หมดแล้ว สร้างตึกสงฆ์อาพาธกับหลวงตามหาบัว รับวัตถุมงคลสายกรรมฐาน อัพเดท น.สุดท้าย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย จิตตานุปัสสนา, 25 สิงหาคม 2010.

  1. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -รอลุ้นยอดทุกๆวันครับ

    สาธุ
     
  2. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    ทำบุญกับองค์หลวงตาสุดยอดอยู่แล้วครับ...
    เอาเรื่องราวมาให้อ่านกันเพื่อความศรัทธาปสาทะครับ...


    เมื่อหลวงตามหาบัวโปรดพ่อในนรก


    เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์จริงของคุณนุ่นที่หลายคนอาจจะไม่เชื่อ
    แต่ลองอ่านให้จบท่านอาจได้ข้อคิด อะไรหลายอย่างจากเรื่องนี้
    เล่าที่มาของนุ่น
    บ้านของนุ่นอยู่ในกรุงเทพฯ ครอบครัวนุ่นจัดได้ว่าครอบครัวนุ่นมีฐานะครอบครัวหนึ่งเลยก็ว่าได้
    แม่และน้าของนุ่นเป็นพวกชอบเข้าวัดทำบุญมาก โดยเฉพาะวัดป่าบ้านตาด และสวนแสงธรรม
    ตั้งแต่มีโครงการณ์ช่วยชาติ ของหลวงตาบัว เข้าไปช่วยงานจนแทบจะเรียกว่าเป็นกิจกรรมหลักของชีวิตทีเดียว
    ส่วน ตัวพ่อและนุ่น แทบไม่เคยเข้าวัดเลย พ่อเป็นพวกติดเหล้า แต่ก็รักลูกมากจึงไม่ได้ไปกินเหล้านอกบ้าน
    แต่กินในบ้านเพื่อจะได้อยู่กับลูก และด้วยความ สุดขั้วมาเจอกันทำให้พ่อและแม่นุ่นมีปากเสียงกันเป็นประจำ
    โดยพ่อก็จะต่อว่าแม่และลามไปถึงหลวงตาบัวถึงขนาดเรียกหลวงตาบัวว่า อีตาบัว นุ่นเองนอกจากจะสนิทกับพ่อ
    มากกว่าแม่แล้วยังเห็นว่า แม่เอาแต่ทำบุญไม่สนใจพ่อและนุ่นเลย จึงเข้ากับพ่อเป็นปี่เป็นขลุ่ย
    ทุกข์สุดในชีวิต

    และด้วยการใช้ชีวิตอย่างที่กินเหล้า-สูบบุหรี่จัด ทำให้มะเร็งคร่าชีวิตพ่อไปก่อนเวลาอันควร
    นั่นเป็นเหตุให้นุ่นเป็นทุกข์ ทุกข์ที่สุดในชีวิตของนุ่น แม่พยายามหาเวลามาอยู่กับนุ่นมากขึ้น
    แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้มากด้วยความคิดถึงพ่อทุกวันนุ่นต้องตื่นมาใสบาตรพระหน้าบ้าน เพื่ออุทิศให้พ่อ

    จนมาวันหนึ่งแม่จึงเอ่ยปากชวน นุ่นไปทำบุญ ประทายข้าว ที่วัดป่าบ้านตาด กับหลวงตาบัว
    ด้วยความอคติที่พ่อพร่ำสอนนุ่น ทำให้นุ่นปฏิเสธในฉับพลันแม่จึงพยายามชี้แจงเหตุผลว่า
    ทำกับหลวงตาบัวได้บุญมาก พ่อเขาจะได้บุญมากไปด้วยหลังจากมีการทุ่มเถียงอยู่นาน แม่จึงใช้ไม้เด็ดว่า
    ถ้าทำกับหลวงตาแล้ว ถ้าพ่อไม่ได้รับบุญครั้งนี้ก็เลิกไปแม่ก็จะเลิกไปเหมือนกัน
    นุ่นจึงไปด้วยเพราะเหมือนรับคำท้า พอไปในงานนุ่นก็ไปช่วยในกลุ่ม กองเรือป้าป้อม
    และด้วยความที่มาเพราะคำท้าทำให้นุ่น หงุดหงิดกับการมาครั้งนี้ตลอดงาน
    พ่อมาหา
    หลังจากเสร็จงานก็กลับบ้านที่กรุงเทพฯ และคืนนั้นเองระหว่างที่นุ่นหลับอยู่ แม่ก็เข้ามาปลุกนุ่น
    ด้วยอาการตกใจอย่างมาก นุ่นตื่นเร็วพ่อมา และแม่ก็พาไปห้องแม่ซึ่งตอนนี้น้ามานอนด้วย เมื่อเข้า
    ไปน้าพูดขึ้นว่า นุ่นมาหาพ่อหน่อย นุ่นจึงตวาดกลับไป เล่นบ้าอะไร เอาพ่อมาเล่นบ้าอะไร
    พ่อในร่างน้าก็พยายามพูดให้นุ่นเชื่อว่าเป็นพ่อจริงๆ ไม่ใช่น้าจน มีการนำเรื่องที่มีเฉพาะนุ่นกับพ่อที่รู้กัน
    แค่สองคนมาถาม ซึ่งพ่อก็ตอบได้ นุ่นจึงลงใจวิ่งเข้าไปกอดพ่อในร่างของน้า หลังจากแสดงความรักและ
    คิดถึงกันอยู่นานพ่อจึงเล่าเรื่องหลังความตายของพ่อ ให้ฟัง

    เรื่องหลังความตาย
    พ่อเล่าว่า
    พ่อเป็นคนที่ชอบดื่มเหล้า จึงถูกนำลงไปนรกไปกรอกน้ำทองแดง ระหว่างที่พ่อเข้าแถว พ่อเหลือบ
    ไปเห็นพระรูปหนึ่งเข้ามาอยู่ในบริเวณนั้นแล้วก็มีเสียงเรียก นายอำนวย...ออกมา พ่อไม่กล้าออกนอกแถว
    เพราะจะมีคนคอยเอาหอกแหลมแทงทะลุคนที่แตกแถว มันน่ากลัวมาก พอถึงคิวพ่อถูกกรอกน้ำทองแดง
    ก็มีแรงมหาศาลฉุดพ่อออกจากแถว พร้อมพูดว่า

    นายอำนวย...ออกมาถ้าเราสั่งแล้วไม่มีใครกล้าทำอะไรหรอก
    จำเราได้รึเปล่า
    จำไม่ได้ครับ
    เราอีตาบัวไง
    อีตาบัวที่อ๊อดชอบไปทำบุญบ่อยๆนะหรอกหรือครับ
    เอ่อนั่นแหละ
    เท่านั้นพ่อเข่าอ่อนเลย หลวงตาท่านทราบแต่ท่านไม่โกรธแต่ท่านกลับมาช่วย
    ต่อรองเจ้ากรรมนายเวร
    หลวงตาพาพ่อไปหาคนที่มีหน้าที่ดูแลบัญชีบุญบาปของมนุษย์ แต่พ่อไม่ค่อยทำบุญบุญน้อย จึงไม่พอให้เจ้ากรรมนายเวร
    หลวงตาจึงให้เปิดบัญชีบุญของแม่ ซึ่งมีมากแต่ยังไม่พอ หลวงตาจึงว่า ให้ดูใหม่ มีบุญประทายข้าวด้วย
    เขาจึงเปิดอีกจึงพบและ หลวงตาให้เอาบุญนี้ให้เจ้ากรรมนายเวร ซึ่งทางโน้นก็พอใจจึงปล่อยตัวพ่อออกมาได้
    เรื่องของพ่อหลังพ้นจากนรก
    หลัง จากที่หลวงตาท่านช่วยพ่อของนุ่น วิญญาณเร่ร่อนของพ่อนุ่นจึงได้ไปอย่วัดป่าบ้านตาด ดังเช่นวิญญาณ
    อีกจำนวนมหาศาลที่หลวงตาบัวช่วยให้พ้นจากนรก เหตุที่มาวัดป่าบ้านตาดเพราะจะได้คอยอนุโมทนากับคนที่มาทำบุญที่วัด
    รวมไปถึงมีการพัฒนาคุณภาพวิญญาณ ให้มีมีบุญกุศลและความดีพอที่จะยกชั้นภูมิได้ หากวิญญาณไหนโชคดีมีญาติ
    มาปฏิบัติธรรมก็จะเปลี่ยนภพภูมิได้เร็ว พ่อนุ่นยังเล่าต่ออีกว่าผ้าบังสุกุล ที่แม่กับนุ่นทำไปทอดทิ้งไว้
    พ่อได้รับแล้ว เวลาร้อนก็อาศัยกันร้อนได้ เวลาหนาวก็อาศัยห่มได้

    นั่งสมาธิให้พ่อด้วย
    เนื่องจากภพภูมิที่พ่ออยู่ไม่เหมือนภพภูมิมนุษย์ เป็นภพที่ยังทุกข์อยู่มาก หากวันไหนนุ่นนั่งสมาธิแล้วอุทิศบุญให้พ่อ
    พ่อก็จะรู้สึกสบาย นุ่นจึงรับปากพ่อว่าจะนั่งสมาธิให้ทุกวัน ซึ่งหลังจากรับปากพ่อแล้ว นุ่นก็จะนั่งทุกวันซึ่งเป็นเวลาเดิมทุกวัน
    แต่มีอยู่วันหนึ่งนุ่นได้ไปช่วยงานหลวงตา เมื่อเลยเวลานั่งสมาธินุ่นก็รู้สึกถึงอาการคันและเจ็บยิบๆเหมือนใครเอาเข็มมาจิ้ม
    พอนึกขึ้นได้ว่าเลยเวลานั่งสมาธิแล้วจึงพูดออกไปว่า เสร็จงาน กลับบ้านแล้วจะไปนั่งสมาธิให้พ่อเท่านั้นแหละอาการก็หายไป
    หลังจากนั้นไม่นานพ่อก็มาแฝงน้าอีก นุ่นจึงถามพ่อว่าเรื่องที่คันยิบๆนั่นฝีมือพ่อรึเปล่า ซึ่งพ่อก็รับว่าใช่
    หลวงตาเลื่อนงานประทายข้าว
    มีอยู่ปีหนึ่งหลวงตาท่านเลื่อนงานประทายข้าวให้มาเร็วขึ้น ราว1อาทิตย์ โดยท่านให้เหตุผลว่า อาทิตย์ที่เลื่อนไปท่านจะ
    ไปทำธุระ นุ่นเองก้ได้ถามกับพ่อที่แฝงมาที่ร่างของน้า ถึงสาเหตุที่แท้จริง
    พ่อจึงตอบว่า ที่หลวงตาเลื่อนเพราะกำหนดการงานประทายข้าวเดิมตรงกับวันตัดสินของทางนรกหลวงตาจึงเลื่อนให้เร็ว
    ขึ้นเผื่อจะมีญาติของใคร ทำบุญให้คนที่ตกนรกหลวงตาจะได้ใช้บุญที่ญาติอุทิศไปให้ใช้ในการต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวร



    พ่อบุญพอแล้ว
    หลัง จากที่พ่อมาแฝงร่างน้าครั้งแรก นุ่นและแม่ได้เพียร ทำบุญกับหลวงตา รักษาศีล นั่งสมาธิ เพื่ออุทิศบุญให้พ่อ
    ซึ่งระหว่างนั้นพ่อก็เข้ามาแฝงน้าเป็นระยะๆ จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อมาบอกนุ่นว่า หลวงตาบอกพ่อมีบุญพอแล้วที่
    จะเปลี่ยนภพภูมิไปเมืองสวรรค์ให้ไปตัดอาลัยทั้งหมดให้ได้จะพาไปภพภูมิที่ดีกว่า
    ตอนนี้พ่อเหลือห่วงคือลูกคนเดียวแต่ยังไงก็จะมาลาลูก นุ่นได้ยินดังนั้นก็ร้องห่มร้องไห้ แล้วพูดว่า นุ่นไม่ยอม นุ่นไม่ยอม
    ให้พ่อไปไหน พ่ออยู่อย่างนี้นุ่นยังได้เจอเวลาพ่อมาแฝงน้า พ่อก็พูดทั้งน้ำตาว่า น้ำตาของลูกในโลกวิญญาณมันท่วมเป็นทะเลมหาสมุทรแล้ว
    แล้วพ่อก็เงียบไปนุ่นเล่าเรื่องนี้ให้แม่และน้าฟัง ทั้งสองจึงพยายามเกลี้ยกล่อมให้ นุ่น ทำใจเพื่อไม่ให้ขวางทางพ่อ ที่จะไปดี
    และพ่อก็มาอีก แต่คราวนี้นุ่น ทำใจได้แล้วและหลังจากนั้น พ่อก็ไม่เคยมาแฝงน้าอีกเลย
    เรื่องราวหลังจากนั้นและบทสรุป
    หลังจากนั้นนานมากแล้ว นุ่นก็ยังทำใจไม่ได้ ยังแอบร้องไห้คิดถึงพ่อเป็นประจำซึ่งมีวันหนึ่ง นุ่นไปกราบหลวงตาที่สวนแสงธรรม
    นุ่นนั่งอยู่ด้านล่างกุฏิหลวงตาขณะฟังเทศน์หลวงตา ด้วยความทุกข์ใจที่ยังตัดอาลัยไม่ขาดนุ่นจึงก้มหน้าและร้องไห้ออกมา
    แต่เป็นการร้องแบบเงียบๆไม่ได้รบกวนใคร ซักพักก็มีแม่ชีคนหนึ่งเดินเข้ามาลูบหลัง แล้วพูดขึ้นว่า พ่อหนูให้ฉันมาบอกว่า
    ตอนนี้พ่ออยู่สวรรค์แล้วสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง นุ่น ถึงกับสะดุ้ง เพราะที่ร้องไห้เป็น การก้มหน้าแล้วน้ำตาไหล
    ซึ่งถ้าไม่มีใครมานั่งจ้องหน้าจริงๆก็จะไม่เห็น อีกทั้งเป็นเวลาค่ำแล้ว และต่อให้เห็นก็ไม่มีใครรู้ได้หรอกว่า นุ่น
    ร้องไห้เรื่องอะไรแต่แม่ชีที่ไม่เคยเห็นหน้าคนนี้พูดตรงกับเรื่องของนุ่น ซึ่งมันไม่น่าจะใช่เรื่องบังเอิญ
    หลังจากคราวนั้นนุ่นก็ทำใจได้ และตั้งใจทำบุญเหมือนเดิม เพราะนุ่นเชื่อแล้วเชื่อในบุญในบาป
    เชื่อในหลวงตามหาบัว
    แล้ววันนี้ท่านเชื่อรึยัง..???

    “นรกมีจริง”

    หลังจากที่พระหลวงตาช่วยทุกคนได้หมดแล้ว ท่านให้ทุกคนเดินตามท่านมา เดินมาได้สักพักหนึ่ง แผ่นดินมันแยกออกยังกับในนิยาย พ่อนึกไม่ถึงว่ามันแยกออกได้อย่างไร หลวงตาหันมาบอกให้เราทั้งหมดเดินตามท่านขึ้นไป เดินขึ้นไปตามที่ท่านบอก พ่อเจอวัดป่าบ้านตาดนี่แหละ ที่นุ่นไปทำบุญกันนะ จึงรู้ว่าข้างล่างนี้คือนรกนี้เอง ใต้วัดมันเป็นนรกเป็นสถานที่ที่เขากำลังจะตัดสินโทษพ่อด้วยละ

    หนูขนลุกไปหมดเลยค่ะคุณลุง อูย!! น่ากลัวจังเลย พ่อยังตอบกลับหนูมาว่า “น่ากลัวจริง ๆ นะ ทำกรรมอะไรไว้นะ นรกมีจริงนะ”

    หนูถามพ่อไปว่า “บุญที่แม่ทำนะ แล้วบุญมันแบ่งกันได้ด้วยหรือ” เพราะนุ่นยังห่วงบุญของแม่ขึ้นมาทันที พ่อเล่าให่ฟังว่า มันไม่ได้เสมอไปหรอก ถ้าเราไม่ทำเองก็ไม่ได้ พ่อพึ่งรู้ว่าพ่อมีส่วนได้บุญด้วย ก็เพราะพ่อให้เงินแม่ไปทำบุญไง มันอาจไม่มากพอ แต่พระหลวงตาก็ต่อรองกับเจ้ากรรมนายเวรว่า เขาเป็นผัวเมียกันนะ มันทดแทนกันได้ แล้วบุญของแม่นี่เยอะเป็นขบวนรถไฟเลย เขาก็เลยยอมพระหลวงตา

    นุ่นเลยบอกว่า “อย่างงั้นลูกศิษย์หลวงตาก็มีบุญเยอะเป็นขบวนรถไฟกันหมดเลยสิพ่อ” พ่อยืนยันเสียงเข้มขึ้นมาทันที “ใช่ เต็มเลยนุ่น เพียบเลย พ่อต้องไปแล้วนะ เขาเรียกแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เดี๋ยวพ่อจะเล่าให้ฟังใหม่นะ”

    “แล้วพ่อจะไปอย่างไรค่ะพ่อ” นุ่นถามพ่อต่อทันทีที่พ่อพูดจบ พ่อบอกว่า “รถเขามารับแล้ว” พ่อบอกให้นุ่นฟังทีหลังด้วยว่าขับนาทีเดียวถึงวัดป่าบ้านตาดเลย ไม่ต้องใช้เวลามากขับกันห้าหกชั่วโมง วัดป่าบ้านตาดมีผีเยอะไปหมด ใครไม่มีที่ไปหลวงตาก็ให้อยู่วัดหมด หลวงตาอนุญาต แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครนะ แล้วทุกคนก็มีสีด้วยนะค่ะคุณลุง สีเทา สีดำ สีเหลือง พ่อนุ่นน่ะสีเหลืองนะลุง

    “รูปหลวงตาป้องกันพ่อ”

    ผีที่อยู่กันนั้นยังมีผีดีและผีเกเรด้วยเหมือนกัน ตอนที่พ่อเสียไปใหม่ ๆ ถูกผีอื่นรังแกเกเรพ่อด้วย โชคดีที่นุ่นเอารูปของหลวงตาใส่ในอกเสื้อนอกของพ่อไปด้วยช่วยป้องกันพ่อเอาไว้ได้ ผีที่เกเรพ่อพอเข้ามาใกล้พ่อถูกดีดไปจากพ่อหมดเลยลุง ทำร้ายพ่อไม่ได้ พ่อเล่าให้พวกเราฟัง พวกเราทุกคนที่อยู่ในห้องนี่ฟังด้วยสำนึกในบุญคุณของพระหลวงตา

    หลังจากนั้น นุ่นตัดสินใจบวชชีพราหมณ์ให้พ่อที่วัดอโศการาม ถือโอกาสนั้นทำงานถวายหลวงตาด้วยที่วัดนั้น เลยได้บุญสองต่อหนูบวช คือ ศีล 8 อยู่ 3 วัน

    เมื่อกลับมาถึงบ้าน พ่อก็มาบอกกับนุ่นโดยผ่านน้าหน่อยเช่นเดิมว่า พ่อได้บุญเต็มเลย แต่เทวดาน้าหน่อยถูกดุด้วยละนุ่น พ่อเล่าให้ฟังว่า ท่านพ่อลีที่มรณภาพไปแล้ว ท่านมาดุเทวดาน้าหน่อยว่า “เป็นเทวดาประสาอะไรให้ดูแลร่างมนุษย์ ไม่ใช่ปล่อยให้วิญญาณมาเข้าร่างคนอย่างนี้”

    เทวดาน้าหน่อยอธิบายให้ท่านพ่อลีฟังว่าสงสาร เห็นเขาเป็นพ่อลูกกัน และอยากให้ลูกเขาทำบุญให้พ่อ อยากให้เข้าวัด ท่านคิดว่าท่านน่าจะช่วยได้ ท่านเลยได้ช่วยไป

    ท่านพ่อลียังดุสัมทับอีกว่า “แต่อย่าให้บ่อยนะ ทำอย่างนี้ไม่ดีต่อเขา ถ้าเป็นวิญญาณอื่นมาแทรกอย่างนี้แย่นะ”

    หนูแปลกใจและระคนกับความดีใจที่ท่านพ่อลีเมตตาพ่อหนู ที่ยังอนุญาตให้พ่อหนูมาพูดคุยกับหนูได้ตั้งแต่นั้นมา พ่อก็มาหาหนูอยู่บ่อย แต่ไม่ทุกวัน นาน ๆ จะมาสักหนหนึ่ง มาขอบใจหนูที่หนูใส่บาตรไปให้ “ข้าวใส่บาตรพระหลวงตานี่ศักดิสิทธิ์นะลูก กินคำเดียวอิ่มทั้งวันเลย” พ่อเคยบอก

    ขณะนั้น หนูมีความเชื่อเรื่องพ่อมากขึ้นทุกที ว่าพ่อมาจริง ๆ น้าหน่อยกับแม่ไม่ได้หลอกหนูอย่างที่หนูคิดแต่แรก มันเป็นเรื่องที่หนูคุยกับพ่อในเรื่องที่เรารู้กันเพียงสองคน พ่อก็รู้อย่างถูกต้องไม่ว่าหนูจะคิดเรื่องอะไร พ่อก็รู้ได้ทุกเรื่อง ทุกครั้งที่หนูคุยกับพ่อจนเกิดความเคยชิน แม่จึงไม่ได้สนใจมากเหมือนแต่ก่อน พ่อจะมาหานุ่นตามเวลาและกลับตามเวลาทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอ

    พ่อจะเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้นุ่นฟังตลอดไม่ว่าจะเป็นเรื่องโดนไก่จิกไปทั้งตัว เพราะพ่อชอบฆ่าไก่ในสมัยก่อน แต่พระหลวงตาก็ได้ช่วยไว้

    พ่อยังขอร้องให้นุ่นสวดมนต์ยาว ๆ และนั่งสมาธิให้พ่อด้วย พ่อมีความสุขมากเวลาที่หนูนั่งสมาธิและสวดมนต์ พ่อว่าพ่อตัวเบา สบายตัวเมื่อได้ยินหนูสวดมนต์

    หนูพยายามหาหนังสือมาสวดมนต์ให้พ่อ เพื่อให้พ่อสบายเป็นกุศลให้พ่อถึงขนาดไปนั่งสัญญาต่อหน้าพระว่า หากหนูไม่สบายลุกไม่ไหว นอนสวดมนต์ให้พ่อก็ยังจะต้องทำ แม้กระทั่งทำสมาธิด้วย ที่ไหนสะดวกอย่างไรหนูก็จะทำเพื่ออุทิศบุญให้พ่อ

    “ประโยชน์ของผ้าบังสกุล”

    พ่อยังบอกกับหนูว่าที่วัดบ้านป่าตาดของหลวงตานะ พวกวิญญาณนะมายืนคอยรับบุญกันเต็มศาลาเลย แต่เข้าบริเวณศาลาไม่ได้เพราะหลวงตาอยู่ ยืนกันเต็มรอบศาลา ผ้าขาวที่นุ่นทำบุญให้พ่อ พ่อเอามากันแดดได้ ลูกหลานคนไหนไม่มีใครทำบุญมาให้ก็ยืนตากแดดร้อนกัน พ่อจึงได้ร่มของหนูที่แม่และนุ่นทำมาให้กันแดดกันร้อนได้ แม้กระทั่งเมื่อหน้าหนาวผ้าที่ให้มาห่มก็อุ่นสบาย บางคนก็นั่งทำสมาธิรับพรหลวงตา คนไหนนั่งไม่ดีก็นั่งอยู่ข้างหลัง ๆ ถ้าใครนั่งดีก็ได้อยู่หน้า ๆ ใกล้หลวงตา พ่อได้มานั่งสมาธิกับเขาด้วยตามที่หนูได้นั่งให้พ่อ หนูจะนั่งสมาธิให้พ่อทุกวัน อุทิศให้พ่อ เพราะหนูรักพ่อ เวลาหนูภาวนา บางครั้งยังบางภาวนาว่าหนูรักพ่อ จนพ่อต้องมาเตือนหนูว่าให้ภาวนาพุทโธ ไม่ใช่ภาวนาว่าหนูรักพ่อ

    พ่อยังไป ๆ มา ๆ ผ่านน้าหน่อยอยู่ตลอดมา มาบอกนุ่นอยู่เสมอว่า “พ่อได้บุญจากการที่หนูนั่งสมาธิให้พ่อ พ่อมีพลังจิตดีแล้ว แต่พ่อใช้ไม่เป็น แล้วก็หายตัวไม่เป็น”

    นุ่นยังหัวเราะไปกับพ่อเลย เป็นไปได้ยังไง พ่อหายตัวไม่เป็น ต่อมาวันหลังพ่อมาหา และอธิบายให้หนูฟังว่า พ่อไปกราบเรียนหลวงตาเรื่องการหายตัว ท่านเมตตาสอนมาว่า ให้กำหนดจิตว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน กำหนดจิตไปว่าจะไปไหน แล้วก็พิจารณา หลับตาพิจารณา พอลืมตามาอีกทีแล้วก็จะมาถึงที่หมายแล้ว พ่อไปไหนมาไหนก็กำหนดจิตเอา สะดวกดีหายตัวได้ทั้งไปและกลับ สะดวกดี

    พ่อยังบอกว่า เวลาที่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้น บรรดาดวงวิญญาณที่วัดเขาจะซุบซิบเวลาจะมีเรื่องอะไรกัน

    หลังจากนั้นอีก 2 -3 วัน หลวงตาบอกว่า “ใครที่ลงให้กับเราให้ขึ้นมา” หลวงตาคงจะทำอะไรสักอย่าง พ่อบอกหนูแค่นั้น หนูก็ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเพียงแต่รับฟังจากพ่อเท่านั้น บางครั้งการที่พ่อมาเล่าให้หนูฟังนะคะลุง หนูยังไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นไปได้เพราะหนูไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลย เพิ่งจะมาพบหลวงตาและเคารพนับถือท่าน หลังจากที่พ่อเสียไปแล้ว เช่น พ่อมาบอกว่า “ผีบ้านตาดนะลูกเขารวยกันทุกคน ก็ที่ญาติโยมเขาเอาทองไปถวายกับหลวงตา ทองพวกนั้นทุกคนได้รับผลบุญที่บริจาคกับท่าน สิ่งที่พวกเขาทำตกลงมาถึงบรรพบุรุษ ญาติพี่น้องทุกคน แต่พ่อไม่มี ทำให้หนูนึกขึ้นได้ทันทีที่พ่อเล่าให้หนู

    “สร้อยคอทองคำของพ่อ”

    พ่อมีสร้อยคอทองคำอยู่เส้นหนึ่งที่พ่อชอบมาก หลังจากที่พ่อเสียไปแล้วและหนูเก็บสร้อยของพ่อไว้ เพื่อระลึกถึงพ่อค่ะลุง เพราะพ่อทิ้งไว้ให้หนูอยู่อย่างเดียว หนูก็รักของหนู ตอนที่หลวงตาระดมทองช่วยเหลือประเทศ แม่จะเอาไปทำบุญกับหลวงตาแต่หนูไม่ให้ แม่พยายามอ้อนวอนอยู่ตลอดเวลาที่จะเอาไปถวายหลวงตาเพื่อพ่อจะได้บุญ หนูไม่ยอมยังต่อว่าแม่ของหนูไปว่า “อะไร ๆ ก็จะให้หลวงตาอีกแล้ว อะไรก็ให้หลวงตาหมด” ด้วยความโง่ของหนู หนูยังบอกแม่ว่า “หลวงตาเอาไป ก็เอาไปใส่นะสิ พ่อจะได้ที่ไหน” หนูก็คิดของหนูอย่างนี้ตลอดมา จนกระทั่งพ่อมาบอกเรื่องทองของวัดป่าบ้านตาด หนูจึงถามแม่ว่า “หากเอาทองไปถวายหลวงตาเพื่อช่วยชาติแล้วพ่อจะได้บุญจริง ๆ หรือ” แม่ยืนยันกับหนูว่าต้องได้สิ ทำบุญกับพระอรหันต์แล้วพ่อจะได้รับ หนูจึงบอกแม่ให้เอาแหวนทองของหนูที่ใส่อยู่ให้หลวงตาไปก่อน แล้วอธิษฐานว่า “หากพ่อได้รับผลบุญของหนูแล้ว ให้พ่อมาบอกหนูด้วย”

    คุณลุงค่ะ หนูไม่อยากจะลองดีกับหลวงตาอะไรเลย เพียงแต่ยังไม่แน่ใจ เพราะไม่เคยเห็นว่าผลบุญเป็นอย่างไร แต่ลุงค่ะ หนูได้เห็นจริง ๆ ค่ะ ขณะที่ให้แหวนของหนูกับแม่ไป หนูไม่เคยได้บอกน้าหน่อย รู้กันเฉพาะหนูกับแม่เท่านั้น อยากจะรู้ว่าพ่อจะได้รับจริงหรือไม่

    ต่อมาอีก 2 - 3 วัน พ่อมาหานุ่นอีกเช่นเคยในตอนเช้า พ่อมาหานุ่นผ่านน้าหน่อยเช่นเดิมว่า แหวนทองที่นุ่นถวายหลวงตาไปนั้นพ่อได้รับแล้ว หลวงตาเอามาให้โยนใส่มือพ่อ บอกพ่อว่า “ลูกเขาทำมาให้” พ่อใส่นิ้วเดียวกับที่นุ่นใส่ หนูเชื่อว่าพ่อได้รับแหวนที่หนูถวายหลวงตาไปจริง ๆ หนูไม่เคยพูดกับน้าหน่อยปิดเงียบ รู้กันระหว่างแม่กับหนู และหนูเชื่อว่าแม่ก็ไม่ได้บอกกับน้าหน่อย พ่อรู้ได้ไงว่าหนูใส่นิ้วอะไรอยู่ พ่อบอกหนูว่าใส่นิ้วเดียวกับที่หนูใส่นิ้วนาง เป็นไปได้ไง ลุงอย่าคิดว่าหนูเพ้อเจ้อนะค่ะ หนูได้พูดกับพ่อหนูจริง ๆ หนูรู้ของหนูว่าสิ่งที่หนูเล่าให้ลุงฟังนี้เป็นเรื่องเหลือเชื่อ หนูเองก็เคยไม่เชื่อ แต่เรื่องทั้งหมดที่หนูเล่ามานี้และเรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องจริงที่หนูได้สัมผัสเอง หนูอยากเล่าให้ลุงฟัง มันอัดอั้นอยู่ในใจหนูโดยตลอด หนูสบายใจขึ้น ขอให้หนูเล่าให้ลุงฟังเท่านั้นค่ะ

    ต่อมาหนูตัดสินใจมอบสร้อยคอที่พ่อชอบ ให้หลวงตาเพื่อเป็นทุนสำรองชาติตามที่หลวงตาพานำให้ทำบุญ หนูคิดว่าเป็นบุญใหญ่และอยากให้พ่อหนูได้รับบุญ ซึ่งเป็นสมบัติของพ่อเอง เมื่อถวายให้หลวงตาไปแล้ว ลุงคะ พ่อหนูมาบอกหนูว่า พ่อได้รับสร้อยคอของพ่อแล้วขอบใจหนูไม่รู้เลยค่ะคุณลุง พ่อใช้สร้อยคอเส้นนั้นมานานแล้ว ตอนนี้พ่อได้ใส่ของพ่ออีก พ่อขอบใจหนูมากเลยค่ะลุง พ่อยังยืนยันว่าทำบุญกับหลวงตาแล้วผลบุญจะส่งถึงญาติโยมทั้งหลายจริง ๆ อย่างที่พ่อได้รับ พ่อยืนยัน พ่อยังเล่าให้หนูฟังต่อไปอีกว่า ผีที่บ้านตาดเขาดีนะ เวลาที่พวกเขาเข้าไปทำบุญและไปนั่งที่ร่มใต้ต้นไม้ วันนั้นป้าที่ไปด้วยกันกับเรา เข้าไปนั่งในร่มใต้ต้นไม้ด้วย พ่อเห็นเขาจะไปนั่ง พ่อพยายามเรียกเขาอย่าเข้าไปนั่งเพราะพวกผีนั้นเขานั่งกันเต็ม พ่อเรียกเขาแต่เขาไม่ได้ยินพ่อ เพราะอยู่กันคนละภพ เขาก็ไปนั่งทับเอาวิญญาณที่นั่งกันอยู่ พวกนั้นกระโดดโลดเต้นกันใหญ่ เขาบอกว่าเขาดีใจที่มีคนมีบุญไปนั่งทับเขา เขาจะได้มีบุญด้วยเป็นไปได้ไงค่ะลุง สิ่งเหล่านี้หนูมองไม่เห็นและไม่เคยรู้เรื่องเช่นกัน พ่อเล่าให้ฟัง หนูก็ฟังเอาไว้แล้วมาเล่าให้ลุงฟังนี้แหละค่ะ

    ซึ่งเป็นเรื่องจริงค่ะ แม่เพิ่งเล่าให้หนูฟังหลังจากพ่อมาบอกหนู ไงค่ะ แถมยังโดนหลวงตาดุเอาอีกค่ะว่า “ถ้ามาหาเราให้ตรงมาเลย อย่าแวะที่ไหน” ท่านต้องช่วยไล่ผีที่เกเรที่พยายามแกล้งแม่กับน้าหน่อย ที่เกือบพบกับอุบัติเหตุรถคว่ำ เชื่อไหมคะลุง นุ่นเชื่อค่ะ เพราะแม่ไม่เคยโกหกหนูเลยค่ะ

    พ่อบอกว่าคนที่ทำบุญมาก ๆ จะมีแสงสว่างรอบตัวเลยทุกคนเป็นแสงของบุญที่ทำบุญทำทาน และที่สวนแสงธรรมนะหน้ากุฏิหลวงตา มีควายแดงด้วย ที่คอยคุ้มกันหลวงตาอยู่ตลอดเวลา ท่านต้องอนุญาตก่อนจึงเข้าได้ แปลกไหมค่ะลุง อันนี้หนูพิสูจน์ไม่ได้ค่ะ แต่หนูคิดว่าด้วยบารมีของพระหลวงตา หนูเชื่อแล้วค่ะลุง

    “โลกของวิญญาณ”

    เมื่อพ่อมีโอกาสพ่อจะเล่าให้หนูฟังถึงโลกของวิญญาณที่หนูไม่เคยได้ยินว่า ตามทางที่เราผ่านไป วิญญาณเต็มไปหมดเลย แต่ว่าคนทั่วไปไม่เห็น เป็นคนละมิติ โลกของเขาและโลกของเรา พ่อก็เป็นส่วนหนึ่งเหมือนกับเขา นุ่นจึงไม่ได้เห็นพ่อ วิญญาณจะล่องลอยไปเต็มถนน บางคนน่าสงสาร เขาไม่มีอะไรกิน หิวโหย แม้ว่าหลวงตาจะอุทิศให้สรรพสัตว์ทั้งหลายแล้วก็ตาม เขาได้ไม่เต็มที่ เพราะไม่ได้ทำเองขณะที่มีชีวิตอยู่ หรือไม่มีใคร ญาติ พี่น้อง ทำให้เขาโดยตรงเขาก็ได้รับไม่เต็มที่ได้เหมือนกับที่หนูกับแม่ทำให้พ่อกับพระหลวงตา ซึ่งถึงพ่อได้เต็มที่ เพราะท่านเป็นพระผู้บริสุทธิ์ เป็นพระอรหันต์ คนอื่น ๆ ก็ได้เหมือนกัน แต่ต้องมาดูกรรมของเขาด้วยว่า หนักเบาแค่ไหน ขณะที่มีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์และภพไหนเพราะกว่าจะเกิดมาได้เป็นมนุษย์ เกิดเป็นสัตว์อื่น ๆ กี่ภพกี่ชาติ เช่นเดียวกับที่หลวงตาเคยเทศน์ว่า “เมตตาสงสารสัตว์ทั้งหลายว่า เราอาจจะเกิดเป็นสัตว์อย่างเขาก็ได้”

    เขาอาจจะเกิดมาเป็นอย่างเราก็ได้ เป็นไปอย่างที่หลวงตาบอกเลยค่ะคุณลุง นุ่นกลัวจริง ๆ ค่ะ พ่อบอกว่าผีขี้เมาก็มีค่ะ พ่อยังเห็นมันเดินโซเซเหมือนคนเมา พ่อเรียกว่า “ผีขี้เมา”

    พ่อมาเล่าเรื่องต่าง ๆ ตามเวลาที่มาแฝงหน้า จนกระทั่งหนูเริ่มชินกับการไปมาของพ่อ จนกลายเป็นเรื่องธรรมดาของหนูไป พ่อจะมาเมื่อไหร่ก็มาเป็นความรู้สึกว่าพ่อกับหนูไม่ได้ห่างหายไปไหน แปลกไหมคะคุณลุง

    พ่อกับหนูติดต่อกันเรื่อยมา แม้กระทั่งบางครั้งพ่อจะมาในรูปแบบที่ต่างกันไป เป็นความรู้สึกเหมือนยุงกัดจี๊ด ๆ รบกวนนุ่นอยู่ตลอดเวลาในขณะที่ถือศีลอยู่ที่วัดอโศการาม ไปทำงานให้กับป้าป้อม ตอนนั้นมีหน้าที่เก็บเงินที่คนมาทำบุญ พับเป็นดอกไม้สวย ๆ แล้วปักไปที่ต้นเงิน ทั้งคนและเงินเยอะมากจนไม่กล้าไปไหน พระในโบสถ์ท่านเริ่มสวดมนต์ ทำวัตรเย็นแล้ว หนูขึ้นไปสวดมนต์ทำวัตรด้วยไม่ได้ เพราะรับผิดชอบเรื่องการเงินอยู่ อยู่ ๆ ก็เกิดเจ็บจี๊ด ๆ ขึ้นมาที่ตามตัว แขนเหมือนมีใครเอาเข็มมาจิ้มเรา คันมาก็เกา เดี๋ยวก็มีใครมาจิ้มเราอีกเป็นอย่างนี้ตลอดเวลา คิดว่าทำไมยุงมารุมกัดเราอยู่คนเดียว คันไปหมดเลยมองไปก็ไม่เห็นมียุงอะไรเลย มองหน้าแม่และน้าหน่อย น้าหน่อยบอกว่ามันไม่ธรรมดาแล้ว ลองอธิษฐานถึงพ่อดูนะ บอกพ่อนะว่านุ่นขึ้นไปสวดมนต์ไม่ได้ ต้องดูแลการเงินถวายหลวงตาอยู่นี่ หนูหันไปทางโบสถ์และยกมือไหว้อธิษฐานถึงพ่อขอหนูทำงานก่อน เดี๋ยวเกิดเงินทองหายไปจะทำให้เสียหาย เสร็จงานแล้วหนูจะสวดมนต์นั่งสมาธิให้พ่อนะ หากว่าพ่อมาทักหนูด้วยวิธีนี้หนูทำงานไม่ได้ หนูขอก่อนนะพ่อ

    อาการต่าง ๆ ของหนูหายเป็นปลิดทิ้งไม่มีอาการเจ็บจี๊ด ๆ อีกเลย พ่อคงรับทราบ พ่อมาทักหนูด้วยวิธีนี้ก็มีไม่อยากเชื่อเลย เป็นไปได้อย่างไร หนูได้มีโอกาสถามพ่อเมื่อหนูกลับบ้าน พ่อก็บอกว่า “ใช่ พ่อเอง” พ่ออยากให้ลูกขึ้นไปสวดมนต์ พยายามทำทุกอย่างเพื่อบอกนุ่น จนกระทั่งหนูอธิษฐานบอกพ่อ พ่อจึงหยุด

    หนูมีเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องอยากจะเล่าให้ลุงฟัง มันเกิดกับหนูจริง ๆ คือ วันที่พ่อเสียเราทุกคนไปที่โรงพยาบาลหมดและเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว หนูขึ้นไปร้องไห้ในห้องพระของแม่ หนูนั่งอยู่หน้าหิ้งพระคิดถึงพ่อ ว่าพ่อจากหนูไปเร็วเหลือเกิน หนูรักพ่อที่สุด หนูร้องไห้ต่อหน้าพระจนน้ำตาหนูแห้ง พ่อทิ้งหนูไปให้หนูอยู่คนเดียว หนูก็พร่ำบ่นกับพ่อด้วยความรักที่มีต่อพ่อ

    หนูมีความรู้สึกว่ามีน้ำหยดลงบนแขนของหนู เย็นเฉียบเลยค่ะ หนูตกใจเพราะความเย็นของหยดน้ำ หนูสะดุ้งสุดตัวเลยค่ะคุณลุง หันมองดูแขนของหนู ไม่ใช่น้ำตาหนูแน่นอน หนูหยุดร้องไห้ถึงพ่อแล้ว น้ำที่ไหนหยดลงบนแขนหนู มองขึ้นไปข้างบนหลังคาก็ไม่รั่ว หนูรีบลงจากห้องพระมาหาแม่ทันทีด้วยความตกใจ หนูรู้สึกจริง ๆ ค่ะ นุ่นไม่คิดว่าเป็นน้ำตาของนุ่น น้ำตาของนุ่นไม่เย็นอย่างนี้เย็นเหมือนน้ำแข็งเลยค่ะ

    วันที่พ่อมาหานุ่น นุ่นถามพ่อว่า “วันนั้นพ่อมาหานุ่นหรือเปล่า” พ่อตอบว่า “ใช่ พ่อมาหานุ่น พ่อก็ร้องไห้เช่นเดียวกับนุ่น พ่อตามนุ่นมาจากโรงพยาบาล เห็นนุ่นร้องไห้ พ่อก็ร้องไห้ด้วย” พ่อตกใจว่า ทำไมน้ำตาของพ่อจึงหยดบนแขนของหนูได้ จนทำให้หนูรู้ว่าพ่อมา อัศจรรย์ไหมค่ะลุงกับเรื่องที่เกิดขึ้นกับหนู

    “อธิษฐานถึงหลวงตา”

    อีกเรื่องหนึ่งค่ะ ที่หนูได้เห็นความอัศจรรย์ของหลวงตาที่หนูไม่เคยพบมาก่อนคะ หนูได้มีโอกาสไปกราบท่านที่ศาลากลางจังหวัดอุดร พอหลวงตาเทศน์เสร็จ ท่านกำลังจะกลับวัด ป้าป้อมจะถวายเช็คให้หลวงตาเป็นประจำและจะมาคอยหลวงตาทางจะขึ้นรถ หนูจึงขอเช็คจากป้าป้อมมาถวายหลวงตาบ้าง พอหนูได้เช็คจากป้าป้อมแล้ว ยกเช็คขึ้นมาอธิษฐานให้หลวงตาช่วยพ่อนุ่นด้วย หนูขอฝากพ่อให้กับหลวงตา หนูถวายเช็คให้ท่านแล้วท่านก็เฉย หนูอธิษฐานตลอดเวลาจนกระทั่งหนูกลับกรุงเทพฯ อธิษฐานหลาย ๆ รอบจนกระทั่งท่านกลับ ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย คิดว่าทำไมแม่จึงบอกว่าหลวงตารู้ทุกเรื่อง หลวงตาไม่สนใจอะไรเลย นี่หรือที่แม่มาทำบุญมาโดยตลอด ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลยค่ะ

    หนูเล่าให้แม่ฟังเรื่อย ๆ แม่ก็ตอบหนูว่า “อธิษฐานเรื่อย ๆ เถอะ แล้วหนูจะรู้เอง” หนูเถียงแม่อยู่ในใจว่าหนูอธิษฐานเป็นร้อย ๆ รอบแล้ว ไม่เห็นท่านสนใจอะไรเลย
    วันหนึ่งหนูมีโอกาสได้ถวายเช็คให้ท่านได้อธิษฐานขอให้หลวงตาช่วยพ่อหนู หนูร้องไห้ไปอธิษฐานไป จนกระทั่งหลวงตาผ่านมาหนูจึงได้ถวายเช็คให้ท่าน ในใจหนูยิ่งเพิ่มความเร็วในการอธิษฐานขึ้นไปอีก หนูอธิษฐานว่า “หลวงตาขา ช่วยพ่อด้วย” “หลวงตาขานุ่นฝากพ่อด้วย หลวงตาได้ยินหนูไหมคะ หนูฝากพ่อหนูด้วย ดูแลพ่อหนูด้วย” หลวงตารับเช็คเสร็จ หนูมองหน้าหลวงตา ทำนองอ้อนวอนว่าหลวงตาทราบไหมคะ ลุงหลวงคะหลวงตาพูดกับหนูว่า “เออ ๆ เรารู้แล้ว” หนูดีใจที่สุดที่หลวงตารับรู้ในสิ่งที่หนูขอ หนูรีบไปบอกแม่ให้รู้ แม่ก็ดีใจกับหนูด้วยแล้วบอกว่า “แม่บอกนุ่นแล้วว่าหลวงตารู้ แต่ท่านไม่พูดเท่านั้นเอง”

    หนูยังมีอีกเรื่องหนึ่งค่ะคุณลุง ในวันทำบุญประทายข้าวเปลือกที่เลื่อนขึ้นมาเร็วกว่าเดิมหนึ่งอาทิตย์นั้นพ่อเล่าให้หนูฟังว่าท่านต้องเลื่อนขึ้นเร็วกว่าเดิมนั้น ก็เพราะหลวงตาบอกกับลูกศิษย์ที่ขึ้นไปถามหลวงตาว่า เหตุใดหลวงตาจึงเลื่อนกำหนดให้เร็วขึ้นกว่าเดิม หลวงตาตอบว่า “เราจะไปทำธุระ” พ่อบอกว่าวันที่หลวงตาจะไปทำธุระ คือวันที่จะตัดสินในนรกของพ่อและลูกหลานของลูกศิษย์ของหลวงตา เพื่อให้บุญใหญ่ของวันประทายข้าวเปลือกไปช่วยพ่อและดวงวิญญาณอื่น ๆ นั้นเอง แม่เองก็เล่าให้หนูฟังในวันที่พ่อจะสิ้นใจว่าวันนั้นพ่อแสดงท่าทางออกอาการกลัวมาก แม่จึงได้ถามพ่อว่า “พ่อกลัวอะไรในวันนั้น” พ่อตอบแม่ว่า “วันนั้น พ่อเห็นยมทูตมา 4 คนยืนที่ปลายเตียง 2 คน ข้างเตียงข้างละคน ผมเห็นเขาจริง ๆ ผมกลัวมาก ตอนนั้นผมพูดไม่ได้แล้ว ยมทูตมีจริง ๆ” พ่อบอกแม่ เช้านั้นหนูเห็นแม่พยักหน้าไม่พูดอะไรอีก

    หลังจากที่แม่พาหนูไปงานประทายข้ายเปลือกและหนูได้ทราบจากพ่อเรื่องอภินิหารของบุญในงานประทายข้าวเปลือกแล้ว หนูไม่มีอะไรสงสัยในเรื่องผลของการทำบุญกับหลวงตา หนูไปทุกแห่งที่แม่อยากไปไม่ขวางแม่อีก เรียกว่าไปไหนไปกันด้วยความเต็มใจ เชื่อว่าบุญที่แม่และหนูทำให้พ่อ พ่อต้องได้รับอย่างเต็มที่ เพราะทำกับพระอรหันต์ หนูเชื่อของหนูเช่นเดียวกับแม่แล้ว

    “บุญของพ่อเต็มแล้ว”

    ในเช้าวันหนึ่งพ่อมาหานุ่นเช่นเคย พ่อพูดกับหนูว่า “หลวงตาบอกพ่อว่า พ่อได้บุญเต็มแล้ว หลวงตาจะส่งไปในภพภูมิที่ดี ตัดลูกตัดเมียให้ได้ อย่าให้มันมีห่วงกังวลจะได้ไปภพภูมิที่ดีกว่า” พ่อเล่าว่าพ่อตัดแม่ได้ แต่ตัดลูกยังไม่ได้ เพราะพ่อรักนุ่นมาก หลวงตาบอกกับพ่อว่า “มันผูกกันมานาน เรียงกันเป็นขนมชั้นเลย ไม่รู้ตั้งกี่ภพกี่ชาติหนาแน่นมาก แกะกันไม่ออก” พ่อบอกหนูว่าให้หยุดร้องไห้เพราะน้ำตาของหนูมากมายจนเป็นทะเลกว้างใหญ่ พ่อว่ายผ่านไปไม่ได้เพราะเป็นน้ำตาของความโศกเศร้า พ่อขอให้หนูหยุดร้องไห้คิดถึงพ่อเสียที เพื่อให้พ่อไปสู่ภพที่ดีกว่า หนูกลัวว่าหากพ่อไปแล้วหนูจะไม่ได้เจอพ่ออีกค่ะลุง หนูไม่ให้พ่อไป หนูกลัวไม่ได้พูดกับพ่ออีก หนูย้ำกับพ่อว่า “หากพ่อไปแล้ว พ่อมาหาอีกไม่ได้ใช่ไหมค่ะ” คุณลุงคะพ่อบอกกับหนูว่า “หากพ่อไปแล้ว พ่อคงมาหาหนูไม่ได้” ด้วยความรักที่หนูมีต่อพ่อ จึงบอกว่าถ้างั้นหนูไม่อยากให้พ่อไป ให้พ่ออยู่กับหนูอย่างนี้แหละ หนูจะได้มีความรู้สึกว่าหนูยังมีพ่ออยู่ หนูอยากให้พ่อหนูมาหาหนูทุกวันเช่นเคย

    พ่อบอกกับหนูว่า “หากพ่อไม่ได้ไปภพภูมิที่ดีกว่านี้ พ่อยังต้องเป็นอย่างนี้ อยากให้พ่อเป็นอย่างนี้ใช่ไหม” หนูไม่อยากจากพ่อไปอีก หนูอยากมีพ่อคุยกับหนู หากพ่อไม่อยู่แล้วหนูจะทำยังไงล่ะ พ่อบอกว่า “แล้วพ่อจะมาหาหนูเอง สักวันหนึ่งจะรู้ได้เอง” หนูไม่ยอมพยายามต่อรองกับพ่อ หนูมีความสุขที่ได้พูดคุยกับพ่อถึงแม้ว่าจะผ่านน้าหน่อยมาก็ตาม หนูยังรู้สึกว่าหนูมีพ่ออยู่ แต่อยู่คนละภพคนละภูมิ

    พ่อพยายามปลอบหนูให้หนูเข้าใจว่าพ่อยังรักหนูอยู่เสมอ แต่เป็นเรื่องที่หลวงตาจะพาพ่อไปภพภูมิที่ดี หนูเถียงกับพ่อจนพ่อเงียบไป น้าหน่อยก็เอาแต่หลับไม่รู้เรื่อง พ่อหายไปแล้ว

    หนูเล่าเรื่องนี้ให้แม่และน้าหน่อยฟังรวมกับป้าสมอีกคน คราวนี้ทั้ง 3 คน รวมกันยกเหตุผลออกมาให้หนูได้เข้าใจว่า หากพ่อได้ไปภพภูมิที่ดีกว่านี้ ก็หมายถึงได้ไปสวรรค์ นุ่นจะขออะไร อธิษฐานอะไรพ่อจะเสกให้ได้ ปิ๊ง ๆ เลย หนูไม่ได้เชื่อว่าพ่อจะเสกอะไรให้หนูได้อย่างนั้นหรอก แต่ด้วยความหวังว่าพ่อจะมาหาหนูได้ หนูจึงต้องรับปากไปว่าหนูยอมให้พ่อไปภพภูมิที่ดีกว่า เพราะหนูเคารพและเชื่อฟังหลวงตา

    พ่อมาเล่าให้หนูฟังภายหลังต่อมาว่า แม่กับน้ารวมทั้งป้าด้วยช่วยกันหลอกนุ่น ว่าพ่อจะเสกอะไรให้นุ่นได้ พ่อสำทับกับหนูว่าหนูต้องไม่ร้องไห้ ยอมให้พ่อไป พ่อจะได้หมดห่วง

    น้ากับแม่ให้หนูไปอธิษฐานต่อหน้าพระประธาน ว่าจะยอมให้พ่อไปและจะไม่ร้องไห้อีก ขอให้ทะเลน้ำตาเหือดแห้งไป เพื่อให้พ่อผ่านพ้นเพื่อไปภพภูมิที่ดีกว่าได้สำเร็จ อย่าให้น้ำทะเลของความโศกเศร้าเป็นสิ่งที่ขวางกั้นพ่ออีกเลย

    หลังจากนั้น หนูไม่พบกับพ่ออีกเลยค่ะลุง คำอธิษฐานของหนูให้พ่อไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่าได้แล้ว พ่อไม่ได้มาแฝงน้าหน่อยอีกเลย จากนั้น 3 เดือน หนูไปสวนแสงธรรมกับแม่และน้าเช่นเคย หนูนั่งสมาธิคิดถึงพ่อน้ำตาของหนูไหลออกมาเพราะความคิดถึง พ่อหายไปนานแล้ว แม้ว่าหนูจะสัญญาแล้วก็ตามยังอดคิดถึงพ่อไม่ได้ หนูตัดพ่อยังไม่ขาดเสียทีเดียว เป็นลุงลุงก็คงเหมือนหนูใช่ไหมค่ะ

    “พ่อฝากมาบอก”

    เมื่อหนูนั่งสมาธิถอนออกมาแล้ว นั่งอยู่ที่เดิมมีป้านักภาวนาคนหนึ่ง ขอไม่เอ่ยชื่อ นั่งภาวนาอยู่ไม่ไกลกันนักได้เข้ามาหาหนู แล้วบอกหนูว่า “นุ่นไม่ต้องร้องไห้นะ พ่อเขามาบอกว่าเขาสบายดีไม่ต้องห่วง อย่าร้องไห้” หนูตกใจหมดเลยค่ะ หนูก็นั่งส่วนหนู ป้านักภาวนาก็นั่งอยู่ห่าง ไกลกัน ไม่มีทางรู้หรอกว่าหนูร้องไห้เรื่องอะไร หนูถามป้าไปว่า “ป้ารู้ได้ไงค่ะว่าหนูร้องไห้คิดถึงพ่อ” ป้าตอบว่า “ป้าไม่รู้เหมือนกัน ขณะที่ป้านั่งภาวนาอยู่ป้าก็เห็นเขาลอยมาหา” ป้าถามเขาไปว่า “คุณมาได้ไง หลวงตากำลังเทศน์อยู่นะ” เขาขออนุญาตหลวงตาแล้ว หลวงตาอนุญาต จึงได้ เข้ามา ฝากบอกนุ่นด้วยว่าพ่อสบายดี ไม่ต้องเป็นห่วง ป้าเลยมาบอกนุ่น

    คุณลุงคะ สิ่งเหล่านี้เป็นปาฏิหารย์สำหรับนุ่น หนูไม่คิดว่าจะได้พบกับสิ่งเหล่านี้ พ่อมาบอกหนูได้ยังไง ป้าภาวนาคนนั้น ๆ รู้ได้ยังไงว่าหนูกำลังคิดอะไร หลวงตากำลังเทศน์อยู่หูหนูก็ฟัง แต่หนูนั่งคิดถึงพ่อในสมาธิ แปลกจริง ๆ ค่ะ หากไม่เกิดขึ้นกับหนูแล้วหนูก็ยากที่จะเชื่อ หากเป็นคนอื่นที่มาเล่าให้หนูฟัง เมื่อก่อนหนูคงไม่มีทางเชื่อ แต่หนูพบมากับตัวหนูเองยืนยันได้ หนูเชื่อค่ะ

    ความที่หนูคิดถึงพ่ออยู่ตลอดเวลาแม้ว่าจะไม่ได้พบกับพ่อทางน้าหน่อยมานานแล้วก็ตาม หนูยังคิดถึงพ่ออยู่เสมอ อาจจะเป็นอย่างที่หลวงตาบอกว่ามันผูกกันมานานผูกกันเป็นขนมชั้นก็เป็นได้ หนูยังคิดถึงอยู่เสมอ หนูกำลังดูซีดีเรื่องหลวงตาช่วยชาติอยู่กับน้าหน่อยในห้อง จู่ๆ ลมพัดจากไหนไม่รู้พัดเอาซีดีของหลวงปู่เจี๊ยะหล่นลงมาจากหลังตู้ที่วางไว้อย่างดิบดีไม่มีทางหล่นลงมาได้โดยลม ยกเว้นมีคนหยิบโยนลงมา แต่แผ่นซีดีนั้นหล่นมาตกลงตรงหน้าน้าหน่อยและหนู หนูกำลังคิดถึงพ่อและดูซีดีอยู่ด้วยกัน ตกใจหมดเลยค่ะ ต่างคนต่างไม่กล้าหยิบซีดีแผ่นนั้น หล่นมาตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น จนแม่ที่อยู่ในครัวทำกับข้าวเสร็จแล้วเดินออกมาหยิบขึ้นมาและเปิดให้นุ่นกับน้าหน่อยดูซีดีแผ่นนั้น เป็นเรื่องของหลวงปู่เจี๊ยะที่ไม่สบายนอนรักษาตัวอยู่ทีโรงพยาบาล หลวงตาไปเยี่ยมหลวงปู่เห็นท่านกำลังคุยกัน ไม่รู้ว่าพูดเรื่องอะไรเห็นแต่เพียงหลวงปู่มีสายยางอาหารเช่นเดียวกับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว เหมือน ๆ กันทุกประการ

    น้าหน่อยสะกิดหนูบอกว่า “เหมือนพ่อเราเลยนอนอยู่บนเตียงมี หลอดอาหารสายยางเต็มไปหมด หลวงปู่ยังหนีไม่พ้นนับภาษาอะไรกับพ่อเรา นี่เขาคงให้เราดูเพื่อเตือนสติ พ่อเป็นแค่คนธรรมดาเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นธรรมดาเหมือนพ่อเลย”

    การที่แผ่นซีดีของหลวงปู่เจี๊ยะหล่นมานี้ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ หากเป็นไปด้วยปาฏิหารย์ให้หนูต้องได้คิด หนูทำใจได้แล้วคะลุง ทุกคนมีเมตตากับหนูมากให้หนูได้คิด ทำให้หนูเห็นสัจธรรมของชีวิตไม่หมกหมุ่นกับสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

    หนูดีใจที่หนูมีโอกาสรับใช้หลวงตา ท่านสอนให้หนูได้เห็นสิ่งต่าง ๆ โดยบารมีของท่าน หนูเคารพและรักหลวงตาที่สุดในชีวิตเลยค่ะ วันเกิดของหนูคือ วันที่ 16 พฤษภาคม หนูจะมีพ่อมาอวยพรให้หนูทุกครั้งที่วันคล้ายวันเกิดของหนูเรื่อยมาทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีที่หนูขาดพ่อไปเพราะพ่อไปอยู่ภพภูมิที่ดีกว่า วันเกิดของหนู หนูจึงได้ทำบุญให้กับตัวเองซึ่งเป็นวันที่สำคัญ ใกล้เคียงกับวันหลวงตาคือ วันที่ 15 พฤษภาคม เป็นวันที่หลวงตาประหารกิเลสได้ หนูเลยทำบุญถวายให้หลวงตาและทำให้ตัวเองด้วย เพราะ วันที่ 16 เป็นวันเกิดของหนู คืนนั้นหนูเดินจงกรม นั่งสมาธิ ภาวนาอย่างเต็มที่ที่สุด ทำจนเจ็บปวดไปหมดแล้วจึงขอนอน หนูอยากให้พ่อมาอวยพรให้หนูเหมือนทุกปี แต่ไม่มีพ่อมาแต่หนูฝันดีที่สุดเลยค่ะคุณลุง หนูฝันว่าหลวงตามาอวยพรให้หนูในวันเกิดแทนพ่อ ท่านบอกว่า

    “เอ้า......รับพรนะ” ท่านก็ให้พรและหนูรับพรกับท่านเต็ม ๆ หนูขอกับท่านขอให้หนูได้เรียนให้จบ หนูก็ได้ตามที่หนูขอทุกประการ

    ยังมีคนอีกหลาย ๆ คนที่ไม่เข้าใจและไม่เชื่อในบุญบารมีของ หลวงตาคิดว่าเป็นพระป่าแก่ ๆ องค์หนึ่งที่เอาแต่ดุ พูดจาไม่เพราะฉันหมาก หนูได้แต่ภาวนาให้คนเหล่านั้นเลิกคิด บางคนก็ไม่เชื่อหนู หนูก็ไม่ใส่ใจ เพราะเพียรพยายามพูดกี่หนแล้วก็ตามก็ยังไม่เข้าใจ คิดว่าเป็นกรรมของสัตว์โลกอย่างที่หลวงตาว่านะลุง

    “คำท้า ก่อนหลวงตามา”

    มีอยู่วันหนึ่งหนูจำไม่ได้แล้วว่าวันไหน หลวงตาจะไปเทศน์ที่ ทุ่งศรีเมือง วันนั้นฝนตกทั้งวัน ปรอย ๆ อยู่ตลอดเวลาไม่มีท่าทางจะหยุดตก ขณะนั้นหนูกับป้าป้อมไปด้วยกันช่วยกันยกของจัดของจนเสร็จ มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งมาพูดกับหนูว่า “ฝนตกอย่างนี้หลวงตาไม่มาหรอก มาก็ทำอะไรไม่ได้ เทศน์ก็คงไม่ได้เทศน์ จะนั่งเทศน์ได้ไง” หนูฟังดูแล้วไม่สบายใจเลยค่ะลุง หนูจึงบอกเขาไปว่า “ไม่เป็นไร หนูจะทำต่อไป แต่หนูขอคุณอาไว้อย่างหนึ่งได้ไหมคะ ถ้าก่อนหลวงตาจะมา 5 นาทีและฝนหยุดตก หนูจะขอให้คุณอาทำบุญกับหลวงตาทำเท่าไหร่ก็ได้แล้วแต่ศรัทธา ถ้าฝนหยุดตกก่อนหลวงตามา 5 นาที” หนูกล้าท้ากับเขาค่ะคุณลุง หนูไม่ได้พูดเล่นกับเขา นะคะ หนูท้าเขาเลยค่ะท้าอย่างที่แม่เคยท้าตอนต้น ๆ ปรากฏว่าคุณอาตอบ ตกลงกับหนูค่ะ หากฝนหยุดตกก่อนที่หลวงตาจะมา 5 นาที เขาจะมาเอาต้นผ้าป่าจากหนูเลยค่ะ

    หลังจากที่ต่อปากต่อคำกับเขาแล้ว หนูก็ทำงานของหนูไป หนูลืมเรื่องที่ตกลงกับเขาไปเลยค่ะ เพราะมุ่งอยู่กับงานของป้าป้อม ปรากฏว่าฝนหยุดตกจริง ๆ ค่ะ 5 นาทีก่อนหลวงตาจะมาเป็นการเปิดทางให้กับหลวงตาที่จะมาเทศน์จริง ๆ หนูไม่ได้ใส่ใจกับการท้าทายของหนูกับคุณอาเลยค่ะ

    คุณอาเดินมาหาหยุดตรงที่หนูกับป้าป้อมกำลังสาละวนกันอยู่ เขามาจ้องหน้าหนู หนูมองหน้าเขาหนูได้แต่ยิ้มอย่างเดียว เขาถามหนูว่า “ต้นผ้าป่าต้นละเท่าไหร่” หนูบอกไปว่า “แล้วแต่ศรัทธาคะ” เขาเอาไปหนึ่งต้นบอกว่าจะไปรวบรวมกับเพื่อน ๆ ของเขาก่อน อัศจรรย์ไหมค่ะคุณลุง หนูเชื่อมั่นของหนูกับองค์หลวงตา และเกิดเป็นสิ่งที่เหลือเชื่อ เขาคงแปลกใจเช่นเดียวกับหนูเมื่อก่อน แน่ ๆ เลยค่ะคุณลุง

    “พ่อได้กินอาหารของอาจารย์นิด”

    อาจารย์นิดเป็นผู้ดูแลอาหารให้กับหลวงตาที่วัดป่าบ้านตาด เป็นคนเดียวกันกับพี่นิดของคุณลุงแน่นอนที่แนะนำวัดป่าบ้านตาดให้กับคุณลุง แน่ ๆ เลยค่ะ อาจารย์นิดจะมีหน้าที่ทำอาหารให้หลวงตา แม่จึงได้ร่วมทำบุญกับอาจารย์นิดฝากเงินใช้ให้ซื้ออาหารทำให้หลวงตาและพระที่วัดได้ฉันทุกวัน

    พ่อได้ส่วนบุญกุศลที่แม่ทำด้วย พ่อมาบอกหนูว่าพ่อได้กินอาหารของหลวงตาคำเดียวอิ่มไปทั้งวันเลยค่ะคุณลุง พ่อไม่รู้ว่าอาจารย์นิดชื่ออะไร หนูไปเล่าให้แม่ฟัง พ่อบอกให้ไปขอบคุณเขาด้วยอาจารย์นิดที่ทำอาหาร บอกเขาด้วยว่าอาหารอร๊อย........อร่อย

    แม่ไปเล่าให้อาจารย์นิดฟัง อาจารย์ฝากบอกพ่อว่าเพิ่งมีครั้งนี้ นี่แหละที่มีผู้ได้รับบุญมาชม อาจารย์นิดอยากให้คนมาส่งข่าวในงานที่อาจารย์นิดทำถวายหลวงตาเพิ่งเคยได้ยินครั้งนี้นี่เอง อาจารย์นิดดีใจมาก อาจารย์นิดเป็นนักภาวนาที่ดีมาก ๆ คนหนึ่งและได้ปรนนิบัติดูแลหลวงตามาหลายสิบปีแล้ว คุณลุงหลวงคงทราบดีใช่ไหมคะ

    เรื่องของหนูทั้งหมดที่เล่าให้ลุงฟังมานี้เป็นเรื่องที่ได้ประสบกับตัวหนูเอง แม่และน้าหน่อย หนูมีความสุขที่สุดที่ได้มีโอกาสถวายงานหลวงตา ทำให้หนูมุ่งมั่นอยู่ในกรอบของศีลธรรม สิ่งที่หนูเล่าให้ลุงฟังทั้งหมดนี้บางคนอาจไม่เชื่อในสิ่งที่หนูเล่า หนูขอกราบเรียนคุณลุงว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องจริง จะให้หนูพูดอีกร้อยหนหนูก็พูดเหมือนเดิม หนูดีใจที่มีโอกาสเล่าให้ลุงและคนอื่น ๆ ฟัง

    หนูจะเก็บความทรงจำ ความรักที่พ่อมีต่อหนูและหนูมีต่อพ่อไปตลอดนานเท่านาน แม้ว่าพ่อจะไปสู่ภพอื่นแล้วก็ตาม หนูยังเป็นลูกของพ่อหนูตลอดกาล และหนูขออยู่กับหลวงตาทุกชาติ ๆ หากหนูมีเรื่องที่ได้คุยกับพ่อหนูอีก หนูจะรีบมาเล่าให้ลุงฟังแน่ ๆ เลยค่ะ

    นุ่นเองค่ะ


    บันทึกท้ายเรื่อง “หลวงตาพาพ่อพ้นนรก”

    เรื่องของนุ่นเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว ด้วยความรักข้ามภพข้ามชาติผูกพันกันที่เรียกว่าแกะกันไม่ออก ยังมาติดต่อกับลูกด้วยความห่วงใย เล่าเรื่องโลกของวิญญาณเกี่ยวข้องกับหลวงตาและลูกสาว

    นุ่นอายุ 26 ปี เป็นลูกสาวคนเดียวของคุณอำนวย พิสุทธ์สินธุ์ และคุณอ๊อด (อมรรัตน์) มีหน้าที่การงานที่เลี้ยงครอบครัวได้อย่างดี นุ่นจบการศึกษาปริญญาตรี สาขารัฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง ปี 2550

    คุณอำนวยผู้เป็นบิดามีอาชีพเป็นทนายรับว่าความทั่วไป ส่วนคุณอ๊อดเป็นมารดาของนุ่นเป็นนักเขียน น้าหน่อยเป็นน้องของแม่ คุณย่าเป็นมารดาของคุณอำนวย

    ผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่อย่างปกติ ยกเว้น คุณอำนวย คนเดียวที่เสียชีวิต และเป็นผู้ที่ทำให้เรื่องนี้เกิดขึ้น

    ผมผ่านชีวิตพบกับสิ่งต่าง ๆ มามากมายก่ายกองเกือบเอาชีวิตไม่รอดหลายครั้งหลายหน ผ่านประสบการณ์เรื่องวิญญาณมาหลายปี แต่ยังไม่เท่ากับเรื่องของหนูนุ่น โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการอ่าน

    ทุกคนมีความเชื่อมั่นในคำสั่งสอนของหลวงตาอย่างมั่นคงกิจการใด ๆ ที่เขาทั้งหลายจะทำได้ เพื่อสนองงานของพระหลวงตาของเขา เขาทั้งหลายมีความเต็มตื้นในหัวใจที่จะทุ่มเทความสามารถ ความพยายาม เพื่อเผยแพร่กิจกรรมของท่านที่บริสุทธิ์เพื่อสงเคราะห์โลก ชี้ช่องทางของการเสียสละร่วมแรงร่วมใจในการทำบุญ เพื่อเป็นทุนสำรองบุญในภพนี้และภพหน้า

    บางครั้งผู้ที่ไปชักชวนผู้คนมาร่วมทำบุญ ต่างได้รับการต้อนรับที่ต่างกัน ทุกคนคิดอยู่เสมอว่าเป็นคราวเคราะห์กรรมของแต่ละคนที่ได้รับ ยังยิ้มแย้มแจ่มใสที่จะทำงานต่อไปโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

    หากท่านมีเรื่องที่สนใจและต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์สามารถให้ความกระจ่างแก่ท่านได้ทุกเวลา หรือติดต่อกับ คุณหลวงได้ที่ 02-9007418 หรือ www.khunluang.org ได้ทุกเวลา ยินดีตอบคำถามท่านเท่าที่สามารถให้ความกระจ่างแก่ท่านได้

    บุคคลทั้งหมดที่กล่าวถึงยังไปวัดป่าบ้านตาด และสวนแสงธรรมตลอดเวลาเพื่อเร่งความเพียรหาความสุขสงบของชีวิตที่เหลือ..........

    คุณหลวง

    :::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::::

    จบแล้วค่ะ เชิญร่วมอนุโมทนากันนะคะ

    อ้างอิง...ลานธรรม
     
  3. yordnakorn

    yordnakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +653
    โอนเงินเข้าทำบุญกับท่านหลวงตา

    โอนแล้วครับจำนวน 1000.99 บาท วันที่ 12/10/53 เวลา 07:11

    ที่อยู่ จะแจ้งทางข้อความส่วนตัวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2011
  4. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    พรุ่งนี้ส่งพระให้ครับ...
    แต่คงต้องเอาของท่าน mrdon ให้ซะแล้ว ไม่เห็นมาเสียที
    ต้องขออภัยด้วยนะครับ

    ปล. รายการหลวงปู่หลวง รบกวนพี่นะจักรวาลด้วยครับ....
     
  5. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    แจ้งเพื่อทราบว่าทุกรายการ เกิดจากความเสีัยสละ เพื่อให้เป็นมงคลที่ระลึกกับท่านที่ร่วมบุญ
    ไม่เกี่ยวข้องด้วยประการใดๆ จากทางวัดทั้งสิ้นครับ..
    ทำด้วยใจจริงๆ


    รายการที่ยังเหลืออยู่ รอผู้ใจบุญมารับไป...
    1. รายการจาก จิตตานุปัสสนา

    หน้าที่ 3
    รายการที่ 6 เหรียญบูรพาจารย์ จ.เลย (สภาพใช้) (หลวงปู่ศรีจันทร์ หลวงปู่ชอบ และหลวงปู่ึำคำดี)

    รายการที่ 7 เหรียญพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร สร้างปี พ.ศ. 2518 หลังยันต์ 5 สภาพใช้
    รายการที่ 10 หลวงปู่คำพอง ติสโส วัดถ้ำกกดู่ หนองวัวซอ อุดรธานี (ชุดนี้มี 2 เหรียญครับ) ท่านพอชูเดช จองครับ

    หน้า 4
    รายการที่ 15 หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร พระสมเด็จ 84 ปี คุณTon_PB จองครับ
    รายการที่ 17 หลวงปู่คำดี ปภาโส (เหรียญ 77 ปี) ปิดให้คุณ jewelry ครับสาธุ
    รายการที่ 18 หลวงปู่บุญมา ฐิตเปโม วัดสิริสาลวัน หนองบัวลำภู
    รายการที่ 21 หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต หนองคาย
    รายการที่ 24 หลวงปู่วรพรตวิธาน วัดจุมพล ขอนแก่น “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง”
    รายการที่ 25 หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส กทม. (ชุดนี้มี 2 องค์)
    รายกาีรที่ 27 เหรียญที่ระลึกงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม วัดบ้านจิก อุดรธานี

    หน้า 8
    รายการที่ 31 รูปเหมือนปั๊ม รุ่นแรก หลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนแกด 103 ปี เนื้อทองแดง "รุ่นมหามงคลวัฑฒโน (อายุยืน) รวยสมปรารถนา"
    รายการที่ 33 แร่เกาะล้าน

    หน้า 9
    รายการที่ 34 หลวงตามหาบัว อายุ 96 ปี 2552 คุณ mrdon จองแล้วครับ สาธุ
    รายการที่ 37 พระสีวลีมหาเถระ เนื้อผง ออกวัดป่าบ้านตาด คุณ mrdon จองแล้วครับ แต่ปิดให้คุณ yordnakorn แทนครับ
    รายการที่ 39 พระปิดตามหาลาภ หลวงพ่อคูณ สุเมโธ วัดป่าภูทอง อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี (มี 2 องค์)ท่านพอชูเดช จองครับ
    รายการที่ 42 พระฤาษีญิลี 7 ดาว ครูบาคำเป็ง ฐิตปัญโญ อาศรมสุขาวดีวราราม กำแพงเพชร เหลือ 2 องค์ ปิดให้คุณ yordnakorn 1 องค์
    รายการที่ 43 สติ๊กเกอร์ติดรถ หลวงพ่อประสิทธิ์ วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่ (เหลือ 3 แผ่น)



    หน้า 14

    รายการที่ 44 หลวงตามหาบัว หลังพระสีวลีมหาเถระ คุณ mrdon จองแล้วครับ สาธุ แต่ปิดให้คุณ yordnakorn แทนครับ



    2. รายการบุญจาก พี่นะจักรวาล

    หน้า 3
    องค์ที่สอง สมเด็จรุ่นพิเศษฝังตะกรุดสามกษัตริย์มีเกศา สร้างน้อยแค่หลักร้อยครับ หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโกอธิฐานจิต 900 บาท

    หน้า 7
    ผงรูป เหมือนหลวงปู่หลวง กตปุญโญ มีเกศาของท่านอยู่ 2 เส้น 350 บาท คุณ yordnakorn จองครับ
    รูปเหมือนจัมโบ้เนื้อว่าน หลวงปู่แว่น ธนปาโล สร้างน้อยครับกล่องเดิมๆเลย 400 บาท

    อนุโมทนาสาธุทุกท่านครับ...


    กรุณาอัพเดทจากข้อความล่าสุดนะครับ
    เพราะอาจตกหล่นในการลงข้อมูลผู้จอง
    ในหน้ากระัทู้ของพระแต่ละองค์
    สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2010
  6. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    ส่งพระให้คุณ yordnakorn แล้วครับ
    รหัส EH 720 727 658 TH

    :cool: ไม่เจ็บ ไม่จน สาธุ...
     
  7. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    สาธุครับ รวยๆๆๆ
     
  8. yordnakorn

    yordnakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2008
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +653
    ได้รับพระเรียบร้อย ขอบคุณมากครับ อนุโมทนาด้วยทุกประการครับ :cool::cool:
     
  9. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    สาธุครับ รวยๆๆๆ ไม่เจ็บ ไม่จน :cool:
     
  10. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    หลวงตาเมตตาตั้งงบ 500 ล้านบาท สร้างตึกร.พ.อุดรธานี
    (22ต.ค.53) ยอดบริจาค 411,272,215 บาท

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2010
  11. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิตทุกท่าน ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ

    สาธุ
     
  12. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    เมื่อเช้าพอดีได้มีโอกาสโทรไปสวนแสงธรรมและได้ทราบว่าจะมีงานมหากฐิน ในวันเสาร์ที่30 ตุลานี้ เลยได้ถือโอกาสมาบอกบุญเพื่อจะได้ร่วมบุญกันค่ะ ดูรายละเอียดตามเว็บนี้เลยค่ะ http://www.watpa.com
     
  13. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    ไม่ทราบว่าต้องเป็นเฉพาะงานสร้างตึกสงฆ์อาพาธเท่านั้นถึงจะได้รับพระหรือเปล่าคะ คือดิฉันได้โอนไป2บัญชีค่ะ คือทำบุญตึกสงฆ์อาพาธและงานมหากฐิน อย่างละ200 ไม่ทราบว่าจะได้หรือไม่ ถ้าได้รบกวนตอบกลับมาด้วยนะคะ และช่วยเลือกให้ด้วยจากรายการในหน้าที่4 เบอร์17หรือ18ก็ได้ค่ะ ตามเห็นสมควร แต่ถ้าไม่ได้ไม่เป็นไรค่ะ เพราะจุดประสงค์ใหญ่คือการทำบุญค่ะ และขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยค่ะ และขอให้ทุกท่านอนุโมทนากับดิฉันด้วย


    ปล.พรุ่งนี้ค่อยอัพใบสลิปนะคะ

    มาอัพสลิปเพิ่มค่ะ^^ และขออนุญาตลบชื่อกับเบอร์โทรออกนะคะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • slip.JPG
      slip.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      62
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2010
  14. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    ได้ครับได้...ยินดีอย่างยิ่งครับ อนุโมทนาครับสาธุ
    เอารายการที่ 17 ก็แล้วกันนะครับ องค์หลวงปู่คำดี
    องค์หลวงตาปรารภถึงองค์ท่านบ่อยๆ ครัับ สาธุ
    แต่อาจขอส่งวันอังคารนะครับ
    รบกวนขอที่อยู่ด้วยครับ
    ส่งทาง pm ก็ได้ครับ สาธุ

    :cool:
     
  15. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    ไม่ทราบคุณจะเชื่อหรือไม่นะคะ เพราะก่อนที่ดิฉันจะให้คุณช่วยเลือกให้ ดิฉันทำเครื่องหมายไว้ที่เลข17 คุณก็เลือกเลข17ให้ น่าแปลกจริงค่ะ
     
  16. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    จัดส่งวันนี้ครับ รออัพเดทรหัสอีกทีครับ..สาธุ
    รหัส ems EH 7207 2838 9 TH
    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2010
  17. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    ขอบคุณค่ะ:cool:
     
  18. พอชูเดช

    พอชูเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,285
    ค่าพลัง:
    +4,339
    -สาธุครับ

    -มหาโมทนากับกุศลจิตทุกๆท่าน ขอให้สำเร็จตามที่ปรารถนาครับ
     
  19. jewelry14

    jewelry14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    297
    ค่าพลัง:
    +224
    พระเพิ่งมาถึงวันนี้ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  20. จิตตานุปัสสนา

    จิตตานุปัสสนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,842
    ค่าพลัง:
    +16,082
    สดๆ ร้อนๆ จากงานกฐิน วัดป่าบ้านตาด 2553 ครับ..

    ทำบุญองค์ละ 300 บาทครับ..
    ด้านหน้าล๊อกเก็ตองค์หลวงตามหาบัว
    ด้านหลังยันต์นะโมวิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา ลายมือองค์หลวงปู่มั่น
    อยากได้องค์ไหน ก็แจ้งเลยครับ สาธุ...



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03764.JPG
      DSC03764.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.6 MB
      เปิดดู:
      132
    • DSC03765.JPG
      DSC03765.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      122

แชร์หน้านี้

Loading...