่ไปแล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

สวัสดีครับ พี่ๆ ญาติธรรมทุกท่าน

ผมมาชี้แจงพร้อมเขียนข้อมูลเพิ่มเติมในการสร้างล็อกเกตนะครับ ท่านอาจเห็ฯว่าผมหายไปไหน ความคืบหน้าตลอดสามเดือนนี้กี่เปอร์เซนต์ สรุปคือความคืบหน้าน้อยมากครับ เหตุผลคือ ผมเรียนในส่วนที่หนักที่สุดของชั้นปี ผมไม่ได้ไปปลุกเสกที่ไหนเลย แต่ตอนนี้เวลาเหล่านั้นผ่านไปแล้ว ตอนนี้อยู่ใน Rotate ที่สบายที่สุด ผมก็จะทำให้พระเครื่องที่สร้างมี Progress ให้มากที่สุด หวังให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่พี่ๆ ในเว็บ+-ไม่เกิน 2 wks ว่าครั้งนึงเคยได้ร่วมทำบุญวัตถุมงคล ที่ต้องใช้เวลายาวนานในการรอคอย (หลายท่านอาจเรียกเล่นๆว่ารุ่นเสร็จชาติหน้ามั้ง?)
ท่านอาจสงสัยว่าวัตถุมงคลชุดนี้คนจัดสร้างมีกี่คน สรุปคือมีผมเพียงคนเดียวที่สร้างหลัก ทั้งทุนทรัพย์ แรงกาย การหามวลสาร การปลุกเสก อาจมีบางท่านคอยมาช่วยทีหลังซึ่งผมซาบซึ่งน้ำใจมากครับ ดังเช่น

คุณ Krit egg99 หลายท่านอาจสงสัยว่าพี่เค้าทำไมมาคอยช่วยสรุปการจอง คือจริงๆแล้ว พี่เค้าเป็นนักทำบุญท่านหนึ่งที่เป็นศิษย์สายหลวงปู่ดู่ วัดสะแก พอเห็นกระทู้งานบุญมีที่อยู่การรับบริจาคมวลสารอยู่ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พี่เค้าจึงโทรศัพท์หาผมว่าต้องการมอบมวลสารให้ พอพี่เค้าได้เห็นความตั้งใจของเด็กปีสามคนนึง ที่อยากทั้งทำบุญ ทำพระเครื่องอันเป็นของดีที่สุดสักรุ่นหนึ่ง ฝากไว้ให้ระลึกถึงกัน ก็เลยมาช่วยอัพเดทกระทู้ ทั้งๆที่พี่เค้าเองมีงานทั้งวิทยานิพนธ์และต้อง publish jounal เพื่อการจบปริญญาเอก แต่ก็สละเวลาตรงนี้มาโดยไม่มีรายได้อะไรตอบแทน ผมจึงอยากขอบคุณมากครับ

อีกหนึง่ความตั้งใจคือคุณลูกวัดท่าซุง ซึ่งบูชาพระธาตุครูบาอาจารย์สายสุปฏิปันโนมากท่านหนึ่งของประเทศไทย ได้ร่วมบริจาคผงอัฐิธาตุ เกศาธาตุครูบาอาจารย์ พร้อมประสานงานผู้บริจาคมวลสาร ให้งานบุญตรงนี้เดินหน้าไปได้

ขอบคุณทุกท่านที่มอบมวลสารอันล้ำค่ามาให้ แม้ผมจะได้จากการรับบริจาคน้อย แต่อาจเพราะบุญนำมากระมัง ทำให้ผมได้มวลสารแบบไม่คาดคิดมาเสมอ

ขอบคุณตัวผมเองและครอบครัว ที่สละทั้งเงิน แรง และสนับสนุน ทั้งๆที่แลกไปกับต้นทุนค่าเสียโอกาสที่สูงกว่า

สุดท้ายขอขอบคุณพี่ๆทุกคน ที่คอยถามไถ่ เป็นกำลังใจ และบูชาวัตถุมงคลในกระทู้
รับรองทุกท่านจะได้วัตถุมงคลแน่นอน แต่เนื่องจากผมจะไม่ทำวัตถุมงคลบ่อยครั้งนัก ถ้าโอกาสไม่เอื้ออำนวยจริงๆ วัตถุมงคลทุกองค์ที่ออกไปจะต้องมีคุณค่าพอ

หลายท่านอาจไม่ทราบว่า ผมจะนำไปจับพลังวัตถุมงคลเสมอๆ โดยโค้งสุดท้ายนี้ผมจะอาราธนาครูบาอาจารย์ท่านลง หนุนดวง เสริมธาตุ โภคทรัพย์ มหาระงับ และเมตตาอย่างเดียว ถ้าจะลงทางคงกระพัน มหาอุตม์ ต้องมีวิชาโดดเด่นด้านนั้นจริงๆ (เช่น หลวงพ่อเอื้อน วัดวังแดงใต้ หลวงปู่เกลี้ยง วัดเนิน หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติ เป็นต้น) เพื่อให้พระทุกองค์ห้อย แล้วเป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่นับถือ พระชุดนี้สร้างเพียง 326 องค์ต่อไปจะหายากมากๆ (อย่างเช่น เหรียญหมดห่วงรุ่นสองของคุณสุธันย์ สร้าง 2หมื่นกว่าเหรียญ ตอนนี้ตามเว็บต่างๆแทบไม่มี)

การปลุกเสก ทั้งจัดพิธีเองพร้อมงานหล่อหลวงปู่มั่น ที่วัดป่าสันติสามัคคีธรรม คงไม่มีพระรุ่นไหนที่สร้างเพียง 300 กว่าองค์นิมนต์ครูบาอาจารย์มา 20 กว่ารูป
พร้อมทั้งอธิษฐานจิตในมือ โดยไม่ผ่านสายสิญจน์ของครูบาอาจารย์ร่วมร้อยองค์

ผมอยากบอกตรงๆว่าผมคงไม่สร้างพระแบบนี้อีกแล้ว เพราะ กำลังใจคงไม่มากพอ ทุนทรัพย์ไม่อำนวย ขนาดตอนนี้อยากได้ iphone4 ยังซื้อไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ทำพระชุดนี้ผมคงซื้อได้นับ 10 เครื่องครับ
ตอนนี้เนื่องจากพระยังไม่แล้วเสร็จดี ผมจึงยังไม่ review ประวัติ แต่จะลงบันทึกความทรงจำเล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับพระชุดนี้ พร้อมประวัติครูบาอาจารย์เพิ่มเติม แบบอ่านเล่นๆเบาสมองครับ จะพยายามมาอัพเดทบ่อยๆครับ

 

บันทึกตอนที่ 1 ผงสามอังคาร

ขณะที่ผมได้ขออนุญาตการจัดสร้างเสร็จแล้ว ผมต้องปวดหัวว่าผมแทบไม่มีมวลสารเนื้อผงอะไรเลย นอกจากพระแตกหักของตนเอง 1 กล่อง ที่นำไปให้ครูบาอาจารย์อธิษฐานหลายสิบรูป วันนั้นผมจึงตัดสินใจไปขออังคารของครูบาอาจารย์ในจังหวัดเชียงใหม่ครับ ตอนนั้นรู้สึกว่าได้กลับบ้านไปเตรียมงานทำค่ายติวสอนพิเศษหารายได้เพิ่มเติม ก็เลยไปขออังคารครูบาอาจารย์ (หมายเหตุ: คำว่าอังคารของผมไม่ใช่ถ่านนะครับ แต่เป็นสรีรธาตุที่ผ่านการร่อนมาแล้ว) ผมตัดสินใจไปขออังคารของ หลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ และ ครูบากองคำ วัดดอนเปา ปรากฏว่าได้ครับ ได้มาองค์ละ 1 ขวดกาแฟ เป็นอังคารชุดเดียวกับที่แปรสภาพเป็นพระธาตุ แต่ละองค์ผมใส่ประมาณองค์ลัช้อนโต๊ะสำหรับพระชุดนี้ โดยอังคารเหล่านี้ก่อนจะกลับได้นำไปให้ หลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว วัดศรีสว่าง และ ครูบาดวงดี วัดบ้านฟ่อนอธิษฐานเพิ่มเติม เล่าตอนถึงไปวัด ตอนนั้นผมขอเกศาหลวงปู่ด้วยเพื่อนำมาบรรจุในล็อกเกต แต่ลูกศิษย์ลูกหาท่านมากเหลือเกิน ตั้งแต่ทราบกันว่าเกศาของท่านแปรสภาพเป็นพระธาตุ จึงยากครับที่จะได้ เลยเจอเณรที่ดูแลครูบาดวงดี อยู่ถามว่า "โยมพี่เอาอะไรมาปลุกเสก" ผมตอบว่า เป็นอังคารครูบาอิน ครูบาบุญปั๋น ครูบาก๋องคำน่ะ พอได้ยินเท่านั้น ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่มาพูดกับผมใหญ่ว่า เป็นลูกศิษย์ของครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง ขออังคารหลวงปู่ไปบูชาด้วยได้มั๊ย แน่นอนว่าผมมอบให้ด้วยความเต็มใจเลยครับ เณรก็เลยขออังคารหลวงปู่ครูบาบุญปั๋นมั้ง ผมถวายไปแต่ขอเกศาหลวงปู่ไปตามระเบียบ ซึ่งเกศาที่ได้มาบรรจุพระชุดนี้ มาจากเหตุนี้นั่นเองครับ ไปถึงวัดหลวงปู่ครูบาจันทร์แก้ว ท่านก็เมตตามนต์ให้ประมาณ 10 นาที สัมผัสได้ถึงความเย็นของท่านจริงๆครับ เหมือนที่คุณสุธันย์ สุนทรเวสวี นักสร้างพระชื่อดังแห่งยุคพูดว่า องค์นี้สุดยอดไปเลย เย็นเหมือนตอนอยู่กับหลวงปู่ครูบาพรหมมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ยังไงยังงั้น

ซึ่งท่านทั้งหลายอาจยังไม่รู้จักครูบาอาจารย์ที่กล่าวไป ผมจะขอนำประวัติของแต่ละท่านมาลงเป็นวิทยาทานนะครับ ขอบคุณทุกแหล่งที่มานะครับ ขอนำความรู้เผยแพร่เกียรติคุณของหลวงปู่สืบไป

 

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif]หลวงปู่ครูบาบุญปั๋น ธัมมปัญโญ
วัดร้องขุ้ม จ.เชียงใหม่[/FONT]
[FONT=Tahoma, MS Sans Serif][/FONT]

หลวงปู่ครูบาเจ้าบุญปั๋น ธัมมปัญโญ เกิดในตระกูล”ปัญญานุสงส์” โยมบิดาชื่อ พ่ออุ้ยหม่อนจันทร์แก้ว ปัญญานุสงส์ โยมมารดาชื่อ แม่อุ้ยหม่อนสมนา ปัญญานุสงส์ พระคุณท่านถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2451 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 เหนือ จุลศักราช 1270 ปีสัน(วอก) ณ.บ้านหมู่ที่ 8 ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โดยท่านครูบาเจ้าฯเป็นบุตรคนสุดท้ายในบรรดาพี่น้องทั้ง 7 คน

เมื่อครั้งที่ท่านยังอยู่ในวัยเยาว์อ่อนชันษา หลวงปู่ครูบาเจ้าบุญปั๋น ก็กลับมีปัญญาญาณพิจารณาเห็นสภาวทุกข์แห่งโลกได้โดยไม่ยาก ตามวิสัยแห่งผู้มีบุรพวาสนาในทางธรรมมาแต่ปุเรชาติอันได้สั่งสมไว้ดีแล้ว โดยท่านได้เล็งเห็นว่า “อันบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนดำรงชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบาก ต้องต่อสู้กับความยากจน ซ้ำเพื่อเอาชีวิตรอด บางครั้งยังจำเป็นต้องไปเบียดเบียนคนอื่น สัตว์อื่น ถึงกับต้องฆ่าฟันกัน เพื่อนำมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องตนเองให้พออยู่ไปวันๆ หาแก่นสารอันใดบ่มิได้ ควรที่จะสลดสังเวชเป็นนักหนา จำเราจักต้องหาทางหลุดพ้นจากสังสารจักรแห่งวัฏฏะอันน่าติเตียนตามอย่างองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเป็นการอันประเสริฐสุดเป็นแน่...” ซึ่งเมื่อเด็กชายบุญปั๋นคิดได้เช่นนั้น จึงเอาความไปบอกแก่พ่ออุ้ยหม่อนจันทร์แก้วและแม่อุ้ยหม่อนสมนา ผู้บุพการีเพื่อขออนุญาตบรรพชาในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งพ่ออุ้ยแม่อุ้ยทั้งสอง ก็สุดแสนจะยินดีปรีดาและอนุโมทนาสาธุการกับบุตรชายแห่งตนคนนี้เป็นนักหนา หาใดเปรียบมิได้ ก่อนที่จะพร้อมใจกันจัดพานข้าวตอกดอกไม้ เพื่อนำเอาเด็กชายบุญปั๋น ไปฝากกับท่านเจ้าอาวาสวัดธรรมชัยบ้านแม ก่อนที่จะได้บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุได้ 13 ปี โดยมีท่านครูบาเจ้าสุริยะ สุริโย เจ้าอาวาสวัดร้องขุ้มเป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่อวันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ตรงกับวันแรม 3 ค่ำ เดือน 5 เหนือ ก่อนที่จะสึกออกไปเป็น”ผ้าขาวน้อย”เพื่อความสะดวกในการรักษาโรคหัวใจที่มาเบียดเบียน จนกระทั่งหายดีแล้ว ท่านจึงหวนกลับมาอุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้ง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2477 เมื่อท่านอายุได้ 26 ปี ณ พัทธสีมาโรงอุโบสถ วัดร้องขุ้ม ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ. เชียงใหม่ โดยมีท่านเจ้าอธิการอุ่นใจ๋ ญาโณ (ครูบาญาณะ) วัดท่าโป่ง เจ้าคณะตำบลบ้านแม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูบุญมา เมโธ (ครูบาเมธา) พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระ วัดวนารามน้ำบ่อหลวง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และมีพระอธิการเตชา เตชกโร (ครูบาหนิ้ว) วัดจอมแจ้ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้สมณฉายาในทางพระพุทธศาสนาว่า “ธัมมปัญโญ” อันมีความหมายเป็นสิริมงคลอย่างยิ่งว่า “ผู้มีปัญญารู้ธรรม”

ก็แล เมื่อพระภิกษุบุญปั๋น ธัมมปัญโญ ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้ตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนในกรอบแห่งพุทธวินัยและพุทธวิชชาอย่างดียิ่งกับครูบาอาจารย์องค์สำคัญๆเป็นหลายท่านหลายองค์มาโดยตลอด อาทิเช่น ครูบาคำอ้าย วัดธรรมชัย,ครูบาอุ่นใจ๋ วัดท่าโป่ง ,ครูบาบุญมา วัดท่าโป่ง,ครูบาโสภา วัดท่าโป่ง,ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวงและท่านพระครูบาเจ้าศรีวิไชย นักบุญแห่งล้านนาไทย เป็นต้นฯ จนปรีชาสามารถมาก ถึงขนาดท่องพระปาฏิโมกข์สิกขาบททั้ง 227 ข้อได้ด้วยปากเปล่า และยิ่งไปกว่านี้พร้อมๆกัน พระภิกษุบุญปั๋นท่านก็ยังได้เจริญสมณธรรมในทางบวรพระพุทธศาสนาด้วยความไม่ประมาท จนได้บรรลุถึงซึ่งคุณธรรมเบื้องสูงยิ่งๆขึ้นไปโดยลำดับ เป็นที่น่าอนุโมทนาแก่ปวงเหล่าท่านผู้รู้ทั้งหลายทั่วไปเป็นอย่างยิ่ง

ต่อมา เมื่อปีพ.ศ. 2484 ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดร้องขุ้ม มีอันต้องว่างลง ด้วยเหตุที่อดีตเจ้าอาวาสลาสิกขาออกไป คณะศรัทธาวัดร้องขุ้มทั้งหมดจึงได้วนเวียนมาขอร้องให้พระภิกษุบุญปั๋นไปเป็นเจ้าอาวาสแทนถึง 2 ครั้ง 2 ครา แต่ท่านหาได้ยินยอมไม่ ด้วยเหตุที่ตั้งใจจะเจริญสมณธรรมแต่เพียงส่วนเดียว จนสุดท้าย คณะศรัทธาวัดร้องขุ้มจึงได้หาอุบายไปหาครูบาดวงทิพย์ วัดกิ่วแลหลวง ในฐานะผู้รั้งตำแหน่ง เจ้าคณะตำบลบ้านแม เพื่อให้มาช่วยพูดให้พระภิกษุบุญปั๋นยอมมาเป็นเจ้าอาวาสวัดร้องขุ้มให้จงได้ ทำให้พระภิกษุบุญปั๋นได้แต่จนใจไม่อาจจะขัดอัธยาสัยของพระผู้ใหญ่ไปในทางใดได้อีก จำเป็นจำใจต้องรับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดร้องขุ้มในที่สุด สมดังคำพยากรณ์ที่ท่านพระครูบาเจ้าศรีวิไชย นักบุญแห่งล้านนาไทยได้เคยพูดไว้แต่ครั้งกระนั้นว่า “ ต่อไปพี่ธุต้องได้ไปเป็นธุหลวง วัดร้องขุ้มแน่แท้” ไม่ผิดคำแต่อย่างใดเลย ทีเดียว......(ครูบาศรีวิชัยเรียกว่า ตุ๊พี่ นับว่าไม่ธรรมดา)

และเมื่อพระบุญปั๋น ธัมมปัญโญได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดร้องขุ้มแล้ว ท่านก็ได้บำเพ็ญหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาอย่างเต็มกำลัง และดีที่สุดเท่าที่โอกาสและวาสนานาบุญจักอำนวยได้ จนวัดร้องขุ้มมีความเจริญก้าวหน้าและสวยงามกว่าเก่าก่อนเป็นอันมาก

นอกจากนี้ ท่านพระอธิการบุญปั๋นก็ยังได้มี”วิชาดี” อยู่อีกถึง 2 สถาน กล่าวคือ

1.การกินอ้อผะหญา เป็นพิธีมนตรกรรมแบบล้านนา เพื่อเพิ่มสติปัญญาความทรงจำให้ดีกว่าสามัญธรรมดา

2.การบูชาเทียน หรือวิชชาทำเทียนเศรษฐีล้มลุก และเทียนสืบชะตา ลดเคราะห์ รับโชค อันเข้มขลัง สามารถช่วยให้หลายๆคนได้ประสพความสำเร็จในการประกอบสัมมาอาชีพอย่างน่าอัศจรรย์ จนเป็นทื่เลื่องลือทั่วไป

ด้วยเหตุฉะนี้ จึงเป็นเครื่องเหนี่ยวนำศรัทธาในสาธุชนทั้งหลายยิ่งเพิ่มความเลื่อมใสในพระคุณท่านยิ่งๆขึ้นไปอีกจนสุดจักบรรยาย......ทุกคนจึงเรียกหาท่านด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งว่า “ตุ๊ลุงบุญปั๋น”หรือ”ครูบาเจ้าบุญปั๋น” นับแต่นั้นเป็นต้นมา

ครูบาหน้อย วัดบ้านปง ถึงกับกล่าวยืนยันว่า ครูบาบุญปั๋นเก่งมาก!!!
ครูบาเทือง วัดบ้านเด่น บอกว่า จิตท่านเย็นมาก คงเข้าข่ายพระอรหันต์ไปแล้ว