การปฏิบัติเป็นของสำคัญมาก (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 4 พฤศจิกายน 2010.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    [​IMG][​IMG]

    เรานับถือพระพุทธศาสนานั้นตามความเป็นจริงแล้ว จะต้องปฏิบัติตามมันจึงจะถูก
    อย่าฟังเฉยๆ ฟังแล้วไม่ปฏิบัติตามไม่ได้ประสบการณ์ไม่รู้เรื่อง

    ฟังไปๆ นานๆ หนักเข้าก็เลยเบื่อ บางคนฟังไปศึกษาไปก็เอาไปพูดไปคุยให้เขาฟังมีคนนับถือตน ก็เลยตื่นเต้นคิดว่าตนสำเร็จแล้วก็มี ความเป็นจริงแล้วนักปฏิบัติต้องเป็นผู้ทำมากกว่าการได้ยินได้ฟัง

    การปฏิบัติเป็นของสำคัญมาก ถึงแม้จะไม่ได้เรียนหากว่าปฏิบัติเป็นเสียแล้ว เข้าถึงธรรมะธรรมโมแล้วจะรู้แจ้งเห็นจริงด้วยตนเอง เมื่อครั้งพุทธกาลท่านไม่ใคร่ได้ศึกษาเล่าเรียนเท่าไรนัก เล่าเรียนบ้างเล็กๆ น้อยๆ เพียงบทกรรมฐานเท่านั้นเอง ท่านก็ยังได้สำเร็จมรรคผลนิพพานกันมากมาย

    คนทุกวันนี้เรียนมากเหลือเกิน คุยฟุ้งกันไปหมดทั้งบ้านทั้งเมือง ความเป็นจริงแล้วไม่รู้จักตัวเอง เราถือพุทธศาสนาเราต้องปฏิบัติมันจึงจะถูก เราทำ เราปฏิบัติ มากกว่าฟัง

    การปฏิบัติในที่นี้หมายความถึง
    ให้เข้าถึงจิตถึงใจ
    ถ้าไม่ถึงใจแล้วไม่ได้เรื่อง
    คือปฏิบัติธรรมต้องใจถึงก่อนทั้งนั้น
    ใจเป็นคนรู้คนเห็นก่อน
    ใจเป็นคนถึงธรรมก่อน

    เราพูดกันทั่วบ้านทั่วเมืองว่า
    อะไรก็จิตก็ใจทั้งนั้น
    คนที่ไม่เคยฝึกหัดปฏิบัติ
    เขาก็พูดถึงจิตถึงใจ
    โดยมากพูดกันอย่างนั้นแหละ
    แต่แท้ที่จริงใจเป็นตัวอย่างไรก็ไม่รู้
    จิตเป็นตัวอย่างไรก็ไม่รู้
    ก็จับหลักไม่ได้
    ฉะนั้นจึงจะต้องฝึกหัดให้เห็นจิตเห็นใจเสียก่อน

    : หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  2. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    [​IMG]
    หลานศิษบ์กราบนมัสการ หลวงปู่เจ้าค่ะ

    .
     
  3. โป๊ยเซียนสาว

    โป๊ยเซียนสาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,543
    ค่าพลัง:
    +2,279
    นั่งสมาธิ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย)

    <!-- Main -->

    <CENTER>(จากธรรมเทศนาเรื่องธรรมจักกัปปวัตตนสูตร)
    โดย
    พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี) *
    ณ วัดหินหมากเป้ง อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย
    วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๒๔
    </CENTER><CENTER> </CENTER>
    [​IMG]
    ท่านอาจารย์อบรมนำก่อน

    พวกเราหายากที่จะได้มาพร้อมเพรียงกันฟังธรรมเทศนาเช่นนี้ นี่นับว่าเป็นการดีแล้วที่มานี้ ไหนๆ ก็ได้ทำความดีแล้วจงทำดีต่อไป อุตสาหะ วิริยะ พากเพียร ให้มันถึงที่สุดตามความสามารถของเรา จงนั่งภาวนากันอีกต่อไป ใครจะภาวนาอย่างไรก็เอาเถอะ บริกรรมเบื้องต้นจะเอาสัมมาอรหัง หรืออานาปานสติ หรือจะยุบหนอ พองหนอก็ตามใจ คือว่า หัดเบื้องต้นให้มันชำนิชำนาญทางไหนก็เอา เมื่อจิตรวมเป็นสมาธิแล้วมันจะวางคำบริกรรมเองหรอก คำบริกรรมเป็นเครื่องล่อ เครื่องอ่อยให้จิตเข้ามาอยู่ในบริกรรมนั้นแหละ ถ้าหากไปยึดเอาคำบริกรรมนั้นถ่ายเดียวไม่รู้เรื่องของจิต จิตไปอยู่นั้นก็เลยเข้าใจว่าคำบริกรรมนั้นเป็นจิต ไปนึกแต่คำบริกรรมนั้นอยู่ไม่แล้วสักที จิตมันก็ไม่รวมลงเป็นสมาธิ บางคนเมื่อจิตรวมลงเป็นสมาธิแน่วแน่เต็มที่แล้ววางคำบริกรรมเสีย เข้าใจว่าจิตเสื่อมจากสมาธิ สมาธิถอนแล้ว ความจริงเมื่อจิตมันรวมแล้ว มันจะวางหมดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้แต่คำบริกรรมก็วางหมด อันนั้นมันเข้าถึงจิตแล้ว ให้กำหนดเอาจิตนั้นจึงจะถูก มันมีสองอย่างคือ

    อย่างหนึ่ง เมื่อจิตรวมอยู่ในคำบริกรรมก็เลยไปยึดเอาคำบริกรรมนั้น บางคนเจ็บหัว ปวดสมอง เพราะไปยึดเอาตรงนั้น บางทีเอาคำบริกรรมไปกำหนดที่หัวใจ หรือ ปลายจมูก เมื่อจิตรวมก็เจ็บหัวใจ หรือ ปลายจมูกก็มี

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อจิตรวมลงไปแล้ว มันทอดธุระปล่อยวางหมดทุกสิ่งทุกอย่าง มันว่าง มันสบาย ให้เอาความว่างนั้นเป็นเครื่องอยู่ ให้พิจารณาความว่างนั้นอยู่ตลอดเวลาอย่าไปอยากรู้ อยากเห็น อย่าไปอยากเห็นนี่อะไรต่างๆ เลยจิตถอนออกอีก ให้อยู่กับความว่างนั้นเสียก่อน อยู่นานๆ ไม่ใช่อยู่วันสองวัน อยู่ตั้งเป็นปี ๙ ปี ๑๐ ปี ก็ให้มันอยู่อย่างนั้นเสียก่อนพิจารณาความว่างนั้นให้เข้าถึงจิตเดิม

    เรื่อง จิต กับ ใจ มันคนละอย่างกัน จิตอันหนึ่ง ใจอันหนึ่ง แต่ท่านก็พูดว่าเหมือนกันนั่นแหละ จิตอันใดใจอันนั้น ใจอันใดจิตอันนั้น แต่ทำไมถึงเรียกจิต เรียกใจ ทำไมจึงไม่เรียกอันเดียวกัน มันคงมีแปลกต่างกันอยู่ จะอธิบายให้ฟังถึงความแตกต่างของจิต ของใจ

    ใจ เป็นผู้วางเฉยอยู่ที่เรียกว่า จิตฺตํ ปภสฺสรํ อาคนฺตุเกหิ กิเลเสหิ จิตเป็นของเลื่อมใสประภัสสรอยู่ตลอดเวลา ในที่นี้ท่านเรียกจิตไม่ได้เรียกว่าใจ บางคนว่า จิตเป็นประภัสสรเลื่อมใสอยู่ตลอดเวลา ทำไมจึงต้องชำระ มันยังไม่ทันผ่องใสเต็มที่ มันผ่องใสเพียงจิตเท่านั้น ไม่ใช่ปัญญา ปัญญามันอีกต่างหาก ทำใจให้ผ่องใสต้องใช้ปัญญานะซี เหมือนกับเพชรนิลจินดาที่เขาเอามาแต่ดินเป็นของใสจริงๆ แต่มันมีเศร้าหมอง ต่อเมื่อไปเจียระไนเสียให้ละเอียดลงไปมันจึงค่อยผ่องใสเต็มที่ ฉันใด ใจก็อย่างนั้นเหมือนกัน ใจผ่องใสสะอาดอยู่ตลอดเวลา อาคันตุกะกิเลส คือจิตที่ไม่ได้รับการอบรมนั่นเอง ไปเกาะเกี่ยวพัวพันเอาอารมณ์ทั้งปวงหมดเข้ามาทำให้ใจมัวหมอง เหตุนั้นจึงว่า ใจคือของกลาง อย่างที่เราเรียกว่า ใจมือ ใจเท้า ใจไม้อะไรทั้งหมดถ้าเรียกใจแล้วต้องชี้เข้าใจกลางทั้งนั้น แม้แต่คน หัวใจอยู่ตรงไหนล่ะต้องชี้เข้ามาท่ามกลางอก คือแสดงถึงเรื่องของกลางนั่นเองที่เรียกว่าใจ ใจไม่ใช่อยู่ที่หัวใจแห่งเดียวอยู่ทั่วไปหมดทั้งร่างกาย ตั้งแต่ปลายผมถึงปลายเท้า มันอยู่ทั่วหมด ใจตัวกลางนี้ ไม่เป็นบุญ ไม่เป็นบาป เป็นของเฉยๆ ไม่มีอดีต อนาคต อยู่ปัจจุบัน ถ้าหากอยากจะรู้ตัวใจจริงๆ เรากลั้นลมหายใจลองดูก็รู้ เดี๋ยวนี้ก็ได้ กลั้นลมสักพักหนึ่งเท่านั้นแหละ ในขณะนั้นไม่มีอะไร มันเฉย เพียงแต่รู้ว่าเฉย แต่ไม่คิด ไม่นึก ไม่ปรุง ไม่แต่ง

    เอ้า ภาวนากันต่อไป

    * พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์

    เอกสารอ้างอิง : พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (เทสก์ เทสรังสี). ธรรมเทศนา (ในพรรษา และ หลังพรรษา) ๒๕๒๔ : กรุงเทพมหานคร : กรุงสยามการพิมพ์, 2525. <!-- End main-->
    .
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260

    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา </O:p>
    *
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤศจิกายน 2010
  5. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,035
    ขออนุโมทนาบุญกุศลด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  6. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    ขออนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับท่านทั้งหลายที่ได้ร่วมทำบุญ
    และสร้างกุศลทุกอย่างในกาลนี้ด้วยครับ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
  7. วิศวกรม

    วิศวกรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +537
    ธรรมชั้นสูงครับ ผมยังไม่ถึง
     

แชร์หน้านี้

Loading...