เจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุอรหันต์ในขณะที่พระองค์ไม่ได้เป็นพระ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Amantrai, 14 พฤศจิกายน 2010.

  1. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    พระสงฆ์เป็นสาวกในพุทธศาสนา ดังนั้นจะมีสาวกก่อนศาสดาไม่ได้ ศาสดาคือ องค์ศากยมุณี

    ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายสิทธัตถะจึงตรัสรู้บรรลุอรหันต์ในขณะที่ไม่ได้เป็นพระสงฆ์

    :cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 พฤศจิกายน 2010
  2. วรรณนรี05

    วรรณนรี05 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    313
    ค่าพลัง:
    +903
    พระศาสดา คือ พระพุทธเจ้า เรียกว่าพุทธะ ส่วนสงฆ์สาวกเรียก ว่าพุทธ สาวก

    พุทธะ ตรัสรู้ ได้โดยพระองค์เอง ส่วนสาวก คือผู้ตรัสรู้ตามพระองค์ และ พระสงฆ์องค์แรก
    คือ พระอัณญาโกณทัญญะ หัวหน้าปัญจวคีย์ สงฆ์ องค์ แรก เกิดขึ้นที่ ป่าอิสิปตมฤคทายวันชานกรุงพาราณสี พระรัตนตรัย เกิดขึ้นที่นี่ คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทำให้ศาสนา ของพระศาสดา สมบูรณ์ ส่วนพระศาสดาตรัสรู้ที่ ณ พุทธคยา
     
  3. APEX

    APEX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +312
    จุ๊ๆๆ....
    คงไม่กล้าอาจเอื้อมครับ ไม่กล้าวิเคราะห์พระพุทธเจ้า
    ไม่กล้าทำ........
    แต่เทวดาบางท่านถือศีล 227 ก็มีนี่ครับ มีกายทิพย์แบบเทวดา
    กิเลสยังมากอยู่ ขอสังเกตุการณ์ก็พอครับ
     
  4. ?????

    ????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +239
    ก็แล้วแต่จะนิยามคำส่าพระเอานะครับ สำหรับผม พระ มีความหมายว่าผู้ประเสริฐ เพราะฉะนั้นตอนพระพุทธองค์บรรลุท่านก็ยังเป็นพระ ถ้าบอกว่าพระเป็นสาวกในพระพุทธศาสนา แล้วพระเยซูหล่ะครับ ดังนั้นคำว่าพระจึงไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากจะนำมาเปิดประเด็นเพื่อให้เกิดความฮือฮาแล้ว ต้องระวังเพราะจะทำให้หลายๆคนที่เพิ่งเริ่มศึกษาจะหลงตีความไปต่างๆนา(ตามความคิดของปุถุชนทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้) ซึ่งบางครั้งอาจมีผลเสียทั้งกับท่านและตัวผู้อื่น ผมชอบเว็บนี้แบบในสมัยก่อนๆ ที่ผมเข้ามาจะเห็นเน้นการปฏิบัติ พูดคุยกันถึงแก่นตามแนวทางศาสนา ผมว่าคึกครื้นดีครับ ส่วนสมัยนี้ก็คึกครื้นไปอีกแบบตามยุคสมัยที่เปลี่ยนไปก็ดีไปอีกแบบครับ

    ขออโหสิกรรมต่อท่านทั้งหลาย ณ ที่นี้ด้วยนะครับผม หากกระผมล่วงเกินท่านผู้ใดในการแสดงความเห็นครั้งนี้
     
  5. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    วิธีอุปสมบท
    มีทั้งหมด ๘ อย่าง แต่เฉพาะที่ใช้เป็นหลักมี ๓ อย่าง คือ
    • เอหิภิกขุอุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยพระวาจาว่า “จงเป็นภิกษุมาเถิด” เป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้เอง
    • ติสรณคมนูปสัมปทา หรือสรณคมนูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยถึง ไตรสรณะ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตให้พระสาวก ทำในยุคต้นพุทธกาล เมื่อคณะสงฆ์ยังไม่ใหญ่นัก เมื่อทรงอนุญาต วิธีที่ ๓ แล้ว วิธีที่ ๒ นี้ก็เปลี่ยนใช้สำหรับบรรพชาสามเณร
    • ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา การอุปสมบทด้วย ญัตติจตุถกรรม เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตให้สงฆ์ทำ ในเมื่อคณะสงฆ์เป็นหมู่ใหญ่ขึ้นแล้ว และเป็นวิธีที่ใช้สืบมาจนทุกวันนี้
    <DL><DD>วิธีอุปสมบทอีก ๕ อย่างที่เหลือเป็นวิธีที่ทรงประทานเป็นการพิเศษจำเพาะบุคคลบ้าง ขาดตอนหมดไปแล้วบ้าง ได้แก่ (จัดเรียงลำดับใหม่ เอาข้อ ๓. เป็น ข้อ ๘. ท้ายสุด) </DD></DL>
    • โอวาทปฏิคคหณูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยการรับโอวาท เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่ พระมกากัสสปะ
    • ปัญหาพยากรณูปสัมปทา การอุปสมบทด้วยการตอบปัญหาของพระพุทธองค์ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่ โสปากสามเณร
    • ครุธรรมปฏิคคหณูปสัมปทา (หรือ อัฏฐครุธรรม ปฏิคคหณูปสัมปทา) การอุปสมบทด้วยการรับ ครุธรรม ๘ ประการ เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่ พระนางมหาปชาบดีโคตมี
    • ทูเตนะ อุปสัมปทา การอุปสมบทด้วยทูต เป็นวิธีที่ทรงอนุญาตแก่ นางคณิกา(หญิงโสเภณี) ชื่ออัฑฒกาสี
    • อัฏฐวาจิกาอุปสัมปทา การอุปสมบทมีวาจา ๘ คือ ทำด้วยญัตติจุตตถกรรม ๒ ครั้งจากสงฆ์ทั้งสองฝ่ายคือจาก ภิกษุณี สงฆ์ครั้งหนึ่ง จากภิกษุสงฆ์ครั้งหนึ่ง ได้แก่การอุปสมบทของภิกษุณี
    • ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา (ข้อ ๓. เดิม)
    ข้อ 1 เอหิภิกขุอุปสัมปทา ถึงพรหมจรรย์ด้วยตนเอง ตรงกับ ตถาคตา หมายถึงเป็นเอง
    ข้อ 2 ติสรณคมนูปสัมปทา ถึงพร้อมด้วยพระธรรมคือเข้าถึงสภาวะธรรมต่างๆได้ด้วยกฏไตรลักษณ์ ถึงพร้อมด้วยพระสงฆ์ก็ทรงจะแสดงธรรมในสิ่งที่ทรงถึงเองนั้น อนุเคราห์แก่ผู้ที่จะปฏิบัติตามด้วยดี
    ข้อ 3 ญัตติจตุตถกัมมอุปสัมปทา พระสงฆ์เชื่อฟังคําสั่งสอนนั้นและเห็นพร้อมตามว่าพระองค์รู้จริง

    จะให้คํานิยามได้ถูกต้องหรือไม่นั้นก็มีปัญญาพิจรณาแค่นี้หล่ะครับ ก็คงต้องให้เจ้าของกระทู้เปิดบาลีหาความหมายของคําว่า ตถาคโต ถ้ารู้ก็บอกทีว่ามันหมายถึงอะไร

    ฉะนั้น จขกท จะอ้างว่า เจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุอรหันต์ในขณะที่พระองค์ไม่ได้เป็นพระ หรือ
    เจ้าชายสิทธัตถะ บรรลุอรหันต์ในขณะที่พระองค์เป็นพระ ก็คงจะอัตตวิสัยหล่ะครับ
     
  6. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ก็พุทธประวัติกล่าวไว้ว่า " เจ้าชายทรงปลงพระเกศา " รูปก็แสดงถึง การตัด ไม่ใช่ โกน คนในสมัยนั้นอาจจะไม่มีการตัดผมตลอดชีวิต ใช้วิธีเกล้าผมมวยเอา การตัด จะหมายถึงการลาขาดจากทางโลก สู่ทางนักบวช หรือ พรต

    หลังจากปลงพระเกศา ท่านก็ไปศึกษากับอาจารย์ 2 ท่านเป็น ดาบส หรือ ฤาษี มุณี ก็เรียก ทางอินเดียถึงเรียก องค์ศากยมุณี ชื่อที่เรียกก็บ่งบอกว่าท่านเป็นดาบส และที่เกล้าผมมวยก็เป็นลักษณะของดาบส หรือ แบบนักพรต ไม่ใช่พระสงฆ์ (ซึ่งเกิดขึ้นในภายหลัง)

    ส่วนคำว่าพระนั่น อย่าเฉไฉเลยครับ เพราะภาษาไทยนั้นใช้พระนำหน้ายศศักดิ์ ในที่นี่ต้องหมายถึงพระ ที่เป็นพระสงฆ์เท่านั้น


    ;););)
     
  7. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
    อย่ามาทําเป็นเด็กตะแบงไร้สาระ
    ไปอ่านพระไตรปิฏกมาให้เรียบร้อยว่ามีข้อไหนที่เขากล่าวว่า พระอรหันต์ต้องบวชพระมาก่อน

    แล้วไปอ่านมาให้เรียบร้อยว่าทรงตรัสรู้อะไร ดาบสก็ส่วนดาบสมาเกี่ยวอะไร ท่านก็ตรัสอยู่ว่าสุดโต่ง แล้วไปถือบวชจากใคร ใครบวชให้

    พระคาดินัล เคยได้ยินมั้ย แล้วไปเอามาจากไหน ครูบาอาจารย์คนไหนสอนว่าพระนี่หมายถึงพระสงฆ์ แล้วตกลงจะถามนี่จํากัดความคําว่าพระ หรือคําว่าพระสงฆ์ เอาให้มันแน่

    ถ้าคิดจะมาฉลาดทําลายพระพุทธศาสนาก็ขอให้รู้ตัวว่ามันเป็นสมบัติของชาติ ของแผ่นดิน กินบนเรือนขี้รดบนหลังคาอยู่ได้ เห็นหลายกระทู้ละ ไร้สาระ ตะแบงเป็นเด็ก โตให้มันไวมันจะได้คิดเป็นว่าอะไรควรอะไรไม่ควร ในแผ่นดิน
     
  8. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    อ่านอย่างเดียวค่ะ ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรกับเขา
     
  9. banpong

    banpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    1,443
    ค่าพลัง:
    +1,770
    เพื่อ....................

    คนเราถ้าเข้าใจปฏิบัติธรรมไว้เดทร๊อค
    นุ่งเดป แก้ผ้า ก็บรรลุได้

    ทีมีอยู่แค่สมมุติ ที่มีก็ปรุงแต่งกันเอง

    อย่าเอาจิตไปนอกกายสิ

     
  10. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    เอาความรู้ทางหลักภาษาไทยมาบอกครับ.....คำว่าพระ เป็นคำสันสกฤตซึ่งเดิมลดรูปมาจากคำบาลีว่า "วร" ( วอ ระ).....ซึ่งตามพจนานุกรมไทยแปลว่า...ผู้ประเสริฐ...
     
  11. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า เป็นคำสอนของใครกันนะ

    ฮ่า ฮ่า ฮ่า

    ผมไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องทำลายศาสนาใด หรือ ทุกศาสนาในโลก ที่ผมถกคือความจริง ความจริงก็ย่อมเป็นความจริง เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

    :cool:
     
  12. อศูนย์น้อย

    อศูนย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +495
    เจ็งอะ เดสล็อก นุ่งเดป แก้ผ้า เจ็งมากคิดได้งัยอะ อิอิ
     
  13. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +3,887
    ที่คุณพูดนั้นจริงเพราะท่านเป็นพระศาสดาท่านมิใช่เป็นพระสงฆ์ที่เป็นสาวก
    กงล้อแห่งธรรมหมุนครั้งแรกเมื่อปฐมเทศนา
    พระอัญญาโกณทัญญะเป็นพระสงฆ์รูปแรกของโลก
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นศาสดาเอกแห่งโลกมิมีผู้ใดเสมอได้
     
  14. มีแปปเดียว

    มีแปปเดียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2010
    โพสต์:
    906
    ค่าพลัง:
    +3,887
    ความจริงแม้ออกจากปากสุนัขก็ฟังดูดีเพราะสาระแห่งความจริงนั้น
    การเอาความจริงมาพูดเพื่อจุดประสงค์เพื่อยุยง ยั่วยุ ส่อเสียดเป็นธรรมของคนพาล
    อกุศลธรรมยังผลให้เข้าสู่ ทุกขคติ วินิบาต นรก เมื่อกายแตกทำลายเพราะมรณะกาล
     
  15. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อืมมม...พระพุทธเจ้าโดยแท้แล้วก็คือพระพุทธเจ้า...ไม่เคยเป็นพระสงฆ์ทั้งก่อนตรัสรู้...และหลังตรัสรู้...เพราะพระองค์คือ พระพุทธเจ้า ไม่ใช่พระสงฆเจ้าและไม่มีวันเป็นพระสงฆเจ้า
     
  16. Hikikomori

    Hikikomori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +326
    การบรรลุอรหันต์นี่เอาอะไรไปวัดครับ
     
  17. Amantrai

    Amantrai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    273
    ค่าพลัง:
    +162
    ประมาณ 15 ปี ล่วงมาแล้ว เคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งแต่จำไม่ได้ เราที่เป็นคนธรรมดาสามัญจะรู้ว่าพระสงฆ์รูปใดสำเร็จเป็นพระอรหันต์ก็ต่อเมื่อท่านมรณะภาพ หลังจากประชุมเพลิงแล้วได้พระธาตุ นั่นแหล่ะถึงแสดงว่าท่านบรรลุจริง

    องค์ศากยมุณี ท่านสำเร็จแล้วท่านถึงออกโปรด ก่อนโปรดท่านก็เล็งด้วยญาณดูก่อน ว่าบุคคลที่ท่านจะไปโปรดนั้นมีสถานะอย่างไร สามารถรับได้หรือไม่?

    ถ้าไม่ใช่ทั้ง 2 ประการนี้ตามความเห็นผมว่าไม่ใช่พระอรหันต์

    ;););)
     

แชร์หน้านี้

Loading...