พระนิพพาน (เป็นเรื่องตลก ?)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย หนูกบ, 3 กันยายน 2010.

  1. หนูกบ

    หนูกบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +48
    เมื่อก่อนเคยเข้าใจว่า นิพพาน เป็นเรื่องยาก / เข้าถึงยาก และเป็นสถานที่ ที่มนุษย์ธรรมดาคงไม่มีทางไปได้ถึง (มีแต่พระอรหันต์เท่านั้น)
    แต่พอมาศึกษาจากในเวบนี้ ทำให้เข้าใจเรื่องนิพพานใหม่ โดยเฉพาะจากการฟังคำสอนของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ซึ่งทำให้เราอยากไป นิพพาน บ้าง
    แต่กลับถูกมองจากคนทั่วไป และมักจะมีคำถามอย่างติดตลกว่า
    " จะไปนิพพาน เลยเหรอ" มันเป็นเรื่องที่น่าตลก รึเปล่าค่ะ
    :':)':)'(
     
  2. gatsby_ut

    gatsby_ut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    821
    ค่าพลัง:
    +14,291
    บัว ๔ เหล่า
    เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงตรัสรู้แล้ว แต่เนื่องจากพระธรรมที่พระองค์ทรงบรรลุนั้นมีความละเอียดอ่อน สุขุมคัมภีรภาพ ยากต่อบุคคลจะรู้ เข้าใจและปฏิบัติได้ ทรงเกิดความท้อพระทัยว่าจะไม่แสดงธรรมโปรดมหาชน ต่อมาท่านได้ทรงพิจารณาอย่างลึกซึ้ง แล้วทรงเห็นว่าบุคคลในโลกนี้มีหลายจำพวก บางพวกสอนได้ บางพวกสอนไม่ได้ เปรียบเสมือนบัว ๔ เหล่า ดังนั้นแล้วจึงดำริที่จะแสดงธรรมเพื่อมวลมนุษยชาติต่อไป
    บัว ๔ เหล่า ได้แก่

    [​IMG]


    ๑. อุคฆฏิตัญญู พวกที่มีสติปัญญาฉลาดเฉลียว เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมก็สามารถรู้ และเข้าใจในเวลาอันรวดเร็ว เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่พ้นน้ำ เมื่อต้องแสงอาทิตย์ก็เบ่งบานทันที <O:p

    ๒. วิปจิตัญญู พวกที่มีสติปัญญาปานกลาง เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มเติม จะสามารถรู้และเข้าใจได้ในเวลาอันไม่ช้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ปริ่มน้ำซึ่งจะบานในวันถัดไป <O:p

    ๓. เนยยะ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอยด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง <O:p

    ๔. ปทปรมะ พวกที่ไร้สติปัญญา และยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ แม้ได้ฟังธรรมก็ไม่อาจเข้าใจความหมายหรือรู้ตามได้ ทั้งยังขาดศรัทธาปสาทะ ไร้ซึ่งความเพียร เปรียบเสมือนดอกบัวที่จมอยู่กับโคลนตม ยังแต่จะตกเป็นอาหารของเต่าปลา ไม่มีโอกาสโผล่ขึ้นพ้นน้ำเพื่อเบ่งบาน

    ********

    ถ้าสิ่งใด ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ พระพุทธเจ้าไม่สอน
    เรื่องนี้ อาจจะตลกสำหรับเขา นะ แต่ถ้าคนได้มโนมยิทธิ นี่ เขาสามารถ พิสูจน์ได้ และคนที่ได้ ก็มีมากในปัจจุบัน .. คนที่สามารถ จะไปพระนิพพานได้ ต้องมีบารมีเก่า มาพอสมควร (บารมี หมายถึงกำลังใจ)

    .. การค้านคำสอน มิได้มีผลดีกับตัวเองเลย ..
     
  3. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,276
    ค่าพลัง:
    +82,733
    ๓. เนยยะ พวกที่มีสติปัญญาน้อย แต่เป็นสัมมาทิฏฐิ เมื่อได้ฟังธรรมแล้วพิจารณาตามและได้รับการอบรมฝึกฝนเพิ่มอยู่เสมอ มีความขยันหมั่นเพียรไม่ย่อท้อ มีสติมั่นประกอยด้วยศรัทธา ปสาทะ ในที่สุดก็สามารถรู้และเข้าใจได้ในวันหนึ่งข้างหน้า เปรียบเสมือนดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งจะค่อยๆ โผล่ขึ้นเบ่งบานได้ในวันหนึ่ง

    อนุโมทนาค่ะคุณอริยบุตร
    ติงพิจารณาตนเองแล้ว
    น่าจะอยู่เหล่าเนยยะ แต่จะพยายามค่ะ <O:p

     
  4. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิต ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

    -ใครเขาจะคิดอย่างไร ก็คงเป็นเรื่องของเขา แต่เราเองต่างหากที่ควรปฏิบัติ

    เพื่อไปตามจุดหมายของเราครับ

    สาธุ
     
  5. ต้นไทร

    ต้นไทร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    916
    ค่าพลัง:
    +666
    บารมีแต่ละคน ไม่เท่ากันครับ และเรื่อง ธรรมมะ จะพูดกับทุกๆคนที่ ไม่รับและไม่ศรัทธา ไม่ได้นะครับ ต้องดูและพูดได้กับคนที่สนใจ ในธรรมะ ครับ
     
  6. หนูกบ

    หนูกบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +48
    ขอบคุณนะคะ ทุกๆ คน
    อ่านข้อความแล้ว ค่อยมีกำลังใจหน่อย (f)
     
  7. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    อริยบุตรถ้าสิ่งใด ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ พระพุทธเจ้าไม่สอน
    เรื่องนี้ อาจจะตลกสำหรับเขา นะ แต่ถ้าคนได้มโนมยิทธิ นี่ เขาสามารถ พิสูจน์ได้ และคนที่ได้ ก็มีมากในปัจจุบัน .. คนที่สามารถ จะไปพระนิพพานได้ ต้องมีบารมีเก่า มาพอสมควร (บารมี หมายถึงกำลังใจ)


    .. การค้านคำสอน มิได้มีผลดีกับตัวเองเลย ..

    กราบ อนุโมทนา สาธุค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 กันยายน 2010
  8. รัก_D

    รัก_D เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2008
    โพสต์:
    290
    ค่าพลัง:
    +1,096
    ถูกต้องเลยครับ บัว สี่ เหล่า เพราะว่า รู้สึกจะเห็น พวกพ้นจากตม มีเยอะเหลือเกิน ให้ธรรมมะไม่เอาหรอกครับ ถ้าเรื่อง ผู้หญิง นี้พวกเขาถึงจะสนใจ ..นี่แหล่ะ สังคมทุกวันนี้ ใครจะว่าอะไรก็ช่างเขา เอาเขามาชั่งก็กลายเป็นชั่งเขา เราก็สบายใจ ทำอะไรที่คิดว่าดีแล้วเราก็ทำไปเลยครับ.
     
  9. คิดอยู่นาน

    คิดอยู่นาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +129
    ไม่ควรพูดกะคนที่ดูแล้วเข้าไม่ถึงอะครับ
    เพราะเราจะทำให้เขาปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่ตั้งใจ
     
  10. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ใช่ครับเรื่องพวกนี้ผมแทบจะระวังคำพูดมากๆ เลยเพราะกลัวเขาจะหัวเราะเยาะเอา

    ขนาดแฟนถามอธิฐานขอพรพระเป็นประจำนี่ขออะไร

    ผมยังไม่กล้าบอกเลยว่า "ขอไปพระนิพพาน ชาตินี้"
     
  11. ทิพย์พิมล

    ทิพย์พิมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    245
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,510
    เข้ามาให้กำลังเจ้าของกระทู้ค่ะ...คุณเคยฟังนิทานเรื่องเต๋ากับปลาบ้างมั้ยเอ๋ย....ถ้ายัง ก็ลองเอาไปอ่านแล้วพิจารณาดูนะค่ะ

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    ในกาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว ในสมัยที่ สัตว์ ทั้งหลายยังสามารถพูด คุย ติดต่อสื่อสารกันได้ เหมือนคน ณ. ดินแดนที่แสนสงบมีหนองน้ำแห่งหนึ่ง อยู่ชายป่า ในหนองน้ำนั้น อุดมสมบูรณ์ไปด้วย พืชพันธุ์ไม้น้ำและ สัตว์น้ำ มากมาย หลากหลายพันธุ์ ซึ่งอาศัยพึ่งพา กัน และใช้ชีวิตอยู่อย่างมีความสุขตามอัตภาพ ในวันหนึ่ง เต่าน้อยตัวหนึ่ง ได้ขึ้นมาเยี่ยมชม ที่ชายน้ำดั่งที่เคยทำ และในวันนั้น เต่าน้อย มีความคิดที่ว่า น่าจะออกเยี่ยมชมไปให้ไกลกว่าที่ เคย จึงได้ ขึ้นจากน้ำ และ เดินท่องไปในชายป่า ลึกเข้าไปเป็นลำดับได้เห็นสิ่งต่างๆ มากมาย ผีเสื้อโบยบิน เป็นอิสระ สีสัน สวยงาม สัตว์ป่า สองเท้าสี่เท้า น้อยใหญ่ หากิน กันอยู่อย่างเป็นสุข ตามธรรมชาติ ต้นไม้ใหญ่ตระหง่านสูงใหญ่ต้นเล็กพลิ้วไหว โอนเอนไปมาตามกระแสลม นก ใหญ่ น้อย บินโฉบฉวัดเฉวียน ไปมาสรรพสำเนียง น่าชม ต้นไม้ ออกผล เป็นอาหาร หลากหลาย ดอกไม้ พืชพรรณ สีสัน สวยงามตระการตา แสง อาทิตย์ อันเจิดจ้า เป็นประกาย ให้ความสว่าง และ อบอุ่น แก่ สรรพชีวิตเป็นที่ตื่นตาตื่นใจ ต่อ เต่าน้อยเมื่อได้ท่องชมธรรมชาติจนได้เวลากลับ เต่าน้อยก็เดินทางกลับออกจากราวป่า มาสู่หนองน้ำ อันเป็นที่พำนักอาศัย ด้วยความตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้พบเห็นมา จึงได้นำสิ่งที่ได้พบเห็นมา ถ่ายทอดสู่ผองเพื่อน
    ปลาใหญ่ปลาน้อย ทั้งหลาย ให้ได้ฟัง หวังว่าเหล่าเพื่อนปลาใหญ่น้อยจะพลอยมีความสุขและตื่นเต้น เช่นเดียวกับตน ด้วยดวงใจ อัน พองโต กระตือรือร้น…แต่… สิ่งที่เกิดขึ้น เหล่า ปลาน้อย ปลาใหญ่ ต่างไม่พอใจ และกล่าวหาว่า เต่าน้อย เปลี่ยนไป กล่าวหาว่า เต่าน้อย เป็น ผู้ที่ ขี้ปด มดเท็จ โกหกหลอกลวง เล่าเรื่องต่างๆที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ให้ฟัง
    จึงพากันลงความเห็น ว่าเต่าน้อย เป็นผู้ที่ ไม่สมควรที่จะคบหา ต่อไป พากันตัดมิตรภาพ ตัดความสัมพันธ์อันดีแต่ก่อนมา และ พากัน ขับไล่ เต่าน้อยให้ ออกไปจากถิ่นที่อยู่อาศัยในทันที…โดยมิพักว่าจะพิจารณาหรือไตร่ตรองสอบถามความใดในสิ่งใด ๆ …….เต่า เป็น ผู้ผิด กระนั้นหรือ .. ? หรือปลา เป็น ผู้ผิด .. ?หรือไม่มีใครผิด ทั้ง เต่า และ ปลา ..? หรือทั้งคู่ต่างมีความผิด ทั้ง เต่า และ ปลา..? นิทานเรื่องนี้ มีข้อเตือนใจ แทรกไว้ ให้ผู้มีดวงตาอันแหลมคมสมองเปี่ยมไปด้วยเหตุ และ ผล ดวงจิตที่เข้าใจใน วิถี แห่งการเรียนรู้สุดแต่ผู้ใดจะมองเห็นเป็นอย่างไร สุดแต่จะเข้าใจและตีความตามประสงค์
    (อุ้ย!! นี้เรามาให้กำลังใจ...รึมาเล่านิทานละเนีย..หุหุ!!)<O:p></O:p>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1010.gif
      1010.gif
      ขนาดไฟล์:
      29.2 KB
      เปิดดู:
      67
  12. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,260
    คนส่วนใหญ่ มักจะบอกว่า ตัวเองเป็นชาวพุทธ แต่มักไม่ค่อยจะรู้อะไรมากไป

    กว่าการคิดว่า ตัวเอง เข้าวัด ไหว้พระ ทำทาน ใส่บาตร ก็พอแล้วไม่ค่อยจะมา

    ศึกษาในเรื่องการพ้นทุกข์ การหลุดพ้นเวียนว่ายตายเกิด บางคนก็ไม่เชื่อในนรก

    ในภพภูมิไม่เชื่อในเกิดแต่ละชาติ อาจจะเป็นเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่เจริญ

    ก้าวหน้าพร้อมกับ ความเจริญในวัตถุก็เข้ามาเบียดบัง ให้มนุษย์เรามุ่งแต่ทำมาหา

    กินให้ชีวิตได้พ้นไปวันๆ คิดว่าการนิพพานเป็นเรื่องของพระ ชาวบ้านอย่างเราคง

    ทำไม่ได้ ฯลฯ

    ที่กล่าวมาข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่เกิดกับตัวเองแทบทั้งสิ้นที่เคยคิดแบบนี้ แต่ตอนนี้

    ได้รับความรู้ใหม่ ว่า การนิพพาน ทุกคนสามารถไปได้ และทุกคนสามารถทำ

    ได้


    นำไปเล่าให้ใครฟัง...เขาก็ไม่เชื่อ...เพราะเขาเหล่านั้น เป็นดังคนทั่วไปที่กล่าว

    มาแล้วข้างต้น ดังนั้น อย่าไปวิตกหรือ ไม่มั่นใจอะไรเลย สัตว์โลกย่อมเป็นไป

    ตามกรรม ถ้าเขาต้องการเวียนว่ายตายเกิด และอยากมีทุกข์ไปทุกๆชาติ มันก็

    เป็นสิทธิ์ของเขา จงมุ่งมั่นไปตามทางของเราเถิด นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้ว
     
  13. I Love NIPPan

    I Love NIPPan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +479
    ดิฉันก็อยู่ในสภาพเดียวกัน หลังจากที่ได้ศึกษาคำสอนหลวงพ่อทำให้รู้ว่าคนทั่วไปหลายคนน่าสงสารที่เค้ามีครูอาจารย์ไม่ได้สอนเรื่องนิพพานและไม่ได้ชี้แนวทางให้อย่างชัดเจนเหมือนหลวงพ่อ ดังนั้นดิฉันจึงไม่กลัวที่จะบอกใครว่าตั้งใจจะไปนิพพาน และไม่สนใจที่ใครจะเข้าใจหรือไม่ เพราะเมื่อก่อนเราก็เป็นอย่างเค้า ต้องสงสารเค้า

    เรื่องคนไม่เข้าใจนิพพานนี้ขนาดหลวงพ่อท่านก็เจอปัญหา แต่ท่านก็ไม่เคยสนใจคนที่คัดค้าน จนคนรุ่นหลังได้รับคำสอนที่ถูกต้องถึงทุกวันนี้

    หลวงพ่อสอนว่าตั้งใจไว้ ถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น เดินไปไม่หยุดเดี๋ยวก็ถึงเอง
    สาธุ
     
  14. skygolo

    skygolo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +149
    จะไปนิพพานกัน แค่เรื่องโลกธรรม
    ยอมรับตามธรรมดา โดยจิตไม่หวั่นไหวไม่ได้หรือ?

    เกิดคนเดียว ตายคนเดียว ยังจะเอาอะไรบนโลกนี้มาถ่วงจิตให้ตกต่ำทำไมเล่า
    ถ้ายังหวั่นไหวกับสิ่งเล็กๆน้อยๆ แบบนี้ก็แสดงว่า
    ยังไม่เชื่อมั่นกับพระรัตนตรัย อย่างหมอบราบคาบแก้ว

    แต่ถ้าชีวิตยังเกี่ยวข้องกับคนหมู่มาก
    ทำแบบไม่ทำ ทำแบบไม่ประกาศ ไม่ปิดแต่ไม่ได้เปิด
    ถ้ามีมโนมยิทธิ ก็จับองค์พระท่าน
    ถ้ายังไม่ได้ฝึก ก็จับลมหายใจ ให้เป็นปกติ
    ไม่เกิน 3 เดือนจริงๆครับ ถ้าอยู่กับลมหายใจ
    จะเห็นว่าเรื่องพวกนี้เล็กน้อยมาก
    ใครจะว่าอะไรก็เข้าหู จิตกระเพื่อมมารับรู้นิดนึง เสร็จแล้วก็กลับเข้าที่ด้วยสติ
    จะเห็นว่า มันเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่ แล้วดับไปอย่างเร็ว ไม่ทิ้งขยะในใจ

    แค่นี้กรรมในอดีตเล็กๆน้อยๆ ก็ทำอะไรคุณไม่ได้แล้วครับ
    แต่กรรมหนักๆ ก็ยังเจ็บได้อยู่ เร่งความเพียรเข้า
    อย่าไปสนใจคนอื่นจะเป็นอย่างไรจะดี จะชั่วเรื่องของเขานะครับ

    นึกถึงหลวงพ่อท่าน ขนาดอาพาธหนักแท้ๆ
    ยังอุตส๋าห์ ทั้งอัดเทป ทั้งเขียน เมตตามากๆกับลูกศิษย์ลูกหา
    จัดสรร วางแนวทางไว้ให้เสร็จสรรพ ระลึกคุณท่านไว้
    (ระหว่างวันอัดสติให้มันต่อเนื่องอย่าให้มีช่องมารมันเข้ามาแทรกได้)

    เป็นกำลังใจ กัลยาณมิตรทุกท่านครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กันยายน 2010
  15. prayut.r

    prayut.r เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +1,707
    ชอบนิทานเรื่องนี้จังเลยครับ ก็อย่างที่บอกว่า ไม่อยากบอกใคร ไม่ใช่เพราะกลัวเขาหาว่าบ้าอย่างเดียว แต่กลัวเขาจะปรามาส จนเป็นบาปกับตัวเขาด้วยน่ะครับ
     
  16. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,107
    ค่าพลัง:
    +2,695
    นิพานะปัจจะโยโหตุ ขอให้ทุกท่านเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน
     
  17. kencito

    kencito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    241
    ค่าพลัง:
    +954
    เปลี่ยนจากคำว่านิพพาน เป็นจะพ้นทุกข์ก็ได้ครับ บางคนฟังแล้วจะได้ไม่ตกใจ

    แต่ไม่ใช่ของตลกนะครับ ยึดมั่นในเป้าหมายไว้ครับ จงคิดไว้เลยว่าตัวเองเป็นผู้ประเสริจมากที่เห็นถูกเห็นชอบ มีเป้าหมายที่ถูกที่ควร
     
  18. Pongroch

    Pongroch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2008
    โพสต์:
    496
    ค่าพลัง:
    +1,479
    ขออนุโมทนากับทุกท่านน่ะค่ะ ที่ต้องการไปนิพพานโดยส่วนตัวเวลาทำบุญก็ขอไปพระนิพพานในชาตินี้เหมือนกัน ยังไงก็เป็นกำลังใจให้กับทุกท่านน่ะค่ะ ทำอะไรในตอนนี้มาร กับอุปสรรคต่างๆมักจะเกิดเพราะเราจะทิ้งเขาไปพระนิพพานกันแล้ว แต่ก็อย่าท้อน่ะค่ะพยามยามยึดแนวที่หลวงพ่อท่านให้ไว้ ส่วนใครเขาจะว่ายังไงก็ปล่อยเขาเถอะ ก็คงต้องขอให้่ผลบุญที่เขาทำกันมาดลใจเขาให้ได้ไปสู่ทางธรรมในเร็ววัน ส่วนเราได้รับและปฏิบัติได้ก่อนเขาก็ไปกันก่อนน่ะค่ะ
     
  19. ดารัณ

    ดารัณ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +132
    อนุมทนาบุญกับ คห.2 ของคุณอริยบุตรด้วยนะคะ

    เราก็เป็นค่ะ โดนประจำแม้แต่คนในครอบครัว

    บางทก็รู้สึกไม่ดี (มากถึงมากที่สุดเหมือนกัน)

    ตอนหลังเลยกะว่า ใครพูดอะไรปล่อยเขาไป

    เราอยู่เราทำของเราดีกว่า
     
  20. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    ของแบบนี้ขึ้นอยู่กับตัวเราเองครับ ยิ่งเขามองว่าเป็นเรื่องตลก ขำๆ เรายิ่งต้องทำตัวให้ดียิ่งขึ้นไปอีก เพื่อให้เขาเห็นว่าเราเอาจริง ความเอาจริงของเรานี่ละครับ พอผ่านวันเวลาไปซักสามปี ห้าปี สิบปี หากเขายังเห็นว่าเรายังคงปรารถนาพระนิพพานเช่นเดิมอยู่ และชีวิตเราดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตาเนื่องจากการปฏิบัติ เขาเองนั้นแหละ จะเป็นฝ่ายที่ขำไม่ออก และหันมาปฏิบัติธรรมบ้าง

    โมทนาครับ ^_________________________________^
     

แชร์หน้านี้

Loading...