ชมความงาม 10,000 ปี หินงอกย้อย‘ถ้ำขมิ้น’

​

การ ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ท่ามกลางธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องเดินทางท่ามกลางป่าไม้สีเขียวเสมอไป เพราะธรรมชาติได้สร้างความงามไว้มากมายหลายรูปแบบ วันนี้ เดลินิวส์ออนไลน์ พาทุกคนไปพบกับความงามที่อยู่ลึกเข้าไปในความมืด แต่กับสดใสส่องประกายมานานนับพันปีที่ ถ้ำขมิ้น อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ถ้ำขมิ้น ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ที่ครอบคลุมท้องที่ อำเภอบ้านนาสาร อำเภอเวียงสระ อำเภอกาญจนดิษฐ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นถ้ำที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเป็นผู้รังสรรค์ซึ่งจากการสันนิษฐานพบว่าต้อง ใช้เวลานับพันหรือหมื่นปีกว่าจะเกิดความงดงามของหินงอกหินย้อยได้อย่างที่ เห็นทุกวันนี้

ความงดงามภายในถ้ำ เกิดจากน้ำฝนและน้ำใต้ดินที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมตัวกับไอออนของน้ำทำปฏิกิริยาเป็นกรดคาร์บอนิกอย่างอ่อน ไหลผ่านตามรอยแตกของชั้นหินที่อยู่ใต้ดิน และละลายหินที่มีส่วนประกอบของแร่แคลไซด์ หรือแคลเชียมคาร์บอเนตให้กลายเป็นรอยแตกหรือโพรงกว้าง ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปรอยแตกจะกว้างขึ้นจนกลายเป็นถ้ำในที่สุด

เส้นทางการท่องเที่ยวเพื่อชมความงามภายในถ้ำขมิ้น เริ่มจากการเดินจากบริเวณส่วนบริการด้านหน้า ขึ้นมาตามเส้นทางสายธรรมชาติ โดยจะมีน้องมัคคุเทศก์ท้องถิ่นคอยช่วยให้ความรู้ตลอดเส้นทาง ใช้เวลาประมาณ 5 – 10 นาทีก็จะมาถึงปากถ้ำซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเดินทาง

ภายในถ้ำได้จัดเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1,250 เมตรไว้คอยต้อนรับผู้มาเยือน แบ่งโซนไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวได้ชมความงามของหินงอกหินย้อยไว้กว่า 10 จุด อีกทั้งยังเป็นที่อาศัยของค้างคาวจำนวนมาก ทำให้ทุกคนจะได้ตื่นตาตื่นใจกับชีวิตความเป็นอยู่ของฝูงค้างคาวที่อาศัยอยู่ ในถ้ำ และหลงเสน่ห์ความงามของหินงอกหินย้อยที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์ โดยธรรมชาติ ตลอดเส้นทาง

เริ่มต้นการเดินทางที่ ปากถ้ำ สักการะศาลปู่เจ้าสมิงพราย ก่อนจะเดินทางลงสู่ห้องโถงต่างๆภายในถ้ำด้วยบันไดขนาดใหญ่ด้านหลัง โถงแรกที่เจอเมื่อเดินลงมาถึงด้านล่างคือ ลานรถจิ๊ป หลังจากสอบถามไกด์ตัวน้อยถึงความเป็นมาของรถจิ๊ปได้ความว่า ที่รถจิ๊ปคันนี้ลงมาอยู่ในถ้ำได้เพราะเมื่อก่อนที่นี่เคยเป็นที่ทำสัมปทาน มูลค้างคาว จึงใช้รถจิ๊บคันนี้ขนย้ายมูลค้างคาว โดยใช้วิธีการแยกส่วนประกอบของรถแล้วนำเข้ามาประกอบใหม่ภายในถ้ำ

เดินตามทางมาเรื่อยๆก็จะพบกับ ลานท่านขุน ทำนบ หินปูนขนาดใหญ่ ที่มีหินงอกและหินย้อยขนาดใหญ่มาบรรจบกัน ส่องประกายสว่างไสวสะท้อนแสงไฟ แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ ถัดจากจุดนี้ไปสักพักถ้าเงยหน้ามองขึ้นด้านบนก็จะเห็น ช่องฟ้า เป็นลักษณะช่องขนาดใหญ่ทะลุเพดาน ซึ่งเป็นช่องทางเข้าออกของค้างคาวนับแสนตัวที่อาศัยอยู่ในถ้ำนี้

ด้วยความอุดมสมบูรณ์และบรรยากาศของถ้ำอย่างแท้จริง ทำให้ตลอดระยะเส้นทางจะมีกลิ่นของมูลค้างคาว และพบเห็นแมลงที่มักอาศัยอยู่ในถ้ำหลายชนิด เพิ่มความน่าสนใจให้การเดินทางเที่ยวชม โดยอีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจต้องยกให้ ลานอพอลโลหรือลานหมากขุม ทำนบหินปูนขนาดใหญ่ ที่ช่วงหน้าฝนจะมีน้ำไหลลงมาตามชั้นอย่างสวยงาม เสมือนเป็นน้ำตกขนาดย่อมช่วยสร้างสีสันให้กับถ้ำแห่งนี้

นอกจากนี้ยังมีห้องเล็กๆที่ถูกแบ่งตามลักษณะที่ดูเหมือนสิ่งต่างๆของหินงอกหินย้อย ไว้ดึงดูดความสนใจจากผู้มาเยือน เช่น ห้องแจกัน คูหาขนาดใหญ่ที่มีหินงอกลักษณะคล้ายแจกัน ห้องเจ้าหญิง คูหาม่านหินปูนลักษณะคล้ายรูปเจ้าหญิงสวมรัดเกล้าบนศีรษะ และ ห้องหินงอกหินย้อย ที่ยังมีการเจริญเติบโตของหินงอก หินย้อย และเป็นห้องเดียวที่มีหินคดหรือเกลียวหินปูน

อีกหนึ่งความงามที่ต้องสะดุดตาทุกคนคงหนีไม่พ้น ม่านสีชมพู โซน ความงามของม่านหินปูนที่มีลายเป็นริ้วสีชมพูอ่อน สวยงามและสบายตาเมื่อโดนแสงไฟส่องท่ามกลางความมืด ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นเป็นภาพคล้ายพระพุทธรูปนั่งสมาธิ รวมถึงยังมี ม่านฟ้า ม่านหินย้อยขนาดใหญ่ที่สวยงามแปลกตา อยู่ในบริเวณใกล้เคียงอีกด้วย

ข้อแนะนำในการเข้าไปในถ้ำ
1.ไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูง เพราะเส้นทางเดินเยี่ยมชมบางจุด เป็นเนินหิน
2.ไม่ควรสัมผัสกับหินงอก หินย้อย เพราะอาจส่งกระทบต่อการเจริญเติบโตของหินงอก หินย้อยได้

ถ้ำขมิ้น อยู่ในพื้นที่ของ อุทยานแห่งชาติใต้ร่มเย็น ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร 0 7734 4633

ใต้หล้า
Deflying2@gmail.com

 

คงต้องหาโอกาสไปเที่ยวซักครั้ง

 

อยากให้สวยงามอย่างนี้ไปนานๆจริงๆคับ
สาธุคับ
​

________________________________________________________________________

เล่ม 1. หนทางแห่งการพ้นทุกข์.rar
เล่ม 2. หนทางแห่งการบรรลุ.rar

 

งดงามอย่างยิ่งเลยทีเดียว

 

สวยๆๆๆ ครับ
ทอดกฐินสามัคคีสำนักสงฆ์เขาพระครูศรีราชา 24 ตุลาคม 2553

 

สวยๆๆๆ ครับ
ทอดกฐินสามัคคีสำนักสงฆ์เขาพระครูศรีราชา 24 ตุลาคม 2553