“พระมหาชนก”บนผนังพระอุโบสถวัดไทยในอินเดีย

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 1 ธันวาคม 2010.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,174
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,647
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“พระมหาชนก” บนผนังพระอุโบสถ วัดไทยในอินเดีย จิตรกรรมฝาผนัง ยุครัชกาลที่ 9 แห่งแรกในต่างประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 ธันวาคม 2553 14:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่องโดย ... ฮักก้า

    หากภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระพุทธรัตนสถานพระบรมมหาราชวังชั้นใน เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งยุครัชกาลที่ 9 แห่งแรก

    ภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ประเทศอินเดีย ก็จะ กลายเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแห่งยุครัชกาลที่ 9 แห่งที่ 2 และเป็นแห่งแรกในต่างประเทศ

    โดย เมื่อ พ.ศ.2543 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานภาพประกอบในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” จำนวน 16 ภาพ และภาพพระราชกรณียกิจ จำนวน 6 ภาพเพื่อนำมาเขียนเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนัง แต่ก็ต้องพบกับอุปสรรคนานาประการ

    กระทั่งมีคณะผู้มีจิตศรัทธาจากประเทศไทยคณะหนึ่งเดินทางไปสักการะสังเวชนียสถานที่ประเทศอินเดีย และ ได้แวะเข้าไปที่วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ พระราชรัตนรังสี เจ้าอาวาสวัด จึงได้ขอให้คณะผู้มีจิตศรัทธาเหล่านั้นได้ดำเนินการต่อ จึงทำให้โครงการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง ณ วัดไทยแห่งนี้ ซึ่งมี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นประธานโครงการ สามารถดำเนินการต่อไปได้

    เป็นที่ทราบกันว่า ภาพประกอบในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” เป็นภาพประกอบที่มีศิลปินหลายๆคน ช่วยกันเขียน แต่ พลอากาศตรี อาวุธ เงินชูกลิ่น ศิลปินแห่งชาติ,อดีตอธิบดีกรมศิลปากร และหนึ่งในคณะกรรมการของโครงการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังในครั้งนี้ เห็นว่าการจะนำภาพเหล่านั้นไปเขียนเป็นภาพจิตกรรมฝาผนัง คงจะไม่สามารถถ่ายทอดเนื้อหาสาระของพระราชนิพนธ์ได้อย่างครบถ้วน คณะกรรมการอยากให้ภาพเป็นไปในรูปแบบเดียวกัน เพื่อผู้ชมจะได้ชมเข้าใจง่าย จึงเห็นว่าหากใช้วิธีการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบไทยดั้งเดิมจะเหมาะกว่าและถือเป็นการเผยแพร่ศิลปะไทยในต่างแดนด้วย

    พลอากาศตรี อาวุธ จึงได้มอบหมายให้ มณเฑียร ชูเสือหึง จิตรกร กลุ่มจิตรกรรมศิลปประยุกต์และลายรดน้ำ สำนักช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เขียนแบบลายเส้นโดยละเอียดตามพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” ทั้งเรื่อง แล้วนำทูลเกล้าถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทอดพระเนตร เมื่อเป็นที่พอพระทัย จึงทรงมีพระราชานุญาตให้นำแบบทั้งหมดขึ้นทูลเกล้าฯถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพื่อขอพระราชทานพระบรมราชานุญาต ซึ่งทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานพระบรมราชานุญาตลงมาเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2551


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>มณเฑียร ผู้เคยเป็นหนึ่งในทีมงานเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังภายในพระพุทธรัตนสถาน พระบรมมหาราชวังชั้นใน มาก่อน และมีเกียรติประวัติและผลงานเป็นที่น่าพอใจ จึงกลายเป็นจิตรกรเพียงคนเดียวที่ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการออกแบบและเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนัง

    โดยก่อนที่จะลงมือเขียนภาพ นอกจากมณเฑียรจะได้เดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่จริง คือ พระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ เขายังต้องกลับไปศึกษา ทั้งเรื่องราวของพระมหาชกที่ปรากฎในวรรณกรรมทางพุทธศาสนาและที่ปรากฏในหนังสือพระราชนิพนธ์

    จากนั้นมณเฑียรได้ถ่ายทอดออกมาเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังแบบสามมิติ(แบบโบราณสองมิติ)ที่มีความผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ไทยและอินเดีย สังเกตได้ในส่วนของ ภาพคน สถาปัตยกรรม และฉากหลัง นอกจากนี้ในบางส่วนของภาพก็ยังมีวิธีการเขียนแบบตะวันตก เช่น การตกทอดของเงา

    อย่างไรก็ตามยังคงรักษารูปแบบบางอย่างของช่างโบราณไทยเอาไว้ เช่น ยังมีเรื่องของการตัดเส้น และการจัดองค์ประกอบแบบ Bird Eye View หรือ มองจากมุมสูงลงมาต่ำ

    แต่ที่ต่างออกไปมณเฑียรไม่ได้เขียนภาพลงบนผนังพระอุโบสถโดยตรงตามแบบโบราณ แต่เขียนลงบนผ้าใบ ก่อนจะนำไปผนึกบนผนังอีกครั้ง

    เนื่องจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเห็นด้วยกับ พลอากาศตรี อาวุธ ว่าแทนที่จะเขียนภาพลงไปบนผนังพระอุโบสถตามที่เคยปฏิบัติกันมา ควรจะเขียนลงในแผ่นผ้าใบแล้วจึงนำไปปิดลงบนผนังพระอุโบสถ เพราะวิธีนี้จะแก้ปัญหาเรื่องความชื้นของผนังพระอุโบสถ ซึ่งจะทำให้ภาพจิตรกรรมชำรุดต้องซ่อมแซมอยู่เสมอ และจะเป็นการทุ่นค่าใช้จ่ายและเวลาเพราะการเขียนภาพสามารถหาจิตรกรที่ชำนาญเขียนขึ้นในประเทศไทยและไม่ต้องใช้เวลาในการเขียนนานหลายปี

    “เราใช้เทคโนโลยีทันสมัยมากขึ้น ผ้าใบที่ใช้สำหรับภาพเขียนแต่ละตอน กว้าง 3.2 เมตร ยาว 15 เมตร ที่เมืองไทยไม่มีฮะ ต้องไปสั่งซื้อมาจากอเมริกา และสีที่ใช้ก็เป็นสีอะคริลิค สีวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นสีสมัยใหม่ที่มีคนใช้กันอย่างแพร่หลายในแวดวงศิลปะ เพราะสะดวกสบายในการเขียน ไม่ยุ่งยากเหมือนสมัยก่อน”

    มณเฑียร จิตรกรผู้เขียนภาพบอกเล่าและขณะนี้ก็ใกล้เวลาที่ภาพเขียน จะถูกเคลื่อนย้ายจากสตูดิโอของเขา ณ ประเทศไทย ไปติดตั้งที่ผนังพระอุโบสถ วัดไทยกุสินาราเฉลิมราชย์ ณ ประเทศอินเดีย ในช่วงต้นปี พ.ศ.2554


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>ภาพจิตรกรรมฝาผนังทั้งหมด มี 39 ตอน แบ่งเป็นภาพที่นำเสนอเรื่องราวของพระมหาชนกที่ปรากฎในวรรณกรรมทางพุทธศาสนาและที่ปรากฎในพระราชนิพนธ์ รวม 36 ตอน และภาพเกี่ยวกับเทพชุมนุมอีก 3 ตอน

    โดยภาพจิตรกรรมฝาผนังในส่วนของพระมหาชนกที่ปรากฎในพระราชนิพนธ์ เน้นในเรื่องราวที่เข้ากับสังคมไทยในปัจจุบัน ตลอดจนด้านการศึกษาและด้านเกษตรกรรม อาทิ ตอนที่พระมหาชนกลงเรือมาค้าขายที่สุวรรณภูมิ และใช้ความเพียรแหวกว่ายอยู่กลางมหาสมุทร เพื่อให้ผู้พบเห็น นอกจากสัมผัสเอาความงดงามของงานจิตรกรรมฝาผนัง ยังรับเอาข้อคิดในเรื่องความเพียรที่ถ่ายทอดไว้ในภาพกลับไปด้วย

    ดังเช่นที่ มณเฑียร จิตรกรชาวจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ได้มีโอกาสทำงานใหญ่อีกครั้ง ก็ได้ยึดเรื่องความเพียร ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถ่ายทอดไว้ในหนังสือพระราชนิพนธ์เรื่อง “พระมหาชนก” เป็นกำลังใจให้เขาเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังได้สำเร็จลุล่วง

    “การทำงานมันต้องมีความเพียร ถ้าไม่มีความเพียร มันก็ไม่มีความสำเร็จ ความเร็จของทุกสาขางาน เกิดจากความเพียรและความขยันของตัวเราเอง”

    และจิตรกรเช่นเขาก็มีความตั้งใจที่จะใช้ความเพียรในทางที่ถูกที่ชอบ ดังเช่นในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก บอกไว้ว่า “ความเพียรโดยธรรม คือ ความเพียรของบุรุษ” ทำงานศิลปะทั้งในโอกาสนี้และในอนาคต เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    “ในฐานะที่เราเป็นจิตรกร และเรียนทางด้านศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว อยากสนองพระราชดำหริของพระองค์ท่าน ด้วยการต่อยอด รูปแบบจิตรกรรมฝาผนัง ตามที่ผมได้รับพระราชกระแสมาดำเนินการ ต่อไป เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ”


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9530000169479
     
  2. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    เขียนได้ เยี่ยมมาก ๆ สวยจริง ๆ ครับ แถมยังได้ Feeling ที่กินใจด้วย.
     
  3. ร้อนแรง

    ร้อนแรง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +716
    ขอโมทนาสาธุ กับการได้นำเรื่องของ**พระมหาชนก**เพื่อท่านทั้งหลายจะได้นำมาเป็นตัวอย่างว่า** ความเพียรนั้นย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จทุกประการ**
     
  4. อรชร

    อรชร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,768
    ค่าพลัง:
    +11,465
    [​IMG]

    ขอบคุณนะคะ

    สวยงาม วิจิตรมากค่ะ

    โมทนาค่ะ
     
  5. Santajitto

    Santajitto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +455
    ขอบคุณครับ ที่ช่วยทำให้ศิลปะไทยยังคงอยู่ และได้แพร่กระจายไปยังชาวโลก
     
  6. อู๋9

    อู๋9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +229
    โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นการไขปริศนาธรรมบนภาพวาด
    ในความคิดเห็นของข้าพเจ้า ไม่ได้มีเจตนาลบหลู่ใดๆ
    เพียงให้ฉุกคิดให้ประเทืองปัญญาเท่านั้น
    [​IMG]
    ความเพียรของพระมหาชนเปรียบดวงจิตพระโพธิสัตย์
    และปูมี8ขาดันให้ลอยไม่จมน้ำเปรียบดังมรรคมีองค์8
    อันผู้ที่เจริญแล้วจะรอดจากพ้นจากวัฏสงสารคือมหาสมุทร
    ที่สัตว์ทั้งหลายยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่
    ส่วนมหาลัยปูทะเลในส.ค.ส.ของในหลวงนั้น
    จะเกี่ยวกับหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหรือเปล่าก็ไม่ขอฟันธง
    ใบหางเสือเรือเขียนว่า มช. ซึ่งเรือมุ่งหน้าไปทางเชียงใหม่
    หรือจะเป็นมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ซึ่งเกี่ยวกับการเกษตร
    หรือเกษตรจะเป็นทางเดียวที่ทำให้รอดพ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวง
    ท่านจึงให้เราใช้เศรฐกิจพอเพียงซึ่งจะช่วยเราได้ในยามเกิดภัยพิบัติ
    เพราะในเวลานั้นเงินอาจจะไม่มีค่าเลย กลายเป็นเศษกระดาษ ข้าวปลา นาไร่
    ต่างหากจึงจะช่วยให้รอดได้ แม้ไม่มีรัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ
    ส่วนผู้ที่อยู่ในเมืองใหญ่ ชีวิตต่างพึ่งอาหารจากห้าง
    ฝากท้องไว้กับร้านอาหารต่างๆ ก็จะอยู่ไม่ได้เมื่อภัยพิบัติ
    หรือสงครามที่จะมาพร้อมกับภัยพิบัติ จะเกิดการขาดแคลนอาหาร
    ฆ่ากันเพื่อแย้งชิงอาหาร แต่ผู้ที่ใช้ทฤษฎีใหม่ของในหลวง
    จะไม่กระทบมากหรือไม่กระทบเลย สามารถอยู่ในบ้านได้เป็นเดือน
    ไม่ต้องออกไปตามท้องถนนโกลาหนวุ่นวาย เพื่อรอการช่วยเหลือจากรัฐบาล
    สุดท้ายนี้ขอเตือนท่านพุทธบริษัททั้งหลายให้อยู่ในศีล5
    จากคำพยากรณ์และคำทำนายหลายที่ ทั้งพระและฆราวาสมีแนวโน้มว่า
    จะต้องเกิดขึ้นแน่นอน ทั้งสงคราม ทั้งภัยพิบัติ
    ดังปริศนาในภาพวาดและส.ค.ส.ที่นำเสนอกล่าวมา ขอให้ทุกท่านโชคดี ทุกท่าน
    ข้าพเจ้าเป็นแค่คนธรรมดาที่รักพระเจ้าแผ่นดินจึงเขียนบทความนี้
    เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลขอให้ชาติศาสนาพระมหากษัตริย์เจริญรุ่งเรืองสืบไป เทอญ[​IMG][​IMG][​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  7. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    มีแต่สิ่งดีๆมีประโยชน์ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ:cool:
     
  8. Heureuse

    Heureuse เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2008
    โพสต์:
    857
    ค่าพลัง:
    +3,446


    ขอฝากเพิ่มเติมสำหรับ เพื่อนๆที่มีความสนใจในพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก" ขอเชิญได้ทีกระทู้ http://palungjit.org/threads/ตามรอย-พระมหาชนก.248273/

    ซึ่งเป็นการ รวบรวมแนวคิด ที่ได้จากพระราชนิพนธ์เรื่อง "พระมหาชนก"

    มาช่วยกันถอดรหัสกันว่าในหลวงท่าน มีพระราชประสงค์ที่จะสื่อสาร พระราชทานแนวคิดให้พสกนิกรของพระองค์อย่างไรบ้าง
    พวกเราจะได้นำไปเป็นแบบอย่าง อย่างที่พระองค์มีพระราชประสงค์ เพื่อช่วยกันฟื้นฟูและขับดับประเทศต่อไปค่ะ

    ปัญหาทุกอย่างของไทยขณะนี้ได้ถูกเขียนอยู่ในหนังสือแล้ว

    เเล้วขอเชิญเพื่อนๆทุกคนให้ติดตามกันนะคะ

    <hr>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2010
  9. ทิพย์ปทุโม

    ทิพย์ปทุโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +2,471
    ขออนุโมทนาในความเป็นเลิศของท่านทั้งหลาย เยี่ยมจริง ๆ ไร้ที่ติ ;20:z5
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ธันวาคม 2010
  10. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เราน่าจะจัดสร้าง

    หอศิลปินในรัชกาลปัจจุบัน

    หรือสร้างสถานที่อะไรก็ได้ที่เป็นการเฉลิมพระเกีียรติในหลวง

    และ

    ในขณะเดียวกัน

    ก็เป็นการยกย่องพวกศิลปินในรัชกาลปัจจุบันด้วย
     
  11. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    จะเอาแต่ละรัชกาลก็ได้
     
  12. ปู นครนายก

    ปู นครนายก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2007
    โพสต์:
    357
    ค่าพลัง:
    +530
    ทรงพระปรีชายิ่งนัก ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...