"ม้าทรง" ความลี้ลับ...แห่งศรัทธา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 17 ตุลาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    "ม้าทรง" ความลี้ลับ...แห่งศรัทธา

    • 17 ตุลาคม 2553 เวลา 07:29 น. |
    การยอมตนเข้าร่วมพิธีนี้ของพวกเขาซึ่งเรียกตัวเองว่า “ม้าทรง” หรือร่างประทับของเทพศักดิ์สิทธิ์ เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา เลือดที่ซึมออกมาเสมือนการไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์...
    โดย...อชัถยา ชื่นนิรันดร์

    หากกล่าวถึงเทศกาลกินเจ คงไม่มีที่ใดเป็นที่รู้จักขึ้นชื่อไปกว่า จ.ภูเก็ต แม้ที่นี่จะเรียกชื่อเทศกาลว่า “ถือศีลกินผัก” ผู้คนทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน ฮ่องกง ก็ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมพิธีดังกล่าวนี้

    [​IMG]


    ย้อนหลังตำนานถือศีลกินผัก เมื่อ พ.ศ. 2368 คณะงิ้วเร่จากเมืองจีนที่มาเล่นในพื้นที่ อ.กะทู้ พื้นที่ซึ่งเต็มไปด้วยไข้ป่า คณะงิ้วได้ประกอบพิธีบวงสรวง ถือศีลกินเจ หลังจากนั้นโรคภัยต่างๆ ที่เคยเกิดขึ้นก็ไม่มากล้ำกรายชุมชนกะทู้อีกเลย ชาวบ้านจึงถือปฏิบัติกินเจและบวงสรวงเทพเจ้าเป็นประจำทุกปี เวลาล่วงผ่านมาแล้วถึง 185 ปี

    งานประจำปีนี้ถือเป็นการร่วมใจอย่างแท้จริง ด้วยทุกศาลเจ้าในชุมชนต่างๆ 17 แห่งทั้งจังหวัด จะร่วมกันจัดขบวน “ม้าทรง” หรือร่างทรงของเทพเจ้า ใช้อาวุธทิ่มแทงตามร่างกายแห่ไปทั่วเมือง หรือที่เรียกกันว่า “แห่พระ”

    พิธีแห่พระจะเป็นการออกประพาสเพื่อโปรดสัตว์ มีขบวนธงและป้ายชื่อแห่นำหน้า จากนั้นเป็นเกี้ยวหามพระเรียกว่า ถ้ายเปี้ย โดยหามรูปพระบูชาต่างๆ ออกนั่งเกี้ยวไป ซึ่งจัดตามชั้นและยศของพระ จากนั้นมีขบวนพระเกี้ยวใหญ่ใช้ 8 คนหาม และมีฉัตรจีนกั้นไปด้วย เป็นที่ประทับของกิ้วอ๋องฮุดโจ้ว ขณะที่ขบวนแห่ผ่านไปชาวบ้านจะตั้งโต๊ะบูชาหน้าบ้าน และจุดประทัดต้อนรับขบวนเมื่อผ่านไปถึง

    นอกจากนี้ยังมีพิธีกรรมอีกมากที่เกี่ยวข้องกับงานประเพณีถือศีลกินผัก เช่น พิธียกเสาโกเต้ง แขวนตะเกียง 9 ดวง หมายถึง ดวงวิญญาณของกิ้วอ๋องไต่เต่ สัญลักษณ์เริ่มงานประเพณีถือศีลกินผัก พิธีลำเต้า ปักเต้า พิธีโขกุ้น พิธีซ้องเก็ง พิธีบูชาดาว พิธีลุยไฟ พิธีสะเดาะเคราะห์ พิธีแห่พระ พิธีส่งพระ เป็นต้น

    แต่การร่วมพิธีกรรม เช่น พิธีลุยไฟ สะเดาะเคราะห์ และพิธีขึ้นบันไดมีด จะมีการจำกัดจำนวนม้าทรง ส่วนพิธีแห่พระม้าทรงทุกคนต้องเข้าร่วมพิธีดังกล่าว


    [​IMG]


    ม้าทรงในความเชื่อของคนภูเก็ตเกี่ยวข้องกับประเพณีถือศีลกินผักโดยตรง มีการบอกเล่าสืบทอดกันมานานว่า ผู้ที่จะเป็นม้าทรงนั้น พระจีนหรือเทพเจ้าจะเลือกบุคคลที่สิ้นอายุขัย แต่ยังมีคุณงามความดี ต้องการให้สืบชะตาต่ออายุให้ยืนยาวออกไป จึงมาประทับร่างของบุคคลดังกล่าว หรือจะมีการประทับร่างของบุคคลที่สืบเชื้อสายของการเป็นม้าทรงจากบรรพบุรุษ ซึ่งม้าทรงใน จ.ภูเก็ต จากศาลเจ้าทั้งหมด 17 แห่ง มีมากกว่า 2,000 คน

    บุญธรรม สัตย์มั่น ผู้ทำหน้าที่ล่ามพระจีน หรือฮวดกั้ว ประจำศาลเจ้าบางเหนียว ซึ่งจะคอยเดินตามม้าทรงขณะที่กำลังประทับทรงมาหลายสิบปี บอกว่า ในอดีตจำนวนม้าทรงมีน้อย แต่ปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น สำหรับศาลเจ้าบางเหนียวได้ขึ้นบัญชีผู้เป็นม้าทรงไว้ 300 คน เป็นผู้ชายทั้งหมด มีการเข้าทรงองค์เทพที่เป็นประธานชื่อ เตียนฮู่หง่วนโส่ย เป็นองค์หลัก และมีพระจีนองค์ต่างๆ ตามลำดับ ประทับทรงในร่างของม้าทรง

    “อาวุธของม้าทรงในอดีตจะใช้เข็มเล็กๆ แทงตามร่างกาย ขณะที่ในปัจจุบันจะเห็นว่ามีการใช้เหล็กแหลมยาวมาแทงปาก เนื่องจากมีคนมาถวาย มาแก้บน ม้าทรงต้องปฏิบัติ ต้องยอมรับอาวุธต่างๆ ที่มีการนำมาถวายแก้บนจากชาวบ้านที่บนบานไว้ ซึ่งม้าทรงต้องถือศีลกินผัก มีสัจจะ เป็นคนดี มีศีลธรรม ถือว่าบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ”

    อาแป๊ะบุญธรรมให้ความรู้ว่า เมื่อพระจีนประทับทรง ใช้อาวุธของมีคมต่างๆ ตามร่างกายจะไม่เกิดการเจ็บปวด แต่ถ้า|ม้าทรงไม่บริสุทธิ์ ไม่อยู่ในศีล กินเจไม่ครบตามกำหนด เมื่อพระจีนมาเข้าทรงจะใช้อาวุธทำร้ายตามร่างกาย เลือดจะไหลออกมาก และพระจีนจะเข้าทรงในเวลาสั้นแล้วออกจากร่างของม้าทรงในเวลารวดเร็ว จึงต้องหามม้าทรงรายนั้นส่งโรงพยาบาลมาแล้วหลายราย

    ดังนั้น ก่อนการร่วมขบวนแห่ในเทศกาลถือศีลกินผัก ม้าทรงจะต้องเตรียมกายและใจให้พร้อมด้วยการถือศีลกินเจล่วงหน้า 1 เดือน ทำกายใจบริสุทธิ์ รักษาศีล เมื่อร่างกายและใจเตรียมพร้อมแล้วก็เข้าพิธีกรรมในศาล พระจีนจะเข้าประทับทรง อาการที่เกิดขึ้นกับร่างกายนั้น ทันทีที่ได้ยินเสียงกลองที่ประกอบพิธีกรรมตีดังขึ้นเรื่อยๆ ใจจะสั่น และมีลมออกจากร่างกาย ตามมาด้วยมองไม่เห็นอะไรเลย มืดไปหมด และไม่รู้สึกตัว ซึ่งพระจีนที่ประทับทรงจะมีพี่เลี้ยงพระที่สามารถสื่อสารภาษาจีนกันได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวกจนเสร็จสิ้นพิธีกรรม

    สำหรับผู้เป็นม้าทรง การเข้าสู่โลกแห่งความลี้ลับแห่งศรัทธาของแต่ละคนไม่ต่างกันนัก

    [​IMG]


    จิรายุทธ์ สงวนสินธ์ อายุ 57 ปี บอกว่า เทพที่เข้าทรง คือ เตียนฮู้หง่วนโส่ย หรือเจ้าอ๊าม มีอาวุธเป็นดาบคู่ เริ่มเข้าทรงตั้งแต่อายุประมาณ 22 ปี ในขณะนั้นเขาประสบอุบัติเหตุรถชนเกือบเสียชีวิต พ่อและแม่จึงพาไปที่ศาลเจ้า พระจีนบอกว่าชะตาขาด จะต่อชะตาให้โดยการประทับทรง นุ่งขาว ห่มขาว ถือศีลกินเจ

    สถาพร พรหมชัย อายุ 35 ปี ม้าทรงประจำศาลเจ้าท่าเรือ บอกว่า องค์เทพประทับร่างทรงชื่อ หลี่ฮู่อ๋องเอี๋ย หรือหัวหน้านักรบ การที่พระจีนมาประทับทรงนั้นเกิดจากในช่วงที่ตนอายุ 17 ปี เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงเกือบถึงแก่ชีวิต และนอนที่บ้านหน้าหิ้งพระจีน จากนั้นพระจีนทรงประทับร่าง ญาติต้องรีบพาไปที่ศาลเจ้าท่าเรือ มีล่ามพูดคุยสื่อสารกันด้วยภาษาจีน เมื่อพระจีนออกจากร่าง ญาติจึงบอกว่าพระจีนมาต่ออายุขัยของชีวิตให้ยืนยาวต่อไป แต่ต้องถือศีลกินเจ และร่วมในพิธีกรรมงานประเพณีถือศีลกินผักเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

    ด้าน พงศ์เทพ ทรงคุณ อายุ 38 ปี ม้าทรงศาลเจ้าบางเหนียว บอกว่า เทพที่เข้าทรง คือ ตันเส่งอ๋อง เจ้าเมืองฮกเกี้ยนที่ปราบกบฏจนชนะ มีดาบเป็นอาวุธ เทพองค์นี้จะช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ครั้งแรกที่เข้าทรงไปช่วยงานที่ศาลเจ้าแสงธรรม จากนั้นพระจีนหรือเทพประทับทรง และเป็นม้าทรงตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตดีขึ้นตามลำดับ

    ขณะที่ประสบการณ์ของ พงษ์ศักดิ์ ยวนเศษ อายุ 33 ปี กลับต่างออกไปบ้าง เขาเล่าว่าเทพเข้าทรง คือ หลี่ฮู้อ๋องเอี๋ย มีอาวุธคือทวนยาวและขวาน เครื่องแต่งกายสีแดง ข้างหลังมีธงปัก 5 สี เข้าทรงปีนี้เป็นปีที่ 5 เดิมทำงานที่กรุงเทพฯ และเทพหรือพระจีนที่ทางบ้านเคารพนับถือมาเข้าฝันให้กลับบ้านที่ภูเก็ต เมื่อกลับมาเริ่มเข้าทรงรับใช้องค์เทพ จะช่วยเหลือคนในด้านหน้าที่การงานให้สำเร็จ ตอนที่พระเข้าทรงจะไม่รู้สึกตัว มีพี่เลี้ยงเป็นน้องชายคอยดูแล เมื่อมาเป็นม้าทรงชีวิตดีขึ้น คิดทำสิ่งใดประสบความสำเร็จ


    “โดยส่วนตัวรู้สึกผูกพันกับองค์เทพที่เข้าทรงมาก และเมื่อถึงงานประเพณีถือศีลกินผักจะเหมือนเป็นการรวมของม้าทรง ทำให้เกิดความรัก สามัคคีในหมู่ม้าทรงด้วยกันมากขึ้น สร้างบุญร่วมกัน ขบวนแห่พระมีการแทงปาก ฟันหลัง เชือดลิ้น แสดงอภินิหาร เพื่อรับเคราะห์แทนประชาชนที่มาร่วมพิธีกรรม องค์พระจะรับเคราะห์แทน ไม่รู้สึกเจ็บปวด เมื่อพระจีนออกจากร่าง บาดแผลจะหายประมาณ 1-2 วัน”


    [​IMG]


    อนันต์ รัตนเลิศไพศาล อายุ 41 ปี ม้าทรง บอกว่า มีองค์เทพคือ อ๋องสุ่นไต่ไส่ มีอาวุธคือดาบ เครื่องแต่งกายสีเหลืองทอง มีธงปักข้างหลัง 5 อัน ใบหน้ายิ้ม อยู่ในท่านั่ง เป็นเสมือนทูตของจีน หรือเรียกว่า ไตไซเอีย โดยศาลเจ้าบางเหนียวมีสำนักงานของม้าทรง กำชับให้ม้าทรงที่มีจำนวนมากให้ม้าทรงทุกคนประพฤติตัวดี ไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้าน ไม่ติดยาเสพติด โดยส่วนตัวนับถือองค์เทพเต็มร้อย ก่อนถึงการจัดงานต้องบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ

    แม้จะมีการใช้อาวุธเหล็กแหลมทิ่มแทงตามร่างกาย แต่สำหรับพวกเขาบรรดาม้าทรงทั้งหลายกลับหาได้รู้สึกเจ็บปวด ทวีพร พฤกษารักษ์ อายุ 26 ปี ม้าทรงของพระลกฮูอ๋องเอี๋ย ซึ่งมีอาวุธเป็นขวานกับดาบ บอกว่า เมื่อพระจีนเข้าทรงจะไม่รู้สึกตัว มารู้สึกตัวอีกทีตอนที่พระจีนออกจากร่าง สำหรับเขาตั้งใจถวายร่างมอบให้องค์พระใช้เต็มที่

    ศรัทธาเป็นสิ่งที่ยึดมั่นเหนี่ยวนำจิตใจของผู้คน ดังเช่นที่ผ่านมาแล้วร่วม 2 ศตวรรษ และจะยังยึดมั่นต่อไปอีกนับนาน
    ตำนานพระจีน

    พระจีน สัญลักษณ์แทนเทพเจ้า เป็นที่เคารพเชื่อถือและศรัทธาของชาวภูเก็ต การเคารพพระจีนเหล่านี้จะมีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ศาลเจ้า ซึ่งผู้ที่มาตั้งรกรากในภูเก็ตรุ่นแรกนำประเพณีความเชื่อศรัทธาพระจีนมาจากเมืองจีนอีกทอดหนึ่ง
    พระจีนเชื่อกันมาว่า เป็นมนุษย์ที่มีบุญญาธิการ เช่นพระเจ้าแผ่นดิน ขุนศึกหรือขุนนาง ซึ่งในยามมีชีวิตประกอบแต่คุณงามความดี เมื่อตายไปได้รับการแต่งตั้งยศเป็นพระต่างๆ ให้คนเคารพ จึงมีวิธีการสร้างพระจีน ด้วยการแกะสลักและวิธีปั้น เพื่อเคารพบูชา คุ้มครองให้อยู่เย็นเป็นสุข มีความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน

    สำหรับพระจีนในตำนานถือศีลกินผักของชาวภูเก็ต ประกอบด้วย

    มาจ๋อโป๋ หรือ เถียนส่องเซ่งโบ้ หมายถึง เจ้าแม่ย่านาง หรือ เจ้าแม่ทับทิม เป็นเทพคุ้มครองทะเล ชาวเรือให้ความนับถือมาก มีอิริยาบถ ท่านั่ง สวมเครื่องแบบขุนนาง ใบหน้าสีชมพู มืถือจ๊าวป๋ายทั้ง2มือ

    พระสามหู้อ๋องเอี๋ย แต่งกายใส่เครื่องแบบสวมรองเท้าขุนนาง ใบหน้าสีแดง หนวดยาวสีดำ มือซ้ายวางเหนือเข่า มือขวาถือคทา ประจำตำแหน่งระดับอก นั่งบนเก้าอี้ เท้าทั้งสองวางบนหลังสิงโตเป็นของวิเศษคู่กายพระเฮี๋ยนเที้ยนส่งเต ไม่สวมรองเท้า ยืนเหยียบบนงูและเต่ามือขวาถือดาบเป็นอาวุธ มือซ้ายยกขึ้นระดับหน้าอกชูนิ้วชี้ขึ้น ใบหน้าสีแดง

    พระโกยเซ่งอ๋อง อยู่ในท่านั่ง ใส่เครื่องแบบสวมรองเท้าขุนนาง ใบหน้าสีแดง ดวงตากลมโต ดุดัน มีสิงโต เป็นสัตว์ประจำกาย

    พระทีฮู่หงวนโส่ย นั่งบนเก้าอี้ ไม่สวมรองเท้า ใบหน้าสีดำ ดวงตาโต หนวดเคราผมยาวมาก เท้าทั้งสองข้างเหยียบล้อไฟ มือขวากุมขวานเป็นอาวุธ มือซ้ายยกขึ้นระดับหน้าอกมีงูพันคอเป็นสัตว์ประจำกาย

    พระลี้โหล่เซี้ย ใส่เครื่องแบบสวมรองเท้าขุนนาง หน้าตาเกลี้ยงเกลา มือซ้ายถือห่วงทองคำ มือขวาถือหอกแหลม เท้าซ้ายเหยียบล้อไฟ อยู่ในท่ายืนเทพกวนอู หรือ เต้กุ้น อยู่ในท่านั่ง มือซ้ายถือหนังสือ ซุ้นซิ่ว คือ ตำราฤดูกาล ใบหน้าสีแดงดุดัน หนวดยาว รูปร่างสูงใหญ่
    อาวุธ คือ ง้าว

    เจ้าแม่กวนอิม ทรงชุดขาว ปางประทับยืนบนฐานรูปมังกร ประทานพร พระพักตร์เอิบอิ่ม แต้มจุดแดงที่พระนลาฏ มือขวาถือหม้อน้ำมนต์ มือซ้ายประทานพร

    พระเอี่ยวเจี้ยน ยืนยกเท้าขวา มือขวาถือหอกยาว ใบหน้าสีชมพูเข้ม เคร่งขรึม มี 3 ตา มีสุนัขเป็นสัตว์คู่กาย ที่ฐานรองมีลายมังกรประดับ

    ปุ่นเถ้าก๋ง เป็นเทพประจำท้องถิ่น จะไม่เหมือนกันในทุกศาลเจ้า เป็นรูปชายชรา ท่านั่ง ใบหน้าสีชมพูอ่อน หนวดเครายาว แต่งกายแบบขุนนางฝ่ายบุ๋น บ้างแต่งแบบฝ่ายบู๊ ชุดสวมใส่สีน้ำเงิน สีดำ มือขวาถือหยู่อี้ มือซ้ายถือก้อนทอง

    พระเตียวเทียนซือ นั่งบนหนังเสือใบหน้าสีดำดุดัน ดวงตาโต หนวดและคิ้วยาว ใส่เครื่องแบบสวมรองเท้าขุนนาง มือทั้งสองข้างถือโองการสวรรค์ ยกขึ้นหน้าอก มีเสือเป็นพาหนะ มีกระบี่เป็นอาวุธ มีระฆังสวดมนต์

    พระจอสู่ก๋ง นั่งขัดสมาธิ ใส่เครื่องแบบนักบวช ใบหน้าสีดำ ไม่มีหนวด มือทั้งสองประสานกันบนตักเห้งเจีย รูปร่างเป็นลิง ท่ายืน ยกมือซ้ายขึ้น มือขวาถือกระบอง

    พระเตี๋ยนฮู้หง่วนโส่ย เป็นเจ้าอ๊าม นั่งบนเก้าอี้ สวมเครื่องแบบรองเท้าขุนนาง ใบหน้าสีแดงยิ้มแย้มไม่มีหนวด ผมเปียผูกสองข้าง มือซ้ายวางบนตัก มือขวาจับเข็มขัดประจำตำแหน่ง มีสุนัขและไก่เป็นของวิเศษคู่กาย

    ***ข้อมูลจากหนังสือ วัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์เอกลักษณ์และภูมิปัญญาจังหวัดภูเก็ต




    ***"ม้าทรง" ความลี้ลับ...แห่งศรัทธา
     
  2. mahamate

    mahamate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    1,565
    ค่าพลัง:
    +1,807
    ความเชื่อ ประเพณี กุศโลบายให้เราทำดีครับ อนุโมทนาสาธุ ^^
     
  3. moowasin

    moowasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2005
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,695
    อนุโมทนามากๆครับ :cool: ผมเองก็กิน ตัวเองก้ได้เรื่องสุขภาพด้วย ดีๆๆ
     
  4. Kollanya

    Kollanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +443
    เห็นแล้ว..เจ็บ
     
  5. สนังกุมารพรหม

    สนังกุมารพรหม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    159
    ค่าพลัง:
    +992
    ตามแต่เห็นชอบของใครของเราครับ ไม่ขัด
     
  6. D_pat

    D_pat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 เมษายน 2010
    โพสต์:
    170
    ค่าพลัง:
    +499
    การเมตตาต่อสัตว์ เป้นเรื่องที่ดี ที่ควรทำค่ะ
     
  7. ธัมปฏิบัติ

    ธัมปฏิบัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +1,020
  8. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    184 ปีครับ ไม่ใช่ 185 ปี ปีหน้่า 185 ปี

    ใครสนใจหามเก่วกับผม PM มาได้นะครับ ไม่ต้องกลัวประทัด วิ่งเข้าไปหาเลย
     
  9. dangsticker

    dangsticker เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    304
    ค่าพลัง:
    +1,590
    มีลูกศิษย์เป็นม้าทรงครับ เขาอายุ 32 เคยถามเขา เขาบอกเรื่องจริงแน่นอน
    เทพจะไม่เข้าเฉพาะเวลามีงานกินเจครับ เขาบอกว่า มีช่วงนึงเขาทะเลาะกับพี่ชายรุนแรงมาก อยู่ๆก็มีเทพประจำตัวเข้าทรงและ นำหัวเขากระแทกกับพื้นและของแข็งต่างๆ พ่อรู้สึกตัวอีกที ก็เลือดสาดเต็มหน้าผากแล้วครับ ทั้งยังสั่งว่า พี่น้องต้องรักกัน ห้าทะเลาะกัน และเท่าที่ผมไปบุกถึงที่มาแล้ว สัมผัสมา มีทั้งที่จริงๆ เจอแบบ จากคนไทยพูดจีนไม่ได้ พอทรงพูดจีนเป้นไฟเลยครับ ส่วนที่ปลอมๆก็มีครับ
     
  10. Phuket

    Phuket เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    499
    ค่าพลัง:
    +877
    ทะเลาักันพี่น้อง เพราะพี่เป็นคนเริ่ม น้องก็ไม่ยอมสิครับ

    เทพลงโทษ เทพเจ้าพูดได้หลายภาษานะครับ แม้จะไม่ได้เรียน แค่เรากราบไว้พูดไทย อังกฤษ ก็สื่อ ช่วยเราได้ ภาษาจิต จิตเทพเจ้าจะสูงกว่ามนุษย์มาก เพราะบำเพ็ญเพียร บารมีมาเกิน 200 ปี แล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...