พระศรีอารย์ ไม่ใช่ใครที่ไหน แท้ที่จริงก็คือ พระเยซู ในการกลับมาอีกครั้ง นั่นเอง

ลองดูนี่นะครับ วันพิพากษาใกล้มาถึงแล้ว
พระเยซูจะกลับมาอีกครั้ง หรือก็คือ พระศรีอารย์ นั่นเอง


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=8HRvrvvT1K4]YouTube - นับถอยหลังวันสิ้นโลก ตอนที่1 สิบคำทำนายสะท้านโลก[/ame]

[VDO]http://www.youtube.com/watch?v=8HRvrvvT1K4[/VDO]

 

ไปโลดดด จิตคนละดวง บำเพ็ญมาคนละสาย เฮ้อ ไปฝึกจิตให้ดีให้รู้เห็นตามความจริงก่อนค่อยมาคุยกัน

 

ใครจะอยู่ใครจะไปอีกละ

 

พุทธัง สรณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ
สังฆัง สรณัง คัจฉามิ

 

ดูในคลิปเห็น มีเขียนหนึ่งเขียนว่า เราจะกลับมาพิพากษาโลกนี้
จะยังไงหรือเป็นใครก็ช่างเถอะครับแต่ถ้าจะกลับมาพร้อมนำความชิบหายมาสู่มวลมนุษยชาติ อย่าได้กลับมาอีกจะดีกว่าครับ

 

ไม่เห็นด้วยกับคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->blackangel<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3750904", true); </SCRIPT> นะครับ ไม่นับถือก็อย่าลบหลู่นะครับ
ความเชื่อใครก็เป็นสิทธิส่วนตัวครับ จะชิปหายหรือไม่ก็ถูกกำหนดมาแล้ว
มนุษย์เองที่เป็นต้นเหตุให้เกิดวันพิพากษาจะโทษใครไม่ได้หรอกครับ
ผมนับถือพุทธนะครับ แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่หรือดูถูกศาสนาอื่น
ทุกอย่าง เป็นไปตามแรงของผลกรรม ก็ทำดีสิครับ
ถ้าไม่อยากชิปหาย........................

 

เพียงแค่ไม่เชื่อก็เป็นคนเลวงั้นรึเนี่ย แย่จริงๆเรา แบบนี้ ก็หลือแต่พวก เชื่อๆแบบงมงายอ่ะสิง๊านน
ถ้าผมบรรลุญาณขั้นสูงสุด ผมก็รักษาโรคได้ ลอยได้อีก หายตัวได้เนรมิตได้ แบบนี้ผมก็เป็นพระเจ้าเลยสิงั้น

 

จากประโยค " พระองค์ทรงปลดปล่อยมนุษย์กินคน "

ปลดปล่อยจากความเป็นมนุษย์ให้กลายเป็นคนใช่ป่าว
มนุษย์กินคน โอยมึน ถ้าจะเป็นมนุษย์แล้วต้องกินคน ก็ขอเป็นคนอย่างนี้ดีกว่า เป็นคนดีของชาติและสังคม

 

เป็นความพยายามของวาติกันที่จะักลืนกินศาสนาพุทธ โดยอ้างว่าเยซูคือพระศีริอาริย์ หนึ่งในเรื่องโกหกที่ถูกสร้างจากมูลนิธิแห่งหนึ่งที่เป็นองค์กรบังหน้าของวาติกัน เรื่องโกหกที่พวกนี้พยายามสร้างขึ้นมีมากมายเช่น นั่งสมาธิแล้วเป็นบ้า ทำบุญมากๆอายุจะสั้น ล้วนเป็นผลงานของมูลนิธินี้ทั้งสิ้น เพราะการเผยแพร่ศาสนาของพวกนี้ไม่ได้ผล ก็เลยพยายามใช้เล่ห์กลปลอใแปลงตัวเองให้กลมกลืนเพื่อหาทางเจาะเข้าไปในสังคมนั้น ในไทยพวกนี้ก็พยายามเอาคำในศาสนาพุทธไปใช้ ไม่ว่าวัด สงฆ์ สังฆราช แต่ก็พยายามกดให้ต่ำ ให้เครือข่ายของพวกตนพยายามทำให้ศัพท์ในพระพุทธศาสนกลายเป็นสิ่งชั่วร้าย เช่นคำว่า อรหันต์ ก็ถูกสื่อมวลชนที่ถูกซื้อตัวเอาไปใช้ในเชิงที่ชั่วร้าย สารพัดกลอุบายชั่วที่พวกนี้พยายามสร้างขึ้น การดัดแปลงคำสอนในศาสนาของตัวเองก็ทำได้หน้าตาเฉย ในอินเดียก็อ้างว่าพระเจ้าคือศิวะเทพ ในไทยก็อ้างว่าพระศรีอาริย์ ในมาเลเซียก็อ้างว่าพระเจ้าคืออัลเลาะห์ ก็ถ้าบรรดาบาทหลวงทั้งหลายลำบากนักในคำสอนของศาสนาตัวเอง ไม่กล้ายืนหยัดในหลักคำสอน ไม่เชื่อในพระเจ้าของตัวเอง ถึงขนาดเปลีึ่ยนชื่อเรียกว่าพระเจ้าในศาสนาของตัวเองได้ตามใจชอบ ก็ถ้ายุ่งยากนักในจุดยืนของตัวเอง ก็เปลี่ยนศาสนาหรือยุบเลิกไปเลยคงจะง่ายกว่าเยอะ

 

ตอบได้"ใจ"อย่างแรงส์..<table align="center" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr align="center" valign="bottom"><td></td><td></td><td>:boo:</td> </tr> <tr align="center" valign="bottom"> <td>(k)</td><td>:'(</td><td>({)</td> </tr> <tr> <td class="smallfont" colspan="3">
</td></tr></tbody></table>

 

การพิพากษา

การพิพากษาโลกนั้น ใช้หลักอะไรมาวัดหรือตัดสินการทำดี-ชั่ว ทำดีแค่ไหน-ทำชั่วเท่าไรถึงจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก หากทำดีชั่ว50-50จะไปอยูที่ไหน?
*ทำดี51-ทำชั่ว49 จะขึ้นสวรรค์และอยู่ที่นั้นตลอดเลยหรือ
และตรงกันข้ามถ้าลงนรกก็จะอยู่ที่นั้นตลอดเลยหรือ
*หากทำดี 100 กับทำดี51 การเกิดในดินแดนสวรรค์จะเกิดมาต่างกันหรือหรือเท่าเทียมกัน หากต่างกัน คนที่เกิดต่ำกว่าก็คงจะต้อยต่ำอย่างนั้นไปตลอดกาลเลย และจะอยู่ที่นั้นชั่วนิรันดร์หรือไม่จะมันยุติธรรมแค่ไหน
***วันพิพากษามันยาวนานและเมื่อไรจะมาถึง หากคนที่ตายไปแล้ววันนี้ก็คงจะต้องรออีกนานแสนนานกว่าวันพิพากษาจะมาถึง แล้วเขาเหล่านั้นจะอยู่ที่ใดในตอนนี้ คงจะนั้งกันเซ็งในโลกของวิญญาณแน่ๆๆ
****หากเป็นคนปาปอยากจะมาเกิดเป็นมนุษย์อีกเพื่อจะกลับตัวเสียใหม่จะได้รึปล่าวแล้วเหล่าสรรพสัตว์อยากจะเกิดเป็นคนบ้างจะได้ใหม
*******การพิพากษานั้นยุติธรรมเพียงใดและยุติธรรมแท้จริงหรือไม่
หากเคยฆ่าบิดามารดาบาปมาทั้งชีวิต เพียงแค่การอาบน้ำชำระบาปแล้วกลับใจlสำนึกผิดแล้วหันมานับถือ...แล้วด้วยใจบริสุทธิ์ เพียงแค่นี้โทษทั้งหมดจะเป็นโมฆะใช่ใหม

*******มันยุติธรรม แล้วหรือ???*****

 

เห็นด้วยค่ะ :boo::boo::boo:

 

สัจจะธรรมแท้ มีเพียงหนึ่งเดียว

อยู่ที่ว่าใคร...จะเปิดใจ ให้เข้าถึงได้เท่าใด เท่านั้นเอง

 

แล้วแต่ศรัทธาความเชื่อของแต่บุคคล ที่ได้สร้างสมมา ไม่ขอวิจารณ์ว่าใครดี ใครถูกต้อง เราชาวพุทธไม่คิดแก่งแย่ง ไม่เบียดเบียน โดยเฉพาะเรื่องบีบบังคับศรัทธาของใคร เป็นเรื่องกฏแห่งกรรม ถ้าทำกรรมดีมามากกว่าก็มีโอกาสหลุดพ้นได้เหมือนกัน ขอแต่ว่าอย่ามาเบียดเบียน หรือทำลายศรัทธาของผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเป็นทุกข์เถอะนะคะ ขอร้อง คำว่า"ศรัทธา" ให้ความรู้สึกในด้านบวก แต่อย่าใช้ศรัทธามาปั่นป่วนสังคม และอย่าทะเลาะกันด้วยเรื่องของศรัทธาเลยค่ะ

ขอความสงบสุขจงอยู่คู่โลก ตราบนานเท่านาน
สงบ กับ สุข เป็นของคู่กันค่ะ หากไม่สงบแล้ว ก็คงหาความสุขมิได้...

 

เมื่อละทิ้งความคิดเพ้อเจ้อ ใจย่อมสุขสงบเองตามธรรมชาติ

"ใจสงบก็คือ ความรู้สึกเหมือนหินตกบนพื้นโลกอันกว้างใหญ่..."

สวรรค์และนรกต่างก็อยู่ที่ใจ ...อย่าดื้อรั้นถือตัวจนเกินไป!...

 

....พูดจาล้ำลึกดี น่าเลื่อมใส ขออนุโมทนาครับ....

 

ตกใจครับ.....เมสิยาห์ ไม่ใช่ศรีอริยะ ไม่รู้นะ ชาวคริสตมาบอกเองเลยนะเนี้ย อิอิ
น่าจะคนละองค์ ในยุคสุดท้าย ใน เวโรลูชั่นบอกเช่นนั้น

 

มั่วนิ่ม มั่วนิ่ม และมั่วนิ่ม

 

หากอยาก รู้ว่ืา พระเยซู ใช่ พระศรีอาริยเมตไตรหรือไม่ ก็เช็กว่า พระเยซู เคยสร้างบารมี 30 ทัศมาครบ 80 อสงไขย แสนมหากัลปหรือยัง แต่เท่าทีรับรู้มา พระเยซู มีประวัตแค่ ชาติเดียว เอง คงต้องสั่งสมบารมีอีกนานโข ทีเดียว
ตำแหน่ง พระพุทธเจ้า ใครๆ ก็ ปราถนา จะเป็นได้ แต่จะสำเร็จหรือไม่ต้อง ดูว่า ท่านนั้นๆ สามารถ สั่งสม บารมี 30 ทัศ จนเต็ม ได้หรือไม่
ขอยกตัวอย่างบารมี 30 ทัศ มาให้ดู สัก 10 ข้อ ดังนี้
1 ทานบารมี
2 ศิลบารมี
3 เนกขัมมะบารมี
4 ปัญญาบารมี
5 วิริยะบารมี
6 ขันติบารมี
7 สัจจะบารมี
8 อธิฐานบารมี
9 เมตตาบารมี
10 อุเบกขาบารมี

จากพระไตรปิฎกเล่มที่ 11 พระสุตตันตปิฎก เล่ม 3 ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค จักกวัตติสูตรซึ่งเป็นพระไตรปิฎกของพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าเมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้งโลก ..."

ช่วงเวลาที่มนุษย์ จะมีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี ต้องรอจน อายุมนุษย์ ขัยลง แล้วขัยขึ้น และก็ขัยลง จน อายุมนุษย์เฉลี่ยได้ ๘๐,๐๐๐ ปี คำนวนเป็น เวลา คร่าวๆ ก็ อีก 1 อสงไขย ปี ( 10 ยกกำลัง 140 หรือเขียนเลข 1 แล้วเขียนเลข 0 ตามไปอีก 140 ตัว ( 1000000000000..........เขียนเลข 0 ตามไปอีก 140 ตัว จะเป็นจำนวน1 อสงไขย ปี ))อาจจะคิดว่าอีกนาน แต่หากคิดเทียบกับ วัฏสงสาร ที่ยาวนานหาเบื้องต้น ท่ามกลาง และ เบื้องปลาย ไม่ได้ แล้ว ละก็ 1 อสงไขย ปี ก็ แป๊บ เดียว เอง

 

คนละดวงจิต